Share

บทที่ 51

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-30 15:11:30

บทที่ 51

เสื้อผ้าที่ส่งซักตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นถูกนำมาส่งตั้งแต่เช้าตรู่ ในสภาพซักรีดเรียบร้อยหอมกรุ่นน่าสวมใส่ หากทว่านัสรินกลับไม่คิดจะแตะต้องมัน ทั้งๆ ที่เมื่อวานตั้งใจว่าวันนี้จะใส่ตามที่ปราณต์บังคับ มือเรียวบางหยิบเอาเสื้อผ้าของตัวเองออกมาจากตู้แล้วใส่อย่างเมินเฉยต่อคำสั่งของปราณต์ 

“เดี๋ยวนี้เธอดูสวยและเปรี้ยวขึ้นมากนะนัส ถามจริงสวยขนาดนี้ไม่มีคนมาจีบเหรอ”

พินทุสรที่เพิ่งตื่นนอนถามขึ้นขณะที่นัสรินกำลังยืนแต่งตัวอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง

“ไม่มีหรอกออย ใครจะมาชอบแม่หม้ายอย่างเรา”

“สมัยนี้ใครเขาสนเรื่องแบบนี้กันล่ะ”

“ก็คงมีอยู่นั่นแหละ ผู้ชายส่วนใหญ่รับไม่ได้หรอก อีกอย่างถึงแม้ผู้ชายคนนั้นจะรับได้ ทางครอบครัวเขาก็คงไม่เห็นด้วยถ้าจะให้คบหากับผู้หญิงที่มีตำหนิแล้วอย่างเรา”

“แต่เราว่าเธอไม่เปิดโอกาสให้ตัวเองมากกว่า เอามั้ยเดี๋ยวเราหาฝรั่งหล่อๆ ให้ จะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าครอบครัวเขาจะคิดเล็กคิดน้อยเรื่องที่เธอเคยแต่งงานมาก่อน” พินทุสรเอ่ยอาสาและคะยั้นคะยออย่างกระตือรือร้น

“ไม่เอาหรอก” นัสรินปฏิเสธแบบจะไม่คิด ทำเอาพินทุสรขมวดคิ้วมุ่นด้วยความขัดใจ

“ทำไมล่ะ”

“เรายังไม่อยากมีใครตอนนี้”

“เฮ้อ...เสียความตั้งใจหมด”

“ไม่คุยด้วยแล้ว ไปทำงานดีกว่า เอาไว้เย็นๆ เจอกันนะ”

“อือ...แต่วันนี้อาจจะไม่ได้ไปกินข้าวด้วยนะ พอดีหมอปราณต์บอกว่าจะมาหาน่ะ” พินทุสรพูดพลางยิ้มออกมาอย่างเขินๆ ทำเอานัสรินหัวใจวูบโหวงไปชั่วขณะ อยากจะยินดีกับความสุขของเพื่อน แต่ยามนี้เธอทำใจให้คิดเช่นนั้นไม่ได้จริงๆ

“อืม...ไม่เป็นไรหรอก เรากินคนเดียวได้ ปกติก็กินคนเดียว”

“นัสไม่ว่าเรานะ”

“ไม่หรอก…จะว่าทำไมล่ะ เราไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเขาแล้วนี่ อีกอย่างมันก็เป็นสิทธิ์ของออยด้วย งั้นเราไปทำงานก่อนนะ”

นัสรินจำต้องยิ้มให้กับพินทุสรคล้ายกับไม่ได้คิดอะไร ทั้งที่ตอนนี้หัวใจสุดจะร้าวราน จากนั้นก็ก้าวออกจากห้องเพื่อออกไปทำงาน

ยิ่งใกล้ถึงตอนเที่ยงมากเท่าไหร่นัสรินก็ยิ่งร้อนรนกระวนกระวายใจมากเท่านั้น บ่อยครั้งที่ทอดสายตาไปยังประตูห้องทำงานอย่างหวาดระแวง เกรงว่ามันจะถูกปราณต์ผลักเข้ามาเหมือนเช่นเมื่อวาน แต่ทั้งๆ ที่หวั่นใจเช่นนั้น นัสรินกลับยังไม่ยอมลุกไปไหน นั่นเป็นเพราะลึกๆ ในใจก็ยังอาลัยอาวรณ์ และอยากเห็นหน้าเขาอยู่ร่ำไป

ก๊อก...ก๊อก...

เสียงเคาะประตูดังขึ้นในเวลาเที่ยงตรง ทำเอาหัวใจคนรอเต้นแรงโลด ทว่าต้องรีบปั้นหน้านิ่งทำเป็นเหมือนไม่ไยดีกับการมาของเขา

“เชิญค่ะ”

เสียงหวานตอบกลับไปอย่างพยายามไม่ให้นุ่มนวลนัก เกรงว่าคนฟังจะได้ใจ หากแต่ตากลับจ้องมองไปยังประตูที่กำลังถูกผลักเข้ามาเขม็ง จนนึกอยากด่าตัวเองที่มีความรู้สึกตื่นเต้นมากเกินงามเช่นนั้น

“คุณนัสคะ”

คนที่ก้าวเข้ามาพร้อมกับเสียงที่เรียกชื่อเธอนั้นไม่ใช่ปราณต์ แต่เป็น...

“ป้าอุ่นคำ...มีอะไรเหรอคะ”

ความรู้สึกในหัวใจตอนนั้นไม่ต่างอะไรกับลูกโป่งที่กำลังจะลอยขึ้นไปในท้องฟ้า แล้วถูกใครสักคนเอาเข็มทิ่มจนเหี่ยวแฟบ แล้วร่วงหล่นลงไปยังพื้นอย่างไม่เป็นท่า

“คุณนัสไม่สบายหรือเปล่าคะ ทำไมดูหน้าซีดๆ” แม่บ้านประจำออฟฟิศถาม เมื่อเห็นสีหน้าของเจ้านายสาวดูซีดเผือดลงราวกับกระดาษ แถมสายตาก็ดูแปลกๆ คล้ายกับผิดหวังเสียใจต่อการมาของตน

“ปะ...เปล่าค่ะ ป้ามีอะไรหรือเปล่าคะ”

“ดิฉันจะมาถามคุณนัสว่า วันนี้จะออกไปทานข้าวข้างนอกหรือเปล่าคะ”

“ไม่ค่ะ อาทิตย์นี้นัสยุ่งทั้งอาทิตย์เลยคงไม่มีเวลาออกไป ยังไงนัสวานป้าสั่งข้าวให้ด้วยนะคะ”

“ได้ค่ะคุณนัส”

“ขอบคุณค่ะ”

นัสรินเอ่ยขอบคุณพร้อมกับยิ้มให้ เมื่ออุ่นคำออกไปจึงระบายลมหายใจออกเบาๆ พร้อมกทั้งส่ายหน้าให้กับความคิดบ้าๆ ของตัวเอง และสุดท้ายแล้วเที่ยงนั้นก็ปราศจากเงาของปราณต์อย่างสิ้นเชิง

                เมื่อถึงเวลาเลิกงานนัสรินก็แวะซื้อข้าวใส่กล่องกลับไปที่ห้อง เพราะพินทุสรบอกแล้วว่าวันนี้จะออกไปข้างนอกกับปราณต์ พินทุสรลุกไปอาบน้ำแต่งตัวในช่วงหนึ่งทุ่ม เพื่อรอปราณต์มารับในเวลาสองทุ่มกว่าๆ ตามที่นัดกันไว้

                นัสรินนั่งมองพินทุสรที่วันนี้แต่งตัวสวยเป็นพิเศษอยู่เงียบๆ เพื่อนของเธอคนนี้เป็นคนสวยและมีบุคลิกมั่นใจในตัวเอง มีฐานะทางบ้านที่ร่ำรวยจนสามารถไปเรียนต่อต่างประเทศได้สบายๆ มันคงจะดีไม่น้อยหากปราณต์จะคบหากับพินทุสรอย่างจริงใจ แม้ว่าเธอเองจะเจ็บก็ตาม แต่ยังดีถ้าคนที่เธอรักทั้งสองคนจะมีความสุขด้วยกัน

                “เป็นอะไรไปนัส นั่งเงียบเชียว”

พินทุสรมองผ่านกระจกหน้าโต๊ะเครื่องแป้งมาเห็นนัสรินซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในชุดทำงาน นั่งเหม่อคล้ายกับกำลังมีเรื่องให้ครุ่นคิดจึงถามขึ้น

                “เปล่า...แค่คิดอะไรเพลินๆ เกี่ยวกับเธอน่ะ”

                “คิดอะไร”

                “ก็คิดว่าเธอเป็นคนสวย คงจะดีถ้าได้เจอผู้ชายที่รักเธอจริงๆ” นัสรินพูดออกไปตรงๆ ตามที่ตัวเองคิด

                “ทำไมล่ะ เธอพูดเหมือนไม่แน่ใจว่าคุณปราณต์จะจริงใจกับเรา” พินทุสรวางแปรงปัดแก้มลงแล้วหันมามองนัสรินอย่างพินิจพิเคราะห์

                “ก็เราบอกเธอแล้ว ว่าคุณปราณต์มีแฟนแล้ว”

                “เธอน่ะเข้าใจผิดไปเองต่างหาก คุณปราณต์ยืนยันกับเราอย่างหนักแน่นว่าไม่ได้มีอะไรกับหมอเมธาวี แค่เพื่อนรุ่นน้องน่ะ” พินทุสรบอกอย่างมั่นใจและเชื่อในคำพูดของปราณต์เต็มร้อย ทำให้นัสรินได้แต่หนักใจ

                “ปกติเธอไม่ใช่คนที่เชื่อคนง่ายนี่ออย”

                “ก็คราวนี้ไม่ปกติไง ว่าแต่ตอนที่คุณปราณต์แต่งงานกับเธอน่ะ เขากลับบ้านดึกแบบนี้ทุกวันเหรอ เห็นว่ากว่าจะเลิกคลินิกก็ปาเข้าไปสองทุ่มแทบจะทุกวัน”

                “อือ...”

เสียงหวานตอบสั้นๆ พยายามจะไม่นึกถึงความหลังครั้งเก่า แต่เธอกลับจำได้อย่างละเอียด

                “แล้วแบบนี้ เรื่องอย่างนั้นทำกันตอนไหน”

                “ถามอะไรบ้าๆ ยัยออย” นัสรินหน้าแดงซ่านนึกกระดากต่อคำถามที่ตรงไปตรงมานั้น

                “ถามจริงๆ ไม่ได้ถามบ้าๆ คนที่แต่งงานกันใหม่ๆ กันก็ต้องมีเรื่องพวกนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ แต่หมอปราณต์กลับซะสองทุ่มกว่าๆ แบบนี้ แล้วเอาเวลาที่ไหนมาให้เธอล่ะ”

                “ตอนนั้นเรากับเขาแยกห้องนอนกันน่ะ จริงๆ ไม่ใช่แค่ตอนนั้น แต่แยกกันอยู่ตั้งแต่วันแต่งงานด้วยซ้ำ”

                “อย่าบอกนะว่าเธอกับเขาไม่เคยมีอะไรกัน” พินทุสรทำหน้าเหมือนเจอเรื่องเหลือเชื่อ

                “ใช่...ไม่เคยมีเลย จนกระทั่ง...”

               

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 52

    บทที่ 52ก๊อก...ก๊อก... นัสรินพูดไม่ทันจบ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน หญิงสาวเหลือบไปมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาแค่หนึ่งทุ่มกว่าๆ ซึ่งยังไม่ใช่เวลานัดของปราณต์กับพินทุสร เธอจึงเป็นคนเดินไปเปิดประตู เพราะคิดว่าเป็นพนักงานร้านซักรีด เอาเสื้อผ้ามาส่ง “คุณปราณต์...” เสียงหวานอุทานออกมาเบาๆ อย่างตกใจกึ่งแปลกใจ “ใช่...ผมเอง ผมมาหาคุณออย” ปากบอกว่ามาหาผู้หญิงที่อยู่ในห้อง แต่ตากลับจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า คล้ายกำลังสำรวจสมบัติส่วนตัวของตัวเอง และไม่พอใจที่เห็นเธอยังใส่เสื้อผ้าแบบที่เขาไม่ชอบ แต่นัสรินก็เชิดหน้าขึ้น...จะชอบหรือไม่ชอบ มันก็เรื่องของเขา “มาแล้วเหรอคะคุณปราณต์” พินทุสรที่ได้ยินเสียงของปราณต์รีบวางแปรงแต่งหน้า และขยับมาหาเขาที่ประตู ทำให้นัสรินจำต้องหลีกทางให้ และขยับไปยืนในห้องเงียบๆ “ครับ” “ไหนว่าจะมาสองทุ่มกว่าๆ ไงคะ” “ผมมาเร็วกว่ากำหนด เพราะกลัวว่าคุณออยจะออกไปกับคนอื่นก่อน” “จะให้ออยไปกับใครล่ะคะ ออยไม่มีใครนี่” “คุณออยก

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-30
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 53

    บทที่ 53ตีสอง...เสียงเปิดและปิดประตูที่ดังขึ้น ไม่ได้ทำให้นัสรินรู้ตัวสักนิด ว่าตอนนี้มีผู้ล่วงล้ำเข้าในห้องของตนในยามวิกาล ร่างบางยังคงหลับสนิทโดยสองข้างแก้มมีคราบน้ำตาจางๆ ติดอยู่ ความมืดดูเหมือนจะเป็นใจให้ผู้บุกรุกก้าวย่างเข้ามาได้อย่างย่ามใจ และตอนนี้เงาทะมึนนั้นก็มาหยุดอยู่ข้างเตียงของเธอแล้ว หากนัสรินก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัวตื่นแต่อย่างใด กระทั่งที่นอนข้างตัวยุบยาบลงด้วยน้ำหนักตัวของใครคนหนึ่ง พร้อมกับที่ร่างใหญ่นั้นเคลื่อนมาประกบแนบชิดจากทางด้านหลัง ตวัดแขนโอบกอดเอวเล็กไว้แน่น พร้อมกับที่จมูกโด่งฝังลงซอกคอขาวละมุนหนักๆ นัสรินจึงลืมตาโพลงขึ้นมาท่ามกลางความมืด ตอนแรกคิดว่าตัวเองฝันไป แต่ไออุ่นๆ และความใหญ่โตที่แนบประกบอยู่ด้านหลังก็ทำให้ความงงแปรเปลี่ยนเป็นความตกใจ “กรี๊…” เสียงร้องนั้นดังอยู่แค่ริมฝีปาก เพราะถูกมือใหญ่เคลื่อนมาประกบปิดเอาไว้อย่างรวดเร็ว ร่างบางดิ้นขลุกขลักเต็มแรงด้วยความตกใจกลัวต่ออันตรายที่กำลังเผชิญอยู่ และดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีทางช่วยเหลือตัวเองได้เลย “ไม่ต้องกลัวหรอกน่านัสริน ผมเอง...” เสี

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-30
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 54

    บทที่ 54ตีห้าแล้ว...แต่ท้องฟ้าในฤดูหนาวก็ยังคงมืดมิด คล้ายกับจะเปิดโอกาสให้คนมีคู่ ได้มีเวลาอิงแอบแนบชิดกันนานกว่าเดิม หากแต่นัสรินรู้ดีว่าฤดูกาลเหมันต์สุดจะโรแมนติกนั้น ไม่ได้มีไว้สำหรับเธอกับปราณต์ ร่างบางสะดุ้งตื่นขึ้นมาก่อนเวลาที่ตื่นปกติ อยากจะคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นแค่ความฝัน แต่ไออุ่นและท่อนแขนที่วางพาดเอวเธออย่างแสดงความเป็นเจ้าของ บ่งบอกชัดว่าตอนนี้ปราณต์นอนอยู่บนเตียงของเธอ โดยที่ทั้งเขาและเธอต่างไร้อาภรณ์ปกปิดร่างกาย มีเพียงผ้าห่มผืนเดียวกันเท่านั้น ที่ปกป้องเขาและเธอจากอากาศภายนอก ปราณต์ยังคงหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอราวกับไม่รู้สึกรู้สมว่าสิ่งที่เขาทำลงไปนั้นมันทำให้เธอเดือดเนื้อร้อนใจเพียงใด เขามันคนร้ายกาจที่มีอะไรกับผู้หญิงสองคนซึ่งเป็นเพื่อนกันในคืนเดียวกันและในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ที่น่าเจ็บใจไปมากกว่านั้นก็คือตัวเธอเอง ที่พอเวลาใกล้เขา ถูกเขาแตะนิดต้องหน่อย พูดจาออดอ้อนหวานหูเพียงแค่ไม่กี่ประโยค ร่างกายเธอก็อ่อนระทวยเป็นเนยเหลวที่โดนไฟอังไปในทันที “คุณปราณต์คะ คุณปราณต์” นัสรินเรียกและเขย่าแขนเพื่อปลุก “หือ..

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-30
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 55

    บทที่ 55“นัสก็บอกไปแล้วเหมือนกันค่ะว่านี่มันเนื้อตัวของนัส นัสจะแต่งตัวแบบไหนมันก็สิทธิ์ของนัส” นัสรินย้อนอย่างนึกเคืองใจในน้ำเสียงที่ห้วนจัดของเขา “ผมก็เตือนคุณแล้วเหมือนกัน ว่าถ้าผมยังเห็นคุณใส่ชุดแบบนี้อีก ผมจะจับคุณแก้ผ้าและใส่ชุดที่เห็นว่าเหมาะสมให้แทน” พูดจบปราณต์ก็สลัดผ้าห่มทิ้ง ตวัดขาลงจากเตียง แล้วก้าวยาวๆ ไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวนัสริน ร่างสูงที่ไร้อาภรณ์ปกปิดกายเข้ามายืนประกบหลัง โอบแขนแข็งแรงทั้งสองข้างมาจับแขนเล็กของเธอเอาไว้ ทำให้ตอนนี้นัสรินอยู่ในสภาพที่ยืนหันหน้าเข้าหากระจกเครื่องแป้ง โดยมีร่างเปลือยเปล่าของปราณต์ประกบแนบชิดอยู่ด้านหลัง แขนทั้งสองข้างถูกพันธนาการด้วยมือที่นุ่มแต่แข็งแรงราวกับปลอกเหล็กของเขา “นี่คุณจะทำอะไร!” “ก็จับคุณแก้ผ้าไงนัสริน” “ปล่อยนัสนะคะ เดี๋ยวนัสจะไปเปลี่ยนก็ได้”นัสรินดิ้นขลุกขลักสลับกับหน้าร้อนผ่าว เพราะยามที่ดิ้นเช่นนั้น บั้นท้ายของเธอก็เสียดสีเข้ากับความแข็งขึงที่ผงาดพองตัวตามธรรมชาติของผู้ชายในยามเช้า “หมดเวลาแล้วนัสริน ผมให้โอกาสคุณแล้ว แต่คุณเลือ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-30
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 56

    บทที่ 56แพขนตางอนสั่นระริก เมื่อปราณต์แทรกลิ้นเข้ามาในปากของเธออย่างง่ายดาย คล้ายกับว่าเธอเองก็ให้ความร่วมมือกับเขาเป็นอย่างดี จากนั้นลิ้นนุ่มและลิ้นสากก็ม้วนกระหวัดเข้าพันกันอย่างดูดดื่ม พร้อมๆ กับที่คลื่นความวาบหวามขนาดมหึมาก่อตัวขึ้นในท้องน้อยของนัสริน จนเธอเผลอยกมือขึ้นโอบกอดรอบคอเขาและจูบตอบเขาอย่างเนิ่นนาน“ถ้าคุณน่ารักกับผมแบบนี้ตลอดไปก็ดีสินะ” ปราณต์พูดขึ้นพร้อมกับจ้องหน้าสวยๆ และปากอิ่มที่เลอะลิปสติกเพราะถูกเขาบดจูบอย่างเอ็นดู“มันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ ปล่อยได้แล้ว” นัสรินเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนแกร่ง แล้วรีบเดินออกจากห้อง ขับรถไปทำงานโดยไม่รู้ตัวสักนิดว่าตอนนี้ปากของตนนั้นเลอะไปด้วยลิปสติกจากแรงจูบของปราณต์เมื่อไปถึงที่ทำงานหนานอินซึ่งเป็นรปภ.หน้าออฟฟิศก็ลุกจากเก้าอี้และเอ่ยทักทายนัสรินเช่นเดียวกับทุกวัน แต่นัสรินก็อดสงสัยไม่ได้ ที่วันนี้หนานอินมองหน้าเธอแปลกๆ แล้วอมยิ้ม ซึ่งเป็นอาการเดียวกับอุ่นคำตอนที่เห็นเธอเดินเข้าไปในออฟฟิศ“เป็นอะไรกันไปหมดคะป้าอุ่นคำ ทำไมทั้งป้าทั้งลุงหนานอินมองหน้านัสแล้วยิ้มแปลกๆ” นัสรินถามแม่บ้านเพื่อคลายความสงสัยของตัวเอง“ก็ปากคุณนัสน่ะสิคะ”“ปากนั

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-30
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 57

    บทที่ 57ภาพคู่ของปราณต์กับพินทุสรท่ามกลางบรรยากาศอันแสนสวยงามของดอยอ่างขาง ที่ถูกโพสต์รูปแล้วรูปเล่าในตอนเช้าของวันจันทร์ ยิ่งทำให้คนที่อยู่ในฐานะเมียเก็บอย่างนัสรินต้องเจ็บปวด จนต้องรีบปิดหน้าจอจากหน้าต่างนั้น แล้วรวบรวมสมาธิทำงาน หากกระนั้นชั่วขณะหนึ่งสมองก็ยังแวบคิดไปถึงตอนที่ปราณต์มาส่งพินทุสรในช่วงเย็นของเมื่อวาน ทั้งคู่ล่ำลากันอย่างอาลัยอาวรณ์คล้ายไม่อยากจาก จนยากที่คนมองอย่างเธอจะทนเห็นได้ นัสรินพยายามจะไม่คิดถึงเรื่องราวใดๆ เกี่ยวกับปราณต์อีก โชคยังดีที่วันนี้เธอต้องออกไปพบลูกค้าในช่วงสายๆ กลับมาอีกทีก็เกือบสี่โมงเย็นแล้ว ทำให้เวลาของวันนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็วมือบางเอื้อมไปหยิบเอาโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋าสะพาย เพื่อเตรียมตัวกลับอพาร์ตเมนต์ แต่ยังไม่ทันจะลุกไปไหน ประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามาโดยไม่ได้เคาะ และคนที่ก้าวเข้ามาก็คือคนที่นัสรินไม่อยากจะเจอหน้ามากที่สุดในเวลานี้ “คุณปราณต์!” เสียงหวานอุทานชื่อนั้นออกมาและจ้องมองเขาด้วยสายตาเคืองขุ่นแกมระวังตัว “ดีใจมากขนาดนั้นเลยเหรอที่เจอผม” คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างจงใจยวนอารมณ์ และไม่มีทีท่าว

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-30
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 58

    บทที่ 58นัสรินเข้าไปนั่งในรถคันนั้นเงียบๆ เช่นเดียวกับคนขับที่ก้าวตามขึ้นมาแล้วออกรถไปโดยไม่ได้พูดจาพาทีอะไรกับเธออีก นัสรินหันไปมองหน้าเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองข้างทางอย่างยอมจำนนต่อโชคชะตาที่กำลังเล่นตลกอยู่กับตัวเอง ขณะที่รถเริ่มแล่นออกไป ร่างบางนั่งจมปลักอยู่กับความคิดของตัวเอง จนกระทั่งเห็นว่าตอนนี้รถของปราณต์ไม่ได้แล่นไปยังบ้านของเขา แต่กำลังแล่นออกนอกเมือง ไปตามถนนที่เธอไม่คุ้นเคยเลยสักนิด ถึงแม้เธอจะเคยอยู่ที่นี่มาก่อนก็จริง แต่ไม่เคยย่างกรายออกไปไหนนอกพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่เลยแม้แต่ครั้งเดียว “คุณจะพานัสไปไหนคะ” นัสรินหันขวับไปถามอย่างอดไม่ได้ “พาไปฆ่าทิ้งหมกป่ามั้ง” ปราณต์ตอบแค่นั้นก็ตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อ ซึ่งนัสรินก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรอีก หากเขาอยากฆ่าเธอจริงๆ เธอก็ไม่คิดจะอุทธรณ์ใดๆ ดีซะอีกจะได้หนีปัญหารักหลายเส้าของเขา จะห่วงก็แต่พ่อแม่ที่มีตนเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว ถ้าเธอเป็นอะไรไปพ่อกับแม่คงจะเสียใจมาก รถยนต์สมรรถนะสูงสมราคายังคงแล่นไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงทางเข้าไร่ที่มีป้ายขนาดใหญ่เขียนไว้ว่า ‘ไร่เดชาธร’ ปรา

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-30
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 59

    บทที่ 59“นึกยังไงถึงจะมาค้างที่นี่ แถมมาแบบไม่บอกไม่กล่าวล่วงหน้าอีกต่างหาก” ศาสตราถามพลางเดินนำไปนั่งลงที่โซฟาราคาแพงซึ่งสั่งตรงมาจากต่างประเทศ“พอดีได้ข่าวว่าแม่แกไปปฏิบัติธรรมกับแม่ฉัน ฉันก็เลยต้องมาวันนี้”“แล้วถ้าแม่ฉันอยู่มันเป็นยังไง กลัวอะไรนักหนา หรือกลัวแม่เลี้ยงแสงหล้าจะเอาข่าวที่แกกลับไปคืนดีกับเมียเก่าไปฟ้องแม่แกหรือไง” “ไม่ได้กลัว แค่ไม่อยากหูชา” ปราณต์ปฏิเสธและเกลียดสายตารู้ทันของศาสตรายิ่งนัก ไม่ว่าเขาจะพยายามปกปิดไว้เท่าไหร่ ก็ดูเหมือนว่าศาสตราจะอ่านเกมได้ทะลุปรุโปร่งไปเสียหมด“แล้วตกลงคืนดีกันแล้วเหรอ”“ก็ไม่เชิง...” ปราณต์ปฏิเสธสั้นๆ“แล้วที่ทำอยู่ตอนนี้คืออะไร ทำไปทำไม”“ไม่รู้สิ คงเหมือนที่แกทำกับเมียแกละมั้ง ไม่รักเขาก็ยังบังคับให้เขาแต่งงานด้วย เอ๊ะ! หรือว่ารักแต่แกล้งฟอร์ม” ปราณต์ดักคอคืนให้บ้าง เพราะรู้ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังของการแต่งงานระหว่างศาสตรากับภรรยาดี“สู่รู้! เดี๋ยวฟาดปากหมอปากหมาซักหมัดดีมั้ย”“รู้ทันก็ทำเป็นโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง” ปราณต์หัวเราะอย่างอารมณ์ดีที่ตัวเองสามารถตอบโต้ศาสตราให้โกรธได้บ้าง เขาไม่ชอบการถูกใครต้อน และรู้ดีว่าศาสตราเองก็ไม่ช

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-30

Bab terbaru

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 89

    บทที่ 89เสียงกริ่งหน้าบ้านที่ดังขึ้นอย่างถี่รัว ทำให้ร่างสูงใหญ่ที่กำลังนอนกอดตระกองภรรยาสาวอยู่ในอ้อมแขนอย่างมีความสุขต้องยันกายลุกขึ้น พลางมุ่นคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ ใครมากดกริ่งแบบนี้” นัสรินถามสามีอย่างพลอยตกใจไปด้วย เพราะตั้งแต่อยู่บ้านหลังนี้มาไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน “เดี๋ยวผมไปดูก่อน นัสรออยู่นี่นะ” ปราณต์เดินออกไปชะเง้อดูที่ระเบียง แสงที่สาดสะท้อนมาจากไฟหน้าบ้าน ทำให้เขาเห็นได้ชัดว่าคนกดเป็นใคร หนำซ้ำคนกดยังส่งเสียงร้องเรียกเขาราวกับกำลังมีเรื่องร้อนใจสุดๆ อีกต่างหาก“พี่ปราณต์! พี่ปราณต์!”ร่างสูงกลับเข้าห้อง แล้วบอกภรรยาที่นั่งรออยู่บนเตียง เพื่อให้เธอคลายความกังวลว่าคนที่กำลังกดกริ่งหน้าบ้านและส่งเสียงเรียกเขาอยู่นั้นเป็นใคร“ตะวันน่ะ”บอกเสร็จปราณต์ก็ออกจากห้อง โดยมีนัสรินก้าวตามลงไป ทั้งสองเดินออกไปยังหน้าบ้านด้วยกัน และปราณต์ก็กดกุญแจรีโมตเปิดประตูรั้วให้รังสิมันต์“มีอะไรตะวัน”“พี่ปราณต์ต้องช่วยผมนะ เด็กคนนั้นโดนแก้วบาดมือ เลือดไหลเยอะมาก ตอนนี้เด็กนั่นอยู่ในรถผม” รังสิมันต์ไม่ได้เอ่ยชื่อของจันทริกาออ

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 88

    บทที่ 88แสงไฟสีเหลืองอมส้มที่ส่องสว่างทั่วอาณาบริเวณของบ้านเดี่ยวสองชั้นหลังใหญ่ ยิ่งทำให้บ้านซึ่งถูกออกแบบและปลูกสร้างอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดูโดดเด่นสวยสะดุดตามากยิ่งขึ้นในยามค่ำคืนเช่นนี้ หากแต่ภายใต้ความสว่างไสวและสวยงามที่ห้อมล้อมบ้านหลังใหญ่ในยามนี้ คนเป็นเจ้าของกลับกำลังอยู่ในห้วงของอารมณ์ซึ่งสวนทางกับบรรยากาศอันแสนสวยงามของบ้านโดยสิ้นเชิง เพราะถูกครอบงำด้วยความโมโหต่อ ‘เด็กในปกครอง’ ที่หายตัวไปตั้งแต่ตอนบ่าย และป่านนี้แล้วก็ยังไม่กลับมาร่างสูงลุกขึ้นเดินไปมาสลับกับมาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา ซึ่งความหนานุ่มสมราคาของมันกลับไม่ได้ทำให้ความเดือดพล่านในอารมณ์ของรังสิมันต์ลดลงเลยแม้แต่นิด มือใหญ่สมสัดส่วนกับรูปร่างเอื้อมไปหยิบขวดวิสกี้ราคาแพงระยับมาเทลงบนแก้ว ก่อนจะกระดกน้ำสีอำพันนั้นลงไปในลำคอพรวดเดียวหมด จากนั้นก็กระแทกแก้วลงกับโต๊ะเพื่อระบายอารมณ์ โดยมี ‘เมสซี่’ แมวพันธุ์แร็กดอลล์ตัวโปรดนั่งอยู่บนโซฟาข้างๆ บ่อยครั้งที่ตาสีฟ้าของมันเหลือบมองเจ้านายตัวเอง และลุกขึ้นมาคลอเคลีย ตามประสาแมวขี้เล่น แต่พอรู้ว่าเจ้านายกำลังอารมณ์ไม่ดี มันก็กลับไปนั่งที่ของมันแล้วหมอบลงเงียบๆ อย่างไม่กล้าก

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 87

    บทที่ 87“นั่งด้วยกันมั้ย” ปราณต์เอ่ยชวน“ไม่ดีกว่าครับ ไม่อยากเป็นก้างขวางคอคนที่กำลังอยู่ข้าวใหม่ปลามัน” รังสิมันต์ปฏิเสธก่อนจะหันไปทางกวินภพเพื่อหาพวก “จริงมั้ยวะอิสร์”“แกมันก็ชอบหาเรื่องกวนตีนชาวบ้านไปทั่ว” กวินภพไม่ได้เออออแต่พูดขัดคอขึ้นมาซะงั้น“เฮ้ย...แกเป็นนักธุรกิจพันล้านนะเว้ยอิสร์ พูดคำหยาบกวนตงกวนตีนแบบนี้ได้ไง เสียภาพพจน์นักธุรกิจหนุ่มหล่อมาดเนี๊ยบหมด”“แกมันบ้าว่ะตะวัน” หนุ่มกรุงเทพฯ ส่ายหน้ายิ้มๆ กับความเจ้าคารมและช่างกวนอารมณ์ชาวบ้านของรังสิมันต์“พี่ก็ว่างั้นละอิสร์”“เฮ้อ...ตอนแรกว่าจะไม่อยู่เป็นก้างขวางคอ เปลี่ยนใจดีกว่านั่งกับพี่ปราณต์เลยแล้วกัน” รังสิมันต์แกล้งกวนอารมณ์พี่ชายต่อ ด้วยการจะขยับเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ว่างอยู่ แต่ยังไม่ทันได้นั่งนัสรินซึ่งไปเข้าห้องน้ำก็กลับมาเสียก่อน ทำให้ทั้งสองหนุ่มต้องหันไปทักทายกับหญิงสาวตามมารยาท“สวัสดีครับพี่สะใภ้” รังสิมันต์ทักทายขึ้นก่อนอย่างขี้เล่น ทำให้คนถูกทักเหวอแกมอายนิดๆ เพราะไม่ค่อยคุ้นกับคำเรียกแบบนั้นสักเท่าไหร่“สวัสดีค่ะ” เสียงหวานเอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ เพราะประเมินว่าทั้งสองน่าจะอายุมากกว่าตน“ตะวั

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 86

    บทที่ 86“แน่นอนสิที่รัก ถ้าไม่รู้ใจคุณแล้วผมจะเป็นผัวคุณได้ยังไง ว่าไงจะบอกหรือเปล่าว่าหมายถึงใคร”“นัสหมายถึงหมอเมย์ค่ะ” ในที่สุดนัสรินก็ยอมรับว่าเธอต้องการจะถามเขาว่าเคยพาเมธาวีมาที่นี่หรือไม่“ถ้าบอกว่าเคยล่ะ”“ก็ไม่แปลกใจค่ะ” ปากว่าไม่แปลกใจ หน้าก็ยังดูยิ้ม แต่แววตาและน้ำเสียงนั้นแปร่งไปจนฟังได้ชัด“คราวนี้จะยอมรับได้หรือยังหือว่าคุณหึงผมกับเมย์” คุณหมอผู้ลองใจเมียเริ่มต้อนให้เธอยอมรับความจริงกับเขาเสียที“ยอมรับก็ได้”“ทำไมถึงจำเพาะเจาะจงว่าเป็นเมย์”“ไม่รู้สิคะ อาจเป็นเพราะว่านัสเคยเห็นกับตาว่าคุณกับหมอเมย์สนิทสนมกันแค่ไหนมั้ง”“ผมไม่ได้คิดอะไรกับเมย์เกินกว่าน้องสาว สาบานได้เลย แต่ผมก็ดีใจนะที่รู้ว่าทำให้คุณหึง”“วันที่นัสไปตรวจที่คลินิกว่าท้องหรือเปล่า นัสเจอหมอเมย์ด้วยค่ะ เธอบอกว่าเธอเลิกกับคุณปราณต์แล้ว”“หือ...เลิกกัน?” ปราณต์เลิกคิ้วเข้มขึ้น “ฟังอะไรผิดหรือเปล่านัส”“เธอบอกแบบนั้นจริงๆ นะคะ แต่มาบอกทีหลังว่าเลิกหวังในตัวคุณแล้ว เพราะคุณรักคนอื่นอยู่” นัสรินเล่าให้ฟังตามความจริง พลางคิดถึงเหตุการณ์และสีหน้าของเมธาวีในวันนั้นอย่างจำได้แม่น“ขนาดเมย์ยังรู้ว่าผมรักใคร แล้วทำไม

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 85

    บทที่ 85ปราณต์เป็นฝ่ายขยับมาถือกระเป๋าสะพายของภรรยาที่วางอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับโอบเอวเล็กที่ตอนนี้ขยายขึ้นเล็กน้อย ทำให้นัสรินซึ่งยังงงอยู่เล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าคนทั้งสองจะรู้จักกันต้องขยับตาม แต่ก็ไม่ลืมที่จะร่ำลาหมอพัทธระตามมารยาทอันดี “ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ เดี๋ยววันหลังนัสจะเตรียมสัญญามาให้เซ็น วันนี้นัสขอตัวก่อน” “ครับคุณนัสริน แล้วพบกันครับ” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้ จากนั้นก็ก้าวตามสามีออกไปขึ้นรถ ปราณต์เดินเงียบๆ แต่ยิ้มในหน้า ซึ่งจากประสบการณ์ที่อยู่ด้วยกันมาพักหนึ่ง ทำให้นัสรินพอจะรู้ว่าเวลาที่ปราณต์เป็นแบบนี้นั่นคือเขากำลังอยู่ในภาวะอารมณ์ดีแบบสุดๆ “ยิ้มอะไรนักหนาคะ พอใจมากหรือไง” นัสรินถามคนที่ซ่อนยิ้มในหน้าอย่างอดไม่ได้ จากสายตาและวาจาที่ฟังดูนุ่มละมุนผิดปกติของหมอพัทธระเมื่อครู่นี้ เธอก็พอจะรู้ว่าเขาคิดยังไงกับสามีของตน “ก็พอใจสิ” “แล้วเป็นไงคะ หมอพัทธระหล่ออย่างที่นัสบอกหรือเปล่า” “หล่อ...แต่ที่ฟังดูน้ำเสียงของนัสเหมือนกำลังหึงผมอยู่นะ อย่าหึงเลยน่า ผมชอบผู้หญิง” คราวน

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 84

    บทที่ 84วันนี้เป็นวันครบรอบสามเดือนที่บริษัทส่งตัวนัสรินมาทำงานที่เชียงใหม่พอดี ซึ่งตามกำหนดเดิมเธอจะต้องกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ และมีตัวแทนจากบริษัทคนใหม่มาทำงานแทนเธอ แต่จนป่านนี้ทางบริษัทก็ยังไม่ส่งใครมา แถมเธอยังต้องทำงานที่นี่ต่อ ซึ่งคราวนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ทำชั่วคราวแล้ว หากแต่ต้องประจำอยู่ที่นี่อย่างถาวรนัสรินยังจำวันที่ตัวเองโทร.ไปแจ้งข่าวกับกิตติ ว่าเธอประสงค์จะลาออกจากงาน ตอนนั้นหัวหน้าของเธอดูเป็นเดือดเป็นร้อนมาก เพราะยังหาคนที่ทำงานเก่งอย่างเธอมาแทนยังไม่ได้ แต่เมื่อรู้ว่านัสรินจะลาออกไปแต่งงาน และอยู่ที่เชียงใหม่กับสามี กิตติก็ขอร้องให้เธอทำงานให้ต่อ โดยเสนอจะเพิ่มเงินเดือนให้ สุดท้ายนัสรินก็จำต้องรับปาก โดยไม่ต้องเพิ่มเงินเดือนให้เธอ ความจริงเธอไม่ได้อยากลาออกเลยสักนิด แต่ที่ต้องบอกหัวหน้าไปเช่นนั้น ก็เพราะปราณต์ขอร้องแกมบังคับ และเมื่อเขาได้รู้ว่าเธอตัดสินใจจะทำงานต่อ หมอหน้าหล่อก็งอนไปหลายวันเหมือนกันนัสรินออกมาจากออฟฟิศก่อนเวลาเลิกเงิน เพราะมีนัดกับลูกค้าซึ่งเป็นหมอของโรงพยาบาลเอกชน เรียวปากอิ่มคลี่ยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะเอ่ยปากขอตัวกับหมอหนุ่มที่ตัวเองกำลังคุยงานด้วยอย

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 83

    บทที่ 83พระอาทิตย์ยามเย็นเริ่มเคลื่อนคล้อยลอยต่ำลงเรื่อยๆ บ่งบอกว่าอีกไม่นานตะวันจะลาลับขอบฟ้าไปแล้ว และความมืดมนของรัตติกาลก็จะมาเยือนในไม่ช้า หากแต่บรรยากาศทั่วคุ้มลักษิกาในยามนี้กลับเต็มไปด้วยความสว่างไสว อันเกิดจากความสุขและปีติยินดี เมื่อข่าวที่ว่าปราณต์กับนัสรินกำลังจะแต่งงานกันอีกครั้ง และตอนนี้ทั้งคู่ก็มีลูกด้วยกันแล้ว แพร่กระจายไปทั่วคุ้มลักษิกาอย่างรวดเร็วปราณต์ตัดสินใจปิดคลินิกอีกวันเพื่ออยู่ทานข้าวเย็นกับครอบครัวตามคำสั่งของมารดา ธรินดาเข้าครัวทำอาหารที่พี่สะใภ้ชอบให้อย่างเต็มใจ ขณะที่ปรัชญ์กับปราณต์นั่งคุยกันตามประสาพี่น้องในห้องนั่งเล่น ส่วนแม่เลี้ยงลักษิกาก็เล่นกับหลาน นัสรินจึงถือโอกาสเดินไปที่เนินเขาหลังคุ้มลักษิกา เพื่อดูแปลงกุหลาบและพระอาทิตย์ตกดินตาคู่สวยมองพระอาทิตย์ดวงโตที่กำลังทอดตัวลงหาเส้นขอบฟ้า พร้อมกับปล่อยความคิดของตัวเองให้ล่องลอยไป ลมหนาวเริ่มพัดพรายมากระทบกาย แต่ยามนี้หัวใจเธอกลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น และมันก็อุ่นยิ่งขึ้นเมื่อมีอ้อมกอดของคนที่รักโอบล้อมเข้ามา“มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” นัสรินเอียงหน้ามาถามคนที่ยืนโอบกอดตัวเองอยู่ทางด้านหลังเบาๆ“คิดอะไรอยู

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 82

    บทที่ 82“มันน่าโกรธมั้ยล่ะ ผมเป็นหมอแทนที่จะได้รู้เป็นคนแรกว่าเมียตัวเองท้อง แต่กลับเป็นหมอคนอื่นที่รู้ก่อน คุณก็รู้นี่นัสว่าผมอยากมีลูกกับคุณแค่ไหน” ปราณต์เอ่ยออกมาเสียงขรึมๆ“ก็ตอนนั้นคุณกับนัสยังไม่เข้าใจกันนี่คะ อีกอย่างคุณก็ทำให้นัสเข้าใจว่าคุณกับออยมีอะไรลึกซึ้งกันไปแล้ว นัสเลยไม่อยากให้ลูกกลายมาเป็นปัญหาของใคร”“ตอนนั้นผมเข้าใจ แต่เราเข้าใจและคืนดีกันมากี่วันแล้วนัส นัสคิดจะปิดผมไปอีกนานแค่ไหน และมีเหตุผลอะไรที่คุณไม่ยอมบอกผม”“โธ่...ก็นัสยังไม่กล้าบอกนี่คะ อย่าทำหน้าทำเสียงแบบนั้นใส่นัสสิคะ นัสใจไม่ดี”“ถูกต้องแล้วที่คุณจะใจคอไม่ดี เพราะตอนนี้ผมโกรธคุณอยู่ และโกรธมากด้วย” ปราณต์ทำเสียงเข้มใส่ ทำให้คนถูกโกรธยิ่งใจฝ่อ“แล้วทำยังไงคุณถึงจะหายโกรธคะ”“ก็ต้องง้อสิ ไม่ง้อจะให้หายโกรธได้ยังไง”นัสรินขยับตัวเข้าหาพร้อมกับยกแขนขึ้นโอบกอดที่ต้นคอของเขา ก่อนจะเขย่งเท้าขึ้นแล้วประกบปากตัวเองลงบนปากของเขา จากนั้นเธอก็เริ่มจูบและปราณต์ก็จูบตอบอย่างร้อนแรง กึ่งลงโทษกึ่งปรารถนาปนเปอยู่ในรสจุมพิตนั้น“หายโกรธนัสหรือยังคะ” เสียงหวานเอ่ยถามอย่างงอนง้ออีกครั้งหลังจากที่ปากของทั้งคู่ผละห่างจากกัน

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 81

    บทที่ 81“ทำไมถึงซื้อไว้ล่ะคะ ที่จริงมีบ้านสวยๆ กว่าบ้านหลังนี้อีกเยอะแยะ หรือถ้าคุณจะสร้างใหม่ก็สร้างได้สบายๆ อยู่แล้ว”“ไม่รู้สิ คงเป็นเพราะว่ามีสิ่งเดียวที่ผู้ชายใจร้ายอย่างผมทำได้เพื่อระลึกถึงคุณมั้ง” ปราณต์พูดด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าเขาไม่ได้โกหกแต่อย่างใด แววตายามเมื่อนึกถึงความหลังครั้งนั้น ฉายแววเคว้งคว้างสับสนออกมาจนนัสรินรู้สึกได้“นัสก็ผิดค่ะที่เห็นแก่ตัว ถ้าคุณจะเกลียดนัสก็ไม่แปลกหรอก”“แต่ถ้าผมใจกว้าง เปิดใจยอมรับว่าที่นัสทำลงไปก็เพราะรักผม ป่านนี้เราอาจจะมีลูกด้วยกันแล้วก็ได้” ปราณต์พูดถึงลูกอีกครั้ง นัสรินจึงเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนของเขา เพราะเธอยังปิดบังเรื่องที่ตัวเองท้องอยู่ แต่ปราณต์ไม่ยอมให้นัสรินหนีไปไหน เขาย่อตัวช้อนอุ้มร่างบางพาเดินไปนอนที่เตียงด้วยกัน“คุณปราณต์อุ้มนัสมาขึ้นเตียงทำไมคะ” นัสรินถามพลางหน้าแดงซ่าน เมื่อครู่ยังคุยกันดีๆ อยู่แท้ๆ แต่เผลอแป๊บเดียวเธอก็ขึ้นมานอนอยู่บนเตียงโดยมีร่างสูงใหญ่ของเขานอนอยู่แนบชิดเสียแล้ว“ก็พามาพิสูจน์ว่าเตียงเล็กไปหรือเปล่าสำหรับเราสองคน”“วันนั้นก็พิสูจน์ไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ”“วันนั้นผมเมา จำอะไรไม่ค่อยได้ ต้องทำตอนมีสติ” คน

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status