LOGINเอริญายังคงนั่งรออยู่ในห้องเธอพยายามรวบรวมสติเพื่อต่อสู้กับอารมณ์ของตนเองในตอนนี้ แต่ก็ยากเหลือเกินเพราะฤทธิ์ยาทำลายความยับยั้งชั่งใจไปหมดสิ้น ทุกประสาทสัมผัสกำลังเรียกร้องการปลดปล่อย
เมื่อประตูห้องเปิดออกหญิงสาวก็รีบลุกขึ้นเพราะคิดว่าคนที่เข้ามาคือเสี่ยสมานตามที่เธอตั้งใจมาพบ
รามิลค่อนข้างแปลกใจเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วเจอผู้หญิงใส่ชุดนักศึกษานั่งอยู่กลางห้อง เขาคิดว่านี่อาจจะเป็นบริการพิเศษจากเอเย่นเพื่อให้เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นที่ได้นอนกับนักศึกษา
สายตาดุจเหยี่ยวมองตั้งแต่หัวจรดเท้า ผู้หญิงคนนี้ไม่ตรงสเปกเขาเท่าไหร่เพราะเธอดูตัวเล็กมากเมื่อเทียบกับเขาแต่ตอนนี้ชายหนุ่มไม่มีทางเลือกเพราะร่างกายของเขามันกำลังจะทนไม่ไหว
“สวัสดีค่ะหนูชื่อเอริ”
“อือ”
“หนูมาตามคำแนะนำของพี่กันต์ค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยเสียงสั่นร่างกายกำลังต่อสู้กับความร้อนที่มันเพิ่มมากขึ้น
“ไม่ต้องแนะนำตัวหรอกฉันไม่อยากรู้ว่าผู้หญิงที่นอนกับฉันชื่ออะไร”
“คุณพูดอะไรคะ” เธอย้อนถามและมองหน้าเขาอย่างสงสัยผู้ชายคนนี้ดูแล้วไม่น่าจะเป็นคนไทย เอริญาคิดว่าตนเองน่าจะเข้าห้องผิดเธอจึงรีบลุกขึ้นจากโซฟาแต่ชายหนุ่มก็รั้งให้เธอล้มมาบนตักของเขา
“ปล่อยนะ”
“จะรีบไปไหน”
“หนูเข้าห้องผิดค่ะ หนูขอโทษ”
“อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลยน่าตอนนี้ฉันไม่อยากเสียเวลาคุยแล้ว”
ตอนนี้รามิลยังพอมีสติเพราะแต่ถ้าเวลาผ่านไปอีกสักนิดเขาก็ไม่รู้จะคุมตัวเองได้อีกต่อไปไหม ในขณะที่หญิงสาวนั้นถูกฤทธิ์ยาเข้าครอบงำอย่างเต็มที่ สติเธอกะลงลดน้อยลงและสัญชาตญาณกำลังอยู่เหนือทุกอย่าง ชายหนุ่มพูดแล้วกระชากเธอเข้ามากอดจากนั้นพรมจูบไปทั่วใบหน้า
“อื้อ.....อย่านะ”
“อยากได้เพิ่มเท่าไหร่เดี๋ยวฉันจ่ายเพิ่มให้”
“ไม่นะ หนูจะมาคุยเรื่องร้านเบเกอรี่”
“เอาไว้ค่อยคุยที่หลังดีกว่าน่า ถ้าเธอทำให้ฉันถูกใจเธอจะได้ทุกอย่างจากฉัน” รามิลเริ่มจะไม่พอใจที่เธอต่อต้านเพราะมันเสียเวลาที่เขาจะมีความสุข
“คุณ.....หนู....” หญิงสาวมองหน้าเขาแต่มันก็มองไม่ชัดเท่าไหร่เมื่อร่างกายของเธอร้อนขึ้นจนถึงขีดสุด
“เป็นอะไรอีกล่ะ อย่าบอกนะว่ากลัวจนตัวสั่น แสดงดีเกินไปแล้ว” เขาหัวเราะกับท่าทางของเธอที่ดูเหมือนคนไร้เดียงสา
“หนู...หนูร้อน.....” หญิงสาวแกะกระดุมชุดนักศึกษาของตัวเองออกโดยที่รามิลได้แต่มองอย่างสงสัยว่าเธอกำลังจะมาไม้ไหน แต่เมื่อเห็นเนินอกที่โผล่พ้นชุดชั้นในสีหวานร่างกายของเขาก็ตื่นตัวอย่างเต็มที่ไม่รู้เพราะฤทธิ์ยาหรือเพราะความขาวเนียนที่อยู่ตรงหน้ากันแน่
“อยากให้ฉันช่วยอะไรล่ะ”
“ช่วยเร่งแอร์ได้ไหม” หญิงสาวดึงเสื้อของตัวเองออกแล้วเอามือพัดไปมาเพื่อบรรเทาความร้อน
“ฉันว่าฉันรู้แล้วว่าจะช่วยเธอยังไง”
เขาพยายามจะใจเย็นอย่างที่สุดทั้งที่ตัวเองก็ร้อนรุ่มจนแทบจะทนไม่ไหว ฝ่ามือใหญ่ลากไปจากผิวเนียนนุ่มกอบกุมสองเต้าขนาดพอดีมือเบาๆ
“อื้อ.....”
“แบบนี้ดีไหมล่ะ ดีขึ้นหรือเปล่า”
“พอได้แต่มันยังร้อนอยู่”
“ย้ายไปห้องนอนกันนะ ห้องนั้นจะดีกว่านี้แน่นอน แต่เธอแน่ใจจะว่าจะให้ฉันช่วย”
“คุณขา....หนูไม่ไหวแล้วช่วยหนูนะคะ หนูร้อนไปหมดแล้ว อยู่อยากให้คุณช่วย” เอริญาขอร้องด้วยเสียงสั่น ตอนนี้เธอไม่มีสติหลงเหลืออยู่เลยสักนิด ร่างกายมันทรมานอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนยิ่งนั่งอยู่บนตักของผู้ชายได้กลิ่นแอลกอฮอล์กับกลิ่นน้ำหอมก็ยิ่งกระตุ้นให้เธออยากจะแนบชิดกับเขามากขึ้น เมื่อเขาอุ้มเธอขึ้นหญิงสาวก็ยอมแต่โดยดี
รามิลวางเธอลงบนเตียงก่อนจะรีบถอดชุดของตนเองออกเพราะตอนนี้ร่างกายของเขามันก็ร้อนและทรมานไม่ต่างจากเธอ
เขารู้ว่าตัวเองเป็นแบบนี้เพราะยาที่กินเข้าไปและก็อดแปลกใจมากที่อาการของหญิงสาวตรงหน้าก็เหมือนกับคนที่โดนฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กซ์เช่นกัน แต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะถามในเมื่อเขาจ่ายเงินให้เอเย่นไปแล้วสิ่งที่เขาควรจะได้รับก็คือความสุขจากเรือนร่างเย้ายวนที่นอนอยู่บนเตียง
สิ่งที่รามิลและเอริญาต้องการในตอนนี้คือการดับไฟราคะร้อนที่กำลังแผดเผา แววตาที่จ้องเธอเหมือนสัตว์ร้ายที่หิวโหย เขาคร่อมทับร่างบอบบาง ก่อนจะกดริมฝีปากลงบดขยี้ด้วยจูบที่ดุดันและร้อนแรง
เอริญาสะดุ้งสุดตัว เธอตกใจและพยายามจะผลักไสชายแปลกหน้าคนนี้ออกไป แต่น้ำเสียงที่ตั้งใจจะห้ามปรามก็กลืนหายไปในลำคอ เมื่อสัมผัสจากจูบที่เร่าร้อนของเขาทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น
ไฟราคะจากยาที่เธอได้รับกำลังโหมกระหน่ำ ทำให้ทุกการต่อต้านอ่อนลงและแปรเปลี่ยนเป็นความยินยอม เมื่อมือหนาลูบไล้ไปตามผิวหนังที่ร้อนผ่าวของเธอ เอริญาไม่สามารถแยกแยะได้เลยว่านี่คือความปรารถนาของตัวเอง หรือเป็นฤทธิ์ของยาที่กำลังครอบงำ รามิลจูบและโลมเลียไปทั่วร่างของเธอด้วยความกระหาย
เอริญาอ่อนระทวยไปหมดแล้วเพราะยาที่ออกฤทธิ์อย่างเต็มที่ ก็ตอบรับสัมผัสของเขาด้วยสัญชาตญาณที่ซ่อนลึก หญิงสาวไม่สนใจอีกต่อไปแล้วว่าตอนนี้ตนเองเป็นใครเขาเป็นใครและกำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้
“หนูมีความสุขที่สุดเลยค่ะ” เอริญาพูดกับรามิลหลังจากทั้งสองทานอาหารเที่ยงด้วยกันแล้ว หญิงสาวพิงศีรษะบนอกของเขาแล้วกอดไว้แน่น“ฉันก็เหมือนกัน หายน้อยใจฉันแล้วใช่ไหม”“ยังเหลืออีกนิดหน่อย”“งั้นให้ฉันชดเชยความสุขให้อีกดีไหม” รามิลถามพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“เอาไว้ก่อนดีไหมคะ หนูอยากคุยกับคุณก่อน”“จะคุยอะไรล่ะ”“หนูอยากรู้ว่าที่คุณหายไปนานไปทำอะไรบ้างคะ แอบไม่คนอื่นหรือเปล่า”“ฉันทำงานอย่างเดียวเลย ฉันบินไปหลายประเทศแต่รับรองว่าไม่มีคนอื่นอย่างแน่นอน“หนูเชื่อใจคุณได้ใช่ไหมคะ”“ได้สิ ฉันคิดถึงเธอตลอดเวลาเลยนะ คิดถึงมากที่สุด เธอต้องทำเสน่ห์ใส่ฉันแน่ๆ ฉันถึงได้หลงเธอขนาดนี้”“คุณต่างหากที่ทำเสน่ห์ใส่หนู ตอนคุณไม่อยู่หนูคิดถึงคุณมากๆ คุณรามิลจะว่าอะไรไหมถ้าหนูบอกว่าหนูรักคุณ” เพราะไม่อยากจะเก็บความรู้สึกนี้ไว้กับตัวเองอีกแล้ว เธอไม่หวังเขาตอบรับความรักของเธอแต่คิดว่าบอกออกไปแล้วน่าจะสบายใจมากกว่า“รักเหรอ”“ค่ะ หนูรักคุณรามิลว่ามันน่าอายไหมคะที่หนูเป็นผู้หญิงแต่ไปบอกรักผู้ชายก่อน”“มันไม่น่าอายเลยถ้าผู้ชายที่เธอบอกรักคือฉันเพราะฉันคิดว่าตอนนี้ฉันอาจจะหลงรักเธอไปแล้วเหมือนกัน” รามิลพูดความ
มาเฟียหนุ่มยืนขึ้นประกบจูบลงบนปากอีกครั้ง เอริญาตอบรับด้วยความเต็มใจ เมื่อปลายลิ้นหนาส่งเข้ามาในโพรงปากเล็กกวาดต้อนความหวานอย่างหลงใหล รามิลไม่เคยรู้สึกอยากจูบกับใครจนแทบจะกลืนกินแบบนี้มาก่อน แต่กับเอริญาแล้วเขาแทบไม่อยากจะหยุดจูบเลยสักนิด กว่าเขาจะยอมปล่อยริมฝีปากให้เป็นอิสระหญิงสาวก็แทบขาดใจ“คุณรามิล อยากให้หนูกินคุณบ้างไหม”“ถามมาได้ไม่คิด ฉันอยากใจแทบขาดแล้ว”แล้วเอริญาก็คุกเข่าลงเธอเงยขึ้นสบตาคมของมาเฟียหนุ่มแล้วยิ้มยั่วยวนก่อนจะยื่นมือมาสัมผัสกับความเป็นชายที่แข็งตระหง่านอยู่ตรงหน้า“อื้อ....อ่า....มือเธอนุ่มมากเอริ”เพียงแค่มือของหญิงสาวสัมผัสรามิลก็ครางสะท้าน เอริญาส่งลิ้นร้อนสัมผัสส่วนปลายอย่างแผ่วเบา ไล้วนส่วนหัวหยักแล้วลากปลายลิ้นเปียกชื้นลงมายังส่วนโคนหยอกเย้ากับก้อนกลมที่กดเกร็ง เธอรู้ว่าเขาชอบแบบไหนและวันนี้ก็ตั้งใจจะให้เขามีความสุขอย่างที่สุด“อูซ.....อ่า....”เสียงแหบพร่าครางฮึมฮัมอยู่ในลำคอก็ยิ่งทำให้เอริญาได้ใจ ปากเล็กขบเม้มเรื่อยๆ จากโคนถึงปลาย ก่อนจะตวัดปลายลิ้นรอบรอยหยัก มือใหญ่ลูบศีรษะและกดเบาๆ ให้เธอกลืนกินแท่งร้อนอย่างแนบชิด“เยี่ยมที่สุด สุดยอดเมียของฉัน”ใบห
เอริญากลับมาจากมหาวิทยาลัยในเวลาบ่าย หญิงสาวเผลอหลับไปบนโซฟาและตกใจตื่นอีกครั้งในเวลาค่ำ ภายในห้องกว้างดูเงียบเหงานั่นก็ยิ่งทำให้คิดถึงรามิลมากขึ้นไปอีก“คุณใจร้ายมากนะ ทำไมไม่โทรหากันบ้าง” หญิงสาวบ่นกับตัวเอง ตอนนี้เธอเริ่มชินชากับการอยู่คนเดียวและคิดว่ามันคงจะเป็นแบบนี้ไปตลอดหญิงสาวอยากถามข่าวคราวของรามิลจากลูกน้องของเขาแต่คิดว่าถามไปคำตอบก็คงจะเหมือนเดิมและเธอก็ไม่อยากจะเซ้าซี้เพราะคิดว่าคนเราถ้ามีใจจะตื๊อไปก็เท่านั้นเอริญาถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำความสดชื่นจากสายน้ำทำให้หญิงสาวรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้างแม้ว่าภายในหัวใจจะรู้สึกห่อเหี่ยวมากก็ตามเอริญากำลังยืนอาบน้ำอยู่ใต้ฝักบัวอยู่พักใหญ่ เมื่ออาบน้ำเสร็จปิดน้ำและหันหลังกลับแต่ก็ต้องตกใจเมื่อหันมาชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของรามิล“คุณรามิล...ใช้คุณจริงด้วย” หญิงสาวกอดเขาโดยไม่สนใจว่าตัวเองยังไม่ได้สวมเสื้อผ้าเลยสักชิด“ก็ใช้ฉันน่ะสิ เธอคิดว่าใคร”“หนูคิดถึงคุณ” เธอกอดเขาแน่นเสียงพูดสั่นเครือด้วยความดีใจ“ฉันก็คิดถึงเธอนะ” รามิลกระชับอ้อมกอดแน่น จมูกโด่งหอมไปบนหน้าปากด้วยความคิดถึง“แต่คุณมาช้า....”“มา
หลังจากคุยโทรศัพท์กับรามิลในวันนั้นก็ผ่านมาอีกสองสัปดาห์แล้วแต่มาเฟียหนุ่มก็ยังไม่มาหามิหนำซ้ำยังโทรมาหาเอริญาแค่ครั้งเดียวจากนั้นก็เงียบหายไปนานหลายวัน“แกเป็นอะไรเอริ หน้าเครียดมาหลายวันแล้วนะ” ญาณิศาสังเกตมาหลายวันแล้วว่าเพื่อนไม่ค่อยร่าเริงเหมือนก่อน“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย” เอริญาถอนหายใจก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ สีหน้าของหญิงสาวดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด“เรื่องร้านเหรอ มีปัญหาตรงไหนล่ะมีอะไรให้ฉันช่วยไหมบอกได้นะ”“ไม่ใช่เรื่องร้านหรอกณิ ฉันเครียดเรื่องคุณรามิลน่ะ”“ทะเลาะกันเหรอ”“ไม่เชิงหรอก”“ฉันพร้อมฟังนะถ้าแกอย่างเล่าไหม เผื่อได้พูดออกมาแล้วจะสบายใจขึ้น”“ก็คุณรามิลน่ะสิ เขาไม่ติดต่อฉันมาเกือบอาทิตย์แล้วนะ”“เขางานยุ่งหรือเปล่าเอริ”“จะงานยุ่งอะไรกันเชียว เวลาแค่ห้านาทีโทรหาฉันมันจะยากอะไรกันล่ะ ฉันว่าเขาน่าจะลืมฉันไปแล้วจริงๆ แต่ก็ดีนะ” แม้ปากจะบอกว่าดีแต่สีหน้าของเธอไม่เป็นแบบนั้น“นี่แกหมายความว่าถ้าเขาลืมแกแล้วแกจะแฮปปี้เหรอ” ญาณิศาถามเพื่อนอย่างไม่เข้าใจนักเพราะเห็นแล้วว่าตอนนี้เพื่อนของตนเองไม่ได้มีความสุขอย่างที่พูด“ฉันก็ควรจะแฮปปี้ไหมล่ะ ฉันจะได้หลุดพ้นไงไม่ต้องเ
ผ่านไปเกือบสองเดือนแล้วที่รามิลไปจากที่นี่ ตอนนี้เอริญาคิดถึงเขาแทบขาดใจ หญิงสาวรูสึกว้าเหว่และเหงามากเพราะเธอย้ายออกจากหอพักมาอยู่ที่คอนโดแบบถาวรเนื่องจากมารดาของญาณิศาป่วยเธอจึงต้องกลับไปนอนที่บ้านและขับรถมาเรียนในเวลาเช้าส่วนเรื่องร้านเบเกอรี่ก็กำลังอยู่ในขั้นเตรียมสถานที่เพราะอาคารที่เธอดูไว้ยังสร้างไม่เสร็จแต่ทางเจ้าของโครงการก็กำหนดแล้วว่าทุกอย่างจะเสร็จภายในสามเดือนนี้ซึ่งมันก็พอดีกับเอริญาเรียนจบระหว่างนี้หญิงสาวจึงใช้เวลาว่างส่วนใหญ่อยู่ที่ร้านของพี่กวางเพื่อเรียนรู้งานให้มากที่สุดโดยไม่รับเงินค่าจ้าง นอกจากจะสอนงานแล้วพี่กวางยังแนะนำแหล่งซื้อวัตถุดิบ แผนการตลาดเทคนิคการคุยกับลูกค้าซึ่งบางอย่างไม่ในห้องเรียน ทำให้เอริญามีความมั่นใจมากขึ้นว่าตนเองจะเป็นเจ้าของร้านเบเกอรี่ได้อย่างแน่นอนขณะที่กำลังนั่งดูเมนูขนมใหม่ๆ อยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเอริญายิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามานั้นคือคนที่กำเธอกำลังคิดถึงและอยากเจอมากที่สุด“สวัสดีค่ะคุณรามิลเป็นยังไงบ้างเหนื่อยไหมคะ” เธอทักทายออกไปด้วยน้ำเสียงที่สดใสแสดงถึงความดีใจที่ได้คุยกับเขาเพราะเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่รามิลไม่
เอริญาไม่เคยคิดว่าตนเองจะกล้ามากขนาดนี้ แต่เพราะคนที่เธอรักกำลังจะกลับไปทำงาน หญิงสาวจึงอยากมอบความสุขให้เขามากที่สุด เธอแอบหวังลึกๆ ว่าการกระทำของเธอในคืนนี้จะทำให้รามิลกลับมาหาเธอที่นี่อีกครั้งและระหว่างนี้เขาจะไม่นึกถึงผู้หญิงคนไหนนอกจากเธอคนเดียว“ได้สิเอริ เธอรู้ใจฉันมากที่สุด”รามิลกระซิบแหบพร่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความต้องการ เขารีบดึงท่อนเอ็นร้อนออกจากร่องรักแล้วพลิกมานอนหงายบนเตียงกว้าง“เอาเลยเอริ ขย่มผมเลยนะคนเก่ง”หญิงสาวยกสะโพกขึ้นแล้วกดลงช้าให้ร่องรักครอบครองท่อนเอ็นไปทีละนิดโดยมีมือใหญ่คอยประคองสะโพกของเธอไว้“อื้อ...คุณรามิล”ร่างกายเธอสั่นสะท้านเมื่อท่อนเอ็นกำลังเข้าไปในร่องรักอย่างช้าๆ ตามแรงกดของสะโพกกลมกลึง“ขยับช้าๆ เอริอยากได้แบบไหนก็ขยับตามใจเลยเธอนะ”ชายหนุ่มช่วยประคองสะโพกเอริญาไว้ในขณะที่หญิงสาวก็ขยับบดเบียดอยู่บนกายของเขา เอริญาหมุนวนและส่ายร่อนบดเบียดเข้าหาท่อนเอ็นร้อนไปตามอารมณ์ ทุกการเคลื่อนไหวของหญิงสาวเต็มไปด้วยความเย้ายวนและเร่าร้อนทำให้เขาเสียวไปทั่วทั้งตัว“เอริเธอเก่งมาก....อื้อ....”“ชอบไหมคะ ชอบให้หนูทำแบบนี้หรือเปล่า”“ชอบมาก ถูกใจฉันที่สุดเลย”







