แชร์

เมื่อไหร่คุณแม่สามีจะจ้างผมเลิกกับลูกชายด้วยเงินสิบล้านสักที
เมื่อไหร่คุณแม่สามีจะจ้างผมเลิกกับลูกชายด้วยเงินสิบล้านสักที
ผู้แต่ง: Ms. Sloth

บทนำ ครอบครัวเสิ่น (1)

ผู้เขียน: Ms. Sloth
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-12 17:24:22

แสงแดดยามเช้าของเมืองหลวงสาดส่องผ่านกระจกบานสูงจากพื้นจรดเพดาน อาบไล้เพนต์เฮาส์หรูบนชั้นสูงสุดของตึกระฟ้าให้กลายเป็นสีทองอร่าม กลิ่นกาแฟคั่วบดสดใหม่หอมกรุ่นลอยอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศ ปะปนกับกลิ่นหอมหวานคล้ายชานมไข่มุกจางๆ ซึ่งเป็นกลิ่นฟีโรโมนประจำตัวของเจ้าของร่างโปร่งที่กำลังยืนพิงเคาน์เตอร์ครัวหินอ่อนสีขาวสะอาด

เจาหยวนยกแก้วกาแฟขึ้นจิบอย่างเชื่องช้า ทอดสายตามองทิวทัศน์เมืองที่ยังคงหลับใหลอยู่เบื้องล่าง ความเงียบสงบในยามเช้าตรู่เช่นนี้เปรียบเสมือนโอเอซิสล้ำค่ากลางทะเลทราย เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่เขาจะได้เป็นตัวของตัวเอง ก่อนที่พายุลูกใหญ่... ไม่สิ ต้องเรียกว่าพายุสามลูกถึงจะถูก จะพัดกระหน่ำเข้ามาทำลายความสงบสุขนี้จนหมดสิ้น

ร่างโปร่งในชุดนอนผ้าไหมสีครีมอ่อนดูผ่อนคลาย เส้นผมสีน้ำตาลที่ไม่ได้จัดทรงตกลงมาปรกหน้าผากมน ดวงตากลมโตฉายแววอ่อนโยน แต่หากมองลึกลงไปจะเห็นร่องรอยความเหนื่อยล้าจางๆ ซ่อนอยู่ ริมฝีปากอิ่มได้รูปยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อนึกถึง ‘พายุ’ ทั้งสามลูกที่ว่า…

ห้าปีก่อน เจาหยวนในวัยยี่สิบสี่ปีเป็นเพียงพนักงานออฟฟิศธรรมดาๆ คนหนึ่ง ชีวิตของเขาเรียบง่ายและราบเรียบราวกับกราฟเส้นตรง จนกระทั่งโชคชะตาเล่นตลกให้เขาได้พบกับ ‘เสิ่นหลาง’ อัลฟ่าทายาทเพียงคนเดียวของเทียนหลงกรุ๊ป กลุ่มบริษัทที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศ

ภาพลักษณ์ของเสิ่นหลางในตอนนั้นคือบุรุษในอุดมคติอย่างแท้จริง สูงสง่า หล่อเหลาราวกับเทพสวรรค์ปั้นแต่ง ใบหน้าคมคายติดจะเย็นชา ดวงตาคมกริบดุจอินทรีที่มองเพียงปราดเดียวก็ทำให้คนขาสั่นได้ ทุกท่วงท่าเต็มไปด้วยความสุภาพและภูมิฐานสมบูรณ์แบบ เขาคือท่านประธานผู้สุขุมนุ่มลึกที่เจาหยวนคิดว่าสามารถฝากชีวิตไว้ได้

...ใครจะไปคิดว่าทั้งหมดนั่นคือโฆษณาเกินจริง!

เบื้องหลังภาพลักษณ์ท่านประธานสุดคูล คือตัวตนของ ‘หมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์’ ขี้เล่นตัวยักษ์ที่พร้อมจะพุ่งเข้ามาคลอเคลียเขาทุกเมื่อที่มีโอกาส และหลังจากแต่งงานกัน ความจริงข้อนี้ก็ยิ่งแจ่มชัดขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะเมื่อมีพยานรัก... ไม่สิ ต้องเรียกว่าพยานแห่งความวุ่นวายที่เพิ่มขึ้นมาอีกสองชีวิตต่างหาก

แกร๊ก...

เสียงประตูห้องนอนเด็กที่เปิดออกเบาๆ ดึงเจาหยวนออกจากภวังค์ เขาวางแก้วกาแฟลง ยืดตัวตรง เตรียมพร้อมรับมือกับการจู่โจมระลอกแรกของวัน

ร่างเล็กป้อมในชุดนอนลายซูเปอร์ฮีโร่สีน้ำเงินเดินออกมาจากห้องนอนก่อนใครเพื่อน นั่นคือ ‘เสิ่นอัน’ แฝดผู้พี่ เด็กชายวัยสี่ขวบมีใบหน้าถอดแบบจากเสิ่นหลางมาทุกกระเบียดนิ้ว แม้จะยังเด็กแต่กลับมีแววตาที่ดูนิ่งสงบเกินวัย เสิ่นอันเดินตรงมาที่เจาหยวนอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าแล้วยกมือน้อยๆ ขึ้นกอดขาเขาไว้

“หม่าม้า... อรุณสวัสดิ์ครับ” เสียงเล็กๆ นั้นราบเรียบ แต่แววตาที่ช้อนมองขึ้นมากลับเต็มไปด้วยความรัก

เจาหยวนยิ้มกว้าง ย่อตัวลงลูบกลุ่มผมนุ่มของลูกชาย “อรุณสวัสดิ์ครับ อันอัน ตื่นเช้าจังเลยนะ”

“เล่อเล่อแย่งผ้าห่ม” เสิ่นอันตอบสั้นๆ ได้ใจความ ก่อนจะซบหน้าลงกับตักของเจาหยวนอย่างออดอ้อนในแบบฉบับของตัวเอง

และยังไม่ทันที่เจาหยวนจะได้ปลอบลูกชายคนโต เสียงตึงตังก็ตามมาติดๆ พร้อมกับร่างป้อมๆ อีกร่างในชุดนอนลายเดียวกันแต่เป็นสีแดงสดที่วิ่งออกมาจากห้องนอนราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่

“หม่าม้า! อรุณสวัสดิ์ฮะ!”

‘เสิ่นเล่อ’ แฝดผู้น้อง มีใบหน้าที่ได้ความน่ารักอ่อนหวานมาจากเจาหยวน แต่ได้นิสัยร่าเริงเกินพิกัดมาจากตัวตนที่แท้จริงของเสิ่นหลางมาเต็มๆ เด็กชายไม่พูดพร่ำทำเพลง โผเข้ากอดเอวเจาหยวนเต็มแรงจนร่างโปร่งแทบเซถอยหลัง

“อรุณสวัสดิ์ครับ เล่อเล่อ เบาๆ หน่อยสิครับ เดี๋ยวก็ล้มกันพอดี” เจาหยวนหัวเราะเบาๆ พลางลูบหัวลูกชายคนเล็กที่กำลังเงยหน้าขึ้นมายิ้มแฉ่งจนตาหยีให้เขา

“เมื่อคืนเล่อเล่อฝันด้วยนะฮะ! ฝันว่าเล่อเล่อขี่ปะป๊าไปสู้กับไดโนเสาร์!”

“ปะป๊าไม่ใช่หมา” เสิ่นอันพูดแทรกขึ้นมาเสียงเรียบ ขณะที่ยังคงกอดขาหม่าม้าไม่ปล่อย

“ปะป๊าเป็นหมาโกลเด้นตัวใหญ่ตะหาก!” เสิ่นเล่อเถียงกลับเสียงดังฟังชัด

เจาหยวนได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอาใจ นี่คือบทสนทนาปกติของบ้านเสิ่นในทุกๆ เช้า เขาเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงครึ่ง เขามีเวลาหนึ่งชั่วโมงในการจัดการลิงสองตัวนี้ให้อยู่ในสภาพพร้อมไปโรงเรียน ก่อนจะต้องไปปลุก ‘จ่าฝูงลิง’ ตัวพ่อที่ยังคงนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง

สงครามยามเช้าได้เริ่มขึ้นแล้ว

เจาหยวนอุ้มเสิ่นเล่อขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนพลางจูงมือเสิ่นอันเดินไปยังห้องน้ำ การอาบน้ำและแปรงฟันผ่านไปอย่างทุลักทุเลเล็กน้อย เมื่อเสิ่นเล่อตัดสินใจว่ายาสีฟันรสสตรอว์เบอร์รีนั้นน่าอร่อยกว่าจะเอามาแปรงฟัน ส่วนเสิ่นอันก็มัวแต่ยืนเก๊กท่าซูเปอร์ฮีโร่หน้ากระจกเงียบๆ

ขั้นตอนที่ยากที่สุดคือการแต่งตัว เด็กแฝดถูกจับให้นั่งลงบนเตียงนุ่มในห้องนอนของตัวเอง เจาหยวนหยิบชุดนักเรียนอนุบาลซึ่งเป็นเสื้อโปโลสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินเข้มออกมาเตรียมไว้

“วันนี้ใส่ชุดนักเรียนนะครับคนเก่ง”

“ไม่เอา! เล่อเล่อจะใส่ชุดสไปเดอร์แมน!” เสิ่นเล่อประกาศกร้าว พลางทำท่าจะวิ่งหนีไปรื้อตู้เสื้อผ้า

“อันอันด้วย” เสิ่นอันเสริมทัพอย่างรวดเร็ว

เจาหยวนถอนหายใจพรืด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เขาเริ่มใช้ไม้ตายที่ได้ผลเสมอ “ถ้าใครเป็นเด็กดีแต่งตัวเรียบร้อย ตอนเย็นหม่าม้าจะทำพุดดิ้งนมสดให้กินเป็นของว่าง”

ดวงตากลมโตของสองแฝดเป็นประกายวาววับทันที “พุดดิ้ง!” สองเสียงประสานกันอย่างพร้อมเพรียง ก่อนที่ทั้งคู่จะรีบถอดชุดนอนแล้วสวมชุดนักเรียนอย่างว่าง่ายในบัดดล

เจาหยวนลอบยิ้มในใจ เขารู้ดีว่าไม่มีอะไรจะเอาชนะเด็กสองคนนี้ได้ดีไปกว่าของอร่อยฝีมือหม่าม้าอีกแล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมื่อไหร่คุณแม่สามีจะจ้างผมเลิกกับลูกชายด้วยเงินสิบล้านสักที   บทที่ 2 ความปวดหัวของเจาหยวน (2)

    “ระวัง! จะชนแล้ว!” เสิ่นเล่อร้องเสียงหลงเมื่อรถของตัวเองกำลังจะพุ่งเข้าชนขาชั้นวางของ“ดริฟต์สิลูก! ดริฟต์แบบที่ปะป๊าสอน!” เสิ่นหลางตะโกนสั่งการรถคันจิ๋วสีแดงหมุนคว้างอย่างสวยงาม เฉียดขาชั้นวางไปเพียงเส้นยาแดงผ่าแปด ก่อนจะพุ่งตรงไปข้างหน้าต่อ เจาหยวนแทบจะหยุดหายใจไม่ได้การละ! ขืนปล่อยไว้แบบนี้สมบัติของชาติต้องพังพินาศเพราะความคึกคะนองของสามพ่อลูกนี่แน่!เจาหยวนสูดหายใจเข้าลึกๆ วางกล่องนาฬิกาเรือนละล้านลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเขาก้าวเดินอย่างมั่นคงไปยังใจกลางของสนามรบย่อมๆ นั้น รังสีอำมหิตอ่อนๆ แผ่ออกมาจากร่างโปร่งบางจนสามพ่อลูกที่กำลังสนุกสนานสัมผัสได้และค่อยๆ ชะลอความเร็วของรถลง“เสิ่นหลาง... เสิ่นอัน... เสิ่นเล่อ...”เจาหยวนเรียกชื่อทั้งสามคนด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลแต่เย็นเยียบจนคนฟังรู้สึกเสียวสันหลังวาบ เขาประสานมือไว้ข้างหน้า ยืนนิ่งๆ มองตรงไปยังจ่าฝูงตัวดี“หยุด... เดี๋ยวนี้ครับ”คำสั้นๆ แต่เปี่ยมไปด้วยอำนาจนั้นทำให้ทุกอย่างหยุดชะงักลงทันที รถแข่งสองคันจอดนิ่งสนิทอยู่กับที่ สองแฝดรีบวางรีโมตลงแล้ววิ่งมาหลบอยู่ข้างหลังหม่าม้าอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ผู้สมรู้ร่

  • เมื่อไหร่คุณแม่สามีจะจ้างผมเลิกกับลูกชายด้วยเงินสิบล้านสักที   บทที่ 2 ความปวดหัวของเจาหยวน (1)

    หลังจากมื้อค่ำอันแสนอบอุ่นสำหรับเจาหยวน และชวนให้น้อยใจสำหรับเสิ่นหลางสิ้นสุดลง ทุกคนก็ย้ายมายังห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับสวนสวยภายนอกด้วยผนังกระจกใสบานสูง เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นถูกคัดสรรมาอย่างดี ผสมผสานความหรูหราเข้ากับความสะดวกสบายได้อย่างลงตัว บนผนังประดับด้วยภาพเขียนจากศิลปินชื่อดัง และในมุมหนึ่งมีแกรนด์เปียโนสีดำขลับตั้งอยู่อย่างสง่างามเจาหยวนถูกคุณหญิงหลิวซูจูงมือให้นั่งลงบนโซฟาบุหนังแท้ที่นุ่มที่สุดราวกับปุยนุ่น ขณะที่ท่านประธานเสิ่นเจี๋ยทรุดตัวลงนั่งบนอาร์มแชร์ตัวโปรดพลางจิบชาอู่หลงชั้นเลิศอย่างสบายอารมณ์ สองแฝดตัวน้อยวิ่งปร๋อไปยังกองของเล่นขนาดมหึมาที่คุณย่าเตรียมไว้ให้ ซึ่งดูเหมือนจะมีของเล่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่พวกเขามาเยือนเหลือก็แต่ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูล... ที่ถูกทิ้งให้นั่งอยู่อีกฝั่งของโซฟาอย่างโดดเดี่ยวเสิ่นหลางกอดอกมองภาพครอบครัวสุขสันต์ตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่า เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงของประดับราคาแพงที่ถูกลืมไว้ในมุมห้อง ไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครพูดด้วย เป็นความรู้สึกที่เขาประสบพบเจอเป็นประจำทุกครั้งที่กลับมาที่บ้านใหญ่แห่งนี้“หยวนหยวนลูก” คุณห

  • เมื่อไหร่คุณแม่สามีจะจ้างผมเลิกกับลูกชายด้วยเงินสิบล้านสักที   บทที่ 1 พ่อแม่สามีที่จริงใจ (3)

    เมื่อรถจอดสนิทหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ เจาหยวนก้าวขาลงจากรถแทบไม่ไหว เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงมดปลวกตัวเล็กๆ ที่กำลังจะเดินเข้าสู่ปราสาทของราชสีห์เสิ่นหลางจูงมือเขาเดินเข้าไปในบ้าน ทุกย่างก้าวช่างหนักอึ้ง ภายในห้องรับแขกที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ร่างของชายหญิงสูงวัยสองคนนั่งรออยู่บนโซฟาหลุยส์ตัวใหญ่ นั่นคือท่านประธานเสิ่นเจี๋ย และคุณหญิงหลิวซู บิดามารดาของเสิ่นหลาง บรรยากาศกดดันจนเจาหยวนแทบหยุดหายใจเขากำลังจะก้มหัวแนะนำตัวตามบทที่ท่องมาทั้งคืน แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น...คุณหญิงหลิวซูที่ตอนแรกนั่งนิ่งด้วยมาดนางพญา จู่ๆ ก็เบิกตากว้าง จ้องมองมาที่เขาและมือของเขาที่กุมอยู่กับมือของลูกชายท่านอย่างไม่วางตา ก่อนที่มาดนางพญานั้นจะพังทลายลงในพริบตา“พระเจ้า! เรื่องจริงเหรอเนี่ย!?” คุณหญิงร้องออกมาเสียงดัง ก่อนจะลุกพรวดพราดเดินตรงเข้ามาหาพวกเขาทันที “เสิ่นหลาง! นี่... นี่ลูก... ลูกมีคนที่ชอบแล้วจริงๆ เหรอ!?”เจาหยวนยืนตัวแข็งทื่อ ทำอะไรไม่ถูก คุณหญิงเดินเข้ามาใกล้แล้วจับจ้องใบหน้าของเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ แววตาของท่านไม่ได้ดูถูกเหยียดหยาม แต่กลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและ... ความโล่งอก?“

  • เมื่อไหร่คุณแม่สามีจะจ้างผมเลิกกับลูกชายด้วยเงินสิบล้านสักที   บทที่ 1 พ่อแม่สามีที่จริงใจ (2)

    บ่ายวันเสาร์ รถยนต์ซีดานสีดำสนิทเคลื่อนตัวอย่างนุ่มนวลผ่านประตูเหล็กดัดขนาดมหึมาที่เปิดออกต้อนรับอย่างช้าๆ สองข้างทางคือสนามหญ้าสีเขียวขจีที่ได้รับการตัดแต่งอย่างประณีต สลับกับสวนดอกไม้นานาพรรณที่กำลังเบ่งบานอวดสีสันงดงาม เส้นทางที่ทอดยาวเข้าไปด้านในเผยให้เห็นคฤหาสน์หลังใหญ่โตโอ่อ่าที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกของจีนและความโมเดิร์นของตะวันตกได้อย่างลงตัวนี่คือ ‘บ้านใหญ่’ ของตระกูลเสิ่น สถานที่ที่เจาหยวนเคยก้าวเข้ามาด้วยความประหม่าเมื่อหกปีก่อน และเป็นสถานที่ที่ทำให้ภาพฝันในละครน้ำเน่าของเขาพังทลายลงไม่เป็นท่า“ถึงแล้ว! บ้านคุณปู่คุณย่า!” เสียงเจื้อยแจ้วของเสิ่นเล่อดังขึ้นจากเบาะหลัง เด็กชายนั่งไม่ติดที่ด้วยความตื่นเต้น ผิดกับเสิ่นอันที่นั่งนิ่งๆ มองออกไปนอกหน้าต่าง แต่แววตาที่ส่องประกายก็บ่งบอกว่าเขาก็ดีใจไม่แพ้น้องชายเสิ่นหลางจอดรถเทียบหน้าทางเข้าหลักของตัวคฤหาสน์ และทันทีที่รถจอดสนิท ประตูบ้านก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นร่างของหญิงสูงวัยแต่ยังคงความงดงามไม่สร่างซา ‘คุณหญิงหลิวซู’ หรืออดีตนักแสดงชื่อดัง หลิวซูซิน ยืนรอต้อนรับพวกเขาด้วยรอยยิ้มก

  • เมื่อไหร่คุณแม่สามีจะจ้างผมเลิกกับลูกชายด้วยเงินสิบล้านสักที   บทที่ 1 พ่อแม่สามีที่จริงใจ (1)

    “สวัสดีครับ คุณแม่”เสียงของเจาหยวนนุ่มนวลและสุภาพอย่างเคย แม้ในใจจะกำลังตีลังกาสามตลบกับความเป็นไปได้ของเงินรางวัลสิบล้านที่อาจจะหลุดลอยไป เขากระชับโทรศัพท์ในมือแน่นขึ้นเล็กน้อย รอฟังคำตัดสินชี้ชะตาจากปลายสาย“หยวนหยวน! ลูกรัก!” เสียงที่ตอบกลับมานั้นสดใสและเปี่ยมด้วยความยินดีอย่างที่คุ้นเคย ไม่ได้มีร่องรอยของความเย็นชาหรือการข่มขู่อยู่เลยแม้แต่น้อย “แม่เองนะลูก โทรมาตอนนี้ไม่ได้รบกวนใช่ไหมจ๊ะ”“ไม่เลยครับคุณแม่ ผมกำลังไปบริษัทกับเสิ่นหลาง”“อ้อ เจ้าลูกชายตัวดีก็อยู่ด้วยเหรอ” น้ำเสียงของคุณหญิงเสิ่นเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเอ่ยถึงลูกชายแท้ๆ ของตัวเอง ก่อนจะกลับมาอ่อนหวานดังเดิมเมื่อพูดกับเขา “ช่างเถอะๆ อย่าไปสนใจเขาเลย แม่มีเรื่องจะคุยกับลูกน่ะ”เจาหยวนเหลือบมองคนขับรถที่นั่งอยู่ข้างๆ เสิ่นหลางยังคงมีสมาธิกับการขับรถ แต่ใบหูของเขาตั้งชันอย่างเห็นได้ชัด บ่งบอกว่ากำลังแอบฟังทุกถ้อยคำอย่างตั้งใจ เจาหยวนได้แต่กลั้นยิ้ม“ครับคุณแม่ มีอะไรหรือเปล่าครับ”“สุดสัปดาห์นี้ลูกกับหลานๆ ว่างไหมจ๊ะ แม่คิดถึงพวกหนูใจจะขาดแล้ว โดยเฉพาะหน้าของลูกน่ะ ไม่ได้เห็นไม่กี่วันเหมือนใจจะเฉาตาย”เจาหยวนกะพริบตาปริบ

  • เมื่อไหร่คุณแม่สามีจะจ้างผมเลิกกับลูกชายด้วยเงินสิบล้านสักที   บทนำ ครอบครัวเสิ่น (3)

    หลังจากมื้อเช้าอันแสนวุ่นวายสิ้นสุดลง ก็ถึงเวลาที่ต้องไปส่งสองแฝดที่โรงเรียนอนุบาลนานาชาติซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดมากนัก เสิ่นหลางซึ่งวันนี้แต่งตัวเต็มยศในชุดสูทสีเทาเข้มสั่งตัดพิเศษ ขับรถสปอร์ตคันหรูออกจากที่จอดรถด้วยตัวเอง โดยมีเจาหยวนนั่งอยู่ข้างๆ ส่วนเบาะหลังคือที่นั่งของสองตัวป่วนที่กำลังร้องเพลงอย่างมีความสุขเมื่อมาถึงหน้าโรงเรียน เจาหยวนกำลังจะลงไปส่งลูกๆ แต่เสิ่นหลางกลับคว้ามือเขาไว้ก่อน“ให้ผมไปส่งเอง” เขากล่าวเสียงนุ่ม“แต่คุณจะไปประชุมสาย...”“ไม่เป็นไร แค่ห้านาที” เสิ่นหลางยืนกราน ก่อนจะลงจากรถแล้วเดินอ้อมไปเปิดประตูให้ลูกชายทั้งสองคน ภาพของท่านประธานเทียนหลงกรุ๊ปในชุดสูทเต็มยศ กำลังจูงมือเด็กชายฝาแฝดในชุดนักเรียนเดินเข้าไปในโรงเรียนกลายเป็นภาพที่เรียกสายตาจากบรรดาผู้ปกครองคนอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเหล่าคุณแม่โอเมก้าที่มองตามด้วยความชื่นชมเจาหยวนมองภาพนั้นจากในรถแล้วก็ได้แต่ยิ้มออกมาอย่างอ่อนใจ เขารู้ดีว่าเสิ่นหลางไม่ได้แค่อยากไปส่งลูก แต่เขาอยากจะ ‘ประกาศอาณาเขต’ ให้ทุกคนรู้ว่าเด็กสองคนนี้และโอเมก้าที่นั่งอยู่ในรถเป็นของเขาต่างหาก... ช่างเป็นอัลฟ่าที่ขี้หวงไม่เปลี่ยน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status