Mag-log in“ขอบคุณนะ เธอนี่เป็นเมียที่ดีจังนะ”
“ฉันก็ทำตามหน้าที่นั่นแหละค่ะ” หลังจากนั้นจารุวีย์ก็นั่งทำงานต่อ ช่วงใกล้จะเย็นๆ วุฒิชัยก็มาบริษัทภูริทัตอีกครั้ง “อ้าวคุณวุฒิชัยลืมอะไรรึป่าวครับ” ภูริทัตเอ่ยปากถามด้วยความเป็นมิตร “พอดีผมผ่านมาทางนี้ครับผมเลยอยากจะชวนคุณภูไปดื่มเพื่อมิตรภาพของเราครับ” หน้าตาของเขาเจ้าเล่ห์มองดูภูริทัตสลับกับจารุวีย์ “คือพอดีผมไม่สะดวกเลยครับ ภรรยาผมมาด้วยผมทิ้งเธอไปดื่มไม่ได้” ภูริทัตรีบปฏิเสธ แต่วุฒิชัยก็เอาเรื่องงานมาอ้างจนทำให้จารุวีย์บอกให้ภูริทัตไปเถอะเดี๋ยวเธอจะกลับเองไม่ต้องห่วงยังไงงานก็สำคัญ “ไปเถอะค่ะ เรื่องงานฉันไม่ว่าหรอกคุยเรื่องงานเสร็จก็รีบกลับบ้านนะคะอย่าเถลไถลไปที่อื่น” จารุวีย์ยิ้มและบอกภูริทัต “ถ้าฉันเสร็จเรื่องงานฉันจะรีบกลับนะ” หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไปที่ผับของวุฒิชัย “ทำไมมาที่นี่ละครับ” ภูริทัตถามด้วยความไม่สบายใจ “ผมอยากคุยชิวๆ ครับอยากดื่มเพื่อมิตรภาพของเราด้วย” วุฒิชัยยังคงพูดหลอกภูริทัตอยู่พอสั่งเครื่องดื่มมาทั้งสองก็ดื่มและวุฒิชัยก็แกล้งพูดเรื่องงานพอสั่งรอบที่สองเขาก็แอบบอกเด็กเสริฟให้ใส่ยานอนหลับในแก้วของภูริทัต ภูริทัตก็ดื่มโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าในแก้วของเขามียานอนหลับ ดื่มจนหมดแก้วสัก2นาทีเขาก็กำลังจะขอตัวกลับแต่แล้วยานอนหลับก็ออกฤทธิ์ทำให้เขาล้้มลงบนโฟซาหลับนิ่งอยู่ตรงนั้น วุฒิชัยก็โทรหาข้าวฟ่างเพื่อที่จะไปส่งภูริทัตที่คอนโดของเธอ “ฮัลโหล! ว่าไง” “คอนโดคุณอยู่ที่ไหน ส่งโลเคชั่นมาผมจะเอาคนของคุณไปส่ง” ข้าวฟ่างได้ยินแบบนั้นถึงกับตกตะลึงว่าเขาไปทำยังไงถึงได้ตัวภูริทัตมาได้ “นี่คุณไปทำยังไงถึงได้ภูมาได้” “ผมอยากได้อะไรไม่มีว่าจะไม่ได้ เรื่องนั้นคุณไม่ต้องรู้หรอกไปจัดการให้เรียบร้อยละกัน” หลังจากที่ข้าวฟ่างส่งโลเคชั่นมาวุฒิชัยก็ให้ลูกน้องเอาภูริทัตขึ้นรถไป พอถึงคอนโดข้าวฟ่างก็เอาภูริทัตไปนอนบนที่นอนหลังจากนั้นเขาก็กลับ ข้าวฟ่างก็จัดการถอดเสื้อผ้าภูริทัตออก และถอดเสื้อผ้าตัวเองออกแกล้งนอนกอดกับภูริทัตและถ่ายรูปไว้หลายรูป ที่บ้านภูริทัต 23:20น. ทำไมยังไม่กลับอีกนะนี่มันก็ดึกแล้ว จารุวีย์บ่นอยู่คนเดียวก็โทรตามไปหลายรอบแต่ก็ไม่มีคนรับเธอคิดเป็นห่วงเดินวนไปวนมา สักครู่ก็มีไลน์จากภูริทัตส่งมา จารุวีย์เปิดดูถึงกับเข่าทรุดหน้าเธอชาไปหมดน้ำตาค้อยๆ ไหลเพราะไลน์ที่ส่งมา เป็นรูปของข้าวฟ่างและภูริทัตนอนอยู่บนเตียงด้วยกันโดยไม่ได้ใส่เสื้้อผ้าเลย และก็มีข้อความส่งมา “เธอคงรอภูกลับบ้านอยู่ใช่มั้ยวันนี้ภูคงไม่ได้กลับหรอกเพราะเขาเพลียมากและเขาก็คิดถึงฉันมาก” จารุวีย์น้ำตาไหลอาบแก้มเพราะเขาคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย พราะข้าวฟ่างและภูริทัตเคยเป็นแฟนกันและเขาก็รักกันมาก เธอเสียใจมากนึกว่าภูริทัตจะกลับใจมารักเธอสุดท้ายเขาก็ลืมข้าวฟ่างไม่ได้ เธอร้องไห้ฟูมฟาย และตั้งสติ และส่งข้อความกลับไปว่ารูปแค่รูปเดียวไม่สะเทือนฉันหรอก ทำให้ข้าวฟ่างส่งรูปมารัวๆ ทั้งหอมแก้มทั้งกอดแต่เป็นรูปเก่าๆ บวกกับที่นอนด้วยกันไม่ใส่เสื้อผ้าล่าสุดทำให้จารุวีย์เชื่อ เธอจึงส่งข้อความกลับไป “แบบนี้คุณก็เป็นชู้กับสามีฉันหน่ะสิ” “ใช่แล้วจะทำไมเป็นชู้แต่เขาก็รักและมาหาฉันมามีอะไรกับฉัน เขาคงเบื่อเธอแล้วเพราะสุดท้ายแล้วเขาก็ยังรักฉัน” “ขอบคุณสำหรับหลักฐานเจอกันที่ศาล” ข้าวฟ่างเห็นประโยคสุดท้ายก็สตั้นเธอจะทำอะไรกันนะหวังว่าฉันจะไม่พลาดนะ ด้านจารุวีย์ก็นอนร้องไห้ทั้งคืนคิดถึงเรื่องราวที่ภูริทัตดีกับเธอสุดท้ายเขาก็ทำเธอเสียใจเหมือนเดิมเธอพยายามข่มตาให้หลับแต่ก็ไปหลับตอนตี5 06:02 น. ภูริทัตตื่นมาก็ตกใจสุดขีดเพราะสิ่งที่เขาเห็นคือข้าวฟ่างนอนกอดเขาโดยที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าทั้งคู่ ..นี่ฉันทำผิดต่อจารุวีย์ดหรอนี่แต่ฉันไม่รู้ตัวเลยนะมันจะเป็นไปได้ไง “ตื่นแล้วเหรอคะภู” ข้าวฟ่างตื่นมาและพูดกับภูริทัต “นี่ผมมาอยู่ที่นี่ได้ไง” เขาพูดด้วยอาการตกใจและจำอะไรไม่ได้เลยและเขาก็รีบลุกใส่เสื้อผ้าจะรีบกลับบ้าน “เดี๋ยวก่อนสิคะภูทำไมรีบไปแบบไม่มีเยื่อใยเลยทั้งที่เมื่อคืนคุณบอกคิดถึงข้าวหนักหนา” “ผมพูดแบบนั่นเหรอผมจำไม่ได้เลย” เขาพูดด้วยอาการมึนงงไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนต่อให้เขาเมาขนาดไหนเขาก็ต้องจำได้เหมือนตอนจารุวีย์แต่นี่เขาจำไม่ได้เลย “คุณพูดอย่างนี้ได้ยังไงทั้งที่เมื่อคืนคุณทำแบบนั้นกับข้าว” “ผมพูดจริงๆ นะข้าวถ้าผมทำจริงผมต้องจำได้ แต่นี่ผมจำไม่ได้เลย” เขาพูดไปตามความจริงที่เขารู้สึกแต่ข้าวฟ่างก็ยังคงพูดโต้แย้ง “นี่คุณหมายความว่ายังไง คุณจะบอกข้าวว่าคุณไม่ได้ทำข้าวงั้นเหรอ? แล้วคุณจะมาอยู่ที่นี่ได้ไง?” “คือผมไม่รู้จะพูดยังไงแต่ผมจำไม่ได้จริงๆ จำได้แค่ว่าผมนั่งดื่มกับคนๆ หนึ่งแล้วก็จำอะไรไม่ได้เลย” “ก็เมื่อคืนคุณเมามากแล้วก็มาหาข้าวมาบอกว่าคิดถึงข้าวมากไงคุณจำไม่ได้เหรอ?” เธอตีหน้าซื่อเล่าความเท็จให้เขาฟัง “ผมขอโทษละกันผมจำไม่ได้จริงๆ ผมขอตัวก่อนนะครับ” ภูริทัตพูดจบก็เดินออกไปเลยโดยไม่สนข้าวฟ่างข้างหลังเพราะเขารู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้ทำอะไรข้าวฟ่างแต่ก็สับสนนิดนึง้พราะจำอะไรไม่ได้ เขารีบออกไปเพื่อที่จะไปหาจารุวีย์เพราะเมื่อคืนเขาไม่ได้กลับบ้าน ข้าวฟ่างร้องตะโกนตามหลัง " นี่คุณจะทิ้งข้าวไปแบบนี้ไม่ได้นะ คุณต้องรับผิดชอบข้าวก่อน บ้านภุริทัต.. ภูริทัตไปถึงบ้านก็เห็นข้าวฟ่างเก็บเสื้อผ้ากำลังจะออกจากบ้านของเขาไป “จารุวีย์เธอจะไปไหน ฉันขอโทษที่เมื่อคืนไม่ได้กลับบ้าน” เขาคิดว่าที่จารุวีย์จะไปจากที่นี่เพราะโกรธที่เขาไม่กลับบ้านเขาไม่่รู้เลยว่าข้าวฟ่างส่งรูปของเขามาให้จารุวีย์ “คุณมีอะไรจะบอกฉันไหม? ” จารุวีย์ถามหนึ่งคำถามด้วยอาการนิ่งแต่เจ็บปวดอยู่ในใจ “คือเมื่อคืนฉันเมามากขับรถกลับไม่ไหว ฉันเลยต้องไปนอนที่คอนโดคุณวุฒิชัย” เขาโกหกเพราะไม่รู้จะบอกยังไง “นี่คุณยังกล้าโกหกฉันอีกเหรอ? คุณเห็นฉันโง่มากนัก้หรอ" “ทำไมละในเมื่อฉันพูดจริงๆ” ใจเขาเริ่มสั่นเพราะกลัวว่าจารุวีย์จะรู้ว่าเขาไปนอนที่คอนโดของข้าวฟ่างมา “ฉันรู้ความจริงหมดแล้วนะ สุดท้ายคุณก็ยังลืมเขาไม่ได้ที่ผ่านมาคุณหลอกฉันมาตลอดฉันก็หลงเชื่อว่าคุณจะหันมารักฉัน แต่คุณก็ยังรักเขาฉันลืมไปว่าคุณรักเขามากแค่ไหนฉันมันโง่เองแหละ” เธอพูดพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา “ฉันไม่ได้รักข้าวแล้ว เธอเอาอะไรมาพูด” “ก็ผู้หญิงของคุณเขาส่งข้อความมาบอกฉันหมดแล้ว ฉันว่าเราจบกันแค่นี้แหละคนไม่รักกันอยู่ด้วยไปยังไงก็ไม่มีความสุขคุณจะได้กลับไปหาเขา” เธอพูดจบก็โชว์ข้อวความไลน์ที่ข้าวฟ่างส่งมาเมื่อคืนให้ภูริทัตดู >>>>>ติดตามตอนต่อไปหลังจากนั้นวุฒิชัยก็เดินเข้าไปในครัว เขากะจะโชว์ฝีมือการทำอาหารให้เมียเขาดูแต่เมื่อหันกลับไปเมียของเขากับนั่งเล่นมือถืออยู่ที่โซฟาไม่เดินตามเขามาเขาเดินกลับไปที่ห้องรับแขกไปยืนอยู่ตรงหน้าผู้เป็นเมีย“ทำไมคุณไม่ตามผมมา” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ข้าวฟ่างถึงกับสะดุ้งและเงยหน้ามอง“ไปไหน” เธอถามเพียงสั้นๆ พร้อมหน้าตาที่งงงวย“ไปครัวไงผมจะโชว์ฝีมือ” เธอได้แต่ถอนหายใจแค่ทำอาหารทำไมต้องให้เธอไปดูด้วย“ทำไมฉันต้องไปด้วยคุณทำมาให้กินเฉยๆ ไม่ได้เหรอ”“ก็ได้นั่งรออยู่นี่แหละ” สิ้นสุดเสียงนั้นหนุ่มหล่อผู้เป็นสามีก็เข้าครัวไปทำอาหารและสักพักก็ถือออกมาให้เมียของเขาทาน ข้าวฟ่างที่นั่งเล่นมือถืออยู่เมื่อได้ยินเสียงวางอาหารเธอก็รีบวางมือถือเพื่อจะชิม“ฉันรอชิมก่อนนะ” สิ้นสุดเสียงเธอก็ใช้ซ้อมตักโดยไม่รอคำตอบจากสามี เมื่ออาหารเข้าปากคำแรกเธอก็ได้รับรสชาติที่แสนอร่อยและไม่คิดว่าเขาจะทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้“เป็นไงบ้าง อร่อยมั้ยครับคุณหนูข้าวฟ่าง” ใบหน้าแห่งความคาดหวังให้เมียชมก็จ้องมองไปที่หน้าของเธอ“ก็ไม่เท่าไหร่นะ ก็พอทานได้ให้สอนคุณทำอาหาร” ต่อให้อาหารจะอร่อยแค่ไหนเธอก็ไม่กล้าบอกเพราะกลัวเสียฟอร์ม“งั้นเห
“คุณไปเอารูปผมมาจากไหน” ใบหน้าที่แทบจะเก็บรอยยิ้มของเขาไว้ไม่อยู่ทั้งพูดทั้งมองหน้าเธอ“ในเฟชบุ๊คและไลนฺ์คุณไง เอามาไม่ได้เหรอ”“ก็ได้แต่แค่แปลกใจเฉยๆ ไหนคุณบอกไม่อยากลบรูปเขาไงกลัวไม่มีโอกาสได้ถ่ายอีก” คำพูดของเขาดูนอยๆ แต่ความจริงก็หายโกรธตั้งแต่เห็นหน้าเธอแล้วแหละแค่แกล้งถามไป“พอมาคิดดูๆ แล้วเขาก็แค่อดีตไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับฉันแล้ว ปัจจุบันนี้ต่างหากที่สำคัญ” เธอพูดและส่งรอยยิ้มหวานให้สามีเธอทำให้หัวใจของเขาพองโตยิ้มออกมาด้วยความเขิน“จริงเหรอผมสำคัญกับคุณขนาดนั้นเลยเหรอ”“เปล่าค่ะ ฉันหมายถึงฉันเองต่างหากที่ยืนอยู่ในปัจจุบันควรที่จะเห็นความสำคัญของตัวเองไม่ควรไปยึดติด” คำพูดของเธอกับทำให้เขาโกรธอีกครั้ง เขาเดินหนีไปนั่งที่โซฟาในห้องทำงานของเขาทำให้ข้าวฟ่างเข้าใจในทันทีว่าเขาน้อยใจอีกแล้ว เธอรีบเดินตามเขาไป“คุณเป็นอะไรคะ” หญิงสาวนั่งลงข้างๆ สามีและยื่นหน้าไปถามเขาทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วว่าเขากำลังน้อยใจเธอ“เปล่าครับ”“ฉันล้อเล่น คุณก็สำคัญเหมือนกันนะไม่งั้นฉันไม่มาง้อถึงที่นี่หรอก” ได้ยินแบบนั้นมือทั้งสองข้างของเขาก็กอดไปที่เอวเธออัตโนมัติ และโน้มตัวไปหอมแก้มเธอ“จริงเหรอ”“คุณ
ข้าวฟ่างเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขานั่งนิ่งเงียบและมองหน้าเธอแปลกๆ เธอจึงเอ่ยปากถามเขาด้วยความสงสัย“คุณเป็นอะไรรึเปล่าทำไมมองหน้าฉันแปลกๆ”“เปล่า” สายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของเขาก็แสดงออกมาทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าคำปฏิเสธของเขานั้นต้องมีอะไรแน่ๆ“แน่ใจเหรอคะ” เธอถามทวนเขาอีกรอบเพราะรู้ดีว่าเขาไม่สามารถเก็บความอึดอัดไว้คนเดียวได้เดี๋ยวก็ต้องบอกความต้องการของเขามา ถึงแม้ว่าเธอกับเขาจะอยู่ด้วยกันได้ไม่นานแต่เธอมั่นใจว่าเธอรู้จักเขาดีพอ“ผมถามจริงๆ เถอะคุณยังรักคุณภูริทัตอยู่รึป่าว”“คุณถามทำไม”“ผมแค่อยากรู้” บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลกลัวว่าเมียจะยังรักแฟนเก่าอยู่สายตาที่ต้องการคำตอบมองเธอไม่กระพริบสายตา“ฉันไม่รู้แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรแล้ว ไม่แน่ใจว่าไม่รักแล้วรึเปล่า” เธอยังคงสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอาจจะไม่รักแล้วแต่แค่ยังเสียดายเวลาที่ผ่านมาเพราะคบกันมาตั้งหลายปีจะให้ลืมสนิทมันคงเป็นไปได้ยากอาจจะแค่นึกถึงแค่นั้น“คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่รักเขาแล้ว ผมยังเห็นรูปเขาอยู่เต็มโทรศัพท์ของคุณอยู่เลย" เขาแสดงอาการของคนที่ขี้น้อยใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดข้าวฟ่างเธอไม่คิิดว่าผู้ช
“สวัสดีน้ำหวาน” เธอทักทายกลับโดยไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่เธอเหล่ตาไปมองที่ข้างๆ ที่ข้าวฟ่างนั่งเห็นวุฒิชัยก็สะดุดตาในความหล่อเหลาของเขา“ภูไปไหนแล้วละทำไมได้มากับผู้ชายอื่น”“เลิกกันแล้ว”“อุ้ย!ทำไมได้เลิกเหรอเห็นรักกันดีอยู่นะรักกันมาตั้งหลายปีเธอปล่อยภูหลุดมือไปได้ยังไงกันอุส่าแย่งไปจากฉัน”“พูดให้มันดีๆ นะฉันไม่เคยแย่งภูมาจากเธอแต่ภูไม่เคยเป็นของเธอเลยต่างหาก” เธอเงยหน้าขึ้นขิงใส่น้ำหวานอย่างเบื่อหน่ายเพราะน้ำหวานตามราวีเธอไม่เลิกจนไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีนึกว่าเธอจะเลิกแล้วแต่ก็ยังเหมือนเดิม“อย่าทำมาพูดหน่อยเลย ตอนนี้เป็นไงได้ข่าวว่าภูเขามีลูกมีเมียใหม่แล้วหนิ” เธอพูดเยาะเย้ยใส่ทำให้ข้าวฟ่างโกรธเพราะเหมือนมากรีดแผลใจเธอแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บมากเหมือนเมื่อก่อนอาจเป็นเพราะเธอได้อยู่ใช้ชีวิตกับวุฒิชัยผู้ชายไม่เอาไหนที่เจ้าชู้ไปวันๆ แต่วันนี้เหมือนราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน“มีใหม่แล้วยังไง ฉันก็มีใหม่แล้วเหมือนกันทั้งหล่อรวยเธอละมีปัญญาหาได้สักคนรึยังมาเที่ยวยุ่งเรื่องคนอื่นนี่ ออกไปจากโต๊ะนี่ได้แล้วไปเกะกะลูกตา” เธอเอนหัวไปที่ไหล่ของวุฒิชัยและกอดแขนเขาเพื่อทำใส่น้ำหวานเธอโกรธและ
ข้าวฟ่างยังคงยืนนิ่งกับคำถามของวุฒิชัยอยู่“ขึ้นรถเถอะ”“ตอบผมมาก่อนสิ” สายตาแห่งความคาดหวังมองไปที่หน้าของเธออย่างจริงจังแต่เธอกลับหลบสายตาเขา“ขึ้นรถไปก่อนแล้วฉันจะตอบ” พูดจบขาทั้งสองข้างของเธอก็ก้าวขึ้นรถและยังคงนั่งนิ่งเงียบคิดเรื่องที่เขาถามเธอความสับสนมากมายอยู่ในใจของเธอ“ว่าไงครับ” เขายังคงต้องการคำตอบจากเธออยู่จี้ถามให้เธอตอบ“ฉันไม่รู้เหมือนกัน คุณมันเจ้าชู้ฉันไม่รู้จะเอาคุณอยู่รึเปล่าฉันไม่กล้าเปิดใจเพราะกลัวจะเป็นแบบภูอีก” เธอพูดพร้อมก้มหน้าลง“แต่ผมไม่ใช่เขา ถึงเวลาที่ผมหยุดผมก็หยุดได้ที่ผมทำตัวเจ้าชู้เพราะผมยังไม่เจอคนที่ใช่ แต่ตอนนี้ผมอยากใช้ชีวิตครอบครัวที่มีความสุขกับคุณ” เขาพูดด้วยหน้าตาที่จริงจัง“ฉันยังไม่กล้าเปิดใจกับคุณหรอกพูดจริงๆ นะฉันเข็ดกับความรักจริงๆ” สองสายตาของเธอมองไปที่เขาด้วยความรู้สึกที่ดีแต่เธอกลัวจริงๆ เพราะเขาเจ้าชู้จริงๆ ในขณะที่เธอท้องไปหาเขายังนัวเนียกับผู้หญิงอื่นไปทั่วเลย“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่ไอ้หมอนั้น!” เขาพูดเสียงดังด้วยความเคืองที่เธอเอาแต่นึกถึงภูริทัต“ก็คุณเจ้าชู้ไง ผู้หญิงมาหาคุณไม่ซ้ำหน้าจะให้ฉันเชื่อใจคุณได้ยังไง” เธอพูดออกไปแบบนั้
05 : 20 น.เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าร่างกายเธอเหมือนมีอะไรมากอดอยู่เมื่อก้มลงมามองดูก็เห็นเป็นแขนของวุฒิชัยที่กำลังกอดเธออยู่เธอรีบลุงขึ้นและแขนของเขากับกอดเธอลงไปนอนอีก“นี่คุณมานอนกอดฉันได้ยังไงกันใครอนุญาตให้กอดไม่ทราบ” เธอหันหน้าไปถามเขาด้วยเสียงดุใส่“ไม่มีอะ ผมอยากกอดก็กอดเลยคุณมีปัญหาเหรอนี่เมียผม” เขาพูดหน้าตาเฉยใส่เธอ“แค่เมียในนามเท่านั้นแหละ ฉันเป็นแค่แม่ของลูกคุณเท่านั้น”“ไม่อ่ะ คุณเป็นเมียผมคืนนั้นยังร่วมรักกันอยู่เลย” สิ้นสุดเสียงนั้นก็มีฝามือเล็กๆ ตีลงที่หน้าอกของเขาโอ้ยยยย!! เสียงที่ทำเขาสะดุ้งอาจไม่เจ็บสักเท่าไหร่แต่ก็แสบไม่น้อย“นี่คุณอย่ามาพูดทะลึงนะ คุณมันชอบฉวยโอกาส” เธอโกรธที่เขาพูดเรื่องนี่หรือเขินก็ไม่แน่ใจ“ใจร้ายจังแค่พูดความจริงก็รับไม่ได้” เขากอดเธอให้แน่นกว่าเดิม ยิ่งเธอทำเหมือนหวงตัวแบบนี้ยิ่งชอบเขาไม่ชอบผู้หญิงง่ายๆ แต่เขาก็เอาเหมือนเดิมแต่กับข้าวฟ่างเขารู้สึกว่ามันน่าค้นหาดีเล่นตัวแบบนี้“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” เธอพูดเสียงแข็งให้เขาเลิกกอดเธอ“ไม่นะ ขอนอนกอดก่อน”เปี๊ยะ!! เสียงตีไปที่หน้าอกเขาอีกรอบ ทำให้เขาคายกอดออกอย่างรวดเร็ว“เอะอะก็ตีเป็นลูกเลี้ยงเ







