LOGIN“อาป๊าขาาาจี๊ดจะแต่งงาน”
“ห๊ะ!ลื้อจะแต่งกับใครอาจี๊ด?” สองเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก เสียงผู้เป็นลูกสาวเจ้าของโรงงานผลไม้ขนาดใหญ่พูดกับผู้เป็นพ่อขึ้น “แต่งกับพี่กายค่ะ” “ห๊ากายไหนวะ?” “ก็ลูกน้องคนโปรดของอาป๊าไง” “ไอ้หยา อาจี๊ดนี่ลื้อพูดจริงรึพูดเล่นเนี่ยเป็นไปได้ยังไง” อาป๊ากุมขมับพูดไม่ออกเมื่อรู้ว่าลูกจะแต่งกับใคร “จี๊ดพูดจริงๆจี๊ดกับพี่กายเรารักกันค่ะ” “ไม่ๆอั๊วไม่ยอมไม่เอาๆอั๊วยังไม่อยากได้ลูกเขยตอนนี้!” แม้จะเอ็นดูเจ้าเด็กนั่นเพียงใดในความขยันขันแข็งเอาการเอางานและกตัญญูต่อผู้เป็นยาย แต่ทว่าถ้าให้เอามาเป็นลูกเขยเห็นทีคงขอบาย เพราะอีไม่มีอะไรเทียบเท่าลูกสาวเขาสักกะนิดเดียวไม่ว่าจะฐานะหน้าตาทางสังคม “ไม่อยากได้ก็ไม่ทันแล้วหล่ะป๊า ตอนนี้จี๊ดท้องได้สามสัปดาห์แล้ว” คุณจี๊ดสารภาพออกไปด้วยสีหน้าแหยๆ ถึงจะไม่อยากพูดแบบนี้เลยก็ตามแต่ทว่ามันจำเป็นต้องทำแบบนี้ “ไอ้หยา!อาจี๊ดลื้อว่าอะไรนะ?นี่ลื้อท้องหรอ!อั๊วไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม?โอยอั๊วจะเป็นลมมม” อาป๊าหน้ามืดนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะทำงานอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง ลูกสาวคนเดียวที่เฝ้าฟูมฟักมากำลังจะท้องก่อนแต่ง “อาป๊า...จีี๊ดขอโทษนะคะที่ทำตัวไม่ดีแบบนี้” มือเรียวยกขึ้นพนมกราบแนบอกผู้เป็นบิดาอย่างออดอ้อน “เฮ้ออาจี๊ดเอ้ย ไปๆเรียกมันมาสิไอ้เจ้ากายน่ะ” “ค่ะเดี๋ยวจี๊ดโทรตามให้” สักพักไม่เกินห้านาทีร่างสูงใหญ่ก็ก้าวเข้ามาในห้องอย่างนอบน้อมและมองทั้งคู่อย่างงงๆ “อากาย!” “คะครับเถ้าแก่...” “ลื้อคิดยังไงกับลูกสาวอั๊ว” “ห๊า..เอ่อคะคือว่า ผะผมรักคุณจี๊ดครับ” แม้จะงงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นแต่กายก็ยอมตอบตามตรง “อืม...แล้วอยากแต่งงานกับลูกสาวอั๊วไหม?” “ก็อยากครับถ้าเถ้าแก่ไม่ว่าอะไรผมอยากขอเวลาเก็บเงินอีกสักปีสองปีเพื่อมาสู่ขอคุณจี๊ดนะครับ” “อั๊วรอลื้อต่อไปไม่ได้อีกแล้ว!” “ทำไมล่ะครับเถ้าแก่...ผมรักและจริงใจกับคุณจี๊ดจริงๆนะครับ” เหอะ!รักมากถึงขนาดรอไม่ได้ริชิงสุกก่อนห่ามจนงามหน้าท้องไส้ขึ้นมาเสียนี่... “อืมอั๊วรู้...แล้วลื้อล่ะรู้หรือไม่ว่าลื้อกำลังจะได้เป็นพ่อคนแล้วน่ะ” “ห๊ะ!อะไรนะครับ...ที่เถ้าแก่พูดหมายความว่ายังไงครับคุณจี๊ด?” “คะคือว่าพี่กายขาจี๊ดขอโทษ...ที่ผ่านมาจี๊ดไม่ได้ทานยาคุมอย่างที่บอกเพราะจี๊ดอยากสร้างครอบครัวกับพี่” “โธ่คุณจี๊ด...” มือหนารั้งร่างอวบอิ่มเข้ามากอดแนบอก แม้จะเกินความคาดหมายที่อยู่ๆก็มีลูกโดยไม่ทันตั้งตัวทั้งที่ตกลงกันไว้ว่าเขาขอสร้างหลักปักฐานให้มั่นคงเสียก่อนคุณจี๊ดจะได้ไม่ต้องอายใครๆ แต่กลับกลายเป็นว่าคุณจี๊ดท้องขึ้นมามันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่แล้ว “จี๊ดขอโทษจริงๆพี่กายอย่าโกรธจี๊ดเลยนะ..” “ไม่โกรธครับไม่โกรธพี่ดีใจด้วยซ้ำที่เรากำลังจะมีเจ้าตัวเล็กมาวิ่งเล่นด้วยกันแล้ว ล่ะตอนนี้ลูกเราได้กี่เดือนแล้วครับ?” งามหน้าจริงๆลูกเอ้ย ลูกสาวผู้ดีมาชาติตระกูลกลับปล่อยตัวให้ท้องเพื่อรั้งผู้ชายเอาไว้รู้ถึงไหนอายเค้าถึงนั่น!! แม้จะคิดและก่นด่าทั้งลูกสาวและลูกเขยหมาดๆในใจ แต่ทว่าก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ากำลังดีใจที่จะได้เป็นคุณตากับเค้าแล้ว “ยังไม่ถึงเดือนเลยค่ะสามสัปดาห์นิดๆ” “ขอบคุณมากนะครับที่ให้ของขวัญที่ดีที่สุดกับพี่ขอบคุณจริงๆ” มือหนาลูบหน้าท้องเนียนราบที่มีเจ้าตัวจิ๋วนอนอยู่ในนั้น “อะแฮ่มๆ” อาป๊ากระแอมดังๆเรียกสติคนกำลังเห่อให้หันมาสนใจคนแก่ที่นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ “ขอโทษครับเถ้าแก่” “ก็ไม่ได้ว่าอะไรพร้อมจะจัดงานแต่งกันเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกัน อีกอย่างเลิกเรียกอั๊วว่าเถ้าแก่สักที เรากำลังจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนี่ให้เรียกว่าอาป๊าได้แล้ว” “ขอบคุณครับอาป๊า” ร่างสูงยกมือไหว้ผู้เป็นพ่อตาด้วยรอยยิ้มและหยดน้ำตาที่มาจากไหนก็ไม่รู้ได้ รู้แค่เพียงมันตื้นตันเต็มหัวใจ ที่ผ่านอุปสรรคที่คิดว่ายากมากๆมาจนได้ แม้จะเป็นเพราะว่าคุณจี๊ดท้องก็ตามที “ไปๆไม่มีอะไรแล้วก็ออกไปป๊าจะสั่งของสักหน่อย” ผู้เป็นพ่อโบกมือไล่ “อ้าวป๊าจะสั่งอะไรอีกล่ะคะก็เล่าเพิ่งสั่งไปเอง” “ไม่ๆอันนี้ป๊าจะสั่งไว้ให้อาตี๋น้อยในท้องลื้อนั่นแหละอาจี๊ด” ไม่ค่อยจะเห่อเท่าไหร่เลยสินะเตรียมสั่งของมารอรับขวัญทั้งที่ยังเป็นก้อนเนื้ออยู่เลย... “โอ๊ยอาป๊าไม่ต้องรีบก็ได้ยังมีเวลาอีกตั้งหลายเดือนแถมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่” “เอาน่าเรื่องของป๊าไปไหนก็ไปกันอ้ออย่าลืมไปฝากท้องที่โรงพยาบาลกันด้วยล่ะจะได้กินยงกินยาบำรุงหลานป๊าออกมาจะได้แข็งแรงๆไปฝากกันวันนี้เลยก็ได้นี่” “ค่ะๆไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” ว่าแล้วก็ลากแขนผู้เป็นพ่อของลูกเดินออกไปอย่างไว “งั้นเดี๋ยวคุณจี๊ดไปรอผมที่รถก็ได้เดี๋ยวผมขอตัวไปลางานก่อนนะครับ” “ไม่ต้องลาก็ได้นี่คะเป็นถึงลูกเขยเจ้าของโรงงานแล้วนี่” “ไม่ได้หรอกครับถึงยังไงก็ต้องบอกหัวหน้าไว้ก่อน” “ค่าๆตามใจคุณพ่อเลยค่ะเดี๋ยวคุณแม่จะไปรอที่รถแล้วกันนะคะ” “ชอบจังคุณพ่อคุณแม่แล้วก็คุณลูก” กายเอ่ยออกมาสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุขล้น“หัวหน้าครับผมมาขอลางานครึ่งวันนะครับพอดีมีธุระต้องไปทำน่ะครับ”
แม้ตอนนี้สถานะของกายจะเปลี่ยนไปเป็นว่าที่ลูกเขยเจ้าของโรงงานแล้วก็ตาม แต่ทว่าเขาก็ยังเจียมเนื้อเจียมตัวเหมือนเดิมอยู่เสมอไม่เคยอวดอ้างถึงแม้จะไม่จำเป็นต้องมาบอกใครก็ได้ เพราะอีกไม่นานเขาก็คงไม่ได้กลับมาทำหน้าที่นี้อีกแล้ว “จะไปไหนอีกล่ะเดี๋ยวนี้รู้สึกจะเส้นใหญ่นะลาได้บ่อยเหลือเกิน” เสียงร้องถามอย่างไม่ค่อยจะพอใจของเพื่อนร่วมงานด้วยกัน “เห้ยพูดแบบนั้นได้ไงเดี๋ยวก็โดนไล่ออกหรอก” มีเสียงคนทักท้วงตามมา “โธ่ใครๆก็รู้ว่ามันเกาะชายกระโปรงผู้หญิงอยู่ แหม่หวังสูงอยากจะเป็นลูกเขยเถ้าแก่น้ำหน้าอย่างเนี้ยฝันไปเถอะ อีกไม่นานคุณจี๊ดก็คงจะเขี่ยมันทิ้งอยู่ดี” “พวกมึงหุบปากกันซะบ้างก็ดี ผีเจาะปากมาพูดกันรึไงห๊ะ!ไปเถอะกายทางนี้ไม่มีอะไรแล้วไม่ต้องไปฟังเสียงไก่เสียงกามันร้องหรอก” หัวหน้าแผนกช่างเอ่ยปรามลูกน้องแล้วหันมาปลอบลูกน้องคนสนิทอีกที “เอ่อขอบคุณครับหัวหน้า” “พี่กายขาเสร็จรึยังคะ?จี๊ดรอนานแล้วนะคะ เนี่ยจี๊ดโทรไปนัดคุณหมอที่สนิทไว้แล้วเตรียมฝากท้องได้เลยค่ะ” เสียงใสๆดังมาก่อนตัวตามด้วยเรือนร่างอวบอิ่มที่เดินนวยนาดตามเข้ามาในห้องช่างทำเอาทุกฝ่ายเงียบสนิทเมื่อได้ยินคำพูดของเจ้านายอีกคน “คุณจี๊ดครับ...” กายเรียกหญิงสาวพลางส่ายหน้าเบาๆให้ รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะทำอะไร “ไหนๆจี๊ดก็มาแล้วเอาเป็นว่าจี๊ดขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะคะจากนี้ต่อไปพี่กายคงจะไม่ได้มาทำงานที่นี่อีกแล้ว เพราะอีกหน่อยอาป๊าของจี๊ดคงให้ไปช่วยงานท่านแทนยังไงจี๊ดเสียใจด้วยนะคะคุณพิชิตที่ต่อจากนี้จะขาดลูกน้องมือดีอย่างพี่กายไปอีกคนคริคริ” ไม่อยากจะบอกว่าเธอสะใจเสียเหลือเกินที่ได้สีหน้าซีดเผือดของพวกที่ดูถูกพ่อของลูกเธอแบบนี้ เธอได้ยินทุกคำหยามหมิ่นที่พวกเขาเอ่ยออกมาเหยียดหยามพี่กายและมันก็ทำให้เธอทนไม่ได้จนต้องเอาคืนด้วยการประกาศสถานะล่าสุดของเขาซะเลย ฮ่าๆเป็นไงว่าที่ลูกเขยเจ้าของโรงงานยังจะมีใครกล้าว่าหรือนินทาอีกไหม? ถ้ามีอีกล่ะก็แม่จะไล่ออกให้หมด พวกไม่เอาการเอางานแล้วยังมาแอบอิจฉาริษยาคนอื่นเค้าอีก... . . .วันต่อมาผมก็พาพี่ปรางกลับบ้านที่มีลูกชายเธอและเพื่อนสนิทผมนั่งหน้าบอกบุญไม่รับรออยู่ก่อนแล้ว“แม่ไปไหนมาทำไมไม่กลับบ้านแล้วนี่ไปไหนกันมา”เมื่อมาถึงคิวก็เดินดุ่มๆเข้ามาถามสีหน้าและแววตาเกรี้ยวกราดสุดฤทธิ์คนเป็นแม่ได้แต่ก้มหน้านิ่งเพราะรู้ว่าตัวเองผิดจริงๆ“ว่าไงไอ้โจ้มึงพาแม่กูไปไหนมาทั้งคืนทำไมถึงเพิ่งกลับมากันป่านนี้”“คือ..ว่าไอ้คิวมึงฟังกูพูดก่อนนะคือ..” ผมเองก็ยังหวาดๆกับสีหน้าเกรี้ยวกราดของมันจนถึงขั้นตัวลีบเลยทีเดียว“ฟังเหี้ยอะไร!มึงพาแม่กูหายไปทั้งคืนเนี่ยนะไอ้สัสโจ้” ไอ้คิวตะคอกใส่ผมเสียงดีังลั่น“คิวใจเย็นๆก่อนนะลูกค่อยๆพูดกันก็ได้” พี่ปรางพยายามปลอบไอ้คิวเสียงอ่อนพลางลูบหลังมันเบาๆ“งั้นแม่ก็บอกมาดิว่าหายไปไหนกับมันมาทั้งคืน” ไอ้คิวตะคอกใส่พี่ปรางจนหน้าเสีย“ไอ้สัสคิวมึงอย่าตะคอกใส่แม่มึงแบบนั้นสิวะ” พอเห็นเมียผมหน้าเสียแบบนั้นก็อดสงสารไม่ได้“อย่าเสือกนี่แม่กู!”“แม่มึงแต่เมียกู!”“ไอ้สัสโจ้!”ผลั๊ว!เสียงหมัดหนักๆกระแทกเข้าที่ตรงปากและจมูกผมพอดีจนมึนไปชั่วครู่สักพักลิ่มเลือดก็ไหลออกมาจากมุมปากผมเล็กน้อย“ว๊าย!อย่านะลูกหยุดๆ” พี่ปรางร้องไห้เสียงดังพยายามรั้งแขนไอ้คิวไม่ให
บันทึกพิเศษปรางในความเย็นเยียบที่ได้รับทำให้ฉันรู้สึกหนาวจนสั่นสะท้านวาบไปทั่วทั้งร่างกายรับรู้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆแต่ทว่า...ผ้าห่มไปไหน?รู้สึกได้ว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าซึ่งนั่นเป็นปกติเวลาที่ฉันเข้านอนจะชอบโนบราและแก้ผ้านอนเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ว่าทำไมคืนนี้มันหนาวผิดปกติกันนะแม้จะแปลกใจแต่มือฉันก็ปัดป่ายควานหาผ้าห่มที่คาดว่าตัวเองน่าจะถีบออกจากตัวไปอยู่มุมไหนสักที่นั่นแหละ คลำหาไปได้สักพักก็รู้สึกว่าตัวเองไปคว้าหมับเข้ากับอะไรสักอย่างที่มัน ‘ร้อนผ่าว’ และนุ่มนิ่มมือ เมื่อเห็นว่าเออจับแล้วมันก็อุ่นดีฉันก็เลยจับๆขยำๆไปเรื่อยๆสักพักอ้าวเห้ย!ทำไมมันใหญ่ขึ้นวะ?แถมมันยังแข็งและร้อนราวกับอังไฟมา รูปร่างลักษณะมันคลับคล้ายคลับคลาเหมือนกับ....ไอ้นั่นของผู้ชาย!แม้จะไม่อยากลืมตาตื่นสักเท่าไหร่แต่ความสงสัยก็ทำให้ฉันต้องตื่นลืมตามองสิ่งที่อยู่ในมือ แต่แวบแรกเลยทีเห็นคือแผงอกแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามลากสายตาลงมาก็หน้าท้องหนั่นแน่นชวนให้ลูบไล้ขยำเล่นดีจังถัดมาก็เออ!นั่นแหละฉันกำลังจับไอ้นั่นของเพื่อนลูกชายอยู่ แถมไม่ได้จับธรรมดานะทั้งลูบคลึงขยำชักรูดชักลงอีกต่างหาก ให้ตายเถอะนี่เธ
โรมแรมม่านรูดไม่ไกลจากห้างดังเสียงปิดประตูรถดังปังทันทีที่เด็กรับรถรูดม่านมาปิดไว้ผมยื่นเงินค่าห้องให้เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมพร้อมทั้งทิปแล้วดึงมือพี่ปรางลากเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็วเมื่อครู่แม้จะปลดปล่อยไปแล้วครั้งนึงแต่ทว่าตรงหน้าขาผมยังแข็งปึ๋งผงาดทิ่มเนื้อผ้ากางเกงออกมาให้ได้เห็น ปวดไปหมดสงสัยมันอยากจะทลวงเข้าไปในช่องแคบอีกครั้งเสียแล้ว“อ๊ะ..เบาๆ หน่อยสิชั้นเจ็บนะ” พี่ปรางดุเบาๆ ในตอนที่ถูกผมดันร่างเธอเข้ากับพื้นผนังเย็นเยียบอย่างแรง“ขอโทษ...ผมทนไม่ไหวต้องตายแน่ๆ ถ้าไม่ได้กระแทกพี่ตอนนี้” ผมงึมงำเบาๆ ขณะริมฝีปากไล่ขบเม้มซอกคอเนียนหอมละมุน“ซี๊ดดดดด~~บ้าเวอร์ไปล่ะไปอดอยากจากไหนมาห๊ะ...”“ฮื้มม~ตัวพี่หอมจัง...พี่ไม่รู้หรอที่จริงผมอยากแล้วก็แข็งตั้งแต่เห็นพี่ที่สระว่ายน้ำแล้ว” เสียงผมสั่นกระเส่าอยากไม่อาจห้ามได้ ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนลอยมามังกรยักษ์ก็อยากโผล่หัวมาทักทายเหยื่อสาวเสียแล้ว“หมายความว่าเมื่อคืนเธอแอบดูพี่ที่สระด้วยหรอ” พี่ปรางดันหน้าผมออกจากเนินอกเธอแล้วถามเสียงเข้ม“อื้ม..ก็เมื่อคืนผมนอนไม่หลับกะว่าจะไปเดินเล่นเฉยๆ ใครจะไปรู้ว่าจะได้เจอเงือกสาวแสนสวยใส่บิกินี่
คืนนั้นหลังจากถูไถแค่ภายนอกจนเสร็จสมอารมณ์หมายด้วยกันทั้งคู่ดึกๆช่วงตีสี่กว่าๆผมก็ย่องออกมานอนที่ห้องของตัวเองที่ไอ้คิวมันจัดไว้ให้แล้วหลับต่อไปยันสายตรู่ทั้งผมทั้งไอ้คิวต่างตื่นสายด้วยกันทั้งคู่โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์เราไม่ต้องรีบตื่นไปเรียน ส่วนแม่ไอ้คิวผมยังไม่เห็นเลยนะสงสัยจะเขิน“ไงมึงหลับสบายดีไหมบ้านกู” เสียงไอ้คิวถามพลางยิ้มอารมณ์ดี แน่ล่ะสิเมาหลับไปตั้งแต่หัวค่ำละมั้ง“อืม..ดีมากกูหลับสนิทเลย” เสียไปตั้งหลายน้ำจะไม่หลับได้ยังไง!“มากินข้าวก่อนนี่แม่กูทำข้าวต้มปลาไว้ให้มึงจะเอากาแฟไหมกูจะได้ให้พี่สมพรไปชงมาให้”“เออเอาก็ได้” ผมพยักหน้ารับรู้สึกอยากได้คาเฟอีนเข้ามาในร่างกายเหมือนกันเพราะเช้านี้รู้สึกไร้เรี่ยวแรงจริงๆฝีมือทำกับข้าวของแม่ไอ้คิวก็อร่อยดีนะ ส่วนคนทำไม่รู้หนีหายไปไหนแล้วผมมองๆหาก็ไม่ยักจะเห็นเลย“เออแล้วนี่แม่มึงไปไหนหรอวะ”“ไม่รู้เหมือนกันว่ะสงสัยอยู่บนห้องมั้งว่าแต่มึงเถอะวันนี้จะไปไหนต่อเปล่า”“ไม่รู้ว่ะเบื่อๆคงนอนอยู่บ้านแหละกูขี้เกียจออก”“ไปดูหนังกับกูไหมล่ะพอดีกูชวนแม่ไปดูหนังรอบบ่ายมึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิไปกับแม่สองคนกูอาย” ไอ้คิวมันบอกในขณะที่ผมนึกขำ
หญิงสาวผมเผ้าหลุดรุ่ยเนื้อตัวเปลือยเปล่ามองหนุ่มรุ่นลูกตาปรอยเนื้อตัวสั่นระริกราวกับจะอ้อนวอนขอให้เด็กหนุ่มช่วยเติมเต็มสิ่งที่เธอขาดหายไปหลายสิบปีให้หน่อย เด็กหนุ่มหลุบตามองริมฝีปากอิ่มเอิ่มที่แย้มออกดูเย้ายวนชวนให้คลุกเคล้าดื่มด่ำความหวานหอมในโพลงปากนุ่มเหลือเกิน“อื้อออออออ” เสียงหวานครางกระเส่าในลำคอเมื่อถูกเด็กหนุ่มบดจูบอย่างดูดดื่ม เรียวลิ้นอุ่นชื้นพลิกไล้ไปตามไรฟันขาวสะอาดเลาะเล็มน้ำหวานตามโพลงปากด้านในจนน้ำลายของทั้งสองคนไหลย้อยออกมาตามมุมปาก“ชอบไหม?ชอบให้ผมสัมผัสแบบนี้ไหมครับ” เสียงทุ้มแหบพร่าของเพื่อนลูกดังขึ้นอีกครั้งที่ข้างใบหูพร้อมกับลมร้อนที่เขาเป่าใส่อย่างยั่วเย้าหลังจากที่เขาละริมฝีปากออกปล่อยให้เธอได้หายใจหายคอออกบ้างหลังจากที่ถูกจูบดูดวิญญานเข้าไปหลายนาทีจากนั้นก็ลากริมฝีปากลงมายังซอกคอขาวเนียนดูดกลืนผิวเนื้ออ่อนหอมละมุนจนมันขึ้นสีคล้ำเป็นจ้ำแล้วก็ลากลงมาไซร์เนินอกอวบอิ่มเบียดชิดชูชันตั้งตะหง่านอีกครั้ง“อื้มมมมม” มีเพียงเสียงครางอื้ออึงไม่ได้สรรพ์ดังตอบรับการกระทำแค่นั้น นาทีนี้หัวสมองเธอว่างเปล่าไปหมดครุ่นคิดอะไรไม่ออกแม้แต่นิด“แม่ครับ...ผมขอเลียหน่อยนะครับ” คำพูด
ร่างขาวโพลนในชุดบิกินี่ตัวจิ๋วที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในสระท่ามกลางไฟที่สาดส่องพอให้เห็นสลัวๆชวนให้ผมนึกจินตนาการถึงนางเงือกแสนสวยที่แหวกว่ายวนไปมาขาเรียวขาวได้รูปไร้ไขมันปะปนที่กำลังตีขาบนน้ำก็ดูน่าหลงใหลชวนให้นึกถึงเวลาที่ขาเรียวงามสองข้างมาพาดบนบ่ากว้างของผมมันคงให้ความรู้สึกดีไม่น้อยเลยทีเดียวบิกินี่สีแดงสดช่างขับผิวของแม่ไอ้คิวได้ดีเหลือเกินเพราะเมื่อมันทาบลงบนร่างอรชรยิ่งทำให้ตัดกับสีผิวขาวผ่องไปทั้งตัวจริงๆ สายเส้นเล็กๆที่เกาะต้นคอเนียนนั่นดูเกะกะตาดีเหลือเกินเห็นแล้วผมอยากกระตุกมันออกทิ้งไปไม่นานเหมือนว่าแม่ไอ้คิวคงจะว่ายน้ำจนเหนื่อยแล้วมั้ง ร่างบอบบางของเธอจึงเดินขึ้นมานั่งบนขอบสระ หลังจากนั้นเธอก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้มาเจอวันนี้นั่นก็คือแม่ไอ้คิวปลดบิกินี่ทั้งท่อนบนและท่อนล่างออกจนเหลือแต่เนื้อตัวเปลือยเปล่าท้าสายลมจากนั้นก็หยิบเสื้อคลุมมาสวมช้าๆราวกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไรที่อยู่ๆก็แก้ผ้าท้าลมหนาวเช่นนี้ขนผมลุกซู่หอบหายใจรัวเลยล่ะรู้สึกว่าหัวใจทำงานหนักมากเวลานี้ ไม่ใช่แต่ขนนะที่ลุก ‘อย่างอื่น’ ผมก็ลุกเช่นกัน‘ให้ตายเถอะนี่แม่เพื่อนนะไอ้โจ้ท่องไว้แม่เพื่อน...แม่เพื่







