แชร์

บทที่ 5 ย้อนกลับมาอีกครั้ง

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-24 19:42:02

บทที่ 5 ย้อนกลับมาอีกครั้ง

ปัง!! ปัง!! ปัง!!

"นี่ฉันเคาะประตูเรียกตั้งนานแล้วหูหนวกหรือไงทำไมไม่ลุกสักที จะรอให้ตะวันขึ้นตรงกลางหัวก่อนหรือไงถึงจะลุกได้นะ" เสียงของซูเจี้ยนดังอยู่ด้านนอกห้องอย่างเอะอะโวยวาย เฟิงมี่สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงรบกวน

'เอ๊ะ!ฉันตายไปแล้วไม่ใช่หรือไงกัน ทำไมยังได้ยินเสียงของแม่สามีอยู่ล่ะ และทำไมรู้ถึงการเต้นของหัวใจอยู่เลยหรือว่าฉันจะได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง' เฟิงมี่คิดในใจก่อนจะลืมตากวาดมองรอบ ๆ ห้องนี่ห้องเก็บของที่เธอเคยอยู่นี่หน่า เธอรีบหันมองเด็กหญิงตัวน้อยที่นอนขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของเธอ ครั้นนั้นเฟิงมี่รู้สึกดีใจจนมิอาจจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ เธอใช้มือลูบใบหน้าของลูกสาวที่นอนหลับอยู่

“ขอบคุณสวรรค์ที่ให้ฉันกลับมาหาฮว๋าเย่อีกครั้ง ขอบคุณจริง ๆ ถ้าฉันตายไปทั้งแบบนั้นจริง ๆ ไม่รู้เลยว่าฮว๋าเย่จะเป็นอย่างไรชีวิตของเธอต้องพบเจอกับคนชั่วช้าอย่างนี้ไปถึงเมื่อไหร่ ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าความดีมิอาจจะทำให้คนเปลี่ยนใจได้ ต่อจากนี้ฉันจะปกป้องลูกสาวของฉันเอง จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายได้แม้กระทั่งแม่สามี” เฟิงมี่เอ่ยออกมาอย่างจริงจังหากเธอยังอ่อนแอไม่ว่าจะมีโอกาสอีกกี่ครั้งเธอคงจะต้องตายด้วยมือคนชั่วทุกครั้งไป และสิ่งหนึ่งที่เธอแน่ใจชายคนนั้นน่าจะเป็นชู้รักของสะใภ้ใหญ่ซูหรงแน่นอนหากไม่เป็นเช่นนั้นเขาคงไม่ตามมาทำร้ายเธอแน่นอน

“นี่นังเฟิงมี่แกจะหาเรื่องฉันใช่มั้ย ? แกรู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือไงว่าทำให้ฉันโมโหแล้วจะเกิดอะไรขึ้น รีบลุกขึ้นมาทำกับข้าวให้หลานชายของฉันกินได้แล้ว ถ้ายังไม่ออกมาฉันจะพังประตูเข้าไปได้ยินมั้ย ห่ะ!!!” เสียงของซูเจี้ยนยังคงดังอย่างต่อเนื่อง เฟิงมี่ปาดน้ำตา ค่อย ๆ ขยับหัวของฮว๋าเย่ให้นอนลงที่เตียงนอนก่อนที่เธอจะลุกขึ้นมาเปิดประตูให้นังแก่ใจร้ายไส้ระกำ

แอ้ด !!

“นี่ !! จะเรียกอะไรนักหนา น่ารำคาญจริง ๆ ” เฟิงมี่เอ่ยถามแม่สามีด้วยท่าทางรำคาญทำให้คนที่ถูกถามถึงกับยืนอึ้งไม่คิดว่าสะใภ้เล็กจะกล้าเถียงเธอ

“นี่แกเป็นบ้าไปแล้วหรือไง!! ถึงไม่รู้หน้าที่ตัวเองตะวันสูงโด่งขนาดนี้จะรอให้หลานฉันหิวจนเจ็บท้องหรือไงกันรีบออกไปทำกับข้าวเดี๋ยวนี้” เฟิงมี่จ้องมองใบหน้าของซูเจี้ยนพลางกอดอกเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มขรึม

“ใครอยากกินก็ไปทำเองสิ มีมือมีตีนเหมือนกันอีกอย่างฉันเป็นสะใภ้เล็กไม่ใช่ขี้ข้าของใคร หย่งอี้เองก็มีแม่เหมือนกันทำไมไม่ให้ซูหรงสะใภ้ใหญ่ทำเองล่ะ หรือว่าทำไม่เป็นช่างไร้ประโยชน์จริง ๆ วัน ๆ ไม่ทำอะไรเอาแต่แต่งสวยแต่งงาม ผลาญเงินเป็นว่าเล่น ถ้าอยากให้หย่งอี้กินและไม่อยากให้เจ็บท้องคุณแม่ก็ทำเองสิคะ หลีกไปฉันจะปิดประตูและอย่ามาเสียงดังเอะอะโวยวายอีกตอนนี้ฮว๋าเย่ของฉันยังนอนอยู่ ”

“นี่ ..นี่แกนังเฟิงมี่แกกินยาลืมเขย่าขวดหรือไงกัน ถึงได้ต่อล้อต่อเถียงฉันอย่างนี้วันนี้ถ้าแกไม่ออกไปทำกับข้าว ฉันจะทำให้เลือดหัวแกออกเลยคอยดู” ซูเจี้ยนสั่นเทาด้วยความโกรธหันซ้ายหันขวามองหาอุปกรณ์ที่จะมาตีเฟิงมี่ หากเป็นเมื่อก่อนเฟิงมี่คงกลัวและรีบไปทำตามที่แม่สามีต้องการ แต่ทว่าตอนนี้เธอไม่มีความกลัวอย่างนั้นอีกแล้ว มีสิ่งเดียวที่เธอกลัวคือการตายจากลูกที่ยังเล็ก ๆ นี่ต่างหาก

“เอาสิคะ ฟาดลงมาที่หัวนี่นะคะ ฉันจะได้ไปแจ้งความว่าแม่สามีทำร้ายหวังเอาชีวิต คนทั้งมณฑลคงเล่าขานกันไปทั่ว จริงสิพี่ไคฉี่เป็นนายอำเภอใช่มั้ย ? อื้ม..เรื่องนี้จะกระทบหน้าที่การงานมั้ยนะ..” เฟิงมี่ยืนกอดกยกมือข้างขวาขึ้นมาชี้ที่ขมับของตัวเองแสร้งครุ่นคิดเรื่องนี้ ยิ่งทำให้ซูเจี้ยนไม่พอใจ

“อ๊ายยยย! แกมันร้ายอย่าบอกนะว่าที่ผ่านมาแกมันแค่แสร้งทำเป็นอ่อนแอที่แท้ก็มารยานี่เอง เรื่องแกมีชู้คงเป็นเรื่องจริงสินะ”

“ใช่ค่ะ ที่ผ่านมาฉันอ่อนแอและมองโลกในแง่ดีเกินไป ฉันคิดว่าความดีจะทำให้คุณแม่เปลี่ยนไป แต่เปล่าเลยเพราะจิตใจที่มืดบอดไร้จริยธรรมของคุณแม่มันทำให้ฉันเปลี่ยนไป ส่วนเรื่องมีชู้นะฉันมั่นใจว่าฉันไม่เคยทำตัวต่ำช้าอย่างที่พี่สะใภ้ใหญ่เป่าหูคุณแม่หรอกนะคะ คุณแม่เคยเห็นฉันออกไปจากบ้านหรือออกไปพบใครหรือไงถึงเชื่อว่าฉันมีชู้ คิดดี ๆ สินะว่าตั้งแต่ฉันคลอดฮว๋าเย่ฉันเคยออกจากที่นี่หรือเปล่า ต่างจากอีกคนที่พูดจาใส่ร้ายฉันแถมยังแต่งตัวสวยออกจากบ้านทุกวันนะ” ซูเจี้ยนอ้าปากค้างเพราะทั้งหมดที่เธอพูดมาล้วนเป็นความจริง เธอไม่เคยให้เฟิงมี่ออกจากบ้านเลยด้วยซ้ำ

“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงเธออาจจะมีก่อนที่จะแต่งงานกับลูกชายฉันก็ได้ เพราะอยากให้ลูกมาใช้ชีวิตอยู่สุขสบายมีหน้ามีตาในสังคมเลยหวังจับลูกชายของฉันนะสิ ”

“เฮ้อ ! พูดกับคนที่ปิดหูปิดตาแถมยังจิตใจพิการฉันไม่อยากจะสนทนาด้วยสักนิด ”

“แกมันจองหองนักน่ะวันนี้ฉันจะต้องจัดการตบให้เลือดกลบปากให้มันรู้ไปซ่ะบ้างว่าไม่ควรจะมาต่อปากต่อคำกับฉันแบบนี้” ซูเจี้ยนกัดฟันเสียงดังกรอดด้วยความเกรี้ยวโกรธ ง้างมือที่อวบใหญ่หวังตบเข้าที่ใบหน้าของเฟิงมี่ หากเป็นเมื่อก่อนเฟิงมี่คงหลับตารอรับการกระทำที่โหดร้ายของแม่สามีและไม่กล้าสู้

มับ!!

เฟิงมี่ยกมือขึ้นจับข้อมือของซูเจี้ยนเอาไว้แน่นจนเกิดรอยแดงและบีบแรงขึ้นมากกว่าเดิมให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าการทำคนอื่นเจ็บความรู้สึกของคนที่ถูกกระทำเป็นอย่างไร

“โอ๊ย !! ปล่อยนะนังบ้าเฟิงมี่ แกมันเป็นหมาบ้าไปแล้วแน่ ๆ” เฟิงมี่ไม่ได้โกรธแถมยังแสยะยิ้มออกมาก่อนจะปล่อยมือออกจากแขนของซูเจี้ยนพร้อมดันข้อมือของเธอเพียงเล็กน้อยแต่ทว่ากลับทำให้ร่างใหญ่อ้วนท้วมของซูเจี้ยนล้มลงกระแทกพื้น

ตุ๊บ !!

“โอ๊ยยย!! สะใภ้ใหญ่อยู่แถวนี้มั้ย ?ช่วยฉันด้วยฉันจะถูกนังหมาบ้าเฟิงมี่ฆ่าแล้ว”

“ฮึ ! ฉันนะหรือคะที่จะฆ่าคุณแม่ เมื่อครู่ไม่ใช่คุณแม่หรอกหรือคะที่บอกให้ฉันปล่อย อะไรกันคนแก่ใกล้จะลงโลงทำไมถึงเอาใจยากอย่างนี้นะ ” เฟิงมี่พูดพร้อมส่งยิ้มยียวนกวนประสาทให้ซูเจี้ยนที่เจ็บก้นกบนั่งอยู่ที่พื้น

ครั้นนั้นเองฮว๋าเย่ตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายอยู่หน้าห้อง เธอเดินออกมาเอ่ยถามคุณแม่ด้วยความสงสัย

“คุณแม่เกิดอะไรขึ้นคะ ” เฟิงมี่หันไปมองตามเสียงรีบเปลี่ยนสีหน้าทันที

“ฮว๋าเย่ตื่นแล้วหรือ? พอดีคุณย่าล้มแล้วแม่จะเข้าไปช่วยนะ แต่คุณย่านะสิดื้อยิ่งกว่าเด็กไม่ยอมให้แม่ช่วย ในเมื่อลูกตื่นแล้วก็ดีเรากลับไปอยู่ที่ห้องเดิมกันเถอะ คุณแม่คะต่อจากนี้ฉันจะกลับไปอยู่ที่ห้องเดิม และต่อจากนี้ฉันกับลูกจะกลับไปใช้ชีวิตสุขสบายให้สมกับเป็นสะใภ้เล็กของตระกูลมู่ด้วย ”

“ใครอนุญาตให้แกกลับเข้าไปบ้านหลังใหญ่กัน คนอย่างแกนะเหมาะสมกับห้องเก็บของที่สุดแล้ว” ซูเจี้ยนเจ็บทั้งใจเจ็บทั้งกายรีบพยุงตัวเองลุกขึ้นเพื่อกีดกันไม่ให้เฟิงมี่ทำตามใจตัวเอง

“ที่ฉันพูดไม่ได้ขออนุญาตแค่บอกให้รู้เท่านั้นเอง ฮว๋าเย่ไปกันเถอะถ้าคุณย่าบอกว่าที่นี่เหมาะกับเรา อย่างนั้นคุณแม่ลองอยู่ในห้องนี่ดูมั้ยคะ” พูดจบเฟิงมี่จับตัวของซูเจี้ยนโยนเข้าห้องเก็บของพร้อมล็อคจากด้านนอกทันที

“กรี๊ด ๆ ๆ แกนังเฟิงมี่เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ !! อ๊ายยนั่นมันหนูไม่ใช่หรือไง กรี๊ด ๆ ๆ นังเฟิงมี่อย่าให้ฉันออกไปได้นะฉันจะเอาเรื่องแกให้ถึงที่สุด ” เสียงกรี๊ดร้องของซูเจี้ยนดังออกมาต่อเนื่องเพราะห้องเก็บของเต็มไปด้วยของและหนูแมลงสาบ ต่อให้ทำความสะอาดดีแค่ไหนก็ยังคงมีสัตว์พวกนี้อยู่ดี อีกทั้งกลิ่นห้องที่เหม็นอับชื้นทำให้ซูเจี้ยนแทบหายใจไม่ออกใช้มือทุบประตูห้องอยู่ไม่หยุด

“คุณแม่คะทำแบบนี้คุณย่าจะไม่โกรธเรามากกว่าเดิมเหรอคะ ”

“ไม่ต้องไปสนใจหรอก ขนาดเรายังอยู่ได้เลยทำไมคุณย่าจะอยู่ไม่ได้ล่ะ เราไปกันเถอะแม่จะพาฮว๋าเย่กลับไปสู่ที่เดิมที่เราสมควรจะได้อยู่ไม่ใช่กาฝากพวกนั้น ” เฟิงมี่จับมือน้อย ๆ ของฮว๋าเย่เดินไปที่บ้านหลังใหญ่โดยไม่สนใจเสียงร้องของซูเจี้ยนแม้แต่น้อย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เฟิงมี่ย้อนเวลาเปลี่ยนชะตาชีวิต ยุค80   บทที่ 25 ครอบครับอบอุ่น

    บทที่ 25 ครอบครับอบอุ่นหลายวันต่อมาผลเลือดของหย่งอี้ออกมาแล้วและพบว่าผลเลือดของเขาไม่เข้ากันกับไคฉีแม้แต่น้อย ไคฉีเสียใจมากหลายวันมานี้เขาเอาแต่ดื่มเหล้าจากคนที่ติดงานต้องลางานหลายวัน จนหลวนหลงต้องเข้าไปให้สติ ส่วนซูเจี้ยนหลังจากที่เธอฟื้นเธอตรอมใจเหลือเกินไม่ว่าจะเป็นเรื่องของซูหรงและการกระทำชั่วร้ายที่เธอได้ทำลงไปกับเฟิงมี่เพราะเชื่อคำพูดของซูหรงจนหมดใจ ยิ่งเธอมารู้ว่าหย่งอี้ไม่ใช่สายเลือดของเธอ ตอนนั้นเหมือนโลกทั้งใบแตกสลายเธอทำดีเอาอกเอาใจรักมากที่สุดแต่ทว่าเด็กคนนั้นไม่สายเลือดของเธอเลยแม้แต่น้อยกลับกันเธอทำเลวระยำต่ำช้ากับหลานแท้ ๆ ของตัวเองมาตั้งแต่ที่เธอเกิดแม้แต่ของเล่นชิ้นเดียวเธอยังไม่เคยซื้อให้ เธอจำได้ฮว๋าเย่ให้กระดาษเธอแผ่นหนึ่งก่อนย้ายออกจากบ้านเธอรีบสั่งให้สาวใช้ไปเอาให้เธอไม่ได้เอามันทิ้งแต่เก็บเอาไว้ในตู้ เมื่อเธอเปิดดูน้ำตาไหลพรากอย่างพูดไม่ออก ในใจของเธอเจ็บช้ำไปหมดเพราะกระดาษแผ่นนั้นคือรูปวาดครอบครัวของฮว๋าเย่ ที่มีทุกคนอยู่ในนั้นรวมถึงเธอด้วย“อึก อึก เป็นฉันเองที่โง่งม ฉันมันเลวร้ายที่สุดฉันทำร้ายจิตใจเด็กคนนี้มาตั้งแต่เกิดแม้แต่ความรักยังไม่เคยมอบให้ แถมยังเค

  • เฟิงมี่ย้อนเวลาเปลี่ยนชะตาชีวิต ยุค80   บทที่ 24 ความจริงถูกเปิดแผย

    บทที่ 24 ความจริงถูกเปิดแผยซูหรงสะลึมสะลือลืมตาขึ้นมาเห็นสีหน้าของซูเจี้ยนที่จ้องมองเธออย่างโกรธเกรี้ยว เธอเลยเอ่ยถามด้วยความสงสัย“คุณแม่ทำไมคุณแม่ถึงมองฉันแบบนั้นละคะ เอ๊ะ! แล้วฉันมานอนตรงนี้ได้ยังไงกัน” ไม่ทันได้พูดจบดวงตาของซูหรงเบิกโพลงเพราะตอนนี้ร่างกายของเธอไร้เสื้อผ้านุ่งห่มยิ่งไปกว่านั้นคือฉู่อี้ที่นอนเปลือยเปล่ากอดร่างกายเธอแน่นอีกด้วย“ฉันต่างหากที่ต้องถามแก แกทำไมถึงทำแบบนี้กันห่ะ”“คุณแม่ฟังฉันก่อนนะ ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นต้องเป็นฝีมือของนังเฟิงมี่ที่วางยาฉัน นี่แกนังเฟิงมี่ฉันอุตส่าห์ทำดีกับแกคิดว่าชีวิตแกน่าสงสารทำไมแกถึงทำอย่างนี้ หรือเพราะแกอยากได้สมบัติทุกอย่างของตระกูลมู่ เลยหาทางกำจัดฉันออกไป คุณแม่อย่าไปเชื่อมันนะคะ ผู้ชายคนนี้ฉันไม่รู้จักด้วยซ้ำเพราะนังเฟิงมี่วางแผนถ้าฉันจะมีชู้จริง ๆ ฉันไม่โง่มาทำที่นี่ให้ถูกจับได้หรอกค่ะ”“ฮึ ฮึ ใช่แล้วล่ะ ถ้าพี่ซูงหรงมีชู้คงไม่ทำที่นี่แต่ที่ทุกคนเห็นคือแผนการของแกนังซูหรง แกตั้งใจวางแผนให้ฉันกินน้ำที่แกใส่ยานอนหลับไว้ คิดดูว่าถ้าหากฉันโง่และหลงกลกินน้ำที่แกผสมยานอนหลับไว้คนที่นอนอยู่ตรงนั้นจะเป็นใครหากไม่ใช่ฉัน เรื่องนี้ฉันม

  • เฟิงมี่ย้อนเวลาเปลี่ยนชะตาชีวิต ยุค80   บทที่ 23 ใครกันแน่ที่โง่

    บทที่ 23 ใครกันแน่ที่โง่ไม่นานนักซูหรงได้เดินออกมาจากห้องน้ำนั่งลงตรงหน้าของเฟิงมี่“กับข้าวเย็นหมดแล้ว ฉันต้องขอโทษพี่ซูหรงด้วยนะคะ เป็นเพราะฉันแท้ ๆ เลย”“ไม่เป็นอะไรหรอกน่าเรื่องเล็กน้อยเรามากินข้าวกันเถอะ”“ได้ค่ะ ” เฟิงมี่หยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารใส่จานตัวเองกินอย่างเอร็ดอร่อย เธอรู้สึกตลอดเวลาว่าถูกสายตาของซูหรงจ้องมองว่าเมื่อไหร่เธอจะกินน้ำ เธอจึงวางตะเกียบลงหยิบแก้วน้ำมาดื่มจนหมดแก้ว“อึก อึก วันนี้เป็นเพราะมีพี่ซูหรงมานั่งกินด้วยกันหรือเปล่าทำให้ฉันกินข้าวได้มากกว่าทุกวัน “ซูหรงยิ้มกริ่มเมื่อเห็นอีกฝ่ายดื่มน้ำจนหมดแก้วไม่นานยานอนหลับคงออกฤทธิ์นี่คือแผนที่เธอวางเอาไว้กับฉู่อี้วันนี้เธอรู้มาว่าหลวนหลงเข้ากรมช่วงเช้าเพราะวันนี้เธอได้ทำการโทรเลขไปหาหลวนหลงว่าแม่ของเขาป่วยหนักให้เขามาหาที่บ้านตระกูลมู่ และแผนการนี้เธอได้บอกแม่สามีหลังอาหารมื้อเที่ยงให้เธอพาหลวนหลงกลับมาที่นี่ของเขาให้ได้จะได้มาเห็นว่านังเฟิงมี่นั้นตอนเริงรักกับชู้ในตอนที่เขาออกไปทำงาน เพียงเท่านี้แผนการของเธอก็สำเร็จ ส่วนเรื่องโฉนดที่ดินนั้นเอาไว้หลังจัดการนังเฟิงมี่เสียก่อน“เธอกินข้าวได้เยอะฉันเองก็ดีใจ ตอนนี้

  • เฟิงมี่ย้อนเวลาเปลี่ยนชะตาชีวิต ยุค80   บทที่ 22 แกล้งโง่

    บทที่ 22 แกล้งโง่หลังจากที่ซูหรงกลับเฟิงมี่ได้ออกไปที่ตลาดเมื่อเห็นว่าตอนนี้ยังมีเวลาอีกมากกว่าที่ฮว๋าเย่จะกลับจากโรงเรียน เธอไปที่ร้านของเล่นที่เคยเห็นซูหรงกับฉู่อี้อยู่ด้วยกัน ไม่คิดเลยว่าการมาที่ตลาดของเธอในครั้งนี้จะได้เห็นกับตาว่าซูหรงอยู่กับชายชู้ของเธออีกครั้ง เฟิงมี่ค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ ๆ แอบฟังทั้งสองพูดคุยกันและเป็นความโชคดีที่ฉู่อี้เป็นคนพูดจาเสียงดังไม่กลัวว่าใครจะมาได้ยิน เพราะถิ่นนี้เป็นถิ่นของเขา“ดีมาก เธอค่อยไปหานังเฟิงมี่บ่อย ๆ จะได้รู้ว่าวันไหนที่สามีเธอไม่อยู่ เราจะได้หาทางเข้าไปที่บ้านหลังนั้นทำตามแผนที่วางเอาไว้”“นั่นสิ ฉันละสะอิดสะเอียนอยากจะให้แผนสำเร็จเร็ว ๆ ไม่อยากจะพูดดีกับนางนั่นเลยด้วยซ้ำ คนอะไรน่าโง่จริง ๆ ไม่ว่าฉันจะพูดอะไรก็เชื่อไปหมด ส่วนนังแก่ที่บ้านก็เริ่มเมายาที่พี่ให้ไปแล้ว ตอนนี้ฉันต้องการยาเพิ่มเอามาให้ฉันหน่อยสิ”“ได้เดี๋ยวฉันจะให้เพิ่ม ใส่ให้กินทุกวันจะได้ลงแดงตอนนั้นเธอจะให้มันทำอะไรนังแก่นั่นก็ทำให้ทุกอย่าง ”“ฮึ ฮึ ฉันละอยากให้วันนั้นมาถึงเร็ว ๆ เสียจริง”“อีกไม่นานแล้วยอดรักของพี่” เฟิงมี่แอบฟังทั้งสองได้ยินแผนการความชั่วช้าของทั้งคู่รีบ

  • เฟิงมี่ย้อนเวลาเปลี่ยนชะตาชีวิต ยุค80   บทที่ 21 ตีสนิท

    บทที่ 21 ตีสนิทท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี เฟิงมี่ขยับกายไปมาบนเตียงลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือกวาดมองไปรอบห้องพบว่ามีเพียงเธอที่อยู่ในห้องนี้ ลุกขึ้นจ้องมองร่างกายที่เต็มไปด้วยร่องรอยของความรักที่หลวนหลงมอบให้ เธอค่อย ๆ ลุกจากเตียงไปอาบน้ำล้างตัวคิดว่าตอนนี้หลวนหลงคงอยู่กับฮว๋าเย่ข้างนอกหลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้วเธอเดินออกมาภายในบ้านเงียบราวกับว่าไม่มีใครอยู่จึงเดินออกไปที่หน้าประตูเห็นทหารยืนอยู่ตรงนั้นจึงรีบเข้าไปถามทันที“เอ่อ ...ไม่ทราบว่าคุณเห็นสามีกับลูกสาวของฉันมั้ยคะ”“นายผู้หญิงตื่นแล้วหรือครับ ท่านนายพลฝากแจ้งนายหญิงเมื่อตื่นว่าท่านนายพลพาคุณหนูออกไปหาอะไรกินข้างนอก ไม่นานจะกลับเข้ามาครับและฝากบอกให้คุณหญิงแต่งหน้าแต่งตัวรอท่านด้วยชุดที่ท่านเตรียมไว้ให้อยู่ในห้องคุณหนูครับ” เฟิงมี่พยักหน้ารับรู้พร้อมเดินไปที่ห้องของฮว๋าเย่เห็นชุดที่เขาเตรียมไว้ให้สวมใส่ไปงานเลี้ยงในคืนนี้ ช่างเป็นชุดที่สง่าจริง ๆเฟิงมี่ถือชุดเดินออกมาพบว่าตอนนี้สองพ่อลูกได้กลับเข้ามาแล้ว เสียงพูดคุยหัวเราะอย่างชอบใจของฮว๋าเย่ทำให้เฟิงมี่มีความสุขเหลือเกิน จนเธอคิดขึ้นได้ว่าเธอเคยผ่านเรื่องเลวร้ายอะไรมา‘ฉันออกมาอย

  • เฟิงมี่ย้อนเวลาเปลี่ยนชะตาชีวิต ยุค80   บทที่ 20 ของขวัญ

    บทที่ 20 ของขวัญฝั่งด้านหลวนหลงหลังจากที่พาเฟิงมี่กับลูกสาวเดินทางมาถึงบ้านที่ทำการซื้อไว้จัดแจงที่พักและห้องนอนให้ฮว๋าเย่โดยมีลูกน้องของเขามาช่วยเหลือไม่นานบ้านหลังใหม่ที่ย้ายมาอยู่ก็เสร็จสมบูรณ์ห้องของฮว๋าเย่เต็มไปด้วยตุ๊กตามากมาย"ว๊าวว^ ^ นี่ห้องของหนูเหรอคะ ""ใช่แล้วลูกชอบมั้ย""ชอบมากเลยค่ะ นั่นอะไรคะ" ฮว๋าเย่มองไปเห็นของใช้มากมายที่วางอยู่ตรงหน้าชี้นิ้วถามพ่อด้วยความสงสัย"ก็อุปกรณ์การเรียนไง พ่อได้ยินมาจากแม่ของลูกว่าตอนนี้ได้สมัครเรียนไว้ให้เสื้อผ้ากระเป๋าก็มีแล้ว พ่อเลยเลือกซื้อของที่ลูกยังไม่มีเอาไว้ให้""คุณไปเตรียมของพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน" เฟิงมี่ยืนอยู่นั้นก็สงสัยไม่ต่างจากลูกสาวเขาอยู่กับเธอตลอดเอาเวลาตรงไหนไปซื้ือของมากมายพวกนี้กันนะ"ฉันเป็นนายพลแค่สั่งลูกน้องไม่กี่คนของพวกนี้ก็ถูกจัดการตามคำสั่งแล้วล่ะ ฮว๋าเย่ลูกสำรวจห้องของตัวเองอย่างเต็มที่เลยนะ ดูสิว่ามีอะไรที่ลูกอยากได้บ้างพ่อมีเรื่องจะคุยกับแม่ของลูกหน่อย""ได้ค่ะ" หลวนหลงจับมือของเฟิงมี่ให้ตามเขาไปที่ห้องนอนของทั้งสอง เฟิงมี่เดินตามไปด้วยความงุนงง"เรามีเรื่องอะไรจะคุยกันอีกหรือคะ""มีสิ ฉันมีของขวัญขึ้นบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status