“อื้ออ เบาหน่อยค่ะ”
สองร่างยังคงกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่บนเตียงคิงไซส์ ตั้งแต่ตรงโซฟาห้องนั่งเล่นจนมาถึงตรงนี้ก็ปาไปยกที่ 3 แล้ว
ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ฉูบฉีดเลือดในกายของเขาหรืออย่างไร ถึงได้แรงดีไม่มีตกเช่นนี้
ตึกๆๆ
เสียงหัวเตียงกระทบกับผนังห้องนอน จนมือบางต้องยกเกาะเตียงด้วยแรงอิดโรย ขณะที่สะโพกสอบยังคงถาโถมความแรงเข้าใส่ไม่ยั้ง
“ฉันว่าจะซื้อเตียงใหม่” เขาพูดจริง เพราะตั้งแต่มีนันนลินทร์เข้ามาในชีวิต มาอยู่ด้วยกันที่เพนท์เฮ้าส์หลังนี้ เตียงคิงไซส์แบบมาตรฐานโรงแรมของเขาก็ยังเอาไม่อยู่ สงสัยคงต้องหาซื้อเจ้าอื่นบ้างแล้ว
“อ๊ะ! อ๊าาาส์”
ตับๆๆๆ ~
เสียงเนื้อกระทบเนื้อแทบไม่เป็นจังหวะ เมื่อเขารู้ว่าอีกฝ่ายใกล้ถึงจุดสุดยอดจนร่องเนื้อของหล่อนบีบรัดลำกายแกร่งของเขาอย่างหนัก
ยิ่งบีบเร้ากระชากความเสียวจากตัวเขาได้ดี จนต้องเร่งจังหวะให้ได้ถึงจุดหมายพร้อมกัน
นันนลินทร์แอ่นก้นรับลำกายแท่งใหญ่อย่างเอาใจ สองมือจับขอบเตียงใช้เป็นที่ค้ำยันประคองท่า
หัวเข่าหล่อนแทบช้ำทั้งสองข้าง เมื่อยังอยู่ในท่วงท่าเดิมให้เขาตอกเสาเข็มแทงใหญ่เข้าใส่
ธาฎามักจะไม่ปราณีเรื่องเซ็กส์ เขาเสพเรือนร่างหล่อนอย่างหิวกระหาย
เขาถาโถมความแรงใส่ร่องกลีบงามหล่อนแทบขาดใจ ก่อนจะพ่นใส่น้ำขาวขุ่นลงกลีบร่องงาม ขาวแช่ลำกายของตนเองเอาไว้อยู่แบบนั้น ตอกย้ำเน้นความเสียวเข้าไปอีกเน้นๆ อยู่ 3-4 รอบ ก่อนจะพอใจในผลงานของตนเองแล้วดึงลำกายออก น้ำเหนียวข้นค่อยๆ ไหลออกมาตามทาง จนมันล้นทะลักออกมาไหลเยิ้มไล่ลงขาอ่อน
สายตาคู่คมยังคงจดจ้องที่ผลงานศิลปะชั้นดี มี่ตนเองสร้างขึ้น ร่องจีบงามขมิบตอดตุบๆ บีบน้ำขาวขุ่นไหลออกมาเลอะเรียวขาสวย
ไม่เพียงแค่กลีบร่องของหล่อนที่กระตุกเกร็งจากการสำเร็จความใคร่ ทว่ารวมทั้งเรือนร่างสวยงามของหล่อนอีกด้วย แรงกระตุกของหล่อนยิ่งสร้างอารมณ์เร้าให้เขาได้ดี เขาต้องคว้าลำกายตนเองถอกขึ้นลงเพื่อรีดเอาน้ำออกมาให้หมด
ส่วนมืออีกข้างที่ว่างอยู่ก็จิ้มสอดเข้าไปช่วยรีดน้ำขาวขุ่นที่เข้าทิ้งเอาไว้ในกลีบร่องงามออกมาให้หมด
“อื้ออส์ มะไหวค่ะ ฮึก!” หล่อนแทบควานหาเสียงตัวเองไม่เจอ ยอมรับว่าธาฎาเก่งกาจในเรื่องอย่างว่าที่สุด
เขาเปรียบดั่งม้าเวลาที่หล่อนขึ้นควบขี่ แรงและจังหวะของเขาที่ส่งเข้ามาในร่องของหล่อนมันถึงอกถึงใจจนต้องร้องขอชีวิต
เพลีย! มือสากหวดเข้าที่ก้นงอนเด้ง เห็นแล้วช่างน่าขยี้
“อ๊าาาส์”
“เธอนี่มันสุดยอดจริงๆ หนิง”
“อื้ออ คุณทิม”
พรึ่บ!!
มือหนาใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดพลิกตัวร่างอรชรให้นอนอยู่ให้ท่านอนหงาย เขาถกเอาชุดนอนซาตินบางๆ ออกจากเรือนร่างของหล่อนให้หมด ตอนนี้ปราศจากปราการปกคลุม มีเพียงเรือนร่างขาวเนียนเท่านั้นที่เขาต้องการสัมผัส
“ฉันอยากเอาเธออีกยก”
ขาสองข้างถูกจับแยกออกจากกันอีกครั้ง ใจกลางร่องกุหลาบงามไร้ขน เนื้อเนียนกริบดั่งดอกไม้วัยแรกแย้ม นันนลินทร์ดูแลตัวเองได้ดีและยังดูแลในส่วนนี้เป็นพิเศษ สาเหตุเป็นเพราะคำสั่งจากเขา เขามีค่าสปาและค่าเข้าคลินิกเสริมความงามให้หล่อนต่างหากในทุกๆ เดือน เขาชอบผู้หญิงเกลี้ยงเกลาดูสะอาดสะอ้าน โดยเฉพาะในส่วนที่เขาจะต้องลงลิ้นสำรวจ
“เธอดูแลมันได้ดีจริงๆ นันนลินทร์” ยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
จากนั้นบทรักจากทั้งคู่ก็ดำเนินกันต่อ กว่าจะพอใจเขาก็ปาเข้าไปดึกดื่น นันนลินทร์ไร้เรี่ยวแรงจนไม่สามารถลุกขึ้นมาหากับข้าวกับปลาให้ธาฎาได้กิน
จนต้องเป็นเขาเองที่จำใจลุกขึ้นมาจัดการตัวเอง
มาม่าก็กึ่งสำเร็จถูกนำมาใส่ภาชนะตามขั้นตอนในซองที่เขาเขียนระบุ ธาฎาทำตามแบบนั้น พร้อมกดน้ำร้อนใส่ตามที่คิดว่าตัวเองเข้าใจถูก กว่าจะเสร็จสิ้นในการประกอบอาหารง่ายๆ นี้ ก็เหนื่อยเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เขาดวาดตามองไปรอบๆ เคาท์เตอร์ครัวแล้วยังต้องปาดเหงื่อ เพียงแค่มาม่าซองห่อกับไข่ลวกหนึ่งฟองทำไมมันยากนัก เล่นเอาเสียครัวเขารกกันไปหมด
“รู้งี้น่าจะแค่สองยกพอ”
บ่นพึมพำกับตัวโตไปก็แค่นั้น สุดท้ายแล้วก็เป็นตัวเองอีกนั่นแหละที่คุมเกม แค่นิดเดียวเคยมีที่ไหนกัน ที่ผ่านมาก็เคยเห็น แต่ไม่จำต่างหาก
คนนอนหลับไปแล้วคงไม่เห็นภาพหายากเช่นนี้ แต่หากตื่นเช้ามาแน่นอนว่าต้องเป็นหล่อนที่ลำบากจัดการความสะอาดด้านในครัว
ธาฎายกฝาครอบชามออกเมื่อเขาคิดว่ามันสุดได้ที่แล้ว รวมทั้งไข่ลวกที่เขาเอามันตอกใส่ในชามพร้อมกับมาม่านั้น
แต่เหนือสิ่งอื่นใด เมื่อเปิดฝาครอบออกมาดูแล้วกลับต้องสบดคำหยาบเข้าให้ เพราะในชามมีเพียงเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเท่านั้นที่สุกพร้อมทาน ทว่าไข่ลวกที่เขาวาดฝันมันเอาไว้ว่าจะทำได้ แต่แล้วฝันต้องดับสลายลง เพราะมันไม่ใช่แค่ไม่เป็นไข่ลวกให้ได้ทาน แต่มันยังเป็นไข่ดิบอยู่เฉกเช่นเดียวกันกับตอนที่ตอกมันลงในชาม
“โถ่เว้ย!!”
สุดท้ายแล้วก็เลือกไม่ได้ จึงทำได้เพียงค่อยๆ ตักไข่ดิบในชามนั้นออก แล้วทานเพียงส่วนที่เหลือ
นึกอยากจะส่งสารตัวเองทั้งขำในโชคชะตาที่เกิดมามีเพียงห้องครัวหนูหราเอาไว้ประดับเล่น พอนึกย้อนกลับไปในอดีต หากไม่มีนันนลินทร์ป่านนี้เขาคงอดตาย วันนี้จึงรู้สึกสำนึกในใจอยู่บ้างแล้ว
The end6 เดือนต่อมาบรรยากาศที่ต่างจังหวัดแห่งหนึ่งของไทย ที่เขาใหญ่ในช่วงฤดูหนาวเต็มไปด้วยความงดงาม บ้านพักตากอากาศของคุณย่าของธาฎาที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติถูกจัดตกแต่งด้วยดอกไม้สดหลากสีสัน เต็มไปด้วยความอบอุ่นและโรแมนติกสำหรับงานแต่งงานธาฎาในชุดสูทสีขาว เดินตรวจดูความเรียบร้อยของงานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพอใจและความสุขทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบสำหรับวันนี้ เพราะวันนี้ไม่ใช่แค่วันแต่งงานของเขา แต่เป็นวันที่เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงที่เขารักที่สุดนันนลินทร์ยืนอยู่ในห้องแต่งตัว สวมชุดเจ้าสาวสีขาวเรียบหรูที่มีลูกไม้ประดับอย่างประณีต หล่อนหันมองตัวเองในกระจก มือแตะท้องเบาๆ ราวกับย้ำกับตัวเองว่าทุกอย่างที่ผ่านมาคือเรื่องจริงนางนิรณียืนอยู่ข้างๆ คอยช่วยจัดชายกระโปรงและให้กำลังใจลูกสาว “แม่ภูมิใจในตัวหนิงนะลูก วันนี้ลูกดูสวยที่สุดเลย”นันนลินทร์หันมายิ้ม “ขอบคุณนะคะแม่ ถ้าไม่มีแม่ หนิงคงไม่มีวันนี้”เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่คุณเยาว์และสุชาฎาจะเดินเข้ามา พร้อมกับหยุดมองหล่อนราวกับตกตะลึงในความงาม พวกเธอเดินเข้ามาใกล้ ยื่นมือออกไปจับมือหล่อนเบาๆ“คุณหนิง…สวยมากเลยค่ะ” นันน
ตอนที่ 32/31 สัปดาห์ถัดมา นางนิรณีมาอยู่ดูแลลูกสาวในช่วงเช้า สัปดาห์ที่ผ่านมาเธอรู้ว่าธาฎาแวะเวียนมาทำคะแนนกับนันนลินทร์ลูกสาวเธอแบบไม่ว่างเว้นเธอเองก็ยอมเปิดทางให้ ถึงได้ไม่ค่อยแวะมาหาลูกสาวที่โรงพยาบาล จนกระทั่งวันนี้มีคำสั่งจากหมอเจ้าของไข้แล้วว่าอาการของนันนลินทร์นั้นดีขึ้นมากแล้ว และสามารถออกจากโรงพยาบาลไปได้ส่วนหลังจากนี้นันนลินทร์อาจจะยังต้องใช้ไม้เท้าเพื่อพยุงตัวไปก่อน จนกว่าอาการจะหายเป็นปกตินางนิรณีนั่งลงข้างเตียง มองสำรวจใบหน้าลูกสาวอย่างพิจารณา “ดูดีขึ้นเยอะเลยนะลูก ดีใจไหมจะได้ออกจากโรงบาลแล้วนะ”คำถามนั้นทำให้นันนลินทร์ชะงัก หล่อนหลุบตาลงมองมือที่วางอยู่บนตัก “ดีใจสิคะแม่”“ดีแล้ว แม่อย่กจะให้หนิงดู ว่าบ้านที่แม่ซื้อไว้ที่นี่นั้นสวยมากแค่ไหน ถ้าหากเราฟ้องศาลชนะ...อัญญามาอยู่ที่นี่กับเรา แม่จะทำห้องสวยๆ ให้อัญญา”นางนิรณีพูดแฝงไปด้วยเลสนัย เธออยากรู้ตอนนี้ในใจของลูกสาวตนเองจะคิดเห็นเช่นไร กับเรื่องที่เคยอยากจะทำ “ธาฎาจะได้รับกรรม เหมือที่หนูเคยบอก” เธอพูดขยี้ให้ลูกสาวได้รู้สึกตัวไปอีก“แม่คะ...คือหนิง”“ว่าไงล่ะลูก? แม่น่ะคุยกับคุณนนท์เขาแล้วนะลูก”คำพูดของผู้เป็นแม่
ตอนที่ 32/2 หล่อนหลุบตามองพื้นอย่างครุ่นคิด ภายในใจมีทั้งความลังเลและความหวังที่แทรกเข้ามาในเสี้ยววินาที“ฉัน...ฉันยังตอบคุณไม่ได้ตอนนี้หรอก” นันนลินทร์พูดเสียงเบา “ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา คุณเองก็ทำตัวดีๆ ก็แล้วกัน”ธาฎายิ้มบางๆ ก่อนจะพยักหน้า เขาดีใจไม่ใช่น้อยเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้น นันนลินทร์พูดราวกับว่าหล่อนกำลังบอกกลายๆ ว่าหล่อนให้โอกาสเขาแล้ว“เมื่อกี้เธอหมายความว่าไง?” ร่างสูงผละจากเปลนอนลูกน้อยเมื่อเห็นว่าลูกหลับสนิทแล้ว เขาเดินเข้ามาใกล้คนป่วยบนเตียง นันนลินทร์แอบถอนหายใจ รู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่เขาวงกตแห่งความรู้สึกอีกครั้ง“ก็ตามที่พูด...คุณเข้าใจยากตรงไหน?” “ไม่...หนิง ฉันฟังไม่ผิดใช่ไหม? เธอให้โอกาสฉันแล้ว” “ให้โอกาสแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำยังไงกับฉันเหมือนเดิมก็ได้”“ผมจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง...ทั้งเธอและลูก”แม้คำพูดของเขาจะดูมั่นคง แต่นันนลินทร์ยังไม่กล้าปล่อยให้ตัวเองหวังมากเกินไป หล่อนเพียงมองเขาด้วยสายตาที่อ่อนลงเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะพยายามคว้าเอาไม้เท้าที่อยู่ไม่ไกลนัก เพื่อหวังจะทาง ทว่าหล่อนกลับคว้ามันไม่ถึง จนทำให้เขาต้อง
ตอนที่ 32/1เวลาผ่านไปจนถึงเที่ยงวัน ธาฎาป้อนอาหารลูกอีกครั้งจนอิ่ม โชคดีจริงๆ ที่เตรียมทั้งของใช้และอาหารมาพร้อมทุกอย่าง อัญญาจึงไม่งอแง คุณพ่อมือใหม่จัดการประกอบเปลนอนแบบพกพาสำหรับเด็กขึ้นภายในห้องพักผู้ป่วย เขามุ่งมั่นทำมันด้วยความจริงจัง ขณะเดียวกันที่เจ้าของเปลนอนตัวจริงก็เริ่มตาเยิ้มลงมาก เป็นสัญญาณว่าอัญญานั้นง่วงเต็มที่แล้ว การกระทำของธาฎานั้นอยู่ในสายตาของคนที่กำลังกล่อมลูกนอนบนตัก หล่อนไม่คาดคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ จุดที่พ่อของลูกมีความใส่ใจและทำทุกอย่างให้ลูกได้มากมาย ทั้งที่หน้าที่แบบนี้ส่วนมากจะเป็นแม่ของลูกทำซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวไหนก็ตามแต่ สายตาคู่สวยมองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย หล่อนยังจำภาพในอดีตของผู้ชายคนนี้ได้ดี ภาพของเขาที่เย็นชา ดื้อรั้น และไม่เคยแยแสต่อคำขอร้องใดๆ ของหล่อน แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปมากจนขนลุก“คุณทำเองเป็นหมดเลยเหรอ?” หล่อนถามขึ้นในขณะที่ลูบหัวลูกสาวเบาๆ ที่หลับคาตักธาฎาที่กำลังจัดหมอนในเปลให้เรียบร้อย หยุดมือชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแม่ของลูก“ฉันเคยเสียหลักครั้งหนึ่งตอนที่เธอจากไป วันๆ ไม่ยอมไปทำงาน กินแค่เหล้า เสเพไปวันๆ เพียงแค่อย
ตอนที่ 31/3เช้าวันถัดมา แสงแดดอ่อนยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างของโรงพยาบาล ธาฎาก้าวลงจากรถพร้อมลูกสาวตัวน้อยในอ้อมแขน เขาสะพายเป้เล็ก ๆ ที่บรรจุของใช้ของอัญญาไว้เต็มแน่น หลังจากวันนี้อนุญาตให้เรืองฤทธิ์ สุชาฎา และคุณเยาว์ได้ออกไปใช้ชีวิต เที่ยวชมเมืองทะเลทรายแห่งนี้เขาใช้เวลาไม่นานนักก็เดินเข้าไปยังตึกพักฟื้นผู้ป่วยทันที อัญญาในชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนยิ้มแย้มแจ่มใส มือเล็ก ๆ จับไหล่ของพ่อแน่น สายตาซุกซนของเธอชำเลืองมองรอบข้างด้วยความตื่นเต้น ธาฎาหันไปมองลูกสาว ยิ้มบาง ๆ ออกมา ถึงแม้ในใจเขาจะเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อมาถึงหน้าห้องพักของนันนลินทร์ เขาหยุดยืนชั่วครู่ สูดหายใจลึกเพื่อเรียกความมั่นใจ ก่อนจะผลักประตูเข้าไปอย่างเบามือนันนลินทร์ที่เพิ่งตื่นและกำลังพยายามลุกขึ้นนั่งบนเตียงหันไปมองอย่างตกใจเมื่อเห็นเขา“คุณมาทำไมอีก...” หล่อนถามเสียงแผ่ว แต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจเขาไม่ได้ตอบในทันที แต่วางอัญญาลงบนเตียงข้าง ๆ หล่อนลูกสาวตัวน้อยแม้จะไม่เจอหน้าแม่มานาน แต่กลับมีความรู้สึกถึงสายใยผูกพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างเหนือความคาดหมายอัญญาโผเข้ากอดนันนลินทร์ หลังจากที่พ่อของเขาปล่อยลงใส่เตียง ใบ
ตอนที่ 31/2 น้ำตาของนันนลินทร์ไหลออกมาอย่างไม่สามารถห้ามได้ แม้จะพยายามซ่อนเร้นความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในใจ แต่ในที่สุดทุกอย่างก็แตกออกมาเป็นน้ำตาอย่างไม่รู้ตัว “คุณกลับไปเถอะ...” นันนลินทร์พูดเสียงสั่น พยายามสะกดอารมณ์ให้ตัวเองสงบลง แต่ก็ยากเกินไป หล่อนมองดูสภาพตนเองในตอนนี้ ช่างน่าสมเพชเหลิอเกิน ไม่อยากให้อัญญาจะต้องมาเห็นสภาพแม่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย “ทำไม?” “ก็ฉันบอกให้กลับก็คือกลับไง! พูดไม่รู้เรื่องเหรอ!?” หล่อนพูดทั้งน้ำตา พลางมองไปมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากพยาบาลหรือใครสักคนที่อยู่แถวนี้ “ฉันไม่ได้ตั้งใจมาทำให้เธอรู้สึกแย่นะ ฉันพาลูกมาให้กำลังใจเธอ ขอแค่ฉันกับลูกได้...” “ฮึกกก! กลับไป! อย่าพาลูกมาลำบากที่นี่” “ไม่...หนิง คือฉัน” “คุณพยาบาลคะ! ช่วยด้วยค่ะ!” เสียงเรียกของนันนลินทร์ดึงความสนใจจากพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงและรีบเดินเข้ามาด้วยท่าทางเป็นห่วง “มีอะไรให้ช่วยคะ คุณหนิง?” พยาบาลสาวต่างชาติถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่แววตาแสดงความกังวลกับกลุ่มคนไทยตรงหน้าที่กำลังยืนคุยอยู่กับคนไข้ แม้ว่าจะฟังภาษาไทยไม่ออก ทว่าตามความรู้สึกของพยาบาลแล้ว พวกเขาน่าจะพูดยางอย่างให้กระทบกระเท