Share

บทที่8

last update Last Updated: 2025-03-05 19:52:02

เมื่อพ่อและแม่ของเธอไม่เหลือทางเลือกอะไรไว้ให้ ก็เลยทำให้ตอนนี้เธอต้องมานั่งร่วมใช้อากาศกับผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีป้ายแดงของเธอ ความเงียบภายในรถมันทำให้คนที่ไม่เต็มใจที่จะมารู้สึกอึดอัดซึ่งก็ไม่ต่างจากคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยที่ปรายสายตามามองหญิงสาวที่นั่งนิ่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถ

"นี่คุณ"ปิ่นมุกเพียงแค่ปรายสายตาไปมองคนที่นั่งอยู่ด้านข้างเพียงเท่านั้นก่อนที่จะหันไปมองทางนอกหน้าต่าง ขุนเขาถึงกับหัวเสียไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าเมินเฉยต่อผู้ชายที่แสนจะหล่อเหลาอย่างเขามาก่อน ผู้หญิงคนนี้เป็นคนแรก

"นี่คุณ"

".."

"นี่ปิ่นมุก ผมเรียกคุณตั้งนานคุณไม่ได้ยินเลยหรือไงห้ะ"

"นี่คุณเรียกฉันเหรอคะ"ใครจะไปรู้ล่ะเห็นเรียก ๆ คุณ ๆ

"ใช่สิ ในรถมีแค่คุณกับผมถ้าไม่ให้ผมเรียกคุณแล้วจะให้ผมเรียกใคร"ปิ่นมุกถึงกับลอบถอนหายใจ คิดผิดคิดถูกกันแน่ที่ยอมตกลงไปจดทะเบียนสมรสกับคนสติไม่สมประกอบแบบนี้

"คุณเรียกฉันมีธุระอะไรอย่างนั้นเหรอคะ"ดีหน่อยที่ตอนนี้รถจอดติดไฟแดง เธอถึงกล้าที่จะชวนเขาคุย ขุนเขาหันมามองหน้าคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายก่อนที่จะเอ่ยปากถามในสิ่งที่เขาสงสัย

"เท่าไหร่"

"อะไรคะ เท่าไหร่?"

"เงินที่คุณพ่อจ้างให้คุณมาแต่งงานกับผมน่ะเท่าไหร่ ผมจะให้คุณสิบเท่าถ้าคุณยอมเซ็นใบหย่าให้ผมภายในตอนนี้"ใบสำหรับการหย่าที่เขาแอบไปขอเจ้าหน้าที่มาถูกวางลงบนที่ว่างระหว่างกลางเบาะคนขับและคนนั่งข้าง ปิ่นมุกเพียงแค่มองกระดาษใบนั้นก่อนที่จะหันไปสนใจอย่างอื่น

"ทำไมไม่เซ็นล่ะ อยากได้นักไม่ใช่เหรอห้ะเงินน่ะ พ่อผมให้คุณมาเท่าไหร่ผมให้คุณมากกว่าสิบเท่า"

"คุณรู้ตัวไหมคุณขุนเขา สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับเด็กที่เวลาไม่ไม่ชอบใจอะไรก็จะใช้เงินเพื่อเป็นเครื่องมือในการสั่ง คนอายุที่ใกล้จะเข้าเลขสามเขาไม่ทำนิสัยแบบนี้กันเหรอกนะคะ"

"นี่คุณด่าว่าผมเป็นเด็กไม่รู้จักโตอย่างนั้นเหรอห้ะ ปิ่นมุก"

"โอ๊ย"มือหยาบกร้านที่แข็งแรงและร้อนระอุดังไฟบีบเข้าที่ต้นเรียวเล็กของปิ่นมุกพร้อมกับออกแรงกระชากจนร่างบางขยับเข้ามาใกล้ แววตาคมกริมจ้องใบหน้าของปิ่นมุกด้วยความโกรธ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าด่าเขาได้ถึงขนาดนี้

"นี่คุณขุนเขา ปล่อยฉันนะฉันเจ็บ"

"เจ็บได้สิดี จะได้รู้ว่าคุณไม่สมควรปากดีมาด่าคนอย่างผม "แรงบีบตรงต้นแขนเพิ่มขึ้นไปอีก ความเจ็บมันลุกลามไปทั่วทั้งแขน

"ปล่อยฉันนะ ฉันเจ็บ"ความเจ็บที่เพิ่มขึ้นทำเอาเธอถึงกับน้ำตาคลอแทบจะไหลอยู่รอมร่อ แต่ก็ต้องพยามกลั้นมันเอาไว้เพื่อจะได้ไม่ต้องแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น โดยเฉพาะผู้ชายที่ชื่อ ขุนเขา

"ไง ไม่ปากดีแล้วเหรอ ปากดีอีกสิ ด่าผมให้เก่งเหมือนเมื่อกี้อีกสิ"ปิ่นมุกพยายามใช้มือแกะฝ่ามือร้อนที่จับแขนของเธอออก แต่มันก็ชั่งเป็นไปได้อย่างลำบากเพราะเมื่อเธอยิ่งแกะขุนเขาก็ยิ่งบีบแขนของเธอแรงขึ้น แววตาเจ้าเลห์มองไปตามร่างเล็ก นัยน์ตาดำขลับทอประกายร้อนแรงเมื่อเห็นขาเรียวโผล่พ้นออกมาจากชุดเดรชตัวสวยที่เธอสวมอยู่

"นี่คุณมองอะไรห้ะ หยุดมองเดี๋ยวนี้เลยนะ"มืออีกข้างที่ยังเหลือพยายามดึงกระโปรงให้ลงมาปิดขา แต่ทว่าขุนเขากลับคว้ามือข้างนั้นของเธอขึ้นไปจับ

"ของสวย ๆ งาม ๆก็ต้องโชว์ให้คนอื่นดูหน่อยสิ แต่จะว่าไปคุณก็สวยเหมือนกันนะ แถมหุ่นของคุณก็หน้าขย้ำอีก"

"ต่ำ"คนที่โดนด่าถึงกับโกรธหน้าแดง แรงบีบที่แขนเพิ่มขึ้นไปอีก แต่ครั้งนี้กลับไม่มีเสียงร้องออกมาจากปากของเธอ

"นี่คุณด่าผมอีกแล้วนะปิ่นมุก"

"ใช่ฉันด่าคุณ ก็ในเมื่อคุณพูดจาไม่ดีกับฉันก่อนหนิ แล้วก็กรุณาปล่อยแขนฉันได้แล้วค่ะ ฉันเจ็บ"แววตาคมกริบมองแขนของหญิงสาวตรงที่เขาจับ ตอนนี้มันเกิดรอยแดงเป็นรูปฝ่ามือของเขา ด้วยความสงสารเขาจึงเลือกที่จะปล่อยมือออกจากแขนของเธอ ทันทีที่เป็นอิสระปิ่นมุกรีบขยับตัวนั่งให้ชิดติดกับประตู แขนทั้งสองข้างยังคงเจ็บและคงยังแดงเป็นรอยนิ้วมือ คาดว่าพรุ่งนี้แขนทั้งสองข้างมันคงจะบวมช้ำและเปลี่ยนสี

ส่วนคนที่พึ่งจะได้สติว่าเผลอทำอะไรลงไปก็ได้แต่นึกโทษตัวเองอยู่ในใจที่เผลอทำอะไรรุนแรงกับเธอแบบนั้น ขุนเขาปรายสายตาไปมองคนที่นั่งเงียบอยู่ด้านข้างบ่อยครั้งที่เขาเห็นเธอยกมือขึ้นมาลูบแขนตัวเองตรงที่เป็นรอยแดง ความเงียบภายในตัวรถก่อตัวเกิดขึ้นระหว่างคนทั้งคู่อีกครั้ง คนที่รู้ว่าตัวเองผิดได้แต่เอ่ยคำขอโทษอยู่ในใจ ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามเพื่อที่จะทำลายความเงียบที่ก่อตัวอยู่ภายในรถ

"ขอถามอะไรหน่อยสิ ทำไมคุณถึงกล้าที่จะยอมแต่งงานกับคนที่ตัวเองไม่ได้รักทั้ง ๆ ที่จริงคุณมีสิทธิ์ที่จะปฎิเสธ"

"...."

"ทั้งที่คุณเลือกที่จะปฎิเสธได้แต่คุณก็ไม่ทำ มันเป็นเพราะอะไร"เกิดความเงียบภายในรถขึ้นทันที ปิ่นมุกหันมามองหน้าของขุนเขาพร้อมกับระบายลมหายใจออกมาเพื่อที่จะต้องการผ่อนคลาย และเพื่อที่จะช่วยระบายความเจ็บลงได้บ้าง

"เพราะฉันอยากให้คุณพ่อกับคุณแม่มีความสุขยังไงล่ะคะ"ขุนเขาหันไปมองหน้าเธอโดยทันที คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหาด้วยความสงสัย เขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูดออกมา

"ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ว่าฉันจะต้องการอะไรหรืออยากได้สิ่งไหน ต้องการที่จะทำอะไรคุณพ่อกับคุณแม่ท่านไม่เคยขัด ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ทำให้ฉันมีความสุขท่านทั้งสองก็จะมอบให้ แล้วทำไมวันที่ฉันมีความสุข มีพร้อมทุกอย่างแล้วฉันจะทำให้ท่านทั้งสองมีความสุขบ้างไม่ได้ล่ะคะ"

"คุณทำให้พ่อแม่ของคุณมีความสุข แต่คุณกำลังจะทำให้ผมจมอยู่กับความทุขก์"ใช่เขาคนเดียวเสียเมื่อไหร่ที่กำลังมีความทุกข์ เธอเองในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับเขาแต่เพื่อความสุขของครอบครัวเธอจึงเลือกที่จะทำตามความสุขในสิ่งที่ท่านทั้งสองต้องการ

"บอกแล้วยังไงคะ ว่าเราสองคนจะใช้ชีวิตแบบภรรยาและสามีกันเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น แล้วหลังจากนั้นเราสองคนก็จะหย่ากัน"

"เหอะ คุณพูดง่ายหนิ คุณไม่ได้มีคนรักเหมือนผมคุณจะไปเข้าใจอะไร"เขาไม่รู้จะบอกแฟนสาวเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงดี และถ้าเขาบอกไปม่านรุ้งต้องเสียใจแน่ ๆ แต่ถ้าเขาไม่บอกถ้าเธอมารู้ทีหลังเธอก็คงจะเสียใจไม่ต่างกัน ดีไม่ดีเธออาจจะเกลียดเขาไปเลยก็ได้

"คุณก็ไปอธิบายให้เธอเข้าใจสิคะ ว่าสัญญาระหว่าฉันกับคุณมันแค่เพียงปีเดียวเท่านั้น หลังจากที่ครบหนึ่งปีฉันกับคุณก็จะเป็นอิสระต่อกันโดยทันที"

"ถ้ารุ้งเข้าใจอย่างที่คุณบอกมันก็ดีสิ"เธอไม่คิดที่จะฟังในสิ่งที่ขุนเขาพูดอีกต่อไป ใบหน้ารูปงามหันไปมองยังนอกหน้าต่าง รถทุกคันเริ่มเลื่อนตัวออกเมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว ระหว่างทางขุนเขาแอบเห็นเธอยกมือขึ้นมาลูบต้นแขนอยู่บ่อยครั้ง แต่สิ่งที่หน้าตกใจไปกว่านั้นรอยแดงจากตอนแรกมันเริ่มจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงอมแดง

"คุณเจ็บไหม"ปิ่นมุกส่ายหน้าเป็นคำตอบ ทั้งที่จริงแล้วมันไม่ใช่เป็นนั้นเธอหันหน้ากลับมามองนอกหน้าต่างรถก่อนที่เปลือกตาบางค่อย ๆ ปิดลง ขุนเขาได้แต่นึกโทษตัวเอง และขอโทษเธออยู่ในใจ เขามันปากหนักเกินกว่าที่จะพูดคำว่าขอโทษออกไป

ขับรถไปได้ไม่เท่าไหร่คนที่รู้สึกผิดรีบตบไฟเลี้ยวจอดรถเข้าข้างทางก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าไปในร้านขายยา เวลาผ่านไปได้ไม่นานขุนเขาก็กลับออกมาพร้อมกับถุงยาสีขาวที่มีโลโก้ของร้านขายยากลับเข้ามาในรถก่อนที่จะขับมุ่งหน้าไปยังห้องเสื้อของหญิงสาว

เอี๊ยด

เมื่อรถขับเข้ามาจอดตรงร้านซึ่งเป็นร้านห้องเสื้อผ้าของเธอก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ปิ่นมุกลืมตาขึ้น

"ขอบคุณนะคะที่มาส่ง"เธอไม่ได้สนใจคนที่กำลังนั่งมองมในตอนนี้ มือเรียวเล็กปลดเข็มขัดออกพร้อมกับหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาถือ เตรียมพร้อมจะเปิดประตูรถ แต่มือของเธอก็ถูกคว้าเอาไว้โดยผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านข้าง ถุงยาสีขาวขนาดกลางถูกจับยัดใส่มือของเธอ ด้านในมียาทาและยาแก้อักเสบที่เขาลงจากรถไปซื้อให้เธอเมื่อสักครู่

"ขอบคุณนะคะ สำหรับยา และก็ขอบคุณอีกครั้งที่มาส่ง"ขุนเขาได้แต่พยักหน้ารับ สายตามองตามแผ่นหลังที่ลงจากรถแล้วเดินเข้าร้านไปด้วยใจที่รู้สึกผิด

'ผมขอโทษที่ทำรุนแรงกับคุณ'

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมียที่ไม่ต้องการ   บทที่63

    "พี่จัดการตามที่เห็นสมควรได้เลยครับ" "แกไม่ติดใจอะไรกับผู้หญิงคนนั้นแล้วแน่นะ"ปลายสายถามอย่างต้องการความแน่ใจ "หึ ไม่แล้วล่ะครับ ผู้หญิงแบบนั้นผมคงไม่เหลือแม้แต่ความเป็นเพื่อนร่วมโลกแล้วล่ะครับ"นัยน์ตาอ่อนแสงมองแผ่นหลังขาวนวลของผู้เป็นภรรยา ริมฝีปากหยักหนาขยับพูดกับคนในที่อยู่ในสายด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไร้ความรู้สึก "แกใจเด็ดมากเลยรู้ไหมขุนเขา ฉันล่ะยอมรับในตัวของแกจริง ๆ " "อะไรที่ทำให้พี่คิดแบบนั้นครับ"ดวงตาคมกริบยังคงทอดมองไปยังร่างอุ้ยอ้ายของภรรยาที่กำลังอุ้มท้องลูกชายวัยเจ็ดเดือนของเขาอยู่ ใบหน้าสวยของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มหวานเมื่อได้ออกมาเที่ยวพักผ่อนหลังจากนอนอุดอู้อยู่แต่บ้านเพราะด้วยอาการแพ้ท้องมาหลายเดือน สองเท้าเรียวเล็กถูกสวมด้วยรองเท้าแตะสีเดียวเข้ากับชุดคลุมสีขาวเดินก้าวไปตามหาดทายสีขาว ด้านหน้าของเธอนั้นคือท้องทะเลสีครามกับบรรยากาศในช่วงเย็น และอีกไม่กี่นาทีดวงตะวันก็คงจะลาลับขอบฟ้าก่อนจะเปลี่ยนท้องฟ้าให้เป็นแสงจันทราแทน "ไม่รู้สิ แต่ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นก็คงยังมีความรู้สึกดี ๆ หลงเหลือให้กับแฟนเก่าอยู่บ้าง" "ความรู้สึกพวกนั้นมันตายจากผมไปหมดแล้วครับ ตั้งแต่เรื่องที่เ

  • เมียที่ไม่ต้องการ   บทที่62

    ความเงียบยังคงปกคลุมภายในห้องรับแขกเมื่อทั้งสองครอบครัวต่างนั่งมองหน้าสบตากันด้วยความหนักใจ เห็นแต่จะมีเพียงขุนเขาคนเดียวที่นั่งกระสับกระส่ายอย่างคนร้อนรุ่มอยู่ในใจ "ทุกคนเงียบกันทำไมครับ ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่มีความคิดที่จะหย่ากับปิ่นเลยสักนิด ทุกคนก็รู้ ปิ่นเองก็รู้ดีว่าผมรักปิ่น"แววตาของเขาฉายแววแน่วแน่ยามเมื่อลอบมองเธอ "ขุนเขา ใจเย็น ๆ แล้วฟังหนูปิ่นพูดก่อนนะลูก" "เมียกำลังจะขอหย่าจะให้ผมใจเย็นได้ยังไงครับแม่"คุณหญิงกิ่งกาญจน์ถึงกับมีสีหน้าหนักใจ ไม่รู้วันนี้ลูกชายของตัวเองไปกินอะไรผิดสำแดงมา ถึงค้านหัวชนฝาไม่ฟังความอะไรเลย "ไอ้ขุน พ่อว่าแกใจเย็น ๆ ตามที่แม่แกบอกก่อนนะ แกเงียบปากให้หนูปิ่นได้พูดอะไรบ้าง แกเอาแต่แหกปากโวยวายแล้วหนูปิ่นจะมีโอกาสพูดได้อย่างไร" "พ่อไม่เป็นผมพ่อไม่เข้าใจหรอกว่าการที่จะต้องถูกเมียทิ้งมันเจ็บปวดขนาดไหน" "เห้อ อาการหนักแล้วลูกกู"เจ้าสัวรังสิมันต์ถึงกับถอนหายใจออกมาพร้อมกับส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับการคิดเองเออเองของเจ้าลูกชาย "ขุนเขาลูก นั่งลงก่อนนะคะเด็กดี"คำพูดเปรียบดั่งสายน้ำเย็นเฉียบของคุณหญิงเพียงเพ็ญทำเอาคนเจ้าอารมณ์เริ่มสงบนิ่งลง เธอรู้ดีว่าการ

  • เมียที่ไม่ต้องการ   บทที่61

    คำบอกรักในคืนวันนั้นก่อเกิดเป็นความรักอันแสนเปี่ยมล้นในวันนี้ ช่วงเวลาชั่งพัดผ่านไปเร็วเสียจริง ๆ แต่ก็นั่นเถอะความรักของทั้งเขาและเธอก็ยังคงมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง ความกังวลหายไปจากใจเมื่อความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายถูกเปิดเผยกันออกมาอย่างหมดเปลือก ความรู้สึกของทั้งคู่ที่คิดตรงต่อกันนั้นมันทำให้ทั้งสองเปิดใจศึกษาเรียนรู้การใช้ชีวิตคู่มากยิ่งขึ้น ดวงตากลมโตมองแท่งสีขาวที่อยู่ในมือ ไออุ่นไร้รูปร่างที่ไม่อาจจะบรรยายได้เอ่อล้นขึ้นมาเติมหัวใจทีละเล็ก ขีดสีแดงสองขีดนั้นมันทำให้คนที่กำลังจะได้เป็นแม่ถึงกับน้ำตาเอ่อคลอ ฝ่ามือเรียวเล็กอันสั่นเทาค่อย ๆ ยกขึ้นมาวางนาบบนหน้าท้องแบบราบซึ่งตอนนี้กำลังมีเจ้าก้อนความรักของเธออยู่ในนั้น หลังจากความเลวร้ายผ่านพ้นไป ชีวิตเธอก็เปรียบเหมือนเจ้าหญิงในนิยายที่มีเจ้าชายคอยดูแลเป็นอย่างดี ใครเล่าจะคิดว่าผู้ชายไม่เอาไหนอย่างขุนเขา จะเข้าไปบริหารงานในบริษัทจนทำให้ตอนนี้ตนเองเป็นที่ยอมรับของคณะกรรมการและผู้บริหารคนอื่น ๆ เมื่อเขาสามารถทำให้มูลค่าของกำไรไตรมาสของปีนี้เพิ่มขึ้นได้อีกเท่าตัว นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง สร้างความภูมิใจให้กับเจ้าสัวรังสิมันต์แ

  • เมียที่ไม่ต้องการ   บทที่60

    "นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ห้ะ แล้วนี่พี่มาเมืองไทยเมื่อไหร่ทำไมไม่บอกผม"ฝ่ามือหนายกขึ้นมาเท้าสะเอว น้ำเสียงติดเข้มเอ่ยถามลูกพี่ลูกน้องของตัวเองที่ยืนเก๊กหล่อจิบเหล้าอย่างสบายใจ "ก็แค่มาพักผ่อน อีกสองสามวันเดี๋ยวก็กลับ" "อย่ามาโกหก คนที่มีงานกองเป็นภูเขาจนท่วมหัวอย่างพี่น่ะหรือจะมีเวลามาพักผ่อน"ดวงตาคมกริบมองพี่ชายด้วยสายตาจับผิด คนอย่างเซบาสเตียนเจ้าพ่อมาเฟียนะหรือมีเวลาว่างมาพักผ่อนถึงเมืองไทย ใครจะไปเชื่อลง "ตั้งแต่มีเมียรู้สึกว่าแกฉลาดมากขึ้นเลยนะขุนเขา" "นี่พี่คงไม่กำลังหลอกด่าผมอยู่ใช่หรือเปล่า" "ก็แล้วแต่แกจะคิด"เซบาสเตียนยกไหล่ทั้งสองข้าง ฝ่าเท้าใหญ่ก้าวมายังโซฟาสีขาวตรงกลางห้อง ร่างกำยำกระแทกตัวนั่งลงจิบเหล้าในแก้วอย่างสบายใจ ต่างจากน้องชายอีกคนที่ยืนมองเขาหน้าตูม "พี่ใช่ไหมที่เป็นคนส่งข้อความบ้า ๆ นั่นไปหาผม" "ใช่ ฉันเป็นคนส่งไปเอง"คำตอบของเซบาสเตียนทำเอาอารมณ์ของขุนเขาเดือดพล่าน ขายาว ๆ ทั้งสองข้างก้าวมาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าด้วยสายตาโกรธเคืองอย่างถึงขีดสุด มือที่ถือปืนถึงกับเกิดอาการสั่นจนทำเขาต้องควบคุมมันเอาไว้ "แล้วตอนนี้เมียผมอยู่ที่ไหน พี่ได้ทำอะไรเธอหรือเปล่า" "แ

  • เมียที่ไม่ต้องการ   บทที่59

    "พวกโง่ แค่เมียกูคนเดียวยังไม่มีปัญญาหาเจอ"ใบหน้าสง่างามของขุนเขาเต็มไปด้วยความดุร้าย แววตาเกรี้ยวกราดกวาดมองลูกน้องของตัวเองที่เรียงแถวยืนก้มหน้าไม่กล้าสบสายตา ภายในห้องรับแขกชั่งร้อนระอุดังกับมีเปลวเพลิงสุมอยู่ เหล่าลูกน้องแทบจะก้มหน้าจนติดกับพื้น เมื่อเจ้านายตัวเองมองพวกเขาราวกับจะฉีกออกเป็นชิ้น ๆ "พวกผมขอโทษครับนาย แต่แถวนั้นมืดมากเราไม่สามารถเห็นรถต้องสงสัยหรือว่าสิ่งที่น่าเป็นพิรุธได้เลยครับ" "ดึกแบบนั้นมันจะมีรถกี่คันวิ่งออกจากโรงแรมล่ะไอ้พวกโง่ ไปเลยนะพวกมึงไปตามหาตัวของเมียกูให้เจอ ถ้าพวกมึงไม่เจอก็อย่ากลับมาให้กูเห็นหน้าอีก"สีหน้าดุร้ายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อของเราลูกน้อง ทำเอาการ์ดนับสิบต้องรีบวิ่งออกไปจากห้องรับแขก "ไอ้พวกโง่"ร่างหนาใหญ่กระแทกตัวลงนั่งลงบนโซฟาอย่างกลัดกลุ้มใจ เพราะไม่รู้ว่าเมียของเขาหายตัวไปไหน เดินกลับมาที่รถก็เห็นข้าวของมากมายหล่นกระจายอยู่ข้างรถ ไร้วี่แววของคนเป็นภรรยา ในใจมันร้อนรุ่มกลัวว่าอีกคนจะเป็นอะไรหรือจะได้รับอันตราย จนต้องเกณฑ์ลูกน้องออกตามหา แต่มันก็ช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน เพราะมุมจอดรถของเขากล้องวงจรปิดดันมาเสีย แถมลานจอดรถตอนนั้นยังไร้

  • เมียที่ไม่ต้องการ   บทที่58

    ย้อนกลับไป ยามรุ่งเช้าของวันเดียวกัน ณ โกดังท่าเรือส่งสินค้า ของ ตระกูล สุริยะศิวา ซ่า น้ำสีขุนถังใหญ่ถูกสาดลงไปบนร่างเย้ายวนของคนหลับใหลอยู่บนพื้น ความเย็นบวกกับกลิ่นเหม็นทำให้คนที่นอนหลับอยู่สะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ กรี๊ด "อ๊าย นี่มันอะไรกับเนี่ย ไอ้พวกบ้าพวกแกเล่นอะไรกัน"เสียงกรีดร้องโวยวายตามเมื่อได้ลืมตาตื่น ร่างเปียกปอนลุกขึ้นนั่งด้วยความยากลำบากเพราะว่ามือทั้งสองข้างถูกจับไขว้หลังมัดติดกันเอาไว้ กรี๊ด "นี่มันอะไรกัน พวกแกมันฉันไว้ทำไม แก้มัดฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ"น้ำเสียงเกรี้ยวกราดตวาดใส่ชายชุดดำร่างใหญ่ ซึ่งเธอจำได้ว่าคนพวกนี้เป็นลูกน้องของเซบาสเตียน "เซบาสเตียน คุณอยู่ที่ไหน ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ"นี่เขาต้องการเล่นบ้าอะไรกันทั้งที่ตกลงกันไว้แล้วว่าหลังจากได้ตัวของปิ่นมุกก็จะปล่อยเธอไป "จะเสียงดังไปทำไมกัน ไม่เจ็บคอหรือไง" "นี่คุณกำลังเล่นตลกอะไรกับฉันอยู่ แก้มัดฉันเดี๋ยวนี้เลยนะเซบาสเตียน"ดวงตาดุร้ายจ้องมองไปยังชายร่างกำยำที่เดินออกมาจากมุมมืด แววตาดุร้ายแฝงไปด้วยความอำมหิตโหดเหี้ยมมันทำให้คนแหกปากร้องในตอนแรกสะดุ้งด้วยความหวาดกลัว แววตานี้มันเหมือนกับแววตาที่เขาให้มอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status