เนย แพม บรีส ทั้งสามสาวยังคงนั่งดื่มอยู่ที่โต๊ะเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้มีทีท่าว่าจะหยุดพักเลยทั้งที่แพมตอนนี้เมาหัวราน้ำไปแล้ว
" แกว่าคืนนี้ไอ้แพมมันจะอยู่คนเดียวได้ไหมวะไอ้เนย " บรีสถามเนยออกไปเพราะอาการคนเพิ่งอกหักเธอรู้ดีว่าต้องการคนช่วยเยียวยาหัวใจแค่ไหน เพราะเธอเองก็เคยผ่านจุดนี้มาแล้ว " ไม่รู้สิ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆเดี๋ยวฉันไปนอนเป็นเพื่อนมันเอง แต่พรุ่งนี้ฉันมีธุระแต่เช้าน่ะสิ " เนยหวานตอบกลับบรีสไป พร้อมกับทำท่าทางหนักใจ " ธุระอะไรของแก ฉันว่าจะถามตั้งแต่มาถึงแล้วว่าแกมีเรื่องอะไรหรือเปล่า แต่ก็ติดอยู่ที่ไอ้แพมก็เลยยังไม่ได้ถามไป " " เรื่องนี้แหละที่ฉันตั้งใจจะมาบอกพวกแกด้วย คุณพ่อกับคุณแม่จะให้ฉันไปดูตัวกับคนที่ฉันไม่รู้จัก ท่านทั้งสองกำลังจะจับฉันคลุมถุงชนซึ่งคนที่ฉันต้องแต่งงานด้วยอายุสี่สิบแล้ว " เนยหวานบอกเพื่อนพร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ โดนจับแต่งงานทั้งทีก็ได้สามีแก่คราวพ่อ " เฮ้ย! สี่สิบแล้วหรอวะ ห่างจากเราตั้ง 17 ปีเลยนะเว้ย แกจะไหวหรอไอ้เนย " บรีสถามออกไปเพราะด้วยวัยที่ต่างกันสามารถเป็นพ่อลูกกันได้เลย " ไม่รู้อ่ะ ต้องลองดูก่อนแต่ถ้าไม่ไหวจริงๆก็คงต้องบอกพ่อกับแม่ไปตามตรง ที่ฉันตอบตกลงที่จะไปดูตัวเพราะไม่อยากขัดใจคุณพ่อกับคุณแม่ " " ดีนะที่แกยังไม่มีแฟน ไม่อย่างนั้นสงสารแฟนแกแย่เลย ถ้าท้ายที่สุดแกก็ทำตามที่ครอบครัวต้องการ แต่ฉันถามแกจริงๆเถอะ แกมีความสุขหรอวะ นั่นมันชีวิตทั้งชีวิตของแกเลยนะเว้ย " " ไม่รู้อ่ะ " ในขณะที่ทั้งสองสาวกำลังเม้าท์มอยกันพร้อมกับแพมที่หลับไม่รู้เรื่องไปแล้ว ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกเธอที่โต๊ะ " สวัสดีครับน้องเนย น้องบรีส น้องแพมจำพี่ได้หรือเปล่าครับ " ชายหนุ่มไฮโซรูปร่างกำยำ ความหล่อไม่ต้องพูดถึงเขาเป็นที่หมายปองของบรรดาสาวๆทั่วทั้งเมืองอยู่แล้ว " สวัสดีค่ะพี่แดนไท มาเที่ยวคนเดียวหรอคะ " เป็นบรีสที่เอ่ยทักไปเพราะเธอไม่คิดว่าคนอย่างแดนไทจะมาเที่ยวในสถานที่แบบนี้คนเดียว " พี่มากับเพื่อนน่ะครับ พอดีว่าเดินมาทักเฉยๆ แต่พี่ไม่ยักรู้นะครับว่าน้องเนยก็มาที่แบบนี้ด้วย เห็นปกติแต่งตัวเรียบร้อยแต่วันนี้สวยขึ้นมากเลยนะครับ " แดนไทเอ่ยชมเนยหวานไม่ขาดปากเพราะเขาหมายตาเธอไว้ตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว พยายามจีบทุกทางแต่เธอก็ปฏิเสธ จนมาถึงวันนี้ที่เขาได้เจอเธออีกครั้ง เขาจึงไม่รอเธอที่จะเดินเข้ามาทักเธอเมื่อเห็นใบหน้าของเธอก็ต้องตกตะลึงเพราะเธอสวยขึ้นมากเป็นสาวสะพรั่งเต็มตัว " ขอบคุณมากเลยนะคะที่ชม พี่แดนไทจะอยู่ดื่มด้วยกันก่อนหรือเปล่าคะ หรือว่าจะกลับโต๊ะเลย " เนยหวานรู้สึกรำคาญแต่เธอก็เลือกที่จะพูดเพียงเบาๆ ออกไปเท่านั้น " งั้นพี่ขอนั่งด้วยคนนะครับ ป่านนี้พวกเพื่อนๆของพี่คงอยู่กับสาวๆกันหมดแล้ว " " แล้วพี่แดนไทไม่มีสาวๆหรอคะ " คำถามนี้เป็นเนยหวานถามขึ้นมา เธอไม่ได้อยากรู้หรอกเพียงแต่ถามเพื่อให้เป็นมารยาทเท่านั้น " ไม่มีครับ กำลังรอใครบางคนแถวนี้อยู่ครับ " เนยหวานไม่ตอบได้แต่กระดกเหล้าเข้าปากเรื่อยๆพร้อมกับแดนไทที่นั่งติดเธอแล้วพยายามชวนเธอคุยทุกทาง เขาอยากทำความรู้จักกับเธอสำหรับเขาเธอเหมาะจะเป็นแม่ของลูกที่สุดแล้ว การกระทำของเธอทุกอย่างตกอยู่ในสายตาของมาร์ติน เขากำลังประเมินเธอว่าเธอเป็นคนแบบไหนกันแน่ ภายนอกที่ดูเรียบร้อยในประวัติก็ดูขาวสะอาด แต่ทำไมเธอถึงมาเที่ยวที่แบบนี้ได้ มิหนำซ้ำยังมีผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้นั่งด้วยกันกับเธอและที่สำคัญก็ไม่คิดจะปฏิเสธอีกด้วย ผู้หญิงแบบนี้น่ะหรอที่แม่เขาต้องการให้มาเป็นสะใภ้คงไม่พ้นเป็นเหมือนดารินแน่ " มองอะไรวะไอ้มาร์ติน " คริสต์ถามออกไปพร้อมกับมองไปยังต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนของเขาจ้องมองอยู่แบบนี้ " มึงรู้จักเธอหรอ กูเห็นมึงมองเธอตั้งแต่ที่เธอเข้ามาแรกๆแล้ว " คราวนี้เป็นคาร์สันที่พูดขึ้นมาเพราะเขาลอบมองดูมาร์ตินที่ดูสาวน้อยคนนั้นตั้งแต่ที่เธอเข้ามาแล้ว จนตอนนี้ก็ยังมองไม่เลิก " ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวหรอก แต่ต่อไปก็คงจะต้องรู้จัก แม่กูหมายตาผู้หญิงคนนี้เอาไว้ " มาร์ตินบอกกับเพื่อนแต่สายตายังไม่ลดละไปจากสาวน้อยร่างบางเลย " ห๊ะ! มึงหมายความว่ายังไง คุณหญิฤทัยจับคู่ให้มึงอย่างนั้นหรอ ดูอย่างไอ้มาคัสสิ กว่าจะรอดพ้นออกมาได้ ก็ทำเอาเสียชื่อเสียงไปพักใหญ่ แล้วแม่มึงไม่กลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรอวะ ผู้หญิงสวยแต่รูปจูบไม่หอมมีเยอะแยะไป " คราวนี้เป็นไทป์ที่พูดออกไป " แม่กูเขาบอกว่าเธอเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย เรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ แต่กูดูทรงแล้วกูว่าต้องมาทรงแบบดารินแน่นอน แล้วกูจะไม่มีทางให้เธอมาสร้างความวุ่นวายในชีวิตของกูได้ ถึงแม้ว่าจะแต่งงานกันไปแล้ว กูจะทำทุกทางเพื่อให้เธอหย่ากับกูให้ได้ " มึงแน่ใจนะว่ามึงจะไม่หลงเสน่ห์เขา กูดูน้องเขาก็ดูน่ารักดีนะเว้ย ถ้าไม่เห็นว่ามาเที่ยวที่แบบนี้กูก็คงคิดว่าน้องเขาคงจะเป็นผู้หญิงนิ่มๆเชือดง่ายๆ " คริสต์เอ่ยออกไป " กูไม่มีทางหลงเสน่ห์ผู้หญิงแบบนี้ได้ลงหรอก คอยดูนะต่อไปเธอจะต้องไม่มีความสุข แทนที่จะปฏิเสธการแต่งงาน ผู้หญิงอะไรกลับรู้สึกดีที่ได้แต่งงาน " " ยังไม่รู้จักน้องเขาดีพอ มึงด่วนตัดสินเขาแล้วหรอวะ " " ผู้หญิงแบบนี้ดูไม่ยากหรอก มึงดูเธอตอนนี้สิ " มาร์ตินมองไปยังสาวน้อยร่างบอบบางที่ตอนนี้นั่งหัวร่อต่อกระซิกกับผู้ชายคนอื่น แถมยังดูท่าทางสนิทสนมกันมากด้วย หลังจากที่พูดกับเพื่อนจบมาร์ตินก็ยังนั่งกินเหล้าแล้วจ้องมองเธออยู่แบบนั้น เขาอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงชอบมาเที่ยวที่แบบนี้ทั้งๆที่แม่เขาเป็นคนพรรณนาว่าเธอเป็นสาวน้อยเรียบร้อย แต่พรุ่งนี้ไปดูตัวเขาจะต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่อง เขาจะไม่มีทางปล่อยให้เรื่องแต่งงานมันเกิดขึ้นเด็ดขาดคนแบบเขารักอิสระจะตาย" อื้อ....อ๊ะ " ท่อนเนื้อลำใหญ่ถูกกระแทกเข้ามาโดยร่างสูงทีเดียวจนมิดลำหลังจาดจบคำพูดของเขา เขาไม่แม้แต่แช่แก่นกายเอาไว้ด้วยซ้ำ จับเธอกระแทกอย่างรุนแรงเพราะอารมณ์สวาทของเขาตอนนี้อดทนรอกับอะไรไม่ไหวอีกแล้ว ปัก ปัก ปัก ปัก ปัก ปัก! " อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ เบาหน่อยค่ะเนยจุกไปหมดแล้ว " ร่างบอบบางที่ส่งมือเรียวเล็กทั้งสองข้างดันไว้กับเอวหนา สัมผัสของมือเรียวเล็กที่อยู่ตรงบริเวณซิกแพคของเขา ทำเอาร่างสูงสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่าน ไม่คิดว่าเพียงแค่มือน้อยๆของเธอสัมผัสมันกลับทำให้อารมณ์ของเขาพุ่งพล่านอย่างห้ามไม่ได้ " อ่าาส์ ดีชะมัด ของเธอตอดพี่แน่นจนพี่แทบจะไม่ไหวแล้ว " เขายังคงตอกอัดท่อนเนื้อเข้าไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อย ส่วนร่างบอบบางเองก็ทำได้แค่ผลักหน้าท้องของเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้เขาโจนจ้วงเข้ามาลึกจนเกินไป เพราะแค่นี้เธอก็จุกจนพูดไม่ออกแล้ว ตั่บ ตั่บ ตั่บ ตั่บ ตั่บ!เสียงท่อนเนื้อกระทบกับร่องรักของร่างบอบบาง เรียกเสียงครางต่ำๆจากมาร์ตินได้ไม่น้อย เขาจับขาเธอยกออกจากการพาดไว้บนไหล่กว้าง แล้วเปลี่ยนให้เธอนอนตะแคงข้างพร้อมกับจับขาข้างหนึ่งของเธอยกขึ้นพาดไว้กับลำแขนแกร่งพร้อมกับตัวเขาที่เข้าไ
เมื่อเดินขึ้นมาถึงจนถึงหน้าห้องนอนของเนยหวานแล้ว มาร์ตินก็ใช้ให้เธอเปิดประตูและตัวเขาก็อุ้มเธอไปวางที่เตียงอย่างเบามือ ความอ่อนโยนบวกกับสายตาที่ส่งมาของเขาทำเอาเธอใจสั่นเข้าให้แล้ว" นอนเฉยๆได้ไหมคะ คืนนี้เนยไม่ไหวเมื่อคืนก็ยังระบมไปทั้งตัวไม่หาย พี่มาร์ตินไม่อ่อนโยนกับเนยเลยสักนิด " ร่างบอบบางทำสายตาอ้อนๆกระพริบตาปริบๆ หวังให้อีกฝ่ายเห็นใจ แต่ไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอมันเหมือนเป็นการกระตุ้นให้เขาเกิดอารมณ์สวาทมากยิ่งขึ้น สายตาเอยท่าทางเอย น่าฟัดชัดมัด " คืนนี้ฉันจะทำเบาๆ " เขายังคงหลอกล่อให้เธอเชื่อคนอย่าง มาร์ติน ไมโลเวอร์ ไม่เคยอ่อนโยนเรื่องบนเตียงอยู่แล้ว " ไม่เอาเนยไม่เชื่อ " " เอา! " เขาพูดเพียงแค่นั้นก็ก้มลงมาประกบจูบปากของเธออย่างเร่าร้อน โดยไม่ปล่อยให้เธอได้ต่อต้านอีกต่อไป เขายอมรับว่าทีแรกคิดถึงเธอจนนอนไม่หลับ เลยกะว่าจะลงไปเดินเล่นดับความฟุ้งซ่านของตัวเองสักหน่อย พร้อมกับหาอะไรดื่มแต่โชคดันเข้าข้างที่เห็นเธอยังไม่หลับไปเสียก่อนเขาจึงหาทางเข้ามานอนกอดเธอแบบนี้ " อื้อ...เนยยังปวดท้องอยู่เลยไว้วันหลังได้ไหมคะ " ส่วนร่างสูงที่พอผละจูบออกมาแล้ว เนยหวานก็รีบใช้โอกาสนี้บอ
เวลาผ่านไปค่อนคืน ร่างบอบบางที่นอนไม่หลับเพราะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่ท้องไปหมดแล้ว เธอนอนปวดอยู่อย่างนี้ตั้งแต่หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้ว พอขึ้นมาข้างบนเธอก็ปวดท้องจนไม่เป็นอันทำอะไร ปกติเธอก็จะไม่ปวดมากขนาดนี้สงสัยคงเพราะไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้าแล้วตอนเย็นดันมากินเผ็ดมากๆอีก ร่างกายก็เลยเริ่มไม่ไหว " หิวชะมัดเมื่อไหร่จะเช้านะ " ร่างบอบบางเริ่มกำลังบ่นพึมพำกับตัวเองหลังจากที่คิดว่าจะอดทนจนถึงตอนเช้า ถึงจะไปทำข้าวต้มกินสักชาม แต่ดูเวลาตอนนี้ห้าทุ่มกว่าๆทุกคนคงจะเข้านอนกันหมดแล้วมั๊ง แล้วเธอก็ทนความหิวไม่ไหวอีกต่อไปจึงลงมาข้างล่าง พอเธอเปิดประตูห้องนอนก็มองซ้ายมองขวาปรากฏว่าห้องนอนของสามีหมาดๆของเธอนั้นปิดสนิท เขาอาจจะกำลังจู๋จี๋กับแฟนข้างในก็ได้ แต่ใครจะสนกันล่ะตอนนี้เธอสนใจแค่ท้องน้อยๆของเธอต้องอิ่มเท่านั้น คิดได้ดังนั้นก็รีบดิ่งลงไปที่ห้องครัวพร้อมกับเปิดตู้เย็นดูของสดตรงหน้าว่ามีอะไรพอจะทำกินได้บ้าง พอเห็นผักต่างๆยังคงเหลือจึงรีบเอามาทำผัดผักรวมมิตรใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีเธอก็ทำทุกอย่างจนเสร็จได้ผัดผักรวมมิตรพร้อมกับไข่เจียวหอมๆ เธอรีบตักข้าวแล้วนั่งกินในครัวนั่นเลย โดยไม่ได้สนใจ
เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนเย็น โดยที่เนยหวานไม่รู้เลยว่าตัวเองหลับไปตั้งแต่ตอนไหน ตื่นขึ้นมาอีกทีท้องฟ้าข้างนอกก็มืดเสียแล้ว เธอรีบมองดูนาฬิกาในโทรศัพท์มือถือก็พบว่าตอนนี้ทุ่มกว่าแล้วจึงรีบล้างหน้าแล้วเดินลงมาข้างล่าง แต่เมื่อมาถึงก็เจอกับบางสิ่งบางอย่างที่ไม่คาดคิด " เมียของคุณมาโน่นแล้วค่ะ " ผู้หญิงที่ชื่อนีน่าคนที่มาป่วนงานแต่งของเธอเมื่อคืนหนิ เธอจำได้ดี ว่าแต่ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เนยหวานรีบเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างเงียบๆเพราะหากจะเดินหนีไปก็คงไม่ทันแล้ว มาร์ตินมองเห็นเธอเข้าแล้ว " นี่เธอกะจะนอนกินบ้านกินเมืองเลยหรือไงเนยหวาน งานบ้านก็มีไม่คิดจะมาทำช่วยนิ่มหน่อยหรอ " เขาดุเธอต่อหน้าของนีน่าทำให้เธอได้แต่ก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิด เพราะเธอเผลอหลับไปนานมากจริงๆ แต่จะให้ทำไงได้ก็เธอเพลียมาก ส่วนนีน่าก็ยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจที่มาร์ตินดุยัยนี่ต่อหน้าเธอ " ขอโทษค่ะต่อไปเนยจะไม่ทำอีก พี่นิ่มเนยขอโทษนะคะที่ไม่ได้ลงมาช่วย " " อุ๊ยไม่เป็นไรเลยค่ะคุณเนย งานบ้านไม่ได้มีอะไรมากนิ่มทำคนเดียวได้ค่ะ " นิ่มรีบปฏิเสธเป็นพัลวันเพราะความเกรงใจจะมาให้เจ้านายช่วยงานลูกน้องแบบนี้ได้ยังไง เธอทำค
ในเช้าวันใหม่บรรยากาศภายในห้องสวีทที่ถูกจัดเอาไว้เป็นห้องหอสำหรับคู่บ่าวสาวข้าวใหม่ปลามัน ตอนนี้มาร์ตินได้ตื่นขึ้นมาแล้วพร้อมกับนอนมองหน้าของเธออยู่แบบนั้น เขาจัดท่าทางให้เธออยู่ในอ้อมกอดของเขาตั้งแต่เมื่อคืน เธอก็นอนหลับแบบไม่ไหวติง คงจะเพราะเหนื่อยล้ามาทั้งวัน พร้อมกับทบทวนกับตัวเองว่าควรจะเอายังไงต่อไปดี แต่ความคิดทางฝ่ายอาธรรมก็เอาชนะไปจนได้ เพราะแผนการที่เขากำลังจะทำเขายังคิดจะทำมันต่อ แม้ว่าเธอจะเป็นเมียของเขาโดยสมบูรณ์แล้วทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เกิดขึ้นมาด้วยความรัก ต่อจากนี้เขาจะทำให้เธอเจ็บทุกทางและขออย่าจากเขาไปเอง และแน่นอนการที่เธอเข้ามาหาเขาเป็นเพราะผลประโยชน์เพราะฉะนั้นช่วงเวลาหลังจากที่หย่ากันเธอจะไม่ได้อะไรจากเขาไปเลย ร่างบอบบางลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบกับเขาที่นอนมองเธออยู่ก่อนแล้ว " ตื่นแล้วหรอ ลุกขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าซะสิเราจะต้องออกจากที่นี่กันแล้ว ฉันจะพาเธอไปอยู่ที่บ้านหลังนึงที่ฉันซื้อเอาไว้ " ร่างบอบบางคิดตามด้วยความงุนงง เมื่อคืนเขายังพูดกับเธอดีๆอยู่เลย แต่พอมาเช้านี้กลับทำเสียงแข็งพร้อมกับพูดอะไรก็ไม่รู้ " พี่มาร์ตินหมายความว่ายังไงคะ เราไม่ไ
ร่างบอบบางใบหน้าแดงซ่านไปด้วยความเขินอาย ก็เล่นมาถามเธอแบบนี้จะให้เธอตอบไปแบบไหนกันเล่า เขาไม่รู้หรอกว่าตอนนี้เธอเขินจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว ตาบ้านี่แพรวพราวชะมัด " ถ้าไม่ตอบฉันจะถือว่าเธอเสียวนะ " " อื้อ... " จบคำพูดของเขาก็ตามมาด้วยเสียงร้องครางระงมของร่างบอบบางเพราะเขาเล่นสอดนิ้วมือเข้าไปถึงสามนิ้วเพื่อเปิดทางให้เขาเข้าไปได้อย่างง่ายดาย และชักเข้าชักออกแบบนั้นอยู่สักพักร่างบอบบางก็เริ่มกระตุก " เนยไม่ไหวแล้วค่ะ จะเสร็จ " เธอบอกเขาไปตามตรง เพราะตอนนี้มองเห็นสวรรค์รำไรอยู่ตรงหน้าแล้ว มีแค่เขาเท่านั้นที่จะช่วยเธอปลดปล่อยได้ " ปล่อยมันออกมาตามความต้องการเลยสาวน้อย แล้วเธอจะมีความสุข " กรี๊ดดด!!!เขารัวนิ้วมือเข้าออกจนเธอต้านทานไม่ไหวกรีดร้องออกมาอย่างสุขสม พร้อมกับปลดปล่อยน้ำหวานอาบนิ้วของเขามากมาย แล้วมาร์ตินแทนที่ผละออก แต่เขากลับก้มลงไปปาดเลียน้ำหวานของเธอดื่มกินจนหมดโดยไม่รังเกียจ ถ้าถามว่าเขาเคยทำแบบนี้กับใครไหม ตอบได้เลยว่าไม่ แล้วก็ไม่เคยคิดที่จะทำด้วย แต่พอเห็นน้ำหวานของร่างบอบบางตรงหน้านี้แล้วมันทำให้เขาอดใจไม่ไหวต้องลงไปฉกชิมจนหมดทุกอยาดหยดแบบนี้ " อื้อ...อย่