[6]
นายต้องเป็นหมอนข้างให้ฉัน ฟีฟ่าย่องขึ้นเรือนโดยมีเป้าหมายอยู่ที่กล่องแซนด์วิชบนโต๊ะไม้สักทอง เจ้าของนั่งหันหลังให้แบบนี้ยังไงก็ไม่มีทางเห็นแน่นอน เสร็จไอ้ฟ่าล่ะ มือเล็กคว้ากล่องแซนด์วิชได้สำเร็จ ตั้งใจจะเอาลงไปกินข้างล่างเป็นมื้อเที่ยง บังเอิญเหลือบไปเห็นเห็นอกไก่ไร้ไขมันชิ้นใหญ่ในกล่องอาหารคลีนก็เกิดอยากกินขึ้นมา คิดว่าเอาไปแค่ชิ้นเดียวอีกฝ่ายคงไม่รู้หรอก "เสร็จโจร อิอิ.." มัวแต่ย่ามใจค่อย ๆ เปิดกล่องจึงไม่รู้สึกตัวว่าร่างสูงได้มายืนอยู่ด้านหลังแล้ว และกำลังมองพฤติกรรมของเขาอยู่ "ทำอะไรน่ะ!" เสียงทุ้มดังขึ้นทำเอาฟีฟ่าตกใจจนแทบทำของในมือร่วง ดีที่ว่าคว้าเอาไว้ได้ทัน เขาหันกลับมามองร่างสูงและยิ้มแหย ๆ "นะ.. นั่งสมาธิเสร็จแล้วหรือครับ แฮะ ๆ" "ถ้ายังไม่เสร็จฉันจะจับขโมยได้เหรอ" ร่างสูงโน้มลงต่ำและยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ดวงตาคู่คมมองกล่องแซนด์วิชที่อยู่ในมือของฟีฟ่าและยิ้มเหี้ยม ..วิ่งสิครับจะรออะไร!! ฟีฟ่าถอยหลังหนีและรีบวิ่งลงจากเรือน ยังไม่พ้นบันไดขั้นแรกก็ถูกมือหนาคว้าคอเสื้อเอาไว้ได้ นี่สินะ..ข้อเสียเปรียบของคนขาสั้น ฟีฟ่าถูกคนตัวใหญ่กว่าเหวี่ยงกระเด็นกลับขึ้นไปบนเรือน แผ่นหลังบางกระแทกโดนเสาตกน้ำมันกลางบ้านดังแอ๊ก "จะ..เจ็บ ทำไมถึงชอบใช้ความรุนแรงนักนะ ไอ้คนป่าเถื่อน!" "ขี้ขโมยและยังปากดีอีกนะ!" ร่างสูงยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของฟีฟ่า ใบหน้าหล่อยามนี้ดูน่ากลัวยิ่งกว่าผีซะอีกเมื่อโดนคนอายุน้อยกว่าเข้าให้ ภพภูมิมองร่างเล็กนั่งกอดเสาตกน้ำมันตาขวาง ทำเอาไอ้ฟ่ากลัวจนแทบจะฉี่ราด "อยากกินทำไมไม่ขอดี ๆ" "ถ้าขอดี ๆ แล้วจะให้มั้ยล่ะ!" ฟีฟ่าถามกลับไปบ้าง "ไม่ให้" "เห็นมั้ยล่ะ พี่มันขี้งก" ฟีฟ่าเบะปาก มือที่กอดยังลูบไล้เสาตกน้ำมันไปมา เห็นดังนั้นภูมิจึงไปลากตัวฟีฟ่าให้ออกห่างและหิ้วเข้าเอวด้วยแขนข้างเดียวพาลงไปด้านล่างพร้อมกล่องอาหาร "อยากกินก็กิน ถ้ากินไม่หมดฉันจะผ่าท้องนายและยัดมันเข้าไปแทน!" "ให้กินดี ๆ แต่แรกก็จบมั้ย" ถึงปากจะบ่นแต่ฟีฟ่าก็จัดการกับอาหารตรงหน้าโดยไม่เกรงใจเจ้าของ ตัวก็แค่นี้ไม่รู้กินแล้วเอาไปเก็บไว้ไหนหมด ขณะฟีฟ่ากำลังหยิบแซนด์วิชใส่ปาก ภพภูมิได้มองขึ้นไปบนเรือนไม้ ปรากฏกลุ่มควันสีเทาปกคลุมอยู่รอบเสาตกน้ำมัน ดวงตาคู่คมถลึงใส่ กลุ่มควันนั้นก็หายวับไปทันที ดอกลีลาวดีสีขาวร่วงลงมาบนแคร่ใต้ต้น ตั้งใจหล่นมาตรงหน้าของสองหนุ่ม ภพภูมิแหงนหน้าขึ้นมอง ดอกไม้จึงได้ร่วงไปที่พื้นแทน "ทำไมผมต้องกวาดใบไม้ด้วยล่ะ ร่วงทั้งวันแบบนี้กวาดเท่าไรก็ไม่หมดหรอก" ฟีฟ่ารับไม้กวาดที่ภพภูมิส่งให้มาถือไว้ หลังทานอาหารเสร็จแทนที่จะได้นั่งพักกลับต้องมาทำงานอีก นอกจากดอกลีลาวดีแล้วรอบเรือนยังมีต้นไผ่สูงท่วมหัวปลูกอยู่ด้วย ใบก็ปลิดปลิวทั้งวัน ป่าช้าแห่งนี้มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นรกมาก ยิ่งด้านหลังหนาจนแทบมองไม่เห็นทางเดิน "ไม่ต้องบ่น กวาดไป" สั่งคนอื่นให้กวาดพื้นแต่ตัวเองกลับไปนั่งอ่านหนังสือเฉย ไม่คิดจะมาช่วยกันบ้างหรือไง ฟีฟ่ายืนกวาดใบไม้อยู่หน้าเรือนไม่กล้าไปไกลกว่านั้น สัญชาตญาณของเขาบอกว่ามันไม่ปลอดภัย ในขณะที่ฟีฟ่ากวาดพื้นอยู่นั้น ร่างสูงก็ถูกขนาบข้างด้วยสองหญิงงาม ต่างกำลังช่วยกันบีบนวดเอาใจ พลางพูดถึงฟีฟ่าไปด้วย ..เด็กคนนั้นน่ารักดีเนอะ ถ้าเขาไม่รอดเบญจเพส พวกเรารับเขามาอยู่ด้วยดีมั้ย.. ..นั่นสิ ฮิ..ฮิ..ฮิ.. "ถ้าแตะต้องเด็กคนนั้น พวกเธอไม่ได้ผุดได้เกิดแน่!" น้ำเสียงกร้าวดังอยู่ในห้วงจิต ผีสาวสองตนจึงรีบสลายร่างไป เพราะเกรงจะถูกทำให้เป็นเช่นนั้นจริง ๆ "โอ๊ย! กวาดเท่าไรก็ไม่หมดสักที ไม่ก่งไม่กวาดมันแล้ว" ฟีฟ่าโยนไม้กวาดทิ้งและเดินอาด ๆ เข้าไปนั่งข้างร่างสูงพร้อมทิ้งศีรษะลงบนตักแกร่ง อีกฝ่ายกลับลุกหนีจนหัวของฟีฟ่ากระแทกลงกับแคร่อย่างแรง "พี่ลุกหนีทำไมอะ!" "ใครใช้ให้นายมานอนตักฉัน ขยะแขยง!" "ขยะแขยงอะไรกัน คืนนั้นพี่อมของฟ่าเข้าไปทั้งพวงไม่เห็นจะบ่นขยะแขยงเลย" คืนนั้นถึงฟีฟ่าจะเมาแต่ตอนท้ายเขาก็พอมีสติอยู่บ้าง และรู้ว่าตัวเองโดนอีคนพี่ทำอะไรไว้บ้าง "นะ..นาย.." "ก็พี่เล่นปลุกฟ่าให้ไปช่วยหลวงปู่บิณฑบาตตั้งแต่ตีสี่ ใช้ให้ทำงานทั้งวัน ฟ่าก็ต้องง่วงน่ะสิ" ฟีฟ่าไม่กล้านอนคนเดียว มีเพื่อนอยู่ด้วยอุ่นใจกว่าเยอะ แต่ดูเหมือนภพภูมิจะไม่ยอมให้ทำแบบนั้น เขาหิ้วตัวฟีฟ่าจนลอยพากลับขึ้นไปบนเรือนและไปโยนไว้หน้าโต๊ะทำพิธี ก่อนปาเบาะรองนั่งใส่หน้า ดีที่รับไว้ได้ทันไม่งั้นดั้งจมูกโด่ง ๆ ของไอ้ฟ่าบี้แน่ "นั่งสมาธิจะช่วยให้หายง่วง" "ฮะ! นั่งสมาธิเนี่ยนะ มีแต่จะหลับนะสิ" ภูมิโยนเบาะรองนั่งอีกใบลงข้างฟีฟ่าและเข้าไปนั่งข้างกัน เปลือกตาสีอ่อนปิดลงเพื่อทำสมาธิและสั่งให้อีกคนทำตาม ฟีฟ่าหลับตาได้ไม่ถึงห้านาทีก็เริ่มสัปหงก ร่างเล็กโอนเอนไปมาอยู่หลายรอบก่อนมาหยุดอยู่ที่ไหล่หนา อยู่นิ่งได้สักพักก็ค่อย ๆ ทิ้งตัวลงจนศีรษะอยู่บนตักแกร่งอีกครั้ง "นั่งสมาธิแค่นี้ก็ทำไม่ได้ ไม่ได้เรื่องจริง ๆ" ภพภูมิอุ้มร่างเล็กและลุกขึ้นเต็มความสูงเพื่อพาเข้าไปในห้อง ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาผีตากผ้าอ้อมพอดี "ห้ามกวนเขา" เสียงทุ้มพูดขึ้นพลางวางตัวลงบนฟูกและห่มผ้าให้ก่อนเดินออกมา คนตัวเล็กนอนหลับสนิทจึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายลงจากเรือนไปแล้ว หลังป่าไผ่.. "ปกติคุณภพไม่ทานมื้อเย็นนี่ครับ" "อย่าถามมาก ส่งของมา" "ขะ..ขอโทษครับ" เสียงทุ้มตำหนิคนสอดรู้และยื่นมือไปรับถุงใส่กล่องอาหารที่โทรสั่งให้ลูกน้องคนสนิทนำมาส่ง ปกติจะสั่งให้มาแค่ตอนเช้า แต่วันนี้จู่ ๆ กลับเรียกให้มาตอนเย็นอีกรอบก็เลยสงสัย "อ้อ..พรุ่งนี้ขอกาแฟเพิ่มอีกแก้วนะ" "เอ๊ะ..อ๋อ..ครับ ได้ครับ" ยิ่งได้รับคำสั่งให้ซื้อกาแฟเพิ่มก็ยิ่งแปลกใจ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรมากเพราะเป็นเรื่องของเจ้านาย ก่อนกลับนึกบางอย่างขึ้นมาได้จึงรีบบอกกับภพภูมิก่อนจะลืม "คุณธีร์ถามว่าเมื่อไหร่คุณภพจะกลับบ้านครับ" "ไม่ใช่ตอนนี้" "ครับ" ธีร์เป็นสมาชิกคนหนึ่งของพรรคและเป็นคนที่เห็นด้วยทุกอย่างกับนายใหญ่ เขายังรู้ด้วยว่าภพภูมิสามารถมองเห็นพลังงานลี้ลับได้ แต่ไม่รู้ว่าความสามารถนี้ได้หายไปเมื่อตอนเกิดอุบัติเหตุแล้ว "เฮ้ย..ตื่นได้แล้ว จะนอนไปถึงไหนกัน เดี๋ยวคืนนี้ก็นอนไม่หลับหรอก!" ฟีฟ่าถูกปลุกด้วยฝ่าเท้าของคนตัวสูง ร่างเล็กงัวเงียตื่นและลุกขึ้นมานั่งทั้งที่ยังเมาขี้ตาอยู่ แต่จมูกกลับได้กลิ่นหอมลอยเข้ามาในห้อง "กลิ่นอะไรน่ะ หอมจัง" ฟีฟ่าเดินตามหลังภูมิออกมาที่ชานบ้าน ตรงโต๊ะไม้สักทองตัวเดิมมีถุงใส่กล่องอาหารร้านดังวางอยู่จีงปรี่เข้าไปแกะดูด้วยความตื่นเต้น "นี่มันไก่ย่างซอสเกาหลีไม่ใช่เหรอ พี่ไปซื้อมาตอนไหนน่ะ" เด็กหิวโหยเปิดกล่องหยิบไก่ย่างชุ่มซอสขึ้นมากินโดยไม่รอให้เจ้าของอนุญาต ของเข้าปากแล้ว อยากได้คืนก็รอพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ไอ้ฟ่าจะไปเอาออกมาให้เอง "ตายอดตายอยากมาจากไหนกัน ไม่ต้องรีบกินก็ได้ เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอก" ร่างสูงว่าพลางทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ ใช้นิ้วเช็ดพวงแก้มที่เปื้อนซอสสีแดงออกให้ ทำเอาฟีฟ่าขนลุก อ้าปากค้างจนไก่ในปากหลุดออกมาจึงรีบเก็บใส่ปากไปอีกครั้ง เคี้ยวตุ้ย ๆ และกลืนลงคอ "ผีเข้าปะเนี่ย!" จู่ ๆ มาใจดีด้วยไอ้ฟ่าก็ตกใจหมดนะสิ เพิ่งคิดได้ว่าเอาของกินมาล่อแบบนี้ต้องมีเจตนาไม่ดีแน่ ฟีฟ่ารีบวางไก่ย่างในมือลงและยื่นคืนให้ทันที "อะ..เอาคืนไป" "ทำไม? หรือนายอยากกินข้าววัดมากกว่า" "มะ..ไม่ใช่สักหน่อย จู่ ๆ มาทำดีแบบนี้ พี่ต้องการอะไรก็พูดมาตรง ๆ เลย" ฟีฟ่าเริ่มไม่ไว้ใจคนตรงหน้าแล้ว แต่เมื่อถามมาภพภูมิจึงบอกจุดประสงค์ที่แท้จริงออกไป "คืนนี้ฉันอยากให้นายมาเป็นหมอนข้างให้ฉัน" "อะ..อะไรนะ หมอนข้างเหรอ?" ปกติหวงเนื้อหวงตัวจะตาย จู่ ๆ จะมาขอกอดนอนนี่นะ ฟีฟ่าไม่อยากเชื่อหูตัวเองเลย หรือว่าเขาจะฟังผิดไป "ที่จริงฉันก็ไม่ได้อยากจะแตะต้องตัวนายเท่าไรหรอกนะ ตัวก็ลื่น ๆ หยึย ๆ แค่คิดก็ขนลุก น่าขยะแขยงจะตาย" "นี่พี่หลอกด่าฟ่าเหรอ ถ้าขยะแขยงนักก็ไม่ร้องมาโดนตัวฟ่าสิ!" "ถ้าไม่ยอม คืนนี้และคืนต่อไปนายต้องไปนอนข้างล่าง และฉันจะไม่ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้นายด้วย" "ฮะ?!!" ให้นอนชานหน้าบ้านฟีฟ่าก็กลัวจนฉี่จะราดแล้ว ให้ไปนอนข้างล่างซึ่งก็คือตรงแคร่ใต้ต้นลีลาวดีมันน่ากลัวกว่าอีก แบบนี้ไอ้ฟ่าไม่หัวใจวายตายก่อนเหรอ "ก็ได้..ฟ่ายอมเป็นหมอนข้างก็ได้ แต่พี่ต้องสัญญาก่อนนะว่าจะไม่ทำอะไรฟ่า" "ฉันต่างหากที่ต้องเป็นคนพูดคำนั้นไม่ใช่นาย ลองนายคิดเกินเลยกับฉัน รับรองถูกฝังทั้งเป็นแน่!" ภพภูมิอยากทดสอบว่าเขาไม่ได้คิดไปเอง หลังจากได้กอดฟีฟ่าแม้จะแค่ไม่มีกี่ชั่วโมงเขากลับนอนหลับสนิท คืนนี้ตั้งใจจะนอนตั้งแต่หัวค่ำเพราะอีกฝ่ายต้องตื่นตีสี่เพื่อติดตามหลวงปู่ไปบิณฑบาต หลังเฝ้าฟีฟ่าอาบน้ำแล้วภพภูมิจึงอาบต่อ เดินขึ้นเรือนมาพร้อมกับเช็ดผมที่เปียกไปด้วย เห็นร่างเล็กกำลังปูที่นอนอยู่จึงเรียกให้ออกมาสวดมนต์และนั่งสมาธิก่อนนอน "นายไม่มีชุดที่มันดีกว่านี้แล้วหรือไง!" เขาละเกลียดไอ้กางเกงวิ่งตัวนี้ของไอ้ฟ่าจริง ๆ อีกฝ่ายก็ชอบใส่เสียเหลือเกิน "ก็มันใส่สบายนี่ แต่พี่ภูมิไม่ต้องห่วงนะ คราวนี้ฟ่าใส่กางเกงในเรียบร้อยแล้ว" ฟีฟ่าว่าพลางถกกางเกงขึ้นให้ดู "บอกว่าไม่ต้องถกไง!" เหนื่อยใจที่จะพูดภพภูมิจึงเขี่ยเบาะนั่งให้ฟีฟ่า คนตัวเล็กนั่งขัดสมาธิและสวดมนต์ตามคนนำจึงจะท่องได้ พอนั่งสมาธิเท่านั้นแหละไม่ถึงห้านาทีก็เกิดง่วงขึ้นมา "ละ..แล้วผมต้องนอนตรงไหนเหรอ?" ที่นอนสามฟุตแคบจะตาย แค่ภพภูมิคนเดียวก็เต็มแล้ว "ไปปิดไฟแล้วมานี่" ฟีฟ่าเดินไปปิดไฟที่หน้าประตูและรีบวิ่งกลับไปยังที่นอน คราวนี้ไม่ถามว่าให้นอนตรงไหน เขากระโดดทิ้งตัวทับร่างสูงที่นอนเหยียดยาวอยู่บนฟูกทันที ดีนะที่อีกฝ่ายรับไว้ได้ทันไม่อย่างนั้นมีคนจุกแน่ "เดินมาดี ๆ ไม่ได้หรือไง!" "ก็มันมืด ฟ่ากลัวนี่นา" "กลัวบ้าอะไร มานอนตรงนี้" มือหนายกร่างฟีฟ่าข้ามกายแกร่งมานอนด้านในเพราะกลัวไอ้ตัวแสบจะกลิ้งหล่นลงไป อ้อมแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อกอดคนตัวเล็กและดึงแผ่นหลังบางเข้ามาแนบชิด ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าไม่ถึงห้านาทีเปลือกตาของภพภูมิก็รู้สึกหนัก ความรู้สึกผ่อนคลายทำให้ร่างกายที่สะสมความเหนื่อยล้ามาแรมเดือนเกิดอยากพักขึ้นมาทันที เขานอนหลับก่อนฟีฟ่าซะอีก ครั้นพออีกฝ่ายยุกยิกเพราะความอึดอัดก็จะถูกท่อนแขนแกร่งกอดแน่นขึ้นทำให้สะโพกกลมกลึงเบียดไปกับลำท่อนที่อยู่ภายใต้กางเกงวอร์มขายาว "แอ๊ก!" กลางดึกฟีฟ่าต้องสะดุ้งตื่นเพราะถูกท่อนขาแกร่งยกพาดเข้าที่กลางลำตัว ซ้ำยังถูกกดศีรษะจนใบหน้าจมหายไปในอกแกร่ง ดิ้นอยู่นานกว่าจะหลุดออกได้ "นึกว่าจะขาดอากาศตายซะแล้ว ผู้ชายอะไร นมใหญ่ฉิบหาย" ก็ไม่อยากจะเปรียบเทียบหรอกนะ ฟีฟ่าคิดว่านมแฟนสาวคนล่าสุดของเขายังใหญ่สู้ของภูมิไม่ได้เลย แม้สัมผัสจะต่างกันก็ตาม ทั้งที่ภายในห้องมีเพียงพัดลมเก่า ๆ พัดส่ายไปมาพร้อมส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด แต่อากาศกลับเย็นยะเยือกจนฟีฟ่าขนลุก ตัวฟีฟ่าเองก็ไม่ได้พิศวาสไอ้คนนอนข้าง ๆ เท่าไรแต่เพราะร่างกายที่มีแต่กล้ามเนื้อมันทำให้อุ่น เขาจึงต้องนอนเบียดกายเข้าหา ติ๊ด ๆ ๆ เสียงมือถือที่ตั้งปลุกไว้ดังขึ้นตอนตีสี่ เปลือกตาสีอ่อนเปิดขึ้นช้า ๆ พลางเอื้อมมือไปหยิบเพื่อเอามาปิดเสียง จู่ ๆ ก็เกิดขยับตัวไม่ได้และรู้สึกหายใจไม่ออก คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน อยู่ที่นี่มาเป็นเดือนนี่เป็นครั้งแรกที่โดนผีอำ "หน็อย.." ไอ้ผีตัวไหนนะที่กล้ามาอำเขา ดูท่าจะไม่อยากไปผุดไปเกิดสินะ มือหนาจับเงาดำที่ทับอยู่บนกายแกร่งและเหวี่ยงไปที่มุมห้อง เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังก้องทำให้เขาต้องลุกขึ้นไปเปิดไฟเพื่อดูว่ามันคือผีตนไหน ยังไม่ทันได้สวดมนต์ขับไล่ทำไมมันถึงได้ร้องโหยหวนขนาดนี้ล่ะ ทันทีที่ภายในห้องสว่างขึ้น ภพภูมิถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ "ไอ้ฟ่า!" "ฮือออ..พี่ภูมิเหวี่ยงฟ่าทำไมอะ ฟ่าเจ็บนะ.." "ใครใช้ให้นายมานอนทับบนตัวฉันล่ะ ตัวก็ไม่ใช่เล็ก ๆ ฉันก็นึกว่าผีอำนะสิ!" ร่างสูงปรี่เข้าไปอุ้มฟีฟ่ากลับมานอนบนฟูกตามเดิม คนโดนทุ่มน้ำตาไหลพราก กว่าจะครบสองเดือนไอ้ฟ่าคงไม่ครบสามสิบสองแล้วมั้งตอนพิเศษ - เจย์ - ภาคินแสงสียามค่ำคืนบนถนนบันเทิงเป็นสิ่งที่คนอย่างผมโปรดปรานมากที่สุด แม้อายุจะยังไม่ถึงยี่สิบปี แต่ผมก็สามารถตะลอนหาความสนุกได้โดยอาศัยเส้นสายของภูวเดชเดชานอกจากหน้าตาที่หล่อเหลาเหนือมนุษย์แล้วด้วยความที่เป็นทายาทคนหนึ่งของตระกูลทำให้ผมเป็นที่หมายปองของนักเที่ยวราตรีอย่างล้นหลาม สเปคของผมไม่ใช่สาวสวยหรือน่ารักแต่เป็นหนุ่มหน้าหวาน ซึ่งผมไม่เคยขาดแคลนเลย แต่ที่โปรดปรานที่สุดก็คือคนสวยขาที่ร้อนแรงและพร้อมจะถ่างขาให้ผมตลอดเวลา"อื้มม..อ๊าา..คุณคิน แรง ๆ กระแทกผมให้แรงกว่านี้อีก อ๊าา.."ทุกครั้งหลังดีลกันในผับเรียบร้อยแล้วผมจะพาพวกเขาไปเริงรักต่อยังโรงแรมระดับห้าดาว ผมเปิดห้องที่มีราคาแพงที่สุดให้กับพวกเขาเพราะเสียงครางด้วยความเสียวซ่านจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ผมจนกระเจิง บ่อยครั้งที่ผมขยับโยกอย่างรุนแรงพวกหนุ่มหน้าหวานถึงกับเข่าทรุดไม่เป็นท่า และทุกครั้งหลังเสร็จกิจผมจะมีค่าตอบแทนให้จำนวนหนึ่งเพื่อป้องกันความยุ่งยากที่จะตามมาผมจะไม่ยุ่งกับคนเดิมซ้ำเป็นหนที่สองเว้นเสียแต่ว่าเด็ดจริง ๆ ดังนั้นจึงมีหลายคนไม่พอใจกับการถูกผมเอาและทิ้งในครั้งเดียว ฉะนั้นผมจึงค่อนข้างระวังตัวเองเป
ตอนพิเศษ - มังกร - ภีมเมื่ออายุครบสิบสองปีทายาทของภูวเดชเดชาจะต้องเลือกคนคุ้มกันขึ้นมาหนึ่งคน โดยคนผู้นี้จะอยู่ข้างกายเพื่อปกป้องผู้เป็นนาย ตราบลมหายใจสุดท้ายของชีวิตก๊อก ๆ"เข้ามา""ขออนุญาตครับ ท่านผู้นำเชิญคุณภีมให้ไปพบที่ห้องทำงานครับ" ร่างสูงก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อมผมปิดหนังสือในมือลงเมื่อคนของคุณพ่อเข้ามาภายในห้องก่อนลุกขึ้นและเดินนำเขาออกไปโดยไม่พูดอะไร เมื่อไปถึงก็พบคุณพ่อ อาธีร์ นั่งอยู่บนโซฟา ภายในห้องนั้นยังมีเด็กชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมอยู่อีกหนึ่งคน"คุณพ่อต้องการพบผม มีอะไรหรือเปล่าครับ"?"นั่งก่อนสิ"ผมเข้าไปนั่งข้างคุณพ่อ มือหนาวางลงบนศีรษะอย่างอ่อนโยนก่อนหันไปเรียกเด็กชายคนนั้นเพื่อมาแนะนำให้ผมรู้จัก"นี่คือมังกร เขาจะมาเป็นผู้คุ้มกันของลูก ลูกคิดว่าเป็นยังไงบ้างล่ะ"ผมมองสำรวจเด็กชายที่มีอายุเท่ากันตั้งแต่หัวจดเท้าก่อนลุกขึ้นประจันหน้า ส่วนสูงของเขาทำให้ผมถึงกับต้องขมวดคิ้ว คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมน้อยคนนักที่จะมีส่วนสูงมากกว่า ไหนจะกล้ามเนื้อที่โตเกินวัยและผิวที่คล้ำแดดนั่นอีก"ผมยังไงก็ได้ครับ" ผมตอบคุณพ่อไปมังกรไม่ใช่เด็กคนแรกที่คุณพ่อพามาให้ผมเลือก ก่อนห
ตอนพิเศษ - เรือนไม้สีขาว..พ่อยอดขวัญยอดดวงใจของพี่แก้ว พี่จะรอพ่ออยู่ ณ ที่แห่งนี้ ตลอดไป..สายลมพัดเอื่อยผ่านมาทางเรือนไม้สีขาว กระทบกระดิ่งลมเกิดเป็นเสียงกังวานฟังเพราะเสนาะหูเรือนไม้สีขาวหลังน้อยปลูกอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางแมกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะแก้วเจ้าจอมที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว ด้านหลังเป็นป่าไผ่ต้นสูงท่วมหัว ถัดออกไปมีบึงน้ำขนาดใหญ่ผ่านอยู่ไหลสายหนึ่งด้วยสุขภาพที่ไม่แข็งแรงทำให้ผมต้องมาอาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้เพียงลำพัง อากาศที่บริสุทธิ์จะช่วยให้อาการป่วยของผมไม่หนักหนาเหมือนตอนอยู่พระนครในแต่ละวันของผมผ่านไปอย่างเชื่องช้าและเงียบเหงานอกจากอ่านตำราและวาดภาพ การไปเดินเล่นริมบึงหลังป่าไผ่ยังไม่สามารถคลายความเบื่อหน่ายนี้ลงไปได้ทิวาผันผ่านล่วงเข้าสู่รัตติกาลแห่งวัน ณ ที่แห่งนี้ยังคงมีเพียงผมเช่นเดิม ผมเคยคิดอยู่บ่อยครั้งว่าจะต้องจบชีวิตอยู่ที่เรือนสีขาวแห่งนี้เพียงลำพัง แต่อย่างน้อยก่อนจะถึงวันนั้นขอให้ความอ้างว้างในใจผมได้เบาบางลงสักนิดก็ยังดีและในที่สุดคำขอก็เป็นจริง เมื่อวันหนึ่งสายลมได้พัดพาคนผู้นั้นเข้ามาในชีวิตของผม"เห็นเดินมาทางนี้นี่นา หายไปไหนแล้วล่ะ""ทางนั้
[23] คิดถึงนะ "มองอะไรอยู่ไอ้ฟ่า ไปกันได้แล้ว" เลิฟเรียกฟีฟ่าที่เอาแต่ยืนมองไปรอบกุฏิของหลวงปู่ ทั้งที่คนอื่น ๆ นั่งรออยู่ในรถกันหมดแล้ว หลังกราบลาหลวงปู่และได้รับพรมาชุดใหญ่ทุกคนจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ คิดว่าฟีฟ่าจะกระดี๊กระด๊ารีบไปให้ไว ที่ไหนได้กลับอิดออดไม่ยอมขึ้นรถสักที "จะไม่มาส่งจริง ๆ เหรอเนี่ย" ฟีฟ่าเริ่มถอดใจเมื่อไม่เห็นเงาหัวของภพภูมิโผล่ออกมาให้เห็น จนได้ยินเสียงเพื่อนเลิฟตะโกนเรียกอีกครั้งจึงรีบเดินไปขึ้นรถ เพราะหากมีครั้งที่สามจะต้องเป็นเสียงเฮียยูโรแน่ "ไอ้คนใจดำ จำไว้เลย ถ้ามาง้อทีหลังไอ้ฟ่าจะไม่ให้ยกโทษให้แน่ คอยดูสิ!!" เขาต่อว่าภพภูมิก่อนมุดตัวเข้าไปในรถและยังแช่งให้คนพี่นอนไม่หลับ ตั้งใจว่าต่อไปจะไม่เป็นหมอนข้างให้อีกแล้ว ยูโรขับรถพาทุกคนมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ ตลอดทางราบรื่นไร้อุปสรรค ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านสวนบรรยากาศร่มรื่นที่มีพื้นที่เล็ก ๆ ไว้สำหรับปลูกต้นไม้ขาย ฟีฟ่าฝากให้ป๊าช่วยปลูกต้นไผ่ที่ได้รับมาไว้ที่หลังบ้าน ซึ่งจุดนั้นตรงกับระเบียงห้องของยูโรพอดี ราวกับถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า แม้ไม่ชอบใจแต่ยูโรก็ไม่ได้ขัดอะไร "วันนี้ไม่ออกไปสมัครงานเหรอ
[22] ลาก่อนเรือนไม้สีขาว ภพภูมิยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของกลุ่มมือปืนที่ต่างกำลังจดจ่อวัตถุสีดำมาทางเขา มือหนากำแน่นจนสั่นด้วยความเจ็บใจที่มองไม่เห็นหนทางที่จะช่วยฟีฟ่าเพราะตอนนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย "เจอกันชาติหน้านะครับคุณภพ ป่านนี้คุณพ่อคุณคงรอจนเมื่อยแล้ว" รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏขึ้นบนใบหน้าของธีร์ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องกระหน่ำยิงคนตรงหน้า เมื่อตอนรถตกเหวไปพร้อมกับอดีตนายใหญ่ยังอุตส่าห์รอดชีวิตมาได้ คราวนี้ถ้าไม่ตายก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว "อย่ายิงนะ..พี่ภูมิ!!" ฟีฟ่าตะโกนห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว สมุนของธีร์ลั่นไกแทบจะพร้อมกัน โดยมีเป้านิ่งคือภพภูมิ ปัง! ปัง! ปัง! เอี๊ยดดดดด!! เสียงปืนรัวขึ้นดังจนหูแทบดับแต่ช้ากว่ารถยนต์ติดกระจกกันกระสุนที่ขับพุ่งเข้ามาขวางด้านหน้าของภพภูมิเอาไว้ ร่างสูงย่อตัวลงเพื่อหลบคมกระสุนที่ยิงเลยหลังคารถมาได้อย่างหวุดหวิด "รอพี่นานมั้ยจ๊ะที่รัก" คนในรถลดกระจกลงพลางยักคิ้วข้างหนึ่งทักทายภพภูมิ มือหนาดันแว่นตากันแดดขึ้นพลางขยิบตาให้ "เงียบปากไปเลยไอ้เท็นมะ แล้วไอ้เจย์ล่ะ!" "ไอ้เจย์ไปจัดการข้างบนแล้ว เห็นมันว่าจะไปดูหน้าเมียมันด้วย ช่วงนี้ได้ข่าวว่าติดเ
[21] คนบงการ"ผมขอเสนอให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนต่อไป"เสียงทุ้มพูดชัดเจนทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ธีร์แสดงท่าทีลำบากใจเมื่อถูกคะยั้นคะยอให้ยอมรับ ฝ่ายที่สนับสนุนธีร์ต่างแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าเขาเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ที่สุดทางด้านฝ่ายที่สนับสนุนอดีตนายใหญ่ต่างหันมองกันด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าเสนอชื่อธีร์ให้ขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไป แต่เสียงของผู้ที่สนับสนุนเขาก็ยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง"ผมเห็นด้วยที่จะให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนใหม่""ผมก็เหมือนกัน""ทุกท่านกรุณาคิดให้ดี ๆ ก่อนนะครับ ผมคิดว่าตัวผมไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอกนะครับ" ธีร์ลุกขึ้นยืนและบอกทุกคนในห้องอย่างถ่อมตนในขณะที่หลายคนพยายามผลักดันให้เขาขึ้นรับตำแหน่งให้ได้"คุณธีร์ติดตามอดีตนายใหญ่มานาน ฝีไม้ลายมือย่อมดีกว่าพวกเด็กเมื่อวานซืนเยอะ เพื่อความก้าวหน้าของพรรค ผมขอสนับสนุนคุณธีร์อีกเสียงครับ""ใช่แล้ว ถ้าไม่ใช่คุณธีร์ก็ไม่มีใครเหมาะสมแล้ว"ฝ่ายที่เชียร์ธีร์ต่างส่งเสียงสนับสนุนเขาเต็มที่ เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เห็นด้วยแล้วมีจำนวนมากกว่าทำให้ฝ่ายสนับสนุนอดีตนายใหญ่ต้องนั่งเงียบ อยากจะลุกจากเก้าอี้แต่ก็อยากรู้ข้อความ