คลับหรูใจกลางเมือง
"ภู!" เสียงเรียกจากชั้นสองของโซนวีไอพีเรียกสายตาของหนุ่มหล่อที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงยีนส์ขายาวสีเดียวกัน เข็มขัดยี่ห้อดังที่ประดับบนเอวสอบ บ่งบอกถึงรสนิยมและฐานะของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี ตลอดทางเดินภูพิงค์รับรู้ถึงการทอดสะพานและมองมาที่เขาด้วยความสนใจ ทว่า พักนี้เขาไม่ถูกใจใครเลย! เบื่อๆ หรือบางทีมันอาจจะเป็นเพราะว่า มีคนที่รอให้เขากินอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้อดอยาก ซ้ำความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขามันก็โคตรดี "มึงมาเร็วกว่าที่คิดนะ" ธาม พูดถึงสิ่งที่ผิดวิสัย เป็นเวลาที่หนุ่มฮอตภายในกลุ่มทิ้งตัวลงบนโซฟาที่ว่าง กลิ่นน้ำหอมฟุ้ง กลิ่นหอมแบบสปอร์ต ฮอตพอๆ กับหน้าและท่าทาง "ปกติกูช้ามากว่างั้น?" "เออไงสัส กูว่ามึงติดหญิงชัวร์" "เออ ชักอยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นแล้วดิ กูเคยเจอป่าว" ติวเตอร์ หนุ่มหล่ออีกคนที่อยู่ในกลุ่มพูดขึ้นบ้าง แต่พวกเขาก็ได้รับเพียงรอยยิ้มบนมุมปากเป็นการตอบรับกลับมา "ของกูอ่ะ วันนี้ขอเบาๆ นะเว้ย เรื่อยๆ ไม่รีบ" "ปกติรีบจัด ว่าแต่ หลานแฝดของมึงนี่หน้าเหมือนกันปะ" ติวเตอร์ถามซ้ำ ขณะเดียวกันก็รีบจัดการแก้วเครื่องดื่มให้เพื่อนในแบบที่เพื่อนต้องการ "เหมือนดิ แต่คงจะแยกง่ายหน่อยเพราะแฝดชายหญิง" "ต่อให้จะเป็นแฝดแบบผู้หญิงทั้งสอง ไอ้ภูมันก็แยกออกอยู่ดีปะล่ะ" ธามยักคิ้วขึ้นมา จะเพราะอะไรกันล่ะที่เขาต้องพูดแบบนี้ ก็เพราะหนุ่มฮอตอย่างภูพิงค์มีชีวิตวนเวียนอยู่กับสาวสวยคู่แฝดอยู่น่ะสิ! "มิรากับไอติมไง สวยทั้งคู่ ถ้าจะให้กูเชียร์ มิราดีกว่า" "เพราะอะไรวะ" ติวเตอร์เอ่ยถาม ซึ่งธามก็รีบรับผิดชอบคำพูดของตัวเองทันที "ที่พูดแบบนี้กูไม่ได้จะบอกว่าไอติมไม่สวยและไม่น่าสนใจนะเว้ย ไอน่ะสวย แต่คิดว่าไอจะเอาไอ้ภูไหม เห็นสันดาน เห็นไส้ ผู้หญิงคนไหนจะอยากเป็นของเล่นผู้ชายกันวะ ที่สำคัญผู้ชายที่ว่านี่ยังเป็นเพื่อนกันอีก ไอไม่มีทางเอามัน" คำพูดของธามทำภูพิงค์คิดตาม ก็จริงของมัน คนอย่างเขาเคยคบใครเป็นตัวเป็นตนที่ไหน ทุกคนรู้กันว่าเขาเป็นพวกขี้เบื่อ รักชีวิตอิสระ ไม่ชอบมีพันธะ แน่นอนว่า เขาไม่มีทางยอมเอาชีวิตไปฝากไว้ที่ใคร ว่าไปก็แปลกฉิบหาย คนที่ไม่คิดว่าจะได้เขากลับได้ แม้ครั้งแรกจะเกิดขึ้นเพราะความไม่ได้ตั้งใจ แต่แล้วยังไง ก็เห็นว่ายังมีครั้งต่อๆ ไปอยู่เลย "ยิ้มมุมปากแบบนี้หมายความว่าไงวะ" ธามจ้องหน้าหนุ่มฮอตนิ่ง ภูพิงค์ไหวไหล่ตอบรับทันที "กูก็แค่อารมณ์ดี" "แล้วสรุป น้องมินี่สนใจป่าว? มึงไม่เอากูเอานะ" "ตามสบายเถอะว่ะ รู้สึกว่าพักนี้กูจะอิ่มตัว" ว่าจบก็คว้าแก้วบรั่นดีมากระดกผ่านลำคออย่างอารมณ์ดี ท่าทางที่แปลกไปทำหนุ่มหล่อทั้งสองอย่างธามและติวเตอร์มองหน้ากันอย่างงุนงง เสียงเพลงในผับวันนี้ดูเข้าหูจนหนุ่มหล่อดูอารมณ์ดีผิดหูผิดตา แวบหนึ่งที่ภูพิงค์ล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขากำลังคาดหวังว่าบนนั้นจะมีข้อความของใครบางคน ทว่าผิดคาด ว่างเปล่า เขาแค่คิดในสิ่งที่มันไม่เคยเกิดจริง หลายเดือนในความสัมพันธ์ ไอติมไม่เคยโทรตาม ไม่เคยเรียกร้องอะไรสักอย่าง แบบนี้ล่ะมั้งเขาเลยรู้สึกถึงคำว่า อิ่มตัว รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นที่มุมปากหนาอีกครั้ง ดวงตาคมกริบแฝงไปด้วยเสน่ห์เลื่อนมองเรื่อยเปื่อย ทว่าหนุ่มหล่อถึงกับชะงักเมื่อพบใครบางคนอยู่ในรัศมีสายตา "ไอ..." "มึงว่าไงนะ" ธามเอ่ยถาม ก่อนที่สายตาจะเปลี่ยนไปตามทิศทางที่หนุ่มฮอตกำลังมอง "ไอติมจริงด้วย ไหนบอกวันนี้ไม่ว่างไงวะ" "ก่อนหน้านี้มึงคุยกัน?" ภูพิงค์หันกลับมาถาม คิ้วหนาขมวดเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว "เออไง กูไลน์ชวนออกมาด้วยกันเนี่ยแหละ แต่ไอปฏิเสธ บอกว่าไม่สะดวก กูก็ไม่คิดว่าจะมาเจอกันที่นี่เหมือนกัน" "นั่นเมาปะวะ" ติวเตอร์มองร่างบาง ส่งผลให้ภูพิงค์หยัดตัวลุกทันที ก็เพราะเมาป่ะวะที่ทำให้พลาดตกเป็นของเขาแบบนั้น ยัยนั่นไม่ควรไปเมาที่ไหนอีกเลย! "เดี๋ยวกูมา!" ภูพิงค์ปลดล็อกโทรศัพท์ที่อยู่ในมืออีกครั้ง ตามด้วยการโทรออกหาใครบางคนทันที "ชักช้านักวะ!" ภูพิงค์สบถออกมาอย่างหงุดหงิด ขณะที่ดวงตาคมกริบจับจ้องร่างบางตรงหน้า ทว่าโทรศัพท์เครื่องหรูแนบที่ข้างหู เสียงในคลับสงบในยามที่จบเพลง ไอติมล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าก่อนจะกระแทกลมหายใจออกมาเบาๆ ซึ่งกิริยาเหล่านั้นอยู่ในสายตาของหนุ่มหล่อตลอดเวลา [ ว่าไงภู ] "ไหนบอกว่ามีธุระไง อะไรคือการมายืนเต้นกับเพื่อนอยู่ในผับ บังเอิญจังเลยนะที่ดันอยู่ผับเดียวกันพอดีเลย" [ นายอยู่นี่เหมือนกันเหรอ ] เจ้าของร่างบางหันซ้ายหันขวา ชุดบ้าบอที่เธอใส่มันกำลังทำให้เขาไม่พอใจ "เดี๋ยวนี้เธอทำตัวแปลกไปนะ" [ ก็เหมือนเดิมปะ อย่าหาเรื่องดิ ] ภูพิงค์ชะงักไปทันที เกิดมาไม่เคยมีใครกล้าพูดแบบนี้กับเขาเลย "ฉันอยู่วีไอพีชั้นสอง จะเดินขึ้นมาหรือจะให้ฉันเดินลงไป" ไอติมตวัดสายตาขึ้นมายังชั้นสอง จากนั้นก็พบว่าเธอทำหน้าเบื่อหน่ายพร้อมกับกระแทกลมหายใจ [ ขี้เกียจเดิน อยากมาหาก็เดินลงมาเอง ] "เจอกัน!" ทั้งที่ไม่ชอบคำว่าถ้าอยากมาหา ก็ให้เดินไปหาเธอเองของเธอสักเท่าไหร่ ถึงอย่างนั้นภูพิงค์ ก็ยอมเคลื่อนไหวตัวเองด้วยการเดินลงไปที่ชั้นล่างทันที เพื่อนในกลุ่มของไอติมตอนนี้ ซึ่งเป็นเพื่อนอีกกลุ่มที่แน่นอนว่าภูพิงค์ไม่รู้จักหันมามองที่ชายหนุ่มด้วยความสนใจ ขณะที่คนที่เขาอุตส่าห์เดินมาหากลับเฉยซะจนน่าหมั่นไส้ "ไหนบอกว่ามีธุระ" "ธุระเสร็จแล้วก็แค่กลับมาป่ะล่ะ" "ยียวนว่ะ อกหักหรือไงทำไมต้องดื่มเยอะแบบนี้ แล้วนี่ใส่ชุดบ้าอะไรวะ ตลก" "อกหักงั้นเหรอ อกหักจากใครอ่ะ แล้วชุดที่ฉันใส่อยู่เนี่ยมันบ้าบอและตลกตรงไหนไม่ทราบ เซ็กซี่ต่างหาก" ไอติมยกมือลูบแก้มสากเบาๆ ท่าทางยั่วยวนมันทำให้เขาไม่พอใจ "กลับไหม เดี๋ยวไปส่ง" "ไม่อ่ะ ฉันยังยืนยันคำเดิมนะ อีกสองสามวันค่อยเจอกัน คืนนี้อยากค้างกับเพื่อน" ภูพิงค์ปรายตามองเพื่อนๆ ของเธอที่เธอกำลังพูดถึง ไม่นานก็ทิ้งสายตามาจับจ้องที่ใบหน้าจิ้มลิ้มตามเดิม "อย่าทำเป็นลืมดิไอ พอเมาแล้วมันเกิดอะไรขึ้นวะ" "ไม่พลาดหรอกน่า แต่ถ้าพลาด เราเลิกกันนะ" "ไอติม!" ------ อะไรคือการขึ้นเสียงใส่ล่ะภู นั่นเพื่อนนะ ท่องไว้ เพื่อนจ้าเพื่อน 55555สวนหลังบ้าน"มีมี่ มี่จ๋า~""ก๊อดๆ~" เสียงตอบรับจากนกแก้วซันคอนัวร์ที่เลี้ยงไว้ในบ้านยังเรียกความสนใจจากไอเดียได้เหมือนทุกครั้งมีมี่ นกแสนรู้ที่ถูกฝึกและเลี้ยงดูมาตั้งแต่เป็นลูกป้อนโบยบินออกจากกรงแล้วมาเกาะที่บ่าของซาเฟียร์ ดวงตากลมใสแป๋วคล้ายกับตาของเด็ก ปากสีดำวาววับท้าทายให้ซาเฟียร์โน้มริมฝีปากไปจุ๊บเบาๆ ที่ปากของนก ไอเดียส่งเสียงเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจ"มาแอบอยู่ตรงนี้นี่เอง" ภพนิพิฐเดินตามมาสมทบ วงแขนอบอุ่นและแข็งแรงโอบที่เอวภรรยาเอาไว้หลวมๆ ดวงตาคมกริบกวาดมองที่ใบหน้าของผู้เป็นภรรยาในระยะใกล้ สลับกับการหันมองลูกน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่เช่นกัน"ไอเดียรักมีมี่เหรอลูก มี่เอ้ย""ก๊อดๆ~" เจ้านกน้อยยังคงส่งเสียงเบาๆ พร้อมกับการเอียงคอมองผู้ที่เป็นเจ้าของของมัน ดีแล้วที่เจ้านกแสนรู้ไม่ส่งเสียงกรีดร้อง เพราะหากได้ส่งเสียง รับรองว่าเสียงจะก้องกังวาลไปทั่วทั้งบริเวณมือเล็กป้อมๆ ของไอเดียยกขึ้นไปลูบเบาๆ ที่หัวนก ความเมตตาอารี เด็กน้อยได้มาจากทั้งผู้เป็นพ่อและคนเป็นแม่ สัตว์เลี้ยงตัวเล็กสัมผัสกับกลิ่นเจ้าของตัวน้อย ในอนาคตหากไอเดียเดินมาเล่นที่สวน เป็นไปได้ว่านกน้อยที่อยู่ในกรงสวยงาม
ภายในห้องครัว"คนสวยของแด๊ดดี้ทำอะไรอยู่ครับ""อันดาเช็ดจานให้หม่ามี๊ค่ะ""เก่งจังเลยค่ะ ลูกสาวของแด๊ดดี้เก่งที่สุดเลย" เวลาที่อยู่กับลูกๆ และภรรยา ภูมิรพีอ่อนโยนเสมอ ประกายตาคู่นี้ยังคงเด็ดเดี่ยวและมั่นคง รักที่มีต่อภรรยายังคงเป็นรักที่ยิ่งใหญ่ ส่วนลูกๆ ก็ยังคงเป็นรักที่บริสุทธิ์ของเขาเช่นเดิม"หม่ามี๊ท้องโตแล้ว องศาจะช่วยหม่ามี๊ล้างจานครับ""องศาล้างจาน อันดาเช็ดจานให้แห้งนะ" แด๊ดดี้และหม่ามี๊มองหน้ากัน การที่เด็กสองคนซึ่งเติบโตในเวลาเดียวกัน ใช้ชีวิตในแบบเดียวกันและอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เข้าอกเข้าใจกันดี มันเป็นอะไรที่ทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่โคตรสบายใจ"แด๊ดดี้ภูมิใจในตัวลูกๆ ที่สุดเลย" องศายิ้ม อันดาเองก็ยิ้มเช่นกัน"ลูกๆ ของแด๊ดดี้ รู้หรือเปล่าครับว่าอาภพและอาภูเกี่ยวข้องอะไรกับแด๊ดดี้""คูมย่าบอกว่า น้องของแด๊ดดี้อันดาต้องเรียกว่าคูมอาค่ะ""เก่งมากครับ อาภพกับอาภูเป็นน้องชายของแด๊ดดี้ แด๊ดดี้รักน้องของแด๊ดดี้มากๆ เพราะเราเป็นพี่น้องกัน เป็นสายเลือดเดียวกัน เป็นคนที่คอยช่วยเหลือกันเวลาที่คนใดคนหนึ่งลำบาก จำไว้นะลูก การมีพี่น้องที่รักกัน มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ" เปี่ยมรักอมยิ้มอย่างมีความส
Special 5"สวัสดีค่ะพี่ภูมิ สวัสดีค่ะพี่ภู แด๊ดดี้" หญิงสาวในชุดนักศึกษายกมือไหว้ทุกคนก่อนจะยิ้มให้คนสุดท้ายที่เธอเอ่ยถึงภพนิพิฐรั้งเอวคอดกิ่วเข้ามาหา จังหวะที่คืนไอเดียสู่อ้อมกอดของผู้เป็นแม่ ปลายจมูกโด่งแอบกดลงที่ขมับบาง สูดดมกลิ่นหอมจากเรือนร่างของภรรยาสาวเข้าจนเต็มปอดอย่างเคยชิน"แด๊ดดี้อาบน้ำให้ลูกแล้วเหรอคะ หอมเชียว""เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวพี่ตามเข้าไปนะ""ได้ค่ะ" ซาเฟียร์แจกจ่ายรอยยิ้มให้กับทุกคนเฉกเช่นทุกครั้ง คล้อยหลังจากพี่สะใภ้ ภูพิงค์เปิดประเด็นขึ้นมาด้วยความไว"น่าอิจฉาคนที่เมียยังใส่ชุดนักศึกษานะ คงเห็นแล้วใจสั่นเป็นบ้า" ภูพิงค์กดยิ้มที่มุมปากพลางปรายตามองเจ้าของหญิงสาวคนที่พึ่งจะอุ้มลูกออกไป ในขณะที่อีกด้าน ภูมิรพีเลือกที่จะเค้นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ"เหมือนว่าจะไม่ได้น่าอิจฉาเท่าไหร่หรอก มึงมองไม่เห็นความกังวลที่อยู่ในสายตาของพี่มึงหรือไง" คนที่กำลังถูกพูดถึงกดปลายลิ้นที่มุมปากคนหนึ่งช่างเปิดประเด็น ส่วนอีกคนก็ช่างสังเกตซะเหลือเกิน"ต่อหน้าพี่ต่อหน้าน้องทำเป็นจูบขมับ อยู่กันสองต่อสองนี่เตียงไม่ยับเลยเหรอวะ""ทะลึ่งละ คนรักกัน ไม่จำเป็นต้องเอาก็รักอยู่ดี""เฉียบ" ภูพิงค์ด
"หนูไม่อยากให้แด๊ดดี้เหนื่อยนี่คะ""ไม่เหนื่อยหรอกน่า ลูกและเธอเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับพี่นะ อย่าคิดมาก" ซาเฟียร์สอดแขนเข้าไปโอบกอดที่เอวสอบ ใบหน้าสะสวยเชิดขึ้นเพื่อมองใบหน้าหล่อเหลา รอยยิ้มแห่งความสุขประดับขึ้นบนใบหน้างดงาม"หนูโชคดีจัง แด๊ดดี้ของหนูน่ารักที่สุด แด๊ดดี้ทำให้หนูรักจนไม่รู้จะรักยังไงแล้ว" คนฟังอมยิ้ม อาศัยจังหวะที่รถติดสัญญาณไฟกดริมฝีปากลงบนหน้าผากมนเบาๆ"สายหรือยัง พอมีเวลาให้พี่สักหน่อยไหม" แก้มของคนฟังแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ซาเฟียร์กัดปากของตัวเองเบาๆ เธอเข้าใจทันทีว่าผู้เป็นสามีต้องการสื่ออะไร"เพราะแบบนี้ใช่ไหมล่ะถึงเลือกที่จะฝากลูกไว้กับคุณย่าแล้วก็มาส่งที่หนูที่มอ.เอง""ฉลาดจัง พี่ขอเวลาสักหนึ่งชั่วโมงได้ไหมล่ะ""แค่พี่ใช้เส้นสายในเรื่องการเรียนของหนู หนูก็รู้สึกไม่ดีแล้วนะ" ภพนิพิฐระบายรอยยิ้มออกมาถ้าจะให้พูดกันตามความรู้สึก เขาไม่ได้ติดขัดไม่ว่าเธอจะเรียนจบที่ระดับชั้นไหน เหตุผลที่เขายอมให้เธอกลับไปเรียนอีกครั้งเพราะเขาแค่อยากตามใจเธอ อยากเปิดโอกาสให้เธอได้ทำในสิ่งที่เธออยากทำทุกอย่าง ถึงยังไงซะเขาก็ไม่มีวันปล่อยให้เธอต้องลำบากอยู่แล้ว เธอไม่จำเป็นต้องใช้
Special 4"แอะ~" น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความอารมณ์ดีดังออกมาจากเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มที่อยู่ในชุดบอดี้สูทสีครีม ผิวของคนตัวน้อยขาวจั๊ว บ่งบอกว่าได้มาทั้งของพ่อและของแม่ในส่วนของใบหน้าแม้จะออกมาทิศทางของผู้เป็นแม่มากกว่า ถึงอย่างนั้นคนเป็นพ่อก็ยังพยายามโต้เถียงว่าบุตรสาวหน้าตาเหมือนตนเองอยู่ไม่น้อย แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าหนูน้อยไอเดียจะหน้าตาเหมือนใคร ไม่ว่าจะได้พ่อหรือว่าได้แม่มา สุดท้ายก็ลงตัวจนหาที่ติไม่ได้เลยลมเย็นๆ ในเวลาเช้าลอยกระทบลงมาบนเสี้ยวใบหน้าหล่อเหลา สุดท้ายกลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่ค่อนข้างคุ้นเคยซึ่งส่งกลิ่นมาจากในห้องนอนก็เรียกสายตาคมกริบให้ตวัดกลับไปมองที่ทิศทางด้านในตามเดิมความหวงแหนผุดขึ้นเมื่อหน่วยตาคมประสานเข้ากับเรือนร่างของภรรยาสาวซาเฟียร์กลับไปเรียนหนังสืออีกครั้งหลังให้นมลูกจนครบสามเดือน มีการวางแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างชัดเจน ในช่วงพักกลางวันคนตัวเล็กจะกลับมาให้นมบุตรที่บ้าน เพราะเหตุผลนี้และอีกเหตุผลคือได้ตกปากรับคำเอาไว้แล้วตั้งแต่ต้น พ่อของลูกจึงยินดีกับการไปเรียนในครั้งนี้ของผู้เป็นเมีย"ทำไมต้องใส่กระโปรงสั้นขนาดนี้" คนที่อุ้มลูกคาอกมองหญิงสาวที่อยู่ในชุดนักศึกษาพอด
Special 3ภายในบ้านหลังใหญ่ของอัศวราชเต็มไปด้วยความคึกคัก ภายนอกตัวบ้านคุณปู่ภีมพลซึ่งเป็นที่รักของหลานๆ เก็บกวาดต้นไม้ที่เฉาตาย พร้อมกับการลงต้นไม้ปลูกใหม่ความขยันนี้ไม่ได้มีที่มาที่ไปไกลเท่าไหร่นัก สุดท้ายหลานๆ นั่นแหละที่เป็นแรงผลักดันให้คุณปู่จัดการทุกอย่าง เป็นแรงผลักดันที่ทำให้ขยันมากยิ่งๆ ขึ้นไป"น้องไอเวียนหัวเหรอลูก แม่ลืมบอกว่าแม้แต่ผักบางชนิด หากมันจะแสลงมันก็แสลงขึ้นมาดื้อๆ เลยนะ" เบญญาถามสะใภ้คนเล็กอย่างไอติมคุณแม่หลังคลอดยังคงสวยสดไม่เปลี่ยน ไอติมหน้ายังสดใส เป็นเรื่องปกติที่คล้อยหลังจากช่วงหลังคลอดในช่วงเดือนแรกผ่านพ้นไป จะมีการเริ่มทานอาหารที่มีประโยชน์และเพิ่มน้ำนมให้มากขึ้น เรื่องของอาหารแสลงจึงเป็นสิ่งที่ควรระวังมากเช่นกัน"ไอเวียนหัวนิดหน่อยค่ะแม่""แม่ว่าพักก่อนนะ เดี๋ยวแม่ดูแลอิคคิวให้เอง" คุณย่ายังคงเป็นที่รักของลูกๆ ยังเป็นคนที่คอยช่วยเหลือดูแลหลานๆ อยู่เสมอเด็กชายองศา เด็กหญิงอันดาตอนนี้อยู่ในวัยสองขวบเศษ ช่างพูดช่างคุยช่างสงสัย จากนั้นก็เป็นน้องไอเดียลูกสาวของคุณพ่อภพและคุณแม่ซาเฟียร์ที่ลืมตาดูโลกและเข้ามาอยู่ในบ้านอัศวราชเป็นหลานคนที่สาม หนึ่งสัปดาห์ต่อจาก