Home / โรแมนติก / เมียเด็กของคุณกัปตัน / ตอนที่ 5 ค้างคืนกลางป่าสองต่อสอง

Share

ตอนที่ 5 ค้างคืนกลางป่าสองต่อสอง

Author: InTheStars
last update Huling Na-update: 2025-09-10 17:40:35

ตอนที่ 5 ค้างคืนกลางป่าสองต่อสอง

“ฉันว่าเราเดินย้อนขึ้นไปตามแนวลำธารกันเถอะ เดินไปเรื่อยๆก็น่าจะถึงจุดที่เราถูกกระแสน้ำพัดมา”

เขาพูดพร้อมกับคลายลำแขนออกจากร่างบาง แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

(พรึ่บ)

“โอ๊ย!”

(ตุ๊บ!)

“หนู! เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”

ลลิสาพยายามดันตัวลุกขึ้นยืน แต่แล้วเธอก็ต้องล้มลงไปกองที่พื้น เนื่องจากข้อเท้าของเธอปูดบวม จนทำให้เธอทรงตัวไม่อยู่ กัปตันพิพัฒน์นั่งลงแล้วยื่นมือไปจับที่ข้อเท้าเล็ก

“จะ...เจ็บค่ะ”

เธอนิ่วหน้าด้วยความรู้สึกเจ็บปวด

“ข้อเท้าของหนูน่าจะไปโดนกับโขดหิน เจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า”

เขามองหน้าคนตัวเล็กด้วยความรู้สึกสงสาร

“มะ...ไม่ค่ะ เจ็บแค่ข้อเท้า”

“งั้นขี่หลังฉันนะ ฉันจะพาหนูกลับไปหาพ่อกับแม่เอง”

ลลิสาพยักหน้าตอบกลับ เขาพยายามประคองร่างเล็กขึ้นขี่หลัง

(พรึ่บ)

นัยน์ตาคมกวาดมองไปรอบๆบริเวณนั้น มันเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า ทุกอย่างกำลังเงียบสงัด มีแค่เพียงเสียงน้ำไหลเชี่ยว และไม่มีท่าทีว่าจะมีผู้คนอยู่แถวๆนั้น นอกจากเขาและเด็กสาวหน้าสวยคนนี้

“คุณกัปตันไหวไหมคะ หนักหรือเปล่า”

ลลิสาเอ่ยถามออกไป เขายังคงให้เธอขี่หลังเดินไปเรื่อยๆ

“ไม่หนักหรอก ฉันยังไหว”

“แต่มันมืดแล้วนะคะ ตอนนี้เราอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้”

เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พิพัฒน์รับรู้ได้ว่าเด็กสาวกำลังเกิดอาการหนาวสั่น

“แล้วเธอล่ะ ไหวหรือเปล่า”

“หนูหนาวค่ะ”

พิพัฒน์หยุดชะงักทันที เมื่อเขามองไปเห็นบ้านต้นไม้ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เขายืนประมาณสองร้อยเมตร

“หนูดูบ้านต้นไม้สิ เราไปตรงนั้นกันเถอะ เผื่อจะขอความช่วยเหลือจากคนในบ้านต้นไม้นั้นได้”

ดวงตากลมโตมองไปยังบ้านต้นไม้หลังนั้น

“มีใครอยู่ไหมครับ มีใครอยู่หรือเปล่า!”

ไม่ว่าพิพัฒน์จะเปล่งเสียงเรียกขนาดไหน แต่ก็ไม่มีเสียงใครตอบกลับมา เขามองไปรอบๆตัวบ้านต้นไม้ จึงได้เห็นตัวหนังสือที่เขียนเป็นภาษาอิตาลี

“บ้านพักชั่วคราวสำหรับเจ้าหน้าที่อุทยาน”

เขาอ่านตัวหนังสือนั้น จึงมั่นใจได้ว่า เขาสามารถพาเด็กสาวเข้าไปพักอยู่ในนั้นได้

“เราต้องพักที่นี่จนกว่าจะเช้า ค่อยหาทางออกไปจากตรงนี้ ฉันคิดว่าครอบครัวของเธอน่าจะแจ้งเจ้าหน้าที่แล้ว พวกเขาอาจจะตามมาเจอเราตรงนี้ก็ได้”

“ค่ะ หนูก็ไปต่อไม่ไหวเหมือนกัน หนูหนาว”

ด้วยเสื้อผ้าที่เปียกปอน ทำให้ร่างกายของลลิสาเย็นเฉียบและหนาวสั่น

(พรึ่บ)

เขาปล่อยร่างเล็กลงจากหลัง ก่อนจะใช้ลำแขนโอบอุ้มเธอขึ้นพาดบ่า มือหนาอีกข้างเกาะราวบันได โชคดีที่บ้านต้นไม้ไม่ได้อยู่สูงมาก เขาโอบอุ้มร่างเล็กขึ้นไปอยู่บนบ้านได้อย่างปล่อยภัย

“ดีจังเลยค่ะ มีแคร่มีผ้าห่มด้วย”

ลลิสาพูดออกมา เมื่อร่างของเธอถูกวางให้นั่งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่

“เจ้าหน้าที่น่าจะเข้ามาพักอยู่ที่นี่เมื่อไม่นาน ดูขวดน้ำดื่มสิ แล้วก็ถุงขนมปังที่วางอยู่บนโต๊ะ พวกเขาน่าจะมาพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ ฉันว่าเราคงต้องทานขนมปังพวกนี้แล้วล่ะ”

“ค่ะ หนูกำลังหิวด้วย”

เธอพูดพร้อมกับมองไปที่ถุงขนมปังหลายชิ้น มือหนาหยิบขึ้นมาแกะถุงออก จากนั้นจึงหยิบขนมปังยื่นให้สาวน้อย

“ทานสิ จะได้มีแรง พรุ่งนี้ค่อยเดินทางต่อ”

เธอยื่นมือไปหยิบขนมปังขึ้นมารับประทาน

“คุณกัปตันทานด้วยกันสิคะ”

“เธอทานให้อิ่มก่อนเถอะ ฉันทานตอนไหนก็ได้ ดูสิ ขนมปังและน้ำดื่มอยู่ในลังข้างๆประตูเต็มไปหมด แบบนี้เราไม่อดแล้ว”

เขาหยิบขนมปังออกจากถุง และทานไปหลายชิ้น

“หนูหนาว”

สาวน้อยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“เธอถอดเสื้อผ้าออกเถอะ ฉันจะเอาไปตากตรงหน้าต่าง น่าจะแห้งทันพรุ่งนี้เช้า”

“! ละ...แล้วหนูจะใส่อะไรคะ”

ลลิสาแสดงสีหน้าตกใจไม่น้อย

“เธอก็ใช้ผ้าห่มพันตัวไว้ไง ถอดเสื้อผ้าเถอะ ฉันไม่มองเธอหรอก ไม่ต้องกลัว ถ้าถอดเสร็จก็เรียกฉันแล้วกัน แต่ถ้าเธอไม่ถอดออก เธอก็จะต้องนอนหนาวจนเป็นไข้แน่ๆ แล้วแบบนี้ฉันจะทำยังไง ยาแก้ไข้ก็ไม่มี แถมยังมาหลงอยู่กลางป่าอีก”

เขาพูดในขณะที่ยืนหันหลังให้สาวน้อย

“ค่ะ หนูจะถอดเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เลย”

ลลิสาค่อยๆถอดกางเกงยีนส์ขายาวออกจากท่อนล่าง รวมไปถึงกางเกงชั้นในสีหวาน จากนั้นจึงถอดเสื้อครอปสีครีม ตามด้วยเสื้อชั้นใน เธอวางเสื้อผ้าลงที่พื้น แล้วรีบคว้าผ้าห่มผืนหนามาคลุมกาย แล้วนอนขดตัวอยู่บนแคร่ไม้

“เอ่อ...หนูถอดเสื้อผ้าเสร็จแล้วค่ะ”

เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ใบหน้าสาวน้อยร้อนผ่าว ลลิสาทั้งเขินและอาย ที่กัปตันผู้หล่อเหลากำลังนำเสื้อผ้าและชุดชั้นในของเธอไปตากตรงริมหน้าต่าง ยังดีที่เวลานี้เป็นเวลาฟ้ามืด เธอมองเห็นหน้าเขาเพียงเลือนลาง

(พรึ่บ)

ร่างแกร่งนั่งกอดเข่าหลังพิงประตูบ้านไม้ กัปตันพิพัฒน์รู้สึกเย็นไปทั้งร่างกาย เนื่องจากเขายังคงสวมใส่เสื้อผ้าที่เปียกชุ่ม

“คุณกัปตันหนาวไหมคะ”

คนที่กำลังนอนอยู่บนแคร่เอ่ยถามเขา

“ก็หนาวนะ ไม่เป็นไร ฉันทนได้”

“หนูเอาเปรียบคุณกัปตันเกินไปหรือเปล่าคะ”

“ไม่ต้องคิดมากหรอก ขอแค่คืนนี้หนูไม่เป็นไข้ ฉันก็สบายใจแล้ว พรุ่งนี้จะได้ออกเดินทางกันต่อ”

“ถ้าคุณกัปตันหนาว ขึ้นมานอนห่มผ้าด้วยกันนะคะ”

“ไม่เป็นไร หนูนอนเถอะ หนูน่าจะเพลีย พักผ่อนเถอะนะ”

“ค่ะ”

“เอ่อ...หนูอายุเท่าไหร่แล้ว แล้วชื่ออะไรล่ะ”

เขานึกขึ้นได้จึงเอ่ยถามออกไป

“หนูชื่อซาร่า อายุสิบแปดปี ย่างสิบเก้าค่ะ คุณกัปตันอายุเท่าไหร่คะ”

“ฉันชื่อพัฒน์ อายุสามสิบเก้าปี”

“สามสิบเก้าปีจริงๆเหรอคะ หนูนึกว่าคุณกัปตัน อายุมากกว่าหนูแค่สิบปี คุณกัปตันยังดูหนุ่มอยู่เลย แถมยังหล่อมากด้วย”

เธอพูดความในใจแบบไม่อ้อมค้อม

“หึ ฉันแก่แล้ว เป็นพ่อหนูได้เลยล่ะ ลูกสาวของฉันอายุเท่ากันกับหนูนั่นแหละ”

“ว่าไงนะคะ! คุณกัปตันมีลูกแล้วงั้นเหรอคะ”

เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างตกใจ

“เบาๆสิ อย่าเสียงดัง ฉันมีลูกตั้งแต่เรียนอยู่ปีหนึ่งน่ะ”

“โห...แบบนี้ภรรยาและลูกของคุณกัปตันต้องเป็นห่วงคุณกัปตันแน่ๆเลย หนูเป็นต้นเหตุทำให้คุณกัปตันหลงป่า”

“ไม่ต้องคิดมากหรอก ลูกสาวฉันไม่รู้เรื่องนี้ ฉันเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวน่ะ ไม่ได้อยู่กับแม่ของลูกตั้งแต่ลูกสาวลืมตาดูโลกแล้ว นอนเถอะเด็กน้อย พักผ่อนเยอะๆ พรุ่งนี้จะได้มีแรงออกเดินทาง”

“ค่ะ ฝันดีนะคะ คุณกัปตัน”

“...”

เขาไม่ได้ตอบกลับอะไร พิพัฒน์เพียงแค่นั่งกอดเข่าอมยิ้ม เขารู้สึกเอ็นดูเด็กสาวคนนี้ คงเพราะว่าเธอมีนิสัยร่าเริงคล้ายๆกับลูกสาวของเขา

“หนาว...ซาร่าหนาว...คุณแม่ขา...ซาร่าหนาว...กอดซาร่าหน่อยสิคะคุณแม่ คุณพ่อ...ช่วยซาร่าด้วย...หนาว”

ลลิสานอนส่งเสียงครางสั่นเครือ เธอพูดประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมา จนทำให้กัปตันพิพัฒน์สะดุ้งตื่น เขาต้องนั่งกอดเข่าทนหนาวอยู่อย่างนั้น

“หนาว...ซาร่าหนาว”

(พรึ่บ)

ร่างแกร่งลุกขึ้นเดินไปหยุดยืนข้างๆแคร่ไม้ไผ่ เขายื่นมือไปแตะที่หน้าผากมน

“โห ตัวเย็นขนาดนี้เลยเหรอ”

“ช่วยด้วย...หนาว”

คนตัวเล็กกำลังนอนขดอยู่ใต้ผ้าห่มด้วยอาการสั่นสะท้าน ถ้าขืนปล่อยไว้แบบนี้ เธออาจจะหนาวจนช็อคไปก็เป็นได้ พิพัฒน์ถึงกับถอนหายใจ เขาไม่มีเวลาคิดอะไรไปมากกว่านี้แล้ว

(พรึ่บ)

เสื้อเชิ้ตและกางเกงยีนส์ขากระบอก รวมไปถึงกางเกงชั้นใน ถูกถอดออกจากกายแกร่ง เขานำเสื้อผ้าไปตากไว้ใกล้ๆกับเสื้อผ้าของลลิสา

“ฉันขอโทษนะ ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ หนูอาจจะนอนหนาวจนช็อคแน่ๆ”

(พรึ่บ)

เขาพูดพึมพำก่อนจะก้าวขึ้นไปบนแคร่ไม้ไผ่ จากนั้นจึงล้มตัวลงนอน และคว้าร่างเล็กที่นอนขดอยู่ในผ้าห่มเข้ามากอดไว้แนบอก

“หนาว...หนูหนาว...ช่วยหนูด้วย”

ลำแขนเล็กยื่นมาโอบกอดกายแกร่งไว้แน่น ตัวของเธอเย็นเฉียบ พิพัฒน์เริ่มรู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วร่างกาย เมื่อร่างกายเปลือยเปล่าของเขากำลังสัมผัสกับร่างกายของเด็กสาว

------------------------------------

คุณกัปตันพัฒน์อย่าทำอะไรน้องนะ น้องยังเด็กอยู่ แค่กอดก็พอ ฝากกดไลค์คอมเม้นเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เมียเด็กของคุณกัปตัน   ตอนที่ 8 บอกเลิกผู้หญิงแพศยา

    ตอนที่ 8 บอกเลิกผู้หญิงแพศยาประเทศไทยกัปตันพิพัฒน์ทำหน้าที่นำเครื่องบินลงจอดยังสนามบิน ในช่วงเช้าตรู่ ร่างสูงในชุดเครื่องแบบกัปตัน เดินลากกระเป๋าเดินทางออกมาขึ้นรถที่จอดรออยู่ด้านหน้า“คุณพัฒน์จะกลับบ้านหรือไปคอนโดครับ”คนขับรถของเขาเอ่ยถามทันที“กลับบ้าน วันนี้ฉันจะพาลูกสาวไปดูหนังตอนเย็น”“ครับ”(ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง)เสียงแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นไลน์ดังขึ้นต่อเนื่อง พิพัฒน์นำโทรศัพท์ขึ้นมากดปลดล็อคหน้าจอ แล้วเข้าไปอ่านข้อความทันที “หึ ผู้หญิงแพศยา”เขาสบถคำหยาบในลำคอ เมื่อเห็นคลิปวีดีโอที่คนของเขาส่งเข้ามา มันเป็นเหตุการณ์ขณะที่แอนนี่กำลังเต้นยั่วยวน และกอดจูบกับชายหนุ่มเศรษฐีบ่อน้ำมัน ซึ่งเป็นคนที่พิพัฒน์เคยสงสัยความสัมพันธ์ของทั้งคู่มาก่อนหน้านั้น ทั้งสองกำลังกอดจูบกันอย่างดูดดื่ม ก่อนที่ชายต่างชาติผู้นั้นจะช้อนอุ้มแอนนี่เดินออกจากผับ แล้วไปขย่มกันต่อในรถหรู พิพัฒน์ไม่ได้รู้สึกโกรธหรือโมโหแต่อย่างใด ที่ผ่านมาเขาไม่ได้คิดจะลงหลักปักฐานกับผู้หญิงคนนี้อยู่แล้ว แต่ความสัมพันธ์ของเขาและเธอ มันคือความใกล้ชิด พิพัฒน์เบื่อกับความสัมพันธ์ชั่วคราวที่เขาเคยผ่านมา เขาจึงเลือกที่จะคบกับแอนนี่

  • เมียเด็กของคุณกัปตัน   ตอนที่7 หนูจะไม่มีวันลืมคุณ

    ตอนที่7 หนูจะไม่มีวันลืมคุณพิพัฒน์ย่อตัวลงเพื่อให้สาวน้อยนั่งที่เก้าอี้ บริเวณหน้าบ้านพักของเจ้าหน้าที่(พรึ่บ)“คุณพัฒน์เป็นยังไงบ้างคะ แอนนี่เป็นห่วงคุณมากรู้ไหม แอนนี่นอนไม่หลับทั้งคืน กลัวว่าคุณจะไม่กลับมาหาแอนนี่อีก”หญิงสาวสวมกอดชายคนรักไว้แนบแน่น ก่อนจะปลายตามองลลิสาที่กำลังโอบกอดบิดามารดา อยู่ด้านหลังของพิพัฒน์“ผมไม่เป็นอะไรอยู่แล้ว คุณไม่ต้องกังวล”มือหนาสองข้างจับที่ไหล่เล็กของแฟนสาว ลำแขนเล็กคลายออกจากร่างหนา พิพัฒน์หันกลับมามองสาวน้อยที่กำลังพูดคุยกับบิดามารดา“ลูกตัวร้อนมากเลยคุณ”มาดามริสาใช้ฝ่ามือแตะที่หน้าผากของลูกสาว “ซาร่าน่าจะมีไข้น่ะครับ รีบพาเธอไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่า”พิพัฒน์พูดกับคนทั้งสอง“รถพยาบาลกำลังมาครับ เจ้าหน้าที่ติดต่อมาบอกว่าเจอคุณกับลูกสาวผมแล้ว เจ้าหน้าที่ทางฝั่งนี้โทรแจ้งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วครับ ผมขอบคุณนะครับ ที่คุณช่วยชีวิตลูกสาวผมไว้ ถ้าไม่มีคุณอยู่ตรงนั้น ป่านนี้ลูกสาวของผมจะเป็นยังไงก็ไม่รู้”มิสเตอร์ฟรังโก้กล่าวขอบคุณกัปตันพิพัฒน์ด้วยความซาบซึ้ง ลลิสามองใบหน้ากัปตันผู้ใจดีอยู่ตลอดเวลา(พรึ่บ)ลำแขนแกร่งถูกสองแขนของแฟนสาวกอดรัดไว้แน่น เธอถลึ

  • เมียเด็กของคุณกัปตัน   ตอนที่ 6 นอนกอดทั้งคืน

    ตอนที่ 6 นอนกอดทั้งคืนเสียงลมพัดผ่านในยามดึก พิพัฒน์ไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ ขณะที่สาวน้อยในอ้อมกอดของเขากำลังหลับสบาย และพ่นลมหายใจกระทบลำคอของเขาอย่างต่อเนื่อง ลลิสายังคงนอนอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่น เขาจำเป็นต้องนอนกอดเธอเอาไว้ เธอจะได้ไม่ต้องนอนหนาวเหมือนช่วงแรก ลำแขนเล็กกอดรัดกายแกร่งไว้แน่น แก่นกายลำใหญ่แข็งขยายอยู่ตลอดเวลา พิพัฒน์รู้สึกถึงความปวดหนึบตรงกลางกายอยู่ตลอด เขาถอนลมหายใจเพื่อระงับอารมณ์ครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าเขาจะไม่ได้คิดอกุศลกับเธอ แต่ความรู้สึกของผู้ชาย มันเกิดขึ้นมาได้โดยอัตโนมัติ และร่างกายของเธอก็ไม่ได้เหมือนเด็ก ทั้งหน้าอกและสัดส่วนที่แนบชิดกับร่างของเขา มันเหมือนร่างกายของสาวที่โตเต็มตัว หน้าอกอวบใหญ่เบียดชิดกับหน้าท้องแกร่ง พิพัฒน์พยายามอดทนกับความรู้สึกของเขาเป็นอย่างมาก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดียังมีอยู่เต็มเปี่ยม เขาจึงไม่ฉวยโอกาสล่วงเกินเด็กสาวที่อยู่ในอ้อมกอด แสงสว่างจากดวงจันทร์สาดส่องเข้ามา พอให้ได้เห็นใบหน้าสวยหวานที่กำลังหลับสนิท“หึ เด็กอะไร สวยชะมัด ถ้าฉันอายุเท่าๆเธอ หรือเธออายุมากกว่านี้ ฉันคงจะจับเธอกินทั้งคืนแน่ๆ คงไม่ต้องมานอนปวด...อยู่แบบนี้หร

  • เมียเด็กของคุณกัปตัน   ตอนที่ 5 ค้างคืนกลางป่าสองต่อสอง

    ตอนที่ 5 ค้างคืนกลางป่าสองต่อสอง“ฉันว่าเราเดินย้อนขึ้นไปตามแนวลำธารกันเถอะ เดินไปเรื่อยๆก็น่าจะถึงจุดที่เราถูกกระแสน้ำพัดมา”เขาพูดพร้อมกับคลายลำแขนออกจากร่างบาง แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง(พรึ่บ)“โอ๊ย!”(ตุ๊บ!)“หนู! เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”ลลิสาพยายามดันตัวลุกขึ้นยืน แต่แล้วเธอก็ต้องล้มลงไปกองที่พื้น เนื่องจากข้อเท้าของเธอปูดบวม จนทำให้เธอทรงตัวไม่อยู่ กัปตันพิพัฒน์นั่งลงแล้วยื่นมือไปจับที่ข้อเท้าเล็ก“จะ...เจ็บค่ะ”เธอนิ่วหน้าด้วยความรู้สึกเจ็บปวด“ข้อเท้าของหนูน่าจะไปโดนกับโขดหิน เจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า”เขามองหน้าคนตัวเล็กด้วยความรู้สึกสงสาร“มะ...ไม่ค่ะ เจ็บแค่ข้อเท้า”“งั้นขี่หลังฉันนะ ฉันจะพาหนูกลับไปหาพ่อกับแม่เอง”ลลิสาพยักหน้าตอบกลับ เขาพยายามประคองร่างเล็กขึ้นขี่หลัง (พรึ่บ)นัยน์ตาคมกวาดมองไปรอบๆบริเวณนั้น มันเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า ทุกอย่างกำลังเงียบสงัด มีแค่เพียงเสียงน้ำไหลเชี่ยว และไม่มีท่าทีว่าจะมีผู้คนอยู่แถวๆนั้น นอกจากเขาและเด็กสาวหน้าสวยคนนี้“คุณกัปตันไหวไหมคะ หนักหรือเปล่า”ลลิสาเอ่ยถามออกไป เขายังคงให้เธอขี่หลังเดินไปเรื่อยๆ“ไม่หนักหรอก ฉันยัง

  • เมียเด็กของคุณกัปตัน   ตอนที่ 4 อุบัติเหตุ

    ตอนที่ 4 อุบัติเหตุในขณะที่กัปตันพิพัฒน์กำลังซุกไซ้ข้างๆซอกคอแฟนสาว จนเธอส่งเสียงครวญคราง และเป็นจังหวะที่ลลิสาเดินมาใกล้ๆเต็นท์ของเขา เธอเรียกหากัปตันผู้ใจดี พิพัฒน์ต้องรีบใช้มือปิดปากแฟนสาวเอาไว้ “คุณกัปตันคะ”“...”เขาไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด เพราะเกรงว่าเธอจะรู้ ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่“ไปไหนนะ”เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ และไม่เห็นว่าเขาอยู่ตรงนั้น ลลิสาจึงเดินกลับไปหาบิดามารดาของเธอทันที“ทำไมถือจานบาร์บีคิวกลับมาล่ะลูก”มารดาของเธอเอ่ยถาม“คุณกัปตันไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ เขาคงไม่ได้อยู่แถวนั้น ซาร่าทานเองดีกว่า”เธอหยิบบาร์บีคิวในจานขึ้นมาเคี้ยวตุ้ยๆเหมือนเด็ก มิสเตอร์ฟรังโก้และมาดามริสามองดูลูกสาวทานบาร์บีคิวด้วยความเอ็นดู ลลิสายังทำตัวเหมือนเด็กน้อยเวลาอยู่กับพวกเขา“ใส่เสื้อผ้าเถอะ”น้ำเสียงทุ้มพูดออกมา ก่อนจะพ่นลมหายใจออกทางปาก มันไม่ใช่การกระทำที่ดูหงุดหงิด และทำให้แอนนี่รู้สึกแปลกใจกับการกระทำของชายคนรัก“ไม่ทำแล้วเหรอคะ”“ไม่”“เด็กนั่นมาหาคุณพัฒน์ทำไมกัน ทำไมต้องมาขัดจังหวะด้วย”เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนข้างหงุดหงิด มันควรจะเป็นพิพัฒน์เสียมากกว่า ที่ต้องเป็นฝ่ายอารมณ์เสียเพร

  • เมียเด็กของคุณกัปตัน   ตอนที่3 เจอคุณกัปตันอีกครั้ง

    ตอนที่3 เจอคุณกัปตันอีกครั้ง“พร้อมที่จะออกเดินทางหรือยังลูกสาวพ่อ”มิสเตอร์ฟรังโก้ถามลูกสาว หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จสรรพ“ซาร่าพร้อมมากเลยค่ะคุณพ่อ ดูกระเป๋าสิคะ ซาร่าเตรียมเสื้อผ้าไว้หลายชุดมาก ตื่นเต้นสุดๆเลยค่ะ”เธอชี้นิ้วไปยังกระเป๋าถือใบใหญ่ที่วางอยู่บนโซฟา ลลิสาร่าเริงและตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด“คุณเตรียมของใช้ส่วนตัวและเสื้อผ้าครบแล้วใช่ไหม คุณริสา”เขาถามภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ“ฉันเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ”“งั้นเราออกเดินทางกันเลยนะ”“เย้ๆ ซาร่ารักคุณพ่อกับคุณแม่ที่สุดในโลกเลยค่ะ”รถบ้านของมิสเตอร์ฟรังโก้หยุดจอดกลางหุบเขาเขียวชอุ่มในเวลาเที่ยงวัน อากาศค่อนข้างดี เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเข้าสู่ฤดูร้อน “ว้าว! สวยมากเลยค่ะ”ลลิสาก้าวขาลงจากรถบ้านวิ่งไปที่ลานทุ่งหญ้าด้วยท่าทางตื่นเต้น ดวงตากลมโตมองดูใบหญ้าและดอกไม้ที่กำลังปลิวไสวไปตามลม เธอสูดลมหายใจรับอากาศบริสุทธิ์ สองสามีภรรยามองดูลูกสาวอย่างมีความสุข จากนั้นทั้งสองจึงเดินเข้าไปหาลูกสาวที่กำลังยืนหลับตาพริ้ม“ลูกอยากพักตรงนี้ใช่ไหมซาร่า หรืออยากจะไปพักที่รีสอร์ทบนภูเขา แล้วแต่ลูกเลยนะ”มิสเตอร์ฟรังโก้พูดกับลูกสาวพร้อมกับพยักพเยิ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status