"ยัยใบ้เสร็จหรือยัง" ฉันยืนส่องกระจกมองตัวเองอีกครั้งก่อนจะยืนทำใจสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วไขประตูห้องออกไป พอเปิดประตูออกมาก็เจอคุณเจ้าสมุทรยืนกอดอกขวางอยู่ตรงหน้าประตูห้อง เขามองฉันอย่างอึ้งๆ มองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วก็มาหยุดที่หน้าอกของฉันที่มันเอ่อ...มันล้นทะลักออกมาอย่างเห็นได้ชัด คือเขาจ้องอยู่แบบนั้นจนฉันรู้สึกประหม่า "ไม่ต้องใส่แล้วไปถอดออกเดี๋ยวนี้!!!" เขาตะคอกใส่ฉันเสียงดัง คือฉันงงกับอารมณ์ของเขาเดี๋ยวก็ให้ใส่เดี๋ยวก็ให้ถอด แต่ก็ดีแล้วล่ะเพราะถ้าให้ฉันใส่ชุดนี้ออกไปเล่นน้ำทะเลฉันก็คงไม่กล้า
view moreตู้มมมมมมมมมม!!!!
"กรี๊ดดดดดด!!!!" เสียงของเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจอย่างสุดขีดเมื่อเห็นรถยนต์ที่เธอนั่งมากับพ่อของเธอไฟลุกท่วมทั้งคันหลังเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำทำให้ตัวของเธอกระเด็นออกมานอกตัวรถไปนอนอยู่พงหญ้าข้างทางส่วนพ่อของเธอติดอยู่ภายในรถ
"พ่อ ฮือออ พ่อ" เด็กหญิงหมายจะวิ่งเข้าไปหาพ่อของเธอแต่ถูกชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์รั้งเอาไว้เพราะไฟที่กำลังลุกไหม้รถทั้งคันอาจทำให้เด็กหญิงได้รับอันตราย
"ฮือออ ปล่อยหนู หนูจะไปหาพ่อ ฮืออออ"
"พ่อของเอ็งน่าจะไม่รอดแล้วล่ะนังหนู ไฟลุกท่วมทั้งคันขนาดนี้"
"ไม่จริง ฮือออ พ่อของหนูต้องไม่เป็นอะไร ฮืออออ ปล่อยหนู หนูจะไปช่วยพ่อ ฮืออออ พ่อ กรี๊ดดดด"
เด็กหญิงพยายามที่จะวิ่งเข้าไปหาพ่อแต่ก็ทำไม่สำเร็จ เด็กหญิงร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสารจากนั้นเด็กหญิงก็สลบไป
ที่โรงพยาบาล
"หนูจำทะเบียนรถคันนั้นได้ไหม"
"..............." เด็กหญิงไม่ตอบ
"หนูจำอะไรได้บ้าง"
"..............." เด็กหญิงยังคงไม่ตอบพร้อมกับเบนสายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วก็ร้องไห้ออกมาโดยไม่มีเสียง
"ทำไมเด็กถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะหมอ จากที่สอบถามคนที่เห็นเหตุการณ์พวกเขาบอกว่าเด็กพูดได้ไม่ได้เป็นใบ้แต่นี่ผมสอบสวนมาเป็นชั่วโมงละนะแกก็ไม่ยอมพูดแกเป็นอะไรหรือเปล่า" ตำรวจหันไปถามคุณหมอเจ้าของไข้ของเด็กหญิง
"จากที่ตรวจดูอาการร่างกายของแกก็มีรอฟกช้ำบางแห่งแต่ที่แกไม่ยอมพูดน่าจะเกิดจากภาวะช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคงกระทบกระเทือนจิตใจของแก"
"แล้วแบบนี้เราจะทำยังไงถามอะไรเด็กก็ไม่ยอมพูด"
"ก็คงต้องใช้เวลาครับให้เวลาแกสักหน่อย"
"แล้วอีกนานไหม"
"เรื่องนี้หมอก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน"
12ปีต่อมา
ม่านไหม..
"นังม่าน!!!!นังใบ้ถ้าแกล้างจานเสร็จแล้วก็ไปช่วยฉันรีดผ้าด้วยล่ะเข้าใจไหม" ฉันพยักหน้ารับคำขณะที่ทำกำลังยืนล้างจานอยู่ที่ซิ้งค์ล้างจาน
"ไม่ได้ มันต้องไปช่วยฉันทำความสะอาดตึกเล็กก่อนเพราะอีกไม่กี่วันลูกชายคุณท่านก็จะกลับมาจากอเมริกาแล้ว"
"คุณเจ้าสมุทรกลับมาวันอาทิตย์โน่นมันอีกตั้งหลายวันจะรีบไปทำทำไมวะนังนุ่ม"
"แล้วแกไม่แหกตาดูเหรอนังแจงว่าตึกเล็กมันมีตั้งกี่ชั้นมันกว้างขนาดไหนทำกี่วันจะเสร็จ ไม่รู้ล่ะยังไงฉันก็จะเอานังใบ้นี่ไปช่วยทำ"
"เอ๊ะแกนี่ยังไงนังนุ่มฉันใช้นังใบ้มันก่อนนะ"
"นี่ๆ ไม่ต้องเถียงกันเลยนะพวกแกทั้งสองคนน่ะหน้าที่ใครก็หน้าที่มันสิ นังแจงแกมีหน้าที่ซักผ้ารีดผ้าก็ไปทำส่วนนังนุ่มแกมีหน้าที่ทำความสะอาดก็ทำไปจะมาใช้นังม่านกันทำไมนักหนามันใช่หน้าที่มันเหรอแค่มันอาสาเข้าช่วยทำงานในครัวข้าก็กลัวคุณท่านดุจะตายอยู่แล้ว"
"มันพูดไม่ได้มันจะไปฟ้องคุณท่านได้ยังไงล่ะป้าผ่อง"
"ใช่ฉันเห็นด้วยกับนังแจงมันนะป้านังม่านมันเป็นใบ้พูดไม่ได้มันจะเอาปัญญาไหนไปฟ้องคุณท่าน"
"เห็นมันเป็นใบ้พูดไม่ได้แบบนี้มันก็ได้เรียนหนังสือนะเว้ยมันอ่านออกเขียนได้นะพวกแกอย่าลืม"
"ป้าพูดแบบนี้หมายความว่าไง"
"นังม่านมันเป็นใบ้ก็จริงแต่มันเขียนหนังสือได้ถ้าเกิดมันเขียนบอกคุณท่านว่าพวกแกชอบแกล้งมันใช้งานมันพวกแกคิดว่าคุณท่านจะว่ายังไง"
"นี่นังม่านแกอย่าริไปฟ้องคุณท่านเชียวนะเรื่องที่พวกฉันสองคนใช้งานแกน่ะ"
"ใช่ถ้าพวกฉันสองคนรู้ว่าแกไปฟ้องคุณท่านว่าพวกฉันใช้งานแกแกอย่าหวังเลยว่าจะอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขเข้าใจไหม" ฉันทำได้แค่พยักหน้าเท่านั้นก่อนจะก้มหน้าก้มล้างจานต่อ
เปิดตอนแรกมาก็สงสารนางเอกเลย
ปล. ก่อนอื่นต้องขอโทษรี๊ดด้วยนะคะที่ไรท์หายไปหลายวัน ขอสารภาพว่าไรท์ติดซีรี่ย์จีนที่เพิ่งจบไปอยากจะบอกว่าตับไตพังไปหมดหน่วงไปสองวันนี่เพิ่งทำใจได้ก็เลยเริ่มอัพนิยาย5555
ม่านไหม...สองทุ่ม...หลังจากฉลองวันเกิดฉันเสร็จเด็กๆก็ขอตัวไปเล่นข้างนอกโดยมีพี่แม่บ้านสามคนไปช่วยดูแลอย่างใก้ลชิด ส่วนแม่ของฉันฉันไปส่งท่านที่ห้องเพราะท่านบ่นเหนื่อยฉันก็เลยส่งท่านเข้านอน ส่วนพี่เจ้าสมุทรเขาขอไปดูงานที่รีสอร์ตซึ่งอยู่ใกล้ๆกับบ้านพักของเราเห็นเขาบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องเข้าไปจัดการเดี๋ยวจะรีบกลับฉันก็เลยเข้าห้องมาเพื่ออาบน้ำให้ร่างกายสดชื่นสักหน่อยครึ่งชั่วโมงต่อมา...."ทำไมเงียบจัง เด็กๆยังไม่กลับมาอีกเหรอ" ฉันเดินออกมาจากห้องนอนหลังจากเผลอหลับไปงีบนึงแต่พอเดินออกมาก็ไม่เจอใครยังไม่มีใครกลับมากันเลยทั้งลูกทั้งพ่อ"คุณม่านครับคุณม่าน" พนักงานคนนึงวิ่งเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าตื่นตระหนกตกใจ"มีอะไรคะ""แย่แล้วครับแย่แล้ว คุณเจ้าสมุทร""พี่เจ้า ทำไมคะเกิดอะไรขึ้นคะ" ตอนนี้ใจฉันตกไปอยู่ตาตุ่มกลัวในสิ่งที่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร คือฉันฝังใจกับเรื่องแบบนี้ตั้งแต่วันที่มีคนมาบอกเรื่องพี่เจ้าขับรถตกเขา ฉันไม่ชอบเลยที่มีคนมาพูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้"เกิดอะไรขึ้นรีบพูดมาสิคะ!!!" ฉันไม่เคยโมโหอะไรเท่านี้มาก่อนเมื่อพนักงานคนนี้ไม่ยอมพูดอะไรกลับอ้ำๆอึ้งๆอยู่แบบนั้น ฉันไม่อยากรออะไรอีกแล
ม่านไหม...หลังจากที่ได้ฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่พูดฉันก็เดินออกมาจากหลังต้นไม้พอแม่เห็นฉันแม่ก็มีสีท่าตกใจและกำลังจะเดินหนีฉันรีบวิ่งไปหาแม่แล้วกอดท่านไว้ ท่านดูผอมลงกว่าวันนั้นใบหน้าของท่านดูไม่ดีเท่าไหร่จนกระทั่งผ้าที่ท่านใช้คลุมผมมันร่วงลงมาที่ไหล่ทำให้ฉันเห็นว่าผมของท่านบางลงจนแทบไม่มีเส้นผมหลงเหลืออยู่ ฉันมองท่านอย่างตื่นตะลึงที่แม่เปลี่ยนไปในเวลาไม่ถึงเดือน"แม่..ป่วยใช่ไหมคะ""แม่..เอ่อ แม่" แม่มีสีหน้าอึกอักไม่อยากตอบ"เมื่อกี้ม่านได้ยินแม่พูดว่าแม่ป่วยเป็นมะเร็ง""คือแม่..แม่ไม่ได้เป็นอะไรลูกแม่สบายดี""ถึงขนาดนี้แล้วแม่ยังจะมีอะไรปิดบังม่านอีกคะ แม่จะให้ม่านรู้สึกผิดไปจนตายเลยใช่ไหมถ้าวันนึงแม่ทิ้งม่านไปอีกคน" "ม่าน แม่ไม่ได้คิดแบบนั้นนะลูก หนูอย่าเข้าใจผิด แม่...แม่ยอมรับก็ได้ แม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว""แม่ไม่สบายทำไมแม่ไม่บอกม่านคะแม่จะปิดบังเรื่องนี้ไปถึงเมื่อไหร่""แม่แค่ไม่อยากให้ม่านไม่สบายใจ ตอนนี้ม่านกำลังมีชีวิตที่มีความสุขอย่าให้แม่คนนี้ต้องมาทำให้ม่านทุกข์ใจเลย ม่านลืมไปซะนะว่าเคยเจอแม่ให้ทำเหมือนเราไม่ได้เจอกันให้คิดซะว่าม่านไม่เคยมีแม่""แม่คะ ฮึก ฮึก ม่าน
หลายอาทิตย์ผ่านไป..."ม่านตื่นมาทำอะไรในครัวแต่เช้าครับ""ทำอาหารค่ะม่านจะนำไปทำบุญที่วัด""วันนี้วันพระเหรอ""เปล่าค่ะ วันนี้วันเกิดของม่านค่ะม่านก็เลยจะทำอาหารไปทำบุญถวายพระที่วัด""จริงอ่ะวันนี้วันเกิดม่านเหรอ พี่ลืมไปซะสนิทเลยขอโทษนะครับ" พี่เจ้าสมุทรมีสีหน้าไม่สบายใจจนฉันรู้สึกได้"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ช่วงนี้พี่เจ้างานยุ่งกับงานม่านเข้าใจ""แต่พี่ก็รู้สึกแย่อยู่ดี เอางี้เย็นนี้พี่จะรีบกลับแล้วพาม่านไปฉลองดีมั้ย""ไม่ต้องหรอกค่ะ วันเกิดม่านก็เหมือนวันปกติธรรมดาทั่วไปไม่ต้องฉลองก็ได้แค่ม่านได้ไปทำบุญม่านก็พอใจแล้วค่ะ" ฉันบอกพี่เจ้าสมุทรเพราะฉันรู้ว่าเขาคงไม่ได้ตั้งใจลืมวันเกิดของฉันเพราะทุกๆปีเขาไม่เคยลืมเลยสักครั้งจะมีปีนี้ที่ฉันเห็นเขายุ่งมากออกจากบ้านแต่เช้ากลับมาอีกทีก็ค่ำบางวันก็ดึกเลยแต่เขาก็ไม่เคยนอนค้างที่ไหนนะคะถึงจะเลิกงานดึกสักแค่ไหนเขาก็จะกลับมานอนที่บ้านทุกคืนแม้งานที่เขาจะไปทำมันไกลมากแค่ไหนก็ตาม คือตอนนี้พี่เจ้าสมุทรทำธุรกิจโรงแรมหลายแห่งเลยค่ะเกือบสิบแห่งทั่วประเทศมีทั้งโรงแรมขนาดหลายร้อยห้องรวมถึงมีพูลวิลล่าเป็นหลังๆให้เช่าอีกหลายที่ ฉันเคยถามเขาว่าทำไมถึงทำเยอะขนาดนี
ม่านไหม..."ฉันรู้ว่าลูกคงจะเกลียดฉันมากเพราะฉันไม่เคยเลี้ยงดูแกเลยฉันทิ้งแกไปตั้งแต่แบเบาะ ฉันรู้สึกผิดมาตลอดที่ทำแบบนั้น แต่คุณไม่รู้หรอกว่าความจนมันน่ากลัวขนาดไหนการที่ไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อข้าวสารกรอกหม้ออยู่อย่างอดๆ อยากๆ มันเจ็บปวดมากแค่ไหน""คุณอย่าเอาความจนเป็นข้ออ้าง""ฉันผิดเหรอคะที่อยากมีชีวิตที่ดี ที่ฉันตัดสินใจทิ้งลูกทิ้งสามีเพื่อไปหาหนทางหาอนาคตที่ดีกว่าฉันผิดเหรอ""หึไม่ผิดเลยมั้ง" น้ำเสียงของคุณเจ้าสมุทรบ่งบอกว่าเขาไม่พอใจกับคำพูดประโยคนี้ซึ่งฉันเองก็ไม่พอใจเหมือนกัน การที่คนเราอยากมีชีวิตที่ดีมันจำเป็นต้องทิ้งครอบครัวทิ้งลูกทิ้งสามีไปอย่างนั้นเหรอ ถ้าเป็นฉันฉันคงทำไม่ลงแต่ผู้หญิงคนนี้ทำได้ลงคอนั่นก็แสดงว่าเธอไม่ได้รักฉันไม่ได้รักพ่อมากพอนั่นเองแล้วทำไมฉันจะต้องให้อภัยในสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ทำ แล้วตอนนี้จะกลับมาตามหาฉันทำไมมันก็สายเกินไปฉันไม่ต้องการแม่อีกแล้วไม่ต้องการมานานมากแล้ว"แต่คุณรู้มั้ยพอเวลาผ่านไปพอฉันมีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการมีเงินมีบ้านมีรถแต่ฉันกลับไม่เคยมีความสุขเลยฉันคิดถึงพวกเขาคิดถึงลูกคิดถึงสามีแต่ก็ตามหาพวกเขาไม่เจอ ฉันจ้างนักสืบสืบหาพวกเขาอยู่นานหลา
เจ้าสมุทร...หลังจากที่ผมด่าไปเบาๆจนยัยนักศึกษาฝึกงานคนนั้นหน้าเหลือสองนิ้วผมก็เดินเข้ามาในห้องเห็นเด็กๆกำลังก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรไม่รู้อยู่บนโต๊ะทำงาน พอเดินไปดูใกล้ๆผมลมแทบจับเพราะพวกแกเอาเอกสารสัญญาที่ผมจะใช้เซ็นต์ในวันนี้ไปวาดรูประบายสี"พ่อขาน้องวาดรูปสวยมั้ยค้า""พ่อขาน้องระบายสีสวยมั้ยค้า""พ่อขามีกระดาษอีกมั้ยค้าน้องอยากเอาวาดรูปอีกค่า""มีค่ะเดี๋ยวพ่อหาให้นะครับ" ผมทำได้แค่พูดเสียงเบาพร้อมกับยิ้มสดใสให้ลูกเพราะไม่รู้จะดุพวกแกยังไงคือตั้งแต่พวกแกเกิดมาผมไม่เคยดุไม่เคยว่าอะไรลูกเลยแม้แต่ครั้งเดียว จากนั้นผมก็โทรให้พี่เจษหาสมุดวาดรูปมาให้เด็กๆวาดรูประบายสีและให้ทำเอกสารชุดใหม่มาให้ด้วยเพราะตอนนี้จะบ่ายโมงแล้วคุณธัญญ่าเจ้าของที่ดินน่าจะกำลังเดินทางมาถึงก๊อก ก๊อก ก๊อก"ขออนุญาตครับบอส นี่ครับขอบที่บอสสั่ง อ่อคุณธัญญ่าเดินทางมาถึงแล้วครับผมให้นั่งรออยู่ที่ห้องรับรองแขก" พี่เจษเดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารชุดใหม่กับสมุดวาดรูปหลายสิบเล่มและบอกว่าเจ้าของที่ดินเดินทางมาถึงแล้ว"พี่เจษไปบอกให้เค้าเข้ามาคุยที่ห้องทำงานผมได้เลย ผมไม่อยากทิ้งเด็กๆเอาไว้ในห้องตามลำพัง" ไม่ใช่อะไรหรอกครับถ้าผมไ
เวลาต่อมา......."บอสครับได้เวลาเข้าประชุมแล้วครับ" พี่เจษที่ตอนนี้มาทำหน้าที่เลขาส่วนตัวของผมได้เข้ามาเรียกที่ห้องเพราะคงจะได้เวลาประชุมแล้ว คือผมจะเรียกประชุมเดือนละครั้งเพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นภายในองค์กรเพราะเราทำงานด้านบริการซึ่งตอนนี้ผมมีโรงแรมในเครือรวมแล้วก็หลายแห่งซึ่งผู้จัดการของแต่ละแห่งก็จะต้องเข้าร่วมประชุมทุกครั้ง"อีกสิบนาทีเดี๋ยวตามไป""ครับ อ่อบ่ายนี้คุณธัญญ่าเจ้าของที่ดินที่เชียงรายที่บอสต้องการซื้อเพื่อทำรีสอร์ตเธอจะเข้ามาคุยรายละเอียดกับบอสนะครับ" ผมเกือบลืมไปเลยว่าวันนี้เจ้าของที่ที่ผมต้องการจะซื้อเธอจะมาคุยและตกลงรายละเอียดกับผมทั้งที่จริงแล้วเรื่องนี้ผมมอบหมายให้พี่เจษจัดการแทนไปแล้วเพราะผมไม่ว่างที่จะไปคุยกับเจ้าของที่ที่เชียงรายด้วยตัวเองเนื่องจากว่าวันหยุดผมจะให้เวลากับครอบครัวผมจะไม่คุยเรื่องงานเลยแต่เธออยากจะมาคุยกับผมโดยตรงซึ่งผมก็ตอบตกลงให้เข้ามาคุยวันนี้ ที่ผมต้องการที่ดินตรงนั้นเพราะว่าทำเลมันดีและเหมาะมากๆที่จะทำรีสอร์ตทำเป็นวิลล่าส่วนตัวและที่สำคัญมันก็อยู่ใกล้บ้านของตากับยายซึ่งอากาศที่นั่นเย็นสบายตลอดทั้งปีล้อมรอบด้วยธรรมชาติขุนเขาแม
Mga Comments