Home / โรแมนติก / เร้นรักจองจำร้าย / ตอนที่ 5 กวาดล้างขยะ

Share

ตอนที่ 5 กวาดล้างขยะ

            ภายในห้องทำงานประธานบริษัท วรโชติเมธี กรุ๊ป เสียงโวยวายของวิไลค่อย ๆ เงียบหายไป พร้อมกับเสียงประตูลิฟต์ที่ปิดลง รปภ. สองคนทำหน้าที่ลากตัวอดีตผู้บริหารและภรรยาออกไปจากตึกตามคำสั่งเด็ดขาด ทิ้งไว้เพียงความเงียบงันและความอึดอัดที่ยังคงตกค้างอยู่ในชั้นผู้บริหาร

            ระรินธรถอนหายใจออกมาเบา ๆ ไหล่ที่ตั้งตรงอย่างสง่าผ่าเผยเมื่อครู่ผ่อนคลายลงเล็กน้อยเมื่อลับหลังคนนอก เธอหันไปมองกวินทร์ที่กำลังยืนพิงโต๊ะประชุมด้วยท่าทีสบาย ๆ

            “ขอบใจมากนะวิน ที่เล่นตามบทได้แนบเนียนขนาดนี้”

            “ยินดีรับใช้ครับเจ้านาย” กวินทร์ยักคิ้วล้อเลียน “แต่คุณเล่นบทนางร้ายได้สมจริงกว่าผมเยอะเลยนะ เล่นเอาคุณวิไลดิ้นพราดเหมือนโดนน้ำร้อนลวกเลย”

            “นั่นยังน้อยไปสำหรับสิ่งที่พวกเขาทำกับแม่ฉัน” ระรินธรเดินตรงไปยังประตูไม้สักบานใหญ่ที่สลักป้ายสีทองว่า ‘ประธานกรรมการ’ เธอผลักประตูเข้าไป... ห้องที่เคยเป็นอาณาจักรของแม่ผู้ให้กำเนิดแต่สภาพภายในกลับทำให้คิ้วเรียวขมวดมุ่น

            ห้องทำงานที่เคยตกแต่งด้วยสไตล์คลาสสิกเรียบหรู บัดนี้เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์หลุยส์สีทองอร่ามดูราคาแพงแต่ไร้รสนิยม รูปภาพงานศิลปะหายากถูกปลดออก แทนที่ด้วยรูปถ่ายขนาดใหญ่ของวิไลในชุดราตรีเวอร์วัง

            “รสนิยมต่ำชะมัด!” ระรินธรพึมพำด้วยความขยะแขยง... เธอเดินตรงไปที่โต๊ะทำงาน... และกวาดกองเอกสารรวมถึงกรอบรูปครอบครัวจอมปลอมของพ่อกับแม่เลี้ยงลงถังขยะอย่างไม่ไยดี ก่อนจะกดโทรศัพท์ภายในเรียกเลขาฯ หน้าห้องเข้ามา

            “ค่ะ... คุณระรินธร” เลขาฯ สาวคนเดิมเดินตัวสั่นเข้ามาด้วยความหวาดกลัว

            “แจ้งฝ่ายอาคาร ให้เอาเฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้ออกไปทิ้งให้หมดภายในหนึ่งชั่วโมง ฉันต้องการห้องโล่ง ๆ” ระรินธรสั่งเสียงเรียบ แต่เฉียบขาด

            “แล้วตามหัวหน้าฝ่ายบัญชีและการเงินมาพบฉันด่วน ฉันต้องการตรวจสอบงบดุลย้อนหลัง 5 ปี เดี๋ยวนี้!”

            “ดะ... เดี๋ยวนี้เลยเหรอคะ? แต่หัวหน้าฝ่ายบัญชีแจ้งว่ากำลังจะออกไปทานข้าว...”

            ระรินธรตวัดสายตามองเลขาฯ ด้วยสายตาเรียงนิ่งแฝงไว้ซึ่งความเย็นเยียบที่ยิ่งกว่าภูเขาน้ำแข็ง

            “บอกเขาว่าถ้าไม่อยากถูกแจ้งความข้อหายักยอกทรัพย์ร่วมกับผู้บริหารชุดเก่า ก็ให้รีบหอบสังขารมาพบฉัน... และถ้าเอกสารหายไปแม้แต่หน้าเดียว ฉันจะส่งทีมทนายไปคุยกับเขาที่บ้าน”

            “รับทราบค่ะ!” เลขาฯ รีบวิ่งออกไปทันที

            กวินทร์เดินตามเข้ามาในห้อง ผิวปากแซว “โหดใช้ได้... คุณกะจะเช็กบิลละเอียดเลยเหรอ?”

            “แน่นอน” ระรินธรนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานชั่วคราว แววตาเป็นประกายมุ่งมั่น “ฉันไม่ได้จะแค่ไล่พวกเขาออก แต่วิไลฉลาดแกมโกง ยัยนั่นต้องแอบถ่ายเทเงินออกไปซ่อนไว้ที่อื่นแน่ ๆ       ฉันต้องทำ Forensic Accounting (การบัญชีนิติวิทยา)[1] เพื่อตามเส้นทางการเงิน ถ้าเจอหลักฐานเมื่อไหร่... คุกคือที่อยู่ใหม่ของสองผัวเมียนั่น”

            เธอกางแท็บเล็ตขึ้นมา เปิดดูข้อมูลโครงการที่ค้างคาอยู่ “อีกอย่าง... ฉันต้องรีบกู้ภาพลักษณ์บริษัท ภารกิจแรกของเราคือต้องหาบิ๊กโปรเจกต์... มาสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนเห็นว่า การเปลี่ยนผู้บริหารครั้งนี้คือการก้าวกระโดด ไม่ใช่ความล้มเหลว”

            นิ้วเรียวชี้ไปที่ข่าวหน้าหนึ่งในเว็บไซต์ธุรกิจ ‘อัครเดชา กรุ๊ป เตรียมเปิดประมูลงานตกแต่งภายใน โครงการริเวอร์ไซด์ ไอคอนิค มูลค่า 500 ล้านบาท’

            กวินทร์มองตามแล้วร้องอ๋อ “คุณจะเล่นของสูงเลยเหรอ? นี่มันงานของดลลวิญ์นะ เขาเกลียดหน้าคุณจะตาย เขาไม่มีทางเลือกบริษัทวรโชติฯ... เอ้ย บริษัทคุณทำงานแน่”

            “ในนาม วรโชติเมธีเขาคงไม่เลือก...” ระรินธรยิ้มมุมปาก สายตาเจ้าเล่ห์ “แต่ถ้าเป็นในนาม Irene Design Studio ที่เพิ่งเปิดตัวเป็นพาร์ทเนอร์ใหม่ของฟีนิกซ์ล่ะ? เขาจะปฏิเสธดีไซเนอร์ระดับโลกได้ลงคอเหรอ?”

            “ร้ายกาจ...” กวินทร์หัวเราะชอบใจ “คุณจะใช้ชื่อไอรีนล่อซื้อเขา แล้วให้ตัวคุณในคราบเลขาฯ เป็นคนประสานงาน... แบบนี้ท่านประธานดลคงได้ปวดหัวจนเส้นเลือดสมองแตกแน่”

            หนึ่งชั่วโมงต่อมา บริเวณโถงล็อบบี้ชั้นล่าง

            หลังจากหญิงสาวสั่งงานรื้อระบบบัญชีเสร็จสิ้น ระรินธรเดินลงมาพร้อมกวินทร์เพื่อเตรียมตัวกลับ แต่ทว่า... ที่บริเวณโซฟารับรองแขก... ร่างสูงสง่าของใครบางคนยังคงนั่งรออยู่

            ดลลวิญ์วางนิตยสารธุรกิจในมือลงเมื่อเห็นเธอเดินออกมา เขาไม่ได้กลับไปทันทีหลังจบการประชุม แต่จงใจนั่งรอเพื่อจับผิดอะไรบางอย่าง

            “นึกว่าท่านประธานดลจะกลับไปนานแล้วเสียอีก” ระรินธรทักทายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่แสดงอาการตกใจที่เห็นเขา

            ดลลวิญ์ลุกขึ้นยืนล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกงก้าวเข้ามาขวางทางเธอ สายตาคมกริบมองข้ามกวินทร์ไปจ้องที่เธอโดยตรง

            “ผมแค่อยากดูให้แน่ใจ... ว่าบริษัทที่กำลังจะเจ๊ง จะรอดพ้นเงื้อมมือยมทูตไปได้กี่วัน ในเมื่อคนบริหารคือกองทุนหน้าใหม่ กับ... ผู้ช่วยที่ไม่มีประสบการณ์”

            “ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ” ระรินธรสบตาเขาอย่างตรงไปตรงมา “แต่คนอย่างฉัน เรียนรู้เร็วค่ะ โดยเฉพาะเรื่องการเอาตัวรอดจาก คนใจดำ... เธอเน้นเสียง... ฉันยิ่งเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ”

            ดลลวิญ์หรี่ตาลง “เธอเปลี่ยนไปเยอะนะระรินธร... จากผู้หญิงที่เอาแต่ก้มหน้าหลบตา กลายเป็น...” เขากวาดตามองชุดสูททำงานของเธอ “เลขาฯ ปากกล้าที่ดูมั่นใจเกินตัว”

            เขาขยับเข้าไปใกล้เธออีกนิดจงใจกดดัน “ถามจริง ๆ เถอะ... ที่ได้ตำแหน่งนี้มาเพราะความสามารถหรือเพราะใช้เต้าไต่เหมือนที่เคยพยายามจะทำกับฉัน?”

            คำดูถูกที่สาดใส่หน้าทำให้กวินทร์ทนไม่ไหวจะพุ่งเข้าใส่เขา “คุณดลลวิญ์! ให้เกียรติลูกน้องผมด้วย!”

            แต่ระรินธรยกมือห้ามกวินทร์ไว้ เธอไม่มีท่าทีโกรธเคืองหรืออับอายแม้แต่น้อย กลับกัน... เธอหัวเราะเบาๆ ราวกับได้ยินเรื่องตลก

            “คุณนี่... มีปมเรื่องบนเตียงเหรอคะ?” เธอสวนกลับนิ่ม ๆ “เห็นผู้หญิงทำงานเก่งหน่อย ก็คิดไปแต่เรื่องใต้สะดือ... น่าสงสารนะคะ เป็นถึง CEO หมื่นล้าน แต่วิสัยทัศน์คับแคบมองคนแค่เปลือก”

            “นี่เธอ...!” ดลลวิญ์หน้าตึงขึ้นมาทันที

            “ฟังนะคะคุณดลลวิญ์” เธอขยับหน้าเข้าไปใกล้เขา ท้าทายอำนาจมืดในดวงตาคู่นั้น “ตำแหน่งของฉัน ได้มาเพราะฉันมีสมอง และฉันรู้ว่าอะไรคือขยะ... ที่ควรเขี่ยทิ้ง อะไรคือเพชรที่ควรรักษา... ต่างจากคุณที่แยกแยะไม่ออก จนปล่อยเพชรหลุดมือไป แล้วเก็บก้อนกรวดไว้ข้างตัว”

            เธอจงใจกระทบถึงพิมดาว (นางแบบสาว) ที่เขากำลังควงอยู่ และกระทบถึงตัวเธอเองในอดีตที่เขาโยนทิ้ง

            “ขอตัวนะคะ ฉันมีงานต้องทำ... ไม่ได้ว่างมานั่งจับผิดใครเหมือนคนว่างงาน”

            ระรินธรเดินเชิดหน้าผ่านเขาไปอย่างสง่างาม ทิ้งกลิ่นน้ำหอมกุหลาบจาง ๆ ไว้ให้... ดลลวิญ์ถึงกับขบกรามแน่นด้วยความเจ็บใจเนื่องจากเข้าใจความหมายในคำพูดของเธอ

            เขาหันมองตามหลังแผ่นบางของหญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยนอนอยู่กับเขาโดยที่เขาไม่เต็มใจ... ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ระรินธรคนเดิมที่เขารู้จักอีกต่อไปแล้ว หรือเขาอาจจะไม่เคยรู้จักเธอเลยก็ได้

            แต่เท่าที่สัมผัสได้ตอนนี้... เธอคนนี้ทั้งฉลาด ปากคอเราะร้าย และมีความลับซ่อนอยู่เต็มไปหมด

            “ผู้ช่วยส่วนตัวงั้นเหรอ...” ดลลวิญ์พึมพำกับตัวเอง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเลขาฯ ส่วนตัว

            “พีท... ไปสืบประวัติ ระรินธร สิริมันตรามาให้ละเอียดที่สุด ฉันอยากรู้ว่า 6 ปีที่ผ่านมา เธอไปมุดหัวอยู่ที่ไหน และไปทำอะไรมา ถึงได้กลับมาผยองได้ขนาดนี้!”

            สงครามประสาทระหว่างอดีตคู่หมั้นได้เริ่มขึ้นแล้ว... และครั้งนี้ระรินธรสาบานกับตัวเองว่าเธอจะไม่ใช่ฝ่ายที่ต้องร้องไห้อีกต่อไป

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

[1] การบัญชีนิติวิทยา (Forensic Accounting) หรือที่บางครั้งเรียกว่า “การบัญชีสืบสวน” หรือ “การบัญชีเพื่อการฟ้องร้อง” คือ การนำความรู้ด้านบัญชี การตรวจสอบบัญชี การเงิน และกฎหมาย มาประยุกต์ใช้ในการสืบสวนข้อเท็จจริงทางการเงิน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในกระบวนการยุติธรรม หรือป้องกันการทุจริต

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เร้นรักจองจำร้าย   ตอนที่ 11 หาความจริง

    [คฤหาสน์อัครเดชา] รถสปอร์ตหรูสีดำเลี้ยวเข้ามาจอดเทียบหน้าประตูคฤหาสน์หลังงามด้วยความเร็วที่ทำเอาเหล่าคนรับใช้สะดุ้งโหยง เสียงเบรกดังสนั่นบ่งบอกถึงอารมณ์ที่คุกรุ่นของเจ้าของรถได้เป็นอย่างดี ดลลวิญ์ก้าวลงจากรถด้วยใบหน้าถมึงทึง เขาโยนกุญแจรถให้พ่อบ้านโดยไม่พูดจา ก่อนจะเดินดุ่ม ๆ ขึ้นไปยังห้องนอนส่วนตัวอย่างรวดเร็ว... ทิ้งให้ทุกคนในบ้านมองหน้ากันเลิ่กลั่กด้วยความหวาดกลัว เพราะร้อยวันพันปีนายน้อยของบ้านไม่เคยหลุดมาดขรึมให้เห็นขนาดนี้ ปัง! ประตูห้องนอนถูกกระแทกปิดลง ดลลวิญ์เหวี่ยงเสื้อสูทราคาแพงลงบนพื้นอย่างไม่ไยดี ร่างกายของเขายังคงเหนียวเหนอะหนะจากคราบไคลและร่องรอยของค่ำคืนที่บ้าคลั่ง... ร่องรอยที่เขา ‘คิดว่า’ เป็นของระรินธร แต่กลับตื่นมาพบพิมดาว&n

  • เร้นรักจองจำร้าย   ตอนที่ 10 เป็นไปไม่ได้!!!

    [เช้าวันรุ่งขึ้น] แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านม่านเข้ามา ดลลวิญ์ขยับตัวตื่นด้วยความปวดร้าวไปทั้งหัว ความทรงจำเมื่อคืนค่อย ๆ ไหลย้อนกลับมาเป็นฉาก ๆ สัมผัสร้อนแรง... กลิ่นกุหลาบหอมกรุ่น... เสียงครางหวาน ๆ ของระรินธร... และความสุขสมที่เขาได้รับ “ริน...” เขายิ้มออกมาทั้งที่ตายังปิดอยู่ วาดแขนไปกระชับกอดร่างนุ่มนิ่มที่นอนเปลือยเปล่าอยู่ข้างกายอย่างหวงแหน “เมื่อคืนคุณยอดเยี่ยมมาก... ผมจะไม่ปล่อยคุณไปอีกแล้ว” แต่แล้ว... ปัง! ปัง! ปัง! เสียงทุบประตูดังสนั่นหวั่นไหว ดลลวิญ์สะดุ้งลืมตาตื่นอย่างหัวเสีย “ใครวะ!

  • เร้นรักจองจำร้าย   ตอนที่ 9 ภาพลวงตาแห่งราคะ

    สิ่งที่พิมดาวทำ... ไม่อาจรอดพ้นสายตาดุจเหยี่ยวของกวินทร์ ชายหนุ่มที่ยืนสังเกตการณ์อยู่มุมมืดเห็นจังหวะที่บริกรส่งแก้วให้ดลลวิญ์ และเห็นรอยยิ้มมุมปากของพิมดาวที่ยืนอยู่อีกฝั่ง เขาอ่านเกมออกทะลุปรุโปร่งทันที “ร้ายนักนะแม่คุณ...” กวินทร์พึมพำ ก่อนจะรีบเดินเข้าไปประชิดตัวระรินธรที่เพิ่งเดินออกมาจากระเบียงด้วยอารมณ์คุกรุ่น “ริน... ฟังผมนะ” กวินทร์กระซิบเสียงเครียด “พิมดาววางยาดลลวิญ์... เมื่อกี้เขาเพิ่งดื่มเครื่องดื่มแก้วนั้นเข้าไป เต็ม ๆ” ระรินธรชะงัก ดวงตาเบิกกว้าง “นายว่าไงนะ? ยัยนั่นกล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?” “ใช่ แผนของเธอคงกะจะรวบหัวรวบหางดลคืนนี้เพื่อจับให้อยู่หมัด” กวินทร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ “แต่ผมเตรียมแผนแก้เผ็ดไว้แล้ว... ผมเตรียมผู้หญิงหากินไว้คนหนึ่

  • เร้นรักจองจำร้าย   ตอนที่ 8 กรงขังแห่งราตรี

    ภายในโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา - งานกาล่าดินเนอร์เปิดตัวโครงการ Riverside Iconic แสงไฟสปอตไลต์สาดส่องไปทั่วห้องบอลรูมที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นงานเลี้ยงสุดหรูหรา บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความมั่งคั่งและอำนาจของ ‘อัครเดชา กรุ๊ป’ เจ้าภาพในค่ำคืนนี้ จุดศูนย์กลางของความสนใจย่อมหนีไม่พ้นโมเดลโครงการคอนโดมิเนียมริมน้ำมูลค่าพันล้าน และดลลวิญ์เจ้าของโปรเจกต์ผู้ทรงอิทธิพล ทว่า... บรรยากาศราบรื่นเหล่านั้นกลับสะดุดลง เมื่อประตูบานใหญ่เปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของแขกที่ไม่ได้รับเชิญในสายตาคนทั่วไป แต่กลับเป็นผู้ท้าชิงที่น่าจับตามองที่สุด ร่างระหงในชุดราตรียาวสีแดงเบอร์กันดีผ่าสูงโชว์เรียวขาขาวเนียนก้าวเข้ามาในงานด้วยความสง่าผ่

  • เร้นรักจองจำร้าย   ตอนที่ 7 รอยร้าวที่ถูกซ่อมแซม

    เช้าวันรุ่งขึ้น ที่อาคารสำนักงานใหญ่สิริมันตรากรุ๊ป... บรรยากาศภายในบริษัทวันนี้คึกคักและตึงเครียดกว่าปกติ ข่าวการกลับมาของทายาทเพียงคนเดียวของอดีตท่านประธานแพร่สะพัดไปทั่วทุกแผนกตั้งแต่เมื่อวาน พนักงานต่างจับกลุ่มซุบซิบและชะเง้อมองไปทางลิฟต์ผู้บริหารอย่างใจจดใจจ่อ เวลา 09:00 น. ตรง... ประตูลิฟต์เปิดออก พร้อมกับการปรากฏตัวของระรินธรในชุดสูทกางเกงสีขาวงาช้างคัตติ้งเนี้ยบกริบจากแบรนด์ดัง รองเท้าส้นสูงหัวแหลมสีนู้ดเสริมบุคลิกให้ดูสง่างามและคล่องตัว ผมยาวสลวยถูกรวบตึงเป็นหางม้าต่ำเผยให้เห็นโครงหน้าสวยเฉี่ยวที่แต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างประณีต เธอเดินก้าวเข้ามาในโถงทางเดินด้วยท่วงท่ามั่นใจ โดยมีกวินทร์เดินขนาบข้างในฐานะที่ปรึกษาและเลขาฯ ส่วนตัว “สวัสดีค่ะคุณระรินธร ดิฉันวิภาเลขาฯ ของคุณวิไลเอ่อ... ท่านรักษาการประธานค่ะ” หญิงวัยกลา

  • เร้นรักจองจำร้าย   ตอนที่ 6 อ้อมกอดเล็ก ๆ ในมุมพักใจ

    ภายในรถตู้ส่วนตัวของกวินทร์ ระหว่างเดินทางกลับคอนโดหลังจากประตูรถปิดลงตัดขาดความวุ่นวายและสายตาจับผิดจากภายนอก หน้ากากนางสิงห์ผู้เย่อหยิ่งที่สวมใส่มาตลอดช่วงบ่ายก็ถูกปลดออก ระรินธรทิ้งตัวลงพิงเบาะหนังอย่างอ่อนล้า หลับตาลงเพื่อพักสายตาจากการปะทะคารมที่สูบพลังงานชีวิตไปไม่น้อย “เหนื่อยไหมครับคุณเลขาฯ?” กวินทร์เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มพร้อมยื่นขวดน้ำแร่เย็นเจี๊ยบให้เธอ “วันนี้คุณทำได้ยอดเยี่ยมมาก ทั้งเรื่องไล่บี้แม่เลี้ยง แล้วก็เรื่องตอกหน้าท่านประธานดล” ระรินธรรับน้ำมาจิบ พลางระบายลมหายใจยาว “เหนื่อยสิ... เหนื่อยที่ต้องปั้นหน้าเย็นชา ทั้งที่ในใจอยากจะกรี๊ดออกมาให้รู้แล้วรู้รอดตอนที่เห็นสภาพห้องทำงานแม่เละเทะแบบนั้น” “แต่คุณก็คุมสติได้ดี” กวินทร์เอ่ยชมจากใจจริง “แถมยังทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้ดลลวิญ์สงสัยเล่นอีกต่างหาก ป่านนี้เขาคงสั่ง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status