로그인"คุณอีริคคะ มินมีเรื่องอยากขอร้องได้มั้ยคะ คือมินรู้ว่าในฐานะลูกหนี้มินไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร แต่ถ้าเป็นไปได้คือมินอยากขอไปเรียนต่อให้จบขอเวลาอีกแค่เทอมเดียวค่ะ และถ้ามินทำงานให้คุณเรียบร้อยแล้วจะขอไปทำงานข้างนอกเพิ่มได้มั้ยคะ"มีนาตัดสินใจขอร้องเขาหลังจากที่นั่งนิ่งอยู่นาน
"เรื่องเรียนผมอนุญาตส่วนเรื่องงานผมไม่อนุญาต"
"ถ้าเป็นงานที่มินสามารถทำที่บ้านได้หลังมีเวลาว่างได้มั้ยคะ"
"คุณรู้แล้วเหรอว่างานของคุณคืออะไรบ้าง"
"ไม่รู้ค่ะ"
"หึ แล้วยังกล้าขอ งานหลักของคุณคือทำงานบ้านทั้งหมด รวมถึงการทำอาหารเช้าและเย็นให้ผมด้วย นอกจากนั้นก็ทำงานอื่นๆตามที่ผมต้องการ ให้จำไว้ว่าชีวิตของคุณต่อจากนี้ขึ้นอยู่กับผม แต่ผมก็ไม่ได้ให้คุณทำงานฟรีๆหรอกนะผมให้ค่าจ้างเดือนละหนึ่งหมื่นห้าพันบาท มีอะไรสงสัยมั้ย"
"ไม่มีค่ะ"
"ถ้าไม่มีก็เริ่มงานได้ เริ่มจากทำอาหารเย็นให้ผมเย็นนี้เลย"
"เอ่อ คุณอีริคมีอะไรที่ไม่ทานบ้างมั้ยคะ"
"ไม่มี เงินสำหรับเบิกค่าใช้จ่ายภายในบ้านคุณสามารถมาเบิกกับผมได้"
"ค่ะ มินขอตัวไปเตรียมอาหารก่อนนะคะ"
อีริคไม่ตอบแต่หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน ทำให้มีนาลุกเดินออกไปจากตรงนั้นเงียบๆ เมื่อเดินเข้ามาในครัวเธอถอนหายใจยาวอย่างโล่งอกพราะอย่างน้อยบรรยากาศก็ไม่ได้แย่มากอย่างที่คิด
"อาหารเสร็จแล้วค่ะ"มีนาเดินไปตามอีริคหลังจากที่เธอจัดโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
"นั่งลงกินด้วยกันสิ"อีริคบอกมีนาเมื่อเห็นว่าเธอตักข้าวให้ตัวเองเสร็จแล้วและทำท่าจะเดินออกไป
"คะ คุณทานเถอะค่ะมินเป็นแค่ลูกจ้าง น่าจะไม่เหมาะ"
"คุณมีสิทธิ์แค่ทำตามคำสั่งของผมเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น"
"ขอโทษค่ะ"มีนาขอโทษและตักข้าวมานั่งทานที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเขา เพราะเกรงใจและไม่กล้าถึงแม้ตอนนี้เธอจะหิวมากแต่ก็ทานข้าวไปเพียงไม่กี่คำ เมื่ออีริคเห็นเธอทานข้าวไปแค่นิดเดียวก็สั่งให้เธอทานให้หมด มีนาจึงต้องนั่งทานต่อจนหมด
คืนนั้นทั้งสองคนนอนไม่หลับพลิกตัวไปมา มีนาที่ยังไม่คุ้นชินกับสถานที่ลุกขึ้นมาอ่านหนังสือเพื่อเพิ่มความง่วงให้ตัวเอง ส่วนอีริคเขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องคิดถึงสาวน้อยผู้มาใหม่ที่นอนอยู่ข้างล่างจนต้องหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านเช่นเดียวกันกับมีนา
เช้าวันอาทิตย์มีนาตื่นแต่เช้ามาทำงานบ้านและเตรียมอาหารเช้ารออีริค วันนี้เป็นวันหยุดอีริคใช้เวลาอยู่ที่บ้านทั้งวัน เพราะเขาอยากรู้ว่าผู้หญิงที่พึ่งย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเขาทำงานบ้านเป็นจริงๆหรือแค่ทำงานเอาหน้าแค่นั้น ตั้งแต่เช้าจรดเย็นเขาเห็นเธอเดินเข้าห้องนั้นออกห้องนี้เพื่อทำความสะอาดบ้าน พอทำความสะอาดบ้านเสร็จเธอก็ขออนุญาตเขาเข้าห้องนอนเพื่อเอาเสื้อผ้าไปซักและรีดเสื้อผ้าเตรียมไว้ให้เขา เช้ายันค่ำนอกจากเวลาพักทานข้าวเที่ยงอีริคก็ไม่เห็นมีนาพักเลย จนเขาเองยังรู้สึกเหนื่อยแทนอยากจะบอกเธอให้พักบ้างก็ได้ แต่เพราะกลัวเสียฟอร์มและอยากรู้ว่าครอบครัวนี้จะมาไม้ไหนจึงได้แต่นั่งมองเธอทำงานเงียบๆ
"ขยันดีนี่ กลัวไม่คุ้มค่าจ้างหรอ"อีริคบอกมีนาเมื่อเธอวางอาหารเย็นอย่างสุดท้ายลงบนโต๊ะ
"ไม่ต้องห่วงค่ะ มินจะทำงานให้คุ้มค่าจ้างแน่นอนค่ะ ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังคุณมินก็จะทำแบบเดียวกันค่ะ"
"นั่งลงกินข้าวด้วยกัน"เมื่อเห็นแววตาเศร้าของเธอเขาจึงเปลี่ยนเรื่องบอกให้เธอนั่งทานข้าวเป็นเพื่อนเขา มีนาทำตามคำสั่งเขาอย่างว่าง่ายนั่งทานข้าวเงียบๆเหมือนเมื่อคืน เธอไม่กล้าถามเหตุผลว่าทำไมถึงให้เธอนั่งทานข้าวด้วยเพราะกลัวเขาหงุดหงิดจึงทำได้เพียงทำตามคำสั่งของเขา
แม้อีริคจะยังไม่ไว้ใจเธอแต่เมื่อเห็นแววตาเศร้าและแฝงไปด้วยความเหนื่อยล้าทำให้เขาใจอ่อนยอมพูดคุยกับเธอดีๆ
"เรียนคณะอะไร"
"Marketing ค่ะ"
"คิดว่าจบไปอยากทำงานอะไร"
"ก็คงหาสมัครงานตามบริษัทค่ะ ที่ไหนรับมินก็ทำได้หมดค่ะ แต่ว่าตอนนี้ก็คงต้อง...."มีนาทำท่าทางลังเลว่าจะพูดดีไหม แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเงียบแทน
"แต่ว่าอะไร"อีริคถามสาวน้อยตรงหน้าด้วยความสงสัย
"ตอนนี้มินต้องมาทำงานขัดดอกให้คุณ ก็ต้องทำตามคำสั่งของคุณ ไม่ว่าคุณจะให้ทำอะไรมินก็ต้องทำ แค่คุณอนุญาตให้มินได้เรียนต่อจนจบแค่นี้ก็ดีใจมากแล้วค่ะ"เธอบอกเขาตามที่คิดเพราะชีวิตของเธอต่อจากนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไร คงต้องสุดแล้วแต่เขาคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอตอนนี้
"หึ เมื่อไหร่จะเลิกเล่นบทน่าสงสาร เพราะอย่างนี้สินะครอบครัวของเธอถึงส่งเธอให้มาอยู่กับผม เพราะจะเรียกคะแนนสงสารให้ผมเห็นใจสินะ"อีริคพูดประชดมีนา ทำให้เธอรู้สึกว่ามีก้อนอะไรบางอย่างมาจุกอยู่ตรงลำคอ ยิ่งได้ยินคำพูดของเขายิ่งทำให้เธอรู้สึกเศร้านึกถึงครอบครัวที่ตั้งแต่เธอมาถึงที่นี่ก็ไม่มีใครติดต่อมาเลย เธอเผลอคิดไปว่าถ้าเป็นแบบที่เขาพูดก็คงดีอย่างน้อยเธอก็ไม่ได้เป็นคนนอกสำหรับครอบครัวเหมือนกับที่ตัวเองเป็นอยู่ตอนนี้
"เป็นอะไร พูดแทงใจดำหรอ"อีริคถามมีนาเมื่อเห็นเธอนิ่งเงียบไปไม่ยอมตอบเขา
"ถ้าครบหนึ่งปีแล้วพ่อหาเงินมาคืนคุณไม่ได้ คุณจะทำยังไงกับครอบครัวเราคะ"เธอตัดสินใจถามเขาอีกครั้งด้วยเสียงสั่นเครือ
“ก็คงยึดบริษัทไปขายทอดตลาด ยึดทรัพย์สินหรือไม่ก็กำจัดไปให้พ้นหูพ้นตา”อีริคบอกด้วยเสียงเยือกเย็นพร้อมกับมองคนตรงหน้าเพื่อดูปฏิกิริยาของเธอ
เมื่อได้ยินคำตอบจากปากเขามีนาจึงนั่งก้มหน้านิ่งเงียบไม่พูดอะไรต่อ
“เอ่อ คุณอิ่มหรือยังคะ ถ้าอิ่มแล้วมินขออนุญาตเก็บนะคะ”
“ทำไมรีบหรอ”
“เปล่าค่ะ”
“ไม่รีบก็กินต่อสิ กินไปแค่นิดเดียวเองไม่ใช่หรอ”
“มินไม่ค่อยหิวค่ะ”
“ผมสั่งให้กินต่อ”อีริคพูดเสียงเข้ม ทำให้มีนาจำใจต้องนั่งทานข้าวต่อ ความจริงเธอเองก็ยังไม่อิ่มแต่เพราะไม่อยากอยู่ตรงนี้ต่อแล้วจึงตอบเขาไปแบบนั้น ส่วนอีริคเมื่อเห็นสาวน้อยตรงหน้ายอมทำตามคำสั่งอย่างว่าง่ายก็แอบยิ้มมุมปากด้วยความพอใจ
เช้าวันถัดมา
"มินทำอาหารเรียบร้อยแล้วขอตัวไปเรียนก่อนนะคะ"มีนาบอกอีริคเมื่อเห็นเขาเดินลงมาข้างล่าง
"ไม่กินข้าวก่อน"
"ไม่ค่ะวันนี้มินมีสอบต้องรีบไปขอตัวก่อนนะคะ"
"เดี๋ยว"
"คะ"
"ห่อใส่กล่องเอาไปกินบนรถ ผมจะไปส่ง"
"คะ"มีนายืนอึ้งถามเขาด้วยความสงสัยเพราะไม่คิดว่าเขาจะไปส่ง
"ยืนนิ่งทำไมรีบไม่ใช่หรอรีบไปจัดการสิ"
"ค่ะ"ถึงจะสงสัยอยู่ไม่น้อยแต่เธอก็ไม่กล้าถามอะไรเขาต่อได้แต่ทำคำสั่งเขาอย่างว่าง่าย
เช้าวันใหม่ บริษัท RIC electronics"พี่สาเอมได้ข่าวว่าวันนี้ภรรยาบอสจะมาเลี้ยงขนมหวานเราหรอ"เอมถามรสาด้วยความอยากรู้"เห็นคุณมาร์คพูดแบบนั้น พี่ก็ไม่รู้ว่าจริงมั้ย""ว่าแต่ภรรยาของบอสจะหน้าตาเป็นแบบไหนนะ เอมไม่เคยได้ยินข่าวว่าบอสมีแฟนมาก่อนเลย"พนักงานในบริษัทต่างเดากันไปต่างๆนาๆว่าภรรยาของบอสเป็นใครมาจากไหน เพราะมาร์คเล่นปล่อยข่าวไปทั่วว่าอีริคมีภรรยาแล้วและวันนี้เธอก็จะมาเลี้ยงขนมและเครื่องดื่มทุกคนด้วยทำให้ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอนายหญิงจนไม่เป็นอันทำการทำงาน"บอส คุณมินสวัสดีครับ""สวัสดีค่ะคุณมาร์ค""วันนี้ทุกคนในบริษัทต่างเฝ้ารอการปรากฏตัวของภรรยาบอสนะครับ"มาร์คบอกมีนายิ้มๆ"ทำไมทุกคนถึงรู้ล่ะคะ""ผมบอกเองครับ ก็คุณอีริคบอกให้ผมแจ้งทุกคนว่าวันนี้ภรรยาของคุณอีริคจะแวะเอาขนมมาฝากทุกคน""ทุกคนหรอคะ"มีนาถามทั้งสองคนด้วยความงง เพราะเดิมทีเธอตั้งใจจะแวะมาเยี่ยมพี่ๆในแผนกที่เธอฝึกงานอยู่เท่านั้น แต่อีริคกลับให้มาร์คแจ้งทุกคนว่าภรรยาเขาจะเลี้ยงของหวาน จริงๆเป็นแผนของอีริคที่อยากเปิดตัวภรรยาสาวกลายๆ"เป็นแผนของพี่ใช่มั้ยคะ""พี่แค่อยากบอกทุกคนว่ามีเมียแล้วมันผิดตรงไหน"อีริคตอบเมียรักหน้าตาย
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง"รอแป๊บนึงนะคะ"มีนารีบวิ่งออกมาจากบ้านเมื่อได้ยินเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะพี่สาว""เมย์มาได้ยังไง"มีนาตกใจที่คนหน้าประตูบ้านเป็นเมษาอดีตน้องสาว"ก็คิดถึงพี่ไงเลยลองมาหาไม่คิดว่าพี่จะยังอยู่ที่บ้านของคุณอีริค หนี้ก็ไม่ต้องใช้แล้วไม่ใช่หรอทำไมถึงยังอยู่ที่นี่อีก""เรื่องนี้พี่ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้เมย์รู้ ถ้าไม่มีอะไรแล้วพี่ขอตัวเข้าบ้านก่อนนะ เมย์ก็กลับไปเถอะ"มีนาไม่รอฟังเมษาพูดรีบเดินเข้าบ้านไปทันที ตอนนี้เธอรู้สึกไม่สบายใจนักเพราะไม่รู้ว่าที่เมษามาในวันนี้มีจุดประสงค์อะไร ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้จักนิสัยของเมษาที่เธอมาในวันนี้ต้องมีจุดประสงค์อะไรแอบแฝงแน่นอน แต่เมื่อเธอตัดขาดจากครอบครัวนี้แล้วก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวอีกจึงพยายามหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุด"นังมิน แกทำให้ชีวิตของชั้นต้องตกอับแบบนี้ แต่ตัวเองกลับมีชีวิตที่สุขสบาย อย่าหวังว่าชีวิตแกจะดีกว่าชั้นได้เลย"เมษาได้ข่าวว่างานประมูลการกุศลที่กำลังจะจัดขึ้นอีริคจะไปร่วมงานด้วย เธอคิดว่าถ้ามีนาเป็นคนสำคัญของอีริคจริงเขาต้องพาเธอไปด้วยแน่นอน จึงตั้งใจจะไปร่วมงานนี้ด้วยเพื่อแฉให้มีนาต้องอับอาย"สวยม
“จะพามินไปไหนคะ”“จดทะเบียนสมรส”“ห๊ะ พี่อีริคมินว่ามันเร็วไปหน่อยนะคะ”“เร็วอะไรเอากันขนาดนี้แล้ว ท้องป่องก่อนจะว่าไง อย่าลืมนะว่าพี่ไม่เคยป้องกันเลย”อีริคกระซิบข้างหูมีนา“คนบ้า”มีนาตีแขนเขาและก้มหน้างุดด้วยความเขิน คนอะไรทะลึ่งได้ตลอดเวลา“ต่อจากนี้ไปฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับคุณภรรยา”อีริคยิ้มบอกมีนาหลังจดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยแล้ว“ทำแบบนี้พ่อแม่พี่จะไม่ว่าอะไรหรอคะ”แม้จะจดทะเบียนสมรสกันแล้วมีนาก็ยังไม่ค่อยสบายใจนักเพราะกลัวพ่อแม่ของอีริคจะรับไม่ได้“พี่โตแล้วนะ พ่อแม่พี่ไม่ว่าอะไรหรอก”อีริค ดึงมือภรรยาป้ายแดงมากุมไว้และขับรถตรงกลับบ้าน“เอ๊ะ รถใครคะพี่ชวนใครมาบ้านคะ”มีนาถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นรถตู้สีดำจอดอยู่“เข้าบ้านกันเดี๋ยวมินก็รู้เอง”อีริคยิ้มอย่างมีเลศนัย“เซอร์ไพรส์”ทันทีที่ทั้งสองคนเดินเข้าบ้านมาแม่ของอีริคก็ออกมาเซอร์ไพรส์ทั้งสองคน จะว่า เซอร์ไพรส์ทั้งคู่ก็ไม่ได้เพราะอีริครู้เรื่องทั้งหมดอยู่แล้ว มีเพียงมีนาที่ไม่รู้อยู่คนเดียว“นี่มันอะไรกันคะ”มีนาถามอีริคด้วยความงง“เจ้าลูกชายคนนี้ชอบเล่นอะไรแผลงๆเห็นมั้ยลูกสะใภ้แม่ตกใจหมดแล้ว โอ๋ มานี่มาลูกมาให้แม่กอดหน่อย แม่ขอโทษน
"พรุ่งนี้พี่พามินไปเปลี่ยนนามสกุลใหม่นะ ว่าแต่ไม่สนใจจะเปลี่ยนมาใช้นามสกุลพี่หรอ"อีริคถามมีนาขณะที่ทั้งคู่นอนกอดกันอยู่บนเตียง"มินอยากใช้นามสกุลของคุณพ่อก่อนค่ะ เอ่อ พี่อีริคไม่ว่าอะไรใช่มั้ยคะ""พี่รู้พี่ก็แค่พูดหยอกมินแค่นั้นแหละ มินใช้นามสกุลของพ่อไปก่อนเถอะอยากเปลี่ยนเมื่อไหร่ค่อยเปลี่ยน แต่ลูกของเราต้องใช้นามสกุลพี่นะ""พี่อีริคพูดอะไรคะ ใครจะไปมีลูกกับพี่กัน""ก็มินไง คืนนี้เราเริ่มทำการบ้านอย่างจริงจังกันเลยนะ"อีริคไม่รอช้าขึ้นคร่อมไปอยู่บนตัวมีนาและก้มลงจูบเธออย่างดูดดื่ม สองมือเลื่อนไปกอบกุมมือของคนรักเอาไว้ คืนนี้มีนาเองก็จูบตอบอีริคอย่างหวานชื่นเช่นกัน“คืนนี้กินไส้กรอกให้พี่หน่อยได้มั้ย”อีริคกระซิบข้างหูมีนาหลังทั้งคู่คลายจูบออกจากกันเมื่อได้ยินคำขอของเขาแทนที่มีนาจะเอียงหน้าหนีและบ่นว่าเขาลามก เธอกลับยกสองแขนขึ้นมาคล้องคอเขาเอาไว้พลางส่งสายตาหวานเยิ้มยั่วยวนเขาและดึงเขาลงมาจูบ“อยากให้กินก็นอนลงสิคะ”มีนาได้ทีกระซิบข้างหูเอาคืนเขาบ้าง“อื้ม มินยั่วแบบนี้พี่จะอดใจไหวได้ยังไง ถ้าคืนนี้ไม่ได้นอนจะโทษพี่ไม่ได้นะ”“พูดมากจัง”มีนาบ่นเขาก่อนจะผลักคนตัวโตให้นอนราบลงบนที่นอนเธอ
มีนาใช้เวลาทบทวนสิ่งต่างๆร่วมอาทิตย์ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจได้จึงบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการให้อีริคฟัง"มินอยากออกมาจากครอบครัวนี้ค่ะ อยากกลับมาใช้นามสกุลของพ่อแม่ อยากมีชีวิตเป็นของตัวเองค่ะ""ได้สิ เรื่องแค่นี้พี่จัดการให้สบายมาก""แต่มินมีเรื่องที่อยากขอพี่เหมือนกัน ถ้าพี่ไม่ว่าอะไรมินอยากให้พี่ยกหนี้ให้พวกเขา เงินมินจะพยายามหามาคืนพี่เท่าที่มินทำได้เพราะถึงยังไงพวกเขาก็เลี้ยงมินมาแม้จะไม่ได้ดีนักแต่ก็ไม่ได้อดอยาก มินอยากแยกจากกันด้วยดีค่ะ""ได้สิ เงินแค่นี้แลกกับอิสรภาพของแฟนพี่พี่ไม่ติดใจเอาเรื่องอะไรหรอกคนพวกนั้นหรอก""ขอบคุณนะคะที่เข้าใจมิน"ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะเอาเรื่องอะไรกับทรงพลแต่เพราะเขาเข้าใจความรู้สึกและนิสัยของมีนาดีเขาจึงไม่อยากทำให้เธอคิดมากและไม่สบายใจจึงเลือกที่จะสนับสนุนสิ่งที่เธอเลือก แต่คนอย่างเขาก็ไม่มีทางยอมให้แฟนตัวเองเสียเปรียบจิ้งจอกเฒ่าอย่างทรงพลแน่นอน เขาเตรียมวิธีจัดการกับเรื่องนี้ตั้งแต่รู้ว่ามีนาไม่ใช่ลูกของครอบครัวนี้แล้วบริษัท RIC electronicsห้องทำงานของอีริค“นายครับคุณทรงพลมาแล้วครับ”“เชิญเขาเข้ามา เอกสารทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้วใช่ไหม”อีริคถามมาร์
ตลอดเช้าวันนั้นมีนามีสีหน้าเป็นกังวลตลอดเวลาจนอีริคสังเกตได้ว่าเธอมีเรื่องไม่สบายใจอยู่"เป็นอะไรทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้นระวังจะแก่เร็วนะ"อีริคเดินเข้าไปนั่งบนโซฟาข้างๆเธอและดึงเธอเข้าไปกอด"เรื่องที่พี่คุยโทรศัพท์เมื่อเช้ามินได้ยินหมดแล้วนะคะ"มีนานั่งครุ่นคิดอยู่นานก่อนตัดสินใจเอ่ยปากบอกเขา"ที่ทำหน้าเครียดทั้งเช้าเพราะเรื่องนี้เองหรอ""ก็เพราะครอบครัวมินก่อเรื่องให้พี่อีกแล้ว""เด็กน้อยเรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องกังวลเลย"อีริคขยี้ผมเธอเบาๆเพื่อให้เธอผ่อนคลายขึ้น"ถึงยังไงมินก็ไม่สบายใจอยู่ดี เรื่องของเรา เอ่อ พี่ลองคิดดูอีกทีมั้ยคะ"มีนาตัดสินใจถามเขาเพราะไม่อยากเอาเปรียบเขามากไปกว่านี้เมื่อได้ฟังสิ่งที่มีนาพูดแล้วอีริคก้มลงจูบปิดปากเธอเพื่อไม่ให้เธอพูดอะไรอีก เดิมทีเขาคิดว่าจะรอจัดการเรื่องของทรงพลให้เรียบร้อยก่อนเขาถึงจะบอกความจริงกับเธอ แต่เห็นเธอไม่สบายใจแบบนี้เขาจึงตัดสินใจที่จะบอกความจริงกับเธอ แม้ภายในใจจะกลัวว่าอาจจะต้องเสียเธอไปก็ตาม"พี่อยากพามินไปที่ๆหนึ่งไปแต่งตัวนะ"มีนาได้แต่นึกสงสัยอยู่ในใจว่าทำไมเขาถึงพาเธอมาที่วัดเพราะปกติไม่เห็นเขาจะเคยชวนเธอมาทำบุญที่วัดเลยแต่ก็ไม่ได้ถ







