LOGIN
ตอนที่1
“ไม่ค่ะ! ขวัญไม่แต่ง” ฉันตอบเสียงดัง หลังจากที่ได้ยินการตัดสินใจของป๊า
“ขวัญ ฟังป๊าก่อนลูก” แม่หันมาปราม แต่การที่จะให้ฉันเป็นเจ้าสาวแทนพี่มุก มันก็ดูจะไร้ความคิดไปสักหน่อย
“มันก็แค่แต่งงานหลอกๆ จะอะไรกันนักเชียว อยู่ๆ ก็ได้แต่งงานแทนยัยมุก คงสมใจแล้วละสิ” คราวนี้เป็นแม่ใหญ่ที่เอ่ยขึ้น
แม่ใหญ่ คือเมียเอกของป๊า ส่วนแม่ของฉันเป็นแค่เมียรองเท่านั้น
“แม่ใหญ่หมายความว่ายังไงคะ?”
“ลูกเมียรองแบบเธอ ได้แต่งงานกับตระกูลผู้ดีแบบวงศ์วรรณเดชา ก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“แต่ขวัญอยากแต่งเสียที่ไหนล่ะ ตระกูลผู้ดีแบบไหนกันคะ พี่มุกยังหนีงานแต่งเลย”
“พอได้แล้ว! เลิกเถียงกันซะที แค่ยัยมุกหนีงานแต่ง ฉันก็จะบ้าตายอยู่แล้ว เธอเลี้ยงลูกยังไงเนี่ย ทำไมมันถึงได้อกตัญญูฉันแบบนี้” ป๊าหันไปบ่นกับแม่ใหญ่อย่างหัวเสีย
“นี่คุณหาว่าเป็นความผิดของฉันอย่างนั้นเหรอคะ ใช่สิ! ใครมันจะไปได้ดั่งใจเท่าลูกสาวสุดที่รักของคุณล่ะ” ประโยคสุดท้ายแม่ใหญ่หันมามองที่ฉันด้วยสายตาที่แสนจะชิงชัง
ซึ่งฉันเคยชินกับสายตาแบบนี้มาตั้งแต่เด็กจนโตแล้ว
“ฟังป๊านะขวัญ หนูแค่แต่งงานกับชายปัณเขาหลอกๆ แทนพี่มุกก็แค่นั้น งานจบทุกอย่างก็จบ” ป๊าหันมาเกลี้ยกล่อมฉันอีกครั้ง
ชายปัณ หรือคุณชายปัณณทัต หลานชายคนเล็กของ หม่อมจินดา วงศ์วรรณเดชา
“แต่ป๊าคะ…”
“ทำตามที่ป๊าบอกเถอะลูก คิดเสียว่าตอบแทนบุญคุณของป๊า” คราวนี้เป็นแม่ที่พูดแทรกขึ้น เมื่อเห็นว่าฉันพยายามที่จะพูดปฏิเสธกับป๊า
ทำไมทุกอย่างมันถึงต้องมาตกที่ฉันทั้งหมด
พี่มุกก็เหมือนกัน ไม่อยากแต่งงานตั้งแต่ทีแรกทำไมถึงไม่คัดค้านอะไรเลย อยู่ดีๆ ก็หนีงานแต่งไปแบบนั้น แล้วคนที่ซวยก็ต้องเป็นฉันแทนเนี่ย
................
ฉันชื่อขวัญนรี พาณิชย์พงษ์ภากร ลูกสาวคนเล็กของป๊าทรงพล กับแม่จิตรา เป็นน้องสาวของเฮียกร ชวกร พาณิชย์พงษ์ภากร พี่ชายที่เกิดจากแม่เดียวกันกับฉัน และพี่มุก ม่านมุก พาณิชย์พงษ์ภากร ลูกสาวของแม่ใหญ่
เราสามคนเป็นพี่น้องที่เกิดจากพ่อเดียวกัน ถึงแม้จะคนละแม่ และแม่ใหญ่ก็พยายามที่จะยกพี่มุกให้อยู่เหนือฉันกับเฮียกร แต่เราสามคนพี่น้องกลับรักกันและสนิทกันมาก
ตั้งแต่เล็กจนโตฉันถูกป๊าตามใจมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าแม่ฉันจะเป็นเพียงแค่เมียรองของป๊า แต่ท่านกลับรักฉันไม่ต่างจากพี่มุก ลูกสาวของแม่ใหญ่เลยสักนิด
แต่วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น ป๊าบังคับให้ฉันแต่งงานกับคุณชายปัณณทัต แทนพี่มุกเสียอย่างนั้น
ถ้าเป็นเมื่อสี่ปีก่อน ฉันคงจะดีใจอยู่หรอก ที่ได้แต่งงานกับคุณชาย เพราะฉันจำได้ดีว่าเราสองคนสนิทสนมกันมาก เขาเป็นพี่ชายที่แสนดีของฉันมาตั้งแต่เด็ก
ฉันยอมรับว่าแอบรู้สึกดีกับคุณชาย และฉันก็รู้สึกได้ว่าความรู้สึกของเราทั้งคู่ตรงกัน เพราะจากการกระทำของเขาในหลายๆ อย่าง
แต่หลังจากที่ฉันได้รู้ว่าทางฝั่งผู้ใหญ่ทั้งของฉันและของคุณชาย ได้หมั้นหมายคุณชายกับพี่มุกเอาไว้ตั้งแต่ทั้งคู่ยังเด็ก ฉันกับคุณชายเลยห่างกันไปเรื่อยๆ
สาเหตุหลักคือ ฉันไม่ใช่คนที่ทางผู้ใหญ่เลือก และอีกอย่างคือ ฉันถอยออกมาเพื่อทำใจ
ซึ่งโชคดีที่สี่ปีที่ผ่านมาคุณชายเขาไปเรียนต่อปริญญาโทและทำงานที่ต่างประเทศก่อนจะกลับมาไทย เราเลยยิ่งห่างกันเข้าไปใหญ่ ฉันรู้เรื่องราวของเขาผ่านเฮียกร พี่ชายคนโตของฉันเพราะเขาทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน
จากคนที่นิ่งเงียบ และอบอุ่นเวลาที่อยู่กับฉัน เขากลายเป็นเพลย์บอยหนุ่มเจ้าเสน่ห์ ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า คนล่าสุดหลังจากที่กลับไทยได้ไม่นาน ก็เป็นถึงดาราดัง ควงกันไปไหนมาไหนจนเป็นข่าวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ระหว่างฉันกับเขา เราก็เหมือนแค่คนที่เคยรู้จักกันก็เท่านั้น
ก็อย่างที่ว่านั่นแหละ ฉันไม่เห็นด้วยที่จะให้ฉันแต่งงานแทนพี่มุก มันไร้สาระสิ้นดี อีกอย่างคุณชายเขาก็ไม่ใช่คนเดิมที่ฉันเคยรู้จักเมื่อครั้งยังเด็ก เขาแทบจะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับฉันไปแล้ว
รุ่งเช้าของวันพิธี
“คุณแป๋มคะ เรียบร้อยดีมั้ยคะ” แม่เอ่ยถามพี่ช่างแต่งหน้า เมื่อเข้ามาดูความเรียบร้อยในห้องของฉัน
“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยสิขวัญ วันนี้วันดีนะลูก”
“วันดีของใครคะ มันไม่น่าจะใช่ของขวัญนะคะแม่” ฉันเอ่ยออกไป เพราะวันนี้มันเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของฉันเลย
“เราตกลงกันแล้วนะลูก อยากให้ป๊าทุกข์ใจเหรอ”
“ขวัญก็ยอมแต่งให้แล้วยังไงล่ะคะ แม่จะเอาอะไรกับขวัญอีก”
“ก็แค่ทำหน้าให้มันดีๆ ก็พอ วันนี้หนูเป็นเจ้าสาวนะลูก”
“เจ้าสาวสำรองน่ะเหรอคะ?”
“ขวัญ!”
“โอเคค่ะ ยังไงขวัญก็รับปากกับป๊าเอาไว้แล้ว ขวัญไม่ผิดคำพูดหรอกค่ะ แต่ป๊ากับแม่ก็ต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับขวัญด้วย”
ฉันมีข้อเสนอกับป๊า ว่าถ้าฉันยอมแต่งงานกับคุณชายปัณแทนพี่มุก หลังงานจบท่านจะต้องยอมให้ฉันไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตามกำหนดเดิมที่ฉันเคยแพลนเอาไว้ ซึ่งท่านก็ตกลงที่จะทำตามที่ฉันขอ
เพราะฉะนั้น เมื่องานจบฉันจะเดินทางทันที
จนกระทั่งถึงฤกษ์พิธีในตอนเช้า นี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้เจอกับคุณชายปัณณทัต แถมการเจอกันครั้งนี้ยังเจอกันในฐานะบ่าวสาวอีกต่างหาก มันดูประดักประเดิดยังไงก็ไม่รู้
ตอนที่12ปัณณทัตพาขวัญนรีออกมาจากบ้าน หลังจากที่เขาตามเธอมาที่นี่ แล้วมาได้ยินคำพูดเสียดสีดูถูกจากแม่ใหญ่ ซึ่งขนาดเขามาได้ยินยังรับไม่ได้เลย นับประสาอะไรกับขวัญนรีที่จะทนไม่ได้ ที่ถูกคนอื่นมาพูดจาดูถูกเธอและก็แม่ของเธอแบบนี้ซึ่งเขาเองก็พอจะรู้สถานการณ์ภายในบ้านพาณิชย์พงษ์ภากรอยู่บ้าง จากชวกรพี่ชายของขวัญนรี แต่ก็ไม่เคยเข้ามารับรู้ถึงขนาดวันนี้ที่มาได้ยินเองกับหู เขาถึงกับทนไม่ได้จนต้องเอ่ยปากพูดเพื่อปกป้องเธอ“คุณตามฉันมาที่นี่ได้ยังไงคะ” เธอเอ่ยถามเมื่อทั้งคู่อยู่กันในรถและขับออกมาได้สักพัก“พรบอกว่าขวัญให้มาส่งที่บ้าน” พรคือคนขับรถที่มาส่งเธอที่บ้านในวันนี้“ความจริงคุณไม่ต้องมารับฉันก็ได้นะคะ ฉันว่าจะเอารถที่บ้านไปใช้ด้วย”“ไม่ต้องหรอกค่ะ ใช้รถของพี่นั่นแหละ ขวัญอยากเอาคันไหนไปใช้ก็เลือกได้เลย” เขาบอก เพราะรถของเขาที่บ้านก็มีตั้งหลายคัน เพราะเขาใช้ประจำอยู่แค่คันเดียว“อารมณ์ดีขึ้นมาบ้างหรือยังคะ?” ปัณณทัตเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เพราะก่อนหน้านั้นเธอยังอารมณ์เสียนั่งเงียบมาตลอดทางอยู่เลย“ก็ดีขึ้นแล้วค่ะ ว่าแต่นี่เราจะไปไหนกันคะ?” ขวัญนรีเอ่ยถาม เพราะทางที่เขาพาเธอมามันไม่ใช่ทางก
ตอนที่11“ใช่สิ ได้ทุกอย่างสมใจแล้วนี่” แม่ใหญ่หันไปพูดกับแม่ที่นั่งเงียบไม่ได้มีการตอบโต้อะไร ซึ่งแม่ก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ปล่อยให้แม่ใหญ่พูดจาดูถูกแบบนี้เสมอแม่เคยบอกว่าเดี๋ยวเขาเหนื่อย ก็หยุดพูดไปเอง แต่ดูเหมือนคนอย่างแม่ใหญ่จะหยุดยากสักหน่อยนะเพราะคนอย่างแม่ใหญ่ ต้องเจอคนอย่างขวัญนรีถึงจะสมน้ำสมเนื้อ แม่ฉันใจดีเกินไปที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา“ได้ความรักจากคุณทรงพลไปยังไม่พอ ยังให้ลูกสาวมาแย่งสามีของยัยมุกอีก” แม่ใหญ่พูดออกมาเหมือนเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ ทั้งที่ความจริงแล้ว ฉันต่างหากที่ถูกใครต่อใครบงการชีวิตอยู่ตอนนี้แม่เล่าให้ฟังว่าป๊ากับแม่เป็นแฟนกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย แต่เป็นเพราะครอบครัวของแม่ไม่ได้ร่ำรวย อากงเลยหาผู้หญิงให้ป๊า นั่นก็คือแม่ใหญ่ที่เป็นลูกสาวของเพื่อนอากง ป๊าจำใจต้องแต่งงานกับแม่ใหญ่และจดทะเบียนสมรสตามที่อากงต้องการเพราะไม่อย่างนั้นป๊าจะไม่เหลืออะไรเลย แต่ป๊ามีข้อแม้กับอากงว่าจะต้องให้แม่เข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ในฐานะภรรยาของป๊าอีกคนด้วย ซึ่งอากงก็ยินยอมเพราะตอนนั้นแม่ตั้งท้องเฮียกรแล้วที่แม่ยอมมาอยู่ที่นี่ในฐานะเมียรองของป๊า ก็เพราะว่ารักป๊ามาก ยอมแ
ตอนที่10หลังจากที่เมื่อวานฉันถูกหม่อมย่าเรียกไปเรียนทำอาหารที่ตึกใหญ่เกือบทั้งวัน วันนี้เลยกะว่าจะเนียนไม่ไปสักหน่อย เมื่อวานฉันก็แทบจะทำครัวเขาเละไม่มีชิ้นดี ก็บอกแล้วว่าฉันเคยเข้าครัวทำอาหารเสียที่ไหนกันวันนี้เลยมาหาแม่ที่บ้าน แล้วก็น่าจะอยู่ทานข้าวเย็นด้วยเลย คิดถึงฝีมือทำอาหารของป้าแก้ว แม่ครัวที่บ้านจะแย่“ทำไมมาคนเดียวล่ะขวัญ คุณชายไม่ได้มาด้วยเหรอ” แม่เอ่ยถามเมื่อเห็นฉันมาเพียงคนเดียวไร้เงาของคุณชาย ฉันให้คนขับรถมาส่งเพราะรถของฉันอยู่ที่นี่ วันนี้ก็ว่าจะเอาไปใช้ที่บ้านโน้นเหมือนกัน เวลาอยากไปไหน จะได้ไม่ต้องให้คนขับรถที่บ้านขับไปให้ถึงคุณชายเขาจะมีรถหลายคันที่จอดเรียงรายอยู่ที่บ้าน แต่ฉันก็ไม่อยากไปวุ่นวายเอามาใช้หรอก“เขาทำงานน่ะแม่ วันนี้ว่าจะมาทานข้าวเย็นด้วย” ฉันเข้าไปกอดแม่ด้วยความคิดถึง“แล้วเป็นยังไงบ้าง ไปอยู่ที่นั่นขวัญโอเคมั้ยลูก”“ก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่หรอก หม่อมจินดาให้ขวัญไปเรียนทำอาหารด้วย ไหนจะมารยาทเวลาต้องเข้าสังคมอีก” ฉันบ่นกระปอดกระแปดให้แม่ฟัง“หม่อมเขาคงอยากให้หนูเรียนรู้เอาไว้ เพราะไปอยู่ที่นั่นหนูจะต้องเป็นเจ้านาย จะได้ดูแลเด็กในบ้านได้ อีกอย่างตระกูลวง
ตอนที่9“คุณชาย มีอะไรหรือเปล่า” ฉันถามคนที่อยู่หน้าห้อง แต่เขากลับเดินเข้ามาภายในห้องหน้าตาเฉย“แล้วนี่ คุณเข้ามาที่ห้องนี้ทำไม” ฉันมองคนที่อยู่ในชุดนอนที่เตรียมพร้อมจะนอนแล้วอย่างสงสัย“พี่ก็จะมานอนที่ห้องนี้ไงคะ” เขาตอบก่อนที่จะเดินตรงไปที่เตียงนอนอย่างหน้าตาเฉย“ก็ไหนคุณบอกว่าจะไปนอนที่ห้องอื่นไง”“ลืมไปแล้วเหรอคะ ว่าหม่อมย่าบอกว่ายังไง” อยู่ๆ เขาก็เอาหม่อมย่าขึ้นมาอ้าง“ถ้าท่านรู้ว่าเราสองคนนอนแยกห้องกัน มีหวังต้องเรียกไปว่าอีกแน่” ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เขาบอกนั่นแหละ เด็กรับใช้ที่นี่ก็คนของท่านทั้งนั้น ขนาดคืนแรกที่ฉันกับคุณชายแยกห้องกันนอน ท่านยังรู้เลย“ถ้าอย่างนั้นคุณก็นอนที่โซฟาก็แล้วกัน”“ได้ไงคะ พี่จะนอนเข้าไปได้ยังไงโซฟาเล็กแค่นั้น”“แต่ฉันไม่เคยนอนกับคนอื่น ฉันคงนอนไม่หลับหรอก”“ไม่เคยก็ต้องหัดค่ะ จะได้ชินไง” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขา มันโคตรจะน่าหมั่นไส้เลย“มานอนเถอะค่ะ นี่ก็ดึกมากแล้ว” เขาจัดแจงไปนอนลงอีกฝั่งของเตียงอย่างหน้าตาเฉย เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นฉันจึงต้องจำใจนอนอีกฝั่งอย่างเลี่ยงไม่ได้ฉันจัดการปิดไฟที่หัวเตียงแล้วถึงล้มตัวลงนอน แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้หลับตาลง ร่า
ตอนที่8“อะไรกันยะ? ฉันไปเที่ยวยุโรปกับที่บ้านแค่สองอาทิตย์ กลับมาเพื่อนฉันแต่งงานมีสามีไปแล้ว” พลอยลดา เพื่อนสนิทของฉันเอ่ยขึ้น เมื่อมาถึงเมืองไทยแล้วรู้ว่าฉันแต่งงานย้ายมาอยู่ที่นี่แล้ว“แล้วแกก็ไม่คิดจะโทรไปบอกฉันเลย จะได้บินกลับมาเป็นเพื่อนเจ้าสาว”“เพื่อเจ้าสาวอะไรล่ะ ฉันถูกบังคับให้แต่งงานแทนพี่มุกนะสิ อีกอย่างฉันไม่อยากโทรไปกวนแกด้วย ไม่อยากกวนเวลาเที่ยวของแก”“แกว่าไงนะ แต่งงานแทนพี่มุก!”“ใช่”“ก็แสดงว่าเจ้าบ่าวของแกคือคุณชายปัณณทัตเหรอ?” ยัยพลอยมันตาลุกวาวขึ้นมาทันที“อื้อ”“แบบนี้ ถ่านไฟเก่าก็ลุกพรึบเลยละสิ” พูดจบมันก็หัวเราะชอบใจ“ถ่านเถิ่นอะไร ฉันกับเขาไม่เคยคบกันซะหน่อย” ฉันรีบปฏิเสธทันที“แต่ก็เคยรู้สึกดีต่อกันแหละน่า” ยัยพลอยรู้เรื่องระหว่างฉันกับคุณชายดี เพราะเมื่อก่อนยัยพลอยกับคุณชายก็มักจะไปที่บ้านของฉันเป็นประจำ คุณชายไปหาเฮียกร ส่วนยัยพลอยก็ไปหาฉัน เลยทำให้รู้จักคุ้นเคยกันตั้งแต่ตอนนั้น“แกหยุดเลย รู้มั้ยคืนแรกที่มาอยู่ที่นี่ เขาก็ทำเจ้าชู้ใส่ฉันแล้ว ฉันไม่คิดเลยจริงๆ ว่าเขาจะเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้” เพราะคุณชายคนที่ฉันเคยรู้จักคนนั้น เขาอบอุ่น อยู่ด้วยแล้วปลอดภัย
ตอนที่7ฉันกลับไปที่บ้าน และอยู่คุยกับแม่จนค่ำถึงจะกลับ พอกลับมาถึงก็เจอคุณชายนั่งอยู่ที่ห้องรับแขกอยู่ก่อนแล้ว“มาแล้วเหรอคะ หม่อมย่าเรียกพี่กับขวัญไปหาน่ะ”“มีเรื่องอะไรคะ?”“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”ฉันกับคุณชายมาที่ตึกใหญ่ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันเข้ามาที่บ้านของตระกูลวงศ์วรรณเดชา สมแล้วที่เป็นมรดกตกทอดกันมา เพราะที่นี่คือใหญ่โตและสวยมาก สวยจนฉันถึงกับตะลึงไปเลย“มากันแล้วเหรอ?” หม่อมจินดาที่นั่งรออยู่ที่โถงใหญ่เอ่ยขึ้น ซึ่งตรงนั้นมีคุณพ่อกับคุณแม่ของคุณชายก็นั่งอยู่ด้วยตกลงมีเรื่องอะไรจะคุยกันแน่เนี่ย? อยู่กันครบเลยฉันกับคุณชายเดินมานั่งลงที่โซฟาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับคุณพ่อคุณแม่“เมื่อคืนเธอสองคนแยกห้องกันนอนเหรอ?” หม่อมย่าเปิดประเด็นทันที ขนาดอยู่คนละบ้านยังรู้เรื่องเลยเหรอเนี่ย“คือขวัญแปลกที่นะครับหม่อมย่า อีกอย่างขวัญอาจจะยังไม่ชินที่ต้องนอนกับคนอื่น” เป็นคุณชายที่ช่วยพูดให้“แต่คืนเข้าหอ ยังไงเธอสองคนก็ต้องอยู่ในห้องนั้นจนถึงเช้า” หม่อมย่าเอ่ยเสียงเข้ม แววตาดุมองมาที่ฉันเหมือนจะตำหนิ“ฉันเข้าใจนะว่าเธอเป็นเด็กหัวสมัยใหม่ อาจจะไม่เชื่อหรือใส่ใจกับพิธีการอะไรแบบนี้ แต่ในเมื่อ







