แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ปลุกฉันให้ตื่นเพราะสาวใช้มาเปิดผ้าม่านทำให้ฉันพลิกตัวหันไปอีกทางแต่สาวใช้ก็มาเขย่าตัวฉันให้ตื่นดวงตาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมือไปจับที่แขนซ้ายยังเจ็บแผลอยู่เล็กน้อย
"คุณหนูตื่นได้แล้วค่ะ?" เสียงใสๆ ของออโรล่า สาวใช้คนสนิทพูดเดินเข้ามาพร้อมอ่างล้างหน้า
"อืม..." ฉันตอบรับในลำคอพลางลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง
"คุณหนูให้ออโรล่าช่วยล้างหน้าให้ไหมคะ? " ออโรล่าถามพร้อมกับยื่นผ้าขนหนูผืนเล็กมาให้
"ไม่ๆ ฉันขอทำเองดีกว่า ช่วยไปเตรียมชุดลำลองมาให้ฉันหน่อยได้ไหม อาบน้ำเสร็จฉันจะออกไปข้างนอก"
"คุณหนูจะอาบน้ำตอนเช้า? คุณหนูไม่ชอบอาบน้ำตอนเช้าเพราะหนาวไม่ใช่เหรอคะ" ออโรล่าเอียงคอทำหน้าเหมือนมีเครื่องหมายในหัวตลอดเวลา
"เอ่อ...เปลี่ยนทุกอย่างอะไรที่เคยชินฉันจะเปลี่ยนใหม่หมด"
"คุณหนูจะไปไหนคะ ให้เตรียมรถม้าให้ไหมคะ?"
"ไม่ต้องฉันจะไปคนเดียว แล้วก็...อย่าให้ท่านพี่รู้ว่าฉันออกไปไหนเข้าใจไหม"
"แต่ว่าคุณหนูเป็นผู้หญิงจะไปไหนคนเดียวมันอันตรายนะคะ"
"เอาน่า ถือว่าทำเพื่อฉันได้ไหม ออโรล่าคนเก่งของฉัน"
ออโรล่าหน้าแดงแต่ก็ไม่กล้าถามต่อเลยไปเตรียมชุดให้ฉัน หลังจากออโรล่าเดินออกไปและชุดลำลองเสื้อสีขาวกางเกงขายาวสีดำและผ้าคลุมศีรษะสีดำเพื่อปกปิดใบหน้า ก่อนจะเดินตรงไปยังคอกม้าเลือกม้าตัวสีดำที่แข็งแรงของท่านพี่ แล้วขึ้นขี่อย่างคล่องแคล่วดีนะที่ฉันเคยเรียนขี่ม้ามาก่อนไม่งั้นคงแย่แน่
"เซเรน่า! ลูกจะไปไหน?" เสียงของท่านพ่อพูดขึ้นขณะที่ฉันกำลังจะควบม้าออกไปพวกเขากลับมาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย
"ลูกจะไปทำธุระนิดหน่อยค่ะ ท่านพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ"
ฉันตอบก่อนจะใช้ขา กระตุ้นม้าให้วิ่งออกไปโดยที่ไม่ฟังพ่อพูดเลยฉันควบม้าไปตามถนนมุ่งหน้าลงไปที่กลางเมืองอยากจะเห็นกับตาตัวเองว่าโลกในนิยายที่ฉันเข้ามาอยู่นั้นเป็นอย่างไรบ้านเมืองผู้คนวิถีชีวิตทุกอย่างล้วนน่าสนใจ
"ว้าววววววว"
ฉันถึงกับตาโตเมื่อได้เห็นเมืองที่เต็มไปด้วยร้านค้าและสิ่งปลูกสร้างต่างๆมันช่างคึกคักและมีชีวิตชีวาผู้คนสวมใส่ชุดผ้าไหมมีผ้ากันเปื้อนสีขาวผูกเอวบางคนถือตะกร้าที่ใส่ผลไม้หรือขนมปังเสียงพูดคุยกันอย่างเป็นมิตรและรอยยิ้มบรรยายดูสงบเรียบง่ายผู้คนเดินสวนกันไปมาพ่อค้าแม่ค้าต่างก็เรียกลูกค้า
ขาลงจากหลังม้าจูงม้าเดินเล่นบางคนไม่ใส่รองเท้าและมีเด็กเล็กวิ่งกันไปมามีตึกเตี้ยๆ ที่สร้างจากอิฐเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบพื้นถนนปูด้วยลวดลายหยักสลับกันไปตรงกลางมีน้ำพุขนาดใหญ่ใจกลางเมืองข้างๆ มีดอกลิลลี่และดอกสีเหลืองต้นไม้เยอะเต็มไปหมด
"ที่นี่ช่างสวยงาม สวยจนเทียบกับโลกที่ฉันจากมาได้เลย"
ฉันหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายดอกไม้มองดูดอกพวกนั้นที่จัดวางอย่างสวยงามด้วยความเอาใจใส่ของเจ้าของร้านกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้รู้สึกสดชื่น ฉันที่เดินเข้าไปในร้านเลือกดอกไม้มาช่อหนึ่งเพราะไม่เคยซื้อให้ตัวเองและยังมีการรับฝากม้าไว้ด้วยขณะที่เดินเล่นไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง...ชนกับใครบางคนเข้าอย่างจังทำให้ตัวฉันที่กำลังจะล้มก็โดนดึงเข้าไปโอบเอวทำให้สบตากับเขา
"สนุกจนลืมไปแล้วว่าเจ้าเป็นชนชั้นสูงข้าคิดว่าเจ้าเป็นชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง"
เสียงที่พูดกับฉันพอมองดูดีๆ ถึงกับดวงตาเบิกกว้างด้วยความอึ้งฝ่าบาท! เขาแต่งกายด้วยชุดชาวบ้านธรรมดาๆ กลมกลืนจนฉันแทบจำไม่ได้เขาปลอมตัวมาทำอะไรที่นี่ ฉันอยากถามแต่ก็ได้แต่เก็บไว้ในใจกลัวว่าจะโดนฆ่าไม่ก็โดนด่าซะก่อนยิ่งปากหนักอยู่
"เลดี้เซเรน่า มาทำอะไรที่นี่? ชนชั้นสูงมักไม่มาเมืองข้างล่าง แบบนี้หรอกนะ อ้อลืมไปเจ้าเป็นคนชั้นต่ำนิน่า"
(อยากจะกระโดดถีบสองขาคู่ชะมัด ปากจะหมาไปไหน!)
"มาเที่ยวเล่นไม่ได้หรือไง? เพคะ ใครเขาห้ามกัน! แล้วเอามือของฝ่าบาทที่โอบเอวหม่อมฉันปล่อยสักทีเพคะ"
"หึ หวงตัวหรือไง!"
ทันใดนั้นฝ่าบาทก็คว้ามือฉันลากเข้าไปในตรอกซอยเล็กๆ เขาเอามือมาปิดปากฉันไว้และมืออีกข้างของเขาโอบกอดเอวฉันทำให้ได้กลิ่นหอมๆ จากมือเขา
"ชู่ว...เงียบๆ อย่าส่งเสียง ถ้าเจ้าไม่อยากจะตาย"
ฉันพยักหน้าอย่างเชื่อฟังไม่กล้าพูดอะไรไปมากกว่านี้
สายตาค่อยๆ มองดูใบหน้าของฝ่าบาททั้งดวงตา จมูก คือเข้าใจเลยว่าทำไมเซเรน่าถึงหลงเพียงนี้ พริบตาเดียวเขาหันกลับมาทำให้ทั้งสองก็สบตากันอีกครั้ง ฉันเลยเบี่ยงหน้าก็เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ท่าทางมีพิรุธกำลังยืนพูดคุยกันอยู่ไม่ไกล
"อ้อ..มาจัดการคนพวกนี้? ฝ่าบาทไม่ใช่ว่าคนที่ต้องนั่งอยู่เฉยๆเหรอเพคะ?"
"ข้าไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้คนอื่นมาจัดการแทนข้าได้ อันไหนข้าอยากทำข้าก็จะทำไมต้องมารอให้เสียเวลา เพราะเวลาของข้า มีค่ามาก"
"อย่างนี้นี่เอง ถ้าฝ่าบาทไม่บอกหม่อมฉันก็คงไม่เข้าใจหรอกเพคะ ขอบคุณที่บอกหม่อมฉันนะเพคะ"
"เจ้ากำลังกวนประสาทข้าอยู่งั้นเหรอ"
"หม่อมฉันจะกล้าทำแบบนั้นกับฝ่าบาทได้อย่างไรล่ะเพคะ" ในใจคืออยากจะอยากกวนมากกว่านี้อีกติดตรงแค่กลัวหัวหลุดเท่านั้นแหละ
ฉันพูดก่อนจะหันกลับไปสนใจกลุ่มโจรต่อสักพักฝ่าบาทก็ส่งสัญญาณให้อัศวินที่ซุ่มอยู่เข้าจับกุมคนร้ายแต่มีคนร้ายคนหนึ่งพยายามจะหลบหนีฉันที่เห็นพอดีเลยรีบวิ่งเข้าไปขวางหน้าตะโกนว่า
"เฮ้ย!" มือปล่อยหมัดเข้าใส่หน้าคนร้ายเต็มแรง
ฉันยกมือขึ้นมาดู "เจ็บชะมัด! หน้าหรืออะไรทำไมมันแข็งอย่างนี้?"
ฝ่าบาทกะพริบตาเผลอยิ้มให้กับการกระทำของเซเรน่าหลังจากตกน้ำฟื้นขึ้นมาใจกล้าขึ้นเยอะ ฝ่าบาทสังเกตเห็นมือของเธอเลยจับขึ้นมาดู
"เจ็บมากหรือเปล่า?" เขาพูดก่อนจะทรงเป่าลมตรงมือเบาๆ ที่แดงก่ำ
ฉันหน้าแดงระเรื่อรีบชักมือกลับ"มะ...ไม่เป็นไรเพคะ ฝ่าบาทมาจับมือหม่อมฉันไม่ได้เพคะ หม่อมฉันคิดค่าจับมือด้วย"
เขาหัวเราะเบาๆ "เจ้าเนี่ยหวงตัวเป็นด้วย? นึกว่าจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ผู้ชายทุกคนซะอีก"
เพียะ!
ฉันยกฝ่ามือฟาดลงใบหน้าด้วยแรงโทสะจนฝ่าบาทหน้าหันตามแรงตบของฉัน
"ถ้าฝ่าบาทจะมาดูถูกหม่อมฉันก็ตามใจฝ่าบาท แต่อย่ามาคิดว่าผู้หญิงทุกคนเขาจะใจง่ายเพคะ ถึงแม้หม่อมฉันจะเคยชอบฝ่าบาทมากแต่ตอนนี้หม่อมฉันไม่ได้ชอบอีกต่อไปแล้วต่างคนต่างอยู่ดีกว่าเพคะ"
"ตัวเจ้าเองจะเลิกชอบข้าได้จริงๆ ใช่ไหม?"
เขาถามว่าโดยที่น้ำเสียงเย็นชาและก้าวเข้ามาใกล้ฉันรู้สึกถึงแรงกดดันจากเขาเลยค่อยๆ ถอยทีละก้าวช้าๆ
"ใช่เพคะ! " ฉันตอบเสียงแข็งพยายามเก็บอาการไม่แสดงความกลัวออกมา
"ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเจ้าพูดจริงหรือพูดเล่น"
ฝ่าบาทโน้มใบหน้าลงมาใกล้จนปลายจมูกเกือบจะสัมผัสกับแก้มของฉันหัวใจฉันเต้นแรงไม่เป็นจังหวะใบหน้าหลบสายตาคมกริบของเขา
"ถอยออกไปนะเพคะ ที่นี่มันที่สาธารณะฝ่าบาททรงทำแบบนี้ไม่ดีเพคะ"
"ทำไม? กลัวข้าเหรอ?" น้ำเสียงของเขาเย้าหยอก
"เปล่าเพคะ หม่อมฉันแค่ไม่ชอบให้ใครมาใกล้ชิดขนาดนี้"
เขาคว้าแขนของฉันดึงเข้าไปใกล้แนบร่างกายของเขา
"งั้นเหรอ? แต่เจ้าชอบมาใกล้ชิดข้า ทุกวี่ทุกวันจนข้ารำคาญจะแย่"
"จะไม่มีแบบนั้นให้กวนใจฝ่าบาทอีกแล้วเพคะ"
มือเขาที่เอื้อมมาลูบใบหน้าฉันทำให้ดวงตาปิดข้างหนึ่งนิ้วโป้งเลื่อนมาลูบปากฉันอวัยวะภายในฉันรู้สึกปั่นป่วนหน้าซีดขวัญผวา
"ถ้าอย่างนั้น...ข้าจะพูดคำหนึ่งที่เจ้าชอบพูดกับข้า คือ ข้าขอจองตัวเจ้าไว้ก่อนก็แล้วกัน"
"เพคะ?" สมองของฉันราวกับมีใครมากดปุ่มพอสเอาไว้
หนึ่งเดือนผ่านไป...ห้างบีบุ๊ค จำกัด...หลังจากที่ฉันกลับมาจากในนิยายทุกอย่างจบแฮปปี้ฝ่าบาทก็ขึ้นครองบัลลังก์อย่างที่เขาต้องการและมีการทำพิธีศพให้กับเซเรน่าหนึ่งร้อยวันเนื่องจากในนิยายเขียนว่าเธอป่วยและตายไป แต่ทุกคนในเมืองต่างมีความสุขอย่างที่ฉันหวังแทบวันนี้มีงานหนังสือของผู้เขียนนิยายเรื่องนี้ฉันที่เป็นแฟนคลับเลยอยากจะได้ลายเซ็นสักหน่อยจึงนั่งรถมางานพอก้าวเดินเข้ามามองไปรอบๆ คนเยอะมากไม่คิดว่าจะมีคนอ่านเยอะเหมือนกันจู่ๆ ก็มีมือมาแตะไหล่ของฉันทำให้สะดุ้งเล็กน้อยกลายเป็นซันเพื่อนของฉันเอง"ไม่รอกันเลยนะเดินมาอย่างกับ มาคนเดียว" เธอทำหน้าบูดบึ้งแล้วกอดอกทำแบะปากอีกด้วยฉันเอามือไปเกาะแขนแล้วเอาหัวซบไหล่เธอ "ขอโทษกลัวจะไม่มีที่ให้ยื่นนะสิดูนั้น...""ก็จริงคนเยอะมาก อย่างกับดูดาราแน่ะ""เหมือนดาราจริงๆ แหละ"ซันเขย่งเท้ามองเข้าไปในงานเธอเข้ามาจับมือพาเดินแทรกมายื่นอยู่ตรงข้างหน้าซันกลายเป็นชอบการอ่านนิยายไปแล้วเมื่อก่อนยังบ่นฉันอยู่เลยตอนนี้กับติดเกือบทุกเรื่อง"ซันไหนติดนิยายมากกว่าฉันได้ละเนี่ย บอกว่าไม่ดีไม่ใช่เหรอ""ใครบอกฉันชอบนิยายที่สุดเลยแหละ""จ๋าๆ แม่คุณ"เมื่อได้เวลาที่จะเริ
เสียงพูดของไลล่านั้นทำให้ฉันแทบหยุดลมหายใจจ้องมองด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อไม่คิดว่าไลล่าจะรู้เรื่องนี้เพราะอย่างนี้เธอถึงได้ทำให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง"ถึงเธอจะรู้แล้วยังไงล่ะ แค่จัดการเธอได้ทุกอย่างก็จบแล้ว""ใครบอกกันเธอต่างหากที่จะหายไปในโลกใบนี้เมื่อฉันตายเธอก็จะกลับสู่โลกของเธอ"ผ้าที่มัด ตาเธอไว้หลุดทำให้เห็นดวงตาสีแดงก่ำในตาของเธอเป็นรูปสัญลักษณ์ดวงดาวท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มฉันเงยขึ้นทุกอย่างเป็นสีแดงพระจันทร์ก็ยังเป็นสีแดงเช่นกันทุกคนรอบข้างตื่นตระหนกวิ่งกันให้วุ่น"เธอคือคนที่สร้างเรื่องนี้สินะใช่ไหมคุณนักเขียนฉันอ่านไดอารีของเธอหมดแล้ว"ไลล่ายิ้มให้กับฉัน "ใช่ฉันได้เข้ามาอยู่ในร่างไลล่า คิดว่าการเป็นนางเอกนั้นมันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย ฉันพยายามทำทุกวิถีทางจะครองหัวใจฝ่าบาทแต่มันทำไม่ได้เหมือนอะไรมาขีดเส้นทางไว้พอเซเรน่าตาย มันกลายเป็นวนเวียนอยู่อย่างนี้นับครั้งไม่ถ้วนจนเธอมาสวมร่างเซเรน่าทำให้ทุกอย่างมันจบแบบที่ฉันต้องการแล้วล่ะ""แบบที่เธอต้องการคือความตายของตัวเองเหรอ แล้วทุกคนที่นี่จะเป็นยังไงถ้าฉันหายไป""ฉันตอบไม่ได้รู้แค่ว่าเธอไม่มีทางอยู่ในนิยาย
พอพิธีการแต่งงานจบพิธีถัดไปคือการเฉลิมฉลองให้แก่เจ้าบ่าวเจ้าสาวมีราชาและราชินีนั่งอยู่บนบัลลังก์เหล่าขุนนางต่างก็ยิ้มหน้าบาน"อิจฉาเลดี้เซเรน่าได้ครอบครองฝ่าบาทมอร์ฟราน""จริง สมกับเป็นฝ่าบาทงานอลังการเหมาะสมที่สุดเลยทั้งหล่อทั้งเท่ทั้งรวย""นั้นสิ แถมฝ่าบาทกับเลดี้เซเรน่าสง่างามมากด้วย""แต่อย่างน้อยยังเหลือท่านดยุกของพวกเรานะคะ เลดี้ทั้งหลาย"ทุกคนหัวเราะพูดคุยฉันหันไปหาพี่ซีซาร์นั่งร้องไห้อยู่กับสาวๆ ของเขา"น้องสาวของข้า ออกเรือนแล้ว เหลือแต่ข้า"ถึงอย่างนั้นทุกอย่างก็ราบรื่นไปด้วยดีไม่มีอะไรมาขัดขวางสุดท้ายฉันก็ยังนึกถึงคำพูดขอไลล่าไม่เลิกอีกไม่กี่วันก็ใกล้วันประหารของเธอแล้วขณะนั้นฝ่าบาทก็เดินเข้ามาหาฉันเขากอดจากด้านหลังแผ่นอกแนบชิดแผ่นหลังฉัน"ทำไมมาอยู่ตรงระเบียงล่ะที่รัก เบื่องานเลี้ยงแล้วเหรอ""ไม่ได้เบื่อเพคะ หม่อมฉันแค่อยากสูดอากาศหน่อย ข้างในคนเยอะเกินไปเพคะ"เขาอุ้มฉันขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนของเขาทำให้ฉันตกใจเล็กน้อย"งั้นกลับกันเลยดีกว่า""ถ้ากลับราชาและราชินีกับเหล่าขุนนางจะไม่ว่าอะไรเหรอเพคะที่พวกเราทิ้งงานไว้""ไม่เป็นไรหรอกปล่อยให้เป็นหน้าที่เลขาวินเทอร์นั่นแหละ มีสิ่งส
ฉันสังเกตไลล่าปฏิกิริยาเฉยชาแบบที่ไม่ควรเป็นมาก่อน นัยน์ตานั้นไม่สั่นคลอนแม้แต่เศษเสี้ยวเดียวไลล่าหันหลังให้กับฉันก่อนจะเอ่ยพูดขึ้น"กลับไปซะเถอะ คำถามของเลดี้ฉันจะตอบก็ต่อเมื่อใกล้ถึงวันประหาร""เพราะอะไรเลดี้ถึงตอบมาในตอนนี้ไม่ได้ล่ะ""ตอนนี้เลดี้กำลังมีความสุขไม่ใช่หรือไง! ฉันตั้งใจให้เลดี้กอบโกยความสุขให้เต็มที่ก่อนจะได้ไม่เสียใจที่หลัง""หมายความว่าไงกันแน่!"ผู้คุ้มก็เดินเข้ามาบอกว่าหมดเวลาในการเยี่ยมทำให้ฉันตะโกนเรียกแต่ชื่อไลล่า เธอกลับไม่หันมามองฉันเลยผู้คุ้มปิดประตูใส่หน้าฉันเอาสะดุ้งเล็กน้อย"ยังไงฉันก็มั่นใจแล้วว่าเธอไม่ใช่คนที่นี่ โอ๊ยยย หัวจะปวดเซนส์มันบอกว่าลางไม่ดีแน่ๆ"ฉันที่กลับมาคฤหาสน์ทุกคนต่างวิ่งวุ่นเพื่อเตรียมตัวให้ทันกำหนดคือวันแต่งงานที่แสนกระชั้นชิดและท่านพ่อท่านแม่ที่ไปช่วยงานพระราชวังเตรียมของต่างๆ มีแค่ฉันคนเดียวไม่ได้ทำอะไรเดินเอ้อระเหยเป็นอากาศ"เลดี้เซเรน่า..."เสียงของดยุกเรียกฉันจากด้านหลังเลยหันหน้าไปหาดยุกเขาถือหนังสือเล่มหนึ่งมาแล้วยื่นมาให้ฉัน"หนังสือเล่มนี้เป็นของไลล่า พอดีข้าคิดว่าไม่มีอะไรเลยเอามาให้น่ะ""ทำไมถึงให้ฉันล่ะ ดยุกไม่เก็บไว้เหรอ""
พี่ซีซาร์เดินเข้ามาดึงแขนของฉันให้ตัวไปอยู่ด้านหลังของท่านพี่"ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ อย่ามาลวนลามน้องสาวกระหม่อมได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ ไม่ก็แต่งงานให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ทำแบบนี้น้องสาวกระหม่อมเสียหายนะพ่ะย่ะค่ะ"ฉันที่ได้ยินแบบนั้นถึงกับชะงักหันไปหาท่านพ่อท่านแม่กลับยกนิ้วโป้งขึ้นเหมือนจะเห็นดีเห็นงามกับคำพูดของท่านพี่แล้วฝ่าบาทก็มาดึงแขนขวาส่วนท่านพี่ก็มาดึงแขนซ้ายฉัน"เซเรน่า เป็นภรรยาข้าไม่ต้องห่วงข้าจะจัดงานแต่งงานให้ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว""แล้วจะจัดเมื่อไหร่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ยอมให้น้องสาวถูกฝ่าบาทมากอดมาหอมเด็ดขาด! น้องสาวกระหม่อมมีพ่อมีแม่น่ะพ่ะย่ะค่ะ"แต่แล้วฝ่าบาทก็เข้ามาอุ้มฉันด้วยแขนข้างเดียวทำให้พี่ซีซาร์ตกใจปล่อยมือแล้วฝ่าบาทก็อุ้มฉันเดินไปก่อนจะเอ่ยขึ้น"ไม่ต้องห่วงข้าจะทำตามประเพณีแน่ แต่ตอนนี้ข้าอยากจะอยู่กับคนรักของข้าเท่านั้นเอง"ทั้งท่านพ่อท่านแม่และท่านพี่ยื่นยิ้มแล้วตบมือให้สายตามองใบหน้าท่านพี่เขายิ้มอย่างมีความสุขแล้วปากเขาขยับพูดว่า มีความสุขมากๆ นะน้องพี่ ฉันยิ้มอย่างดีอกดีใจเอาใบหน้าซุกไหล่ของฝ่าบาทเมื่อเห็นครอบครัวเซเรน่านั้นยิ้มได้แถมทุกคนก็ดีมากจนคิดว่าได้กลายเป็นน้องสาวแ
ใกล้จะเย็นแล้วขืนอยู่แบบนี้ต่อ มีหวังได้โดนฆ่าตายก่อนแน่ ตอนนี้ฝ่าบาทกับดยุกไปรวบรวมหลักฐานถึงไหนทำไมถึงได้ช้าขนาดนี้ชายสองคนเข้ามาจับตัวฉันไปมัดกับต้นไม้โดยมีพวกเอิร์ลเดินกันผลักเฝ้ายาม จู่ๆ ก็มีหินโยนมาโดนตัวสายตามองไปเจอออโรล่าทำมือรูปสี่เหลี่ยมคือฝ่าบาทได้ล้อมไว้หมดแล้ว"เหม่ออยู่ได้มีอะไรสั่งเสียก่อนตายไหมเลดี้เซเรน่า""คงจะไม่มี เพราะจะไม่มีใครรู้ว่าเลดี้เซเรน่าตายที่แห่งนี้ พื้นตรงนี้จะเป็นหลุมศพของเลดี้!"ไลล่าที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันในมือถือดาบมาจี้คอของฉัน เธอตรึงสายตาเย็นชาไว้ที่ฉันรังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากร่าง"อุ้ยตาย อดทนไม่ไหว อยากจะฆ่าฉันให้จบๆ แล้วใช่ไหม แต่ฉันจะไม่ตายคนที่จะตายคือเลดี้ต่างหาก!""เมื่อกี้นี้...เลดี้พูดว่าไงน่ะ? " ดวงตามืดครึ้มและเคลือบแฝงความโหดเหี้ยม"ฉันบอกว่าฉันจะไม่ตายคนที่จะตายคือเลดี้ไง ฝ่าบาทจะมาเอาชีวิตของเลดี้" (ดูยัยนี่สิ?! ฉันแค่ไว้ชีวิตนิดหน่อยทำมาเหิมเกริมมันทำตัวเหมือนกับกำลังมองเหยื่ออยู่ไม่มีผิด ฉันเป็นถึงเลดี้ไลล่าที่ทุกคนรักและแห่ชมเลยนะ!) "อย่ามาพูดหมาๆ ต่อหน้าฉัน! จับนางให้แน่น"เหล่าลูกน้องสองคนเข้ามาจับแขนทั้งสองข้างอย่างแรง"วันนี้แห