ตอนที่ 4 อุบัติเหตุ
ในขณะที่กัปตันพิพัฒน์กำลังซุกไซ้ข้างๆซอกคอแฟนสาว จนเธอส่งเสียงครวญคราง และเป็นจังหวะที่ลลิสาเดินมาใกล้ๆเต็นท์ของเขา เธอเรียกหากัปตันผู้ใจดี พิพัฒน์ต้องรีบใช้มือปิดปากแฟนสาวเอาไว้ “คุณกัปตันคะ” “...” เขาไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด เพราะเกรงว่าเธอจะรู้ ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ “ไปไหนนะ” เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ และไม่เห็นว่าเขาอยู่ตรงนั้น ลลิสาจึงเดินกลับไปหาบิดามารดาของเธอทันที “ทำไมถือจานบาร์บีคิวกลับมาล่ะลูก” มารดาของเธอเอ่ยถาม “คุณกัปตันไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ เขาคงไม่ได้อยู่แถวนั้น ซาร่าทานเองดีกว่า” เธอหยิบบาร์บีคิวในจานขึ้นมาเคี้ยวตุ้ยๆเหมือนเด็ก มิสเตอร์ฟรังโก้และมาดามริสามองดูลูกสาวทานบาร์บีคิวด้วยความเอ็นดู ลลิสายังทำตัวเหมือนเด็กน้อยเวลาอยู่กับพวกเขา “ใส่เสื้อผ้าเถอะ” น้ำเสียงทุ้มพูดออกมา ก่อนจะพ่นลมหายใจออกทางปาก มันไม่ใช่การกระทำที่ดูหงุดหงิด และทำให้แอนนี่รู้สึกแปลกใจกับการกระทำของชายคนรัก “ไม่ทำแล้วเหรอคะ” “ไม่” “เด็กนั่นมาหาคุณพัฒน์ทำไมกัน ทำไมต้องมาขัดจังหวะด้วย” เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนข้างหงุดหงิด มันควรจะเป็นพิพัฒน์เสียมากกว่า ที่ต้องเป็นฝ่ายอารมณ์เสียเพราะไม่ได้ปลดปล่อย “คุณจะหงุดหงิดไปทำไมแอนนี่ เวลาเราอยู่ด้วยกัน ผมกับคุณก็เอากันทุกคืนอยู่แล้ว แค่มีคนมาขัดจังหวะ คุณถึงกับอารมณ์เสียขนาดนั้นเลยเหรอ อีกอย่าง เราไม่ควรทำแบบนี้ในเวลานี้ด้วยซ้ำ” เขาพูดพร้อมกับนำเสื้อเชิ้ตสีขาวมาสวมใส่ จากนั้นจึงเดินออกจากเต็นท์ไป ปล่อยให้แอนนี่นอนหน้าง้ำงออยู่เพียงลำพัง “คุณแม่คะ ซาร่าอยากไปถ่ายรูปตรงลำธารด้านล่างน่ะค่ะ ตรงนั้นสวยมาก คุณแม่ช่วยไปถ่ายรูปให้ซาร่าหน่อยได้ไหมคะ” “ไปสิลูก คุณฟรังโก้จะไปด้วยกันไหมคะ” มาดามริสาตอบกลับลูกสาว ก่อนจะหันมาเอ่ยถามสามีที่นั่งเอนหลังอยู่บนเก้าอี้แคมป์ปิ้ง “คุณไปกับลูกเถอะ อากาศดี ผมว่าจะนอนตรงนี้สักครึ่งชั่วโมง” “ค่ะ งั้นเราไปกันเถอะลูก” ลลิสาจูงมือมารดาเดินลงไปตรงลำธารที่ถูกล้อมรอบไปด้วยโขดหินและดอกไม้บาน เธอยืนโพสต์ท่าให้มารดาถ่ายรูปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นัยน์ตาคมของกัปตันวัย39 ปี กำลังมองมาที่เธอ เขาตั้งใจจะเดินไปนั่งเล่นใกล้ๆลำธารแห่งนั้นพอดี “สวยมากเลยค่ะคุณแม่ ซาร่าขอลงไปยืนอยู่ตรงโขดหินนะคะ อยากได้รูปที่เห็นลำธารชัดๆน่ะค่ะ” เธอมองดูรูปถ่ายในโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะขออนุญาตมารดา “จะดีเหรอลูก น้ำมันเชี่ยวเกินไปหรือเปล่า” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ซาร่าแค่ยืนตรงโขดหิน ไม่ได้ลงไปในน้ำค่ะ” “จ้ะ ระวังด้วยนะลูก” เธอถอดรองเท้าผ้าใบและถุงเท้าออก จากนั้นจึงค่อยๆเดินลงไปตามโขดหิน หญิงสาวยืนโพสต์ท่าให้มารดาของเธอถ่ายรูปให้อีกครั้ง “ขึ้นมาได้แล้วซาร่า” มาดามริสาเรียกลูกสาวด้วยความเป็นห่วง “ขออีกสองรูปนะคะคุณแม่” นางยอมทำตามคำขอของลูกสาว และกดโทรศัพท์ถ่ายรูปให้ลลิสาทันที (พรึ่บ!) (ว้าย!) (ตู้ม!) “ซาร่า!” มาดามริสาร้องเรียกชื่อลูกสาวด้วยความตกใจ ลลิสาพลัดตกลงไปในลำธารที่มีน้ำไหลเชี่ยวแรง (พรึ่บ) “คุณพัฒน์!” พิพัฒน์รีบวิ่งลงไปตรงจุดที่มาดามริสายืนอยู่ แอนนี่ตะโกนเรียกชื่อชายที่รักทันทีที่เธอเดินมาเห็นเขาวิ่งลงไปตรงลำธาร “ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยลูกสาวฉันด้วย!” มาดามริสาตะโกนเรียกให้คนมาช่วยลูกสาว นางพยายามจะลงไปช่วยลลิสา “คุณครับ รออยู่ตรงนี้ ผมจะลงไปช่วยลูกสาวคุณเอง” (ตู้ม!) กัปตันพิพัฒน์บอกมาดามริสา ก่อนที่เขาจะกระโดดลงไปในลำธารเพื่อช่วยลลิสา เขาคว้าร่างของเธอไว้ได้ทัน และพยายามว่ายทวนน้ำพาเธอขึ้นฝั่ง แต่กระแสน้ำกำลังไหลเชี่ยวแรงขึ้น จึงทำให้ร่างทั้งสองไหลไปตามน้ำด้วยความเร็ว “ซาร่าลูกแม่! ฮึกๆฮื่อๆ” “คุณพัฒน์! คุณพัฒน์!” มาดามริสาและแอนนี่ตะโกนเรียกชื่อคนที่รักพร้อมกัน เสียงเอะอะโวยวายของคนทั้งสองทำให้นักท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณนั้น พากันวิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์ “เกิดอะไรขึ้นคุณริสา คุณร้องทำไม แล้วลูกเราอยู่ไหน” มิสเตอร์ฟรังโก้วิ่งลงมาหาภรรยาหน้าตาตื่น “คุณคะ ลูก...ลูกเราตกลงไปในน้ำ ฮึกๆฮื่อๆ คุณผู้ชายคนนั้นกระโดดลงไปช่วยซาร่า ลูกเราและผู้ชายคนนั้นลอยหายไปกับน้ำแล้วค่ะ ฮึกๆฮื่อๆ จะทำยังไงดีคะคุณ” มาดามริสาร้องไห้ฟูมฟายด้วยความเป็นห่วงลูกสาว ความทุกข์กำลังถาโถมเข้ามาในจิตใจของนางจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “ใจเย็นๆนะคุณ ผมจะไปตามเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยลูกเอง” “ลูกคุณนี่มันตัวซวยจริงๆเลย คอยดูนะ ถ้าแฟนของฉันเป็นอะไรไป ฉันจะเอาเรื่องพวกคุณให้ถึงที่สุด!” แอนนี่ต่อว่ามิเตอร์ฟรังโก้และมาดามริสา คนทั้งสองไม่ได้ตอบกลับอะไร เขาคอยประคองภรรยาเดินขึ้นไปด้านบน และรีบสั่งให้คนของเขาไปแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที “พวกคุณพักอยู่ที่บ้านหลังนี้ก่อนนะครับ ถ้าเจ้าหน้าที่ตามหาคนทั้งสองเจอ พวกเขาจะพามาทีนี่ทันที พักผ่อนตามสบายนะครับ สองคนนั้นต้องปลอดภัย” เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งนั้นบอกสองสามีภรรยา รวมไปถึงแอนนี่ “ผมฝากด้วยนะครับ ช่วยลูกสาวผมและคุณผู้ชายคนนั้นด้วย” “นี่ก็จะมืดอยู่แล้ว แฟนของฉันเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ เพราะลูกสาวพวกคุณคนเดียว” แอนนี่ต่อว่าพวกเขาหลายครั้ง จนทำให้มิสเตอร์ฟรังโก้เกิดความรู้สึกไม่พอใจ “นี่คุณ ผมเข้าใจว่าคุณเป็นห่วงแฟนของคุณ ไม่มีใครอยากให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คุณเลิกต่อว่าพวกเราสักที เราต่างก็มีความทุกข์เหมือนกันทั้งนั้น คุณมาต่อว่าพวกผมแบบนี้ มันเกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาหรือเปล่า ถ้าผมอยู่ตรงนั้น ผมก็ต้องเป็นคนลงไปช่วยลูกสาวของผมเอง คงไม่ต้องลำบากถึงแฟนของคุณหรอก จะว่าไปแล้ว แฟนของคุณน่าจะมีนิสัยแตกต่างจากคุณมากเลยนะ เขาช่างมีน้ำใจลงไปช่วยลูกสาวผม ไม่เหมือนกับคุณ ที่ไม่มีน้ำใจเอาเสียเลย” แอนนี่ได้แต่ยืนกำหมัดกัดฟัน เธออยากจะกรีดร้องออกมาด้วยความโมโห ที่ถูกมิสเตอร์ฟรังโก้ต่อว่า แต่เธอต้องข่มอารมณ์เอาไว้ เนื่องจากตรงนั้นมีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่หลายคน “หนู! เป็นไงบ้าง” กัปตันพิพัฒน์พยายามเขย่าร่างสาวน้อยที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นหญ้า เขาเป็นคนช่วยเธอขึ้นมาจากน้ำ “หนู! ตื่นสิ” ลลิสายังคงนอนแน่นิ่ง กัปตันพิพัฒน์จึงตัดสินใจช่วยเหลือเธอด้วยการกดหน้าอกและผายปอด เขาทำอยู่แบบนั้นราวๆสองนาที ในที่สุดลลิสาก็สำรักน้ำออกมาและรู้สึกตัวทันที (แค่กๆๆ) (พรึ่บ) กัปตันพิพัฒน์ดีใจเป็นอย่างมาก ที่ลลิสารู้สึกตัว เขาเผลอจับร่างสาวน้อยขึ้นมากอดไว้แนบอก “หนูไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม หนูปลอดภัยแล้วนะ” “คุณกัปตัน” ลลิสาเรียกเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา มือหนาลูบศรีษะของเธอด้วยความอ่อนโยน “คุณกัปตันเป็นคนช่วยหนูเหรอคะ” เธอเอ่ยถาม ขณะที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของเขา “ใช่ ฉันเห็นหนูตกลงไปในน้ำ ฉันก็เลยรีบกระโดดลงไปช่วยหนูน่ะ” “แล้วตอนนี้เราอยู่ที่ไหนเหรอคะ” “...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” เขาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบคำถามเธอ ------------------------------------ ฝากกดไลค์คอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วยน๊า ใครชอบนิยายแนวโรแมนติก NCแซ่บ ต้องอ่านทุกตอนนะคะ😍😍ตอนที่ 8 บอกเลิกผู้หญิงแพศยาประเทศไทยกัปตันพิพัฒน์ทำหน้าที่นำเครื่องบินลงจอดยังสนามบิน ในช่วงเช้าตรู่ ร่างสูงในชุดเครื่องแบบกัปตัน เดินลากกระเป๋าเดินทางออกมาขึ้นรถที่จอดรออยู่ด้านหน้า“คุณพัฒน์จะกลับบ้านหรือไปคอนโดครับ”คนขับรถของเขาเอ่ยถามทันที“กลับบ้าน วันนี้ฉันจะพาลูกสาวไปดูหนังตอนเย็น”“ครับ”(ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง)เสียงแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นไลน์ดังขึ้นต่อเนื่อง พิพัฒน์นำโทรศัพท์ขึ้นมากดปลดล็อคหน้าจอ แล้วเข้าไปอ่านข้อความทันที “หึ ผู้หญิงแพศยา”เขาสบถคำหยาบในลำคอ เมื่อเห็นคลิปวีดีโอที่คนของเขาส่งเข้ามา มันเป็นเหตุการณ์ขณะที่แอนนี่กำลังเต้นยั่วยวน และกอดจูบกับชายหนุ่มเศรษฐีบ่อน้ำมัน ซึ่งเป็นคนที่พิพัฒน์เคยสงสัยความสัมพันธ์ของทั้งคู่มาก่อนหน้านั้น ทั้งสองกำลังกอดจูบกันอย่างดูดดื่ม ก่อนที่ชายต่างชาติผู้นั้นจะช้อนอุ้มแอนนี่เดินออกจากผับ แล้วไปขย่มกันต่อในรถหรู พิพัฒน์ไม่ได้รู้สึกโกรธหรือโมโหแต่อย่างใด ที่ผ่านมาเขาไม่ได้คิดจะลงหลักปักฐานกับผู้หญิงคนนี้อยู่แล้ว แต่ความสัมพันธ์ของเขาและเธอ มันคือความใกล้ชิด พิพัฒน์เบื่อกับความสัมพันธ์ชั่วคราวที่เขาเคยผ่านมา เขาจึงเลือกที่จะคบกับแอนนี่
ตอนที่7 หนูจะไม่มีวันลืมคุณพิพัฒน์ย่อตัวลงเพื่อให้สาวน้อยนั่งที่เก้าอี้ บริเวณหน้าบ้านพักของเจ้าหน้าที่(พรึ่บ)“คุณพัฒน์เป็นยังไงบ้างคะ แอนนี่เป็นห่วงคุณมากรู้ไหม แอนนี่นอนไม่หลับทั้งคืน กลัวว่าคุณจะไม่กลับมาหาแอนนี่อีก”หญิงสาวสวมกอดชายคนรักไว้แนบแน่น ก่อนจะปลายตามองลลิสาที่กำลังโอบกอดบิดามารดา อยู่ด้านหลังของพิพัฒน์“ผมไม่เป็นอะไรอยู่แล้ว คุณไม่ต้องกังวล”มือหนาสองข้างจับที่ไหล่เล็กของแฟนสาว ลำแขนเล็กคลายออกจากร่างหนา พิพัฒน์หันกลับมามองสาวน้อยที่กำลังพูดคุยกับบิดามารดา“ลูกตัวร้อนมากเลยคุณ”มาดามริสาใช้ฝ่ามือแตะที่หน้าผากของลูกสาว “ซาร่าน่าจะมีไข้น่ะครับ รีบพาเธอไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่า”พิพัฒน์พูดกับคนทั้งสอง“รถพยาบาลกำลังมาครับ เจ้าหน้าที่ติดต่อมาบอกว่าเจอคุณกับลูกสาวผมแล้ว เจ้าหน้าที่ทางฝั่งนี้โทรแจ้งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วครับ ผมขอบคุณนะครับ ที่คุณช่วยชีวิตลูกสาวผมไว้ ถ้าไม่มีคุณอยู่ตรงนั้น ป่านนี้ลูกสาวของผมจะเป็นยังไงก็ไม่รู้”มิสเตอร์ฟรังโก้กล่าวขอบคุณกัปตันพิพัฒน์ด้วยความซาบซึ้ง ลลิสามองใบหน้ากัปตันผู้ใจดีอยู่ตลอดเวลา(พรึ่บ)ลำแขนแกร่งถูกสองแขนของแฟนสาวกอดรัดไว้แน่น เธอถลึ
ตอนที่ 6 นอนกอดทั้งคืนเสียงลมพัดผ่านในยามดึก พิพัฒน์ไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ ขณะที่สาวน้อยในอ้อมกอดของเขากำลังหลับสบาย และพ่นลมหายใจกระทบลำคอของเขาอย่างต่อเนื่อง ลลิสายังคงนอนอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่น เขาจำเป็นต้องนอนกอดเธอเอาไว้ เธอจะได้ไม่ต้องนอนหนาวเหมือนช่วงแรก ลำแขนเล็กกอดรัดกายแกร่งไว้แน่น แก่นกายลำใหญ่แข็งขยายอยู่ตลอดเวลา พิพัฒน์รู้สึกถึงความปวดหนึบตรงกลางกายอยู่ตลอด เขาถอนลมหายใจเพื่อระงับอารมณ์ครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าเขาจะไม่ได้คิดอกุศลกับเธอ แต่ความรู้สึกของผู้ชาย มันเกิดขึ้นมาได้โดยอัตโนมัติ และร่างกายของเธอก็ไม่ได้เหมือนเด็ก ทั้งหน้าอกและสัดส่วนที่แนบชิดกับร่างของเขา มันเหมือนร่างกายของสาวที่โตเต็มตัว หน้าอกอวบใหญ่เบียดชิดกับหน้าท้องแกร่ง พิพัฒน์พยายามอดทนกับความรู้สึกของเขาเป็นอย่างมาก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดียังมีอยู่เต็มเปี่ยม เขาจึงไม่ฉวยโอกาสล่วงเกินเด็กสาวที่อยู่ในอ้อมกอด แสงสว่างจากดวงจันทร์สาดส่องเข้ามา พอให้ได้เห็นใบหน้าสวยหวานที่กำลังหลับสนิท“หึ เด็กอะไร สวยชะมัด ถ้าฉันอายุเท่าๆเธอ หรือเธออายุมากกว่านี้ ฉันคงจะจับเธอกินทั้งคืนแน่ๆ คงไม่ต้องมานอนปวด...อยู่แบบนี้หร
ตอนที่ 5 ค้างคืนกลางป่าสองต่อสอง“ฉันว่าเราเดินย้อนขึ้นไปตามแนวลำธารกันเถอะ เดินไปเรื่อยๆก็น่าจะถึงจุดที่เราถูกกระแสน้ำพัดมา”เขาพูดพร้อมกับคลายลำแขนออกจากร่างบาง แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง(พรึ่บ)“โอ๊ย!”(ตุ๊บ!)“หนู! เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”ลลิสาพยายามดันตัวลุกขึ้นยืน แต่แล้วเธอก็ต้องล้มลงไปกองที่พื้น เนื่องจากข้อเท้าของเธอปูดบวม จนทำให้เธอทรงตัวไม่อยู่ กัปตันพิพัฒน์นั่งลงแล้วยื่นมือไปจับที่ข้อเท้าเล็ก“จะ...เจ็บค่ะ”เธอนิ่วหน้าด้วยความรู้สึกเจ็บปวด“ข้อเท้าของหนูน่าจะไปโดนกับโขดหิน เจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า”เขามองหน้าคนตัวเล็กด้วยความรู้สึกสงสาร“มะ...ไม่ค่ะ เจ็บแค่ข้อเท้า”“งั้นขี่หลังฉันนะ ฉันจะพาหนูกลับไปหาพ่อกับแม่เอง”ลลิสาพยักหน้าตอบกลับ เขาพยายามประคองร่างเล็กขึ้นขี่หลัง (พรึ่บ)นัยน์ตาคมกวาดมองไปรอบๆบริเวณนั้น มันเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า ทุกอย่างกำลังเงียบสงัด มีแค่เพียงเสียงน้ำไหลเชี่ยว และไม่มีท่าทีว่าจะมีผู้คนอยู่แถวๆนั้น นอกจากเขาและเด็กสาวหน้าสวยคนนี้“คุณกัปตันไหวไหมคะ หนักหรือเปล่า”ลลิสาเอ่ยถามออกไป เขายังคงให้เธอขี่หลังเดินไปเรื่อยๆ“ไม่หนักหรอก ฉันยัง
ตอนที่ 4 อุบัติเหตุในขณะที่กัปตันพิพัฒน์กำลังซุกไซ้ข้างๆซอกคอแฟนสาว จนเธอส่งเสียงครวญคราง และเป็นจังหวะที่ลลิสาเดินมาใกล้ๆเต็นท์ของเขา เธอเรียกหากัปตันผู้ใจดี พิพัฒน์ต้องรีบใช้มือปิดปากแฟนสาวเอาไว้ “คุณกัปตันคะ”“...”เขาไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด เพราะเกรงว่าเธอจะรู้ ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่“ไปไหนนะ”เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ และไม่เห็นว่าเขาอยู่ตรงนั้น ลลิสาจึงเดินกลับไปหาบิดามารดาของเธอทันที“ทำไมถือจานบาร์บีคิวกลับมาล่ะลูก”มารดาของเธอเอ่ยถาม“คุณกัปตันไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ เขาคงไม่ได้อยู่แถวนั้น ซาร่าทานเองดีกว่า”เธอหยิบบาร์บีคิวในจานขึ้นมาเคี้ยวตุ้ยๆเหมือนเด็ก มิสเตอร์ฟรังโก้และมาดามริสามองดูลูกสาวทานบาร์บีคิวด้วยความเอ็นดู ลลิสายังทำตัวเหมือนเด็กน้อยเวลาอยู่กับพวกเขา“ใส่เสื้อผ้าเถอะ”น้ำเสียงทุ้มพูดออกมา ก่อนจะพ่นลมหายใจออกทางปาก มันไม่ใช่การกระทำที่ดูหงุดหงิด และทำให้แอนนี่รู้สึกแปลกใจกับการกระทำของชายคนรัก“ไม่ทำแล้วเหรอคะ”“ไม่”“เด็กนั่นมาหาคุณพัฒน์ทำไมกัน ทำไมต้องมาขัดจังหวะด้วย”เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนข้างหงุดหงิด มันควรจะเป็นพิพัฒน์เสียมากกว่า ที่ต้องเป็นฝ่ายอารมณ์เสียเพร
ตอนที่3 เจอคุณกัปตันอีกครั้ง“พร้อมที่จะออกเดินทางหรือยังลูกสาวพ่อ”มิสเตอร์ฟรังโก้ถามลูกสาว หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จสรรพ“ซาร่าพร้อมมากเลยค่ะคุณพ่อ ดูกระเป๋าสิคะ ซาร่าเตรียมเสื้อผ้าไว้หลายชุดมาก ตื่นเต้นสุดๆเลยค่ะ”เธอชี้นิ้วไปยังกระเป๋าถือใบใหญ่ที่วางอยู่บนโซฟา ลลิสาร่าเริงและตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด“คุณเตรียมของใช้ส่วนตัวและเสื้อผ้าครบแล้วใช่ไหม คุณริสา”เขาถามภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ“ฉันเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ”“งั้นเราออกเดินทางกันเลยนะ”“เย้ๆ ซาร่ารักคุณพ่อกับคุณแม่ที่สุดในโลกเลยค่ะ”รถบ้านของมิสเตอร์ฟรังโก้หยุดจอดกลางหุบเขาเขียวชอุ่มในเวลาเที่ยงวัน อากาศค่อนข้างดี เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเข้าสู่ฤดูร้อน “ว้าว! สวยมากเลยค่ะ”ลลิสาก้าวขาลงจากรถบ้านวิ่งไปที่ลานทุ่งหญ้าด้วยท่าทางตื่นเต้น ดวงตากลมโตมองดูใบหญ้าและดอกไม้ที่กำลังปลิวไสวไปตามลม เธอสูดลมหายใจรับอากาศบริสุทธิ์ สองสามีภรรยามองดูลูกสาวอย่างมีความสุข จากนั้นทั้งสองจึงเดินเข้าไปหาลูกสาวที่กำลังยืนหลับตาพริ้ม“ลูกอยากพักตรงนี้ใช่ไหมซาร่า หรืออยากจะไปพักที่รีสอร์ทบนภูเขา แล้วแต่ลูกเลยนะ”มิสเตอร์ฟรังโก้พูดกับลูกสาวพร้อมกับพยักพเยิ