ม่านไหม...
"นี่นังม่านแกอย่าริไปฟ้องคุณท่านเชียวนะเรื่องที่พวกฉันสองคนใช้งานแกน่ะ"
"ใช่ถ้าพวกฉันสองคนรู้ว่าแกไปฟ้องคุณท่านว่าพวกฉันใช้งานแกแกอย่าหวังเลยว่าจะอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขเข้าใจไหม" ฉันทำได้แค่พยักหน้าเท่านั้นก่อนจะก้มหน้าก้มล้างจานต่อ
"พวกแกนี่มันยังไงนังนุ่มนังแจงใช้นังม่านแล้วยังไปขู่มันอีกเห็นมันพูดไม่ได้เห็นมันเป็นใบ้ใช่ไหมห๊ะ"
"ม่านคุณท่านเรียกให้ไปพบ" แม่บ้านอีกคนที่ทำงานบนตึกใหญ่เดินเข้ามาบอกฉันในครัวทำให้ฉันรีบล้างมือแล้วรีบเดินตามแกออกไป
"มาแล้วเรอะ ไปแอบช่วยในครัวทำงานอีกแล้วล่ะสิหึ๊" พอฉันเดินเข้ามาในห้องรับแขกคุณท่านก็เอ่ยทักท่านมองฉันที่มีสภาพเหงื่อโทรมกายเพราะฉันเพิ่งไปช่วยงานที่ในครัวมา
"ลุงบอกแล้วว่าที่ลุงรับเรามาอยู่ที่นี่ลุงให้อยู่ในฐานะหลานสาวไม่ใช่คนรับใช้ แต่เราก็ดื้อไม่ยอมเชื่อฟังพอลุงไม่อยู่ก็จะแอบไปช่วยพวกแม่บ้านทำงานอย่าคิดว่าลุงไม่รู้นะ" ฉันหยิบสมุดเล่มเล็กที่พกติดตัวตลอดขึ้นมาเขียน
ม่านรู้ว่าคุณลุงไม่อยากให้ม่านทำงานไม่อยากให้ม่านลำบากคุณลุงรักและหวังดีกับม่านมาเสมอตั้งแต่ม่านเสียพ่อไปม่านก็มีคุณลุงที่เปรียบเสมือนญาติทั้งที่ม่านไม่ใช่ญาติของคุณลุง ม่านอยากตอบแทนบุญคุณของคุณลุงที่คุณลุงรับม่านมาเลี้ยงมาดูแล ขอให้ม่านได้ทำอะไรเพื่อคุณท่านบ้างเถอะค่ะแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ตามม่านเต็มใจที่จะทำค่ะ
ฉันยื่นสมุดที่เขียนให้กับคุณท่านท่านรับไปอ่านจากนั้นก็ยื่นมันคืนมาให้กับฉันตามเดิม
"เรานี่มันนิสัยเหมือนพ่อของเราไม่มีผิดเลยนะ เห้อ สิบสองปีแล้วสินะ" คุณท่านทำหน้าเศร้าลงทันทีเมื่อเอ่ยถึงพ่อ คุณท่านคือเจ้านายของพ่อท่านเป็นเจ้าของบ้านที่พ่อมาทำงานให้ในตำแหน่งเป็นรปภรักษาความปลอดภัย ซึ่งหลังจากที่ท่านรู้ว่าพ่อเสียชีวิตท่านก็ไปรับฉันมาจากโรงพยาบาลแล้วพามาอยู่ที่นี่เพราะฉันไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนส่วนงานศพของพ่อท่านก็ช่วยจัดการให้ทุกอย่างท่านบอกว่าพ่อทำงานกับท่านมานานหลายสิบปีพ่อเป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์และเป็นคนดีไว้ใจได้ คุณท่านเล่าว่าพ่อมักจะพูดเรื่องฉันให้คุณท่านฟังอยู่เสมอว่าที่พ่อยอมทำงานเหนื่อยเพื่อให้ฉันมีอนาคตที่ดีคุณท่านก็เลยอยากที่จะตอบแทนความดีของพ่อด้วยการส่งเสียฉันให้เรียนหนังสือต่อแต่ฉันไม่อยากเรียนเพราะจนถึงตอนนี้ฉันก็ยังพูดไม่ได้ท่านก็เลยให้ฉันเรียนผ่านระบบออนไลน์อยู่ที่บ้านแทนซึ่งตอนนี้ฉันก็เรียนจนถึงระดับมหาลัยแล้ว หน้าที่ของฉันมีแค่เรียนเท่านั้นแต่ฉันก็ไม่อยากอยู่เฉยๆ พอมีเวลาว่างฉันก็จะไปช่วยป้าแม่ครัวทำอาหารเพราะแกแก่มากแล้วจากนั้นก็จะไปช่วยแม่บ้านคนอื่นๆทำงานที่เขาขอให้ไปช่วยซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้ขอหรอกจะเป็นการจิกใช้มากกว่าแต่ฉันก็ทำโดยไม่ปริปากบ่นเพราะจะว่าไปฉันก็เป็นเพียงผู้อาศัยไม่ใช่ญาติของคุณท่านจะให้ฉันนั่งกินนอนกินก็คงไม่ได้แม้ว่าคุณท่านจะบอกกับทุกคนว่ารับฉันมาเลี้ยงในฐานะหลานสาวไม่ใช่คนรับใช้และด้วยเหตุนี้ทำให้หลายๆ คนไม่ค่อยชอบขี้หน้าฉันคอยแกล้งฉันอยูู่เสมอโดยเฉพาะพี่แจงกับพี่นุ่มที่มักจะใช้ฉันให้ไปทำหน้าที่ของพวกเขาแต่ฉันก็ทำนะเพราะไม่อยากมีปัญหาไม่อยากมีเรื่องกับใคร
"อีกไม่กี่วันหน้าลูกชายของลุงจะกลับมาแล้วลุงดีใจที่สุดเลยรู้ไหมที่ในที่สุดเขาก็ให้อภัยลุงกลับมาอยู่กับลุง สิบห้าปีแล้วที่ลุงไม่ได้เจอหน้าเขา" ฉันมองหน้าคุณท่านที่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเมื่อพูดถึงลูกชายเพียงคนเดียวของท่านซึ่งฉันก็ไม่เคยเจอหน้าเหมือนกันเห็นแค่เพียงรูปถ่ายในวัยเด็กของเขาเท่านั้นที่อยู่ในห้องของคุณท่านฉันรู้แค่ว่าเขาชื่อคุณเจ้าสมุทร คุณท่านบอกว่าลูกชายของคุณท่านไปอยู่อเมริกาตั้งแต่อายุสิบขวบตั้งแต่ภรรยาของคุณท่านเสียไปคุณเจ้าสมุทรไม่เคยกลับมาเยี่ยมท่านอีกเลยซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน
ตอนหน้าพระเอกจะกลับมาแล้วจ้าาา
ม่านไหม...สองทุ่ม...หลังจากฉลองวันเกิดฉันเสร็จเด็กๆก็ขอตัวไปเล่นข้างนอกโดยมีพี่แม่บ้านสามคนไปช่วยดูแลอย่างใก้ลชิด ส่วนแม่ของฉันฉันไปส่งท่านที่ห้องเพราะท่านบ่นเหนื่อยฉันก็เลยส่งท่านเข้านอน ส่วนพี่เจ้าสมุทรเขาขอไปดูงานที่รีสอร์ตซึ่งอยู่ใกล้ๆกับบ้านพักของเราเห็นเขาบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องเข้าไปจัดการเดี๋ยวจะรีบกลับฉันก็เลยเข้าห้องมาเพื่ออาบน้ำให้ร่างกายสดชื่นสักหน่อยครึ่งชั่วโมงต่อมา...."ทำไมเงียบจัง เด็กๆยังไม่กลับมาอีกเหรอ" ฉันเดินออกมาจากห้องนอนหลังจากเผลอหลับไปงีบนึงแต่พอเดินออกมาก็ไม่เจอใครยังไม่มีใครกลับมากันเลยทั้งลูกทั้งพ่อ"คุณม่านครับคุณม่าน" พนักงานคนนึงวิ่งเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าตื่นตระหนกตกใจ"มีอะไรคะ""แย่แล้วครับแย่แล้ว คุณเจ้าสมุทร""พี่เจ้า ทำไมคะเกิดอะไรขึ้นคะ" ตอนนี้ใจฉันตกไปอยู่ตาตุ่มกลัวในสิ่งที่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร คือฉันฝังใจกับเรื่องแบบนี้ตั้งแต่วันที่มีคนมาบอกเรื่องพี่เจ้าขับรถตกเขา ฉันไม่ชอบเลยที่มีคนมาพูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้"เกิดอะไรขึ้นรีบพูดมาสิคะ!!!" ฉันไม่เคยโมโหอะไรเท่านี้มาก่อนเมื่อพนักงานคนนี้ไม่ยอมพูดอะไรกลับอ้ำๆอึ้งๆอยู่แบบนั้น ฉันไม่อยากรออะไรอีกแล
ม่านไหม...หลังจากที่ได้ฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่พูดฉันก็เดินออกมาจากหลังต้นไม้พอแม่เห็นฉันแม่ก็มีสีท่าตกใจและกำลังจะเดินหนีฉันรีบวิ่งไปหาแม่แล้วกอดท่านไว้ ท่านดูผอมลงกว่าวันนั้นใบหน้าของท่านดูไม่ดีเท่าไหร่จนกระทั่งผ้าที่ท่านใช้คลุมผมมันร่วงลงมาที่ไหล่ทำให้ฉันเห็นว่าผมของท่านบางลงจนแทบไม่มีเส้นผมหลงเหลืออยู่ ฉันมองท่านอย่างตื่นตะลึงที่แม่เปลี่ยนไปในเวลาไม่ถึงเดือน"แม่..ป่วยใช่ไหมคะ""แม่..เอ่อ แม่" แม่มีสีหน้าอึกอักไม่อยากตอบ"เมื่อกี้ม่านได้ยินแม่พูดว่าแม่ป่วยเป็นมะเร็ง""คือแม่..แม่ไม่ได้เป็นอะไรลูกแม่สบายดี""ถึงขนาดนี้แล้วแม่ยังจะมีอะไรปิดบังม่านอีกคะ แม่จะให้ม่านรู้สึกผิดไปจนตายเลยใช่ไหมถ้าวันนึงแม่ทิ้งม่านไปอีกคน" "ม่าน แม่ไม่ได้คิดแบบนั้นนะลูก หนูอย่าเข้าใจผิด แม่...แม่ยอมรับก็ได้ แม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว""แม่ไม่สบายทำไมแม่ไม่บอกม่านคะแม่จะปิดบังเรื่องนี้ไปถึงเมื่อไหร่""แม่แค่ไม่อยากให้ม่านไม่สบายใจ ตอนนี้ม่านกำลังมีชีวิตที่มีความสุขอย่าให้แม่คนนี้ต้องมาทำให้ม่านทุกข์ใจเลย ม่านลืมไปซะนะว่าเคยเจอแม่ให้ทำเหมือนเราไม่ได้เจอกันให้คิดซะว่าม่านไม่เคยมีแม่""แม่คะ ฮึก ฮึก ม่าน
หลายอาทิตย์ผ่านไป..."ม่านตื่นมาทำอะไรในครัวแต่เช้าครับ""ทำอาหารค่ะม่านจะนำไปทำบุญที่วัด""วันนี้วันพระเหรอ""เปล่าค่ะ วันนี้วันเกิดของม่านค่ะม่านก็เลยจะทำอาหารไปทำบุญถวายพระที่วัด""จริงอ่ะวันนี้วันเกิดม่านเหรอ พี่ลืมไปซะสนิทเลยขอโทษนะครับ" พี่เจ้าสมุทรมีสีหน้าไม่สบายใจจนฉันรู้สึกได้"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ช่วงนี้พี่เจ้างานยุ่งกับงานม่านเข้าใจ""แต่พี่ก็รู้สึกแย่อยู่ดี เอางี้เย็นนี้พี่จะรีบกลับแล้วพาม่านไปฉลองดีมั้ย""ไม่ต้องหรอกค่ะ วันเกิดม่านก็เหมือนวันปกติธรรมดาทั่วไปไม่ต้องฉลองก็ได้แค่ม่านได้ไปทำบุญม่านก็พอใจแล้วค่ะ" ฉันบอกพี่เจ้าสมุทรเพราะฉันรู้ว่าเขาคงไม่ได้ตั้งใจลืมวันเกิดของฉันเพราะทุกๆปีเขาไม่เคยลืมเลยสักครั้งจะมีปีนี้ที่ฉันเห็นเขายุ่งมากออกจากบ้านแต่เช้ากลับมาอีกทีก็ค่ำบางวันก็ดึกเลยแต่เขาก็ไม่เคยนอนค้างที่ไหนนะคะถึงจะเลิกงานดึกสักแค่ไหนเขาก็จะกลับมานอนที่บ้านทุกคืนแม้งานที่เขาจะไปทำมันไกลมากแค่ไหนก็ตาม คือตอนนี้พี่เจ้าสมุทรทำธุรกิจโรงแรมหลายแห่งเลยค่ะเกือบสิบแห่งทั่วประเทศมีทั้งโรงแรมขนาดหลายร้อยห้องรวมถึงมีพูลวิลล่าเป็นหลังๆให้เช่าอีกหลายที่ ฉันเคยถามเขาว่าทำไมถึงทำเยอะขนาดนี
ม่านไหม..."ฉันรู้ว่าลูกคงจะเกลียดฉันมากเพราะฉันไม่เคยเลี้ยงดูแกเลยฉันทิ้งแกไปตั้งแต่แบเบาะ ฉันรู้สึกผิดมาตลอดที่ทำแบบนั้น แต่คุณไม่รู้หรอกว่าความจนมันน่ากลัวขนาดไหนการที่ไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อข้าวสารกรอกหม้ออยู่อย่างอดๆ อยากๆ มันเจ็บปวดมากแค่ไหน""คุณอย่าเอาความจนเป็นข้ออ้าง""ฉันผิดเหรอคะที่อยากมีชีวิตที่ดี ที่ฉันตัดสินใจทิ้งลูกทิ้งสามีเพื่อไปหาหนทางหาอนาคตที่ดีกว่าฉันผิดเหรอ""หึไม่ผิดเลยมั้ง" น้ำเสียงของคุณเจ้าสมุทรบ่งบอกว่าเขาไม่พอใจกับคำพูดประโยคนี้ซึ่งฉันเองก็ไม่พอใจเหมือนกัน การที่คนเราอยากมีชีวิตที่ดีมันจำเป็นต้องทิ้งครอบครัวทิ้งลูกทิ้งสามีไปอย่างนั้นเหรอ ถ้าเป็นฉันฉันคงทำไม่ลงแต่ผู้หญิงคนนี้ทำได้ลงคอนั่นก็แสดงว่าเธอไม่ได้รักฉันไม่ได้รักพ่อมากพอนั่นเองแล้วทำไมฉันจะต้องให้อภัยในสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ทำ แล้วตอนนี้จะกลับมาตามหาฉันทำไมมันก็สายเกินไปฉันไม่ต้องการแม่อีกแล้วไม่ต้องการมานานมากแล้ว"แต่คุณรู้มั้ยพอเวลาผ่านไปพอฉันมีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการมีเงินมีบ้านมีรถแต่ฉันกลับไม่เคยมีความสุขเลยฉันคิดถึงพวกเขาคิดถึงลูกคิดถึงสามีแต่ก็ตามหาพวกเขาไม่เจอ ฉันจ้างนักสืบสืบหาพวกเขาอยู่นานหลา
เจ้าสมุทร...หลังจากที่ผมด่าไปเบาๆจนยัยนักศึกษาฝึกงานคนนั้นหน้าเหลือสองนิ้วผมก็เดินเข้ามาในห้องเห็นเด็กๆกำลังก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรไม่รู้อยู่บนโต๊ะทำงาน พอเดินไปดูใกล้ๆผมลมแทบจับเพราะพวกแกเอาเอกสารสัญญาที่ผมจะใช้เซ็นต์ในวันนี้ไปวาดรูประบายสี"พ่อขาน้องวาดรูปสวยมั้ยค้า""พ่อขาน้องระบายสีสวยมั้ยค้า""พ่อขามีกระดาษอีกมั้ยค้าน้องอยากเอาวาดรูปอีกค่า""มีค่ะเดี๋ยวพ่อหาให้นะครับ" ผมทำได้แค่พูดเสียงเบาพร้อมกับยิ้มสดใสให้ลูกเพราะไม่รู้จะดุพวกแกยังไงคือตั้งแต่พวกแกเกิดมาผมไม่เคยดุไม่เคยว่าอะไรลูกเลยแม้แต่ครั้งเดียว จากนั้นผมก็โทรให้พี่เจษหาสมุดวาดรูปมาให้เด็กๆวาดรูประบายสีและให้ทำเอกสารชุดใหม่มาให้ด้วยเพราะตอนนี้จะบ่ายโมงแล้วคุณธัญญ่าเจ้าของที่ดินน่าจะกำลังเดินทางมาถึงก๊อก ก๊อก ก๊อก"ขออนุญาตครับบอส นี่ครับขอบที่บอสสั่ง อ่อคุณธัญญ่าเดินทางมาถึงแล้วครับผมให้นั่งรออยู่ที่ห้องรับรองแขก" พี่เจษเดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารชุดใหม่กับสมุดวาดรูปหลายสิบเล่มและบอกว่าเจ้าของที่ดินเดินทางมาถึงแล้ว"พี่เจษไปบอกให้เค้าเข้ามาคุยที่ห้องทำงานผมได้เลย ผมไม่อยากทิ้งเด็กๆเอาไว้ในห้องตามลำพัง" ไม่ใช่อะไรหรอกครับถ้าผมไ
เวลาต่อมา......."บอสครับได้เวลาเข้าประชุมแล้วครับ" พี่เจษที่ตอนนี้มาทำหน้าที่เลขาส่วนตัวของผมได้เข้ามาเรียกที่ห้องเพราะคงจะได้เวลาประชุมแล้ว คือผมจะเรียกประชุมเดือนละครั้งเพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นภายในองค์กรเพราะเราทำงานด้านบริการซึ่งตอนนี้ผมมีโรงแรมในเครือรวมแล้วก็หลายแห่งซึ่งผู้จัดการของแต่ละแห่งก็จะต้องเข้าร่วมประชุมทุกครั้ง"อีกสิบนาทีเดี๋ยวตามไป""ครับ อ่อบ่ายนี้คุณธัญญ่าเจ้าของที่ดินที่เชียงรายที่บอสต้องการซื้อเพื่อทำรีสอร์ตเธอจะเข้ามาคุยรายละเอียดกับบอสนะครับ" ผมเกือบลืมไปเลยว่าวันนี้เจ้าของที่ที่ผมต้องการจะซื้อเธอจะมาคุยและตกลงรายละเอียดกับผมทั้งที่จริงแล้วเรื่องนี้ผมมอบหมายให้พี่เจษจัดการแทนไปแล้วเพราะผมไม่ว่างที่จะไปคุยกับเจ้าของที่ที่เชียงรายด้วยตัวเองเนื่องจากว่าวันหยุดผมจะให้เวลากับครอบครัวผมจะไม่คุยเรื่องงานเลยแต่เธออยากจะมาคุยกับผมโดยตรงซึ่งผมก็ตอบตกลงให้เข้ามาคุยวันนี้ ที่ผมต้องการที่ดินตรงนั้นเพราะว่าทำเลมันดีและเหมาะมากๆที่จะทำรีสอร์ตทำเป็นวิลล่าส่วนตัวและที่สำคัญมันก็อยู่ใกล้บ้านของตากับยายซึ่งอากาศที่นั่นเย็นสบายตลอดทั้งปีล้อมรอบด้วยธรรมชาติขุนเขาแม