Share

บทที่ 29

Auteur: Me.Daisy
last update Dernière mise à jour: 2025-02-28 17:19:59

              ย่านการค้าทิศตะวันออกกลับมาคึกคักอีกครั้ง  มนสิชาได้โอกาสเดินไปคุยกับแม่ค้าแอปเปิ้ลที่นั่งอยู่  เธอเป็นหญิงร่างท้วมตัวสูง  หน้าตาซีเรียส  มนสิชาแอบคิดว่าแผงของเธอคงไม่ต้องการใครมาปกป้อง  เพราะเธอท่าทางจะปกป้องตัวเองได้แน่ๆ

              "ลูกละสิบห้าบาทจ้า  กรอบหวานทุกลูกเลยนะ"  แม่ค้าเอ่ย

              "เรามาถามเรื่องคนที่ชื่อโอ๊ตน่ะคะ"  ปุยฝ้ายถามแทน        ชูครีมเดินตามมาทีหลัง  เพราะถือของกินพะรุงพะรัง

              "เขาตื่นไปนานแล้วนี่"  แม่ค้าสาวบอก  ดูแปลกใจที่มีคนมาถามเรื่องโอ๊ต

              "ค่ะ  เพราะเขาตื่นแล้ว  เราเลยอยากได้ข้อมูลของเขาไงคะ"  มนสิชาบอก  "แล้วแม่ค้าก็เป็นคนเดียวที่รู้เรื่องโอ๊ตด้วย"

              "ฉันเองก็รู้อะไรไม่มากหรอกค่ะ  รู้แค่ว่าก่อนมาที่นี่เขากระโดดให้รถชน  พอรู้ตัวอีกทีก็ติดอยู่ในความฝันแล้ว  เขาเป็นคนที่ไม่มีอนาคตและไม่นึกถึงอดีต  เขาพอใจที่สามารถเริ่มต้นชีวิตในความฝันใหม่ได้  เคยมาคุยกับฉันว่าจะไม่ตามหาวิธีตื่น  แต่แค่สามวันที่เขามาอยู่ที่นี่  เขาก็ตื่นขึ้นค่ะ"

              ทั้งสามคนเงียบฉี่  ต่างคนต่างนึกว่าต้องถามอะไรอีก      แต่ข้อมูลเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

              "ขอบคุณมากนะคะ"  ชูครีมบอก  พยายามยกมือขึ้นไหว้ทั้งที่มือไม่ว่าง

              "ตอบคำถามแล้วก็ช่วยซื้อแอปเปิ้ลบ้างสิ"  แม่ค้าบอก   ยิ้มตาหยี

              "ได้เลยค่ะ"  ชูครีมนึกในใจว่ารายที่สามแล้วที่พวกเธอต้องช่วยซื้อ  แต่กระเพาะของเธอก็รับได้สบายมาก  จ่ายเงินแล้วรับแอปเปิ้ลใส่ถุงมาไว้ในมือ  ทั้งสามคนเดินเตร็ดเตร่เพื่อไปยังถนนว่างๆ  ก่อนชูครีมและมนสิชาจะเรียกสเลฟออกมา  แล้วปีนขึ้นไปบนหลังสัตว์รับใช้

              "ดูเหมือนคนที่ตื่นขึ้นจะคิดอะไรซ้ำๆอยู่อย่างหนึ่งนะ"  ปุยฝ้ายตะโกนแข่งกับเสียงลมขณะที่กอดเอวชูครีมไว้แน่น

              "จริงด้วยค่ะ  ตอนนี้เราคงสรุปได้สักทีว่าพวกเขาตื่นขึ้นเพราะอะไร"  ชูครีมตะโกนอีกคน

              "เราจะเอาเรื่องนี้ไปบอกคุณเทพทัตกันเลยไหม  แล้วจะได้บอกทุกคน"  มนสิชาถาม  ลูบแผงคอนุ่มลื่นของฟ้าลั่นอย่างเพลิดเพลิน

              "ไปกันเถอะค่ะ  ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี"  ชูครีมตอบรับแล้วเอาบลูฮาร์ทจอดลงที่สนามโรงเรียนทิศเหนือ  มนสิชาดึงบังเหียนเพื่อเป็นสัญญาณให้มันลงจอดเช่นกัน

              ห้องทำงานของเทพทัตยามบ่ายมีกลิ่นกาแฟหอมตลบอบอวล  เขาสั่งกาแฟที่ดีที่สุดมาดื่มแต่รสชาติของมันไม่ต่างอะไรกับกาแฟซองใส่น้ำเยอะเกินไป  มีแต่ความหวานหาความเข้มข้นไม่เจอ

              "พวกคุณมีธุระอะไรกับผมเหรอครับ"  เทพทัตถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ  เขาเปลี่ยนตำแหน่งในป้ายชื่อบนโต๊ะทำงานเป็นประธานนักเรียน  สามสาวเกร็งเล็กน้อยเมื่อต้องพูดกับเขา 

              "เราทราบแล้วค่ะ  ว่าทำยังไงถึงจะตื่นขึ้น"  มนสิชาเอ่ย

              "เดี๋ยวก่อนนะครับ  อย่าเพิ่งเล่า"  เทพทัตยกมือห้าม   เขาเปิดประตูออกไปดู  เรียกอัศวินที่แกร่งที่สุดเข้ามา  ชอปเปอร์นั่นเอง  เขากลายเป็นมือขวาของเทพทัตเต็มตัว  เข้ามาพร้อมกับอัศวินที่ชูครีมสนิทด้วยอีกสองคน  "จับทั้งสามคนมัดแล้วก็ปิดปากไว้  ฉันจะขังพวกเธอไว้ในฐานะบุคคลอันตราย"

              "ทำไมคุณทำกับพวกเราแบบนี้"  ชูครีมประท้วง   ชอปเปอร์กับอัศวินอีกสองคนทำตามคำสั่งโดยไม่ถามอะไร   "อย่าจับเรามัดนะชอปเปอร์  ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนดีที่นายควรร่วมมือด้วย  พวกเรารู้เรื่อง..."

              "หยุดนะ  ถ้าเธอขืนพูดไปมากกว่านี้  รับรองได้ว่าคนที่เดือดร้อนจะมากกว่านี้แน่  เราจะหักแขนขาของพวกเธอที่อยู่ตามเมืองต่างๆ ใครที่เคยดีกับพวกเธอ  เราจะตั้งข้อหากบฏให้หมด  และทางเดียวที่จะจัดการกบฏก็คือประหารชีวิตเท่านั้น"  เทพทัตขู่  ธาตุแท้ของเขาออกมาเมื่อเอ่ยเช่นนั้น  เมื่อมัดสามสาวเสร็จเทพทัตจึงเอ่ยอีก  "ออกไปได้"

              ปุยฝ้ายพยายามพูดอะไรบางอย่าง  แต่ผ้าปิดปากทำให้เธอพูดไม่ได้ 

              "ความจริงพวกเธอคงสงสัยว่าทำไมผมถึงไม่อยากให้ทุกคนตื่นจากฝัน  เพราะผมอยากเป็นประธานนักเรียนยังไงล่ะ  และเพื่อให้เป็นประธานนักเรียนแล้วผมถึงวางแผนอยู่นาน  ผมสอนให้คุณสุเมธตั้งผับขึ้นมา  เป่าหูให้ใช้เวทมนตร์  แล้วยังส่งคนไปสอนให้คุณกิ่งฟ้าคิดร้ายกับทิศเหนือของเรา  ตีตี้นั่นน่ะเป็นเพื่อนของลูกสาวผมเอง"

              มนสิชาด่าเขาออกมาผ่านผ้าปิดปาก  แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ

              "สาเหตุนั่นเหรอ  เพราะผู้สร้างสัญญาว่าจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ผม  การเป็นผู้ใหญ่บ้านไม่ได้มีรายได้อะไรมากนัก  ถึงผมจะอยากเจอหน้าลูกสาว  แต่ถ้าไม่มีเมืองนิทราผู้สร้างก็ไม่จ่ายเงินให้ครอบครัวผมสิ"  เทพทัตหยุดคิดนิดหนึ่ง  "ถ้าจู่ๆพวกคุณหายไป  คนคงสงสัยกันน่าดู  ผมจะบอกทุกคนว่าพวกคุณมาหาเรื่องผมถึงห้องทำงานแล้วก็ใช้มังกรนั่นจุดไฟเผาห้องทำงาน  แต่ว่าเกิดพลาดโดนเผาเสียเอง  แบบนี้คงดีกว่า  เอาล่ะไว้เจอกันพร้อมกับความทรงจำใหม่ๆแล้วกันนะ"

              เทพทัตเทน้ำมันลงบนพื้นรอบๆห้องทำงาน  แล้วจุดไฟใส่กองน้ำมัน  เขาหันมาโบกมือให้สาวๆก่อนเดินออกจากห้อง  ล็อคประตูอย่างใจเย็น  เดินไปหาอัศวินของเขาที่รออยู่หน้าห้อง  พวกเขาได้ยินทุกอย่าง  แต่ไม่มีใครอยากช่วยสามสาวเลยสักคน

              มนสิชาพยายามเรียกสเลฟออกมา  แต่ไม่เป็นผล  ผ้าปิดปากทำให้เสียงที่ลอดออกมามีแต่เสียงอู้อี้ฟังไม่ได้ศัพท์  ชูครีมลองบ้าง  ไอร้อนของเปลวไฟแรงขึ้นเรื่อยๆ  กัดกินเฟอร์นิเจอร์ให้เผาไหม้  ยังไม่นับควันไฟสีเทาที่ทะลักออกมาแสบตาแสบจมูก  ทุกคนก้มตัวลงต่ำเพื่อให้อยู่ได้นานขึ้น  มองตากันเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อสั่งเสีย

              จู่ๆ แววตาของปุยฝ้ายก็เปลี่ยนไป  เธอตัดสินใจอะไรบางอย่าง  รวบรวมสมาธิก่อนมีแสงไฟสีเหลืองทองเปล่งออกมาจากมือเธอ  ผ้าปิดปากและเชือกหลุดออกอย่างง่ายดาย  ปุยฝ้ายยิ้มอย่างพอใจ  เธอใช้เวทมนตร์ได้!

              ไม่มีเวลาให้ใครมาตกใจ  ปุยฝ้ายรีบแก้มัดให้ชูครีมแล้วแก้ให้มนสิชาต่อ  ชูครีมเรียกบลูฮาร์ทออกมา  ทำลายหน้าต่างกระจกแล้วขี่สเลฟออกไป  พวกเธอคงไม่กลับมาที่นี่อีก พวกเธอบินไปทางโรงเรียนทิศตะวันออก  ลมเย็นประทะใบหน้า  ทำให้คลายร้อนไปได้เยอะ  แต่ผิวหนังบางส่วนไหม้เป็นรอยแดงเถือก

              "ทำไมเธอไม่บอกพวกเราว่าใช้เวทมนตร์ได้"  มนสิชาถามอย่างสงสัย

              "ฉัน...คือว่า"  ปุยฝ้ายนึกเหตุผลดีๆไม่ออก

              "อย่างน้อยพวกเราก็ออกมาได้แล้วนะคะ  ไม่เห็นเป็นไรเลย"  ชูครีมแก้ต่างแทนเพื่อนสาว

              "เพราะถ้าเธอรู้ว่าฉันใช้เวทมนตร์ได้  ก็ไม่รู้ว่าพวกเธอจะยังคบกันฉันหรือเปล่าน่ะสิ"  ปุยฝ้ายบอกตรงไปตรงมา

              "ในสายตาฉัน  คนใช้เวทมนตร์ได้  ไม่ใช่คนไม่ดีหรอก"  มนสิชาบอก  "เขาดีกับฉันมากด้วยซ้ำ"  หมายถึงปริญแฟนของเธอ

              "พ่อฉันเป็นคนใช้เวทน่ะ  มันสืบต่อทางสายเลือดนี่นา"  ปุยฝ้ายบอก  "ขอโทษที่ไม่บอกให้เร็วกว่านี้นะ"

              "ไม่เป็นไรค่ะ"  ชูครีมลูบแขนปุยฝ้ายเบาๆ  มนสิชายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน

              "เราจะไปทิศตะวันออกกันอีกแล้วเหรอ"  มนสิชาถามขณะตามมาติดๆพร้อมฟ้าลั่น

              "ก็เรามีพันธมิตรอยู่ที่นั่นนี่คะ"  ชูครีมตะโกนตอบมา

              "แต่ฉันว่าเราควรไปทิศใต้มากกว่า"  ปุยฝ้ายบอก  "ได้ยินมาว่าคุณสุกฤตเป็นคนมีคุณธรรม  แถมอำนาจของทิศใต้ก็เป็นรองทิศเหนือแค่เล็กน้อย  ถ้าเราไปพึ่งเขาต้องดีกว่าไปทิศตะวันออกแน่ๆ"

              "งั้นตกลง  เราไปทิศใต้กัน"  มนสิชาบอกแล้วเลี้ยวไปทางทิศใต้แทน  พวกเธอลงจอดในสนามของโรงเรียน  มีนักเรียนกำลังเรียนพละกันอยู่  บลูฮาร์ททำให้คนตกใจได้เสมอ  คนมากมายมารุมล้อมพวกเธอ

              "คุณสุกฤตอยู่ไหนคะ"  ชูครีมถามโดยไม่ต้องคิด  ทุกคนชี้ไปทางห้องพักอาจารย์ซึ่งอยู่ชั้นหนึ่ง  ห้องของเขาแยกออกมาเป็นสัดส่วนในห้องกระจก  กันเสียงได้แต่กันสายตาไม่ได้  สุกฤตนั่งไม่เป็นสุขนักเมื่อเห็นบาดแผลของทั้งสามคน

              "ไปห้องพยาบาลกันก่อนไหมครับ"  เขาถามด้วย

ความอาทร  "ผมว่าต่อให้ด่วนแค่ไหน  ก็น่าจะต้องมีเวลาสำหรับทำแผล"

              "ไม่เป็นไรค่ะ  พวกเราทนได้"  มนสิชาตอบ  ความตั้งใจเข้มข้นทะลักออกมาจนสุกฤตสัมผัสได้

              "งั้นก็ว่ามาเลยครับ" 

              "พวกเรารู้วิธีทำให้ตื่นแล้วค่ะ"  ปุยฝ้ายประกาศ

              "จริงเหรอครับ"  สุกฤตตาลุกวาว  "ผมจะได้...ผมจะได้เจอหน้าครอบครัวสักที"  ตะกุกตะกักอย่างควบคุมไม่ได้

              "เราอยากบอกทุกคนถึงวิธีทำให้ตื่น  แต่คุณเทพทัตไม่อยากให้พวกเราทำแบบนั้น  เลยตั้งใจเผาเราให้ตาย  พวกเราเลยหวังว่าคุณสุกฤตจะช่วยเราได้  เราอยากตื่นไปพร้อมๆกับทุกคนค่ะ"  มนสิชาสรุปให้

              "รอเดี๋ยวนะครับ"  สุกฤตเปิดประตูออกไป  แล้วตะโกน  "อ้าว  ดาวเหนืออยู่ที่นี่พอดีเลย  เชิญทางนี้หน่อย"

              "ครับ"  ดาวเหนือเดินเข้ามาแบบงงๆ  มองแผลตามตัว

นักเรียนสามคนด้วยความสงสัย

              "ถ้าคุณยืนยันในสิ่งที่พูด  ช่วยทำให้ดาวเหนือตื่นขึ้นหน่อยสิครับ"  สุกฤตผายมือไปทางเขา

              "มนนี่นา  เธอสบายดีเหรอ  ฉันอ่านจดหมายที่เธอทิ้งไว้ให้แล้วเป็นห่วงแทบแย่"  ดาวเหนือไม่โกรธมนสิชาแต่ยังเป็นห่วงมากด้วยซ้ำ  "ที่มาอยู่นี่  เพราะคุณสุกฤตเขาสัญญาว่าจะทำให้นักเรียนให้ความสำคัญกับเรื่องอื่นนอกจากเรื่องเรียนบ้าง  พวกเราก็เลยมาช่วยงานคุณสุกฤต"

              "ผมเองก็มองข้ามเรื่องจิตใจไปซะสนิท  จนกระทั่งพวกเขาบอกว่านักเรียนของผมไม่มีน้ำใจ  ไม่มีมนุษยสัมพันธ์  ผมถึงได้รู้ว่าเดินทางผิด"  สุกฤตบอกด้วยสีหน้าอ่อนโยน

              "กลับมาเรื่องนี้กันก่อนเถอะค่ะ"  ชูครีมเรียกทุกคน  แล้วเล่าเรื่องให้ดาวเหนือฟังอย่างคราวๆ  ดาวเหนือรับฟังเรื่องอย่างแปลกใจ

              แล้วมนสิชาก็กระซิบข้างหูเขา  ดาวเหนือทำหน้าผิดหวังอย่างแรง  เขาแทบจะร้องไห้ออกมา  จากนั้นก็หายตัวไป  เหลือแค่ผงสีเหลืองทองไว้เท่านั้นเอง  "ผงสีทองนี่เป็นสัญญาณว่าดาวเหนือตื่นขึ้น  พวกคุณทำได้จริงๆ"

              รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนหน้าทุกคน  สุกฤตดีใจจนแทบร้องไห้ออกมา

              "ขอบคุณจริงๆ  ขอบคุณที่มาบอกผม  เราจะเรียกประชุมด่วนเดี๋ยวนี้เลย" 

              "เดี๋ยวก่อนค่ะ"  มนสิชาห้ามไว้ก่อน  "เราต้องมีแผนรับมือกับคุณเทพทัตด้วย  เขาเป็นประธานนักเรียน  แถมยังไม่อยากให้ทุกคนตื่น  เราต้องหาเหตุผลในการเรียกประชุมค่ะ"

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • เมืองนิทรา   บทที่ 33 (ตอนจบ)

    หลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือน ปุยฝ้ายไปเยี่ยมดนุเดชที่เรือนจำ พวกเขานั่งโต๊ะที่จัดไว้สำหรับให้ญาติมาเยี่ยม ดนุเดชดูโทรมไปถนัดตา ขอบตาดำคล้ำอย่างคนนอนไม่หลับ เขาสวมเสื้อสีน้ำตาล หมดแววคุณหมอไฮโซที่ปุยฝ้ายเคยรู้จัก "พ่อทานข้าวบ้างหรือเปล่าคะ" ปุยฝ้ายพยายามยิ้มให้พ่อ แต่ทำไม่ได้เลย "กินได้บ้างแล้ว" ดนุเดชตอบคอแห้งเป็นผง "เจ้าหน้าที่เขาเข้ามาคุยกับหนูเมื่อวาน บอกข่าวว่าศาลจะทำอะไรกับพวกเราบ้าง" ปุยฝ้ายจั่วหัวไปเท่านั้น ดนุเดชดูไม่สนใจฟังว่าคนอื่นจะทำยังไงกับตน "พ่อต้องได้รับโทษตามกฎหมายค่ะ คนไข้คนอื่นเขาจะไม่เรียกค่าเสียหาย แต่จะไม่มีใครยอมจ่ายค่ารักษาพยาบาล พวกทีมบริหารบอกผ่านคุณย่ามาว่าโรงพยาบาลของเราจะล้มละลาย คุณย่าจะมาจัดการเรื่องขายโรงพยาบาลให้ คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ" ดนุเดชดูเหม่อลอย ไม่ตอบอะไร "แน่นอนว่าคุณพ่อต้องติดคุก แล้วพวกเราจะโดนฉีดยาสลายเวทมนตร์ ไม่เฉพาะเราสองคน แต่เป็นคนใช้เวทมนตร์ทั้งประเทศจะโดนเหมือนกันหมด" ปุยฝ้ายถอนหายใจ "ปกติเราก็ไม่ได้ใช้เวทมนตร์กันอยู่แล้ว เรื่

  • เมืองนิทรา   บทที่ 32

    ดนุเดชเดินกลับไปกลับมาในห้องทำงาน ผู้ถือหุ้น คนไข้ รวมทั้งลูกสาวกดดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่างกับการประท้วงที่หน้าโรงพยาบาล นักข่าวเริ่มมาทำข่าวกันแล้ว เวทมนตร์เป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนไทยในเวลานี้ พวกเขามองว่าคนใช้เวทมนตร์เป็นคนไม่ดี แต่สำหรับเขาเวทมนตร์หรืออะไรก็แล้วแต่เป็นสิ่งที่เขาจะทุ่มเทให้ได้เพื่อให้ลูกสาวฟื้นขึ้นมา คำสาปทิ้งร่องรอยไว้ให้ผู้ร่ายคำสาปเสมอ ดนุเดชร่ายเวทมนตร์เก่าแก่อีกครั้ง ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่ม คนไข้ทุกคนเข้านอนกันหมดแล้ว ดังนั้นตอนนี้ทุกคนกำลังฝัน และฝันก็คือร่องรอยของแต่ละคนที่เขาสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายที่สุด เขาสาปอีกครั้ง เป็นคำสาปที่ไม่รุนแรงนัก มีผลแค่ทำให้คนไข้ทั้งหนึ่งพันกว่าคนฝันร้าย มนสิชาเป็นหนึ่งในผู้ต้องคำสาป เธอเห็นดวงตะวันถูกเมฆบังจนมืดสนิท ยมบาลตัวสีแดงถือไม้ตะบองที่มีหนามแหลมทั่วทั้งอันมาด้วย เขาร้องเสียงดุร้าย "หยุดก่อน!" มนสิชาวิ่งหนี ชายตัวแดงวิ่งตามเธอมาเพียงสามก้าวก็ถึงตัวเธอ เขาใช้ไม้ตะบองตีหัวเธอ หนามแหลมทะลุเข้าไปในสมอง มนสิชาร้

  • เมืองนิทรา   บทที่ 31

    มนสิชาลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ เธอเห็นเพดานสีขาวที่ไม่คุ้นเคย ผ้าห่มอุ่นห่มให้เธอถึงอก มองไปรอบๆห้องก็พบว่าที่นี่เป็นห้องพักในโรงพยาบาล กุมภากำลังนอนหลับอยู่ที่โซฟาใกล้ๆ น้องสาวกรนเบาๆ "กุมภา" มนสิชาเรียกน้องสาวเสียงแหบ กุมภาคิดว่าฝันไปจึงหลับต่อ แต่เมื่อคิดอีกทีว่าเธออยู่กับพี่สาวตามลำพังจึงเปิดตาขึ้นมอง เห็นมนสิชายันตัวลุกขึ้นนั่ง หน้าขาวซีด "พี่มน!" กุมภาเด้งตัวลุกมาหาพี่สาว "พี่มนๆๆ" "จ้ะ พี่เอง" มนสิชายิ้มให้ รู้สึกตัวหนักไปหมด คอก็แห้งผาด "ขอ..น้ำ" กุมภารินน้ำให้พี่สาว มนสิชาดื่มอย่างกระหาย เสียงเธอกลับมาสดชื่นขึ้นเล็กน้อย "พี่รู้ไหมว่าหนูลำบากมากแค่ไหนตอนพี่ไม่ได้สติ ต้องช่วยพ่อทำงาน ต้องมาเฝ้าพี่ และทำงานพิเศษด้วย พวกเรายังไม่รู้เลยว่าจะหาค่ารักษาที่ไหนมาจ่ายให้พี่" กุมภาบอกความในใจทั้งหมดกับพี่สาว มนสิชาคิดอยู่แล้วว่าเรื่องจริงต้องร้ายแรงกว่าที่คุยกับปริญ มนสิชาพยายามจะตอบ แต่ไม่มีเสียงเล็ดรอดออกมา "...โทษ ขอโทษ" เธอจึงร้องไห้ออกมาแทน

  • เมืองนิทรา   บทที่ 30

    สุกฤตเดินเล่นกับเทพทัตในสนามหญ้าของโรงเรียนทิศเหนือ พวกเขายิ้มให้กับนักเรียนที่เดินเข้ามาทักทาย ทั้งสองคนไม่ค่อยจะได้คุยกันมากนักเพราะสุกฤตค่อนข้างเก็บตัว แต่เขาก็แสดงให้เห็นว่าตัวเองเปลี่ยนไปหลังจากที่เทพทัตรับตำแหน่งประธานนักเรียน "ผมอยากให้คุณเทพทัตผลิตเงินให้เยอะขึ้นครับ บอกตามตรงว่าชนชั้นแรงงานไร้ฝีมือค่อนข้างเยอะ แล้วพวกเขาก็ประท้วงกันบ่อยครั้งว่าอยากได้เงินเยอะขึ้น" สุกฤตปรึกษาปัญหาที่เกิดขึ้น "ถ้าผมทำอย่างนั้น เงินจะมีค่าน้อยลง ของทุกอย่างจะแพงขึ้นนะครับ" เทพทัตอธิบายเศรษฐศาสตร์แบบง่ายๆ "แค่ให้คนรู้สึกว่ามีเงินในมือเยอะขึ้น เท่านั้นก็พอแล้วครับ พวกเราก็ค่อยโทษว่าพ่อค้าแม่ค้าขายของกันแพง จนทำให้พวกเขาซื้อของได้น้อยลง แต่ข้อดีคือพวกอสังหาริมทรัพย์ก็จะแพงขึ้นด้วย แต่ละทิศที่ก่อสร้างบ้านขึ้นมาก็จะได้ประโยชน์จากตรงนี้ แถมค่าเช่าก็จะขึ้นได้อีก" สุกฤตเอ่ย "นั่นสินะครับ" เทพทัตหัวเราะอย่างพอใจ "ผมไม่นึกว่าคุณสุกฤตจะมีหัวการค้าขนาดนี้" "ผมเองก็มักจะใช้เวลาใคร่ครวญสิ่งต่างๆเสมอ มันคงเป

  • เมืองนิทรา   บทที่ 29

    ย่านการค้าทิศตะวันออกกลับมาคึกคักอีกครั้ง มนสิชาได้โอกาสเดินไปคุยกับแม่ค้าแอปเปิ้ลที่นั่งอยู่ เธอเป็นหญิงร่างท้วมตัวสูง หน้าตาซีเรียส มนสิชาแอบคิดว่าแผงของเธอคงไม่ต้องการใครมาปกป้อง เพราะเธอท่าทางจะปกป้องตัวเองได้แน่ๆ "ลูกละสิบห้าบาทจ้า กรอบหวานทุกลูกเลยนะ" แม่ค้าเอ่ย "เรามาถามเรื่องคนที่ชื่อโอ๊ตน่ะคะ" ปุยฝ้ายถามแทน ชูครีมเดินตามมาทีหลัง เพราะถือของกินพะรุงพะรัง "เขาตื่นไปนานแล้วนี่" แม่ค้าสาวบอก ดูแปลกใจที่มีคนมาถามเรื่องโอ๊ต "ค่ะ เพราะเขาตื่นแล้ว เราเลยอยากได้ข้อมูลของเขาไงคะ" มนสิชาบอก "แล้วแม่ค้าก็เป็นคนเดียวที่รู้เรื่องโอ๊ตด้วย" "ฉันเองก็รู้อะไรไม่มากหรอกค่ะ รู้แค่ว่าก่อนมาที่นี่เขากระโดดให้รถชน พอรู้ตัวอีกทีก็ติดอยู่ในความฝันแล้ว เขาเป็นคนที่ไม่มีอนาคตและไม่นึกถึงอดีต เขาพอใจที่สามารถเริ่มต้นชีวิตในความฝันใหม่ได้ เคยมาคุยกับฉันว่าจะไม่ตามหาวิธีตื่น แต่แค่สามวันที่เขามาอยู่ที่นี่ เขาก็ตื่นขึ้นค่ะ" ทั้งสามคนเงียบฉี่ ต่างคนต่างนึกว่าต้องถามอะไรอีก แต่

  • เมืองนิทรา   บทที่ 28

    วันเลือกตั้งใกล้เข้ามาทุกที นักเรียนทุกคนรอการหาเสียงจากแต่ละทิศอย่างตื่นเต้น เริ่มต้นจากทิศใต้ที่เน้นการศึกษา พวกเขารู้ดีว่านักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนปัจจุบันเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาอยู่แล้ว ขณะเดียวกันนักเรียนทุกคนก็รู้ว่าหากอยากเรียนมากๆให้ไปทิศใต้ ดังนั้นจึงไม่สามารถตามหานักเรียนที่สนใจการศึกษาได้มากไปกว่านี้ สุกฤตจึงใช้เรื่องอื่นจูงใจนักเรียนแทน เขาสั่งให้อัศวินลอบไปทิศอื่นเพื่อปิดป้ายประกาศเสนอคูปองกินฟรีตลอดหนึ่งเดือนสำหรับนักเรียนใหม่ เพียงย้ายที่อยู่ไปในทิศใต้ก่อนวันเลือกตั้งเท่านั้น นักเรียนชายร่างท้วมเดินไปดูป้ายอย่างสนใจ พลางกอดคอเพื่อนหุ่นพอๆกับเขาไปด้วย พวกเขาอยู่ทิศตะวันออก ที่นี่ช่างสดใสเมื่อได้ปรับปรุงที่อยู่ใหม่ ส่วนคนที่ย้ายไปก็เริ่มกลับมาบ้างแล้ว "สมุทร นายว่าเราย้ายโรงเรียนกันสักเดือนดีไหม" ลำธารเพื่อนรักเอ่ยให้ฟังด้วยแผนการ "นายหมายถึง ย้ายไปเพื่อรับอาหารฟรีงั้นเหรอ" สมุทรหัวเราะในลำคอ "ก็ไม่มีใครตามมาบังคับให้เราต้องอยู่ที่นั่นตลอดไปนี่นา แถมพวกเรายังเป็นแรงงานไร้ฝีมื

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status