ตอนที่3 เจอคุณกัปตันอีกครั้ง
“พร้อมที่จะออกเดินทางหรือยังลูกสาวพ่อ” มิสเตอร์ฟรังโก้ถามลูกสาว หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จสรรพ “ซาร่าพร้อมมากเลยค่ะคุณพ่อ ดูกระเป๋าสิคะ ซาร่าเตรียมเสื้อผ้าไว้หลายชุดมาก ตื่นเต้นสุดๆเลยค่ะ” เธอชี้นิ้วไปยังกระเป๋าถือใบใหญ่ที่วางอยู่บนโซฟา ลลิสาร่าเริงและตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด “คุณเตรียมของใช้ส่วนตัวและเสื้อผ้าครบแล้วใช่ไหม คุณริสา” เขาถามภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ “ฉันเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ” “งั้นเราออกเดินทางกันเลยนะ” “เย้ๆ ซาร่ารักคุณพ่อกับคุณแม่ที่สุดในโลกเลยค่ะ” รถบ้านของมิสเตอร์ฟรังโก้หยุดจอดกลางหุบเขาเขียวชอุ่มในเวลาเที่ยงวัน อากาศค่อนข้างดี เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเข้าสู่ฤดูร้อน “ว้าว! สวยมากเลยค่ะ” ลลิสาก้าวขาลงจากรถบ้านวิ่งไปที่ลานทุ่งหญ้าด้วยท่าทางตื่นเต้น ดวงตากลมโตมองดูใบหญ้าและดอกไม้ที่กำลังปลิวไสวไปตามลม เธอสูดลมหายใจรับอากาศบริสุทธิ์ สองสามีภรรยามองดูลูกสาวอย่างมีความสุข จากนั้นทั้งสองจึงเดินเข้าไปหาลูกสาวที่กำลังยืนหลับตาพริ้ม “ลูกอยากพักตรงนี้ใช่ไหมซาร่า หรืออยากจะไปพักที่รีสอร์ทบนภูเขา แล้วแต่ลูกเลยนะ” มิสเตอร์ฟรังโก้พูดกับลูกสาวพร้อมกับพยักพเยิดหน้าไปยังเนินเขาสูง “ซาร่าอยากกางเต็นท์นอนตรงนี้ค่ะ คุณพ่อคุณแม่นอนในรถก็ได้ ซาร่าจะนอนในเต็นท์” “งั้นพ่อกับแม่ก็จะกางเต็นท์นอนใกล้ๆเต็นท์ของลูกแล้วกัน” “อีกหลายชั่วโมงกว่าจะได้นอน แม่ว่าเราไปชมธรรมชาติแถวนี้ก่อนดีไหม” มาดามริสาพูดขึ้น นางเตรียมรถจักรยานติดมาด้วย สามคนพ่อแม่ลูกปั่นจักรยานคนละคันไปตามเส้นทางที่จะไปร้านกาแฟ “คุณพัฒน์คะ ข้างหน้านั่นร้านอาหารหรือเปล่า เราแวะหาอะไรทานก่อนดีไหมคะ” แอนนี่พูดขึ้นขณะที่รถสปอร์ตหรูคันสีดำขับเข้ามาในเขตเทือกเขาโดโลไมต์ กัปตันพิพัฒน์เลี้ยวรถเข้าไปจอดในร้านอาหารที่ถูกล้อมรอบไปด้วยใบหญ้าและภูเขาสูง ตรงนั้นยังมีร้านกาแฟที่อยู่ติดกับร้านอาหารอีกด้วย ทั้งสองลงจากรถ แล้วเดินเข้าไปในร้านอาหารแห่งนั้น “คุณพัฒน์สั่งอาหารเลยนะคะ แอนนี่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” “ครับ” ขณะที่พิพัฒน์กำลังนั่งก้มหน้าดูรายการอาหาร เขาถึงกับชะงัก เมื่อได้ยินใครบางคนกำลังพูดเสียงเจื้อยแจ้วอยู่หน้าร้านกาแฟ ซึ่งอยู่ติดกันกับร้านอาหารที่เขานั่งอยู่ “อื๊อ...โกโก้มิ้นท์ร้านนี้อร่อยมากเลยค่ะคุณพ่อคุณแม่” หญิงสาวกำลังดูดโกโก้มิ้นท์ที่อยู่ในแก้วอย่างเอร็ดอร่อย “ซาร่าจะซื้ออะไรอีกหรือเปล่าลูก” “ไม่แล้วค่ะคุณแม่ เรากลับไปย่างบาร์บีคิวกันดีกว่านะคะ” เธอพูดพร้อมกับขึ้นคร่อมจักรยาน และปั่นออกไป โดยมีบิดามารดาปั่นจักรยานตามหลังไปติดๆ กัปตันพิพัฒน์มองตามเด็กสาวจนลับสายตา “มองอะไรเหรอคะคุณพัฒน์” “!” เขาสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงแฟนสาวเอ่ยถาม “เปล่าครับ” “คุณพัฒน์สั่งอะไรบ้างคะ” แอนนี่ถามพร้อมกับนั่งลงฝั่งตรงข้าม “เอ่อ...ผมยังไม่ได้สั่งครับ คุณแอนนี่อยากทานอะไรสั่งเลยนะ สั่งให้ผมด้วยแล้วกัน” “ค่ะ” ความรู้สึกลึกๆ หญิงสาวค่อนข้างหงุดหงิด แต่ไม่สามารถแสดงอาการออกมาให้เขาเห็นได้ เธอไม่ได้อยากมาที่นี่กับเขาเลยสักนิด “เราจะไปพักที่ไหนกันเหรอคะ” แอนนี่เอ่ยถาม ขณะที่ทั้งสองเดินไปขึ้นรถ หลังจากทานอาหารเสร็จ “ผมว่าจะไปกางเต็นท์นอนตรงหุบเขาข้างหน้าน่ะ” “กางเต็นท์นอนงั้นเหรอคะ แล้วห้องน้ำห้องอาบน้ำล่ะ” “บริเวณนั้นมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำอยู่ไม่ไกล เราจะพักที่นี่สองคืน หรือว่าคุณไม่สะดวก” “ปละ...เปล่าค่ะ แอนนี่อยู่ได้ทุกที่ที่มีคุณพัฒน์อยู่” รถสปอร์ตหรูแล่นเข้ามายังจุดจอดรถ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มากางเต็นท์นอนตรงหุบเขาแห่งนั้น พิพัฒน์ถอดแว่นตากันแดดออก เพื่อชมธรรมชาติที่สวยงาม เขานำเต็นท์ที่เตรียมไว้ออกมากาง พิพัฒน์ค่อนข้างมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด แตกต่างจากแอนนี่ที่รู้สึกเบื่อหน่าย แต่เธอต้องข่มความรู้สึกเอาไว้ข้างในเพื่อไม่ให้เขาเห็น “แอนนี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” “ครับ” “คุณพ่อคุณแม่คะ ดูสิคะ มีนักท่องเที่ยวหลายคนที่เขากางเต็นท์กันแล้ว เราจะกางเต็นท์กันตอนไหนเหรอคะ” “เดี๋ยวพ่อให้คนขับรถของเรากางเต็นท์ให้ตอนนี้เลยก็ได้” “ดอกไม้ตรงโน้นสวยมากเลยค่ะ ซาร่าขอไปถ่ายรูปก่อนนะคะ” “ตามสบายเลยลูก เดี๋ยวแม่ย่างบาร์บีคิวรอ” ลลิสาเดินไปบริเวณที่มีดอกไม้บานสะพรั่ง เธอกดมือถือถ่ายภาพดอกไม้และธรรมชาติ ก่อนที่จะชูโทรศัพท์มือถือขึ้น เพื่อถ่ายรูปตัวเองกับธรรมชาติ “ต้องการให้ฉันถ่ายรูปให้หรือเปล่า” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถามลลิสา เธอถึงกับหยุดชะงักและหันไปมองยังต้นเสียง “คุณกัปตัน!” ลลิสาเรียกคนตรงหน้าด้วยความดีใจ เธอไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้เจอกัปตันผู้หล่อเหลาและใจดีอีกครั้ง “คุณกัปตันมาเที่ยวเหรอคะ” “ใช่ บังเอิญจังเลยนะ เธอก็มาเที่ยวที่นี่เหมือนกัน” เขาพูดพร้อมกับมองเธอด้วยแววตาที่ดูอบอุ่น “ค่ะ หนูตั้งใจจะมาเที่ยวที่นี่โดยเฉพาะ กว่าจะอ้อนคุณพ่อกับคุณแม่ให้พามาได้ ถือว่าคุ้มค่าเลยค่ะ ที่นี่สวยมาก” “ไปยืนตรงนั้นสิ ส่งมือถือมา ฉันจะถ่ายรูปให้” “ค่ะ” หญิงสาวยิ้มอย่างสดใส เธอส่งโทรศัพท์มือถือให้กับพิพัฒน์ เขาทำหน้าที่ถ่ายรูปให้เธอต่อเนื่อง ก่อนจะส่งโทรศัพท์มือถือคืนให้เธอ “ขอบคุณนะคะที่ถ่ายรูปสวยๆให้หนู” “คุณพัฒน์คะ!” “ซาร่า ไปทานบาร์บีคิวได้แล้วลูก คุณพ่อรออยู่” ยังไม่ทันที่พิพัฒน์จะได้ตอบกลับลลิสา เสียงของหญิงคนรักกำลังเรียกชื่อเขาดังมาแต่ไกล พร้อมกับเสียงเรียกจากมารดาของลลิสา และนางกำลังเดินมุ่งหน้ามาหาลูกสาว “หนูขอตัวนะคะ คุณแม่กำลังมาตามค่ะ” เธอส่งยิ้มให้เขาก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น “แอนนี่ไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว คุณพัฒน์ก็ฉวยโอกาสไปคุยกับผู้หญิงคนอื่นแล้วเหรอคะ” แอนนี่เดินตรงเข้ามาต่อว่ากัปตันพิพัฒน์ “จะพูดอะไรช่วยถามผมก่อนนะแอนนี่ ไม่ใช่มาจับผิดผมตลอดเวลาแบบนี้ หัดมีเหตุผลบ้างก็ดี” “แอนนี่เป็นแฟนคุณ ก็ต้องหึงหวงคุณเป็นธรรมดา แล้วคุณพัฒน์คุยกับใครเหรอคะ” “คุยกับเด็กรุ่นลูก ผมเคยเจอเธอที่สนามบิน แล้วบังเอิญมาเจอที่นี่อีก เธอมาเที่ยวกับพ่อกับแม่ แค่ทักทายและช่วยถ่ายรูปให้ก็เท่านั้น ผมจะไปคิดอะไรกับเด็กรุ่นลูก” กัปตันพิพัฒน์พูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างหงุดหงิด “เหรอคะ แอนนี่ขอโทษค่ะ ก็เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นดูสวยและหุ่นดี ไม่ได้คิดว่าเป็นเด็กน่ะค่ะ” “รุ่นราวคราวเดียวกันกับลูกสาวผม ผมมองว่าเป็นเด็กทั้งนั้นล่ะ” เขาตอบกลับด้วยอารมณ์หงุดหงิดพอสมควร “แอนนี่ขอโทษนะคะที่รัก ต่อไปแอนนี่จะมีเหตุผลให้มากกว่านี้ เรามาดื่มไวน์กันดีกว่านะคะ ลมเย็นนั่งดื่มไวน์ในเต็นท์ บรรยากาศมันได้จริงๆค่ะ” เธอพยายามเอาใจเขาด้วยการยั่วยวน เพราะมันคือวิธีเดียวที่ทำให้กัปตันพิพัฒน์รู้สึกผ่อนคลาย และอารมณ์ดีขึ้นมาได้ “ซาร่าคุยกับใครเหรอลูก ตอนที่แม่เดินไปตามน่ะ” มารดาของเธอเอ่ยถาม ขณะที่ลูกสาวของนางกำลังเคี้ยวบาร์บีคิวอย่างเอร็ดอร่อย “กัปตันชาวไทยค่ะ ซาร่าเจอเขาที่สนามบินเมื่อวาน ซาร่าวูบในลิฟต์เพราะง่วงนอน เขาเป็นคนมาช่วยไว้ บังเอิญมาเจอกันที่นี่อีกน่ะค่ะ” “อ๋อ...น่าจะชวนเขามาทานบาร์บีคิวด้วยกันนะ” มาดามริสาบอกลูกสาว “พ่อว่าเราควรจะแบ่งบาร์บีคิวไปให้เขาทานมากกว่านะ เขาไม่ได้รู้จักครอบครัวเรา เขาอาจจะเกรงใจไม่กล้ามาน่ะ” “งั้นแม่แบ่งบาร์บีคิวร้อนๆใส่จานให้ หนูซาร่าเอาไปให้เขานะลูก” “ได้ค่ะคุณแม่” ลลิสายื่นมือไปรับจานบาร์บีคิวจากมารดา เธอยิ้มกว้างและเดินมุ่งหน้าไปที่เต็นท์ของกัปตันพิพัฒน์ “คุณกัปตันคะ” “อ๊า...อ๊าย...อุ๊บ!” ---------------------------------- น้องซาร่าเจอคุณกัปตันอีกแล้ว บังเอิญจังเลย🥰🥰ถ้าชอบนิยายแนวคลั่งรัก NCแซ่บ ฝากกดไลค์ให้ด้วยนะคะตอนที่ 8 บอกเลิกผู้หญิงแพศยาประเทศไทยกัปตันพิพัฒน์ทำหน้าที่นำเครื่องบินลงจอดยังสนามบิน ในช่วงเช้าตรู่ ร่างสูงในชุดเครื่องแบบกัปตัน เดินลากกระเป๋าเดินทางออกมาขึ้นรถที่จอดรออยู่ด้านหน้า“คุณพัฒน์จะกลับบ้านหรือไปคอนโดครับ”คนขับรถของเขาเอ่ยถามทันที“กลับบ้าน วันนี้ฉันจะพาลูกสาวไปดูหนังตอนเย็น”“ครับ”(ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง)เสียงแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นไลน์ดังขึ้นต่อเนื่อง พิพัฒน์นำโทรศัพท์ขึ้นมากดปลดล็อคหน้าจอ แล้วเข้าไปอ่านข้อความทันที “หึ ผู้หญิงแพศยา”เขาสบถคำหยาบในลำคอ เมื่อเห็นคลิปวีดีโอที่คนของเขาส่งเข้ามา มันเป็นเหตุการณ์ขณะที่แอนนี่กำลังเต้นยั่วยวน และกอดจูบกับชายหนุ่มเศรษฐีบ่อน้ำมัน ซึ่งเป็นคนที่พิพัฒน์เคยสงสัยความสัมพันธ์ของทั้งคู่มาก่อนหน้านั้น ทั้งสองกำลังกอดจูบกันอย่างดูดดื่ม ก่อนที่ชายต่างชาติผู้นั้นจะช้อนอุ้มแอนนี่เดินออกจากผับ แล้วไปขย่มกันต่อในรถหรู พิพัฒน์ไม่ได้รู้สึกโกรธหรือโมโหแต่อย่างใด ที่ผ่านมาเขาไม่ได้คิดจะลงหลักปักฐานกับผู้หญิงคนนี้อยู่แล้ว แต่ความสัมพันธ์ของเขาและเธอ มันคือความใกล้ชิด พิพัฒน์เบื่อกับความสัมพันธ์ชั่วคราวที่เขาเคยผ่านมา เขาจึงเลือกที่จะคบกับแอนนี่
ตอนที่7 หนูจะไม่มีวันลืมคุณพิพัฒน์ย่อตัวลงเพื่อให้สาวน้อยนั่งที่เก้าอี้ บริเวณหน้าบ้านพักของเจ้าหน้าที่(พรึ่บ)“คุณพัฒน์เป็นยังไงบ้างคะ แอนนี่เป็นห่วงคุณมากรู้ไหม แอนนี่นอนไม่หลับทั้งคืน กลัวว่าคุณจะไม่กลับมาหาแอนนี่อีก”หญิงสาวสวมกอดชายคนรักไว้แนบแน่น ก่อนจะปลายตามองลลิสาที่กำลังโอบกอดบิดามารดา อยู่ด้านหลังของพิพัฒน์“ผมไม่เป็นอะไรอยู่แล้ว คุณไม่ต้องกังวล”มือหนาสองข้างจับที่ไหล่เล็กของแฟนสาว ลำแขนเล็กคลายออกจากร่างหนา พิพัฒน์หันกลับมามองสาวน้อยที่กำลังพูดคุยกับบิดามารดา“ลูกตัวร้อนมากเลยคุณ”มาดามริสาใช้ฝ่ามือแตะที่หน้าผากของลูกสาว “ซาร่าน่าจะมีไข้น่ะครับ รีบพาเธอไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่า”พิพัฒน์พูดกับคนทั้งสอง“รถพยาบาลกำลังมาครับ เจ้าหน้าที่ติดต่อมาบอกว่าเจอคุณกับลูกสาวผมแล้ว เจ้าหน้าที่ทางฝั่งนี้โทรแจ้งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วครับ ผมขอบคุณนะครับ ที่คุณช่วยชีวิตลูกสาวผมไว้ ถ้าไม่มีคุณอยู่ตรงนั้น ป่านนี้ลูกสาวของผมจะเป็นยังไงก็ไม่รู้”มิสเตอร์ฟรังโก้กล่าวขอบคุณกัปตันพิพัฒน์ด้วยความซาบซึ้ง ลลิสามองใบหน้ากัปตันผู้ใจดีอยู่ตลอดเวลา(พรึ่บ)ลำแขนแกร่งถูกสองแขนของแฟนสาวกอดรัดไว้แน่น เธอถลึ
ตอนที่ 6 นอนกอดทั้งคืนเสียงลมพัดผ่านในยามดึก พิพัฒน์ไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ ขณะที่สาวน้อยในอ้อมกอดของเขากำลังหลับสบาย และพ่นลมหายใจกระทบลำคอของเขาอย่างต่อเนื่อง ลลิสายังคงนอนอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่น เขาจำเป็นต้องนอนกอดเธอเอาไว้ เธอจะได้ไม่ต้องนอนหนาวเหมือนช่วงแรก ลำแขนเล็กกอดรัดกายแกร่งไว้แน่น แก่นกายลำใหญ่แข็งขยายอยู่ตลอดเวลา พิพัฒน์รู้สึกถึงความปวดหนึบตรงกลางกายอยู่ตลอด เขาถอนลมหายใจเพื่อระงับอารมณ์ครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าเขาจะไม่ได้คิดอกุศลกับเธอ แต่ความรู้สึกของผู้ชาย มันเกิดขึ้นมาได้โดยอัตโนมัติ และร่างกายของเธอก็ไม่ได้เหมือนเด็ก ทั้งหน้าอกและสัดส่วนที่แนบชิดกับร่างของเขา มันเหมือนร่างกายของสาวที่โตเต็มตัว หน้าอกอวบใหญ่เบียดชิดกับหน้าท้องแกร่ง พิพัฒน์พยายามอดทนกับความรู้สึกของเขาเป็นอย่างมาก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดียังมีอยู่เต็มเปี่ยม เขาจึงไม่ฉวยโอกาสล่วงเกินเด็กสาวที่อยู่ในอ้อมกอด แสงสว่างจากดวงจันทร์สาดส่องเข้ามา พอให้ได้เห็นใบหน้าสวยหวานที่กำลังหลับสนิท“หึ เด็กอะไร สวยชะมัด ถ้าฉันอายุเท่าๆเธอ หรือเธออายุมากกว่านี้ ฉันคงจะจับเธอกินทั้งคืนแน่ๆ คงไม่ต้องมานอนปวด...อยู่แบบนี้หร
ตอนที่ 5 ค้างคืนกลางป่าสองต่อสอง“ฉันว่าเราเดินย้อนขึ้นไปตามแนวลำธารกันเถอะ เดินไปเรื่อยๆก็น่าจะถึงจุดที่เราถูกกระแสน้ำพัดมา”เขาพูดพร้อมกับคลายลำแขนออกจากร่างบาง แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง(พรึ่บ)“โอ๊ย!”(ตุ๊บ!)“หนู! เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”ลลิสาพยายามดันตัวลุกขึ้นยืน แต่แล้วเธอก็ต้องล้มลงไปกองที่พื้น เนื่องจากข้อเท้าของเธอปูดบวม จนทำให้เธอทรงตัวไม่อยู่ กัปตันพิพัฒน์นั่งลงแล้วยื่นมือไปจับที่ข้อเท้าเล็ก“จะ...เจ็บค่ะ”เธอนิ่วหน้าด้วยความรู้สึกเจ็บปวด“ข้อเท้าของหนูน่าจะไปโดนกับโขดหิน เจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า”เขามองหน้าคนตัวเล็กด้วยความรู้สึกสงสาร“มะ...ไม่ค่ะ เจ็บแค่ข้อเท้า”“งั้นขี่หลังฉันนะ ฉันจะพาหนูกลับไปหาพ่อกับแม่เอง”ลลิสาพยักหน้าตอบกลับ เขาพยายามประคองร่างเล็กขึ้นขี่หลัง (พรึ่บ)นัยน์ตาคมกวาดมองไปรอบๆบริเวณนั้น มันเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า ทุกอย่างกำลังเงียบสงัด มีแค่เพียงเสียงน้ำไหลเชี่ยว และไม่มีท่าทีว่าจะมีผู้คนอยู่แถวๆนั้น นอกจากเขาและเด็กสาวหน้าสวยคนนี้“คุณกัปตันไหวไหมคะ หนักหรือเปล่า”ลลิสาเอ่ยถามออกไป เขายังคงให้เธอขี่หลังเดินไปเรื่อยๆ“ไม่หนักหรอก ฉันยัง
ตอนที่ 4 อุบัติเหตุในขณะที่กัปตันพิพัฒน์กำลังซุกไซ้ข้างๆซอกคอแฟนสาว จนเธอส่งเสียงครวญคราง และเป็นจังหวะที่ลลิสาเดินมาใกล้ๆเต็นท์ของเขา เธอเรียกหากัปตันผู้ใจดี พิพัฒน์ต้องรีบใช้มือปิดปากแฟนสาวเอาไว้ “คุณกัปตันคะ”“...”เขาไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด เพราะเกรงว่าเธอจะรู้ ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่“ไปไหนนะ”เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ และไม่เห็นว่าเขาอยู่ตรงนั้น ลลิสาจึงเดินกลับไปหาบิดามารดาของเธอทันที“ทำไมถือจานบาร์บีคิวกลับมาล่ะลูก”มารดาของเธอเอ่ยถาม“คุณกัปตันไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ เขาคงไม่ได้อยู่แถวนั้น ซาร่าทานเองดีกว่า”เธอหยิบบาร์บีคิวในจานขึ้นมาเคี้ยวตุ้ยๆเหมือนเด็ก มิสเตอร์ฟรังโก้และมาดามริสามองดูลูกสาวทานบาร์บีคิวด้วยความเอ็นดู ลลิสายังทำตัวเหมือนเด็กน้อยเวลาอยู่กับพวกเขา“ใส่เสื้อผ้าเถอะ”น้ำเสียงทุ้มพูดออกมา ก่อนจะพ่นลมหายใจออกทางปาก มันไม่ใช่การกระทำที่ดูหงุดหงิด และทำให้แอนนี่รู้สึกแปลกใจกับการกระทำของชายคนรัก“ไม่ทำแล้วเหรอคะ”“ไม่”“เด็กนั่นมาหาคุณพัฒน์ทำไมกัน ทำไมต้องมาขัดจังหวะด้วย”เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนข้างหงุดหงิด มันควรจะเป็นพิพัฒน์เสียมากกว่า ที่ต้องเป็นฝ่ายอารมณ์เสียเพร
ตอนที่3 เจอคุณกัปตันอีกครั้ง“พร้อมที่จะออกเดินทางหรือยังลูกสาวพ่อ”มิสเตอร์ฟรังโก้ถามลูกสาว หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จสรรพ“ซาร่าพร้อมมากเลยค่ะคุณพ่อ ดูกระเป๋าสิคะ ซาร่าเตรียมเสื้อผ้าไว้หลายชุดมาก ตื่นเต้นสุดๆเลยค่ะ”เธอชี้นิ้วไปยังกระเป๋าถือใบใหญ่ที่วางอยู่บนโซฟา ลลิสาร่าเริงและตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด“คุณเตรียมของใช้ส่วนตัวและเสื้อผ้าครบแล้วใช่ไหม คุณริสา”เขาถามภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ“ฉันเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ”“งั้นเราออกเดินทางกันเลยนะ”“เย้ๆ ซาร่ารักคุณพ่อกับคุณแม่ที่สุดในโลกเลยค่ะ”รถบ้านของมิสเตอร์ฟรังโก้หยุดจอดกลางหุบเขาเขียวชอุ่มในเวลาเที่ยงวัน อากาศค่อนข้างดี เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเข้าสู่ฤดูร้อน “ว้าว! สวยมากเลยค่ะ”ลลิสาก้าวขาลงจากรถบ้านวิ่งไปที่ลานทุ่งหญ้าด้วยท่าทางตื่นเต้น ดวงตากลมโตมองดูใบหญ้าและดอกไม้ที่กำลังปลิวไสวไปตามลม เธอสูดลมหายใจรับอากาศบริสุทธิ์ สองสามีภรรยามองดูลูกสาวอย่างมีความสุข จากนั้นทั้งสองจึงเดินเข้าไปหาลูกสาวที่กำลังยืนหลับตาพริ้ม“ลูกอยากพักตรงนี้ใช่ไหมซาร่า หรืออยากจะไปพักที่รีสอร์ทบนภูเขา แล้วแต่ลูกเลยนะ”มิสเตอร์ฟรังโก้พูดกับลูกสาวพร้อมกับพยักพเยิ