แชร์

มิติ

ผู้เขียน: ซูเจิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-21 18:31:20

เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด

มิติ

*****

หลังจากลินดาที่อยู่ในร่างของเมิ่งหลันที่หลับไปนั้น เธอก็ได้ฝันว่า เธอเดินเข้าไปในเมฆหมอกสีขาว และพบกับท่านตาท่านหนึ่ง 

“นังหนู เจ้ามาแล้วสินะ มานี่สิเข้ามาใกล้ๆ” ชายชราเอ่ยเรียกเมิ่งหลันที่กำลังเดินเข้ามาอย่างช้าๆ

“ที่นี่คือที่ไหนหรือคะคุณตา แล้วหนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน” เมิ่งหลันสงสัย ในเมื่อเธอนอนอยู่กับลูกแฝดของเธอ แล้วอยู่ๆมาโผล่ที่นี่ได้อย่างไรกันหรือนี่จะเป็นความฝัน??

“เจ้าไม่รู้จักที่นี่หรอก ข้ามีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าน่ะ” ชายชรากล่าวออกไป ที่นี่คนธรรมดาไม่สามารถมาได้ ถ้าไม่ได้ถูกเรียกตัวมาก็อย่าหวังเลยว่าจะได้มาที่แห่งนี้

“เรื่องอะไรหรือคะ???” เมิ่งหลันสงสัยมากหรือจะเรียกว่าอยากรู้ก็เป็นได้

“คือข้า ทำผิดต่อเจ้าแล้ว ความจริงชะตาเจ้ายังไม่ถึงฆาตน่ะ ข้าทำงานผิดพลาด เขียนชื่อสลับกันกับคนที่ถึงฆาต” ชายชราบอกความผิดของตน เขาเสียใจมาก แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้แล้ว

“นั่นก็แสดงว่า คนที่สมควรตายนั้นไม่ตาย ส่วนฉันก็ต้องมาตายเพราะความผิดพลาดสินะ” เมิ่งหลันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย เป็นเธอที่โชคร้ายสินะ

“แล้วเจ้าของร่างนี้ล่ะ นางไปไหนแล้ว” เมิ่งหลันถามต่อเพราะนึกขึ้นได้ว่านี่เป็นความผิดพลาด หรือเจ้าของร่างนี้ก็ไปอยู่ที่อื่น แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ

“นางน่ะหรือ นางหมดอายุขัยแล้วล่ะ แต่นางยังห่วงลูกของนางอยู่ นางจึงอ้อนวอนข้า ให้ช่วยเหลือลูกของนาง ข้าก็เลยให้เจ้าเข้ามาอยู่ในร่างของนางยังไงล่ะ” ชายชราบอกออกไป และนี่ก็เป็นวิธีที่จะให้เธอนั้นมีอายุต่อไปอีก

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะค่ะ” หลิวเมิ่งหลันงงมากแล้วมันเกี่ยวกับเธอยังไง

“ก็ในเมื่อเจ้ายังไม่หมดอายุขัย ก็ยังไปผุดไปเกิดไม่ได้ แล้วเจ้าจะไปอยู่ที่ไหน ถ้าไม่ใช่ในร่างนี้” ชายชราอธิบายให้เข้าใจ

“งั้นก็หมายความว่า ฉันต้องเป็นแม่แทนเจ้าของร่างนี้ จนกว่าจะหมดอายุขัยสินะ แล้วท่านตารู้ใหมว่าร่างนี้ยากจนมากแค่ไหน อาหารการกินก็ไม่มี เงินทองก็ไม่มี แล้วฉันจะอยู่ได้ยังไงกันล่ะคะ” เธอตัดพ้อออกมาทันที แค่เมื่อเย็นนี้ก็รู้แล้วว่าต้องอดอยากแค่ไหน แล้วไหนจะพรุ่งนี้อีกล่ะพวกเธอจะกินอะไรในเมื่อตอนนี้ในครัวไม่มีอาหารแล้ว

“ได้สิ ข้าจะมอบมิติจิตให้เจ้า เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตดีมั้ย อยากกินอะไรก็เอาออกมาได้ ไม่มีวันหมด เจ้าว่ายังไงล่ะ พอใจใหม” ชายชรายื่นข้อเสนอ

“ไม่พอหรอกค่ะ ข้าขออีกสองข้อ ข้อแรกน้ำพุวิเศษ ข้อสองความสามารถ ข้าสามารถทำทุกอย่างที่ปราถนาได้สำเร็จ ทุกอย่าง” เมิ่งหลันต่อรอง ในเมื่อเธออ่านนิยายแนวนี้มาเยอะ ก็ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ อะไรที่กอบโกยได้ก็ควรทำ

“ได้ ตกลงตามนั้น” ชายชราตกลง ข้อเสนอแค่นี้จิ๊บจ้อยสำหรับเขามาก ตามหลักแล้วเขาสามารถให้มากกว่านี้ได้ แต่ในเมื่อขอแค่นี้ก็ให้แค่นี้ ตนไม่อยากบังคับ 

เมิ่งหลันที่ตอนนี้ยิ้มดีใจจนหน้าบานอยู่นั้น ถ้าได้ยินความคิดของชายชราจะต้องกรีดร้องเป็นแน่ แทนที่เธอจะได้ข้อเสนอเยอะแยะ ดันเหลือแค่สามข้อเท่านั้น 

เช้าวันต่อมา... 

เมิ่งหลันนั้นตื่นก่อนลูกๆของเธอ เธอจึงเข้ามาในครัว เพื่อจัดแจงเตียมอาหารใว้ให้กับเด็กทั้งสองคน เธอเข้ามาในมิติจิต เพื่อนำอาหารออกไป

เธอนำเอาข้าวสาร เครื่องปรุง แป้ง เกลือ น้ำตาล น้ำมัน ออกมาเติมให้เต็มครัวของเธอ เพราะไม่อยากให้เด็กๆรู้เรื่องมิติ กลัวว่าถ้าความลับรั่วไหลแล้วจะเป็นอันตรายแก่ทุกคน

ส่วนมื้อเช้าในวันนี้เธอนำโจ๊กสำเร็จรูปออกมา วันนี้เธอไม่อยากทำ เพราะมีสิ่งที่ต้องทำหลายอย่าง 

ระหว่างรอที่เด็กๆตื่น เมิ่งหลันก็ได้ทำควาสะอาดบ้าน  ตรงไหนไม่เข้าที่เข้าทางเธอก็จัดใหม่ให้ดูสวยงาม โต๊ะในห้องนั่งเล่นมันผุพังแล้วเธอก็นำมันไปทำฟืน แล้วเอาชุดโต๊ะไม้ในซุปเปอร์ออกมาแทน โต๊ะกินข้าวในครัวก็เช่นกัน เธอก็เปลี่ยนใหม่ด้วยเหมือนกันกัน 

คราวนี้ถึงคิวห้องน้ำบ้าง เธอเอา แป้ง โลชั่นทาผิว สบู่ แชมพู ครีมนวดผม ยาสีฟัน  แปรงสีฟันสำหรับเด็ก และของตนเองออกมาวางใว้ในห้องน้ำ ด้วยเช่นกัน ระหว่างนั้นเธอก็ได้ยินเสียงลูกแฝดเรียกหาเธอพวกเขาคงจะตื่นแล้วนั่นเอง 

“ตื่นแล้วหรอคะลูก ไปล้างหน้ากันดีกว่าจะได้กินข้าวกัน” แล้วเธอก็พาเด็กๆเข้าห้องน้ำไปเพื่อไปล้างหน้าล้างตา

“นี่อะไรครับแม่” แฝดพี่หลิวเหวินหลงถามเมื่อเห็นแปรงสีฟันอันใหม่

“แล้วอันนี้ล่ะคะแม่คืออะไร” แฝดน้องหลิวฟางหลินก็ถามขึ้นหลังจากเมิ่งหลันบีบยาสีฟันสำหรับเด็กใส่แปรงให้ทั้งสองคน 

“สิ่งนี้เรียกว่าแปรงสีฟันและยาสีฟันค่ะ ลูกต้องทำแบบนี้…” เมิ่งหลันสอนลูกน้อยให้แปรงฟันได้ถูกวิธี กว่าจะได้ออกจากห้องน้ำต้องตอบคำถามจนหมดแรงเลยทีเดียว 

“กินข้าวกันได้แล้วจ๊ะ ทานดีๆนะระวังร้อนด้วย" เมิ่งหลันบอกกับเด็กๆ ที่ตอนนี้นั่งอยู่ที่โต๊ะทานอาหารแล้ว

“อร่อยมากเลยค่ะแม่”

“ใช่ครับมันอร่อยมาก” สองแฝดเมื่อได้ลองกินอาหารแล้วก็พากันชื่มชมไม่หยุด ทั้งสองพึ่งเคยกินโจ๊กแบบนี้เป็นครั้งแรก โจ๊กที่ทั้งขาวทั้งนุ่ม แถมยังมีหมูเด้งชิ้นใหญ่อีกหลายลูกอีกด้วย

"จ๊ะ อร่อยก็กินเยอะๆนะจ๊ะ" เธอบอกออกไปด้วยความเอ็นดู 

หลังจากทานข้าวเสร็จแล้วเธอให้เด็กๆออกมาเล่นที่ห้องนั่งเล่น เธอเอาพรมมาปูที่พื้นเพื่อให้เด็กๆนั่งเล่นนอนเล่นได้ พร้อมกับสมุดวาดภาพระบายสี เธออธิบายให้เด็กๆได้ฟัง ว่าของที่เธอให้เล่นนั้นใช้ยังไง ทั้งสองคนตื่นเต้นมาก และรับปากว่าจะเล่นตรงนี้ ไม่ไปกวนเธอทำงานแน่นอน

“พวกลูกเล่นระบายสีไปก่อนนะ แม่จะเข้าไปเก็บความสะอาดห้องนอน” เมิ่งหลันคิดว่าจะเข้าไปเปลี่ยนเครื่องนอนเสียหน่อย เพราะมันเก่ามากแล้ว 

"ครับ/ค่ะ" ทั้งสองคนรับปากโดยที่ไม่มองหน้าแม่ของตน เพราะห่วงเล่นนั่นเอง

เมื่อเมิ่งหลันเข้ามาในห้องนอน ก็จัดการลื้อที่นอนออกมา จากเตียง แล้วนำที่นอนหกฟุตในมิติออกมาแทน ตามด้วยท็อปเปอร์ แล้วก็ผ้าปูที่นอน หมอนสามใบ ผ้าห่มอย่างดีสองผืน  กว่าจะเสร็จก็ทำให้เหนื่อยได้เหมือนกัน 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   พวกเราคือครอบครัว…

    พวกเราคือครอบครัว…สี่ปีต่อมา…หลังจากวันที่เมิ่งหลันคลอดลูกชายฝาแฝด ก็ผ่านมามานานหลายปีแล้ว การเลี้ยงดูลูกของเธอช่างวุ่นวายเป็นอย่างมาก ดีที่เหอตี้ออกจากงานมาช่วยเธอดูแลร้าน ไม่อย่างนั้นเธอเองคงไม่มีเวลาพัก การเลี้ยงลูกถึงสี่คนไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยฟางหลินและเหวินหลงนั้น ดีที่โตพอจนรู้ความแล้ว ตอนนี้อายุก็เข้าปีที่สิบแล้ว หนูน้อยฟางหลินในตอนนี้ความงดงามนั้นเปล่งประกายมากถึงจะยังเด็กอยู่ก็ตาม จนทำให้คุณพ่อนั้นหวงมากเป็นพิเศษ เพราะยิ่งโตหน้าตาก็ยิ่งเหมือนกับคนเป็นแม่ส่วนแฝดน้องเหวินหลงเองก็ใช่ย่อย ความหล่อเหลาก็ไม่ได้แพ้ใคร ในทุกวันที่ไปโรงเรียนมักจะมีสาวน้อยมอบขนมให้อยู่เสมอ จนทุกวันนี้สหายมู่มู่ที่ไปโรงเรียนด้วยกันไม่ต้องเสียเงินซื้อขนมเลยส่วนแฝดชาย หวังจางหมิ่น และหวังเจียวจิ้นนั้น ตอนนี้ก็อายุสี่ขวบแล้ว ซึ่งความซุกซนไม่ต้องพูดถึง ขนาดที่ว่าเมิ่งหลันจ้างพี่เลี้ยงมาเพิ่ม ทั้งสองคนก็ยังหลุดลอดสายตาออกไปซนที่อื่นได้ “จางหมิ่น เจียวจิ้น แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามออกมาเล่นข้างนอกแบบนี้” เมิ่งหลันที่ออกมาเจอลูกๆของเธออยู่ที่ด้านนอกพอดี จึงอดที่จะดุไม่ได้“แม่ครับ พวกเราไม่อยากอยู่ในบ้าน” เ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ออกมาแล้ว…

    ออกมาแล้ว…“หลันหลัน คุณไม่ต้องกลัวนะครับ” เหอตี้ผู้เป็นสามีปลอบใจภรรยาอยู่ที่ข้างเตียง วันนี้เป็นวันที่คุณหมอนั้นนัดผ่าคลอดให้กับเมิ่งหลัน เพราะว่าเธอนั้นมีความเสี่ยงจึงต้องใช้วิธีการผ่าคลอดแทนการคลอดธรรมชาติ“เหอตี้คะ ฉันกลัวจังเลยค่ะ” เธอบอกสามีออกไป นี่คือการคลอดครั้งแรกของเธอ เธอจะไม่กลัวได้อย่างไร ถึงแม้ว่าเมิ่งหลันคนก่อนจะเคยคลอดลูกแต่มันก็ไม่ใช่เธออยู่ดี“ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะครับ หมอที่นี่เก่งอยู่แล้ว คุณนอนพักก่อนดีกว่า” เมื่อเหอตี้เห็นว่าภรรยานั้นมีความเครียดจึงอยากให้เธอได้พักผ่อน“แล้วสองแฝดอยู่ที่ไหนหรือคะ” เมิ่งหลันถามหาลูกทั้งสองคน เพราะเธอมารอคลอดตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ก็ยังไม่ได้เจอหน้าลูกเลย“อยู่กับน้าอี้ฝานครับ สองแฝดไม่มีงอแงเลย พูดจารู้เรื่องมาก แค่บอกว่าแม่กำลังจะมาคลอดน้องพวกเขาก็เข้าใจ” เหอตี้เมื่อเช้านี้ได้กลับไปที่บ้านและพูดเรื่องนี้ให้สองแฝดฟัง ซึ่งทั้งสองก็เข้าใจ และบอกว่าจะรอแม่และน้องอยู่ที่บ้าน“คุณจะรอฉันที่ด้านนอกใช่หรือเปล่าคะ” เมิ่งหลันถามสามีเมื่อมองเวลาแล้วไกล้ที่จะเข้าห้องคลอดเต็มที“ผมจะรอคุณอยู่ข้างนอกห้องคลอดแน่นอน ผมรับรองเลยว่าเมื่อคุณออกมา คุ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   งานแต่งงานของพี่ใหญ่เหอซาน

    งานแต่งงานของพี่ใหญ่เหอซาน…วันนี้เป็นวันที่เมิ่งหลันนั้นต้องมาตรวจครรภ์เป็นครั้งที่สอง และการตรวจก็เป็นไปด้วยดี การเติบโตของทารกในครรภ์นั้นดีมากทีเดียวและอีกเรื่องที่ทำให้หลิวเมิ่งหลันและหวังเหอตี้ ต้องตกตะลึงกันอีกครั้ง นั่นก็คือในท้องของเมิ่งหลันนั้นมีลูกน้อยถึงสองคน นั่นก็หมายความว่าในตอนนี้เมิ่งหลันนั้นกำลังท้องลูกแฝดอีกครั้งนั่นเองแต่การแพทย์ในยุคสมัยนี้ก็ไม่สามารถตรวจได้ว่าเจ้าก้อนแป้งที่กำลังนอนอยู่ในท้องของเมิ่งหลันนั้นเป็นเพศไหน จะเป็นชายชาย หญิงหญิง หรือหญิงชาย ก็ไม่อาจรู้ได้ ถึงแม้เจ้าก้อนแป้งทั้งสองจะแข็งแรงดี แต่เมิ่งหลันก็ยังอดเป็นกังวลไม่ได้ เธอกลัวการคลอดลูก เธอกลัวว่าจะไม่สามารถคลอดลูกออกมาได้อย่างปลอดภัย เหอตี้ที่รับรู้ได้ถึงความกังวลก็ได้แต่ปลอบใจภรรยา ไม่ว่าอย่างไรเขาจะหาหมอที่มีฝีมือที่สุดมาทำคลอดให้ภรรยาให้ได้“เดี๋ยววันนี้ผมจะพาคุณไปเที่ยวนะครับ” เหอตี้เอ่ยขึ้นเมื่อพากันออกมาจากในโรงพยาบาลหลังจากที่ตรวจการตั้งครรภ์เสร็จแล้ว“คุณจะพาฉันไปที่ไหนหรือคะ” เมิ่งหลันเองก็เดาไม่ถูก เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เธอก็ยังไม่ได้ออกไปที่ไหนแบบจริงจังสักที เพราะเธอทุ่มเทเวลาใ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   คู่มือการเลี้ยงลูก

    คู่มือการเลี้ยงลูก…หลังจากที่ทุกคนรู้ข่าวเรื่องการท้องของเมิ่งหลันก็ยินดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบ้านใหญ่หวัง แม่เหอที่รู้ข่าวก็ไปสรรหาของบำรุงต่างๆมาให้เมิ่งหลันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโสมหรือรังนกก็ตาม“ฉันต้องขอบคุณคุณแม่มากเลยนะคะสำหรับของบำรุงพวกนี้” เมิ่งหลันบอกแม่สามี ถึงแม้เธอจะรู้ว่าของพวกนี้ดีมีสรรพคุณมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะกินมันได้ เพราะเมื่อครั้งก่อนที่แม่เหอก็ฝากให้เหอตี้เอามาให้เธอทาน พอเธอทานเข้าไปถึงกับอาเจียนไม่ยอมหยุด “ไม่เป็นไรเลยจ้ะ เธอต้องกินมันให้หมดนะ หลานของฉันจะได้ออกมาแข็งแรง” แม่เหอบอกด้วยรอยยิ้ม “ว่าแต่เจ้าใหญ่ จะแต่งงานเมื่อไหร่ดีล่ะ เหอตี้มีลูกแซงหน้าไปแล้วนะ” แม่เหอเอ่ยถามลูกชายคนโต ที่ตอนนี้สานสัมพันธ์กับคู่หมั้นได้อย่างราบรื่น“แล้วคุณแม่ว่ายังไงล่ะครับ พร้อมที่จะไปสู่ขอสะใภ้ใหญ่ได้หรือยัง” เหอซานหันมาถามแม่ของตนบ้างแม่เหอที่ได้ยินแบบนั้นก็ตาโตทันที นี่เจ้าใหญ่ของเธอกำลังบอกให้ไปขอภรรยาให้เขาใช่หรือไม่“นี่ลูกพูดจริงใช่ไหม เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่กับพ่อจะได้ไปพูดเรื่องนี้กับบ้านกงแต่เช้าเลย” “555” เหอซานอดที่จะยิ้มขำแม่ของตนไม่ได้ คงอยากได้สะใภ้มากเลยถ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   สองแฝดจะมีน้อง

    สองแฝดจะมีน้อง…“ท้อง???”“คุณหมอช่วยพูดอีกครั้งได้หรือเปล่าคะ” เมิ่งหลันที่ต้องการได้ยินอีกครั้ง ว่าอาการที่เธอเป็นนั้นเป็นโรคอะไรกันแน่ เธอไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม“คนไข้ไม่ได้ป่วยเป็นอะไรนะครับ อาการที่เป็นอยู่ เป็นอาการของคนท้องเท่านั้นครับ” หมอเองได้ตรวจซ้ำถึงสองรอบจากการจับชีพจร ซึ่งผลที่ออกมาก็เหมือนกันทั้งสองครั้งและเขาเองก็มั่นใจเป็นอย่างมากเมิ่งหลันคิดว่ากลับบ้านไปเธออาจจะเรียกเอาชุดทดสอบการตั้งครรค์ออกมาตวจอีกสักครั้ง เพื่อความแน่ใจ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ไว้ใจหมอในยุคนี้หรอกนะ แค่เธออยากมีโมเม้นท์ขึ้นสองขีดแบบคนอื่นบ้างเท่านั้นเอง“แล้วไม่ทราบว่าตอนนี้ฉันท้องกี่เดือนแล้วหรือคะ” เมิ่งหลันเองก็แอบงงเหมือนกัน ทั้งที่เธอเองก็กินยาคุม แล้วลูกของเธอนั้นทะลุยาคุมออกมาได้ยังไงกัน หรือยาที่เธอกินจะหมดอายุนะ แต่ก็ไม่น่าใช่“ประมาณ เดือนกว่าได้แล้วครับ ช่วงนี้คุณก็ดูแลตัวเองให้ดีด้วยนะครับ ของหนักก็ห้ามยกเพราะมันจะเสี่ยงต่อการแท้ง ส่วนในเรื่องของอาหารก็ให้ทานอาหารที่มีประโยชน์ทั้งเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ และก็อย่าลืมดื่มนมด้วยนะครับ อ้อ…และอีกอย่างเรื่องบนเตียงช่วงนี้ก็ให้งดไปก่อนนะครับจนกว่าจะมีอ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   เมิ่งหลันป่วย???

    เมิ่งหลันป่วย???วันนี้เป็นวันที่ห้าแล้ว ที่เมิ่งหลันและคนงานช่วยกันบรรจุของเพื่อทำถุงยังชีพ และทุกวันก็จะทำได้ประมาณหนึ่งพันชุดทุกวัน“คุณเมิ่งหลันคะ วันนี้มีคนมาโวยวายที่หน้าร้านอีกแล้วค่ะ” ซูเหวินเข้ามารายงานเมิ่งหลัน เพราะหลายวันมานี้มีคนต้องการมาซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง แต่ทางร้านไม่สามารถเปิดขายให้ได้ เพราะต้องนำไปช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน นั้นจึงสร้างความไม่พอใจกับลูกค้าบางคน“แล้วได้บอกเหมือนที่ฉันสั่งไว้หรือเปล่าจ๊ะ” เมิ่งหลันเองให้ลูกจ้างทุกคนนั้นบอกลูกค้าไปตามความจริง ว่าทางร้านไมาสามารถขายสินค้าให้ได้ ให้ไปหาซื้อที่อื่นก่อน “บอกแล้วค่ะ….” ทั้งสองพูดกันไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงดังโวยวายกันอยู่ที่ด้านนอก“เฮอะ ที่ไม่ยอมขายข้าวให้พวกฉัน เป็นเพราะว่าจะเอาไปขายให้กับทางการใช่หรือเปล่าล่ะ” เสียงลูกค้าที่เป็นสตรีเอ่ยขึ้น“ไม่อยากขายให้พวกเราก็พูดมาตรงๆเถอะ ไม่ต้องอ้างทางการหรอก มันน่าอาย” เธอยังพูดไม่หยุด“ทำมาเป็นบอกว่าเอาไปช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน ฉันเองก็เดือดร้อนเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นก็ต้องให้ของพวกนี้กับฉันด้วย” ผู้หญิงทืี่มาด้วยกันเอ่ยขึ้น“ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเราก็ไม่มีเงินมากพอที่จะซ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status