Share

<2> เสียงในหัวที่ไม่ได้รับเชิญ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-05 19:23:56

ความเงียบเข้าปกคลุมกระท่อมผุพังราวกับผ้าคลุมหน้าศพ กงหยางเหวินนั่งแหมะอยู่บนพื้นดินเย็นเฉียบ สมองขาวโพลนไปชั่วขณะ จิตใจล่องลอยเคว้งคว้างอยู่ในสุญญากาศแห่งความสิ้นหวัง สิ่งเดียวที่ตอกย้ำว่าเขายังไม่ได้เสียสติไปคือตัวเลขนับถอยหลังสีแดงฉานที่มุมสายตา มันลดลงทีละวินาทีอย่างเที่ยงตรงไร้ความปรานี เป็นดั่งนาฬิกาทรายจากยมโลกที่กำลังนับถอยหลังสู่จุดจบของเขา

เขาคือผู้เขียน พระเจ้าผู้สร้างโลกใบนี้ขึ้นมากับมือ แต่บัดนี้ เขากลับกลายเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งบนกระดานที่ตัวเองสร้าง ถูกกำหนดให้ต้องถูกกำจัดทิ้งเพื่อเปิดทางให้ตัวละครที่สำคัญกว่าได้เฉิดฉาย ช่างเป็นเรื่องตลกร้ายที่หัวเราะไม่ออกโดยแท้

“นี่ เจ้าเอไอ” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบโหยราวกับคนใกล้ตาย “ในเมื่อเจ้าเป็นระบบสุดยอดซะขนาดนั้น ทำไมไม่เสกให้ข้าเก่งขึ้นเลยล่ะ? เพิ่มค่าสถานะให้เต็มหลอด หรือไม่ก็มอบพรสวรรค์ระดับพระเจ้าให้สักอย่างสองอย่างก็ได้ แค่นี้ก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่รึไง”

หน้าจอสีฟ้ากระพริบตอบสนองต่อคำถามของเขา

[การเปลี่ยนแปลงค่าสถานะพื้นฐานของโฮสต์โดยตรง เป็นการแทรกแซงโชคชะตาที่รุนแรงเกินไป จะทำให้กฎแห่งโลกเกิดความปั่นป่วน และอาจถูกเจตจำนงของลาสบอสตรวจพบได้ การปล่อยให้โฮสต์พัฒนาตัวเองผ่านภารกิจ คือแนวทางที่ปลอดภัยและสมดุลที่สุด]

“ตรรกะวิบัติสิ้นดี!” กงหยางเหวินแผดเสียงอย่างเหลืออด “จะให้ข้าไปทำภารกิจบ้าบออะไรได้ในเมื่ออีกไม่ถึงสองวันข้าจะต้องกลายเป็นอาหารหมาป่าอยู่แล้ว! นี่มันเหมือนสั่งให้คนขาด้วนไปแข่งวิ่งมาราธอนชัด ๆ!”

[ระบบเข้าใจในความคับข้องใจของท่าน แต่ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ]

“ทางออกเหรอ ทางออกสู่ปรโลกน่ะสิไม่ว่า!” เขาสบถอย่างหัวเสีย ก่อนจะถอนหายใจยาวเหยียด “ช่างเถอะ จะเรียกเจ้าว่าระบบ AI ผู้สร้างสรรค์มันยาวเกินไป ข้าจะเรียกเจ้าว่า เสี่ยวซ่า ก็แล้วกัน มาจากคำว่าซ่า ที่แปลว่ากวนประสาท หาเรื่อง และทำตัวน่าถีบนั่นแหละ”

[ติ๊ง! ยืนยันการตั้งชื่อเล่น เสี่ยวซ่า]

การตอบรับที่ราบเรียบไร้อารมณ์ของมันยิ่งทำให้กงหยางเหวินอยากจะเอาหัวโขกฝาให้ตาย ๆ ไปเสียตรงนั้น เขาพยายามสงบสติอารมณ์ที่กำลังเดือดพล่านราวกับน้ำในกาต้มน้ำ ความโกรธเกรี้ยวไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ในสถานการณ์ที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายเช่นนี้ เขาต้องเค้นสติปัญญาออกมาเพื่อหาทางรอดให้ได้

“เอาล่ะ เสี่ยวซ่า” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น “ไหนลองว่ามาสิ ไอ้ภารกิจที่เจ้าพูดถึงน่ะ มันคืออะไร แล้วมันจะช่วยให้ข้ารอดพ้นจากชะตากรรมเฮงซวยนี่ได้ยังไง”

ราวกับรอคำถามนี้อยู่ หน้าจอของเสี่ยวซ่าก็เปลี่ยนไปทันที

[ภารกิจคือบททดสอบที่โลกมอบให้เพื่อเปิดโอกาสให้ท่านได้เปลี่ยนแปลงโชคชะตา ทุกครั้งที่ทำภารกิจสำเร็จ ท่านจะได้รับค่าประสบการณ์ แต้มเอาตัวรอด และรางวัลพิเศษเป็นการตอบแทน]

[ค่าประสบการณ์ ใช้สำหรับเพิ่มเลเวลและค่าสถานะ]

[แต้มเอาตัวรอด สกุลเงินพิเศษ ใช้สำหรับแลกเปลี่ยนไอเทม ทักษะ หรือข้อมูลสำคัญจากร้านค้าระบบ]

แววตาของกงหยางเหวินทอประกายขึ้นมาวูบหนึ่ง

“ร้านค้าระบบ? แสดงว่ามีของดี ๆ ขายสินะ อย่างเช่นดาบในตำนาน เกราะเทพ หรือยาอมตะอะไรทำนองนั้น?”

[มีสินค้าทุกประเภทตามระดับเลเวลและจำนวนแต้มเอาตัวรอดของท่าน แต่ระบบขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบสถานะของตัวเองในปัจจุบันก่อนที่จะฝันกลางวัน]

สิ้นเสียงของเสี่ยวซ่า หน้าจอใหม่ก็ปรากฏขึ้น มันคือหน้าต่างสถานะของตัวเขาในปัจจุบัน

[ชื่อ: กงหยางเหวิน]

[เลเวล: 1]

[เผ่าพันธุ์: มนุษย์ (ตัวประกอบ)]

[พลังชีวิต: 30/30]

[พลังเวท: 15/15]

[ค่าสถานะ: พละกำลัง: 5 ความว่องไว: 6 สติปัญญา: 7 ความทนทาน: 4 โชค: 1

[ทักษะ: ไม่มี]

[ฉายา: ว่าที่เหยื่อหมาป่า]

กงหยางเหวินจ้องมองตัวเลขบนหน้าจอด้วยอาการปากอ้าตาค้าง ค่าสถานะที่น่าสมเพชเหล่านี้ราวกับเป็นคำประกาศิตว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นมดปลวกให้คนอื่นเหยียบย่ำ พละกำลังแค่ 5 หน่วยนี่คงยกถังน้ำเปล่ายังลำบาก ส่วนความทนทาน 4 หน่วยนั่นอีก โดนลมพัดแรง ๆ อาจจะกระดูกหักได้เลยมั้ง!

แต่ที่น่าเจ็บปวดใจที่สุดคือค่าโชคที่มีแค่ 1 แต้มถ้วน นี่มันระดับตัวซวยเดินได้ชัด ๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ชะตากรรมของไอ้หนุ่มคนนี้ถึงได้น่าอนาถขนาดนั้น

และไอ้ฉายา ว่าที่เหยื่อหมาป่า นั่นอีก นี่เจ้าจงใจจะตอกย้ำชะตากรรมของข้าใช่ไหมหา?!

“นี่มันค่าสถานะของสไลม์เลเวลหนึ่งชัด ๆ!” เขาโอดครวญ “แล้วแบบนี้จะเอาปัญญาที่ไหนไปทำภารกิจกันเล่า!”

[ติ๊ง! ท่านได้รับภารกิจสำหรับมือใหม่]

ยังไม่ทันที่เขาจะได้คร่ำครวญจบ เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นอีกครั้ง หน้าต่างภารกิจเด้งขึ้นมาบดบังหน้าต่างสถานะที่น่าหดหู่จนมิด

[ภารกิจสำหรับมือใหม่: ก้าวแรกสู่การเอาชีวิตรอด]

[รายละเอียด: ในฐานะตัวประกอบที่ไม่มีใครจดจำ การหาเลี้ยงชีพคือสิ่งสำคัญที่สุด จงแสดงให้โลกเห็นว่าท่านไม่ได้ไร้ค่าจนเกินไป ด้วยการหาเงินให้ได้ 1 เหรียญทองแดงภายในเวลาที่กำหนด]

[เงื่อนไข: ห้ามใช้วิธีการขโมยหรือขอทาน]

[จำกัดเวลา: 6 ชั่วโมง 00 นาที 00 วินาที]

[รางวัลเมื่อสำเร็จ: กล่องของขวัญสำหรับมือใหม่ x1 แต้มเอาตัวรอด +10]

[บทลงโทษหากล้มเหลว: ค่าสถานะทั้งหมดลดลง 1 แต้ม]

กงหยางเหวินอ่านรายละเอียดภารกิจซ้ำไปซ้ำมาสามรอบเพื่อความแน่ใจ หาเงิน 1 เหรียญทองแดง?

ภารกิจแรกในต่างโลกของเขา ไม่ใช่การออกล่ามอนสเตอร์ ไม่ใช่การตามหาสมบัติในตำนาน แต่เป็นการหาเงินแค่เหรียญเดียวเนี่ยนะ

มันอาจจะดูเหมือนเป็นภารกิจที่แสนจะง่ายดาย แต่สำหรับเขาในตอนนี้ที่ไม่มีทั้งเงินติดตัว ไม่มีทักษะใด ๆ แถมยังอยู่ในร่างของเด็กหนุ่มกำพร้าที่ไม่มีใครรู้จัก มันก็ไม่ต่างอะไรจากการงมเข็มในมหาสมุทร แถมบทลงโทษหากล้มเหลวยังโหดร้ายอย่างยิ่งยวด การโดนลดค่าสถานะที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินอยู่แล้วลงไปอีก ก็ไม่ต่างอะไรจากการผลักเขาให้เข้าไปใกล้ปากเหวแห่งความตายเร็วขึ้นอีกก้าว

เขาเหลือบมองเวลานับถอยหลังสู่ความตายของตัวเองที่มุมจอ ก่อนจะหันกลับมามองเวลานับถอยหลังของภารกิจที่กำลังเดินไปอย่างไม่หยุดยั้ง

เอาวะ! ยังไงก็ต้องตายอยู่แล้ว สู้ลองดิ้นรนเฮือกสุดท้ายดูสักตั้งก็ไม่เสียหายอะไรนี่นา

กงหยางเหวินสูดหายใจเข้าลึก ๆ กำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน แววตาที่เคยเต็มไปด้วยความสิ้นหวังเมื่อครู่ บัดนี้ฉายแววของความดื้อรั้นและไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตาขึ้นมาแทนที่

“ก็ได้ เสี่ยวซ่า” เขากล่าวกับหน้าจอโปร่งแสง “ในเมื่อเจ้าอยากจะเล่นเกมกับข้านัก ข้าก็จะเล่นด้วย!”

“หนึ่งเหรียญทองแดงก็หนึ่งเหรียญทองแดง ข้าจะหามาให้ได้ดู!”

เขาผลักประตูไม้ที่ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดราวกับเสียงโอดครวญของคนชราให้เปิดออก แสงแดดเจิดจ้าสาดส่องเข้ามาจนต้องหยีตา เมืองชิงเย่ที่เขาเคยบรรยายไว้ในนิยาย บัดนี้ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาในรูปแบบที่สมจริงที่สุด

กงหยางเหวินก้าวเท้าออกจากกระท่อมที่อยู่ในสภาพที่ใกล้จะผุพัง ก้าวเข้าสู่โลกที่เคยมีอยู่แค่ในจินตนาการของเขาอย่างเต็มตัว เมืองชิงเย่ในความเป็นจริงนั้น มีชีวิตชีวาและเปี่ยมด้วยสีสันยิ่งกว่าตัวอักษรใด ๆ ที่เขาเคยรจนาขึ้น ถนนดินอัดแน่นทอดยาว สองข้างทางเรียงรายไปด้วยอาคารไม้สไตล์ยุโรปยุคกลางที่เขาเคยค้นคว้าภาพมาประกอบการเขียน กลิ่นหอมกรุ่นของขนมปังที่อบใหม่ ๆ ลอยมาจากร้านเบเกอรี่ ผสานกับเสียงค้อนเหล็กที่กระทบกันดังกังวานมาจากโรงตีเหล็กของลุงเคราดกที่ปลายถนน เสียงพูดคุยจอแจของผู้คน เสียงต่อรองราคาสินค้า และเสียงร้องทักทายกันอย่างเป็นมิตร ทุกสิ่งผสมปนเปกันจนกลายเป็นกลิ่นอายของชีวิตที่เขาไม่เคยได้สัมผัสในห้องพักสี่เหลี่ยมแคบ ๆ ของตัวเอง

—————

เชิงอรรถ;

หลังจากนี้ไปจะบรรยายตัวละครของนายเอก โดยการบรรยายชื่อของตัวละครที่ข้ามมาเข้าร่างแล้วเลย หรือใช้ศัพท์สำนวนจีนต่าง ๆ  เพื่ออรรถรสในการอ่าน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เมื่อผมดันทะลุมิติมาเจอพระเอกนิยายในดันเจี้ยน   <14> สมบัติของผู้เขียน

    มันเปรียบเสมือนบทละครที่ถูกขยำทิ้งลงถังขยะไปแล้ว แต่โลกใบนี้กลับเก็บมันขึ้นมาปัดฝุ่นแล้วนำมาจัดแสดงใหม่อย่างหน้าตาเฉย!ความจริงข้อนี้ทำให้หยางเหวินรู้สึกหนาวเยือกไปถึงไขกระดูก อำนาจในฐานะผู้สร้างของเขามันลึกล้ำ และน่ากลัวกว่าที่เขาคิดไว้มากนัก“ท่านรู้ที่มาของมันด้วยรึ?” เจิ้งเฟิงเยวี่ยเอ่ยถามเมื่อเห็นหยางเหวินยืนนิ่งไปนาน การแสดงออกของหยางเหวินในสายตาของเขาคือความไม่แยแสต่อของล้ำค่า ราวกับว่าสมบัติระดับนี้เป็นเพียงของธรรมดาสามัญสำหรับเขาเท่านั้น“อ่า... ก็เคยได้ยินมาบ้าง” หยางเหวินตอบเสียงอ่อย พลางรีบเก็บซ่อนความตื่นตระหนกไว้ภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉย “ในเมื่อมันเป็นยาชั้นดีเช่นนี้ ท่านก็รีบดื่มมันเสียสิ แผลของท่านจะได้หายสนิท”เขากล่าวพลางผายมือไปยังขวดยา มันเป็นการกระทำที่ออกมาจากใจจริง เพราะยิ่งเจิ้งเฟิงเยวี่ยหายเร็วเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้นเจิ้งเฟิงเยวี่ยมองลึกเข้าไปในดวงตาของหยางเหวิน เขาเห็นเพียงความว่างเปล่า แต่เขากลับตีค

  • เมื่อผมดันทะลุมิติมาเจอพระเอกนิยายในดันเจี้ยน   <13> นักต้มตุ๋นไม่สมัครใจ

    “บ้าที่สุด! ติดอยู่ในถ้ำที่ตัวเองไม่ได้เขียนด้วยซ้ำ! ไอ้เส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดของข้าก็นำมาสู่หายนะชัด ๆ! นี่ข้าเป็นนักเขียนประเภทไหนกันวะเนี่ย ขนาดพล็อตของตัวเองยังคาดเดาไม่ได้เลย!”เจิ้งเฟิงเยวี่ยยืนมองดูพฤติกรรมแปลก ๆ ของหยางเหวินอย่างเงียบ ๆ ในสายตาของเขา การเดินวนไปวนมา และคำพูดพึมพำเหล่านั้นไม่ใช่การเสียสติ แต่เป็นการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมอย่างลึกซึ้งต่างหาก“แล้วดูกำแพงบ้านี่สิ!” หยางเหวินชี้ไปที่ทางตันอย่างหัวเสีย “โคตรจะดาษดื่น! ทางตันหลังอุโมงค์ถล่มเนี่ยนะ! ถ้าข้าเป็นคนเขียนล่ะก็ อย่างน้อย ๆ ก็ต้องใส่ปริศนาอะไรไว้บนกำแพงบ้าง หรือไม่ก็มีสวิตช์ลับซ่อนอยู่ ไม่ใช่แค่กำแพงโง่ ๆ น่าเบื่อแบบนี้!”เขาเดินเข้าไปทุบกำแพงเบา ๆ ด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วทิ้งตัวพิงกำแพงนั้นอย่างหมดแรง “โอ๊ย เหนื่อยเป็นบ้าเลยโว้ย”และในวินาทีที่แผ่นหลังของเขาพิงลงไปบนจุดหนึ่งของกำแพงนั่นเอง...ครืด... ครืดดดดด...เสียงหินเสียดสีกันดังก้องขึ้นมาจาก

  • เมื่อผมดันทะลุมิติมาเจอพระเอกนิยายในดันเจี้ยน   <12> เข้าสู่ถ้ำก็อบลิน

    ทั้งสองคนเดินเรียงหนึ่งเข้าไปในอุโมงค์ลับ บรรยากาศข้างในนั้นอับทึบและคับแคบยิ่งกว่าข้างนอกหลายเท่า พวกเขาต้องเดินเบียดเสียดไปตามทางเดินที่กว้างพอสำหรับคนคนเดียวเท่านั้น ความมั่นใจของกงหยางเหวินที่เคยมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมเริ่มสั่นคลอนเล็กน้อยเมื่อเขาตระหนักว่า ในความทรงจำของเขาอุโมงค์นี้มันควรจะเงียบไม่ใช่หรอกเหรอ แต่ตอนนี้เขากลับได้ยินเสียงบางอย่างกึกกัก... กึกกัก...มันเป็นเสียงขูดขีดที่ดังมาจากข้างหน้า เป็นเสียงที่น่ารำคาญและชวนให้ขนลุกในเวลาเดียวกัน‘เสียงอะไรวะ?’ หยางเหวินขมวดคิ้ว ‘ในพล็อตไม่ได้มีบอกไว้นี่นา หรือว่าข้าจะลืมรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไป?’ความมั่นใจของเขาในยามนี้นั้นช่างเปราะบางราวกับแผ่นน้ำแข็งในฤดูใบไม้ผลิ ที่พร้อมจะแตกสลายได้ทุกเมื่อเจิ้งเฟิงเยวี่ยเองก็หยุดเดินเช่นกัน เขาทำสัญญาณมือให้หยางเหวินเงียบ แล้วเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ “มีสิ่งมีชีวิตอยู่ข้างหน้า หลายตัวด้วย”“จะเป็นก็อบลินได้ยังไง” หยางเหวินเผลอโพล่งออกมา

  • เมื่อผมดันทะลุมิติมาเจอพระเอกนิยายในดันเจี้ยน   <11> ชีวิตต้องสู้เมื่อไม่มีเงิน

    “ขอบคุณ” เจิ้งเฟิงเยวี่ยรับถุงเงินมาโดยไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ก่อนจะเดินตรงไปยังกระดานภารกิจขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางโถงกระดานภารกิจนั้นเปรียบเสมือนบันไดสู่ชื่อเสียงและเงินทอง แต่สำหรับพวกเขาในตอนนี้ มันคือฟางเส้นสุดท้ายที่ต้องคว้าเอาไว้ บนกระดานเต็มไปด้วยใบประกาศที่เขียนภารกิจต่าง ๆ ไว้มากมาย ตั้งแต่การคุ้มกันคาราวานสินค้า ไปจนถึงการล่าไวเวิร์นในเทือกเขาทางเหนือเจิ้งเฟิงเยวี่ยกวาดสายตามองภารกิจระดับสูงด้วยแววตาครุ่นคิด แต่ก็ส่ายศีรษะเล็กน้อย บาดแผลของเขายังไม่หายดีพอที่จะรับงานเสี่ยง ๆ เช่นนั้นได้ในขณะเดียวกัน กงหยางเหวินก็กำลังไล่สายตาอ่านภารกิจจากล่างขึ้นบน เขาไม่ได้มองหาภารกิจที่ให้รางวัลสูงที่สุด แต่กำลังมองหาภารกิจที่ปลอดภัยที่สุดต่างหาก และแล้วสายตาของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับใบประกาศที่เหลืองกรอบใบหนึ่งในมุมที่ต่ำที่สุดของกระดาน[ภารกิจระดับ F: ปราบก็อบลินในถ้ำทางทิศเหนือ][รายละเอียด: ช่วงนี้มีก็อบลินกลุ่มหนึ่งเข้ามายึดถ้ำทางเหนือของเมืองและคอยดักปล้นชาวบ้านที่เดินทางผ่านไปมา ขอให้น

  • เมื่อผมดันทะลุมิติมาเจอพระเอกนิยายในดันเจี้ยน   <10> จำใจร่วมทาง

    เพื่อทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนี้ หยางเหวินจึงตัดสินใจชวนคุย “เอ่อ... คุณชายเจิ้ง ท่านมาจากที่ไหนรึ? ท่าทางเหมือนไม่ใช่คนแถวนี้” มันเป็นคำถามพื้น ๆ ที่สุดที่คนเพิ่งรู้จักกันจะถามได้เจิ้งเฟิงเยวี่ยหยุดเดินไปชั่วครู่ แววตาของเขาหรี่ลงราวกับกำลังครุ่นคิดถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำถามนั้น “ที่มาไม่สำคัญเท่ากับเป้าหมายที่ต้องไปให้ถึง”คำตอบของเขาราวกับสายหมอก จับต้องไม่ได้และซ่อนเร้นความจริงไว้ภายใน มันเป็นคำตอบตามแบบฉบับพระเอกนิยายกำลังภายในที่หยางเหวินเคยเขียนไม่มีผิดเพี้ยน‘ตอบแบบนี้ใครจะไปตรัสรู้กับท่านเล่า!’ หยางเหวินอยากจะตะโกนออกไป ‘แค่ตอบว่ามาจากเมืองหลวงมันจะตายรึไง! ไอ้พระเอกบ้าเอ๊ย!’การเดินทางที่เหลือจึงเต็มไปด้วยความเงียบงันอีกครั้ง จนกระทั่งกำแพงเมืองชิงเย่ปรากฏให้เห็นอยู่ลิบ ๆ นั่นแหละ หยางเหวินถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ในที่สุดก็กลับมาสู่ดินแดนแห่งอารยธรรมเสียทีทว่าเมื่อเดินมาถึงหน้าประตูเมือง เขา

  • เมื่อผมดันทะลุมิติมาเจอพระเอกนิยายในดันเจี้ยน   <9> ความพยายามครั้งที่สองและสาม

    ‘โอกาสมาแล้ว!’เขากลั้นใจ เงยหน้าขึ้นสบตากับเจิ้งเฟิงเยวี่ยที่กำลังเคี้ยวขนมปังด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนจะฉีกยิ้มครั้งที่สองออกไปรอยยิ้มครั้งนี้ดูพัฒนากว่าครั้งแรกเล็กน้อย กล้ามเนื้อบนใบหน้าไม่กระตุกรุนแรงเท่าเดิม แต่มันก็ยังคงดูผิดธรรมชาติอย่างร้ายกาจ มันเป็นรอยยิ้มที่ดูราวกับคนพยายามจะบอกว่าอาหารอร่อยมาก ทั้ง ๆ ที่ในปากมีแต่ทราย เป็นรอยยิ้มที่ฝืนทนจนน่าเวทนาเจิ้งเฟิงเยวี่ยที่กำลังจะกัดขนมปังคำต่อไปถึงกับชะงักค้าง เขามองรอยยิ้มประหลาดนั่นด้วยแววตาที่ขมวดมุ่นยิ่งกว่าเดิม‘รอยยิ้มนั่นอีกแล้ว’ ความคิดของเขาถักทอเป็นตาข่ายแห่งความซับซ้อนที่พันธนาการความจริงอันแสนเรียบง่ายเอาไว้ ‘เขายิ้มทำไม? เขากำลังพึงพอใจกับสภาพอันน่าอดสูของข้าที่ต้องมานั่งกินขนมปังแข็ง ๆ เช่นนี้รึ รอยยิ้มนี้มันไม่ใช่ความเป็นมิตร มันแฝงไว้ด้วยความเวทนา หรืออาจจะเป็นการหยามหยัน? เขากำลังทดสอบความอดทนและความทะนงในศักดิ์ศรีของข้างั้นหรือ?’คิ้วกระบี่ของเข

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status