เวลา 02:32 น.
อัยวายืนรอรถอยู่หน้าบาร์เพื่อที่จะกลับบ้านเหมือนทุกวัน แต่วันนี้กลับไม่มีรถจอดเพื่อที่จะรับเธอเป็นผู้โดยสารสักคัน ทำให้ปกรณ์ที่แอบจอดรถมองอยู่อีกฝั่งรู้สึกพอใจ เพราะเค้าคิดแผนอะไรสนุกๆ ที่จะแกล้งเธอออก รถยนต์สีดำคันหรูขับมาจอดอยู่ตรงหน้าก่อนจะลดกระจกลง....... ""ขึ้นรถ ฉันจะไปส่ง"" ""คะ"" ""อ้าวอยู่ๆ ก็ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องซะงั้น"" ""เดี๋ยววาเรียกรถกลับเองค่ะ ตอนนี้ดึกมากๆแล้ว วาไม่รบกวนดีกว่า"" ""แต่ฉันเห็นเธอยืนโบกมาจะชั่วโมงล่ะ อันไม่ได้อยากมาแอบดูนะ แต่ฉันกลัวไอ้หมอนั่นมันย้อนกลับมาฉุดเธอไปฆ่าทิ้ง แล้วอีกอย่างเมื่อกี้เธอก็เพิ่งบอกเองว่าตอนนี้มันดึกแล้ว"" ""เอ่อแต่ว่า"" ""ขึ้นรถมาฉันจะไปส่ง"" อัยวาทอดสายตาไปที่ถนน ก่อนที่จะยอมขึ้นรถไปกับคนแปลกหน้าเพราะดูเหมือนว่าตอนนี้จะไม่มีแท็กซี่ผ่านมาแล้ว การก้าวขึ้นรถมาของอันวาทำให้ปกรณ์แอบยิ้มในใจเพราะเค้าอยากทำความรู้จักกับเธอที่เป็นสิ่งใหม่ๆ เพราะดูๆไปแล้ว เธอเองก็เหมาะกับการเป็นของเล่นแก้เบื่อของเค้าไม่น้อย........ ""นั่งเงียบไม่พูดแล้วผมจะรู้มั้ยว่าบ้านคุณอยู่ไหน"" ""บ้านวาอยู่ xxx ค่ะ จอดแค่หน้าปากซอยก็ได้ค่ะ เดี๋ยวมาเดินเข้าไป"" ปกรณ์เงียบไม่พูดอะไรออกมา ก่อนที่จะขับรถมาถึงหน้าปากซอยบ้านของอันวาแล้วเห็นกลุ่มคนเมานั่งกินเหล้ากันอยู่...... ""อัยลงตรงนี้ก็ได้ค่ะ"" ""ลงไปให้พวกนั้นฉุดหรือไง เดี๋ยวฉันไปส่ง"" ""แต่ว่า"" ""นั่งนิ่งๆแล้วบอกทาง"" ""ค่ะ"" หน้าบ้านอัยวา ""ขอบคุณนะคะ"" ไร้เสียงตอบกลับจากคนขับรถมาส่ง อัยวา จึงเปิดประตูรถแล้วเดินเข้าบ้านไป ปกรณ์ที่เห็นแบบนั้นก็ขับรถเพื่อกลับบ้านเช่นเดียวกัน ในหัวตอนนี้เค้าคิดแค่ว่าอัยวานี่แหละที่จะเป็นของเล่นชิ้นใหม่ เค้าชอบผู้หญิงแก่นๆแบบนี้ ใช้เงินล่อมานิดหน่อยคงไม่ได้จะยากอะไรมากมาย........ 2 วันต่อมา บ้านอัยวา ""ผมต้องการมาพาหลานสาวผมไปอยู่ด้วย ตามที่ไอ้พลมันสั่งไว้ คุณพิมจะว่ายังไง"" ""คงจะไม่ได้หรอกค่ะ เพราะฉันเลี้ยงของฉันมา แล้วอีกอย่างอันวาเองก็ยังไม่สามารถไปจากที่นี่ได้ค่ะ จนกว่า...."" ""จนกว่าจะหาเงินมาใช้หนี้คุณหมดหรอ คนเข้าลือกันให้ทั่วนะคุณพิมว่าคุณมีลูกเลี้ยงไว้สร้างผลประโยชน์ โดยใช้น่ารักษาของไอ้พลมาเป็นข้ออ้างในการข่มเด็ก ผมขอพูดตรงไปในฐานะที่ผมกับไอ้พลเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ 8 ขวบ ว่าผมไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ ที่ผ่านมาผมก็ยื่นมือช่วยพวกคุณไปไม่ใช่น้อย ถ้าผมจะทวงบุญคุณบ้าง ผมมั่นใจว่ามากกว่าเงิน 10 กว่าล้านแน่นอน"" ""คุณเมฆพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะคะ ฉันเลี้ยงอัยวามา ฉันก็รักค่ะ"" ""แต่ที่ผมรู้มามันตรงกันข้าม"" ""โอเคค่ะ ในเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง ฉันไม่คุยแล้วค่ะ ฉันเองก็เพิ่งกลับจากโรงบาลเมื่อวานอยากพักผ่อนค่ะ"" ""คืนอัยวาให้กับผม เธอควรไปอยู่ในที่ดีๆ ไม่ใช่ที่แบบนี้"" ""คุณเมฆกลับไปเถอะค่ะ ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ เชิญค่ะ"" เมฆเมฆาที่เห็นแบบนั้นก็ลุกเดินออกจากบ้านพิมพาทันทีเพราะรู้ว่าครั้งนี้ทำไม่สำเร็จ แต่เค้าจะกลับมาที่นี่ตามคำขอของเพื่อนที่ขอให้พาหลานสาวออกจากที่นี่แน่นอน พิมพารู้แล้วว่าเมฆต้องย้อนกลับมาเอาตัวผลิตเงินของเธอไปแน่ๆ จึงรีบหาวิธีติดต่อกับเสี่ยอุทิศเพื่อขายอัยวาให้ไปเป็นผู้หญิงขายตัวบนเรือ นี่จะเป็นวิธีที่ทำให้พิมพาหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำ......... ""อัยกลับกลับมาแล้วจ่ะแม่ รถใครจอดหน้าบ้านเราจ้ะ"" อัยวาถือถุงของกินมากมายเดินกลับเข้ามาในบ้านก่อนเห็นว่าแม่กำลังมีแขกอยู่....... ""คนนี้แหละค่ะเสี่ยลูกสาวคนโตของพิม อัยวาไปเก็บข้าวของแล้วเตรียมตัวไปกับเสี่ยอุทิศ ไวๆด้วย เค้ามารอนานมากแล้ว"" ""ไปไหนคะแม่อัยไม่ไปค่ะ ถ้าอัยไปใครจะดูแลแม่กับน้อง"" ""พวกฉันดูแลตัวเองได้ แกบอกจะตอบแทนฉันแกต้องไป เพราะฉันขายแกให้เสี่ยไปแล้ว"" ""แม่ว่าไงนะจ้ะ"" ""ไปเก็บเสื้อผ้า"" ""เด็กมันไม่เก็บก็ปล่อยมันไปหาซื้อเอาข้างหน้า ไอ้สิงค์เอาตัวขึ้นรถ"" ""ครับเสี่ย"" ""ส่วนนี่คือเงินงวดแรกนะเเม่พิม งวดต่อๆไปก็ 45% ตามที่แม่พิมต้องการฉันไปล่ะ คืนนี้มีเรือออก 1 รอบ เผื่อจะได้ทดลองงานเลย"" ""ค่ะเสี่ย ขอบคุณมากนะคะ"" ระหว่างทางอันวาร้องให้โดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดร้อง...... ""ร้องไปทำไมอีเเม่เลี้ยงใจร้ายนั่นมันขายเธอแล้ว ในเมื่อมันไม่อยากให้เธออยู่เธอก็ไม่ต้องไปอยากอยู่กับมัน ไปทำงานกับเสี่ยดีกว่าได้เงินเยอะจะตาย"" ""อัยไม่อยากไปขายตัวค่ะ ขอร้องนะคะปล่อยอัยไปเถอะ คุณให้แม่ไปเท่าไหร่อัยจะหามาคือมาคืนค่ะ"" ""โถ เด็กน้อย เธอทำเงินให้ฉันได้มากกว่าเงินที่ฉันคืนให้อีพิมไปวันนี้อีก หยุดร้องแล้วเช็ดน้ำตาซะ ผู้หญิงหลายคนที่ฉันพาไป ตอนจะไปก็ร้องห่มร้องให้เหมือนเธอนั่นแหละแต่สุดท้ายทุกคนก็ไม่อยากลงจากเรือ เพราะชีวิตที่นั่นมันสุขสบาย"" เอี๊ยกกก!! รถถูกเบรคกะทันหันจนทำให้เสี่ยอุทิศ และอัยวาทรงตัวไว้ไม่อยู่.... ""อะไรวะไอ้สิงค์ หัวกูแตกแล้วมั้ง"" ""มีรถมาขวางครับนาย"" ""ใครวะ"" เสี่ยอุทิศมองออกไปนอกรถเห็นเป็นเมฆอดีตเพื่อนเก่ายืนอยู่..... ""ก็นึกว่าใคร มึงมาขวางกูทำไมไอ้เมฆ"" ""มึงจะเอาตัวหลานกูไปไหน ปล่อยอัยวาลงมา แล้วมึงมาคุยกับกู"" ""ปล่อยไม่ได้ว่ะอีพิมมันขายให้กูเอาไปลงเรือแล้วเพื่อนขอโทษด้วย"" ""20 ล้าน แล้วเอาตัวหลายมาให้กู มึงก็รู้ว่านี่ลูกไอ้พล มึงจะทำได้ลงจริงๆหรอ"" ""ไอ้พลมันตายจนไปได้เมียใหม่เป็นผีด้วยกันล่ะมั้ง มึงจะทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีไปทำไม ก็แค่เด็กตัวน้อยๆที่พ่อตาย แม่หนีตามผู้ชายตั้งแต่ 7 ขวบ"" ""30 ล้าน เอาตัวอัยวาลงมา กูจะเซ็นเช็คให้"" ""ก็ไม่เลว ไอ้สิงค์เอาให้มันไป"" ประตูรถถูกเปิดออกพร้อมกับอัยวาที่ทีเลือกออกบริเวณศีรษะเนื่องจากรถเบรคกะทันหันเมื่อสักครู่...... ""ลุงเมฆ"" ""ไปกับลุงลูก ไปรอลุงในรถ เดี๋ยวลุงจัดการเอง"" อันวารู้ดีว่าคนเป็นลุงไม่มีทางทำร้ายเธอเพราะที่ผ่านมามีแค่ลุงที่รู้ว่าตัวเองต้องเจอกับอะไรและช่วยเหลือมาตลอด เรียกได้ว่าเป็นผู้มีพระคุณคนนึงเลยก็ว่าได้.......ตอนที่ 60 ตอนจบวันเปิดตัวกิจการใหม่ของอัยวาและกรณ์มาถึงอย่างสง่างาม ภายใต้ชื่อแบรนด์ “ร่มไม้ by ไพศาลทรัพย์” ที่ไม่ใช่แค่คาเฟ่หรือร้านงานฝีมือ แต่เป็นโมเดลธุรกิจเพื่อชุมชน ที่รวมความอบอุ่นของบ้านเข้าไว้กับโอกาสของคนตัวเล็ก ๆทแขกเหรื่อทยอยเข้ามาจนแน่นสวนหน้าร้านมีทั้งนักข่าว ทายาทนักธุรกิจ และผู้คนในชุมชน เบลส่งดอกไม้มาจากต่างประเทศ แนบการ์ดเขียนมือว่า “ร่มไม้...ที่ช่วยให้ใครหลายคนพ้นพายุ”นิ้งและวายุยืนอยู่ข้างกันในชุดเรียบหรู ยิ้มให้กันเหมือนคนที่เคยผ่านพายุด้วยกัน และเลือกจะจับมือไว้แน่นขึ้นในวันที่ท้องฟ้าเปิด เมฆในชุดสูทสีเทาเข้ม ขึ้นกล่าวเปิดงานแทนทั้งคู่“พ่อเคยคิดว่าความสำเร็จต้องใหญ่ ต้องแข็งแรง ต้องเร่งรีบ แต่ลูกของพ่อสองคนสอนว่าความสำเร็จที่แท้จริง มาจากหัวใจที่กล้ารัก และกล้ายืนหยัดในสิ่งที่เชื่อ”เมื่อเสียงปรบมือจางลง กรณ์ก้าวขึ้นเวทีเล็ก ๆ หน้าร้านที่ตกแต่งด้วยผ้าขาวและไม้ไผ่ เขาหยิบไมโครโฟนขึ้นมาช้า ๆ สบตาอัยวาที่ยืนอยู่ริมเวที แล้วเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“มีคนเคยถามผมว่า ผู้หญิงเปลี่ยนผู้ชายได้ไหม วันนี้ผมตอบได้ว่า ได้ครับ แต่ไม่ใช่เพราะเธอพยายามเปลี่ยนผม”เขาหยุด
ตอนที่ 59ค่ำวันหนึ่งหลังจากฝนตกหนักเมื่อไม่กี่วันก่อน อากาศกลับมาเย็นสบาย ลมพัดเบา ๆ ผ่านร่มไม้ในสวนหลังบ้าน กลิ่นหอมของปีบและมะลิยังคงลอยอวลอยู่ในอากาศกรณ์เดินออกจากครัวด้วยถาดไม้เล็ก ๆ ที่มีขนมปังอบใหม่และชาอุ่นกลิ่นกุหลาบ เขาวางมันลงตรงโต๊ะไม้เตี้ยกลางห้อง ก่อนจะหันกลับไปจุดเทียนบนเชิงเทียนทองเหลืองที่อยู่ใกล้กันอัยวานั่งอยู่ตรงมุมพรม อ่านหนังสือเกี่ยวกับศิลปะเด็กในห้องเรียน เธอสวมเสื้อยืดเนื้อนิ่มกับกางเกงผ้าสีอ่อน ดูเรียบง่ายจนเกือบธรรมดา แต่ในสายตาของเขาเธอคือความสวยงามที่สุด“พี่จะจ้องหนูนานแค่ไหนคะ” เธอเงยหน้าขึ้นยิ้มล้อ ขณะที่เขานั่งลงข้างเธอกรณ์ยิ้มไม่ตอบ เขาหยิบแก้วชาขึ้นมาส่งให้เธอ ก่อนจะนั่งชิดเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด“คืนนี้พี่ไม่ได้อยากให้มันเป็นคืนพิเศษอะไรหรอกนะ” เขาเอ่ยเสียงนุ่ม “แต่พี่แค่อยากให้มันเป็นของเราแค่ของเราสองคน”อัยวานิ่งไป ดวงตาคู่นั้นวาววับในแสงเทียน เธอวางหนังสือลง แล้วยื่นมือไปแตะแก้มเขา“พี่รู้ไหมหนูไม่เคยรู้สึกปลอดภัยขนาดนี้เลยค่ะ”“กับพี่หนูไม่ต้องฝืน ไม่ต้องแข็งแรง ไม่ต้องสวย ไม่ต้องฉลาด หนูแค่เป็นหนู”กรณ์กุมมือเธอไว้ แล้วโน้มตัวเข้ามาใกล้“และพี
ตอนที่ 58เสียงฟ้าร้องแรกของค่ำคืนดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ลมฝนพัดแรงจนใบปีบปลิวกระจัดกระจาย อัยวารีบเดินไปปิดหน้าต่างทุกบานในร้าน ‘ร่มไม้’ ขณะที่กรณ์วางแก้วกาแฟลงแล้วลุกขึ้นช่วยเธอทันที ไม่นานนัก ฝนก็เริ่มโปรยลงมาอย่างต่อเนื่อง จังหวะตกกระทบหลังคาไม้สังกะสีทำให้ความทรงจำเก่า ๆ ถูกปลุกขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว อัยวายืนอยู่ริมประตู มองออกไปยังสายฝน แล้วหลุดพูดขึ้นเบา ๆ“คืนนั้นฝนตกครั้งแรกที่หนูเข้ามาอยู่บ้านพี่ จำได้ไหมคะ”กรณ์หันไปมองเธอ ยิ้มจาง ๆ“พี่จำได้หนูเปียกทั้งตัว หน้าก็ซีดเหมือนจะร้องไห้”“แต่สุดท้ายก็ไม่ร้องเพราะหนูไม่รู้ว่าตัวเองควรเสียใจหรือควรดีใจที่หนีจากบ้านเก่าได้”กรณ์เดินเข้ามาใกล้ วางมือบนไหล่เธอ“ตอนนั้นพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าคนที่ยืนตรงหน้าคือผู้หญิงที่จะเปลี่ยนโลกของพี่”อัยวายิ้มบาง ๆดวงตาฉ่ำแสงฝนและความทรงจำ“คืนแรกที่ฝนตกหนูเคยเกลียดพี่” เธอพูดอย่างกล้า“เพราะพี่เป็นคนเดียวที่หนูต้องเชื่อฟัง ทั้งที่หัวใจหนูไม่อยากเชื่อใครอีกแล้ว”กรณ์พยักหน้าเบา ๆ“พี่เองก็ไม่เชื่อในความรักเพราะพี่คิดว่ามันเปลี่ยนคนไม่ได้”“แต่หนูเปลี่ยนพี่โดยที่หนูไม่เคยพยายามเลย”ทั้งสองยืนเงี
ตอนที่ 57อัยวาเดินตรวจมุมอ่านหนังสือของร้าน ‘ร่มไม้’ ในตอนสาย ขณะที่แสงแดดลอดผ่านช่องไม้ของหลังคาเป็นลำเส้นเล็ก ๆ เธอจัดหนังสือเด็กเล่มใหม่ลงบนชั้น แล้วลูบปกอย่างเบามือก่อนจะถอนหายใจเงียบ ๆบางครั้งความเงียบสงบก็ทำให้เสียงจากอดีตกลับมาดังขึ้นอีกครั้ง เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นในกระเป๋ากางเกง เธอจึงหยิบขึ้นมาดูหมายเลขไม่คุ้น แต่ขึ้นต้นด้วยรหัสประเทศที่เธอรู้ดีว่าไม่ใช่จากใครอื่นเธอลังเลเพียงอึดใจ ก่อนจะกดรับสาย“สวัสดีค่ะ” เสียงเธอเบาลงจนเกือบเป็นกระซิบ“แกจำฉันได้ใช่ไหม อัยวา”เสียงนั้นเย็นชา แต่ยังคงความคุ้นเคยจนเธอขนลุกวาบ“แม่...”ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึก“ฉันรู้ว่าฉันไม่มีสิทธิ์โทรมาแต่ตอนนี้ธุรกิจแม่กำลังจะล้มละลายจริง ๆ แกช่วยอะไรแม่ไม่ได้เลยเหรอ”อัยวากำโทรศัพท์แน่น ดวงตาเธอสั่นไหว“แม่ต้องการอะไรจากหนูอีกคะ”“แค่ให้พ่อของผัวแกช่วยพูดกับธนาคารให้หน่อย ฉันรู้ว่าเขามีอิทธิพลอยู่บ้าง”“หนูไม่ได้เป็นใครในสายตาแม่เลย แต่วันนี้แม่โทรมาเพราะหนูเป็นเมียของลูกชายบ้านไพศาลทรัพย์ใช่ไหมคะ”ปลายสายเงียบกริบ ก่อนจะตอบกลับ“ก็เพราะฉันรู้ว่าแกมันไม่เ
ตอนที่ 56แสงแดดอ่อนของเช้าวันจันทร์ส่องลอดผ่านช่องใบไม้ของต้นปีบสูงใหญ่กลางสวน บ้านไม้หลังเล็กถูกปรับปรุงใหม่เรียบร้อยด้วยโครงสร้างเดิม เสริมด้วยความรักและความตั้งใจของเจ้าของบ้านคู่ใหม่“ร้าน 'ร่มไม้' พร้อมเปิดพรุ่งนี้แล้วนะคะ” อัยวาพูดขึ้นขณะยืนอยู่ตรงหน้าร้านที่เพิ่งตกแต่งเสร็จเธอสวมผ้ากันเปื้อนสีเบจ มีลายปักคำว่า ‘ร่มไม้’ ที่เธอเย็บด้วยมือลงบนกระเป๋าเสื้อด้านหน้า กรณ์เดินออกมาจากมุมกาแฟของร้านที่เขาทำเองกับมือ สวมเสื้อเชิ้ตพับแขนกับกางเกงผ้าสีเข้ม เขายิ้มแล้วเดินมาโอบเอวเธอ“เราเปิดร้านแต่พี่รู้สึกเหมือนเปิดบ้านเลยนะ”“เพราะมันคือบ้านของเราจริง ๆไงคะ”ทั้งคู่หันไปมองต้นปีบที่ออกดอกบานสะพรั่งเหนือหลังคาไม้ ร้าน 'ร่มไม้' มีมุมอ่านหนังสือสำหรับเด็ก ห้องเล็กสำหรับสอนงานฝีมือ และโต๊ะกาแฟกลางสวน และตรงกลางของทั้งหมดนั้นคือความรักที่เติบโตอย่างเงียบงามเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นขัดจังหวะความสงบชั่วขณะ อัยวาหยิบขึ้นมา ดวงตาสว่างไสวเมื่อเห็นชื่อบนหน้าจอ“นิ้งโทรมาค่ะพี่”กรณ์พยักหน้า “โอเค เดี๋ยวพี่ไปจัดชั้นหนังสือก่อน”อัยวากดรับสายทันที “ว่าไงมึง คิดถึงอะ”เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังจากปลาย
ตอนที่ 55เช้าวันอาทิตย์ อากาศในสวนหลังบ้านไพศาลทรัพย์อบอวลด้วยกลิ่นหอมของดอกปีบที่ผลิบานตามฤดูกาล เสียงนกร้องและแสงแดดอ่อน ๆ ที่ลอดผ่านช่องใบไม้ ทำให้บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบและ เหมาะจะเป็นวันพิเศษแม้จะไม่มีใครเอ่ยออกมาตรง ๆกรณ์ยืนอยู่ริมระเบียง สวมเชิ้ตสีขาวสะอาด ปลายแขนเสื้อถูกพับขึ้นจนถึงข้อศอก เขาเงยหน้ารับแสงแดดบางเบา สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะหันไปมองหญิงสาวที่นั่งอยู่บนม้านั่งใต้ต้นปีบ อัยวาสวมเดรสลินินสีครีม ผมยาวถูกรวบครึ่งไว้เรียบร้อย มือของเธอกำลังถักพวงมาลัยดอกมะลิเล็ก ๆ อย่างตั้งใจ เธอเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของเขา แล้วส่งยิ้มบาง ๆ ให้"หนูรู้ไหม ว่าวันนี้มันพิเศษแค่ไหน” เขานั่งลงข้างเธอ เอื้อมมือไปรับพวงมาลัยจากมือเธอ“สำหรับหนูทุกวันที่พี่อยู่ข้างหนู มันพิเศษหมดเลยค่ะ”กรณ์หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะวางพวงมาลัยลงบนตักเธอ แล้วล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อ กล่องกำมะหยี่เล็ก ๆ สีขาวไข่มุก วางอยู่บนฝ่ามือของเขา อัยวาชะงักไป ดวงตากะพริบถี่ราวกับไม่แน่ใจว่าภาพตรงหน้าคือเรื่องจริง“พี่เคยแต่งงานกับหนูแต่ตอนนั้น หนูไม่ได้เลือก และพี่เองก็ยังไม่เข้าใจความรักดีพอ”กรณ์เปิดกล่องอ