ความจริงที่ มิสเตอร์คลาร์ก เปิดเผยนั้นหนักหน่วงเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ไม่ได้แค่ต้องการทำลายกาลเวลา แต่ยังล้างแค้นราชวงศ์อังกฤษจากการกระทำในอดีต นั่นหมายความว่าพวกเขากำลังต่อสู้กับภัยคุกคามที่หยั่งรากลึกมาหลายศตวรรษ การที่กษัตริย์ทรงถูกควบคุมอยู่คือหัวใจของแผนการทั้งหมดนี้
"ถ้าอย่างนั้น 'สายรัดแห่งคำสาป' ที่ควบคุมกษัตริย์อยู่คืออะไรคะ?" เมรี่ ถาม มิสเตอร์คลาร์กที่ดูอ่อนล้าแล้ว มิสเตอร์คลาร์กพาพวกเขาเดินลึกเข้าไปในทางเดินใต้ดินของพระราชวังวินด์เซอร์ โดยมี 'ผู้พิทักษ์แห่งราชบัลลังก์' ที่ตอนนี้ปลอดจากคำสาป เดินนำทางไปเงียบๆ เขาเล่าเรื่องราวที่น่าสะพรึงกลัวเกี่ยวกับชะตากรรมของราชวงศ์วินด์เซอร์ "มันคือ 'มงกุฎแห่งเวลา' ที่แท้จริงครับ" มิสเตอร์คลาร์กตอบ "ไม่ใช่แค่สายรัด แต่เป็นมงกุฎที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' สร้างขึ้นจากพลังของ 'กระจกแห่งความจริง' เพื่อผูกมัดกษัตริย์องค์ปัจจุบันให้เป็นหุ่นเชิดของเขา" "แล้วเราจะถอดมันออกได้อย่างไรครับ?" เอดิสัน ถาม "มันถูกออกแบบมาให้หลอมรวมกับผู้สวมใส่ครับ" มิสเตอร์คลาร์กถอนหายใจ "วิธีเดียวที่จะถอดมันได้คือต้องใช้พลังที่แข็งแกร่งกว่า 'กระจกแห่งความจริง' " "และนั่นคือเหตุผลที่ 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' ต้องการให้เรามาที่นี่" ปู่ทวด สรุป "ต้องมีเบาะแสอยู่ที่นี่ ที่จะบอกวิธีปลดปล่อยกษัตริย์" ห้องลับแห่งพิธีกรรมโบราณ พวกเขามาถึงห้องโถงใต้ดินขนาดใหญ่ที่ดูเก่าแก่และลึกลับยิ่งกว่าห้องใดๆ ที่เคยผ่านมา กำแพงหินแกะสลักเป็นลวดลายประหลาดๆ ใจกลางห้องมีแท่นหินโบราณขนาดใหญ่ตั้งอยู่ และรอบๆ แท่นนั้น มี ซากโบราณที่เป็นปริศนา กระจัดกระจายอยู่บนพื้น มันไม่ใช่โครงกระดูกหรือเครื่องมือโบราณทั่วไป แต่เป็น เศษซากของเครื่องจักรกล ที่ดูเหมือนนาฬิกาขนาดมหึมา แต่มันถูกทำลายจนแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ชิ้นส่วนบางชิ้นดูเหมือนทำจากโลหะที่ไม่คุ้นตา เปล่งประกายสีเงินวาววับแม้ในความมืดสลัว บางชิ้นก็เป็นผลึกใสที่ยังคงเรืองแสงจางๆ ได้ แม้จะแตกหักไปแล้ว "นี่คืออะไรกันครับ!" เฟรเดอริค อุทานด้วยความประหลาดใจ อเล็กซานเดอร์ และ เบ็น เดินเข้าไปสำรวจซากเหล่านั้นอย่างระมัดระวัง "มันดูเหมือนเศษซากของเครื่องจักรควบคุมเวลาเลยนะครับ" เอดิสันกล่าว เขาก้มลงหยิบชิ้นส่วนโลหะรูปเฟืองขนาดใหญ่ขึ้นมา "แต่...นี่มันเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเกินกว่ายุคไหนๆ ที่เราเคยเห็นมา" "นี่คือ 'กลไกแห่งอนาคต'" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "มันคือสิ่งที่ 'พันธมิตรแห่งเวลา' พยายามจะสร้างขึ้นในอดีต เพื่อต่อกรกับ 'กาลเวลา' " "แล้วทำไมมันถึงพังหมดแบบนี้คะ?" เมรี่ถาม "ในการต่อสู้ครั้งใหญ่เมื่อนานมาแล้ว" มิสเตอร์คลาร์กตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "พวกเขาพยายามจะใช้มันเพื่อหยุดยั้ง 'สถาปนิกแห่งหายนะ' แต่มันก็ถูกทำลายลงพร้อมกับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่" เบาะแสจากอดีตกาล เมรี่เดินเข้าไปใกล้แท่นหินโบราณ เธอเห็นว่ามีแผ่นจารึกหินขนาดเล็กวางอยู่บนแท่นนั้น มันมีข้อความแกะสลักเป็นภาษาโบราณที่เธอไม่เข้าใจ แต่เธอก็รู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่แผ่ออกมาจากมัน "ปู่ทวดคะ นี่คืออะไรคะ!" เมรี่ถาม ปู่ทวดเดินเข้ามาใกล้ เขาไล่นิ้วไปตามตัวอักษรโบราณเหล่านั้น ใบหน้าของเขาดูเคร่งเครียด "นี่คือ 'คำพยากรณ์แห่งห้วงเวลา'" ปู่ทวดอ่านออกเสียง "มันบอกเล่าถึงการกำเนิดของ 'กลไกแห่งอนาคต' และวิธีที่จะฟื้นคืนชีพมัน" "ฟื้นคืนชีพมันได้ด้วยหรือคะ!" เมรี่อุทาน "ใช่แล้ว" ปู่ทวดตอบ "แต่การจะทำได้ เราต้องค้นหาสิ่งของอีกชิ้นหนึ่ง" เขาชี้ไปที่สัญลักษณ์บนแผ่นจารึกหิน สัญลักษณ์นั้นคล้ายกับรูป ดาวหาง ที่มีหางยาว และมีตัวอักษรโบราณเขียนอยู่ด้านล่าง "นี่คือสัญลักษณ์ของ 'ผลึกแห่งดวงดาว'" ปู่ทวดกล่าว "มันคือชิ้นส่วนสุดท้ายที่จะทำให้ 'กลไกแห่งอนาคต' ทำงานได้อีกครั้ง และมีเพียงมันเท่านั้นที่จะสามารถทำลาย 'มงกุฎแห่งเวลา' และปลดปล่อยกษัตริย์ได้" "แล้วมันอยู่ที่ไหนกันครับ!" อเล็กซานเดอร์ถาม "ตามคำพยากรณ์...มันถูกซ่อนไว้ในที่ที่มืดมิดที่สุด...ที่ที่แสงสว่างไม่อาจส่องถึง..." ปู่ทวดตอบ ในขณะที่พวกเขากำลังพยายามทำความเข้าใจกับคำพยากรณ์อยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงทุ้มต่ำดังก้องไปทั่วห้อง! "พวกแกคิดว่าจะทำลายแผนการของข้าได้งั้นหรือ!" ทุกคนหันขวับด้วยความตกใจ! 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง! ร่างของเขาดูบิดเบี้ยวและเลือนลางราวกับเงา แต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและพลังงานที่ชั่วร้าย "เป็นไปไม่ได้!" เมรี่อุทาน "คุณยังไม่ตายอีกหรือคะ!" "ข้าไม่เคยตาย!" 'สถาปนิกแห่งหายนะ' คำราม "ข้าคือพลังที่อยู่เหนือกาลเวลา...และข้าจะไม่มีวันปล่อยให้พวกแกทำลายแผนการของข้า!" เขาพุ่งเข้าโจมตีพวกเขาอย่างรวดเร็ว โดยมีเสียงหัวเราะที่น่าขนลุกดังก้องไปทั่วห้อง ศึกชิงซากปริศนา การต่อสู้ครั้งใหม่เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ดูแข็งแกร่งกว่าเดิมหลายเท่า เขาสามารถควบคุมก้อนหินและชิ้นส่วนของซากโบราณให้ลอยขึ้นมาโจมตีพวกเขาได้ ราวกับเขากำลังควบคุมสนามพลังบางอย่าง "มันดูดพลังจากซากพวกนั้นครับ!" เอดิสันตะโกน "มันกำลังใช้พลังของ 'กลไกแห่งอนาคต' ที่ถูกทำลาย!" เมรี่รู้ว่าพวกเขาต้องหยุด 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ให้ได้ ก่อนที่เขาจะใช้พลังของซากโบราณเหล่านั้นอย่างสมบูรณ์ และทำให้พวกเขาต้องพ่ายแพ้ "ทุกคน! ต้องป้องกันซากโบราณพวกนั้นไว้ให้ได้!" เมรี่ตะโกน "อย่าให้เขาใช้พลังจากมันได้!" อเล็กซานเดอร์, เฟรเดอริค, เบ็น, มิสเตอร์คลาร์ก และ ผู้พิทักษ์แห่งราชบัลลังก์ พุ่งเข้าต่อสู้กับ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' อย่างกล้าหาญ พวกเขาพยายามถ่วงเวลาเขาไว้ ขณะที่เมรี่และปู่ทวดพยายามจะหาทางตอบโต้ "เราต้องหา 'ผลึกแห่งดวงดาว' ให้เจอให้เร็วที่สุดค่ะปู่ทวด!" เมรี่กล่าว "มันคือความหวังเดียวของเรา!" ปู่ทวดพยักหน้าเล็กน้อย เขากำลังจ้องมองไปที่แผ่นจารึกหินและซากโบราณอย่างละเอียด เมรี่รู้ว่าพวกเขาจะต้องหาทางไปที่ที่มืดมิดที่สุดให้ได้ เพื่อค้นหาชิ้นส่วนสุดท้ายที่จะช่วยกอบกู้กาลเวลาและราชวงศ์อังกฤษ!ความจริงที่ มิสเตอร์คลาร์ก เปิดเผยนั้นหนักหน่วงเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ไม่ได้แค่ต้องการทำลายกาลเวลา แต่ยังล้างแค้นราชวงศ์อังกฤษจากการกระทำในอดีต นั่นหมายความว่าพวกเขากำลังต่อสู้กับภัยคุกคามที่หยั่งรากลึกมาหลายศตวรรษ การที่กษัตริย์ทรงถูกควบคุมอยู่คือหัวใจของแผนการทั้งหมดนี้"ถ้าอย่างนั้น 'สายรัดแห่งคำสาป' ที่ควบคุมกษัตริย์อยู่คืออะไรคะ?" เมรี่ ถาม มิสเตอร์คลาร์กที่ดูอ่อนล้าแล้วมิสเตอร์คลาร์กพาพวกเขาเดินลึกเข้าไปในทางเดินใต้ดินของพระราชวังวินด์เซอร์ โดยมี 'ผู้พิทักษ์แห่งราชบัลลังก์' ที่ตอนนี้ปลอดจากคำสาป เดินนำทางไปเงียบๆ เขาเล่าเรื่องราวที่น่าสะพรึงกลัวเกี่ยวกับชะตากรรมของราชวงศ์วินด์เซอร์"มันคือ 'มงกุฎแห่งเวลา' ที่แท้จริงครับ" มิสเตอร์คลาร์กตอบ "ไม่ใช่แค่สายรัด แต่เป็นมงกุฎที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' สร้างขึ้นจากพลังของ 'กระจกแห่งความจริง' เพื่อผูกมัดกษัตริย์องค์ปัจจุบันให้เป็นหุ่นเชิดของเขา""แล้วเราจะถอดมันออกได้อย่างไรครับ?" เอดิสัน ถาม"มันถูกออกแบบมาให้หลอมรวมกับผู้สวมใส่ครับ" มิสเตอร์คลาร์กถอนหายใจ "วิธีเดียวที่จะถอดมันได้คือต้องใช้พลังที่แข็งแกร่งกว่า 'กระจกแห่งค
กระดาษที่ 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' มอบให้เมรี่ไม่ได้เป็นแค่แผนที่ แต่มันเป็นเหมือนภาพวาดที่สลักเสลาด้วยลายมือประณีต บอกเล่าถึงอนาคตที่กำลังจะมาถึง หนึ่งในภาพเหล่านั้นคือภาพของ มิสเตอร์คลาร์ก กำลังยืนอยู่หน้าอาคารเก่าแก่แห่งหนึ่งในลอนดอน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของ พระราชวังวินด์เซอร์ สถานที่พำนักของราชวงศ์อังกฤษ"มิสเตอร์คลาร์กไปที่นั่นทำไมครับ!" เฟรเดอริค อุทานด้วยความแปลกใจ"ดูเหมือนว่าเขากำลังรอเราอยู่ที่นั่น" เมรี่ ตอบ เธอกำแผนที่ไว้ในมือแน่น "เราต้องไปที่นั่นให้เร็วที่สุด"หลังจากเดินทางกลับมายังลอนดอน เมรี่และทีมใช้เวลาสองวันเต็มๆ ในการเตรียมตัวและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพระราชวังวินด์เซอร์ แต่การจะเข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขารู้ว่าต้องใช้แผนการที่แยบยลและละเอียดรอบคอบ"เราจะเข้าไปได้อย่างไรครับ?" อเล็กซานเดอร์ ถาม "ที่นั่นมีทหารรักษาการณ์อยู่ทุกตารางนิ้วเลยนะครับ""เราต้องหาทางเข้าที่ไม่มีใครสังเกตเห็น" เบ็น ตอบ "และผมคิดว่าผมรู้ว่ามันอยู่ตรงไหน"ภารกิจลับใต้ดินพวกเขาเดินทางไปยังพระราชวังวินด์เซอร์ในคืนหนึ่งที่มืดมิดและไร้ดวงจันทร์ พวกเขาแต่งกายด้วยชุด
เมรี่ และทีมของเธอออกเดินทางจากเอดินบะระในเช้าวันรุ่งขึ้น พวกเขาใช้รถยนต์เก่าๆ คันหนึ่งที่ นักสืบโธมัส เตรียมไว้ให้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยรถไฟที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แผนที่สู่ห้วงเวลาที่ได้มาจากนักสืบโธมัสดูจะนำพวกเขาไปยังสถานที่ที่ห่างไกลจากความเจริญ และเป็นจุดที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีสิ่งมีชีวิตใดๆ อยู่การเดินทางของพวกเขากินเวลากว่าสองวันเต็มๆ พวกเขาขับรถผ่านทิวทัศน์ที่สวยงามของชนบทในสกอตแลนด์ ท่ามกลางเนินเขาที่เขียวขจี ทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ และทะเลสาบที่เงียบสงบ แต่ในใจของพวกเขายังคงเต็มไปด้วยความสงสัยและความตื่นเต้นกับภารกิจที่กำลังจะมาถึงในที่สุด แผนที่ก็พาพวกเขามาถึงปลายทาง มันเป็น ปราสาทเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาที่โดดเดี่ยว ท่ามกลางหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอกและต้นไม้ที่ดูน่าเกรงขาม ปราสาทแห่งนี้ดูทรุดโทรมและถูกทิ้งร้างมานานหลายศตวรรษ แต่ก็ยังคงความยิ่งใหญ่และน่ากลัวเอาไว้"ที่นี่แหละ" เอดิสัน กล่าวขณะมองไปที่แผนที่ "จุดหมายปลายทางของเราคือที่นี่""แล้ว 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' อยู่ที่ไหนกันครับ?" เฟรเดอริค ถามด้วยความสงสัย"เขาน่าจะอยู่ในปราสาทแห่งนี้ครับ" ปู่ทวด ตอบ "เราต
หลังจากที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ถูกลบเลือนออกจากกาลเวลา บรรยากาศในห้องลับใต้พระราชวังเอดินบะระก็กลับมาสู่ความสงบเงียบอีกครั้ง เมรี่และทีมยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันระหว่างความโล่งใจจากชัยชนะและความสับสนจากคำพูดปริศนาที่พวกเขาได้ยิน"อนาคต...ของพวกเจ้า...ได้เปลี่ยนไปแล้ว..." เสียงนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเมรี่เอดิสัน ก้มลงเก็บเศษ 'กระจกแห่งความจริง' ที่แตกกระจายอยู่บนพื้น เศษกระจกชิ้นหนึ่งยังคงเรืองแสงสีฟ้าอ่อนๆ อยู่ในมือของเขา"เราควรจะทำอย่างไรกับมันดีครับ?" เอดิสันถามด้วยความลังเลปู่ทวด มองไปที่เศษกระจกนั้นด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความระมัดระวัง "มันอันตรายนัก...มันคือพลังที่เกินกว่ามนุษย์จะควบคุมได้""แต่เราก็ต้องเก็บมันไว้ครับ" อเล็กซานเดอร์ กล่าว "ถ้าปล่อยทิ้งไว้ที่นี่ อาจจะมีคนอื่นมาเจอมันอีก""อเล็กซานเดอร์พูดถูก" เฟรเดอริค เสริม "เราไม่สามารถปล่อยให้พลังแบบนี้ไปอยู่ในมือคนผิดได้อีกแล้ว"เมรี่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย เธอรู้ว่าภารกิจของพวกเขายังไม่จบลง การที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ถูกลบเลือนไปไม่ได้หมายความว่าอันตรายจะหมดไป"เราต้องหาที่เก็บมันไว้ในที่ที่ปลอดภัยที่ส
ความเงียบสงัดเข้าปกคลุมห้องลับใต้พระราชวังเอดินบะระ มีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นรัวของทุกคนเท่านั้นที่ดังก้องไปมา แสงสลัวๆ จากโคมไฟโบราณส่องกระทบใบหน้าของ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ที่กำลังยืนถือ 'กระจกแห่งความจริง' ไว้ในมืออย่างเยือกเย็น แสงสีฟ้าอ่อนๆ จากกระจกสะท้อนอยู่ในดวงตาของเขา ทำให้เขาดูเหมือนไม่ใช่คนอีกต่อไป"แกไม่ควรเข้ามาถึงที่นี่" 'สถาปนิกแห่งหายนะ' กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์ "พวกแกได้ทำลายแผนการที่ข้าใช้เวลาหลายร้อยปีสร้างขึ้นมา"เขาเหลือบไปมองศพของทหารรักษาการณ์ที่ไม่มีเงา แล้วยิ้มเยาะ "การต่อต้านเป็นสิ่งไร้ค่า... เพราะสุดท้ายแล้ว พวกแกก็จะถูกลบเลือนออกจากประวัติศาสตร์เหมือนอย่างเขา"นักสืบโธมัสไม่รอช้า เขาและทหารอีกคนพุ่งเข้าใส่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ทันที ปืนพกในมือของพวกเขายิงกระสุนออกไปไม่ยั้ง!"ไร้ประโยชน์" 'สถาปนิกแห่งหายนะ' พึมพำก่อนที่กระสุนจะถึงตัวเขา 'สถาปนิกแห่งหายนะ' เพียงแค่โบกมือเบาๆ แล้วเวลาก็หยุดลง! กระสุนที่พุ่งไปข้างหน้าทั้งหมดหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศราวกับถูกแช่แข็ง เขาก้าวผ่านพวกมันไปอย่างช้าๆ แล้วใช้มือแตะที่หน้าอกของนักสืบโธมัสและทหารคนนั้น"ไปสู่ความว่างเปล่าเถอ
เมรี่กอดบันทึกสำคัญที่ได้จากเลดี้เอลีนอร์ไว้แน่น เธอวิ่งไปตามทางเดินลับใต้พระราชวังเอดินบะระ ทิ้งกลิ่นอายของตำนานและคำเตือนจาก 'ผู้พิทักษ์แห่งเวลา' ไว้เบื้องหลัง ในใจของเธอมีเพียงเป้าหมายเดียว นั่นคือการไปถึง 'กระจกแห่งความจริง' ก่อนที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' จะใช้มันเปิดฉาก 'สงครามแห่งกาลเวลา'ทางเดินลับสิ้นสุดลงที่กำแพงหินทึบ เมรี่รู้ว่าห้องลับที่เธอตามหาจะต้องอยู่หลังกำแพงนี้ แผนผังของจอห์น สมิธ แสดงให้เห็นจุดที่ซ่อนกลไกไว้ แต่เธอจะเปิดมันได้อย่างไรท่ามกลางความมืดมิดและไร้ซึ่งเครื่องมือ?ทันใดนั้น แสงสว่างจ้าก็สาดเข้ามาจากด้านหลัง พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาอย่างหนักแน่น เมรี่หันขวับด้วยความตกใจ พร้อมที่จะป้องกันตัว แต่เมื่อแสงนั้นส่องชัดเจนขึ้น เธอก็เห็นร่างที่คุ้นเคย"เมรี่! เธอปลอดภัยนะ!"อเล็กซานเดอร์, เฟรเดอริค, เอดิสัน, เบ็น, และปู่ทวด ก้าวเข้ามาในทางเดินลับ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนและคราบฝุ่นจากการต่อสู้ แต่แววตาของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความโล่งใจที่ได้เจอเมรี่"ปู่ทวด! ทุกคน!" เมรี่โผเข้ากอดพวกเขาอย่างดีใจ "พวกคุณจัดการกับ 'เงาที่หลงเหลือ' ได้แล้วเหรอคะ!""ใช่แล้ว