เพราะไม่อยากตายก่อนเบญจเพสทำให้คนที่กลัวผีจนขี้ขึ้นหัวอย่างฟีฟ่าต้องไปอยู่วัด คิดว่าจะได้นอนกุฏิติดแอร์ที่ไหนได้กลับถูกส่งไปยังบ้านร้างหลังป่าช้า ซ้ำคนที่ทำพิธีต่อชะตาดันเป็นคนที่เขาพรากพรหมจรรย์มาอีก
더 보기[1]
บทนำ ณ สถานบันเทิงที่ลักลอบเปิดให้บริการจนถึงเช้า ภายในเต็มไปด้วยแสงสีและเสียงเพลงดังกระหึ่มจนต้องแหกปากตะโกนคุยกัน กลิ่นเหล้าและควันบุหรี่ลอยคละคลุ้ง แต่เหล่าบรรดานักท่องราตรียังคงสนุกกับการดื่มกินจนลืมเวลา รวมถึงฟีฟ่าที่อยู่ในอาการเมามายจนแทบจำชื่อตัวเองไม่ได้ เขากำลังวาดลีลาอยู่บนฟลอร์ด้วยท่าทางที่ดูจะแรดเกินชายไปหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรักนวลสงวนตัวไม่ยอมให้ผู้ชายที่ไหนลากไปง่าย ๆ ฟีฟ่า ชายหนุ่มผู้มีอายุย่างจะเข้าสู่เบญจเพสในไม่ช้า คิดว่าตัวเองจะรอดจากอาถรรพ์แล้ว ที่ไหนได้ พอยิ่งใกล้วันเกิดความซวยก็ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทั้งตกงาน รถจอดอยู่เฉย ๆ ก็ถูกชนจนพังยับ ไหนจะถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกเงินไปเป็นแสนอีก ที่หนักสุดคือถูกแฟนสาวที่คบมาครึ่งปีบอกเลิกด้วยเหตุผลที่ว่าเข้ากันไม่ได้ มันไม่ได้ตรงไหนวะ! ก็ตอนเอาโคยเสียบเข้าเสียบออกหล่อนยังร้องครวญครางว่าเสียวอย่างกับจะขาดใจตายอยู่เลย แต่นั่นไม่น่าเจ็บใจเท่าตอนไปหล่อนยังขโมยของมีค่าของเขาไปอีก เจอแบบนี้จะไม่เจ็บยังไงไหว ยิ่งคิดก็ยิ่งคลุ้มคลั่งจากท่าเต้นยั่วยวนก็กลายเป็นเต้นยั่วตีนไปเสียแล้ว หลายครั้งที่ฟีฟ่าเหยียบเข้ากับเท้าของคนที่เต้นอยู่รอบตัว ด้วยหน้าตาของเขาทำให้ไม่มีใครโกรธเคือง ยกเว้น..ไอ้คนนี้ โครม!! "เฮ้ย! เต้นเหี้ยอะไรวะ! คนตัวเบ้อเริ่มมองไม่เห็นหรือไง" ฟีฟ่าหนุ่มร่างตะมุตะมิแหงนหน้าขึ้นมองไอ้สองตัวตรงหน้าด้วยสายตาที่พร่าเลือน ด้วยความเมาทำให้สติที่เหลืออยู่น้อยนิดมองเห็นช้างตัวเท่ามด มองใบหน้าของทั้งสองไม่ชัด รู้แต่ว่านอกจากจะมีส่วนสูงมากกว่าแล้วตัวยังหนาอย่างกับวัวกับควายอีก "อ้าววว..โคนเองหราาา..นึกว่าชนโดนควายที่ไหนซะอีกเห็นหนังหนา ๆ " "มึงว่าไงน่ะ?!!" มือใหญ่กระชากคอเสื้อฟีฟ่าจนปลายเท้าลอยขึ้นจากพื้น ไอ้คนเมาไม่หยุดปากดียังไปแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขาอีก ใครจะทนไหว ชายหนุ่มร่างกำยำเตรียมจับไอ้ตัวกวนตีนทุ่มลงกับพื้น ตั้งใจจะกระทืบให้หายเมา ดีที่ว่าเพื่อนเลิฟเข้ามาขอโทษและรีบลากตัวออกไปก่อน "ขอโทษครับพี่เพื่อนผมมันเมา มันไม่ตั้งใจ อย่าไปถือสามันเลยนะครับ" "ไม่ได้ตั้งใจห่าอะไร! เต้นเหยียบตีนเพื่อนกูตั้งหลายทีมาบอกไม่ตั้งใจ นี่ถ้าเพื่อนกูไม่ใส่รองเท้าป่านนี้หัวแม่โป้งตีนมันหลุดไปแล้ว!!" "มึงก็พูดเกินไปไอ้เท็น" ชายหนุ่มบอกกับเพื่อนที่มีรูปร่างไม่ต่างกันก่อนจะหันไปพูดกับเพื่อนของฟีฟ่าว่าให้เอาตัวมันไปไกล ๆ ก่อนที่เพื่อนของเขาจะทนไม่ไหว "ครับพี่ ผมจะรีบพามันไปให้พ้นหน้าพวกพี่เดี๋ยวนี้เลยครับ" "ปายหนายย..กูม่ายปายย.." "หุบปากแล้วตามกูมาดี ๆ ไอ้ฟ่า" เพื่อนเลิฟลากตัวไอ้ขี้เมาออกจากกลุ่มของชายหนุ่ม เห็นอีกฝ่ายกำหมัดแน่นด้วยความโกรธก็ขนลุกขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ถ้าช้าอีกนิดไอ้ฟ่าได้ตายคาตีนจริง ๆ แน่ เพื่อนเลิฟพาฟีฟ่าออกมายังลานจอดรถ ตั้งใจจะเอามันไปส่งบ้าน ตอนกำลังยัดตัวเข้ารถฟีฟ่าก็เกิดปวดฉี่ขึ้นมา เขาเดินโซซัดโซเซไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่ไม่ไกลกัน เลือกคันที่ถูกใจแล้วรูดซิปกางเกงลงก่อนแอ่นเอวเข้าหาล้อ "ไอ้ฟ่า! มึงไม่ใช่หมานะ มึงจะไปเยี่ยวใส่ล้อรถคนอื่นแบบนั้นไม่ได้นะโว๊ย!!" ไม่ทันเสียแล้ว ฟีฟ่าแอ่นเอวปล่อยสายน้ำสีเหลืองใส่ล้อรถจนชุ่ม ยังไม่ทันสุดเจ้าของรถสปอร์ตคันหรูก็เดินมาพอดี เพื่อนเลิฟเกิดขาแข็งขึ้นมากะทันหันแต่ก็รวบรวมแรงที่เหลือไปหลบหลังต้นไม้จนได้ ยืนหน้าซีดเป็นไก่ต้มมองคู่กรณีเดินอาด ๆ มาที่รถ "ซวยแล้วว..ไอ้ฟ่าเอ๊ย.." "มึงทำอะไรรถกู!" เสียงทุ้มถามขึ้น พอเห็นเต็มตาว่าแมกซ์พร้อมยางราคาหลักแสนของตนถูกคนฉี่ใส่ทำเอาเส้นเลือดบนใบหน้าถึงกับเต้นตุบ ๆ ปรี่เข้าไปใกล้หมายกระชากตัวโยนออก ที่ไหนได้เจ้ากรรมนายเวรที่มาในรูปของขี้เมาหันกลับมามองและเดินแอ่นเอวเข้าไปหาทั้งที่ยังฉี่ไม่สุด "อารัยยย..คนจาาฉี่ อย่ามายุ่งน้าาา.." "เฮ้ย! อย่าเข้ามานะโว๊ย! มันกระเด็นมาโดนกูแล้วเห็นมั้ย สกปรกฉิบหาย!" ร่างสูงกระโดดหลบสายน้ำที่พุ่งมาแทบไม่ทัน ปากก็ไล่คนหน้าด้านไปด้วย ฝ่ายหนุ่มวัยใกล้เบญจเพสหน้าเบ้เมื่อโดนไล่ จึงแกล้งสะบัดเจ้าลูกชายตัวน้อยใส่ร่างสูงก่อนเก็บมันเข้าที่เดิมหลังฉี่สุดแล้ว นึกโมโหที่อีกฝ่ายดัดจริตทำเป็นรังเกียจ 'ถ้ากับผู้หญิงไม่โอเค ทำไมมึงไม่ลองกับผู้ชายดูวะ เขาว่ากันว่าไอ้พวกกล้ามแน่น ๆ ส่วนใหญ่เป็นรับทั้งนั้น' น้ำเสียงของเพื่อนเลิฟแว่วขึ้นมาในโสตประสาทของฟีฟ่า เมื่อตอนหัวค่ำเขาเพิ่งเริ่มดื่มและยังไม่เมา จำได้ว่าตอนที่ไอ้เพื่อนเลิฟกำลังปลอบใจมันได้ยัดของบางอย่างใส่มือมาให้ ตอนนั้นเขาไม่ได้สนใจจึงเก็บใส่กระเป๋ากางเกงไว้ แต่ตอนนี้ชักเริ่มสนขึ้นมาแล้วสิ 'กูมีของดีให้มึงด้วย ใช้แค่นิดเดียว รับรองร่อนเอวกันทั้งคืน' ดวงตาเรียวจับจ้องร่างสูงตรงหน้าพลางแสยะยิ้ม ไอ้หมอนี่กล้ามใหญ่เหมือนที่ไอ้เพื่อนเลิฟบอกเลย คงเป็นอย่างว่าแน่ ๆ คิดแล้วก็ล้วงเข้าในกระเป๋ากางเกง กำของที่ได้มาเอาไว้ "ยะ..ยิ้มอะไรวะ น่าขนลุกฉิบหาย ถ้าไม่อยากโดนต่อยก็รีบไสหัวไปได้แล้ว!" ด้วยความเมาผสมกับความหมั่นไส้ แทนที่จะกลัวและรีบหนีไปไอ้ฟ่ากลับกระโจนเข้าหาร่างสูงและกระโดดล็อกคออีกฝ่ายไว้ ทั้งยังใช้สองขาเกาะเกี่ยวเอวแกร่งไว้แน่น สะบัดยังไงก็ไม่หลุด "จะตัวสูงแข่งกับเปรตไปไหนวะ" ฟีฟ่าบ่นพึมพำเมื่ออีกฝ่ายพยายามดึงตัวเขาออก "มึงจะทำอะไร ปล่อยกูนะไอ้โรคจิต!" "อย่าดิ้นเซ่ เดวกูก็หล่นหรอก" "เรื่องของมึงสิ อุ๊บ!" มือเล็กบีบจมูกโด่งไว้แน่นจนอีกฝ่ายหายใจไม่ออกต้องอ้าปากเพื่อหายใจแทน เขาฉวยโอกาสนี้กรอกยาใส่ปากลงไปทั้งหมด จำได้ว่าเพื่อนเลิฟบอกว่ายารุ่นนี้ออกฤทธิ์เร็วเสียด้วยสิ "ซวยซ้ำซวยซ้อนจริง ๆ ไอ้ฟ่าเอ๊ย.." ทางด้านเพื่อนเลิฟได้แต่ยืนเอามือปิดปากระวังไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกไป ดวงตาเล็กภายใต้แว่นตากรอบสีเงินมองฟีฟ่าถูกจับยัดใส่รถสปอร์ตก่อนชายฉกรรจ์ที่โดนยาจะขับออกจากสถานบันเทิงไปอย่างรวดเร็ว หัวใจดวงน้อยเต้นระทึกทำได้แค่ภาวนาให้เพื่อนโชคดี เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยมาตามเก็บศพ เอ๊ย..ตามหามันอีกทีละกัน "ไอ้ภพนะไอ้ภพ บอกให้รอแป๊บนึง แม่ง..เสือกหนีกลับก่อนซะได้" ขณะจะกลับไปที่รถ เพื่อนเลิฟบังเอิญหันไปเห็นคู่กรณีอีกคนของฟีฟ่ากำลังเดินมาทางเขา จึงรีบก้มตัวเดินแอบตามซอกกลับไปที่รถเพราะกลัวอีกฝ่ายเห็น จนเข้าไปนั่งข้างในได้อย่างปลอดภัย ซะที่ไหน.. "จะรีบไปไหนวะ..ถ้าว่างก็ช่วยไปส่งกูก่อนสิ!" มือหนาจับประตูรถเอาไว้ก่อนจะปิด โน้มตัวลงมาพูดใกล้ ๆ น้ำเสียงขอความช่วยเหลือโคตรจะกดดัน เพื่อนเลิฟอยากจะปฏิเสธใจแทบขาดแต่ก็ไม่กล้า พยายามดึงประตูสุดแรงแต่อีกฝ่ายยื้อเอาไว้เพียงมือเดียว ดวงตาเล็กภายใต้กรอบแว่นสีเงินมองหลังมือหนาที่มีขนหยิกหยอยไล่ขึ้นไปจนถึงท่อนแขนแกร่ง ขนรกขนาดนี้ยังอุตส่าห์ไปสักอีกเนอะ ไล่มองสูงขึ้นจนไปสบเข้ากับดวงตาคู่คมภายใต้รอยยิ้มเหี้ยม เพื่อนเลิฟถึงกับหน้าถอดสี แข้งขาอ่อนจนไม่มีแรงสตาร์ทรถ "สะ..ส่งที่ไหนหรือครับพี่.." แล้วเสียงมึงจะสั่นทำไมวะไอ้เลิฟตอนพิเศษ - เจย์ - ภาคินแสงสียามค่ำคืนบนถนนบันเทิงเป็นสิ่งที่คนอย่างผมโปรดปรานมากที่สุด แม้อายุจะยังไม่ถึงยี่สิบปี แต่ผมก็สามารถตะลอนหาความสนุกได้โดยอาศัยเส้นสายของภูวเดชเดชานอกจากหน้าตาที่หล่อเหลาเหนือมนุษย์แล้วด้วยความที่เป็นทายาทคนหนึ่งของตระกูลทำให้ผมเป็นที่หมายปองของนักเที่ยวราตรีอย่างล้นหลาม สเปคของผมไม่ใช่สาวสวยหรือน่ารักแต่เป็นหนุ่มหน้าหวาน ซึ่งผมไม่เคยขาดแคลนเลย แต่ที่โปรดปรานที่สุดก็คือคนสวยขาที่ร้อนแรงและพร้อมจะถ่างขาให้ผมตลอดเวลา"อื้มม..อ๊าา..คุณคิน แรง ๆ กระแทกผมให้แรงกว่านี้อีก อ๊าา.."ทุกครั้งหลังดีลกันในผับเรียบร้อยแล้วผมจะพาพวกเขาไปเริงรักต่อยังโรงแรมระดับห้าดาว ผมเปิดห้องที่มีราคาแพงที่สุดให้กับพวกเขาเพราะเสียงครางด้วยความเสียวซ่านจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ผมจนกระเจิง บ่อยครั้งที่ผมขยับโยกอย่างรุนแรงพวกหนุ่มหน้าหวานถึงกับเข่าทรุดไม่เป็นท่า และทุกครั้งหลังเสร็จกิจผมจะมีค่าตอบแทนให้จำนวนหนึ่งเพื่อป้องกันความยุ่งยากที่จะตามมาผมจะไม่ยุ่งกับคนเดิมซ้ำเป็นหนที่สองเว้นเสียแต่ว่าเด็ดจริง ๆ ดังนั้นจึงมีหลายคนไม่พอใจกับการถูกผมเอาและทิ้งในครั้งเดียว ฉะนั้นผมจึงค่อนข้างระวังตัวเองเป
ตอนพิเศษ - มังกร - ภีมเมื่ออายุครบสิบสองปีทายาทของภูวเดชเดชาจะต้องเลือกคนคุ้มกันขึ้นมาหนึ่งคน โดยคนผู้นี้จะอยู่ข้างกายเพื่อปกป้องผู้เป็นนาย ตราบลมหายใจสุดท้ายของชีวิตก๊อก ๆ"เข้ามา""ขออนุญาตครับ ท่านผู้นำเชิญคุณภีมให้ไปพบที่ห้องทำงานครับ" ร่างสูงก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อมผมปิดหนังสือในมือลงเมื่อคนของคุณพ่อเข้ามาภายในห้องก่อนลุกขึ้นและเดินนำเขาออกไปโดยไม่พูดอะไร เมื่อไปถึงก็พบคุณพ่อ อาธีร์ นั่งอยู่บนโซฟา ภายในห้องนั้นยังมีเด็กชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมอยู่อีกหนึ่งคน"คุณพ่อต้องการพบผม มีอะไรหรือเปล่าครับ"?"นั่งก่อนสิ"ผมเข้าไปนั่งข้างคุณพ่อ มือหนาวางลงบนศีรษะอย่างอ่อนโยนก่อนหันไปเรียกเด็กชายคนนั้นเพื่อมาแนะนำให้ผมรู้จัก"นี่คือมังกร เขาจะมาเป็นผู้คุ้มกันของลูก ลูกคิดว่าเป็นยังไงบ้างล่ะ"ผมมองสำรวจเด็กชายที่มีอายุเท่ากันตั้งแต่หัวจดเท้าก่อนลุกขึ้นประจันหน้า ส่วนสูงของเขาทำให้ผมถึงกับต้องขมวดคิ้ว คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมน้อยคนนักที่จะมีส่วนสูงมากกว่า ไหนจะกล้ามเนื้อที่โตเกินวัยและผิวที่คล้ำแดดนั่นอีก"ผมยังไงก็ได้ครับ" ผมตอบคุณพ่อไปมังกรไม่ใช่เด็กคนแรกที่คุณพ่อพามาให้ผมเลือก ก่อนห
ตอนพิเศษ - เรือนไม้สีขาว..พ่อยอดขวัญยอดดวงใจของพี่แก้ว พี่จะรอพ่ออยู่ ณ ที่แห่งนี้ ตลอดไป..สายลมพัดเอื่อยผ่านมาทางเรือนไม้สีขาว กระทบกระดิ่งลมเกิดเป็นเสียงกังวานฟังเพราะเสนาะหูเรือนไม้สีขาวหลังน้อยปลูกอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางแมกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะแก้วเจ้าจอมที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว ด้านหลังเป็นป่าไผ่ต้นสูงท่วมหัว ถัดออกไปมีบึงน้ำขนาดใหญ่ผ่านอยู่ไหลสายหนึ่งด้วยสุขภาพที่ไม่แข็งแรงทำให้ผมต้องมาอาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้เพียงลำพัง อากาศที่บริสุทธิ์จะช่วยให้อาการป่วยของผมไม่หนักหนาเหมือนตอนอยู่พระนครในแต่ละวันของผมผ่านไปอย่างเชื่องช้าและเงียบเหงานอกจากอ่านตำราและวาดภาพ การไปเดินเล่นริมบึงหลังป่าไผ่ยังไม่สามารถคลายความเบื่อหน่ายนี้ลงไปได้ทิวาผันผ่านล่วงเข้าสู่รัตติกาลแห่งวัน ณ ที่แห่งนี้ยังคงมีเพียงผมเช่นเดิม ผมเคยคิดอยู่บ่อยครั้งว่าจะต้องจบชีวิตอยู่ที่เรือนสีขาวแห่งนี้เพียงลำพัง แต่อย่างน้อยก่อนจะถึงวันนั้นขอให้ความอ้างว้างในใจผมได้เบาบางลงสักนิดก็ยังดีและในที่สุดคำขอก็เป็นจริง เมื่อวันหนึ่งสายลมได้พัดพาคนผู้นั้นเข้ามาในชีวิตของผม"เห็นเดินมาทางนี้นี่นา หายไปไหนแล้วล่ะ""ทางนั้
[23] คิดถึงนะ "มองอะไรอยู่ไอ้ฟ่า ไปกันได้แล้ว" เลิฟเรียกฟีฟ่าที่เอาแต่ยืนมองไปรอบกุฏิของหลวงปู่ ทั้งที่คนอื่น ๆ นั่งรออยู่ในรถกันหมดแล้ว หลังกราบลาหลวงปู่และได้รับพรมาชุดใหญ่ทุกคนจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ คิดว่าฟีฟ่าจะกระดี๊กระด๊ารีบไปให้ไว ที่ไหนได้กลับอิดออดไม่ยอมขึ้นรถสักที "จะไม่มาส่งจริง ๆ เหรอเนี่ย" ฟีฟ่าเริ่มถอดใจเมื่อไม่เห็นเงาหัวของภพภูมิโผล่ออกมาให้เห็น จนได้ยินเสียงเพื่อนเลิฟตะโกนเรียกอีกครั้งจึงรีบเดินไปขึ้นรถ เพราะหากมีครั้งที่สามจะต้องเป็นเสียงเฮียยูโรแน่ "ไอ้คนใจดำ จำไว้เลย ถ้ามาง้อทีหลังไอ้ฟ่าจะไม่ให้ยกโทษให้แน่ คอยดูสิ!!" เขาต่อว่าภพภูมิก่อนมุดตัวเข้าไปในรถและยังแช่งให้คนพี่นอนไม่หลับ ตั้งใจว่าต่อไปจะไม่เป็นหมอนข้างให้อีกแล้ว ยูโรขับรถพาทุกคนมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ ตลอดทางราบรื่นไร้อุปสรรค ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านสวนบรรยากาศร่มรื่นที่มีพื้นที่เล็ก ๆ ไว้สำหรับปลูกต้นไม้ขาย ฟีฟ่าฝากให้ป๊าช่วยปลูกต้นไผ่ที่ได้รับมาไว้ที่หลังบ้าน ซึ่งจุดนั้นตรงกับระเบียงห้องของยูโรพอดี ราวกับถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า แม้ไม่ชอบใจแต่ยูโรก็ไม่ได้ขัดอะไร "วันนี้ไม่ออกไปสมัครงานเหรอ
[22] ลาก่อนเรือนไม้สีขาว ภพภูมิยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของกลุ่มมือปืนที่ต่างกำลังจดจ่อวัตถุสีดำมาทางเขา มือหนากำแน่นจนสั่นด้วยความเจ็บใจที่มองไม่เห็นหนทางที่จะช่วยฟีฟ่าเพราะตอนนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย "เจอกันชาติหน้านะครับคุณภพ ป่านนี้คุณพ่อคุณคงรอจนเมื่อยแล้ว" รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏขึ้นบนใบหน้าของธีร์ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องกระหน่ำยิงคนตรงหน้า เมื่อตอนรถตกเหวไปพร้อมกับอดีตนายใหญ่ยังอุตส่าห์รอดชีวิตมาได้ คราวนี้ถ้าไม่ตายก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว "อย่ายิงนะ..พี่ภูมิ!!" ฟีฟ่าตะโกนห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว สมุนของธีร์ลั่นไกแทบจะพร้อมกัน โดยมีเป้านิ่งคือภพภูมิ ปัง! ปัง! ปัง! เอี๊ยดดดดด!! เสียงปืนรัวขึ้นดังจนหูแทบดับแต่ช้ากว่ารถยนต์ติดกระจกกันกระสุนที่ขับพุ่งเข้ามาขวางด้านหน้าของภพภูมิเอาไว้ ร่างสูงย่อตัวลงเพื่อหลบคมกระสุนที่ยิงเลยหลังคารถมาได้อย่างหวุดหวิด "รอพี่นานมั้ยจ๊ะที่รัก" คนในรถลดกระจกลงพลางยักคิ้วข้างหนึ่งทักทายภพภูมิ มือหนาดันแว่นตากันแดดขึ้นพลางขยิบตาให้ "เงียบปากไปเลยไอ้เท็นมะ แล้วไอ้เจย์ล่ะ!" "ไอ้เจย์ไปจัดการข้างบนแล้ว เห็นมันว่าจะไปดูหน้าเมียมันด้วย ช่วงนี้ได้ข่าวว่าติดเ
[21] คนบงการ"ผมขอเสนอให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนต่อไป"เสียงทุ้มพูดชัดเจนทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ธีร์แสดงท่าทีลำบากใจเมื่อถูกคะยั้นคะยอให้ยอมรับ ฝ่ายที่สนับสนุนธีร์ต่างแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าเขาเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ที่สุดทางด้านฝ่ายที่สนับสนุนอดีตนายใหญ่ต่างหันมองกันด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าเสนอชื่อธีร์ให้ขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไป แต่เสียงของผู้ที่สนับสนุนเขาก็ยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง"ผมเห็นด้วยที่จะให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนใหม่""ผมก็เหมือนกัน""ทุกท่านกรุณาคิดให้ดี ๆ ก่อนนะครับ ผมคิดว่าตัวผมไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอกนะครับ" ธีร์ลุกขึ้นยืนและบอกทุกคนในห้องอย่างถ่อมตนในขณะที่หลายคนพยายามผลักดันให้เขาขึ้นรับตำแหน่งให้ได้"คุณธีร์ติดตามอดีตนายใหญ่มานาน ฝีไม้ลายมือย่อมดีกว่าพวกเด็กเมื่อวานซืนเยอะ เพื่อความก้าวหน้าของพรรค ผมขอสนับสนุนคุณธีร์อีกเสียงครับ""ใช่แล้ว ถ้าไม่ใช่คุณธีร์ก็ไม่มีใครเหมาะสมแล้ว"ฝ่ายที่เชียร์ธีร์ต่างส่งเสียงสนับสนุนเขาเต็มที่ เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เห็นด้วยแล้วมีจำนวนมากกว่าทำให้ฝ่ายสนับสนุนอดีตนายใหญ่ต้องนั่งเงียบ อยากจะลุกจากเก้าอี้แต่ก็อยากรู้ข้อความ
[20] ผู้นำคนใหม่เช้าวันใหม่มาถึงนานแล้วแต่ทั้งภพภูมิและฟีฟ่าก็ยังไม่ลุกจากเตียง จนเมื่อเวลาล่วงไปใกล้เที่ยงฟีฟ่าจึงได้ลืมตาตื่นเพราะท้องร้องเสียงดังจนนอนไม่หลับ ตั้งใจจะลงไปหาอะไรกินข้างล่าง พอขยับตัวเท่านั้นแหละความปวดร้าวก็แล่นไปทั้งร่าง"อ๊ะ..โอ๊ย!' ทำไมปวดไปทั้งตัวแบบนี้ล่ะ?"มือเล็กจับลงที่สะโพก ครั้นพอเหลือบไปเห็นท่อนแขนแกร่งพาดอยู่ที่เอวก็ขมวดคิ้วแน่น สงสัยว่าภพภูมิกลับบ้านมาตอนไหนและตัวเองขึ้นมานอนบนห้องได้ยังไง ความทรงจำสุดท้ายจำได้ว่ากำลังดื่มกินอยู่กับลูกน้องของภพภูมิอยู่ที่หน้าหอพักนี่นา"ฉิบหายแล้ว"ฟีฟ่าทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานอีกครั้งและจำทุกอย่างได้ทั้งหมด ตายแน่ไอ้ฟ่าคราวนี้เอ็งไม่รอดแน่ ๆ คิดพลางยกแขนแกร่งที่ทับอยู่ออกและค่อย ๆ ย่องลงจากเตียงก่อนถูกถีบลงมา"จะไปไหน!""พี่ภูมิฟ่าขอโทษ ฟ่าไม่ได้ตั้งใจ"ฟีฟ่าทิ้งตัวคุกเข่าลงกับพื้นเมื่อได้ยินเสียงทุ้ม ก้มศีรษะลงเพื่อขอโทษด้วยความสำนึกผิด เผื่อว่าโทษหนักจะเบาบางลง นิดหน่อยก็ยังดี"ลุกขึ้น ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรสักคำ"มือหนาฉุดฟีฟ่าให้ยืนขึ้นและเปลี่ยนเป็นอุ้มในท่าเจ้าสาว ไม่ต่อว่าอะไรสักคำทำเอาระแวงไปหมดจู่ ๆ มาท
[19] แมวไม่อยู่หนู(ฟ่า)ร่าเริงผัว เอ๊ย! แมวไม่อยู่หนูฟ่าก็ร่าเริงเลยสิคะหลังรถของภพภูมิขับพ้นประตูรั้วออกไปแล้วฟีฟ่าก็ขอให้คิรินพาไปที่สระว่ายน้ำ ถึงเขาจะไม่ชอบออกกำลังกายแต่การว่ายน้ำก็เป็นกีฬาที่เขาโปรดปรานที่สุด ฟีฟ่าว่ายน้ำมาตั้งแต่เรียนชั้นประถมทำให้มีกล้ามเนื้อที่สวยงาม ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นต่างตัวสูงกันหมด มีเพียงเขาที่สูงหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดจุดหนึ่งเซนติเมตรเท่านั้น"มึงเป็นใครวะ นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่น ถ้าไม่อยากตายก็ออกไป!!"พอมาถึงสระว่ายน้ำชายฉกรรจ์ที่อยู่ด้านหน้าก็เข้ามาขวางไม่ให้ฟีฟ่าเข้าไปด้านใน และยังมองด้วยสายตาน่ากลัว ดีที่คิรินตามมาถึงพอดี"คุณฟีฟ่าเป็นแขกของคุณภพ ถ้าพวกแกไม่อยากโดนทำโทษก็หลบไป!" คิรินที่แสนจะสุภาพพออยู่ต่อหน้าคนพวกนี้ก็เปลี่ยนไปราวคนละคน น้ำเสียงและบุคลิกน่ายำเกรงทำให้ใบหน้าราวนายเอกซีรีส์วายดูสมชายขึ้น"ขอโทษครับคุณคิริน ขอโทษครับคุณฟีฟ่า เชิญด้านในเลยครับ"ชายฉกรรจ์ร่างกำยำรีบก้มศีรษะขอโทษฟีฟ่า นอกจากผู้เป็นนายแล้วคนสนิทของพวกเขาก็มีฐานะที่พิเศษกว่าคนอื่น ๆ ภายในพรรคเช่นกันเป็นคนพิเศษนี่มันดีอย่างนี้นี่เอง ฟีฟ่ายิ้มเหนือเดินนำหน้าคิรินเข้าไปด้านใ
[18] ไล่ล่ารถยนต์หรูขับอยู่ลำพังบนถนนที่ค่อนข้างเปลี่ยว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาใช้เส้นทางนี้ แต่วันนี้กลับรู้สึกไม่คุ้นชินเอาเสียเลยและตลอดทางก็ไม่มีรถขับสวนมาสักคันทั้งที่เป็นขาเข้ากรุงเทพฯร่างสูงนั่งอยู่เบาะด้านหลัง ใบหน้าเรียบเฉยแม้ในใจจะขุ่นเคืองเพราะถูกยกเลิกนัดกะทันหัน เล่นมาบอกเอาตอนใกล้ถึงที่หมายแล้วนี่นะ ไม่รู้จริง ๆ ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือกันมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อคงได้มีเรื่องกันไปแล้วขณะพยายามสงบใจดวงตาคู่คมได้มองออกไปนอกหน้าต่าง เขาใช้ถนนเส้นนี้ในเวลากลางคืนอยู่บ่อยครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่เงียบและวังเวงเท่านี้มาก่อน"มีอะไรเหรอมังกร?"เสียงทุ้มถามขึ้นเมื่อเห็นคนสนิทที่รับหน้าที่ขับรถสอดส่ายสายตาไปมารอบตัวอยู่หลายครั้ง สีหน้าก็ดูเคร่งเครียดกว่าปกติ เหงื่อแตกเต็มใบหน้าทั้งที่แอร์ภายในรถเย็นเยียบ"ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลก ๆ ยังไงคุณภีมระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะครับ"มังกรบอกกับผู้เป็นนายและใช้ความเร็วลดลงเพราะไฟส่องทางที่สว่างมาตลอดจู่ ๆ ได้ดับลงทีละดวงจนในที่สุดรอบตัวของทั้งสองก็ถูกปกคลุมด้วยความมืด มีเพียงแสงจากไฟหน้ารถที่สาดไปด้านหน้าเท่า
댓글