ธีรคามกระหยิ่มยิ้ม
สาวสวยไม่รู้หรอกว่าเขาจะพาหล่อนไปไหน
คุณสนมนาถพยักหน้าและยิ้มอย่างเข้าใจ
เมื่อใบฟางก้าวอ้อมมานั่งข้างเบาะคนขับ ธีรคามก็สตาร์ทรถทันที เขาออกตัวแรงมาก และแล่นออกจากบ้านรวดเร็ว
จนใบฟางรู้สึกแปลกใจ เหมือนธีรคามเร่งถอยหนีบางสิ่งบางอย่าง หรือว่าเขาจงใจล้อเล่น ล้อเล่นแบบนี้รู้สึกอันตราย
“ทำไมหรือจ้ะ น้องฟางไม่ดีใจหรือที่จะออกมากับพี่ ดูทำหน้าเข้าสิ”
ใบฟางแค่ชำเลืองเขาผ่านสายตาเท่านั้น ไม่ได้บ่นตำหนิ แต่พี่ธีรคามก็ออกตัวเหมือนคนร้อนรน ทวนคำพูดของเขาอีกครั้งตอบ
“ทำไมพี่ธี คิดอย่างนั้นล่ะคะ เหมือนคนร้อนตัวจังเลย”
ใบฟางพูดให้เห็นขำมากกว่าจะเอ่ยจริงจัง
ทำให้หนุ่มคนขับอารมณ์กระฟัดกระเฟียดขึ้นมาทันที เหมือนใบฟางจี้จุดในใจของเขา เพราะความจริงหาทางจัดการกับสาวสวยอย่างไรดี ซึ่งความจริงเขาอยากจะรวบหัวรวบหางหล่อนด้วยซ้ำ แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น จึงต้องใช้ไม้อ่อน สวมหน้ากากสุภาพบุรุษที่ตรงกับความรู้สึกแท้ในใจของตนเอง ฉุกใจคิด ใบฟางมีความรู้สึกว่าคำพูดของธีรคามเอ่ยแปลก ไม่เหมือนน้ำเสียงที่ใช้กับมารดาหล่อน
“พี่ธีอยากได้อะไรหรือคะ ถึงได้ชวนฟางไปห้างด้วย”
“อ้าว แล้วฟางไม่อยากได้อีกหรือ”
สาวสวยสั่นศีรษะ
“ไม่คะ แค่แหวนเพชรวงนี้ ก็เท่ารับประกันความรู้สึกที่ดีของพี่ธีที่มีต่อฟางแล้วค่ะ”
ใบฟางพูดได้อย่างมีความหมาย หรือหล่อนมีความรู้สึกเช่นนั้นจริง เขานี่สิ เหมือนคนวัวสันหลังหวะ ต้องการปฏิบัติความชั่ว ขณะที่ตัวเองใจสั่น กลัวหล่อนรู้ตัวก่อน
“ความจริง ฟางก็ไม่อยากจะออกมาหรอกค่ะ มาถึงเหนื่อยๆ อยากจะพักผ่อนดีกว่า แต่เพราะพี่ธีมา ฟางเลยไม่อยากขัดใจ ตามใจพี่ธีค่ะ”
“แล้ว ฟางจะตามใจพี่ธีมั้ยจ้ะ”
รู้สึกแปลกอีกครั้ง ที่คำพูดของธีรคามเหมือนแปลกหู คลับคล้ายเขาไม่ใช่คนเดิม แต่เป็นคนใหม่ที่มุ่งหวังทำอะไรบางอย่าง อารมณ์ปรวนแปรหรืออย่างไร หล่อนไม่ทราบ
“ต้องดูเหตุผลด้วยค่ะ”
ทำให้เขารู้ว่าใบฟางค่อนข้างระมัดระวังตัว ถ้างั้นคงเคี้ยวยาก
ขณะเดียวกันกลางสวนในคฤหาสน์ หนุ่มหล่อผู้อกหัก แทบไม่อยากจะทำอะไรทั้งสิ้น นิยายที่คิดจะเริ่มต้นสานต่อ ต้องทิ้งค้างเอาไว้ก่อน
นี่คืออุปสรรค ให้เขามีสีหน้าเศร้าสร้อย
นี่คือบทสรุปความรักของน้องชาย ที่ตรีรัชชมนพยายามคาดเดา เห็นน้องชายเดินไปมาบ้าง
บนพื้นสนามหญ้าและวงกลมบริเวณสระน้ำเลี้ยงปลาสวยงาม เกือบชั่วโมงกว่า จนแสงอาทิตย์ยามเย็นคงลับฟ้าไปนานแล้ว หล่อนก็ยังเห็นร่างตะคุ่มของน้องชายโดยมีแสงไฟสาดจับต้องร่าง ตรีรัชมนต้องเบือนหน้ากลับอีกครั้ง
เธอเพียงแต่มายืนชะโงกมองดูน้องชายผ่านทางกระจกหน้าต่าง กลัวเขาคิดสั้น และคิดอะไรไม่เข้าท่า
น้องชายนักเขียนของหล่อนเคยสอนคนอื่นแก้ปัญหา
แล้วปัญหาของตัวเองล่ะจะแก้อย่างไร เคยแก้ปัญหาให้กับตัวละคร ต้องแก้ปัญหาให้กับตัวเองได้สิน้องรัก
ตรีรัชมนลุกขึ้นจากโซฟายิ้มทัก
“รู้สึกดีขึ้นมากแล้วใช่ไหม ป้าง พี่คิดผิดไปหรือเปล่า ที่บอกเธอในเรื่องนี้”
ตรีรัชมนมองน้องชายด้วย เห็น
สีหน้าขาวของเขาอิดโรยเพราะผ่านการคิดหนักและเครียดจัด ดูหมดหล่อไปเลยในสายตาของพี่สาว
น้องชายเงียบจึงค่อยตอบ แต่เสียงเขาก็กังวานชัด บ่งบอกว่าน้ำเสียงมีพลัง
“พี่ไม่ผิดครับ ความรักยื้อแล้วก็รั้งไว้กับตัวเราไม่ได้ ผมไม่เฮิร์ท หรอก ผมสร้างตัวละคร ให้อกหักเจ็บปวดมากกว่านี้อีก”
คำอธิบายน้องชายน่าฟัง ตรีรัชมนดีใจที่เขารู้สึกดีขึ้น
จากนั้น เขาขอตัวขึ้นไปข้างบน
“ผมจะอาบน้ำให้สบายกายสบายใจเสียหน่อย แล้วจะขับรถออกไปข้างนอก เที่ยวหน่อยคืนนี้”
เอ่ยบอกพี่สาว ตรีรัชมนพยักหน้า
ใบฟางกับธีรคามอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า เหตุผลที่ธีรคามต้องการถ่วงเวลาและดึงเอาตัวสาวสวยให้อยู่ใกล้นานที่สุด
เพราะแผนชั่ว ที่ใบฟางไม่รู้สักนิดเลย คำหวานผ่านปากของหนุ่มหล่อผู้นี้จะเต็มไปด้วยพิษ และผีการพนันที่สิงสู่ เขาต้องการถอนทุนคืน
ใบฟางเคลิบเคลิ้ม เหมือนเธอมีความสุข ที่ได้ใกล้ชิดเขา เป็นอารมณ์ที่สาวคนรักมอบให้หนุ่มคนรัก เป็นภาพที่ดูหวานแหววในสายตาคนอื่น
ใครคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้หญิงแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาด
ใบหน้าของหล่อนโทรมนั้นพรางด้วยเครื่องสำอางหนาเตอะ ดวงแก้วนี่เอง หล่อนมากับเพื่อนหญิงที่ชื่อ กานดา ซุบซิบนินทากันอยู่ครู่จึงหลุดปากออกมาว่า
“นั่นผัวยัยสีเพื่อนเรานี่ พ่อเทพบุตรของอีสีมันหันมาควงใครวะ นี่ถ้าอีสีรู้เรื่อง มันคงจะเต้นผางเป็นงิ้วหลุดออกจากโรงแน่นอน เพราะคนอย่างนังนี่ ยอมเสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้กับใคร เอาล่ะ เดี๋ยวฉันจะโทร.นังสีให้มันรู้ตัว ต่อไปมันจะจัดการยังไงก็เรื่องของมัน”
หล่อนหาทางหลบหน้าสองหนุ่มสาวเบื้องหน้า
แล้วกดเบอร์หาสวรรค์สีทันที
“นี่อีสี เกิดเรื่องใหญ่แล้ว มัวแต่แรดอยู่ไหนกันยะ ผัวหล่อนน่ะกำลังควงกิ๊ก แหมเป็นสาววัยรุ่นหน้าตาดีเชียวหล่อนเอ๋ย ฉันอยากจะให้หล่อนมาเห็นภาพเต็มตาจริง หล่อนต้องอดไม่ได้แน่ นี่ชั้นก็คันไม้คันมือแทนหล่อนนะ ทางที่ดีพูดกับผัวหล่อนให้เข้าใจไปเลย ว่าใครกัน รู้อยู่หรอกว่าหล่อนน่ะหลงผัว แต่ไม่ควรให้ผัวมันมาสนตะพายเอานะ เสียยี่ห้อพวกเราหมด”
แหม มันสั่งสอนหล่อนเสียดิบเสียดีเชียว นังดวงแก้วเพื่อนรัก
สวรรค์สีทำได้แค่รับรู้ แต่ใจของหล่อนน่ะสั่นเทิ้มทีเดียว
หล่อนก็กำลังหน้าหงิกหน้างอรอแขกนี่ล่ะ
เขาบอกว่ากำลังจะเดินทางมา หลังจากที่หล่อนโทร.ไปหาอ้อนออด
“ย่ะ ชั้นขอบใจ ที่หล่อนคาบข่าวเอามาบอก แต่คนนี้ชั้นรู้แล้วล่ะ กำลังเป็นเหยื่อรายใหม่ของผัวชั้นย่ะถ้าแม่เด็กสาวหน้าตาน่ารักหวานคนนั้น ชั้นรู้ดีว่าหล่อนเป็นใคร ชื่ออะไร คราวหลังไม่ต้องมาโวยวายหรอกนะ ถ้าแม่คนนี้ นังฟาง”
ยอมรับว่าหล่อนไม่สู้พอใจเช่นกัน แต่สวรรค์สีจะทำอย่างไรได้ ขณะนี้เขากำลังถังแตก เขาก็ต้องทำอะไรก็ได้ทุกอย่าง
เพื่อให้ได้เงินมา หล่อนน่ะเข้าอกเข้าใจเขาเป็นอย่างดี ไม่เหมือนแม่ปากไม่มีหูรูดอย่างเพื่อนสนิทหรอก
และหล่อนคิดว่า มันก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน
ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบฟาง”หล่อนเข้าใจเขาพูดถูก หล่อนก็ตอบแทนความรักของเขาด้วย“ต่อไปไม่มีแล้วล่ะ เมียขายฝาก สมญาที่ใช้เป็นคำพูดเล่นๆขำๆเพื่อล้อเลียนคุณ มีแต่ตำแหน่งเดียวคือเมียแต่งนายปางภู คุณจะสนใจตำแหน่งนี้ชั่วชีวิตหรือเปล่าล่ะ”คารมของพ่อหนุ่มนักเขียนทำเอาหล่อนต้องยอมรับล่ะ มิน่าถึงร้อยเรียงเขียนหนังสือได้หลากหลายยาวนาน “สนใจสิคะ”หล่อนพยักหน้า “ไม่งั้นฉันคงไม่ตัดสินใจยอมคุณหรอก” เขากลั้วยิ้มดวงตาพราวอีกครั้งกับคำตอบนี้ พึงพอใจเช่นเดิม เพราะขุมสมองมีแต่ความเพริดแพร้วทางปัญญา ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบ
คารมของนักเขียนหนุ่มผู้เป็นสามีเอ่ยขึ้น หญิงสาวยิ้มพราวระยับที่ดวงตาของหล่อนขึ้นบ้าง หวงนี่อาจจะแปลกว่าหึง หล่อนยิ้ม“นั่นยิ้มอะไร ขำหรือว่าไม่พอใจ”“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ฟางรู้สึกว่า พอได้สามีมาหนึ่งคน เขาก็บ่นเสียเก่ง” เขาหันมาทางสาวสวยผู้เป็นภรรยา ขยับใบหน้ามาใกล้ “นี่มาหาว่าเราบ่น ประเดี๋ยวเหอะ จะจูบให้ตายตาอ้อมกอดเลย”ชายหนุ่มบ่นเสียงไม่จริงจังนัก หมั่นไส้ผู้เป็นภรรยามากกว่า “แนะ ไม่กลัว ใช่ไหม? เดี๋ยวเอาจริงนะ”เขาขู่หล่อน พลอยทำให้ใบฟางต้องหลับตาปี๋ลง ก่อนที่ใบหน้าขาวๆของดวงหน้าคมคายจะโน้นแตะชิดใกล้ริมฝีปากประกบบดขยี้ลงไปแทรกความหวานเจือปนละลายอยู่ในช่องปาก จนสาวสวยรับรู้ถึงสัมผัสที่หวานซ่านลิ้น “นี่เริ่มบทลงโทษแล้ว โทษฐานที่มีเมียขี้บ่น แถมปากเก่งอีกต่างหาก เอ้อ เป็นเมียขายฝากเสียด้วย”หญิงสาวยังข้องใจในคำนี้ ความหมายแบบเขานี่คืออะไร จึงส่งสายตาอึดอัด หงุดหงิดทวงถามเมื่อเขาละถอนจากริมฝีปาก เงยหน้าขึ้นจ้องหล่อน เพราะรู้ว่าหล่อนจะถาม หล่อนไม่ชอบใจสักนิดกับคำทีเขาใช่เรียกหล่อน“อีกแล้ว เมียขายฝาก ฉันไม่รู้ว่าความหมายมันคืออะไรกันแน่ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่พี่ธีรคา
“ยังไม่แน่ใจค่ะ เมล ตอนนี้ฉันอยากอยู่เมืองไทยไปก่อน คงทำงานไปสักพัก ถ้าลืมเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างได้ ฉันก็อาจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับใครก็ได้ ที่เขารักจริง และรักความเป็นตัวฉัน รวมทั้งเขาไม่แคร์อดีตต่างๆของฉันด้วย”“ขอให้คุณโชคดีนะฮันนี่”“ขอบคุณคะ เมล คุณก็เช่นกัน รักษาเนื้อรักษาตัวด้วย”หล่อนโบกมือให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาและคณะจะเดินจากไปในช่องผู้โดยสารขาออก แล้วหล่อนหันมายิ้มให้กับตัวเอง นี่คืออิสรเสรีที่หล่อนต้องการ จึงถอนใจออกมายาวนานด้วยมีความสุข หล่อนต้องการตัด และเยื่อใยอาวรณ์จากเขา หล่อนจะต้องทำให้ได้ เมลมีดีอยู่หลายสิ่งหลายอย่างเช่นกัน แต่สิ่งที่หล่อนยอมรับไม่ได้คือ เขาจะเอาทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างที่เรียกว่า เสือไบ โฮโมเซกช่วล แบบนี้หล่อนไม่ต้องการ ไม่ต้องการเสียน้ำตาทนอยู่กับผู้ชายประเภทนี้ เพราะนั่นหมายความว่า เขาทำให้ชีวิตของหล่อน เหมือนตกนรกทั้งเป็นนึกว่าจะยืดเยื้อ หรือคาราคาซังเสียอีก ขอบคุณที่เขาเลือกให้ของขวัญนี้ให้แก่หล่อน ตามที่หล่อนร้องขอปรารถนามานานต่อไป ชั่วชีวิตนี้ หล่อนจะไม่สนใจ ผู้ชายที่ชื่อเมล นี้อย่างเด็ดขาด ว่าเขาจะเป็นตายร้าย
จะไม่ช๊อคใจไปใหญ่หรือ ที่ตลอดมานั้น อ่านหนังสือของคนกันเองทั้งนั้น คนกันเองที่ขยับเข้ามาเป็นคนในบ้านและเป็นคนในเรือนใจของหล่อนเข้าทุกขณะ“นี่สิของแท้ของชัวร์ นิยายที่ผ่านการรวมเล่มแล้วของผม มีประมาณ เกือบสิบเรื่องด้วยกัน ซ่อนอยู่อีกมุมหนึ่ง โดยเฉพาะ และถ้าอยากจะไปร่วมงานวันสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเมษาที่จะถึงเร็วๆนี้ ไปกับผมสิ คุณจะได้รู้ว่าแฟนคลับผมตรึมแค่ไหน ที่เรียกร้องอยากจะให้ผมมา..แล้วก็ต้องแจกลายเซ็นต์ด้วย”เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจริงๆ ไม่น่าเชื่อ ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยนและสุภาพปนกับอารมณ์ร้ายเกรี้ยวกราด ไม่นึกว่าเขาจะมีอีกภาคหนึ่ง ของผู้ชายที่เขียนหนังสือขาย เป็นนักเขียนที่ถือว่า ได้รับความนิยมมากคนหนึ่งในปัจจุบัน ในยุคที่นักเขียนไทย ผุดตัวเองขึ้นมาราวกับดอกเห็นกลางฤดูฝน“ไม่เชื่อ คงต้องเชื่อแล้วละคะ นี่ถ้ายัยเงิน น้องสาวของฟางรู้เรื่อง ตายเลยล่ะคงทั้งอึ้งทั้งทึ่ง ไม่งั้นก็เกือบช๊อคไปหลายสิบตลบแน่นอน”“ถึงขนาดนั้นเลยหรือ”“ใช่ค่ะ ถึงขนาดนั้นแน่นอน เพราะน้องสาวของฉัน ติดงานของคุณมาก”เขาเพิ่งทราบ“นี่คุณทำอย่างนี้ทุกวัน หลังขดหลังแข็งมากไหมคะ”เขายิ้มอีกครั้ง“งา
เขาเอ่ยคำนี้ จนหล่อนหน้าแดงไปเลย สีระเรื่ออ่อนที่พวงแก้ม แต่ก็เข้าใจความหมายเมื่อเขาพร้อมที่จะให้สัญญาปากแบบสุภาพบุรุษอีกครั้ง “งั้น ฟางจะยอมไว้เนื้อเชื่อใจอีกสักครั้ง ทั้งที่ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่”“อ้าวทำไมล่ะ กลัวผมจะเปลี่ยนใจ ทำมิดีมิร้ายกับคุณหรือไง นี่ฟังนะจ้ะคนเดียว เรื่องทำมิดีมิร้าย ผมก็คิดเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เวลานี้ แต่ต่อไปล่ะ ผมคงมีเวลาทำมิดีมิร้ายกับคุณอย่างสุดสวาทอย่างว่า ได้นานครั้งล่ะ ตอนที่เราแต่งงานกันเสร็จแล้ว นั่นล่ะ มีเวลาทั้งชีวิตของผมเลย”ฟังคำพูดที่เขาเอ่ย หล่อนก็รู้สึกเบาใจ ปางภูหัวเราะเสียงใส“แล้วฉายาเจ้าพ่อบ่อนหรือเสี่ยที่พี่ธีรคามเรียกใช้ ให้สมญาชื่อคุณล่ะคะ”“นั่นผมลืมแล้ว ผมจะไม่เข้าแล้ว ตัดขาดจากมันตลอดชีวิต ในเมื่อผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนี่ ผมมีคุณ ผมมีครอบครัว มีคนที่เอาใจใส่น่ารักอย่างนี้ ผมจะเตลิดหนีหายไปไหนได้อีกล่ะฟางจ๋า”ในเมื่อเขาจะมีครอบครัวแล้ว นั่นมันคือภาพอดีต เมื่อครั้งที่ยังใช้ชีวิตโสดอิสระได้เต็มที่ และเมื่อพ้นจากวัยนั้นพ้นผ่านแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็คิดว่ามันเป็นเกมชั่วครั้งชั่วคราวที่ผ่านทางชีวิตของเขาเขาไม่ได้ติดหนึบติดหน
หญิงสาวยิ้มให้พยักหน้าและเพิ่งเข้าใจ “คุณคงไม่โกรธผมนะ ที่ตอนนั้นทำอะไรก็คิดจะปิดบังคุณ”เสียงนุ่มทุ้มดังอีก เป็นกังวาน แต่ก็รู้สึกชุ่มชโลมในหัวใจของหล่อนอย่างประหลาด“เคยคิดจะโกรธเหมือนกันคะ แต่ก็ดีที่คุณเพิ่งอธิบายออกมา ฉันเลยนึกโกรธคุณไม่ลงแล้ว”เขาหันมายิ้มอ่อนๆสบตาของหล่อน“ก็ต้องบอก เพราะเราก็เหมือนคนคนเดียวกันแล้ว จากนี้มีอะไรก็ต้องร่วมรับผิดชอบกัน”หล่อนนิ่งฟังคำพูด ชอบฟังคำพูดที่มีหลักการในการวางแผน และให้กำลังใจ สร้างความปลาบปลื้ม แก่ใจของหล่อนอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวยอมรับว่าหล่อนเริ่มจะหลงรักผู้ชายคนนี้เสียแล้ว ไม่รักก็คงไม่ได้หรอก ลึกแต่ไม่ลับในความรู้สึกของหล่อน ขอเก็บเอาไว้รู้เพียงคนเดียว จึงหันทางเขาอีกครั้งยิ้มและสบตาให้ หล่อนนึกถึงเรื่องอื่นได้ อย่างเพิร์ล หรือภามิญาที่ไม่รู้ว่า ทั้งคู่คืบหน้าไปมากแค่ไหน จวบกับมีเรื่องราวอื่นที่เป็นเรื่องสะเทือนใจ ประดังเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่าไม่ขาด จากสึนามิ ฝนก็ท่วมถล่มทางภาคใต้ แผ่นดินไหวทางประเทศพม่าหรือเมียนมาร์กับทางภาคเหนือของไทย วิบากกรรมของประเทศและชาวโลกถูกซัดมาอย่างไม่หยุดหย่อน คงต้องพึ่งพาความดีงาม ศีลธรรม บุญกุศลท
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงระส่ำขวัญเช่นนี้ เรื่องทั้งหมดจึงถูกพับแปลนงานอย่างน่าเสียดาย ไว้รอเหตุการณ์ทุกอย่างสงบอีกครั้ง เขาถึงจะเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอน คงต้องเป็นหลังจากที่งานแต่งของเพื่อนรักที่เมืองไทยเสร็จสิ้น“ขอบใจนายมากที่เป็นห่วง ฉันเป็นตัวแทนของประเทศที่รับความหวังดีนี้จากนาย”“ไม่เป็นไร ฉันเป็นคนไทย เมืองที่ได้ชื่อว่าใจบุญ และสยามเมืองยิ้ม ที่ไหนเกิดความทุกข์เดือดร้อนสาหัส พวกเราทนดูดายไม่ได้หรอก ยิ่งญี่ปุ่นก็ให้ความพึ่งพิงพึ่งพาช่วยเหลือประเทศไทยเรามาก่อน ไม่ว่าทางด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยีต่างๆ สายสัมพันธ์เรายาวนาน เราจึงเห็นใจกันและกัน ถือว่าประเทศไทยตอบแทนน้ำใจประเทศญี่ปุ่น มันเป็นการกตัญญูรู้คุณที่สองประเทศมีไว้ให้กัน”คนฟังรู้สึกตื่นตันใจ และนึกในใจเขาเองก็ถือว่าโชคดีที่มีเพื่อนสนิทเป็นคนไทยอย่างปางภู“ทำใจให้ดีเถอะนะ เข้มแข็งเอาไว้ คิดเสียว่า เบื้องหลังฝันร้าย จะกลายเป็นดี ในอนาคต”โทชินาดะพยักหน้ารับกับเพื่อน ใบฟางรับรู้เรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกับคนไทยทั่วประเทศ เพราะหล่อนติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวที่เกิดอย่างรุนแรงของประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อนึกถึงเพ
แต่ที่น่าแปลกใจคือ ศราณัฐกลับพูดเรื่องนี้ไม่ออก เหมือนปากของเขาถูกอุดเอาไว้นิ่งเช่นกัน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร หรืออาจเพราะว่า เขากับหล่อนนั้น ห่างหายจากกันไปนาน แทบไม่ได้รับการติดต่อจนกระทั่งได้กลับมาพบกันอีกครั้งแต่เขามีความรู้สึกว่า ใบฟางห่างเหินเมินเฉยต่อเขาเป็นอย่างมาก เอ หรือจะเป็นเช่นที่มารดาเอ่ยกล่าวว่าเปรยๆบอกเขาไว้ว่า ใบฟางมีแฟนแล้วที่มาเทียวรับเทียวส่งหล่อนบ่อย เรื่องนี้เป็นการยืนยันด้วยสายตาของมารดา ทีแรกเขาก็ไม่ได้เชื่อหรอก แต่มาเห็นสายตาและปฏิกิริยาของใบฟางที่มีต่อเขาแล้ว ชายหนุ่มต้องแอบบอกกับตัวเอง เขาคงมิแคล้วต้องซดน้ำใบบัวบกแทนข้าวมื้อนี้เสียแล้วและนี่คือความอึดอัด เมื่อถึงที่หมายใบฟางขอลง เขาเองก็จอดให้หล่อนลงอย่างง่ายดาย พร้อมกับยิ้มให้ และโบกมือเมื่อหล่อนเอ่ย “ฟางขอบใจพี่ศรามากนะคะ รบกวนเท่านี้ล่ะ ขอให้โชคดีค่ะ”ชายหนุ่มโทร.หาโทชินาดะแต่เช้าหลุดประโยคออกมา “โทชิ ฉันจะแต่งงานกับใบฟาง”ทำเอาเพื่อนอึ้งกับคำนี้ เงียบไปครู่จึงย้อนกลับไปถามทวน “นายว่าอะไรนะป้าง จะแต่งงานแล้วหรือ”“ใช่ ว่าที่เจ้าสาวของฉัน ใบฟางไงล่ะ คนที่เราได้พบเจอเป็นครั้งแรกพร้อมกับ
คุณสนมนาถเงยหน้าขึ้นสบตาสามีอย่างเข้าใจ ท่านเอ่ยอีกครั้งเบือนหน้าหันกลับมาเสียงเคร่ง“แล้วต่อไปจะเอาอย่างไร”“ผมจะจัดการสู่ขอน้องฟางให้ถูกต้องตามประเพณีครับ ส่วนฤกษ์ คุณแม่ของผมท่านกำลังหาอยู่ถึงเรื่องนี้.งมา แล้วคุยกันถึงเรื่องนี้.ง เอ้อ ฟางจะแต่งงานกับ คุณปางภูค่ะ"ตอบล่ะเงมาอย่างไร เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น หล่อนอึ้งตลอด แต่อย่างทีบอกลึกนั้นในใจภูมิใจอย่างมาก ที่คำสารภาพของเขาแบบลุมอเลือกอย่างน้องชายแกเอก่อนนะครับ.. น่าจะไม่เกินสิ้นเดือนนี้ครับ”ปางภูชี้แจงเสียงนุ่มคมชัดฉะฉานและทุ้มเรียบ คุณสนมนาถยื่นผ้าเช็ดหน้าให้บุตรสาว ยิ้มชื่นมื่นนั้นบ่งบอกว่าลูกสาวรับรู้และเห็นดีเห็นงามด้วย“ในเมื่อจะมาเอ่ยขอลูกสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็เห็นดีเห็นงามด้วย ประเพณีของไทยเราสุภาพบุรุษไม่ควรทำอะไรลับๆล่อๆ กินในที่ลับแล้วมาไขในที่แจ้งสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก้่ได้ว่าอะไร ก้เห็นดีเห็นงามด้วยน้าให้บุตรสาวมื่อเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มและลูกสาวสลับกัน ถ้าทำถูกต้องตามประเพณีทางนี้ก็ยอมรับ.. เพราะลูกสาวของฉัน เห็นว่าเขาคงจะเข้าข้างเธอ และเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างมาก เอาล่ะ เมื่อเข้าใจกันแล้ว ฉันก็ยอม