“อ้าว อลิส นี่บังเอิญจังนะ”
กลับเป็นหญิงสาวอีกคนเอ่ยทักขึ้น แน่นอนว่าพวกเขาต่างคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว “มานั่งกับพวกพี่สิ” ลลินดาเอ่ยบอกกับหญิงสาว ขณะที่คนทั้งสามก็ยืนคุยทักทายกันสักครู่ ทว่าหญิงสาวติดลูกค้าคนสำคัญ เธอจึงมาร่วมนั่งรับประทานอาหารด้วยไม่ได้ “พอดีอลิสติดธุระน่ะค่ะ ไว้ค่อยคุยกันนะคะ” เธอพูดพร้อมส่งสายตามายังเพทายเป็นพิเศษ “นี่อย่าบอกนะว่า พวกนาย …” ทามไทเอ่ยถามอย่างพอจะรู้ในคำตอบ เพทายหันมามองก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ พยักหน้าน้อยๆ นั่นถือว่าเป็นคำตอบ “นายก็รู้ว่าที่บ้านของผมกับเธอเชียร์ให้พวกเราคบกันตั้งแต่เรียนอยู่ม.6” “นี่นายจะบอกว่า พวกนายคบกันแล้ว?” “อืมม ว่าที่คู่หมั้นผมน่ะ แต่ก็… ทานข้าวกันเถอะ” แต่แล้วเสียงของหญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่นานก็เอ่ยดังขึ้น “โห!! นี่อลิสกับทายจะหมั้นกันแล้วหรอคะเนี่ย!!” สองหนุ่มหันมามองหญิงสาวด้วยท่าทีแปลกๆ เพราะเหมือนเธอจะสนิทกับอลิสอย่างไรอย่างนั้น เห็นดังนั้นเธอจึงรีบชิ่งตอบก่อน “จริงๆ ลลินกับอลิสเป็นลูกพี่ลูกน้องกันน่ะค่ะ ทามขา ดูเพื่อนเลขาสุดหล่อของคุณสิคะ กำลังจะหมั้น แล้วเมื่อไหร่จะเป็นคิวของเราบ้างละค๊าาาทาม …” พูดไปก็อ้อนไปมือไม้เกาะแขนชายหนุ่มไปด้วย แต่ทามไทก็ปัดแขนของหญิงสาวออก ก่อนจะปรายตามองอีกคนที่อยู่ข้างๆ “เฮ้ อายเจ้าทายบ้าง ลลินอย่าแกล้งฉันสิ!!” บุรุษร่างสูงเอ่ยขึ้นกึ่งเย้าแหย่ คนเรานี่ก็แปลก บางครั้งบางทีพยายามแทบตาย สุดท้ายเขาก็ไม่รัก ก็คงไม่ต่างจากเกย์ เกย์แท้ เกย์เทียม มันจะมีสักกี่คนที่จะมองออก มันไม่มีหรอกครับ มันดูไม่ออกเลยว่าใครเป็นหรือไม่เป็น แม้กระทั่งบางทีเกย์ด้วยกันเองยังดูกันไม่ออก เพราะฉะนั้นบางทีเราก็ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก ขนาดผู้ชายบางคน มีจริตเหมือนเก้ง แต่คบผู้หญิงก็ถมเถไป ดังนั้นแล้วคงไม่แปลก ถ้าหากจะมีเพียงแค่คนสองคนที่ใจตรงกันเท่านั้นถึงจะดูกันออก ชายหนุ่มตัวสูงกว่า 190 มีอาการออกเล็กน้อย เมื่อได้ยินว่าใครอีกคนพูดว่ากำลังจะหมั้น ซึ่งทั้งๆ ที่งานนั้นไม่รู้ว่ามันจะมีวันเป็นจริงหรือเปล่า “ฉันอิ่มแล้ว” เขาวางช้อนส้อมลงในมุมเฉียง 45 องศา บ่งบอกว่าอิ่ม ทำเอาทุกคนพลอยอิ่มตามๆ กัน “จะเก็บท้องไว้ใส่งานของเราคืนนี้หรอคะทาม? ” หญิงสาวพูดทีเล่นทีจริง “ครับ … อืม แล้วนายกับฉันก็กลับไปเตรียมตัวได้แล้ว จะได้ให้ลลินไปเตรียมตัวด้วย งั้นเดี๋ยวไปส่งลลินก่อน ว่าแต่เราจะเข้าออฟฟิศหรือกลับคอนโด? ผมจะได้ไปส่งถูก?” ร่างสูงเอ่ยถามหญิงสาวคนเดียวในกลุ่ม “ไปส่งลลินที่คอนโดแล้วกันค่ะ พอดีนัดช่างแต่งหน้าทำผมให้มาที่นั่น” ไม่นานนักหญิงสาวก็ปิดประตูรถ ค่อยๆ ก้าวขาเรียวสวยลง ก่อนจะโบกมือลาชายหนุ่มทั้งสองที่มาส่ง บรรยากาศระหว่างทาง น่าอึดอัดเป็นบ้า เพทายตัดสินใจพูดอะไรออกมา เพื่อทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดนั่นลงทันที “นายทำให้ผมรู้สึกอึดอัด!!” “หึ แล้วนายมีแฟนทั้งที่กำลังจะหมั้นแต่ไม่เคยบอกฉันเนี่ยนะ?” อะไรกัน นี่เขามีสิทธิ์อะไรมาหวงกัน ทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีแฟนอยู่แล้วทั้งคน แถมยังเป็นเพื่อนเก่าของคนทั้งคู่อีก “นายก็มีแฟนอยู่แล้วนิ่ จะมาโวยวายอะไร อีกอย่างตลอด 11 ปีที่ผ่านมา นายเคยติดต่อผมอย่างนั้นหรอ!!” “เพทาย!!” ชายหนุ่มขึ้นเสียงสูงขบกรามแน่น มือจิกพวงมาลัยจนตัวเกร็งสั่น และก็เลี้ยวตรงข้างทางอย่างไว เอี้ยดดด … “นี่ทาม นายขับรถแบบนี้มันอันตราย!!” “เดี๋ยวนายได้รู้ว่าอะไรมันจะอันตรายมากกว่ากัน!!” “ทาม!! นายกำลังขาดสติ!!” “แล้วฉันควรมีสติอย่างนั้นหรอ?” ชายหนุ่มพูดเสียงเข้มดุผ่านไรฟัน ก่อนจะล็อกประตูทุกบาน และกดสวิตช์ให้ม่านสีทึบขึ้นมาบังทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง ปกติฟิล์มของรถคันหรูมันก็ทึบอยู่แล้ว และยิ่งเขากดม่านก็ยิ่งทึบเข้าไปใหญ่ “นายจะทำอะไรทาม?” เขาเอ่ยถามทามไทด้วยน้ำเสียงสั่นไหว ไม่ทันที่ร่างบางจะได้คำตอบ อีกคนที่อยู่ฝั่งคนขับก็ปลดเข็มขัดนิรภัยโดยเร็ว แล้วก็เลื่อนเบาะมาด้านหลังอย่างไว ก่อนจะปลดล็อกเข็มขัดของอีกคน พร้อมกับปรับเบาะไฟฟ้าให้มาด้านหลังเช่นกัน ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ หัวใจของชายหนุ่มที่นั่งข้างคนขับถึงกับหัวใจเต้นแรงระรัวไม่เป็นจังหวะ ปากยังไม่ทันได้เอ่ยห้ามอะไรออกไป มือหนาของอีกคนก็มาเกี่ยวทึ้งที่ท้ายทอย ก่อนจะตะปบริมฝีปากเข้ามาจูบอย่างบ้าคลั่ง เขาทั้งงับริมฝีปากและขบเม้มมันเบาๆ ตามด้วยตวัดเกลียวลิ้นร้อนตวัดจ้วงดูดเรียวลิ้นเล็กเข้ามาในโพรงปากอุ่นหนาของตนอย่างคนเอาแต่ใจ เพทายเหมือนถูกสะกดไปชั่วครู่ นอกจากเขาจะไม่ขัดขืน แต่กลับจูบตอบใครอีกคนอย่างบ้าคลั่งด้วยเช่นกัน .. ใช่แล้ว เขาก็คิดถึงรสชาติจูบนี้ พวกเขาต่างถวิลหากันและกัน ทามไทตวัดเม้มดูดริมฝีปากอุ่นนุ่มของใครอีกคนทั้งบนและล่างอย่างดุดัน เขางับดึงริมฝีปากบนล่างของคนร่างบางจนปริปลิ้น มือหนาของทั้งคู่ต่างปลดกระดุมของกันและกัน เสียงลมหายใจผสมผสานหอบถี่ คนตัวสูงกว่าปลดกระดุมของอีกฝ่ายอย่างไว ก่อนจะประกบริมฝีปากลงจาบจ้วงตวัดดูดเม็ดเล็กๆ สีชมพูทั้งสองข้างของใครอีกคนอย่างหื่นกระหาย สลับมาขบงับดูดดึงกับติ่งหูทั้งสองข้างอย่างเมามัน ใครอีกคนต่างก็เผลอจิกทึ้งศีรษะของอีกฝ่ายกดลงกับรสสัมผัสอันดูดดื่ม ปากหยักค่อยถอนริมฝีปากออกอย่างอิดออด ก่อนเอ่ย “ถอดเข็มขัดและกางเกงออกให้ฉันหน่อยสิทาย” เสียงแหบพร่าออกคำสั่งกับคนใต้ร่างข้างๆ ใบหู ชายหนุ่มถอดเข็มขัดของคนร่างสูงออกอย่างว่าง่าย ก่อนจะค่อยๆ ปลดกระดุมกางเกง และก็รูดซิปลงจนสุดปลายซิป เขาจับมือเพทายให้มากุมตรงเป้า ตอนนี้มันเริ่มแผ่ขยายใหญ่แข็งเต็มลำขึ้นเรื่อยๆ “ทาม ….” อะ อื้มมม … เขาไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มได้เอ่ยถาม ในขณะที่คนทั้งสองต่างครางกระหึ่มในลำคอ คนร่างสูงค่อยๆ งับปากเข้าประกบกลีบปากของอีกคนเข้าอีกรอบ ก่อนจะกลืนกินเสียงพูดนั้นให้หายไป เขาถอดเข็มขัดของเลขาหมาดๆ ออกอย่างไวเช่นกัน เสียงเบาะหนังที่ถูกเสียดสีจนดังเอี๊ยดอ๊าด ร่างหนารูดซิปและปลดกางเกงลงอย่างไว เขาจับงัดเจ้าแท่งไซซ์ 58 ออกมา สีมันแดงก่ำตรงปลายหัวและมีน้ำเมือกใสๆ อยู่ตรงปลายเอ็น เขาก้มลงกระซิบข้างหูของอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “หรือว่านายจะปฏิเสธล่ะ ว่าไม่ได้อยากเอาฉันเหมือนกัน” พูดจบชายหนุ่มก็ก้มลงจ้วงตวัดปลายลิ้นแข็งๆ เข้าใส่หัวหยักบานอย่างไม่ยั้งริมฝีปาก ก่อนจะตวัดสลับให้ปลายลิ้นเปลี่ยนเป็นแผ่บานนุ่มนิ่มกระดกถี่เร็วระรัว เขาทำลิ้นแข็งสลับกับอ่อนไปมา ตวัดหมุนเป็นวงรอบโคนหัวหยัก และใช้ปลายลิ้นตวัดเป็นเกลียวคลื่นหมุนวนรอบๆ หัว อื้มมม …. ซี้ดดด คนถูกกระทำถูกกับร่างสั่นไหว ร่างสูงค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก ก่อนว่า “น้ำของนาย มันยังหวานเหมือนเดิมเลยนะ” จากนั้นเขาก็ปรับเบาะจนอยู่ในระดับแนวราบ ก่อนจะถอดกางเกงของชายหนุ่มที่เอาแต่ทำหน้าเคลิ้มผสมกับหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความเสียว และก็หันมาเปลื้องเสื้อผ้าของตนเองออกจนหมด ภายในรถแม้จะมีเครื่องปรับอากาศ ทว่าด้านในของทั้งคู่ต่างร้อนระอุ เขาใช้นิ้วสากร้อนจ้วงเข้าไปในโพรงปากของเพทาย ก่อนจะคว้านเก็บเอาน้ำลายเหนียวๆ ออกมา จากนั้นนิ้วเรียวสากก็ถูไถตรงร่องก้นของชายหนุ่ม เขาหมุนวนเป็นวงกลมทวนเข็มนาฬิกา ความรู้สึกในครั้งนั้นเริ่มกลับมาตีหัวของคนทั้งคู่อีกครั้ง ความรู้สึกเสียวซ่านที่ยากจะลืมเลือน “ทำไมถึงแน่นแบบนี้ล่ะ อย่าบอกนะว่านายไม่เคยให้ใครเอานอกจากฉัน? ” เสียงกระเส่าอยู่ข้างๆ ใบหูของอีกคน ก่อนจะงับมันอย่างซุกซนด้วยความมันเขี้ยว “แม้แต่ผู้หญิงผมยังไม่เคยเอา” สิ้นเสียงพูดเท่านั้นแหละ ทำเอาทามไทถึงกับยกยิ้มอย่างพึงพอใจยิ่งนัก “นายจะเอาใครไม่ได้นอกจากฉัน นายเป็นของฉันนะทาย เป็นของฉันอีกได้มั้ย.. ที่รัก ..” อื้มมม …. “ฉันเริ่มไม่ไหวแล้ว เงี่ยนเป็นบ้า อยากเอานายตั้งแต่ที่เห็นนายที่บริษัท … เรากลับมาคบกันนะทาย” “แล้วแฟนของนายล่ะ แล้วแฟนของฉันล่ะ?” “ไว้เราค่อยบอกเลิก แต่ตอนนี้ฉันขอจัดการนายก่อน นายก็เห็นนิ่ ว่าของฉันมันแข็งแทบแตก ให้ฉันแตกใส่ก้นนายนะ เดี๋ยวฉันให้นายแตกใส่ปาก” พูดจบก็บดเบียดร่างของตัวเองเข้ามาแนบชิด ขาสองข้างอ้ากางออกนั่งคร่อมใบหน้าของอีกคน ในขณะที่ตัวเองก็หันใบหน้ามาดูดจ๊วบจ๊าบกับเจ้าไซซ์ 58 ต่อ คนทั้งคู่กับเบาะรถที่ถูกปรับให้แบนราบ ตอนนี้พวกเขาอยู่ในท่าหกเก้าต่าง ทั้งสองเสพสุขอย่าหฤหรรษ์ ในขณะที่มือก็ดึงทึ้งบีบเคล้นก้นกลมกลึงของกันและกันไปด้วย เขารู้ว่าคนใต้ร่างเสียวมากแค่ไหน ก็ลูกโลกที่แข็งเป็นไต ไหนจะเสียงครางดังลั่น ชายหนุ่มดูดกลืนแท่งยาวไซซ์ใหญ่เข้าไปลึกจนสุดคอ มือก็พลางชักแก่นกายขึ้นลงตามจังหวะ ในขณะที่คนใต้ร่างก็ร่อนส่ายสะโพกสวนเป็นพัลวัน อื้มมมม “ทาม.. ผมจะเสร็จ” “แตกใส่ปากฉันเลยที่รัก ฉันหิวน้ำของนายจะแย่” ยิ่งพูดใครอีกคนก็ยิ่งเสียว ยิ่งน้ำใกล้จะแตกยิ่งถูกกระตุ้น แต่แล้วทามไทก็ถอนริมฝีปากออกมาซะดื้อๆ ก่อนจะจับร่างของอีกคนให้นอนคว่ำ และจัดในท่าคุกเข่า “ถ้าฉันตอกให้นาย นายจะยิ่งเสียวกว่านี้” เขาเอามือขึ้นมาปะพรมเอาน้ำลายไปแต้มที่ปลายหัวหยัก ก่อนจะค่อยๆ ยัดไซซ์ 60 เข้ามาตรงช่องทางรักด้านหลัง “อื้อหืมมม ทาย … ทำไมของนายมันตอดแน่นดีขนาดนี้เนี่ย นี่ฉันเคยเอากับผู้หญิงนะ แต่ไม่มีใครตอดเก่งเท่านาย” ได้ยินดังนั้นอีกคนที่ถูกกระทำก็พยายามดันร่างของใครอีกคนออก “หยุดเลยนะทาม ผมไม่เอากับคุณแล้ว!!” คุณงั้นหรอ!! “นายกำลังหึงฉัน? ก็ที่เอาคือฉันซื้อบริการ ป้องกันทุกครั้ง ไม่เคยสดกับใคร นอกจากนาย” ปึก ปึก ยิ่งพูดก็ยิ่งกระแทก ยิ่งอีกคนพยายามผลักไสเขาก็ยิ่งกระทุ้งเข้าไปด้านในอย่างไม่ยั้ง กึดดด …. “ซี้ดดด โอ้ววว ….. ฟู้ววว ….” ทามไทพยายามสกัดกั้นความรู้สึกอย่างที่สุด เข้ามาเพียงไม่กี่นาทีมันก็ทำท่าว่าจะแตกเสียให้ได้ “ทาย ของนายมันรัดของฉันแน่นมาก ฉันจะแตกซะให้ได้ …” เสียงของหัวหยักเข้าออกระหว่างช่องทางรักคับแคบด้านหลังจนเสียงดัง กึด กึด อ๊าาาห์ ปึก ปึก ปึก ซี้ดดดดส์ … เพี๊ยะ!!! ทามไททั้งสูดปากทั้งเสียวซ่าน ด้านล่างก็กระแทกใส่ชายหนุ่มอย่างไม่ยั้งรง ในขณะที่มือก็ตีก้นของใครอีกคนไปด้วย อีกมือก็ช่วยชักว่าวของคนด้านหน้าเข้าออกอย่างบ้าคลั่ง .. “ทาย … ฉันรู้สึกดีจัง ของนายมันตอดเป็นบ้า ไม่ไหวแล้ว จะแตกแล้ว ทายยย เอื้อออ…!!” อ๊าาาห์ …. เพทายขมิบก้นตอดตุบๆ รีดเอาน้ำรักสีขุ่นด้วยความเสียวซ่าน มันเจ็บจุกหน่วงไปหมด แต่ก็ไม่สู้ความเสียวที่ใครอีกคนมอบให้ จากนั้นคนร่างสูงก็ทำการพลิกหงายใครอีกคนขึ้นมาก่อนจะจ้วงดูดดื่มแท่งไอติมจนคนใต้ร่างสำเร็จความใคร่ อ๊าาา เอื้อออ …. ซี้ดดด ทามมม .. อื้มมม อ๊าาาห์ …. เขาทำจนคนใต้ร่างกระตกเกร็งถี่ๆ และน้ำสีขาวขุ่นก็พวยพุ่งเป็นสายธาราหลั่งไหลเข้ามาในโพรงปากของเขา ก่อนที่คนร่างหนาจะกลืนมันเข้าลำคอโดยไว อึก …. จากนั้นพวกเขาก็มาบดริมฝีปากให้กันอีกระรอกเพื่อทำความสะอาดให้กัน “ผมว่า ถ้าไม่หยุด มีต่อแน่ๆ เดี๋ยวไปงานลลินไม่ทันเอาได้นะ” เพทายเอ่ยท้วง “แต่ฉันยังอยากอยู่เลย” แต่เมื่อดูเวลาคือมันก็ใกล้เวลางานของลลินดาแล้วเขาจึงจำต้องพาอีกคนไปเปลี่ยนชุดที่คอนโดเพื่อเตรียมมางานวันเกิดของหญิงสาวในคืนนี้ แล้วคนทั้งคู่ก็ขับรถออกจากสถานที่แห่งความสุขตรงนั้นไป … ช่วงเวลาสองชั่วโมงก่อนออกมายังเอ็กซ์บาร์พวกเขายังแอบจัดกันต่อที่คอนโดหรูของคนร่างสูงกว่า 190 น้ำแตกไปอีกคนละหนึ่งรอบก่อนจะมาเข้างานบรรยากาศในร้านริมหาดนั้นเต็มไปด้วยเสียงเพลงของดนตรีสดที่ทำให้ความรู้สึกของทุกคนดูผ่อนคลาย แต่ภายในใจของทามไทและเพทายกลับมีสิ่งที่ซ่อนอยู่มากมาย ทั้งสองนั่งอยู่ตรงข้ามกัน ขณะที่อลิสและลลินดานั่งอยู่ข้างๆ บนโต๊ะไม้สีอ่อนที่ตั้งอยู่ใกล้กับริมทะเล เสียงคลื่นซัดสาดทำให้บรรยากาศดูสงบ แต่ในหัวของทั้งสองกลับเต็มไปด้วยความคิดทามไทมองไปที่เพทายที่นั่งห่างออกไปแค่ไม่กี่ก้าว เขาพยายามเก็บความรู้สึกที่ปั่นป่วนภายในใจเอาไว้ ไม่ให้ใครเห็น เขาสังเกตเห็นว่าเพทายพูดคุยกับอลิสได้อย่างเป็นกันเอง เสียงหัวเราะของทั้งสองเหมือนเสียงของคู่รักที่เพิ่งพบกันไม่นาน มันทำให้ทามไทรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่เขาก็รู้ดีว่าเพทายและอลิสไม่ได้มีความสัมพันธ์กันเกินกว่าคำว่าพี่น้อง แต่ทำไมลึกๆ เขากลับรู้สึกไม่สบายใจในขณะเดียวกัน เพทายที่นั่งอยู่ข้างๆ อลิสก็รู้สึกถึงสายตาของทามไทที่จ้องมาที่เขาอย่างไม่ค่อยพอใจ เขารู้สึกได้ถึงความตึงเครียดในอากาศ แต่มันกลับเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถแสดงออกได้ ทุกครั้งที่เขาหันไปมองทามไท ทามไทก็จะทำเพียงแค่ยิ้มให้ แม้ว่าในดวงตาจะมีแววแปลกๆ ที่ทำให้เพทายไม่แน่ใจว่าเขาคิดอะไรอลิสหันไปม
เมื่อทั้งคู่ถึงคอนโด พวกเขาต่างหิ้วของกินพะรุงพะรัง มีทั้งของทานเล่นและเบียร์ยี่ห้อดังที่แอลกอฮอล์สิบเปอร์เซ็นต์ ทั้งที่ปกติคนอย่างทามไทไม่ค่อยแตะเบียร์สักเท่าไหร่ แต่วันนี้ดูเหมือนเขาจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษทั้งคู่ใช้เวลาเสพสุขร่วมกันอีกหลายรอบ ราวกับจะทดแทนเวลาที่ขาดหายไป ก่อนจะหมดแรงหลับใหลไปพร้อมกันเช้าวันอาทิตย์เสียงโทรศัพท์ภายในห้องดังขึ้น ทำเอาทามไทที่นอนขี้เซาภายใต้อ้อมกอดกันและกันต้องค่อยๆ ผละตัวออกอย่างแผ่วเบาจากร่างของใครอีกคน ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูด้วยความไม่เต็มใจเท่าใดนัก เขาได้ยินเสียงมารดาดังมาจากปลายสาย“ทาม วันนี้บ้านเรานัดกับบ้านลลินดาไว้ที่บ้านพักตากอากาศ จำได้ใช่ไหมลูก?”ทามไทถอนหายใจเบาๆ “ครับๆ ไปอยู่แล้ว แต่ผมจะพาเลขาส่วนตัวไปด้วย”“อ้าว พาเลขาไปทำไมลูก นี่มันนัดสังสรรค์กันในครอบครัวนะครับลูก”“เขารู้เรื่องงานมากกว่าผมอีกครับแม่ อีกอย่างเขาก็สนิทกับลลินดาอยู่แล้ว แม่ไม่ต้องห่วงหรอก รับรองแม่เจอเขาก็จะร้องอ๋อ” ทามไทเอ่ยตัดบทบนรถยนต์คันหรูระหว่างทาง“ทาม นายจะให้ผมไปทำไมเนี่ย ผมรู้สึกแปลกๆ นะ” เพทายบ่นพลางขยับเนกไทที่ถูกบังคับให้ใส่“แปลกอะไร นายก็ส
จู๊ดๆ …เสียงปลดล็อกประตูรถยนต์คันหรูแบบ4 ที่นั่ง วันนี้เขาเลือกเอาคันที่มีขนาดกว้างพิเศษมา ซึ่งปกติแล้วชายหนุ่มมักจะขับสปอร์ตแบบสองที่นั่งซะมากกว่าคนร่างเล็กกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูเพื่อขึ้นไปนั่งด้านข้างคนขับ ทว่าเขากลับกระชากร่างบางกว่าเข้าไปยังเบาะด้านหลัง ก่อนจะสั่งการให้เครื่องสตาร์ทด้วยระบบสั่งการด้วยเสียง และปรับระบบแอร์โดยการควบคุมผ่านท่าทาง หรือระบบที่เรียกว่า ‘Gesture Control’ คนร่างสูงควบคุมปรับเบาะ ปรับองศาต่างๆ ผ่านระบบนี้ทั้งหมด“นี่ใช่มั้ยคือสาเหตุที่นายเลือกขับคันนี้มา” เพทายหันมามองก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกว่า “นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่นายเลือกจอดมุมนี้”ไม่ว่าจะจอดตรงไหนมุมใดของห้าง มันก็ไม่มีใครเห็นหรอก เพราะนอกจากกระจกที่มืดแล้ว ยังมีม่านทึบที่เขาพึ่งสั่งการให้มันปิดทึบขึ้นอีกชั้น คนตัวสูงกว่า 190 เอาแต่ยกยิ้มในใจ“ฉันยังไม่ได้ปลดปล่อยเลยนะทาย นายจะให้ฉันค้างเติ่งไม่ได้นะ ฉันหิวนายอีกแล้วที่รัก” เสียงแหบพร่าวาบหวามทำเอาใครอีกคนแทบจะกระโดดจ้วงเขาในทันทีคนตัวสูงไม่รอข้ารีบเปลื้องกางเกงด้านล่างของตัวเองออกจนหมด ก่อนจะจับหัวอีกคนกดลงตรงกลางกาย คนถูกกระทำก็อ้าปากงับก่อนจ
(บทนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ไม่แนะนำให้ลอกเลียนแบบ)“ไหนนายบอกจะพาผมไปค้างด้วย แล้วนายมาจอดรถบนห้างทำไม นี่คนเยอะแยะนะ ชั้นนี้คนมาดูหนังกันเยอะ”“นายแม่งป้อด”“นายจะไม่ให้ผมพักบ้างรึไงทาม”ชายหนุ่มหัวเราะกับเสียงออดอ้อนของอีกคน“เราไปดูหนังกัน ผมจองไว้แล้ว” ทามไทเอ่ยบอก“นายจองห้องวีไอพีหรอ?”“ถ้าวีไอพี มันจะไปสนุกได้ยังไง”“ไม่เอานะทาม อย่าเล่นแบบนี้ ผมกลัว!!”เมื่อชายหนุ่มเห็นสีหน้าของใครบางคนก็อดที่จะสงสารไม่ได้ เลยเลือกที่จะนั่งกอดซบกันและดูหนังเฉย แต่รับรองว่าหนังจบ เขาจะจัดคนขี้กลัวตรงลานจอดรถในห้างนี่อย่างสาสมพอถึงโรงหนังเพทายก็อ้ำอึ้งเล็กน้อย เพราะที่ทามไทเลือกมันเป็นที่นั่งแบบ sweet seat มันเป็นกึ่ง private ที่เน้นความส่วนตัวพื้นที่กว้างขวางมีพนักพิงกั้นโซนให้ความรู้สึกเป็นพื้นที่เฉพาะ และขณะเดียวกันก็อยู่ด้านบนสุดเพทายหยุดยืนมองเบาะนั่งสวีทซีทที่อยู่ตรงหน้าแล้วหันไปมองทามไทอย่างไม่ไว้ใจ“ทาม..นายจะทำอะไรของนายเนี่ย” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเต็มไปด้วยความหวาดระแวงชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมคว้ามืออีกฝ่ายให้เดินตามเข้าไปนั่ง ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเบาะโซฟากว้างข้างๆ กัน“ฉันแ
ทันทีที่หญิงสาวเข้ามาด้านในเพื่อหาทามไท เธอก็ต่อว่าเขาไปชุดใหญ่ ก็เมื่อคืนเขาเล่นหนีหายกันทั้งคู่“ทามอ่ะ จะกลับก็ไม่บอกลลิน”“ก็จะไปบอกได้ไงล่ะครับ ก็ลลินเมา พูดจารู้เรื่องกันซะที่ไหน”“แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะค่ะ”หญิงสาวในชุดเดรสสีแดงสด และรองเท้าเข้าเซต พร้อมด้วยกระเป๋าหนังสีแดงใบจิ๋ว ไม่บอกก็รู้ว่าเธอคือเจ้าแม่แห่งวงการแฟชั่นแค่ไหน ไม่นานนักเสียงอินเตอร์คอมก็ถูกกดเข้ามายังห้องของเลขา แน่นอนว่าคนที่อยู่ด้านในต่างได้ยินด้วย“ครับผม” เพทายกดรับและตอบกลับไปในทันที“คุณเพทายคะ คือคุณอลิสให้ถามน่ะค่ะว่าหลังเลิกงานสะดวกคุยไหม พอดีเธอติดต่อคุณไม่ได้น่ะค่ะ เลยให้อรฝากถาม เพราะคืนนี้ผู้ใหญ่มีนัดคุยกันเรื่องหมั้นค่ะ”คนด้านในที่กำลังนั่งอยู่กับหญิงสาว ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับหูอื้อตาลาย และเงี่ยหูรอฟังคำตอบ“งั้นบอกเธอให้ผมทีนะครับว่าตอนเย็นเจอกัน พอดีโทรศัพท์ผมแบตหมดน่ะครับ รบกวนคุณอรด้วยนะครับ”“ได้ค่ะ เดี๋ยวอรจะแจ้งให้นะคะ”“ขอบคุณครับ”โทรศัพท์ของชายหนุ่มแบตหมดและก็ลืมเอาที่ชาร์ตมา อีกอย่างว่าจะไปยืมใครอีกคน เขาก็เหมือนจะติดธุระกับแฟนสาวอยู่ ไม่นานหญิงสาวที่อยู่ด้านในก็ออกมาอย่างหน้าตาบึ้งๆ
“ลลินตามหาทามตั้งนาน แล้วนี่เลขาสุดหล่อของนายล่ะ? ” หญิงสาวเอ่ยแหย่เพื่อนชายอีกคนพอได้ยินคำว่าสุดหล่อก็ตงิดๆ อยู่ไม่หาย แต่ถึงอย่างนั้นก็คงต้องกลั้นใจตอบ อีกอย่างเขารู้ว่าลลินคงแค่แหย่โดยไม่คิดอะไร เธอคงแค่เย้าแหย่เหมือนที่ผ่านมา“เห็นไปรับลมแถวๆ สระหน่ะ นี่ลลิลเมาหรอครับ หน้าแดงเชียว? ”ที่ถามเพราะใบหน้าเธอแดงก่ำมากจริงๆ และตอนนี้นี่เองที่หญิงสาวก็ถือวิสาสะเข้าไปจุ๊บที่ปากของชายหนุ่มอย่างเผลอไผล ทันใดนั้นเองเขาก็มองเห็นว่ามีใครอีกคนคอยจ้องมองคนทั้งคู่อยู่ ชายหนุ่มจึงรีบผลักหญิงสาวออกอย่างไว ก่อนจะตรงดิ่งมายังบุรุษที่กำลังหน้าบึ้ง“มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ”แต่แล้วใครอีกคนกลับไม่พูดอะไร“นายอย่าเงียบแบบนี้สิ ฉันไม่ชอบ”“ก็ผมไม่ได้บอกให้คุณต้องชอบ คุณจะจูบหรืออะไรกับใคร มันเกี่ยวอะไรกับผมด้วย .. ผมเหนื่อย ง่วงแล้ว จะกลับ”‘โกรธทีไร สรรพนามแทนตัวเองเปลี่ยนทุกครั้งเลยนะ’ คนตัวสูงคิดคนแอบงอแงก็แอบวีนใส่ร่างสูงอย่างไม่รู้ตัว“งั้นกลับด้วยกัน”“ได้ไง นี่วันเกิดแฟนนายนะ อีกอย่างผมโอเค”ทามไทไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เขาฝากบอกเพื่อนของลลินดาว่าเมามาก ขอตัวกลับก่อน ก่อนจะดึงกระชากลากถูชายหนุ่มอีกค