ตอนที่ 8 บอกเลิกผู้หญิงแพศยา
ประเทศไทย กัปตันพิพัฒน์ทำหน้าที่นำเครื่องบินลงจอดยังสนามบิน ในช่วงเช้าตรู่ ร่างสูงในชุดเครื่องแบบกัปตัน เดินลากกระเป๋าเดินทางออกมาขึ้นรถที่จอดรออยู่ด้านหน้า “คุณพัฒน์จะกลับบ้านหรือไปคอนโดครับ” คนขับรถของเขาเอ่ยถามทันที “กลับบ้าน วันนี้ฉันจะพาลูกสาวไปดูหนังตอนเย็น” “ครับ” (ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง) เสียงแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นไลน์ดังขึ้นต่อเนื่อง พิพัฒน์นำโทรศัพท์ขึ้นมากดปลดล็อคหน้าจอ แล้วเข้าไปอ่านข้อความทันที “หึ ผู้หญิงแพศยา” เขาสบถคำหยาบในลำคอ เมื่อเห็นคลิปวีดีโอที่คนของเขาส่งเข้ามา มันเป็นเหตุการณ์ขณะที่แอนนี่กำลังเต้นยั่วยวน และกอดจูบกับชายหนุ่มเศรษฐีบ่อน้ำมัน ซึ่งเป็นคนที่พิพัฒน์เคยสงสัยความสัมพันธ์ของทั้งคู่มาก่อนหน้านั้น ทั้งสองกำลังกอดจูบกันอย่างดูดดื่ม ก่อนที่ชายต่างชาติผู้นั้นจะช้อนอุ้มแอนนี่เดินออกจากผับ แล้วไปขย่มกันต่อในรถหรู พิพัฒน์ไม่ได้รู้สึกโกรธหรือโมโหแต่อย่างใด ที่ผ่านมาเขาไม่ได้คิดจะลงหลักปักฐานกับผู้หญิงคนนี้อยู่แล้ว แต่ความสัมพันธ์ของเขาและเธอ มันคือความใกล้ชิด พิพัฒน์เบื่อกับความสัมพันธ์ชั่วคราวที่เขาเคยผ่านมา เขาจึงเลือกที่จะคบกับแอนนี่ เพราะไม่อยากเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ แต่ยิ่งนานวัน หญิงสาวยิ่งแสดงนิสัยที่แท้จริงของเธอให้เขาได้เห็น พิพัฒน์จึงเกิดความเบื่อหน่าย จนไม่รู้สึกเสียใจกับภาพและคลิปวีดีโอที่คนของเขาส่งมาให้ดู “ฮัลโหล ว่าไงเฮีย” พิพัฒน์ต่อสายหาน้องชายทันทีที่ดูคลิปวิดีโอจบ “จัดการย้ายแอนนี่ให้บินคนละไฟล์ทกับฉัน ทุกเที่ยวบินเลยนะ เอาแบบไม่ต้องได้เจอกันไปตลอดเลยก็ได้” พิพัฒน์สั่งน้องชายของเขา ซึ่งมีอำนาจและหน้าที่จัดการด้านนี้โดยตรง “มีอะไรหรือเปล่า เฮียทะเลาะกับแอนนี่เหรอครับ” ปลายสายเอ่ยถามทันที “ไม่ ฉันต้องการหยุดความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนี้ จัดการให้ด้วย” “ได้ครับเฮีย” สองวันต่อมา (ครืด ครืด ครืด) เสียงโทรศัพท์มือถือของพิพัฒน์ดังต่อเนื่อง เขากดตัดสายทิ้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขายังไม่พร้อมที่จะคุยกับปลายสายในเวลานี้ (ติ๊งติ๊งติ๊ง) Anny : ทำไมตารางเที่ยวบินของแอนนี่ถึงไม่ตรงกับคุณพัฒน์ล่ะ คุณพิภพสั่งย้ายแอนนี่เหรอคะ แอนนี่ส่งข้อความถามพิพัฒน์ทางไลน์ เธอหมายถึงน้องชายของเขา Pphat : ใช่ ผมเป็นคนบอกให้พิภพจัดการเอง Anny : ทำไมคะ คุณพัฒน์รับสายแอนนี่เดี๋ยวนี้ค่ะ Pphat : ผมไม่สะดวกที่จะคุยกับคุณ ถ้าคุณไม่พอใจเกี่ยวกับตารางบิน คุณลาออกก็ได้นะแอนนี่ ระหว่างคุณกับผม เราจบกันตั้งแต่วันนี้ เขาพิมพ์ข้อความส่งให้แอนนี่ พร้อมกับส่งคลิปวีดีโอทั้งหมด ไปในไลน์ของเธอ “กรี๊ดดดดดด!” หญิงสาวหวีดร้องออกมาเหมือนคนบ้า เมื่อเห็นคลิปตัวเองกำลังนัวเนียอยู่กับชายต่างชาติผู้นั้น และชายคนนั้นกำลังนอนอยู่ข้างๆเธอตอนนี้ “เป็นอะไรครับที่รัก” ชายหนุ่มเศรษฐีบ่อน้ำมันเอ่ยถามแอนนี่ ทั้งสองกำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยกัน โดยไร้เสื้อผ้าห่อหุ้มกาย “เอ่อ...แอนนี่คงจะตกงานแล้วค่ะ เจ้านายของแอนนี่ไล่แอนนี่ออก” เธอแต่งเรื่องโกหกชายคนนั้น “ก็ดีนี่ครับ คุณจะได้ย้ายมาอยู่กับผม รับรองว่าผมจะให้คุณได้ทุกอย่าง ชีวิตของคุณจะสุขสบายกว่าอยู่เมืองไทยเสียอีก” “คุณพูดจริงๆเหรอคะ คุณซาลิม” “จริงสิครับ ขอแค่คุณทำให้ผมมีความสุข ผมก็จะทำให้คุณมีความสุขที่สุดเลยล่ะ” “ค่ะ ที่รัก” หญิงสาวแสยะยิ้มด้วยความพอใจ แม้พิพัฒน์จะหลุดมือไป แต่อย่างน้อย เธอยังมีมหาเศรษฐีคนนี้ให้ได้เกาะต่อไป “เรามามีความสุขกันต่อนะคะที่รัก” (จ๊วบ) “อ๊าสสส” สองเดือนต่อมา “ซาร่า ลูกอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม” มาดามริสาถามลูกสาวด้วยความรู้สึกเป็นห่วง นางและสามีเดินทางมาส่งลูกสาวที่ประเทศไทย และวันนี้เป็นวันที่ลลิสาต้องย้ายเข้าไปอยู่ในคอนโดกลางกรุง “อยู่ได้สิคะคุณแม่ คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงซาร่านะคะ พี่บีมกับพี่แบมก็พักที่คอนโดนี้ ซาร่าไม่เหงาหรอกค่ะ” เธอหมายถึงพี่น้องฝาแฝด ซึ่งเป็นลูกสาวคุณป้าของเธอ “อีกสองเดือน ซาร่าอายุครบสิบเก้าปี ไว้วันเกิดลูก พ่อจะเดินทางมาฉลองวันเกิดลูกนะ ตั้งใจเรียนนะลูกพ่อ” มิสเตอร์ฟรังโก้ยื่นมือไปลูบศีรษะลูกสาวอย่างอ่อนโยน (พรึ่บ) “ซาร่ารักคุณพ่อคุณแม่ที่สุดในโลกเลยค่ะ” เธอสวมกอดบิดาและมารดาไว้แนบแน่น ก่อนที่ทั้งสองจะออกเดินทางไปสนามบิน เพื่อขึ้นเครื่องกลับอิตาลี ร่างสูง 170 เซนติเมตร สวมชุดนักศึกษาแบบกระโปรงพลีทเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัยชื่อดัง ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆมหาวิทยาลัย มันเป็นการเริ่มต้นใหม่ของลลิสา เพื่อนที่เรียนมัธยมด้วยกันต่างแยกย้ายกันไปเรียนที่อื่น เธอจึงไม่มีเพื่อนในที่นี้แม้แต่คนเดียว ร่างสูงเดินเข้าไปในลิฟต์ เพื่อที่จะขึ้นไปยังห้องเรียนของเธอ ภายในลิฟต์มีนักศึกษาอยู่ในนั้นสามคน ลลิสาเดินเข้าไปทีหลัง เธอส่งยิ้มให้นักศึกษาทั้งสามสาว พวกเขาส่งยิ้มกลับมา เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้น4 ทุกคนต่างเดินเข้าไปในห้องเรียนเดียวกัน ลลิสาจึงได้รู้ว่า นักศึกษาทั้งสามสาวคือเพื่อนร่วมคลาสเรียนเดียวกันกับเธอ “ขอนั่งด้วยคนนะ” ลลิสาพูดกับหญิงสาวร่างเล็ก ส่วนสูงของเธอราวๆ 160 เซนติเมตร “นั่งสิ” นักศึกษาสาวคนนั้นตอบกลับ พร้อมกับส่งยิ้มให้ลลิสา “ฉันชื่อซาร่านะ เธอชื่ออะไร” “ฉันชื่อแพรพลอย เรียกพลอยเฉยๆก็ได้ ส่วนคนนี้ดรีม คนนั้นเอิร์น พวกเราสามคนเรียนด้วยกันตั้งแต่มอปลายน่ะ” แพรพลอยบอกลลิสา ทั้งสามสาวส่งยิ้มให้ลลิสาอย่างเป็นมิตร ในที่สุดเธอก็ได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับนักศึกษาทั้งสามสาว เวลาเลยผ่านไปหลายเดือน ลลิสาและเพื่อนๆทั้งสามสาวสนิทกันมากขึ้น เธอกลายเป็นความสุขของเพื่อนๆ เนื่องจากลลิสาเป็นคนร่าเริง สดใส ซึ่งเข้ากับนิสัยของแพรพลอย ดรีม และเอิร์นเป็นอย่างดี ไม่เพียงแค่สี่สาวเท่านั้น กลุ่มของพวกเธอยังมีนักศึกษาชายแท้และชายเทียมอีกสองคนที่เป็นเพื่อนสนิทกัน “มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ วันนี้เธอมาเรียนเช้ากว่าปกตินะ” แพรพลอยถามลลิสา ที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาวาดรูปอยู่บนโต๊ะหินอ่อน หน้าคณะมนุษยศาสตร์ “วันนี้ฉันตื่นเช้าน่ะ ก็เลยมาเร็ว” ลลิสาตอบกลับเพื่อนรัก ขณะที่เธอยังคงก้มหน้าก้มตาวาดรูปด้วยความตั้งใจ “อุ๊ย! วาดรูปสวยอ่ะ เธอวาดรูปใครอ่ะซาร่า” “วาดรูปผู้ชายคนหนึ่งน่ะ เขาเคยช่วยชีวิตฉันไว้ ฉันคงไม่มีโอกาสได้เจอเขาอีก ฉันก็เลยนั่งวาดรูปเขาเพลินๆน่ะ” “ไหน ขอดูหน่อย” แพรพลอยหยิบสมุดวาดรูปของลลิสาขึ้นมาดู เธอค่อยๆเปิดดูทีละหน้า ลลิสาวาดรูปเดิมๆซ้ำไปซ้ำมา มันเป็นรูปภาพของชายคนหนึ่ง เขาสวมชุดกัปตันของสายการบินหนึ่ง “หล่อจังเลย เธอนี่วาดรูปเก่งจังเลยนะ” แพรพลอยเอ่ยชมลลิสา “ฉันฝึกวาดทุกวันน่ะ” “นั่งทำอะไรกันอยู่จ๊ะ สองสาว” ดรีมเดินเข้ามาทักทายสองเพื่อนรัก “อ้าวดรีม แล้วเอิร์นมายัง” แพรพลอยถาม “โน่นไง เอิร์นกำลังเดินมากับแบงค์กับกอล์ฟ” ดรีมตอบ พร้อมกับพยักพเยิดหน้าไปยังทิศทางที่เพื่อนๆกำลังเดินมา “รอพวกฉันอยู่เหรอ” เอิร์นถาม ทันทีที่เดินเข้ามาหาสามสาว “ใช่ พวกฉันกำลังรอพวกเธอนั่นแหละ เดือนหน้าก็สอบแล้ว ปิดเทอมพวกเราไปเที่ยวกันดีไหม” แพรพลอยพูดกับเพื่อนๆ “เที่ยวไหนกันดี” แบงค์ถามกลับ “เที่ยวภาคเหนือ หรือไม่ก็ภาคใต้” “แหมๆๆ เธอจะไปเที่ยวเหนือหรือใต้ ก่อนอื่น เธอต้องขออนุญาตคุณพ่อของเธอก่อนนะยัยพลอย คุณพ่อหวงยิ่งกว่าไข่ในหิน” ดรีมเอ่ยแซวแพรพลอย “ก็ไปแบบไม่บอกคุณพ่อไง คุณพ่อฉันทำงาน ไม่ค่อยมีเวลามาตามฉันหรอก คริคริ” แพรพลอยหัวเราะเริงร่า เพื่อนๆของเธอรู้สรรพคุณดี ว่าคุณพ่อของเธอหวงและห่วงมากขนาดไหน “ป่านนี้คุณกัปตันจะเป็นยังไงบ้างนะ สบายดีหรือเปล่า เคยนึกถึงเด็กน้อยคนนี้บ้างไหมน๊า หนูคิดถึงคุณกัปตันตลอด ผู้ชายใจดีของหนู หวังว่าสักวันหนูจะมีโอกาสได้เจอคุณกัปตันอีกนะคะ” ลลิสาพูดพึมพำ ขณะที่เธอกำลังนำกระดาษวาดภาพมาติดตรงผนังห้องนอน ซึ่งมันเป็นภาพที่เธอวาดกัปตันพิพัฒน์ขึ้นมานั่นเอง ------------------------------------- กัปตันพัฒน์เลิกกับยัยแอนนี่แล้วน๊า เมื่อไหร่น้องซาร่าจะได้เจอคุณกัปตันอีก ฝากติดตามตอนต่อไป กไลค์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วยน๊าตอนที่ 8 บอกเลิกผู้หญิงแพศยาประเทศไทยกัปตันพิพัฒน์ทำหน้าที่นำเครื่องบินลงจอดยังสนามบิน ในช่วงเช้าตรู่ ร่างสูงในชุดเครื่องแบบกัปตัน เดินลากกระเป๋าเดินทางออกมาขึ้นรถที่จอดรออยู่ด้านหน้า“คุณพัฒน์จะกลับบ้านหรือไปคอนโดครับ”คนขับรถของเขาเอ่ยถามทันที“กลับบ้าน วันนี้ฉันจะพาลูกสาวไปดูหนังตอนเย็น”“ครับ”(ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง)เสียงแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นไลน์ดังขึ้นต่อเนื่อง พิพัฒน์นำโทรศัพท์ขึ้นมากดปลดล็อคหน้าจอ แล้วเข้าไปอ่านข้อความทันที “หึ ผู้หญิงแพศยา”เขาสบถคำหยาบในลำคอ เมื่อเห็นคลิปวีดีโอที่คนของเขาส่งเข้ามา มันเป็นเหตุการณ์ขณะที่แอนนี่กำลังเต้นยั่วยวน และกอดจูบกับชายหนุ่มเศรษฐีบ่อน้ำมัน ซึ่งเป็นคนที่พิพัฒน์เคยสงสัยความสัมพันธ์ของทั้งคู่มาก่อนหน้านั้น ทั้งสองกำลังกอดจูบกันอย่างดูดดื่ม ก่อนที่ชายต่างชาติผู้นั้นจะช้อนอุ้มแอนนี่เดินออกจากผับ แล้วไปขย่มกันต่อในรถหรู พิพัฒน์ไม่ได้รู้สึกโกรธหรือโมโหแต่อย่างใด ที่ผ่านมาเขาไม่ได้คิดจะลงหลักปักฐานกับผู้หญิงคนนี้อยู่แล้ว แต่ความสัมพันธ์ของเขาและเธอ มันคือความใกล้ชิด พิพัฒน์เบื่อกับความสัมพันธ์ชั่วคราวที่เขาเคยผ่านมา เขาจึงเลือกที่จะคบกับแอนนี่
ตอนที่7 หนูจะไม่มีวันลืมคุณพิพัฒน์ย่อตัวลงเพื่อให้สาวน้อยนั่งที่เก้าอี้ บริเวณหน้าบ้านพักของเจ้าหน้าที่(พรึ่บ)“คุณพัฒน์เป็นยังไงบ้างคะ แอนนี่เป็นห่วงคุณมากรู้ไหม แอนนี่นอนไม่หลับทั้งคืน กลัวว่าคุณจะไม่กลับมาหาแอนนี่อีก”หญิงสาวสวมกอดชายคนรักไว้แนบแน่น ก่อนจะปลายตามองลลิสาที่กำลังโอบกอดบิดามารดา อยู่ด้านหลังของพิพัฒน์“ผมไม่เป็นอะไรอยู่แล้ว คุณไม่ต้องกังวล”มือหนาสองข้างจับที่ไหล่เล็กของแฟนสาว ลำแขนเล็กคลายออกจากร่างหนา พิพัฒน์หันกลับมามองสาวน้อยที่กำลังพูดคุยกับบิดามารดา“ลูกตัวร้อนมากเลยคุณ”มาดามริสาใช้ฝ่ามือแตะที่หน้าผากของลูกสาว “ซาร่าน่าจะมีไข้น่ะครับ รีบพาเธอไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่า”พิพัฒน์พูดกับคนทั้งสอง“รถพยาบาลกำลังมาครับ เจ้าหน้าที่ติดต่อมาบอกว่าเจอคุณกับลูกสาวผมแล้ว เจ้าหน้าที่ทางฝั่งนี้โทรแจ้งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วครับ ผมขอบคุณนะครับ ที่คุณช่วยชีวิตลูกสาวผมไว้ ถ้าไม่มีคุณอยู่ตรงนั้น ป่านนี้ลูกสาวของผมจะเป็นยังไงก็ไม่รู้”มิสเตอร์ฟรังโก้กล่าวขอบคุณกัปตันพิพัฒน์ด้วยความซาบซึ้ง ลลิสามองใบหน้ากัปตันผู้ใจดีอยู่ตลอดเวลา(พรึ่บ)ลำแขนแกร่งถูกสองแขนของแฟนสาวกอดรัดไว้แน่น เธอถลึ
ตอนที่ 6 นอนกอดทั้งคืนเสียงลมพัดผ่านในยามดึก พิพัฒน์ไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ ขณะที่สาวน้อยในอ้อมกอดของเขากำลังหลับสบาย และพ่นลมหายใจกระทบลำคอของเขาอย่างต่อเนื่อง ลลิสายังคงนอนอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่น เขาจำเป็นต้องนอนกอดเธอเอาไว้ เธอจะได้ไม่ต้องนอนหนาวเหมือนช่วงแรก ลำแขนเล็กกอดรัดกายแกร่งไว้แน่น แก่นกายลำใหญ่แข็งขยายอยู่ตลอดเวลา พิพัฒน์รู้สึกถึงความปวดหนึบตรงกลางกายอยู่ตลอด เขาถอนลมหายใจเพื่อระงับอารมณ์ครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าเขาจะไม่ได้คิดอกุศลกับเธอ แต่ความรู้สึกของผู้ชาย มันเกิดขึ้นมาได้โดยอัตโนมัติ และร่างกายของเธอก็ไม่ได้เหมือนเด็ก ทั้งหน้าอกและสัดส่วนที่แนบชิดกับร่างของเขา มันเหมือนร่างกายของสาวที่โตเต็มตัว หน้าอกอวบใหญ่เบียดชิดกับหน้าท้องแกร่ง พิพัฒน์พยายามอดทนกับความรู้สึกของเขาเป็นอย่างมาก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดียังมีอยู่เต็มเปี่ยม เขาจึงไม่ฉวยโอกาสล่วงเกินเด็กสาวที่อยู่ในอ้อมกอด แสงสว่างจากดวงจันทร์สาดส่องเข้ามา พอให้ได้เห็นใบหน้าสวยหวานที่กำลังหลับสนิท“หึ เด็กอะไร สวยชะมัด ถ้าฉันอายุเท่าๆเธอ หรือเธออายุมากกว่านี้ ฉันคงจะจับเธอกินทั้งคืนแน่ๆ คงไม่ต้องมานอนปวด...อยู่แบบนี้หร
ตอนที่ 5 ค้างคืนกลางป่าสองต่อสอง“ฉันว่าเราเดินย้อนขึ้นไปตามแนวลำธารกันเถอะ เดินไปเรื่อยๆก็น่าจะถึงจุดที่เราถูกกระแสน้ำพัดมา”เขาพูดพร้อมกับคลายลำแขนออกจากร่างบาง แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง(พรึ่บ)“โอ๊ย!”(ตุ๊บ!)“หนู! เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”ลลิสาพยายามดันตัวลุกขึ้นยืน แต่แล้วเธอก็ต้องล้มลงไปกองที่พื้น เนื่องจากข้อเท้าของเธอปูดบวม จนทำให้เธอทรงตัวไม่อยู่ กัปตันพิพัฒน์นั่งลงแล้วยื่นมือไปจับที่ข้อเท้าเล็ก“จะ...เจ็บค่ะ”เธอนิ่วหน้าด้วยความรู้สึกเจ็บปวด“ข้อเท้าของหนูน่าจะไปโดนกับโขดหิน เจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า”เขามองหน้าคนตัวเล็กด้วยความรู้สึกสงสาร“มะ...ไม่ค่ะ เจ็บแค่ข้อเท้า”“งั้นขี่หลังฉันนะ ฉันจะพาหนูกลับไปหาพ่อกับแม่เอง”ลลิสาพยักหน้าตอบกลับ เขาพยายามประคองร่างเล็กขึ้นขี่หลัง (พรึ่บ)นัยน์ตาคมกวาดมองไปรอบๆบริเวณนั้น มันเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า ทุกอย่างกำลังเงียบสงัด มีแค่เพียงเสียงน้ำไหลเชี่ยว และไม่มีท่าทีว่าจะมีผู้คนอยู่แถวๆนั้น นอกจากเขาและเด็กสาวหน้าสวยคนนี้“คุณกัปตันไหวไหมคะ หนักหรือเปล่า”ลลิสาเอ่ยถามออกไป เขายังคงให้เธอขี่หลังเดินไปเรื่อยๆ“ไม่หนักหรอก ฉันยัง
ตอนที่ 4 อุบัติเหตุในขณะที่กัปตันพิพัฒน์กำลังซุกไซ้ข้างๆซอกคอแฟนสาว จนเธอส่งเสียงครวญคราง และเป็นจังหวะที่ลลิสาเดินมาใกล้ๆเต็นท์ของเขา เธอเรียกหากัปตันผู้ใจดี พิพัฒน์ต้องรีบใช้มือปิดปากแฟนสาวเอาไว้ “คุณกัปตันคะ”“...”เขาไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด เพราะเกรงว่าเธอจะรู้ ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่“ไปไหนนะ”เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ และไม่เห็นว่าเขาอยู่ตรงนั้น ลลิสาจึงเดินกลับไปหาบิดามารดาของเธอทันที“ทำไมถือจานบาร์บีคิวกลับมาล่ะลูก”มารดาของเธอเอ่ยถาม“คุณกัปตันไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ เขาคงไม่ได้อยู่แถวนั้น ซาร่าทานเองดีกว่า”เธอหยิบบาร์บีคิวในจานขึ้นมาเคี้ยวตุ้ยๆเหมือนเด็ก มิสเตอร์ฟรังโก้และมาดามริสามองดูลูกสาวทานบาร์บีคิวด้วยความเอ็นดู ลลิสายังทำตัวเหมือนเด็กน้อยเวลาอยู่กับพวกเขา“ใส่เสื้อผ้าเถอะ”น้ำเสียงทุ้มพูดออกมา ก่อนจะพ่นลมหายใจออกทางปาก มันไม่ใช่การกระทำที่ดูหงุดหงิด และทำให้แอนนี่รู้สึกแปลกใจกับการกระทำของชายคนรัก“ไม่ทำแล้วเหรอคะ”“ไม่”“เด็กนั่นมาหาคุณพัฒน์ทำไมกัน ทำไมต้องมาขัดจังหวะด้วย”เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนข้างหงุดหงิด มันควรจะเป็นพิพัฒน์เสียมากกว่า ที่ต้องเป็นฝ่ายอารมณ์เสียเพร
ตอนที่3 เจอคุณกัปตันอีกครั้ง“พร้อมที่จะออกเดินทางหรือยังลูกสาวพ่อ”มิสเตอร์ฟรังโก้ถามลูกสาว หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จสรรพ“ซาร่าพร้อมมากเลยค่ะคุณพ่อ ดูกระเป๋าสิคะ ซาร่าเตรียมเสื้อผ้าไว้หลายชุดมาก ตื่นเต้นสุดๆเลยค่ะ”เธอชี้นิ้วไปยังกระเป๋าถือใบใหญ่ที่วางอยู่บนโซฟา ลลิสาร่าเริงและตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด“คุณเตรียมของใช้ส่วนตัวและเสื้อผ้าครบแล้วใช่ไหม คุณริสา”เขาถามภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ“ฉันเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ”“งั้นเราออกเดินทางกันเลยนะ”“เย้ๆ ซาร่ารักคุณพ่อกับคุณแม่ที่สุดในโลกเลยค่ะ”รถบ้านของมิสเตอร์ฟรังโก้หยุดจอดกลางหุบเขาเขียวชอุ่มในเวลาเที่ยงวัน อากาศค่อนข้างดี เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเข้าสู่ฤดูร้อน “ว้าว! สวยมากเลยค่ะ”ลลิสาก้าวขาลงจากรถบ้านวิ่งไปที่ลานทุ่งหญ้าด้วยท่าทางตื่นเต้น ดวงตากลมโตมองดูใบหญ้าและดอกไม้ที่กำลังปลิวไสวไปตามลม เธอสูดลมหายใจรับอากาศบริสุทธิ์ สองสามีภรรยามองดูลูกสาวอย่างมีความสุข จากนั้นทั้งสองจึงเดินเข้าไปหาลูกสาวที่กำลังยืนหลับตาพริ้ม“ลูกอยากพักตรงนี้ใช่ไหมซาร่า หรืออยากจะไปพักที่รีสอร์ทบนภูเขา แล้วแต่ลูกเลยนะ”มิสเตอร์ฟรังโก้พูดกับลูกสาวพร้อมกับพยักพเยิ