“กั๋ว-จาง-หย่ง- กั๋ว-จาง-ลี่”
หญิงสาวพูดพลางให้เด็กๆ จับดินสอเขียนชื่อตัวเอง นิ้วมือเล็กๆ จับดินสออย่างตั้งใจ หลายวันก่อนซื้ออุปกรณ์สำหรับฝึกเขียนอักษร รวมทั้งหนังสือคัดอักษร เด็กแฝดทั้งสองหัวไวกว่าที่เธอคิดไว้มาก ซ้ำยังสนุกกับการขีดๆ เขียนๆ รวมทั้งวาดรูปจนเลอะเทอะให้ป้าฮุ่ยชิวบ่นอุบอยู่บ้าง แต่ก็ทำให้บ้านเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
“เดี๋ยวฉันเย็บผ้ากันเปื้อนให้เด็กๆใส่แล้วกัน เวลาเด็กๆ ทำเลอะจะได้ไม่เลอะไปถึงเสื้อผ้า”
“ก็ดีเจ้าค่ะ”
ป้าฮุ่ยชิวหัวเราะเบาๆ นางก็บ่นไปอย่างนั้น แต่บ้านที่มีเสียงหัวเราะแบบนี้สิ ถึงจะเป็นบ้าน นางทำงานที่นี่ตั้งแต่สาวยันแก่ บรรยากาศในบ้านมักจะเงียบนิ่งเสมอ แม้กระทั่งก่อนหน้านี้ก็ตาม วันๆ คุณนายก็เอาแต่ตามหาสามีที่หายไป นางเข้าใจคนมั่นในรักอย่างหลินเหยาซื่อ แต่สามีที่หายไปสามปี หากยังมีชีวิตอยู่ก็ควรกลับมาหาลูกหาเมียสิ แต่นี่หายไปไร่ร่องรอยเหมือนคนไม่ต้องการกลับมาที่นี่อีก แต่หลังจากคุณนายฟื้นขึ้นก็ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เลิกตามหาคุณผู้ชาย และทุ่มเทดูแลคุณหนูคุณชายน้อยทั้งสอง เห็นเช่นนี้แล้วนางก็พลอยดีใจกับคุณหนูทั้งสองที่ได้มารดากลับคืน
“หลิน-เหยา-ซื่อ” หญิงสาวมองลายมือโยเยของลูกๆ ที่ฝึกเขียนชื่อของเธอ “เด็กๆ เก่งมากๆเลย”
“เด็กๆ?” ป้าฮุ่ยชิวหันไปมองอย่างแปลกใจ
“เด็กๆ ก็ลูกๆ ไง” หลินเหยาซื่อนึกได้ก็แสร้งหัวเราะกลบเกลื่อน เธอเลี้ยงเด็กจนชิน พอได้สวมบทคุณแม่ยังสาวก็ลืมไปบ้าง
“นี่ชื่อคุณแม่ นี่ชื่อจางลี่ นี่ชื่อจางหย่ง” เด็กหญิงตัวน้อยใช้นิ้วจิ้มๆไปที่ตัวอักษรตรงหน้า
“ชื่อคุณพ่อล่ะฮะ” จางหย่งเอียงคอมองอย่างสงสัย
“อ้อ! ชื่อคุณพ่อ”
หลินเหยาซื่อแย้มยิ้มแต่ในใจแอบก่นด่าผู้ชายคนนั้น เธอนั่งอ่านสมุดบันทึกของ ‘หลินเหยาซื่อ’ ทุกอย่างจดบันทึกอย่างละเอียด เรียกได้ว่า เธอซึ่งไม่เคยรู้จัก ‘ผู้ชายคนนั้น’ ก็พอจะนึกออกมาเป็นคนเย็นชามากแค่ไหน นอกจากขยันทำมาหากินดูแลกิจการในส่วนที่บิดามอบให้อย่างดีแล้ว เรื่องอื่นก็นึกไม่ออก ผู้หญิงดีๆ อย่างหลินเหยาซื่อทำไมถึงตกหลุมรักผู้ชายเย็นชาอย่างนั้นได้นะ ถ้าเป็นเธอนะเหรอ หาผู้ชายดีๆไม่ได้ก็อยู่โสดๆ สวยๆ และรวยๆ ดีกว่า
แต่เรื่องดีเรื่องเดียวที่เธอนึกออกก็คือ คู่แฝดสองคนนี้ ลูกชายหล่อ ลูกสาวสวย เห็นแล้วเจริญหูเจริญตาจริงๆ
“กั๋ว-คัง-เหริน”
หลินเหยาซื่อเขียนชื่อสามีที่เธอไม่นับเป็นสามี แอบกัดฟันกรอดอยู่ในใจทั้งที่ต้องฉีกยิ้มเปี่ยมสุข อย่างไรเขาเป็น ‘พ่อ’ ของเด็กแฝด เธอไม่ควรเอาความเกลียดชังของตัวเองไปยัดเหยียดใส่เด็ก...เอ่อ...ลูก
“กั๋ว-คัง-เหริน” จางลี่จางหย่งออกเสียงพร้อมกันแล้วค่อยๆ ลากเส้นเป็นชื่อของบิดา
“คุณแม่ฮะ เราชวนคุณพ่อไปสวนสนุกด้วยกันนะฮะ”
“ใช่ค่ะคุณแม่ พาคุณพ่อไปสวนสนุกด้วยนะคะ”
หลินเหยาซื่อยิ้มแข็งค้าง คงเพราะความรักอันเปี่ยมล้นของเจ้าของร่างนี้ที่มีต่อสามีในนามคนนั้น คงจะเล่าบรรยายแต่เรื่องดีงามทำให้ลูกๆ ถึงยิ้มทุกครั้งที่พูดถึงพ่อที่ไม่เคยเจอหน้า จะว่าไปก็น่าสงสารอยู่ไม่น้อย เธอจะไปทำลายมโนภาพของเด็กๆไม่ได้
“ได้จ๊ะ คุณพ่อกลับมาเราจะไปเที่ยวด้วยกัน”
“ในรูปถ่ายไม่มีรูปคุณพ่อเลย” จางลี่ทำเสียงเศร้า
“นั้นสิๆ ไม่มีรูปคุณพ่ออยู่กับพวกเราเลย”
ป้าฮุ่ยซิวสบตากับคุณผู้หญิง เด็กสามขวบอยู่ในวัยช่างถาม นางก็ไม่รู้จะช่วยอธิบายอย่างไรดี
หลินเหยาซื่อยังคงฉีกยิ้มอ่อนโยน ในยุคของเธอถ้ามีโน้ตบุ๊คสักเครื่อง เธอก็ตัดต่อภาพได้สบายๆ อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ เท่าที่มองเห็นก็มีเครื่องพิมพ์ดีดในบ้าน โทรทัศน์ขาวดำ แล้วก็โทรศัพท์บ้าน เธอเหลือบมองไปรอบตัวก็แล้วนึกได้
“ได้จ๊ะ” หลินเหยาซื่อตอบทันที ป้าฮุ่ยซิวถึงกับมีสีหน้าประหลาดใจ
“คุณผู้หญิงจะทำอย่างไรเจ้าคะ”
“ทำได้สิ ลูกๆก็ทำได้นะ” หลินเหยาซื่อพูดแล้วหยิบกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งมาวางตรงหน้า แล้วหยิบดินสอของลูกมาใช้ก่อน “เราก็วาดรูปคุณพ่อเพิ่มลงไปไงล่ะ”
“จริงด้วย เราวาดรูปคุณพ่อได้นี่น่า” จางลี่ทำตาโต
“วาดรูปๆ” จางหย่งพูดแล้วเดินไปหยิบสีไม้มาวางบนโต๊ะ
“ใช่แล้ว เราจะวาดรูปคุณพ่อกัน ลี่ลี่กับหย่งหย่งอยากให้คุณพ่ออยู่ตรงไหนเอ่ย”
“คุณพ่อกับคุณแม่อยู่ตรงกลาง ลี่จะอยู่กับคุณพ่อ หย่งหย่งอยู่ข้างคุณแม่”
“ไม่เอาๆ หย่งหย่งจะอยู่กับคุณพ่อ!”
“ลี่ลี่จะอยู่กับคุณพ่อ!”
เด็กสองคนเริ่มแยกเขี้ยวใส่กัน
“อ้าว! ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณแม่เหรอคะ” หลินเหยาซื่อแกล้งทำน้ำเสียงน้อยใจ เด็กทั้งสองเลิกทะเลาะกันทันทีแล้ววิ่งอ้อมโต๊ะเขียนหนังสือมากอด
“พวกเราจะอยู่กับคุณแม่!”
“ไม่หลอกแม่นะ” หลินเหยาซื่อถาม เด็กแฝดพยักหน้าพร้อมกัน “ถ้าอย่างนั้น เราวาดรูปลูกๆ อยู่ตรงกลางแล้วพ่อกับแม่กอดลูกๆ ดีไหม”
“ดีครับ/ค่ะ”
ยังไม่ทันลงมือวาดรูป ก็มีเสียงกริ่งดังที่หน้าบ้าน ป้าฮุ่ยซิวเดินออกไปดู ครู่หนึ่งก็มีชายวัยประมาณสามสิบปีคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวตัวหลวมกับกางเกงสแลคสีดำเข้ากับรองเท้าหนังที่สวมอยู่ เพียงเห็นเธอเขาก็เปิดรอยยิ้มดีใจสาวเท้าเข้ามาเร็วๆ ยื่นมือมาจะจับมือของเธอ แต่หลินเหยาซื่อไม่ชอบให้ใครถูกเนื้อถูกตัวนัก แม้เป็นนักแสดงตัวประกอบ หากนอกบทเธอก็ไม่ชอบให้คนอื่นมาถูกตัว ปฏิกิริยาขยับตัวถอยหนีจึงเกิดขึ้นทันที ทำให้ชายคนนั้นชะงักไป เขาชักมือกลับอย่างเก้อเขินแล้วหัวเราะน้อยๆ
“ขอโทษด้วย พี่ดีใจที่เห็นน้องเหยาซื่อฟื้นเป็นปกติ”
“พี่...” หลินเหยาซื่อทำหน้างงแล้วปรายตามองไปทางป้าฮุ่ยซิว
“คุณนายไม่สบายหลายวัน ความจำสับสนไปบ้าง” ป้าฮุ่ยซิวเองก็ไม่ค่อยพอใจนัก ตอนที่บ้านนี้ลำบาก นางบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากหลายๆคน แต่ไม่มีใครมาดูดำดูดีเลย แต่เวลานี้คุณนายดีขึ้นแล้ว กลับเพิ่งมีคนโผล่หน้ามา “นี่คุณกั๋วซีฮัน เป็นพี่ชายคุณผู้ชายเจ้าค่ะ”
จู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกอบอุ่นผูกพันในแววตาคู่นั้น หลินเหยาซื่อไม่แน่ใจว่า ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้คืออะไร ทำไมเธอรู้สึกว่าเขาคือคนที่เคยกุมมือไว้ก่อนที่จะสิ้นใจดวงตาหลังแว่นสายตาตื่นตกใจที่เห็นดวงตาคู่สวยมีหยดน้ำตา “คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า มีอะไรผิดปกติไหม”หญิงสาวใส่หน้าไปมา “ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ทำไมตัวเองถึงมีน้ำตา”เธอพยายามหัวเราะเช่นทุกครั้ง เวลามีอะไรเธอมักจะหัวเราะเสมอ กระทั่งครั้งนี้เธอก็หัวเราะทั้งที่มีน้ำตา ชายหนุ่มยื่นมือไปเช็ดน้ำตาที่เปื้อนแก้ม“สัญญากันแล้วนี่นา ว่าจะไม่หลับไปนานแบบนี้อีก”คราวนี้หญิงสาวตกใจกับคำพูดของเขา“เมื่อกี้คุณหมอพูดว่าอะไรนะคะ”‘คุณหมอ’ ชายหนุ่มยิ้มเศร้า เธอคงจำเขาไม่ได้สินะ ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วขยับตัวรักษาระยะห่างระหว่างหมอกับคนป่วย ทั้งที่เขาอยากคว้าเธอมากอดแนบอกเหลือเกิน‘จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แค่เขาจำเธอได้ก็พอ’ชายหนุ่มมองดวงตากลมโตที่ยังมีแววสงสัย เรื่องแบบนี้เล่าไปจะมีใครเชื่อ ตัวเขาเองยังไม่อยากจะเชื่อเลยหลังจากภรรยาตายจากได้ห้าปี เช้าวันหนึ่งเขาก็ตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าของร่างนี้ป่ว
หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ มองตัวเองในกระจก ยกมือขึ้นเปิดเส้นผมที่ปรกหน้าเห็นรอยแผลจากการถูกกระแทกต้องเย็บยี่สิบเข็ม คุณหมอแจ้งว่าถ้าเธอต้องการทำศัลยกรรมเพื่อลบรอยแผลเป็นก็ทำได้ เธอจำได้ว่าตอนนั้นเธอหัวเราะและตอบไปว่า“ไม่เป็นไรค่ะ แผลเป็นนิดเดียว”แต่จริงๆเธอเสียเงินหลายหมื่นหยวน ในปีค.ศ. 2023 นี้ เธอคือผู้หญิงที่หน้าตาธรรมดา เหลือเงินติดบัญชีอยู่ไม่เท่าไหร่ โชคยังดีที่บริษัทภาพยนตร์ที่เธอรับงานเป็นตัวประกอบเห็นใจให้เงินค่าทำขวัญมาจำนวนหนึ่ง ส่วนค่ารักษาพยาบาลนั้นมาจากประกันอุบัติเหตุ เธอจึงไม่ต้องเป็นหนี้สินล้มละลายเพราะการรักษาตัวเอง แต่ข่าวที่เธอช่วยชีวิตคนอื่นก็ทำให้เธอกลายเป็นที่สนใจ ตอนนี้แม้เธอเป็นแค่ตัวประกอบ แต่ก็มีหลายบริษัทอยากให้เธอไปร่วมเล่นซีรีย์บทเล็กๆ ถึงอย่างไรหน้าตาเธอก็ไม่ได้สะสวยพอจะเป็นถึงนางเอกได้ และยิ่งตอนนี้มีแผลเป็นที่หน้าผากอีก ต่อให้ใช้ make up ปิดบังยังไง ก็ยังเห็นอยู่ดี แผลเป็นไม่ได้น่าเกลียดเท่าไหร่ เห็นแล้วก็อดคิดถึงแผลเป็นของผู้ชายคนนึงไม่ได้ แผลเป็นของเขาใหญ่กว่าเธอมาก ผ่านมาหลายปี แผลเป็นนั้นก็เป็นรอยจางๆหลินเหยาซื่อต้องทำกายภาพบำบัดที่โรงพยา
“ผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ พ่อก็รักไม่น้อย ปกว่ากัน แล้วพวกลูกล่ะ จะรักน้อง ไม่ว่าน้องจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายหรือเปล่า”“แน่นอนครับค่ะ พวกเรารักน้อง อยากให้น้องออกมาเร็วๆ จะช่วยคุณแม่เลี้ยงน้องและเล่นกับน้อง” คนเป็นแม่หัวเราะเสียงใส จะช่วยแม่เลี้ยงน้องหรืออยากเล่นกับน้องก็ไม่รู้เสียงหัวเราะของคนในครอบครัว ละลายความหม่นเศร้าที่เคยปกคลุมในบ้านหายไปหมดสิ้น ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือไปตรงหน้า“เข้าบ้านเถอะเย็นแล้ว อากาศเย็น เดี๋ยวคุณจะไม่สบายเอา”หญิงสาวมองมือใหญ่แข็งแกร่งที่ยื่นมาตรงหน้า เธอรู้ว่ามือคู่นี้จะคอยประคองเธอไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เช่นเดียวกับเธอที่สัญญาไว้กับเขาว่าจะจับมือเขาไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบางที...นี่อาจเป็นเหตุผลที่โชคชะตาส่งเธอมาในปีนี้ 1980 เพื่อได้รับใครสักคน และเพื่อให้หัวใจได้ถูกรัก.จบ.ลืมตาอีกครั้งหญิงสาวลืมตาขึ้นแล้วพบว่า ตัวเองอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ต้องตั้งสติอยู่นานกว่าจะรู้ว่า ตัวเองตื่นมาในปีค.ศ. 2023 เธอคือผู้รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ในอุบัติเหตุรถบัสตกเขาลงแม่น้ำหลินเหยาซื่อจำได้ว่าตอนที่ฟื้นขึ้นมา เธอสบตากับดวงตาคู่หนึ่งแม้เขาจะสวมหน้ากากอนา
คราวนี้เห็นทีจะจบเรื่องแล้วจริงๆ หลินเหยาซื่อถอนหายใจอย่างหอบเหนื่อย เธอถึงกับหมดแรงนั่งลงไปกับพื้น สามีเห็นแล้วก็รีบเข้าไปประคองอุ้มเธอขึ้นมาไว้บนเตียง เขาสั่งการกับเว่ยฉือให้จัดการเรื่องทั้งหมดแทนเขา เมื่อในห้องไม่มีคนนอกแล้ว ลูกทั้งสองคนก็ได้รับอนุญาตให้เข้ามาหาแม่ได้“คุณแม่เกิดอะไรขึ้นครับ/ค่ะ”เด็กน้อยสองคน ปีนขึ้นเตียงรีบเข้ามากอดแม่ เด็กฝาแฝดคนแย่งกันพูดเสียงดัง บรรยากาศกลับสดใสอีกครั้ง หลินเหยาซื่อส่ายหน้าไปมา บทเรียนต่อไปเธอต้องสอนให้ลูกพูดเสียงให้เบาลงกว่านี้ แต่เอาเถอะ เวลานี้เสียงของลูก ไพเราะที่สุดแล้ว“ขอแม่หอมแก้มเพิ่มพลังหน่อยสิ” หญิงสาวพูดขึ้น เด็กน้อยสองคนก็รุมหอมแก้มกันใหญ่สามีถอนหายใจแล้วค่อยยิ้มออกมา ทั้งที่เมื่อครู่เจอเรื่องอันตรายมากแต่เธอก็ยังยิ้มได้ คนที่บ้าที่สุดอาจจะเป็นภรรยาของเขาก็ได้ คิดแล้วเขาก็หัวเราะออกมาหลินเหยาซื่อเสียงสามีหัวเราะ ก็หันไปทำหน้ายู่ใส่“หัวเราะอะไรคะ”“หัวเราะอะไรคะ/ครับ” ลูกสองคนพูดเลียนแบบแม่“ไม่มีอะไรครับ”คนเป็นพ่อพูดแล้วโบกมือไปมา แต่หลินเหยาซื่อสบตากับลูกทั้งสองส่งสัญญาณ คนเป็นสามีรู้สึกไม่ค่อยน่าไว้ใจแสร้งถอยหลัง แต
ภาพที่เห็นตรงหน้า ทำให้ดาราสาวปวดใจแทบเป็นบ้า ยิ่งเห็นกั๋วคังเหรินโอบกอดหลินเหยาซื่ออย่างปกป้องและความห่วงใย ครั้งหนึ่งอ้อมกอดนั้นเคยเป็นของเธอมาก่อน ทำไมมันถึงมาจุดนี้ได้ ทำไมไม่ใช่เธอที่อยู่ในอ้อมกอดเขา ดาราสาวแหงนหน้าหัวเราะ ท่าทางไม่ต่างจากคนเสียสติ โลกไม่ยุติธรรมเสียเลย เธอมองหน้าชายที่เคยรักผ่านม่านน้ำตา“ทำไมคะ ทำไมคุณไม่รักฉัน ทำไมคุณต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น”ชายหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วง เขาประคองร่างของภรรยาขึ้น มองเห็นหยดเลือดจากที่เธอกระชากสายน้ำเกลือออกก็ปวดใจ โชคดีที่ลูกสาวลูกชายไม่ได้อยู่ในห้องนี้ เขาไม่อยากให้ลูกๆ ต้องมาเห็นภาพแบบนี้“เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว คุณจะรื้อฟื้นทำไม คุณเองก็ไม่ได้มีผมเพียงคนเดียว ระหว่างที่เราคบกัน ก็ใช่ว่าผมจะไม่รู้ว่าคุณมีคนอื่น” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า ได้ยินดังนี้ ดาราสาวถึงกับหน้าซีดไป เพราะเธอคิดเสมอว่าเขาไม่เคยรู้เรื่องราวด้านมืดของเธอเลยชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง“ให้มันจบแค่นี้เถอะ คุณมีชีวิตของคุณ ผมมีชีวิตของผม ผมมีภรรยาและลูกที่รักมากและผมต้องดูแลพวกเขา นอกจากหลินเหยาซื่อแล้ว ชีวิตนี้ผมไม่อาจรักใครได้อีกแล้ว เห็นแก่ควา
หลังจากมั่นใจว่า ในห้องไม่มีคนอื่นอยู่แล้ว หลินเหยาซื่อจึงลุกขึ้นจากเตียงนอน เธอรู้สึกรำคาญสายน้ำเกลืออยู่บ้าง แต่จะทำอย่างไรได้ก็สถานะตอนนี้เป็นคนป่วยนี้นะเธอไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเองอีกเมื่อไหร่ เธอจะหลับไปแบบนี้อีกไหม หลับไปยาวนานถึง 7 วัน ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเธอ แม้กระทั่งหมอ แต่ตัวเธอเอง ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่า ชีวิตที่ได้มาใหม่นี้ จะใช้ได้ยาวนานเพียงใด แต่ที่สุดแล้ว ก็ยังมีลมหายใจอยู่ โดยเฉพาะในชาตินี้ เธอรู้ดีว่า มีสิ่งที่สำคัญที่สุดรออยู่ นั่นก็คือ ลูกชายหญิงฝาแฝดของเธอ ที่แม้ซนเหมือนลิง แต่เธอก็รักพวกเขามากแม้ไม่มีความทรงจำที่อุ้มท้องพวกเขา แต่เธอก็รู้สึกว่าทั้งสองเป็นลูกของเธอจริงๆหญิงสาว มองไปที่โต๊ะตรงหัวเตียง มีกระเช้าผลไม้ตั้งอยู่ มีผลไม้หลากชนิด เธอเอื้อมมือไปหยิบแอปเปิ้ลสีสวย เห็นแล้วก็คิดถึงงานที่ทำค้างอยู่ Collection ใหม่ครั้งหน้า เธอน่าจะออกแบบลายผ้า เป็นรูปผลไม้เด็กๆชอบผลไม้สีสันสดใส น่าจะทำลายผ้าแล้ว ทำของอย่างอื่นด้วยก็ดีนะหลินเหยาซื่อคิดฝันไปไกลถึงกิจการของตัวเอง และเม็ดเงินที่จะเข้ากระเป๋า เมื่อมีเงินมาก เธอก็สามารถท