Beranda / รักโบราณ / เร้นรักสลับดวงชะตา / บทที่ 3 ท่านหญิงแปลกไป (2)

Share

บทที่ 3 ท่านหญิงแปลกไป (2)

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-27 12:00:34

น่าเสียดายที่ยามนั้นดวงตาของหลี่เสวี่ยซินมองไม่เห็น จึงไม่อาจอ่านจดหมายฉบับนั้นด้วยตาตนเอง หญิงตรงหน้ายอบกายลงแช่มช้า เสียงแหลมกระซิบเบาทว่ากลับเจือไปด้วยความคำพูดเสียดแทงใจ “เขาให้เจ้าเขียนหนังสือหย่าซะ”

จากรอยยิ้มดีใจก็เลือนหายในพริบตา ความเสียใจระคนผิดหวังถาโถมเข้าใส่ดุจดั่งคลื่นลูกใหญ่ซัดสาด “มะ…ไม่มีทาง ท่านพี่ไม่มีทางทำเช่นนั้น”

“จะไม่มีทางได้อย่างไร ท่านพี่เทียนเฉินมีข้าแล้ว ส่วนเจ้าแม้แต่ฐานะสาวใช้ก็ไม่คู่ควร ลงนามในหนังสือหย่าแล้วไสหัวกลับบ้านเดิมของเจ้าไปเสีย อย่ามาเป็นตัวถ่วงของตระกูลลั่ว” หวางเหยาโยนหนังสือหย่าลงตรงหน้าหลี่เสวี่ยซิน

มือเรียวสั่นระริกคว้ากระดาษเนื้อหยาบสะเปะสะปะ “โอ๊ย”

หลี่เสวี่ยซินร้องเสียงหลง เมื่อจู่ ๆ หลังมือของนางก็ถูกพื้นแข็งกระด้างจากรองเท้าบดขยี้ลงมา หวางเหยาหัวเราะเสียงเย็น “นังตาบอด เจ้าไร้ความสามารถเพียงนี้คิดว่าท่านพี่เทียนเฉินจะยังเก็บเจ้าเอาไว้รึ ฝันลม ๆ แล้ง ๆ”

หลี่เสวี่ยซินสับสนจนพูดไม่ออก นางไม่ร้องโวยวายทว่าภายในใจร้าวระบมดุจถูกเข็มนับพันหมื่นเล่มค่อย ๆ ทิ่มแทงลงไป เท้าที่เหยียบลงเมื่อครู่ขยับออก แต่ยังทิ้งร่องรอยความปวดร้าวเอาไว้

“อึ้งอะไรของเจ้า นังตาบอด จะลงนามดี ๆ หรือให้ข้าตัดนิ้วของเจ้าแล้วเอาเลือดประทับ”

หลี่เสวี่ยซินกลืนก้อนที่จุกขึ้นกลางลำคอลงไป หญิงสาวแค่นหัวเราะเสียงกังวาน น้ำสีใสหลั่งลงสองข้างแก้มทว่ากลับไร้ซึ่งเสียงสะอื้น

“ท่านป้า นังตาบอดนี่เสียสติไปแล้วเจ้าค่ะ หัวเราะน่าเกลียดเยี่ยงนี้คงอยากท้าทายท่าน”

ลั่วเหมิงมารดาของลั่วเทียนเฉินยืนมองเหตุการณ์อยู่ไม่ห่าง ทั้งที่สะใภ้ของตนถูกผู้อื่นข่มเหงก็ยังนิ่งฟังไม่ขยับ แต่เดิมนางก็ไม่เคยเห็นด้วยกับการแต่งงานของบุตรชายและลูกสาวนายกองยศต้อยต่ำอยู่แล้ว ในเมื่อลั่วเทียนเฉินพาหวางเหยาเข้าบ้าน แม้ยังอธิบายสถานะของสตรีผู้นี้ไม่ชัดเจน ทว่าก็นับเป็นโอกาสทองที่นางจะได้เฉดหัวลูกสะใภ้ไร้ความสามารถผู้นี้ออกจากจวนตระกูลลั่วเสีย

ลั่วเหมิงเหยียดยิ้ม “ลูกชายของข้าไม่ต้องการเจ้าแล้ว ยังหน้าด้านอยู่ต่ออีกหรือ อ้อ…กินอยู่ตระกูลลั่วสุขสบายจนเคยตัว เลยไม่อยากกลับตระกูลหลี่ที่แม้แต่แผ่นกระเบื้องยังแทบไม่มีคุ้มกะลาหัวรึ”

หลี่เสวี่ยซินขบฟันแน่น กำปั้นทั้งสองระริกสั่น “คิดว่าข้าอาลัยตระกูลเส็งเคร็งของท่านนักหรือ ในเมื่อเขาต้องการหย่า ข้าก็จะลงนามให้ แต่สักวันข้าจะต้องกลับมาทวงคืนทุกสิ่ง ข้าจะต้องรู้ความจริงจากปากของเขาให้ได้”

“ฮ่า ฮ่า ปากดีจริง ๆ เจ้าดูมั่นใจเสียเหลือเกินว่าจะมีโอกาสนั้น” หวางเหยากระซิบเสียงเย็น “หากเจ้าชักเท้าขึ้นมาจากยมโลกได้ ข้าก็ยินดีรับการทวงคืนของเจ้า หึ!”

“ท่านหญิง”

“…”

“ท่านหญิง”

“…”

“ท่านหญิงเจ้าคะ!!” สองสาวใช้ประสานเสียง

หลี่เสวี่ยซินหลุดจากภวังค์ “ว่าอย่างไร เล่าถึงไหนแล้ว”

หลิวอี้เอ่ย “ท่านหญิงเมื่อครู่ท่านนิ่งไปนานมาก บ่าวตกใจแทบแย่ ท่านกลับไปที่เตียงก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ ตอนนี้โอสถก็เหมือนจะเย็นชืดไปแล้วด้วย เรื่องเล่าไว้ต่อวันหลังเถิดเจ้าค่ะ”

เมื่อครู่หลี่เสวี่ยซินเผลอนึกไปถึงเรื่องราวแต่กาลก่อน จิตใจจึงหลุดลอยไปไกลลิบ ภาพทุกอย่างที่ปรากฏยังคงชัดเจนราวกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

“ได้”

หลี่เสวี่ยซินเพิ่งรู้ตัวทีเดียวว่าตนนั่งแหมะลงบนพื้นเย็นเยียบเป็นนานสองนาน ร่างกายของหนิงเสวี่ยซินบอบบางอ่อนแอกว่ารางเดิมของนางมาก หลี่เสวี่ยซินจึงรู้สึกว่ากำลังถูกความเหน็บหนาวเสียดแทงเข้าไปจนลึกยันกระดูก

“ท่านหญิงตัวเย็นมากเจ้าค่ะ เร็วเข้าเจ้าค่ะเดี๋ยวไม่สบาย” หม่าเซียวตกใจ เร่งคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างให้คนบนเตียง

ส่วนหลิวอี้ก็ยื่นเตาอุ่นมือส่งให้ หลี่เสวี่ยซินเอื้อมรับ ริมฝีปากสีกุหลาบยกยิ้มจนดวงตาเกิดรูปพระจันทร์เสี้ยว “ขอบใจนะ”

“ท่านหญิง คืนนี้พักก่อนเถิดนะเจ้าคะ ล่วงเข้ายามไฮ่ [1] แล้วด้วย ประเดี๋ยวจะป่วยอีก พรุ่งนี้อดไปเที่ยวเล่นกับคุณชายฮั่วนะเจ้าคะ” หลิวอี้เป็นห่วง

หลี่เสวี่ยซินเลิกคิ้ว “เขาบอกหรือไม่จะมายามใด”

“น่าจะยามซื่อ [2] นะเจ้าคะ เวลานี้ปกติคุณชายฮั่วจะมาเยี่ยมท่านหญิงเสมอ”

หลี่เสวี่ยซินครุ่นคิด “เช่นนั้นพรุ่งนี้เราตื่นกันเช้าหน่อย ข้าอยากไปไหว้พระแต่เช้า”

“หา…แล้วคุณชาย…”

“ไม่ ข้าไม่อยากพบเขา เอาตามนี้ เราขึ้นเขาไปไหว้พระที่วัดหมิงหลันกัน”

“หา…วัดหมิงหลันหรือเจ้าคะ แต่ที่นั่นแทบไม่มีคนขึ้นไปสักการะแล้ว ถึงมีก็น้อยมาก ๆ เมื่อก่อนท่านหญิงไม่เคยไปที่นั่นเลย เราไปไหว้พระที่วัดเทียนอู่ดีหรือไม่เจ้าคะ” หลิวอี้ทัดทาน

เพราะเส้นทางไปวัดหมิงหลันเต็มไปด้วยก้อนหินดินทราย เกรงว่ากว่าจะไปถึง เส้นผมของพวกนางคงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเพราะฝุ่นจับหัว หนำซ้ำวัดแห่งนี้ยังตั้งอยู่ใกล้กับหอระฆังต้องสาปอีกด้วย

“ข้าอยากไปที่นั่น ไม่ต้องมากความ ข้าวก็กินแล้ว โอสถก็ดื่มเรียบร้อย พรุ่งนี้ออกเดินทางยามเฉิน [3] ก็แล้วกัน”

หลี่เสวี่ยซินสะบัดผ้าห่มคลุมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเสียงดังพรึบ

หลิวอี้ยกมือเกาศีรษะ ส่วนหม่าเซียวก็ส่ายหน้าพลางทอดถอนใจ ทั้งสองค่อย ๆ ย้ายร่างออกไปด้านนอกอย่างเงียบเชียบ

หลิวอี้กระซิบเสียงเบา “อาเซียวเจ้ารู้สึกว่าท่านหญิงแปลกไปหรือไม่”

“เจ้าเองก็รู้สึกหรือ”

หลิวอี้พยักหน้าหงึกหงัก

หม่าเซียวขมวดคิ้วแน่น “ข้าว่าเราคงคิดมากไปเอง ท่านหญิงหลับไปเป็นปีก็ต้องนิสัยสับสนบ้าง”

“แต่…ท่านหญิงรู้ได้อย่างไรว่าบนหุบเขามีวัดหมิงหลัน สิบห้าปี รวมปีนี้ก็สิบหกปีแล้ว ท่านหญิงจะไปไหว้พระแค่ที่วัดเทียนอู่เท่านั้น เจ้าลืมไปแล้วรึ”

หม่าเซียวตาโต “จริงด้วย! แล้วเหตุใดอยู่ ๆ ท่านหญิงต้องอยากไปที่นั่นให้ได้”

หลิวอี้ส่ายหน้าสิ้นหวัง “ข้าเองก็ไม่รู้”

เชิงอรรถ

^ยามไฮ่ ยามไฮ่ (亥时) คือช่วงเวลา 21:00 น. ถึง 23:00 น. ตามการแบ่งเวลาแบบจีนโบราณ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เชื่อกันว่าร่างกายควรได้รับการพักผ่อนและอบอุ่น

^ยามซื่อ" (巳時) เป็นหนึ่งในสิบสองยามของระบบการนับเวลาแบบจีนโบราณ ซึ่งตรงกับช่วงเวลา 9:00 น. ถึง 11:00 น. ในปัจจุบัน. ตามความเชื่อของคนจีนโบราณ ยามซื่อเป็นช่วงเวลาที่งูลอกคราบและออกมาหาอาหาร

^ยามเฉิน (辰時) ตามระบบการนับเวลาแบบจีนโบราณ คือ ช่วงเวลา 7:00 น. ถึง 9:00 น. ในระบบนี้ 1 ชั่วยามจะเท่ากับ 2 ชั่วโมง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เร้นรักสลับดวงชะตา   บทที่ 5 ท่านหญิงผู้อย่าคิดก้าวล่วง (2)

    ทางด้านของหลิวอี้และหม่าเซียวจัดการว่าจ้างคนบันทึกรายงานเรียบร้อยก็รีบกลับมา แม้เกิดเรื่องกะทันหันทว่าหลี่เสวี่ยซินกลับไม่ละความตั้งใจที่จะขึ้นเขาไปยังวัดหมิงหลัน ร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บจนเดินไม่ได้ ศีรษะที่แตกก็แผลเล็กน้อย ใส่ยาเสร็จแล้วย่อมไร้ปัญหาหม่าเซียวและหลิวอี้ไม่วางใจ พวกนางคะยั้นคะยอให้หลี่เสวี่ยซินพบหมอ หลี่เสวี่ยซินไม่อยากทำให้ผู้อื่นลำบากใจไปมากกว่านี้ จึงยอมตกลงไปหาหมอและกลับจวนในที่สุด ขณะที่นางหมุนร่างเตรียมตัวกลับ ก็ถูกใครบางคนวิ่งมากระแทกไหล่เสียจนตัวปลิว“โอ๊ย”โชคดีที่หลิวอี้รับร่างของหลี่เสวี่ยซินไว้ทัน ไม่เช่นนั้นคงได้ล้มไปนั่งก้นจ้ำเบ้าเสียงแหลมแผดขึ้นหัวเสีย “ไม่มีตารึ!”หม่าเซียวเดือดดาลเลือดขึ้นหน้า นางปรี่เข้ามายืนบังทั้งยังเท้าสะเอวกล่าวเสียงกระด้าง “เจ้าน่ะสิไม่มีตา รู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังล่วงเกินผู้ใด!”“เพ้ย! ยิ่งใหญ่มาจากไหนกัน ข้าไม่สนใจหรอก ทำข้าวของข้าเสียหายเช่นนั้นก็รับผิดชอบมา” หญิงคนนั้นกวักมือหย็อย ๆ เพื่อร้องเรียกค่าเสียหายหลี่เสวี่ยซินขมวดคิ้ว มือเรียวคว้าไหล่แคบของหม่าเซียวให้หลบไปยืนหลังตน

  • เร้นรักสลับดวงชะตา   บทที่ 5 ท่านหญิงผู้อย่าคิดก้าวล่วง (1)

    กระทั่งเหตุการณ์สงบ หลิวอี้และหม่าเซียวจึงปรี่เข้ามาช่วยประคองหลี่เสวี่ยซิน หลิวอี้ใช้แพรพกเช็ดคราบโลหิตออกจากใบหน้าและดวงตาให้หญิงสาวหลิวอี้เสียงสั่น “ท่านหญิงเจ็บมากหรือไม่เจ้าคะ”หลี่เสวี่ยซินรับแพรพกมาไว้ในมือ “บาดเจ็บเล็กน้อย ข้าไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องห่วงนะ แผลแค่นี้ไกลหัวใจ”เจ็บปวดทรมานกว่านี้หลี่เสวี่ยซินก็ผ่านมาแล้ว แผลแมวข่วนย่อมมิอาจส่งผลสั่นสะท้านต่อจิตใจนางหลี่เสวี่ยซินย้ายสายตากลับมายังชายวัยกลางคนที่ตรงหน้าตน เขายื่นขวดโอสถให้กับนาง“นี่เป็นยาห้ามเลือดขอรับ”หม่าเซียวรับ “ขอบคุณเจ้าค่ะ”หลี่เสวี่ยซินยิ้มอ่อนโยน “ขอบคุณท่านมาก หากไม่ได้ท่านพวกเราคงตายไปแล้ว”“แม่นางน้อยผู้นี้ก็คือ...”หลิวอี้โพล่ง “นี่คือท่านหญิงเสวี่ยซิน บุตรสาวเพียงคนเดียวของหนิงโหวเจ้าค่ะ”“ที่แท้ก็เป็นท่านหญิง ข้าน้อยทำไปล้วนเห็นแก่มนุษยธรรม ไม่ว่าใครเดือดร้อนก็ต้องยื่นมือเข้าช่วยทั้งสิ้น”“ท่านช่างน้ำใจงามนัก” หลี่เสวี่ยซินเอื้อมมือให้สองสาวใช้ช่วยพยุงตนให้ลุกขึ้น นางยังไม่ละสายตาจากชายตรงหน้า

  • เร้นรักสลับดวงชะตา   บทที่ 4 คนสำคัญที่บังเอิญได้เจอ (2)

    วันนี้หลี่เสวี่ยซินให้คนไปแจ้งหนิงถงไท่และหนิงเข่อเหรินแล้ว นางไม่รอคำอนุญาตแต่อย่างใด ถือว่าบอกแล้วเป็นพอ เพราะหากมัวแต่อิดออด หนิงเข่อเหรินจะต้องให้นางรอไปพร้อมกับฮั่วเหวินหลงแน่“บรรยากาศสดใสเป็นเช่นนี้นี่เอง” หญิงสาวแหงนหน้าขึ้นพลางสูดกลิ่นอายธรรมชาติเข้าเต็มปอดหม่าเซียวและหลิวอี้ยิ้มตาม พวกนางคิดว่าเพราะเจ้านายหลับใหลไปนานเลยดูตื่นตาตื่นใจกับต้นไม้ใบหญ้าเป็นธรรมดาหลิวอี้ “ท่านหญิงอยากแวะตลาดเช้าก่อนหรือไม่เจ้าคะ”หลี่เสวี่ยซินครุ่นคิด ก่อนตาบอดนางเคยออกมาจับจ่ายที่ตลาดเช้าอยู่บ่อย ๆ หลังจากตาบอดนานเป็นปีหลี่เสวี่ยซินก็ไม่เคยได้สัมผัสบรรยากาศครึกครื้นเช่นนี้อีกเลย“เอาสิ เหลือเวลาอีกหน่อย ข้าจะได้ซื้อผลไม้ไปสักการะด้วย”“เจ้าค่ะ”หลิวอี้จึงออกไปแจ้งสารถีให้แวะเข้าที่ตลาดเช้าก่อน พูดคุยไม่นานก็กลับเข้ามา รถม้าเคลื่อนตัวไปตามรายทางเรียบเรื่อย อีกไม่กี่ลี้ [1] ก็จะถึงปลายทาง แต่แล้วอยู่ ๆ เจ้าม้าตัวสูงก็ตะกุยเท้าหน้าด้วยท่าทีตื่นตระหนก รถม้าถูกเทกระจาดไร้การทรงตัว ทำให้หลี่เส

  • เร้นรักสลับดวงชะตา   บทที่ 4 คนสำคัญที่บังเอิญได้เจอ (1)

    น้ำค้างสีใสบนใบไม้เขียวขจีสาดประกายดุจอัญมณีเปล่งประกายท่ามกลางแสงแห่งอรุณรุ่งส่องสะท้อนลอดบานหน้าต่างทรงกลม พลางตกกระทบลงบนใบหน้าเกลี้ยงเกลาดุจบุปผาริมฝีปากสีกุหลาบยกโค้งเล็กน้อยเผยให้เห็นเขี้ยวเล็กจากรอยยิ้มซุกซนซึ่งสลักอยู่บนคันฉ่องสีอำพัน“ท่านหญิงตื่นหรือยังเจ้าคะ” หลิวอี้เคาะประตูเบา ๆ พลางเอ่ยถาม“เรียบร้อยแล้ว”เสียงบานประตูแง้มออกแช่มช้า ร่างระหงในชุดชมพูเปล่งประกายขับผิวให้ดูโดดเด่นสะท้อนเข้าม่านตา สองสาวใช้ตาเบิกค้างตกตะลึง จดจ้องหญิงสาวตรงหน้าตาไม่กะพริบหลี่เสวี่ยซินเอียงคอถาม “เป็นอะไรกัน ใบหน้าของข้าหน้ามีสิ่งใดเปื้อนอยู่หรือ”หม่าเซียวส่ายหน้าระรัว “เปล่าเจ้าค่ะ วันนี้ท่านหญิงดูแปลกตาไปนะเจ้าคะ ปกติท่านหญิงจะแต่งกายงดงามสูงส่งประหนึ่งหงส์ อีกอย่างนี่ท่านลุกผัดหน้าแต่งตัวเองเลยหรือเจ้าคะ”หลี่เสวี่ยซินพยักหน้า “อือ จะได้ไปตรงเวลากันข้าแต่งตัวเองได้ แล้วข้าสวมเสื้อผ้าผัดหน้าเช่นนี้ไม่งามหรอกหรือ”“งามสิเจ้าคะ งามมากทีเดียวเจ้าค่ะ สวมอาภรณ์และเครื่องแต่งกายแบบนี้แล้วดูสดใสสมวัยทีเดียวเจ้าค่ะ” หม่าเซียว

  • เร้นรักสลับดวงชะตา   บทที่ 3 ท่านหญิงแปลกไป (2)

    น่าเสียดายที่ยามนั้นดวงตาของหลี่เสวี่ยซินมองไม่เห็น จึงไม่อาจอ่านจดหมายฉบับนั้นด้วยตาตนเอง หญิงตรงหน้ายอบกายลงแช่มช้า เสียงแหลมกระซิบเบาทว่ากลับเจือไปด้วยความคำพูดเสียดแทงใจ “เขาให้เจ้าเขียนหนังสือหย่าซะ”จากรอยยิ้มดีใจก็เลือนหายในพริบตา ความเสียใจระคนผิดหวังถาโถมเข้าใส่ดุจดั่งคลื่นลูกใหญ่ซัดสาด “มะ…ไม่มีทาง ท่านพี่ไม่มีทางทำเช่นนั้น”“จะไม่มีทางได้อย่างไร ท่านพี่เทียนเฉินมีข้าแล้ว ส่วนเจ้าแม้แต่ฐานะสาวใช้ก็ไม่คู่ควร ลงนามในหนังสือหย่าแล้วไสหัวกลับบ้านเดิมของเจ้าไปเสีย อย่ามาเป็นตัวถ่วงของตระกูลลั่ว” หวางเหยาโยนหนังสือหย่าลงตรงหน้าหลี่เสวี่ยซินมือเรียวสั่นระริกคว้ากระดาษเนื้อหยาบสะเปะสะปะ “โอ๊ย”หลี่เสวี่ยซินร้องเสียงหลง เมื่อจู่ ๆ หลังมือของนางก็ถูกพื้นแข็งกระด้างจากรองเท้าบดขยี้ลงมา หวางเหยาหัวเราะเสียงเย็น “นังตาบอด เจ้าไร้ความสามารถเพียงนี้คิดว่าท่านพี่เทียนเฉินจะยังเก็บเจ้าเอาไว้รึ ฝันลม ๆ แล้ง ๆ”หลี่เสวี่ยซินสับสนจนพูดไม่ออก นางไม่ร้องโวยวายทว่าภายในใจร้าวระบมดุจถูกเข็มนับพันหมื่นเล่มค่อย ๆ ทิ่มแทงลงไป เท้าที่เหยียบลงเมื่อครู่ขยับออก แต่ยัง

  • เร้นรักสลับดวงชะตา   บทที่ 3 ท่านหญิงแปลกไป (1)

    หลี่เสวี่ยซินหลุดจากภวังค์ “เจ้าบอกว่าชื่อของข้ากับนางคล้ายกัน ข้าตาย เอ่อ...ไม่สิ ข้าหลับไปวันเดียวกับที่นางสิ้นใจอย่างนั้นหรือ”หลิวอี้พยักหน้าหงึกหงัก หม่าเซียวจึงลดมือของตนลงแช่มช้าครั้นหลิวอี้เป็นอิสระนางก็เร่งเอ่ยปาก “ท่านหญิงอย่าคิดมากเลยนะเจ้าคะ บ่าวปากไม่ดีเอง”เพียะ!หลิวอี้ยกมือตบปากของตนเสียงดังสนั่น หลี่เสวี่ยซินเบิกตาโพลง “ทำอะไรของเจ้า!?”“ยามปกติหากบ่าวปากไม่ดี ท่านหญิงจะให้ตบปากมิใช่หรือเจ้าคะ”“หา...พอเลย พอเลย ต่อไปพวกเจ้าไม่ต้องทำเช่นนี้อีก เข้าใจหรือไม่” หลี่เสวี่ยซินคลึงขมับ นึกไม่ถึงว่าหนิงเสวี่ยซินจะเข้มงวดเอาแต่ใจเพียงนี้ทั้งหลิวอี้และหม่าเซียวก้มหน้างุด ประสานเสียงตอบรับ “เจ้าค่ะ”“ข้าขอถามได้หรือไม่ ว่าข้าตกฟากเมื่อใด”สองสาวใช้แหงนหน้าขึ้น ครุ่นคิดเสียจนหัวคิ้วเคลื่อนชนกันหม่าเซียวเอ่ย “ท่านหญิงจำวันตกฟากของตนไม่ได้หรือเจ้าคะ”“ข้าหลับไปนาน บางเรื่องก็ลืมไปแล้ว”“เช่นนี้เอง เห็นท่านโหวและฮูหยินเคยเอ่ยถึงเรื่องนี้บ่อย ๆ ท่านหญิงตกฟากฤกษ์ดาวหงส์เชี

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status