อีกแล้วเหรอ
เพทายเดินเข้าไปและยื่นมือไปเปิดประตูออกมาช้าๆ ทว่าทามไทกลับไวกว่า เขารีบดึงมือชายหนุ่มอีกคนเข้าไปด้านในอย่างไว คนทั้งคู่จ้องมองตากัน ตอนนี้พวกเขาแทบจะหยุดหายใจก็ว่าได้ เมื่อจู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องที่ทั้งคู่ต่างก็เคยเป็นครั้งแรกของกันและกัน ย้อนกลับไปสมัยมหาลัย (11 ปีก่อน) “นายอยากลองจริงๆ หรอทาม?” เสียงของเพทายเอ่ยถามเพื่อนสนิท ที่คิดไม่ซื่อ เมื่อครั้งนั้นพวกเขาต่างได้ย้ายมาอยู่คอนโดด้วยกัน ด้วยเหตุผลที่ว่า หอพักของเพทายต้องถูกรื้อทำใหม่ และช่วงนั้นเขาก็หาที่พักไม่ทัน เพราะมันปุบปับมาก ทามไทจึงเสนอให้มาพักกับตนเอง ตอนนี้ก็เรียนอยู่ปีสี่แล้ว ถ้าจะมีปัญหามันก็ใกล้จะจบ อีกทั้งที่เพทายไม่อยากจะสุงสิงกับทามไทเท่าไหร่ เพราะเวลาใกล้กัน ชายหนุ่มกลับรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อต เขารู้สึกอยากถูกเนื้อต้องตัวของเจ้าของคอนโด อยากอยู่ใกล้ๆ และหลายต่อหลายครั้งที่ก็เผลอลอบมองริมฝีปากปากของอีกฝ่าย และก็ลอบกลืนน้ำลายอยู่บ่อยๆ “ก็ที่นายเอาแต่จ้องฉัน ก็ไม่ใช่อยากจะลองรึไง” เสียงของทามไทเอ่ยตอบ แต่แล้วมีหรือที่อีกฝ่ายจะหนีพ้น เพราะตอนนี้นอกจากพวกเขาจะเมาแล้ว ก็ยังอยากเล่นอะไรกันห่ามๆ นั่นก็คือเกมเจ้าปัญหาที่ว่า ถ้าหากใครแพ้ คนนั้นต้องเป็นฝ่ายถูกกระทำ คือกระทำอะไรกับอีกฝ่ายก็ได้ แน่นอน ในครั้งนั้นเพทายต่างเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และสิ่งที่ทามอยากลองก็คือ อยากลองจูบแบบแลกลิ้นกับเพทาย “ฟ้าจะไม่ผ่าหรอวะทาม? ” “ถ้าผ่า มันก็คงผ่าทั้งฉันและนายนั่นแหละ” เสียงคนเมาก่ำๆ อย่างได้ที่เอ่ยกับเพื่อนสนิทที่พึ่งย้ายของเข้ามาคอนโดใหม่ ไม่รอช้า หนุ่มหล่อเจ้าของคอนโดก็ค่อยๆ เอื้อมมือแกร่งมาดึงร่างของคนตัวเล็กกว่าเข้ามากอด เขาซุกใบหน้าเข้ามาใกล้กัน ก่อนจะจรดหน้าผากแช่นิ่งไว้ เลือดในกายตอนนี้มันสูบฉีดพลุ่งพล่าน มันเป็นความเมาบวกความอยากรู้อยากลองหรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้ จึงทำให้ทามไทอยากกระทำเรื่องบ้าๆ นั่น เขารู้ในทันทีว่าใครอีกคนประหม่า ยืนแขนขาสั่น พลางก็อดอมยิ้มไม่ได้ “นายสั่นกลัว รึว่าสั่นสู้กันแน่? ” ทามไทเอ่ยถามผู้มาร่วมชะตากรรมคนใหม่ในคอนโดของเขา “นายก็รู้ว่าผมไม่เคย” “แล้วนายคิดว่าฉันเคยรึไง!!” เสียงอู้อี้สไตล์คนเมา “แล้วนายอยากลองจริงๆ หรอ นี่ผมไม่ได้พกถุงเลยนะ” เสียงของเพทายเอ่ยบอกหวั่นๆ “เราแค่จะลองจูบแบบแลกลิ้น นี่นายคิดกับฉันไปถึงไหนต่อไหนเนี่ย!!” “ปล่ะ เปล่า คือผม… ผม” แต่แล้วใครอีกคนก็แย่งพูด “นายคิดว่าฉันพกถุงรึไง แต่ลองสดก็ดีนะ อีกอย่างเราก็คงไม่ท้อง และฉันก็อยากลองแตกใส่ก้นนาย” พูดเพียงเท่านั้น ทามไทก็ทำการจับร่างของอีกคนหันหลังให้ตน ก่อนจะกดชายหนุ่มที่ว่าลงบนโซฟา ทั้งคู่ยื้อรั้งดึงทึ้งกันไปมา แต่ด้วยความมึนเมาบวกกับการอยากลอง มันทำให้พวกเขาต่างขาดสติ “นายจะใส่มันเลยรึไงทาม ไม่คิดจะเล้าโลมบ้างรึไง!!” “งั้นก็ไปอาบน้ำด้วยกันสิ ฉันอยากให้นายถูหลังให้” ทามไทเอ่ยบอกกับบุรุษร่างสูงพอๆ กัน ทว่าคนชวนกลับใจร้อน จึงอุ้มร่างของอีกคนเข้าไปในห้องน้ำอย่างไว “เดี๋ยวสินาย เดี๋ยวผมก็ตกหรอก.. ทามช้าๆ หน่อย!!” “มีฉันอยู่ นายกลัวรึไงกลัวตกหรอ เดี๋ยวนายได้เสียวกว่านี้แน่” ปากหยักหนาเอ่ยบอกอย่างไม่ลังเล ทั้งคู่ก็อาบน้ำด้วยกัน ทามไทพยายามปลุกเร้าจุดกระสันของอีกฝ่ายจนแข็งขึงได้ที่ เขาใช้มือหนาลูบไล้ถูตัวของอีกฝ่ายไปทั่วเรือนร่าง ลูบไล้ถูไถตรงซอกหู ลำคอ แผ่นแกกว้างที่มีไรขนประปราย ถูลงมาตรงหน้าท้องที่ก็มีไรขนสีอ่อนด้วยเช่นกัน จากนั้นมือหนาก็ลูบไล้ลงมาตรงจุดกระสันที่ตอนนี้มันตั้งชี้โด่เด่แข็งขังสู้มือ อื้มมม … “นายอยากใช่มั้ย?” ปากหยักหนาเอ่ยถามด้วยเสียงแหบพร่า ก่อนจะจับมือของใครอีกคนให้ไปจับเจ้าไซซ์ยักษ์ขนาด 60 ของตนเอง “ช่วยชักมันให้ฉันหน่อยสิ นายว่าถ้าของฉันมันจะยัดเข้าไปตรงรูก้นของนายได้มั้ย ถ้ายัดได้ มันจะรู้สึกดีแค่ไหนกัน” คนฟังถึงกับผงะตัวถอยออก แต่แล้วคนที่กระเหี้ยนกระหือกว่าก็เดินร่นเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะนั่งลงคุกเข่าแล้วก็จับเจ้ามังกรของคนตัวเล็กกว่าเข้าสู่อุ้งปาก นี่เป็นครั้งแรกของเขาเช่นกันที่คิดอยากทำอะไรห่ามๆ แบบนี้ เขาดูดไปพร้อมกับคลึงเคล้นก้นที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อจากนั้นก็เคลื่อนมือมายังเจ้าสองลูกกลมๆ ไปด้วย คนที่ถูกกระทำถึงกับยืนตัวแข็งซู๊ดปาก หลับตาปี๋เงยหน้าแหงนมองบน มือเรียวหนาจิกทึ้งโคนผมของอีกฝ่ายจนเขาเจ็บได้ที่ ร่างสูงยังคงใช้ลิ้นตวัดเกี่ยวเน้นๆ ตรงปลายหัว เขาค่อยๆ ลากลิ้นอุ่นหนาจากหัวหยักบานของไซซ์ 58 ลามเลียลงมาจนถึงไข่ ก่อนจะตวัดเล่นกับเจ้าลูกโลกสองใบเป็นวงกลมด้วยปลายลิ้นแผ่บานอุ่นร้อน คนยืนถึงกับขาสั่นผับๆ มือไม้อ่อนปวกเปียกอย่างคนไร้เรี่ยวแรง อื้มมม …. ทาม…ไท … เสียงของอีกฝ่ายแทบฟังไม่ได้ศัพท์ “นายเสียวมั้ยทาย…” “อ๊าห์… เสียว!!” ตอบแทบไม่เป็นคำ มือหนาค่อยๆ กางขาของอีกฝ่ายออก ทั้งๆ ที่ริมฝีปากยังคงจ้วงกระหน่ำดูดแท่งยาวยักษ์ไซซ์ 58 อย่างไม่ยั้งแรง มืออีกข้างค่อยๆ อ้อมไปทางด้านหลังก่อนจะใช้ใช้นิ้วกลางเขี่ยเกลี่ยตรงร่องก้น ทำเอาใครอีกคนขมิบตูดแทบทันที “อ๊ะ!!” เพทายถึงกับร้องครางเสียงหลง “นายเสียวรึไง …” เขากระหืดกระหอบพูดออกมา “น้ำตรงปลายหัวของนายมันเยิ้มมากเลยรู้มั้ย นั่นแสดงว่านายอยาก” พูดเสร็จเขาก็ใช้ปากหนารูดไอติมเข้าออกจนใครอีกคนเริ่มเก็บอาการไว้ไม่ไหว “ทาม … อื้มมมม ….” “นายอย่าพึ่งแตกใส่ปากฉันนะ ถ้าแตกก่อน นายจะต้องรับผิดชอบ” “อื้มม … นายจะให้ผมรับผิดชอบยังไง ผมทนไม่ไหวแล้วนะ” ยิ่งได้ยินอีกคนพูดแบบนี้ มือหนาก็ยิ่งเขี่ยรั้งที่พวงไข่ ก่อนจะค่อยๆ ถอนเจ้าแท่งไอติมออกจากปาก ก่อนว่า “ถ้านานแตกใส่ปากฉัน ฉันจะแตกใส่ก้นนาย โอเคมั้ย แฟร์ๆ ดี” พูดเพียงเท่านั้นลิ้นอุ่นร้อนก็ละเลงรัวๆ ตวัดซ้ายขวาอย่างได้ที่ ก่อนจะขบดูดขึ้นลงพร้อมกับลิ้นที่ตวัดใส่หัวหยักบานอย่างไม่ยั้ง “ของนายมันแข็งและร้อนมากเลย ดูสีแดงช้ำที่ปลายหัวสิ นายเสียวใช่มั้ยล่ะ?” “เอื้อออ … ซี้ดดด ….” คนไซซ์ 58 ยืนตัวสั่นหน้าตาบุ้ยใบ้เหยเก เขาแทบจะทรงตัวไม่อยู่ เมื่อทามไทเห็นว่าร่างบางตรงหน้าเริ่มสั่นมากเข้าๆ เขาจึงถอนริมฝีปากออกในทันที “อื้ออ นายหยุดทำไม!!” เสียงพูดอย่างไม่พอใจเท่าใดนัก พร้อมกับขมวดคิ้วด้วยอารมณ์หงุดหงิด “นายรับปากกับฉันก่อน ว่าจะให้ฉันเอาตูด และให้แตกใส่ตูดนาย” คนที่อารมณ์คุกรุ่นได้ที่ก็เอาแต่พยักหน้าตกลงอย่างว่าง่าย จากนั้นมือหนาก็เริ่มจับเจ้าเอ็นแท่งใหญ่ขึ้นมาจ๊วบจ๊าบในปากอีกรอบ ชายหนุ่มที่ถูกกระทำขมิบก้นตุบๆ ทุกครั้งที่เขาลงแรงดูดแท่งกาย พลางนึกไปว่าหากได้สอดใส่ มันคงจะตอดรัดแน่นเขาน่าดู ทามไทเคยเรื่องอย่างว่ามาแค่กับผู้หญิง แต่พอเห็นเพทายเขากลับนึกอยากลองแปลกๆ พอมีผู้หญิงทำท่าจะมาวอแวกับคนตรงหน้า เขาก็หึงหวงเพทายแปลกๆ คนร่างสูงค่อยๆ ไล้ละเลียดปลายลิ้นร้ายเลื่อนขึ้นมาด้านบนเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดตรงกลีบปาก เขาประกบลิ้นร้อนบดขยี้ริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างเร่าร้อน พลางเดินถอยหลัง ให้อีกร่างเดินตามเข้ามายังห้องรับแขก เขาเหวี่ยงร่างบอบบางลงโซฟาหนังสีดำตัวหรูจนดังแอ่ก ชายหนุ่มรู้สึกเสียวสันหลังวาบเมื่อแผ่นหลังถูกปะทะเข้ากับแผ่นหนังสีดำ จากนั้นเขาก็ถูกอีกร่างขึ้นคร่อมอย่างไว รู้ตัวอีกทีก็เมื่อเจ้าแท่งเอ็นใหญ่ๆ มันจ่ออยู่ตรงหน้า ใช่แล้ว ทามไทขึ้นนั่งคร่อมเขา และบังคับให้เขาดูดเจ้าแท่งใหญ่เบ้อเร่อนั่น มันเต็มปากเต็มคำเป็นบ้า ทามไทค่อยๆ จับไซซ์ 60 ยัดเข้าปากของอีกคน “โอ๊ย!! นายอย่าใช้ฟันขูดของฉันสิ” “ก็ผมจะไปรู้ได้ไง ขอโทษ” “นายนี่ช่างไม่สังเกตเอาซะเลย ฉันสอนตั้งนานนึกว่านายจะฉลาด เขาไม่ใช้ฟันขูดกัน มันเจ็บ มานี่ เดี๋ยวทำไปพร้อมๆ กัน” จากนั้นทามไทก็หันหน้ามายังปลายเท้าของอีกคน ก่อนจะเลื่อนใบหน้าคมลงมาเป็นท่าหกเก้า “เดี๋ยวนายทำตามฉันนะ” ไม่ช้าพวกเขาก็ผลัดกันจ้วงดูดดื่มแท่งไอติมอันใหญ่ ตอนนี้เจ้าแก่นกายของคนทั้งคู่ต่างขยายแข็งปึ๋งพร้อมออกรบอย่างเต็มที่ เขาจับพลิกร่างบางให้นอนคว่ำ ก่อนจะย้ายตัวเองให้หันมาอีกด้าน มือหนากางขาอีกคนออก ก่อนจะสอดปลายลิ้นจ้วงตวัดช่องทางรักของอีกคนทางด้านหลัง “ซี้ดดด ทามม…” คนตัวสูงตวัดรัวลิ้นจนน้ำลายฉ่ำเยิ้มเต็มรูรักช่องทางด้านหลัง เขาใช้นิ้วกลางค่อยๆ เกลี่ยๆ ก่อนจะแหย่เข้าไปที่ร่องก้นอย่างช้าๆ “อืมมม แน่นเป็นบ้า ของนายมันตอดนิ้วฉันแรงมาก นายอย่าเกร็งสิทาย” “ก็ผมเจ็บ!” “เจ็บแป๊บเดียวนะ เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว” พูดเสร็จเขาก็ค่อยๆ ละเลงลิ้นระรัวอีกรอบ สำหรับครั้งนี้มันเป็นอะไรที่ยากลำบากไปหมด ทั้งอีกคนก็ใหม่เรื่องอย่างว่า ซ้ำร้ายยังไม่มีเจลหล่อลื่นอีก ก็ใครมันจะได้ทันเตรียมตัววะครับ พอหิวก็อยากจัดซะเดี๋ยวนี้ เขายังคงให้อีกคนอยู่ในท่าคว่ำหน้า ก่อนจะจับขาทั้งสองข้างของชายหนุ่มให้คุกเข่า เขากดแผ่นหลังของเพทายแนบเข้ากับโซฟา จากนั้นใบหน้าคมก็เลื่อนลงมาใกล้ๆ สองแก้มก้นอูมสวย ก่อนจะจ้วงปลายลิ้นลงยังทางช่องกลางอีกครั้ง ทำเอาอีกคนขมิบตูดกระตุกถี่ๆ “อ๊ะ!! ทาม …ผมเสียว”บรรยากาศในร้านริมหาดนั้นเต็มไปด้วยเสียงเพลงของดนตรีสดที่ทำให้ความรู้สึกของทุกคนดูผ่อนคลาย แต่ภายในใจของทามไทและเพทายกลับมีสิ่งที่ซ่อนอยู่มากมาย ทั้งสองนั่งอยู่ตรงข้ามกัน ขณะที่อลิสและลลินดานั่งอยู่ข้างๆ บนโต๊ะไม้สีอ่อนที่ตั้งอยู่ใกล้กับริมทะเล เสียงคลื่นซัดสาดทำให้บรรยากาศดูสงบ แต่ในหัวของทั้งสองกลับเต็มไปด้วยความคิดทามไทมองไปที่เพทายที่นั่งห่างออกไปแค่ไม่กี่ก้าว เขาพยายามเก็บความรู้สึกที่ปั่นป่วนภายในใจเอาไว้ ไม่ให้ใครเห็น เขาสังเกตเห็นว่าเพทายพูดคุยกับอลิสได้อย่างเป็นกันเอง เสียงหัวเราะของทั้งสองเหมือนเสียงของคู่รักที่เพิ่งพบกันไม่นาน มันทำให้ทามไทรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่เขาก็รู้ดีว่าเพทายและอลิสไม่ได้มีความสัมพันธ์กันเกินกว่าคำว่าพี่น้อง แต่ทำไมลึกๆ เขากลับรู้สึกไม่สบายใจในขณะเดียวกัน เพทายที่นั่งอยู่ข้างๆ อลิสก็รู้สึกถึงสายตาของทามไทที่จ้องมาที่เขาอย่างไม่ค่อยพอใจ เขารู้สึกได้ถึงความตึงเครียดในอากาศ แต่มันกลับเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถแสดงออกได้ ทุกครั้งที่เขาหันไปมองทามไท ทามไทก็จะทำเพียงแค่ยิ้มให้ แม้ว่าในดวงตาจะมีแววแปลกๆ ที่ทำให้เพทายไม่แน่ใจว่าเขาคิดอะไรอลิสหันไปม
เมื่อทั้งคู่ถึงคอนโด พวกเขาต่างหิ้วของกินพะรุงพะรัง มีทั้งของทานเล่นและเบียร์ยี่ห้อดังที่แอลกอฮอล์สิบเปอร์เซ็นต์ ทั้งที่ปกติคนอย่างทามไทไม่ค่อยแตะเบียร์สักเท่าไหร่ แต่วันนี้ดูเหมือนเขาจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษทั้งคู่ใช้เวลาเสพสุขร่วมกันอีกหลายรอบ ราวกับจะทดแทนเวลาที่ขาดหายไป ก่อนจะหมดแรงหลับใหลไปพร้อมกันเช้าวันอาทิตย์เสียงโทรศัพท์ภายในห้องดังขึ้น ทำเอาทามไทที่นอนขี้เซาภายใต้อ้อมกอดกันและกันต้องค่อยๆ ผละตัวออกอย่างแผ่วเบาจากร่างของใครอีกคน ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูด้วยความไม่เต็มใจเท่าใดนัก เขาได้ยินเสียงมารดาดังมาจากปลายสาย“ทาม วันนี้บ้านเรานัดกับบ้านลลินดาไว้ที่บ้านพักตากอากาศ จำได้ใช่ไหมลูก?”ทามไทถอนหายใจเบาๆ “ครับๆ ไปอยู่แล้ว แต่ผมจะพาเลขาส่วนตัวไปด้วย”“อ้าว พาเลขาไปทำไมลูก นี่มันนัดสังสรรค์กันในครอบครัวนะครับลูก”“เขารู้เรื่องงานมากกว่าผมอีกครับแม่ อีกอย่างเขาก็สนิทกับลลินดาอยู่แล้ว แม่ไม่ต้องห่วงหรอก รับรองแม่เจอเขาก็จะร้องอ๋อ” ทามไทเอ่ยตัดบทบนรถยนต์คันหรูระหว่างทาง“ทาม นายจะให้ผมไปทำไมเนี่ย ผมรู้สึกแปลกๆ นะ” เพทายบ่นพลางขยับเนกไทที่ถูกบังคับให้ใส่“แปลกอะไร นายก็ส
จู๊ดๆ …เสียงปลดล็อกประตูรถยนต์คันหรูแบบ4 ที่นั่ง วันนี้เขาเลือกเอาคันที่มีขนาดกว้างพิเศษมา ซึ่งปกติแล้วชายหนุ่มมักจะขับสปอร์ตแบบสองที่นั่งซะมากกว่าคนร่างเล็กกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูเพื่อขึ้นไปนั่งด้านข้างคนขับ ทว่าเขากลับกระชากร่างบางกว่าเข้าไปยังเบาะด้านหลัง ก่อนจะสั่งการให้เครื่องสตาร์ทด้วยระบบสั่งการด้วยเสียง และปรับระบบแอร์โดยการควบคุมผ่านท่าทาง หรือระบบที่เรียกว่า ‘Gesture Control’ คนร่างสูงควบคุมปรับเบาะ ปรับองศาต่างๆ ผ่านระบบนี้ทั้งหมด“นี่ใช่มั้ยคือสาเหตุที่นายเลือกขับคันนี้มา” เพทายหันมามองก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกว่า “นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่นายเลือกจอดมุมนี้”ไม่ว่าจะจอดตรงไหนมุมใดของห้าง มันก็ไม่มีใครเห็นหรอก เพราะนอกจากกระจกที่มืดแล้ว ยังมีม่านทึบที่เขาพึ่งสั่งการให้มันปิดทึบขึ้นอีกชั้น คนตัวสูงกว่า 190 เอาแต่ยกยิ้มในใจ“ฉันยังไม่ได้ปลดปล่อยเลยนะทาย นายจะให้ฉันค้างเติ่งไม่ได้นะ ฉันหิวนายอีกแล้วที่รัก” เสียงแหบพร่าวาบหวามทำเอาใครอีกคนแทบจะกระโดดจ้วงเขาในทันทีคนตัวสูงไม่รอข้ารีบเปลื้องกางเกงด้านล่างของตัวเองออกจนหมด ก่อนจะจับหัวอีกคนกดลงตรงกลางกาย คนถูกกระทำก็อ้าปากงับก่อนจ
(บทนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ไม่แนะนำให้ลอกเลียนแบบ)“ไหนนายบอกจะพาผมไปค้างด้วย แล้วนายมาจอดรถบนห้างทำไม นี่คนเยอะแยะนะ ชั้นนี้คนมาดูหนังกันเยอะ”“นายแม่งป้อด”“นายจะไม่ให้ผมพักบ้างรึไงทาม”ชายหนุ่มหัวเราะกับเสียงออดอ้อนของอีกคน“เราไปดูหนังกัน ผมจองไว้แล้ว” ทามไทเอ่ยบอก“นายจองห้องวีไอพีหรอ?”“ถ้าวีไอพี มันจะไปสนุกได้ยังไง”“ไม่เอานะทาม อย่าเล่นแบบนี้ ผมกลัว!!”เมื่อชายหนุ่มเห็นสีหน้าของใครบางคนก็อดที่จะสงสารไม่ได้ เลยเลือกที่จะนั่งกอดซบกันและดูหนังเฉย แต่รับรองว่าหนังจบ เขาจะจัดคนขี้กลัวตรงลานจอดรถในห้างนี่อย่างสาสมพอถึงโรงหนังเพทายก็อ้ำอึ้งเล็กน้อย เพราะที่ทามไทเลือกมันเป็นที่นั่งแบบ sweet seat มันเป็นกึ่ง private ที่เน้นความส่วนตัวพื้นที่กว้างขวางมีพนักพิงกั้นโซนให้ความรู้สึกเป็นพื้นที่เฉพาะ และขณะเดียวกันก็อยู่ด้านบนสุดเพทายหยุดยืนมองเบาะนั่งสวีทซีทที่อยู่ตรงหน้าแล้วหันไปมองทามไทอย่างไม่ไว้ใจ“ทาม..นายจะทำอะไรของนายเนี่ย” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเต็มไปด้วยความหวาดระแวงชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมคว้ามืออีกฝ่ายให้เดินตามเข้าไปนั่ง ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเบาะโซฟากว้างข้างๆ กัน“ฉันแ
ทันทีที่หญิงสาวเข้ามาด้านในเพื่อหาทามไท เธอก็ต่อว่าเขาไปชุดใหญ่ ก็เมื่อคืนเขาเล่นหนีหายกันทั้งคู่“ทามอ่ะ จะกลับก็ไม่บอกลลิน”“ก็จะไปบอกได้ไงล่ะครับ ก็ลลินเมา พูดจารู้เรื่องกันซะที่ไหน”“แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะค่ะ”หญิงสาวในชุดเดรสสีแดงสด และรองเท้าเข้าเซต พร้อมด้วยกระเป๋าหนังสีแดงใบจิ๋ว ไม่บอกก็รู้ว่าเธอคือเจ้าแม่แห่งวงการแฟชั่นแค่ไหน ไม่นานนักเสียงอินเตอร์คอมก็ถูกกดเข้ามายังห้องของเลขา แน่นอนว่าคนที่อยู่ด้านในต่างได้ยินด้วย“ครับผม” เพทายกดรับและตอบกลับไปในทันที“คุณเพทายคะ คือคุณอลิสให้ถามน่ะค่ะว่าหลังเลิกงานสะดวกคุยไหม พอดีเธอติดต่อคุณไม่ได้น่ะค่ะ เลยให้อรฝากถาม เพราะคืนนี้ผู้ใหญ่มีนัดคุยกันเรื่องหมั้นค่ะ”คนด้านในที่กำลังนั่งอยู่กับหญิงสาว ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับหูอื้อตาลาย และเงี่ยหูรอฟังคำตอบ“งั้นบอกเธอให้ผมทีนะครับว่าตอนเย็นเจอกัน พอดีโทรศัพท์ผมแบตหมดน่ะครับ รบกวนคุณอรด้วยนะครับ”“ได้ค่ะ เดี๋ยวอรจะแจ้งให้นะคะ”“ขอบคุณครับ”โทรศัพท์ของชายหนุ่มแบตหมดและก็ลืมเอาที่ชาร์ตมา อีกอย่างว่าจะไปยืมใครอีกคน เขาก็เหมือนจะติดธุระกับแฟนสาวอยู่ ไม่นานหญิงสาวที่อยู่ด้านในก็ออกมาอย่างหน้าตาบึ้งๆ
“ลลินตามหาทามตั้งนาน แล้วนี่เลขาสุดหล่อของนายล่ะ? ” หญิงสาวเอ่ยแหย่เพื่อนชายอีกคนพอได้ยินคำว่าสุดหล่อก็ตงิดๆ อยู่ไม่หาย แต่ถึงอย่างนั้นก็คงต้องกลั้นใจตอบ อีกอย่างเขารู้ว่าลลินคงแค่แหย่โดยไม่คิดอะไร เธอคงแค่เย้าแหย่เหมือนที่ผ่านมา“เห็นไปรับลมแถวๆ สระหน่ะ นี่ลลิลเมาหรอครับ หน้าแดงเชียว? ”ที่ถามเพราะใบหน้าเธอแดงก่ำมากจริงๆ และตอนนี้นี่เองที่หญิงสาวก็ถือวิสาสะเข้าไปจุ๊บที่ปากของชายหนุ่มอย่างเผลอไผล ทันใดนั้นเองเขาก็มองเห็นว่ามีใครอีกคนคอยจ้องมองคนทั้งคู่อยู่ ชายหนุ่มจึงรีบผลักหญิงสาวออกอย่างไว ก่อนจะตรงดิ่งมายังบุรุษที่กำลังหน้าบึ้ง“มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ”แต่แล้วใครอีกคนกลับไม่พูดอะไร“นายอย่าเงียบแบบนี้สิ ฉันไม่ชอบ”“ก็ผมไม่ได้บอกให้คุณต้องชอบ คุณจะจูบหรืออะไรกับใคร มันเกี่ยวอะไรกับผมด้วย .. ผมเหนื่อย ง่วงแล้ว จะกลับ”‘โกรธทีไร สรรพนามแทนตัวเองเปลี่ยนทุกครั้งเลยนะ’ คนตัวสูงคิดคนแอบงอแงก็แอบวีนใส่ร่างสูงอย่างไม่รู้ตัว“งั้นกลับด้วยกัน”“ได้ไง นี่วันเกิดแฟนนายนะ อีกอย่างผมโอเค”ทามไทไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เขาฝากบอกเพื่อนของลลินดาว่าเมามาก ขอตัวกลับก่อน ก่อนจะดึงกระชากลากถูชายหนุ่มอีกค