Mag-log in“ก็ผู้หญิงของคุณเขาส่งข้อความมาบอกฉันหมดแล้ว ฉันว่าเราจบกันแค่นี้แหละคนไม่รักกันอยู่ด้วยไปยังไงก็ไม่มีความสุขคุณจะได้กลับไปหาเขา” เธอพูดจบก็โชว์ข้อความไลน์ที่ข้าวฟ่างส่งมาเมื่อคืนให้ภูริทัตดู
ภูริทัตอึ้งกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า..นี่ข้าวฟ่างทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ “เธอฟังฉันก่อนนะ ฉันไม่รู้เรื่องเลยฉันจำได้ว่าฉันดื่มกับวุฒิชัยและกำลังจะกลับบ้านหลังจากนั้นฉันก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย” เขาคุกเข่าพูดกับจารุวีย์ “คุณจะบอกว่าคุณไม่รู้เรื่องงั้นเหรอ? คุณจะให้ฉันเอาอะไรมาเชื่อในเมื่อพวกคุณรักกันมากฉันต่างหากละที่เป็นส่วนเกินเดินเข้ามาในชีวิตคุณเอง” จารุวีย์พูดและพยายามหน้านิ่งกลั้นน้ำไว้จนตาแดงน้ำตาเต็มเบ้าตาของเธอ “ฉันพูดจริงๆ นะจารุวีย์ ฉันเคยรักข้าวฟ่างมากก็จริงแต่ตอนนี้ฉันมีแค่เธอกับลูก” ภูริทัตน้ำตาค้างที่ตาเพราะเขาไม่อยากเสียจารุวีย์และลูกไป “ฉันขอเวลาสักพักหนึ่งนะเราแยกกันอยู่เถอะ” จารุวีย์พูดจบก็เดินหนีออกไป แต่ภูริทัตดึงมือไว้ “เธอเชื่อใจฉันเถอะฉันรักแค่เธอคนเดียวจริงๆ” “คุณปล่อยฉันเถอะ ฉันขอเวลาอยู่คนเดียวก่อนละกันจนกว่าคุณจะพิสูจน์ได้ว่าคุณไม่ได้ทำมันจริงๆ” เธอพูดออกไปแบบนั้นทั้งที่ในใจของเธอไม่มีความเชื่อใจอะไรภูริทัตเลยเพราะแต่ก่อนเขารักกันมาก มันไม่แปลกเลยที่ทั้งสองจะแอบไปหากัน “แล้วฉันจะพิสูจน์ให้เธอเห็น” เขาพูดออกไปโดยที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะเขาเองก็ยังไม่เชื่อใจตัวเองเหมือนเพราะเวลาเมาแล้วไม่ค่อยมีสติ แต่เมื่อคืนเขาเองก็ไม่ได้ดื่มหนักเลย ดาราวรรณแม่ของภูริทัตเห็นว่าจารุวีย์หอบกระเป๋าเสื้อผ้าจึงรีบไปถามภูริทัต “หนูจาร์ไปไหนตาภู เกิดอะไรขึ้น” “คือเมื่อคืนผมไปนอนที่ห้องของข้าวฟ่างมาครับแล้วข้าวฟ่างส่งรูปมาให้้จารุวีย์ดูเธอเลยโกรธและขอแยกกันอยู่กับผม” เขาก้มหน้าเล่าให้แม่เขาฟัง “ตามจริง! ทำไมแกทำแบบนี้” “ผมไม่มั่นใจเลยว่าผมทำจริงมั้ย เพราะผมจำอะไรไม่ได้เลยผมต้องทำยังไงครับแม่” “แกต้องแน่ใจก่อนว่าแกไม่ได้ทำแล้วตามไปง้อหนูจาร์นะ เขามีลูกของแกอยู่ในท้องด้วยอย่าทำให้เขาเครียดเยอะ” ดาราวรรณหน้าเครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้น “ผมจะพยายามง้อนะครับไม่รู้จะได้รึป่าว" หลังจากที่พูดจบภริทัตก็นึกได้ว่าต้องไปถามวุฒิชัยว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมเขาถึงไปอยู่ที่คอนโดข้าวฟ่างได้ เขารีบติดต่อไปหาภัทรกรหรือวัชพ่อของวุฒิชัยเพื่อขอคอนแทร็คของวุฒิชัย เมื่อได้คอนแทร็คเขาก็รีบไปหาวุฒิชัยเลย “อ้าวคุณภูมาหาผมถึงที่นี่มีอะไรรึป่าวครับ?” วุฒิชัยพูดและยิ้มหน้าเจ้าเลห์ “เมื่อวานผมมาดื่มกับคุณที่นี่หลังจากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้เลย ตื่นมาอีกทีผมก็ไปอยู่ที่ห้องของแฟนเก่าคุณพอจะรู้มั้ยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับผม ผมจำไม่ได้เลย” “ก็คุณภูเมามากและก็ขับรถออกไปไงครับ ผมห้ามก็ไม่ฟัง” เขายังคงโกหกเพราะเป็นแผนของเขา “งั้นเหรอครับ งั้นผมขอตัวก่อนละกัน” ได้ยินแทบนั้นเขายิ่งท้อใจเพราะคิดว่าตัวเองคงเมาจนไม่ได้สติและไปหาข้าวฟ่างเองจริงๆ เขารู้สึกหมดหนทาง ข้าวฟ่างก็โทรมาหาเขาแต่เขาก็ไม่รับขับรถกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน ต่อให้เขาจะรู้สึกแย่แค่ไหนเขาก็ไม่เคยทิ้งงานของเขา ด้านจารุวีย์ไปถึงบ้านก็หาทนายเตรียมฟ้องชู้กล้าหยามเธอขนาดนี้เธอก็พร้อมจะตอบโต้ เมื่อติดต่อทนายแล้วก็ทำเรื่องฟ้องชู้และโทรไปหาข้าวฟ่างและพูดคำเดียวว่าเตรียมตัวไปเจอกันที่ศาลนะหลังจากนั้นเธอก็วางสายเลย ด้านข้าวฟ่างก็งงและไม่เข้าใจในสิ่งที่จารุวีย์พูด แต่ก็กังวลอยู่ แม่ของจารุวีย์เป็นห่วงความรู้สึกของเธอมากที่ต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ เธอโทรไปหาดาราวรรณและต้องการคำตอบว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงเพราะถ้าเรื่องไม่แรงมากลูกของเธอไม่มีทางหอบเสื้อผ้ากลับมา เมื่อเธอรู้เรื่องทั้งหมดนั้นก็เลยถามจารุวีย์ว่าไปพักกายพัหใจที่ต่่างจังหวัดมั้ยแม่มีญาติอยู่ที่นั่นมันอาจจะเป็นที่ชนบทหน่อยแต่มันก็สบายใจดีนะ “ถ้ามันทุกข์มากลองหลีกหนีจากเมืองไปพักที่บ้านนอกมั้ยลูกอาจจะไม่สะดวกสบายแต่แม่มั่นใจว่ามันทำให้หนูสบายใจได้นะ” อมลภัทรมีญาติอยู่ที่นั่นแต่ไม่เคยพาลูกสาวไปเลยแต่ครั้งนี้เห็นว่าลูกสาวมีแต่เรื่องที่มันทุกข์ใจเลยอยากให้หนีภูริิทัตไปที่นั่น “ยังดีกว่าค่ะแม่ หนูมีเรื่องที่ต้องทำเขาจะมาทำร้ายจิตใจหนูฟรีๆ แบบนี้ไม่ได้” จารุวีย์พูดด้วยอาการนิ่งๆ “ลูกจะทำอะไร” อมลภัทรก็อดกังวลไม่ได้เพราะลูกสาวของเธอไม่ค่อยจะยอมคนสักเท่าไหร่กลัวไปทำอะไรไม่ดี “ความเจ็บปวดของหนูมันมีราคานะคะ เดี๋ยวคุณแม่ก็รู้ค่ะไม่ต้องห่วงนะคะหนูไม่ทำอะไรที่มันไม่ดีแน่ๆ ค่ะ” จารุวีย์พูดจบก็เข้าไปในห้องนอนทำงานที่ค้างไว้ทั้งหมด ใจเธอเองก็คิดถึงภูริทัตแต่เธอก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะคิดว่าเขาไม่รัักเธอคิดว่าเขารักข้าวฟ่างที่มาอยู่มาทำดีกับเธอก็เพราะลูก แต่เธอเองก็ต้องเข้มแข็งเพื่อลูกของเธอ ภูริทัตก็โทรเข้ามาหาเธอ แต่เธอเองก็ไม่ได้รับสาย เธอรีบเบี่ยงเบนตัวเองให้ไปสนใจเรื่องอื่นจะได้ไม่จมปลักกับเรื่องนี้ เธอเลยเลิกทำงานเพื่อไปทำอาหารพวกขนมหวานทำให้เธอผ่อนคลายขึ้นเยอะแต่ความทุกข์ของเธอก็ไม่หายแต่แค่เบาลง ภูริทัตทนกับความคิดถึงไม่ไหวเก็บเสื้อผ้าไปหาเธอที่บ้านเพื่อที่จะไปอยู่กับเธอและแม่ของเขาก็ไม่ขัดข้อง เขาไปถึงบ้านของจารุวีย์แม่บ้านก็มาเปิดประตูให้เขาเข้าไป “คุณมาทำไมแล้วเอาเสื้อผ้ามาทำไม” จารุวีย์ถามเขาด้วยเสียงแข็ง “ฉันก็จะตามมาอยู่กับเธอไง ฉันคิดถึงเธอนะฉันอยู่ไม่มีความสุขเลยไม่มีเธอ” เขาทำหน้าน่าสงสารแต่จารุวีย์ก็กลัวว่าเขาจะทำเธอเสียใจอีกเลยไล่กลัับไป “คุณกลับไปเถอะ ฉันไม่ให้คุณมาอยู่ที่นี่” “ทำไมละเรายังเป็นสามีภรรยากันอยู่นะ ทำไมถึงจะอยู่ด้วยกันไม่ได้” “เป็นแค่ในนามเท่านั้นแหละ สุดท้ายคุณก็ไม่ได้รักฉันกลับไป!” พูดจบจารุวีย์ก็เดินหนีไป “เดี๋ยวก่อนสิจาร์เธอให้โอกาสฉันหน่อยสิฉันสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการแบบนี้เกิดขึ้นอีก ครั้งนี้ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ ในรูปเธอก็เห็นว่าฉันหลับอยู่” หน้าตาอันหล่อเหลาของเขาอ้อนวอนให้เมียของเขาเห็นใจ จารุวีย์ก็นึกได้ว่าเขาหลับอยู่แต่ก็ยังไม่เชื่อใจสักเท่าไหร่ “คุณอาจจะเพลียก็ได้อย่ามาแก้ตัวเลยกลับไปเถอะถ้าไม่กลับไปฉันจะหนีไปไหนไกลเลย” เธอยื่นคำขาดทำให้ภูริทัตต้องถอดใจกลับไปเพราะกลัวเธอจะหนีไปจริงๆ บ้านของข้าวฟ่าง… “คุณข้าวฟ่างคะ มีจดหมายจากศาลถึงคุณค่ะ” แม่บ้านของเธอเอาจดหมายมาให้เธอ ข้าวฟ่างงงมากว่าจดหมายจากศาลอะไร เธอตกใจมากเพราะเธอเองก็ไม่เคยไปทำอะไรผิด >>>>ติดตามตอนต่อไปหลังจากนั้นวุฒิชัยก็เดินเข้าไปในครัว เขากะจะโชว์ฝีมือการทำอาหารให้เมียเขาดูแต่เมื่อหันกลับไปเมียของเขากับนั่งเล่นมือถืออยู่ที่โซฟาไม่เดินตามเขามาเขาเดินกลับไปที่ห้องรับแขกไปยืนอยู่ตรงหน้าผู้เป็นเมีย“ทำไมคุณไม่ตามผมมา” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ข้าวฟ่างถึงกับสะดุ้งและเงยหน้ามอง“ไปไหน” เธอถามเพียงสั้นๆ พร้อมหน้าตาที่งงงวย“ไปครัวไงผมจะโชว์ฝีมือ” เธอได้แต่ถอนหายใจแค่ทำอาหารทำไมต้องให้เธอไปดูด้วย“ทำไมฉันต้องไปด้วยคุณทำมาให้กินเฉยๆ ไม่ได้เหรอ”“ก็ได้นั่งรออยู่นี่แหละ” สิ้นสุดเสียงนั้นหนุ่มหล่อผู้เป็นสามีก็เข้าครัวไปทำอาหารและสักพักก็ถือออกมาให้เมียของเขาทาน ข้าวฟ่างที่นั่งเล่นมือถืออยู่เมื่อได้ยินเสียงวางอาหารเธอก็รีบวางมือถือเพื่อจะชิม“ฉันรอชิมก่อนนะ” สิ้นสุดเสียงเธอก็ใช้ซ้อมตักโดยไม่รอคำตอบจากสามี เมื่ออาหารเข้าปากคำแรกเธอก็ได้รับรสชาติที่แสนอร่อยและไม่คิดว่าเขาจะทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้“เป็นไงบ้าง อร่อยมั้ยครับคุณหนูข้าวฟ่าง” ใบหน้าแห่งความคาดหวังให้เมียชมก็จ้องมองไปที่หน้าของเธอ“ก็ไม่เท่าไหร่นะ ก็พอทานได้ให้สอนคุณทำอาหาร” ต่อให้อาหารจะอร่อยแค่ไหนเธอก็ไม่กล้าบอกเพราะกลัวเสียฟอร์ม“งั้นเห
“คุณไปเอารูปผมมาจากไหน” ใบหน้าที่แทบจะเก็บรอยยิ้มของเขาไว้ไม่อยู่ทั้งพูดทั้งมองหน้าเธอ“ในเฟชบุ๊คและไลนฺ์คุณไง เอามาไม่ได้เหรอ”“ก็ได้แต่แค่แปลกใจเฉยๆ ไหนคุณบอกไม่อยากลบรูปเขาไงกลัวไม่มีโอกาสได้ถ่ายอีก” คำพูดของเขาดูนอยๆ แต่ความจริงก็หายโกรธตั้งแต่เห็นหน้าเธอแล้วแหละแค่แกล้งถามไป“พอมาคิดดูๆ แล้วเขาก็แค่อดีตไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับฉันแล้ว ปัจจุบันนี้ต่างหากที่สำคัญ” เธอพูดและส่งรอยยิ้มหวานให้สามีเธอทำให้หัวใจของเขาพองโตยิ้มออกมาด้วยความเขิน“จริงเหรอผมสำคัญกับคุณขนาดนั้นเลยเหรอ”“เปล่าค่ะ ฉันหมายถึงฉันเองต่างหากที่ยืนอยู่ในปัจจุบันควรที่จะเห็นความสำคัญของตัวเองไม่ควรไปยึดติด” คำพูดของเธอกับทำให้เขาโกรธอีกครั้ง เขาเดินหนีไปนั่งที่โซฟาในห้องทำงานของเขาทำให้ข้าวฟ่างเข้าใจในทันทีว่าเขาน้อยใจอีกแล้ว เธอรีบเดินตามเขาไป“คุณเป็นอะไรคะ” หญิงสาวนั่งลงข้างๆ สามีและยื่นหน้าไปถามเขาทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วว่าเขากำลังน้อยใจเธอ“เปล่าครับ”“ฉันล้อเล่น คุณก็สำคัญเหมือนกันนะไม่งั้นฉันไม่มาง้อถึงที่นี่หรอก” ได้ยินแบบนั้นมือทั้งสองข้างของเขาก็กอดไปที่เอวเธออัตโนมัติ และโน้มตัวไปหอมแก้มเธอ“จริงเหรอ”“คุณ
ข้าวฟ่างเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขานั่งนิ่งเงียบและมองหน้าเธอแปลกๆ เธอจึงเอ่ยปากถามเขาด้วยความสงสัย“คุณเป็นอะไรรึเปล่าทำไมมองหน้าฉันแปลกๆ”“เปล่า” สายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของเขาก็แสดงออกมาทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าคำปฏิเสธของเขานั้นต้องมีอะไรแน่ๆ“แน่ใจเหรอคะ” เธอถามทวนเขาอีกรอบเพราะรู้ดีว่าเขาไม่สามารถเก็บความอึดอัดไว้คนเดียวได้เดี๋ยวก็ต้องบอกความต้องการของเขามา ถึงแม้ว่าเธอกับเขาจะอยู่ด้วยกันได้ไม่นานแต่เธอมั่นใจว่าเธอรู้จักเขาดีพอ“ผมถามจริงๆ เถอะคุณยังรักคุณภูริทัตอยู่รึป่าว”“คุณถามทำไม”“ผมแค่อยากรู้” บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลกลัวว่าเมียจะยังรักแฟนเก่าอยู่สายตาที่ต้องการคำตอบมองเธอไม่กระพริบสายตา“ฉันไม่รู้แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรแล้ว ไม่แน่ใจว่าไม่รักแล้วรึเปล่า” เธอยังคงสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอาจจะไม่รักแล้วแต่แค่ยังเสียดายเวลาที่ผ่านมาเพราะคบกันมาตั้งหลายปีจะให้ลืมสนิทมันคงเป็นไปได้ยากอาจจะแค่นึกถึงแค่นั้น“คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่รักเขาแล้ว ผมยังเห็นรูปเขาอยู่เต็มโทรศัพท์ของคุณอยู่เลย" เขาแสดงอาการของคนที่ขี้น้อยใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดข้าวฟ่างเธอไม่คิิดว่าผู้ช
“สวัสดีน้ำหวาน” เธอทักทายกลับโดยไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่เธอเหล่ตาไปมองที่ข้างๆ ที่ข้าวฟ่างนั่งเห็นวุฒิชัยก็สะดุดตาในความหล่อเหลาของเขา“ภูไปไหนแล้วละทำไมได้มากับผู้ชายอื่น”“เลิกกันแล้ว”“อุ้ย!ทำไมได้เลิกเหรอเห็นรักกันดีอยู่นะรักกันมาตั้งหลายปีเธอปล่อยภูหลุดมือไปได้ยังไงกันอุส่าแย่งไปจากฉัน”“พูดให้มันดีๆ นะฉันไม่เคยแย่งภูมาจากเธอแต่ภูไม่เคยเป็นของเธอเลยต่างหาก” เธอเงยหน้าขึ้นขิงใส่น้ำหวานอย่างเบื่อหน่ายเพราะน้ำหวานตามราวีเธอไม่เลิกจนไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีนึกว่าเธอจะเลิกแล้วแต่ก็ยังเหมือนเดิม“อย่าทำมาพูดหน่อยเลย ตอนนี้เป็นไงได้ข่าวว่าภูเขามีลูกมีเมียใหม่แล้วหนิ” เธอพูดเยาะเย้ยใส่ทำให้ข้าวฟ่างโกรธเพราะเหมือนมากรีดแผลใจเธอแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บมากเหมือนเมื่อก่อนอาจเป็นเพราะเธอได้อยู่ใช้ชีวิตกับวุฒิชัยผู้ชายไม่เอาไหนที่เจ้าชู้ไปวันๆ แต่วันนี้เหมือนราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน“มีใหม่แล้วยังไง ฉันก็มีใหม่แล้วเหมือนกันทั้งหล่อรวยเธอละมีปัญญาหาได้สักคนรึยังมาเที่ยวยุ่งเรื่องคนอื่นนี่ ออกไปจากโต๊ะนี่ได้แล้วไปเกะกะลูกตา” เธอเอนหัวไปที่ไหล่ของวุฒิชัยและกอดแขนเขาเพื่อทำใส่น้ำหวานเธอโกรธและ
ข้าวฟ่างยังคงยืนนิ่งกับคำถามของวุฒิชัยอยู่“ขึ้นรถเถอะ”“ตอบผมมาก่อนสิ” สายตาแห่งความคาดหวังมองไปที่หน้าของเธออย่างจริงจังแต่เธอกลับหลบสายตาเขา“ขึ้นรถไปก่อนแล้วฉันจะตอบ” พูดจบขาทั้งสองข้างของเธอก็ก้าวขึ้นรถและยังคงนั่งนิ่งเงียบคิดเรื่องที่เขาถามเธอความสับสนมากมายอยู่ในใจของเธอ“ว่าไงครับ” เขายังคงต้องการคำตอบจากเธออยู่จี้ถามให้เธอตอบ“ฉันไม่รู้เหมือนกัน คุณมันเจ้าชู้ฉันไม่รู้จะเอาคุณอยู่รึเปล่าฉันไม่กล้าเปิดใจเพราะกลัวจะเป็นแบบภูอีก” เธอพูดพร้อมก้มหน้าลง“แต่ผมไม่ใช่เขา ถึงเวลาที่ผมหยุดผมก็หยุดได้ที่ผมทำตัวเจ้าชู้เพราะผมยังไม่เจอคนที่ใช่ แต่ตอนนี้ผมอยากใช้ชีวิตครอบครัวที่มีความสุขกับคุณ” เขาพูดด้วยหน้าตาที่จริงจัง“ฉันยังไม่กล้าเปิดใจกับคุณหรอกพูดจริงๆ นะฉันเข็ดกับความรักจริงๆ” สองสายตาของเธอมองไปที่เขาด้วยความรู้สึกที่ดีแต่เธอกลัวจริงๆ เพราะเขาเจ้าชู้จริงๆ ในขณะที่เธอท้องไปหาเขายังนัวเนียกับผู้หญิงอื่นไปทั่วเลย“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่ไอ้หมอนั้น!” เขาพูดเสียงดังด้วยความเคืองที่เธอเอาแต่นึกถึงภูริทัต“ก็คุณเจ้าชู้ไง ผู้หญิงมาหาคุณไม่ซ้ำหน้าจะให้ฉันเชื่อใจคุณได้ยังไง” เธอพูดออกไปแบบนั้
05 : 20 น.เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าร่างกายเธอเหมือนมีอะไรมากอดอยู่เมื่อก้มลงมามองดูก็เห็นเป็นแขนของวุฒิชัยที่กำลังกอดเธออยู่เธอรีบลุงขึ้นและแขนของเขากับกอดเธอลงไปนอนอีก“นี่คุณมานอนกอดฉันได้ยังไงกันใครอนุญาตให้กอดไม่ทราบ” เธอหันหน้าไปถามเขาด้วยเสียงดุใส่“ไม่มีอะ ผมอยากกอดก็กอดเลยคุณมีปัญหาเหรอนี่เมียผม” เขาพูดหน้าตาเฉยใส่เธอ“แค่เมียในนามเท่านั้นแหละ ฉันเป็นแค่แม่ของลูกคุณเท่านั้น”“ไม่อ่ะ คุณเป็นเมียผมคืนนั้นยังร่วมรักกันอยู่เลย” สิ้นสุดเสียงนั้นก็มีฝามือเล็กๆ ตีลงที่หน้าอกของเขาโอ้ยยยย!! เสียงที่ทำเขาสะดุ้งอาจไม่เจ็บสักเท่าไหร่แต่ก็แสบไม่น้อย“นี่คุณอย่ามาพูดทะลึงนะ คุณมันชอบฉวยโอกาส” เธอโกรธที่เขาพูดเรื่องนี่หรือเขินก็ไม่แน่ใจ“ใจร้ายจังแค่พูดความจริงก็รับไม่ได้” เขากอดเธอให้แน่นกว่าเดิม ยิ่งเธอทำเหมือนหวงตัวแบบนี้ยิ่งชอบเขาไม่ชอบผู้หญิงง่ายๆ แต่เขาก็เอาเหมือนเดิมแต่กับข้าวฟ่างเขารู้สึกว่ามันน่าค้นหาดีเล่นตัวแบบนี้“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” เธอพูดเสียงแข็งให้เขาเลิกกอดเธอ“ไม่นะ ขอนอนกอดก่อน”เปี๊ยะ!! เสียงตีไปที่หน้าอกเขาอีกรอบ ทำให้เขาคายกอดออกอย่างรวดเร็ว“เอะอะก็ตีเป็นลูกเลี้ยงเ