LOGINหลี่เสวี่ยซินหันไปยังต้นเสียงก็พบเข้ากับบุรุษองอาจนั่งอยู่บนหลังอาชาตัวสูง
“ท่านมาได้อย่างไร”
“ข้ามารับเจ้า ไปกันเถิด” ชายหนุ่มลดมือของตนลงมา
หลี่เสวี่ยซินยิ้มไปจนถึงดวงตา นางวางมือลงบนฝ่ามือกว้าง ลั่วเทียนเฉินดึงเบา ๆ ร่างระหงก็ถลาขึ้นไปนั่งอยู่ด้านหน้าของเขา อ้อมแขนแกร่งกอดเอวคอดไว้แน่น จากนั้นจึงควบม้าทะยานจากไป
“เป็นอย่างไรบ้าง”
หลี่เสวี่ยซินทิ้งกายพิงอยู่บนอกแกร่ง “เป็นเช่นนี้ดีแล้ว ข้าหวังเพียงท่านพ่อจะปล่อยวางอดีตแล้วก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแท้จริง”
ลั่วเทียนเฉินจุมพิตไรผมอันหอมกรุ่น “แน่นอน ท่านพ่อของเจ้าจะต้องเข้าใจ”
หลี่เสวี่ยซินพยักหน้า เปลือกตาบางหลับพริ้มซึมซับความอบอุ่นจากร่างของเขา
“ท่านช่วยข้าหนึ่งเรื่องได้หรือไม่”
“ต่อให้บุกไฟฝ่าทะเลเพลิงข้าก็ทำให้เจ้าได้ทุกสิ่ง”
หลี่เสวี่ยซินขบขัน “ไม่ถึงขั้นนั้นหรอกเจ้าค่ะ ข้าก็แค่อยากให้ท่านส่งข่าวให้กับคนผู้หนึ่งได้หรือไม่”
คิ้วเข้มเลิกขึ้นหนึ่งฝั่ง “เจ้าอยากส่งข่าวไปหาใคร”
“โม่หลานซิ่น”
ม้าที่กำลังโผทะยานชะงักฝีเท้าลงเดี๋ยวนั้น อ้อมแขนชายหน
หลี่เสวี่ยซินหันไปยังต้นเสียงก็พบเข้ากับบุรุษองอาจนั่งอยู่บนหลังอาชาตัวสูง“ท่านมาได้อย่างไร”“ข้ามารับเจ้า ไปกันเถิด” ชายหนุ่มลดมือของตนลงมาหลี่เสวี่ยซินยิ้มไปจนถึงดวงตา นางวางมือลงบนฝ่ามือกว้าง ลั่วเทียนเฉินดึงเบา ๆ ร่างระหงก็ถลาขึ้นไปนั่งอยู่ด้านหน้าของเขา อ้อมแขนแกร่งกอดเอวคอดไว้แน่น จากนั้นจึงควบม้าทะยานจากไป“เป็นอย่างไรบ้าง”หลี่เสวี่ยซินทิ้งกายพิงอยู่บนอกแกร่ง “เป็นเช่นนี้ดีแล้ว ข้าหวังเพียงท่านพ่อจะปล่อยวางอดีตแล้วก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแท้จริง”ลั่วเทียนเฉินจุมพิตไรผมอันหอมกรุ่น “แน่นอน ท่านพ่อของเจ้าจะต้องเข้าใจ”หลี่เสวี่ยซินพยักหน้า เปลือกตาบางหลับพริ้มซึมซับความอบอุ่นจากร่างของเขา“ท่านช่วยข้าหนึ่งเรื่องได้หรือไม่”“ต่อให้บุกไฟฝ่าทะเลเพลิงข้าก็ทำให้เจ้าได้ทุกสิ่ง”หลี่เสวี่ยซินขบขัน “ไม่ถึงขั้นนั้นหรอกเจ้าค่ะ ข้าก็แค่อยากให้ท่านส่งข่าวให้กับคนผู้หนึ่งได้หรือไม่”คิ้วเข้มเลิกขึ้นหนึ่งฝั่ง “เจ้าอยากส่งข่าวไปหาใคร”“โม่หลานซิ่น”ม้าที่กำลังโผทะยานชะงักฝีเท้าลงเดี๋ยวนั้น อ้อมแขนชายหน
หลี่เจิงเวยลังเล เรือนของเขาหลังเล็กคับแคบ หนำซ้ำเขาเองก็เพิ่งพรวนดินเพื่อปลูกพืชผัก ทำให้ทั้งตัวเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นสาบ“ที่เรือนของข้าเกรงว่าจะไม่เหมาะ เพราะทั้งแคบและสกปรก หากท่านหญิงมีธุระช่วยรอก่อนได้หรือไม่ แล้วไปคุยกันที่โรงน้ำชา”หลี่เสวี่ยซินส่ายหน้า “ไม่จำเป็น จะแคบหรือสกปรกข้าก็อยู่ได้ ข้างนอกอากาศร้อนแดดแรง ท่านพอจะให้ข้าเข้าไปอาศัยร่มด้านในได้หรือไม่”หลี่เจิงเวยกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาไม่เคยต้องรับผู้สูงศักดิ์เช่นนี้มาก่อน ความรู้สึกประหม่าถาโถมเข้ามา ทว่าเมื่อเขาจ้องตาของสตรีรุ่นลูกตรงหน้าก็ยิ่งทำให้จิตใจสับสน แววตาของนางเหมือนบุตรสาวของเขาไม่มีผิด“หากท่านหญิงไม่รังเกียจ เชิญด้านในขอรับ”“ขอบคุณเจ้าค่ะ”หลี่เสวี่ยซินเดินตรงไปยังโต๊ะไม้ตัวเก่า แม้สภาพโทรมลงไปมากทว่ากลับดูสะอาดทีเดียว ราวกับว่าที่ตรงนี้ถูกเช็ดถูอยู่เสมอ แม้อยู่ท่ามกลางพื้นที่ฝุ่นจับโดยง่ายหญิงสาวหย่อนร่างลงนั่งอย่างคุ้นเคย หลี่เจิงเวยถึงกับตกตะลึงไปพักหนึ่ง เมื่อครู่ดวงตาของเขาราวกับเห็นภาพของบุตรสาวซ้อนทับเข้ามา“ท่านนายกองหลี่นั่งลงเถิด ยืนเช่น
เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้น หนิงถงไท่วางมือจากม้วนไม้ไผ่ตรงหน้า“ผู้ใด”“ข้าเองเจ้าค่ะท่านพ่อ”“ซินซินเองหรือ เข้ามาสิ”ขาเสลาขยับเดินเข้าไปในห้อง ไม่นานก็มาหยุดลงที่ตรงหน้าอีกฝ่าย“นั่งสิ”“ขอบคุณเจ้าค่ะ”หลี่เสวี่ยซินวางถาดขนมและน้ำชาลงบนโต๊ะ พลางจัดแจงและยื่นให้กับเขา“ช่วงนี้งานยุ่งมากหรือเจ้าคะ เห็นท่านพ่อออกไปแต่เช้ากลับมาก็ค่ำมืดทุกวัน”หนิงถงไท่ยิ้ม “ก็นิดหน่อย แต่ตอนนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ว่าแต่วันนี้เจ้ามาพบพ่อได้มีเรื่องใดหรือ คงมิได้มาส่งขนมรินน้ำชาเพียงอย่างเดียวกระมัง”หลี่เสวี่ยซินยิ้มตอบ “ยังเป็นท่านพ่อที่รู้ใจลูกที่สุด”“เช่นนั้นเจ้าก็ว่าเรื่องของเจ้ามาเถิด”ในเมื่อโอกาสมาถึงหลี่เสวี่ยซินก็ไม่อยากประวิงเวลา “ท่านพ่อเจ้าคะ ข้าอยากถามท่านเรื่องโรคระบาดเมื่อปีก่อน”คิ้วเข้มกระตุกเล็กน้อย “เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร”“ก็จากสหายของข้าเจ้าค่ะ ตอนนั้นลูกได้ยินมาว่าท่านพ่อสั่งให้เผาคนติดเชื้อหรือเจ้าคะ”หนิงถงไท่ถอนหายใจ เขาหยิบชาตรงหน้าขึ้นจิบ “เจ้าเชื่อจริงหรือว่า
“ที่นี่คือ…”“นี่เป็นเรือนที่ข้าซื้อเอาไว้ เดิมทีข้าคิดจะพาเจ้าแยกเรือนหลังกลับมาจากต่างเมือง แต่แล้ว…”หลี่เสวี่ยซินยิ้ม “ข้าก็มาแล้วไม่ใช่หรือ”ลั่วเทียนเฉินกุมมือของนางไว้แน่น “เช่นนั้นก็ใช้เรือนนี้เป็นเรือนหอของเราดีหรือไม่ บังเอิญว่าข้าเองก็ซื้อเรือนนี้ไว้ไม่ห่างจากจวนหนิงโหวด้วย”“เจ้าค่ะ”ฝนด้านนอกเริ่มบางลง กระนั้นท้องฟ้าพลันอาบย้อมด้วยสีดำสนิทดุจน้ำหมึกไปแล้วโคมไฟในห้องถูกจุดขึ้นจนส่องสว่าง จวนแห่งนี้มีผู้ดูแลอยู่สองคน พวกเขาเป็นคู่สามีภรรยาวัยกลางคนท่าทางใจดีเสียงเคาะประตูดังขึ้น“นายท่านต้องการสิ่งใดเพิ่มหรือไม่เจ้าคะ”“เจ้าไปเตรียมอาหารที เสร็จแล้วไม่ต้องมาตามนะ ไว้ข้าจะออกไปเอง”“ทราบแล้วเจ้าค่ะ”เสียงฝีเท้าเคลื่อนห่างจากบานประตูสงัดลงอีกครั้ง ลั่วเทียนเฉินกลับมาสนใจหญิงสาวตรงหน้าต่อหลี่เสวี่ยซินถูกจ้องมากเข้าก็เริ่มขัดเขิน นางสาดน้ำในอ่างเพื่อหยอกล้อเขา “มองอะไรของท่าน”ลั่วเทียนเฉินรวบมือทั้งสองไว้มั่น เขารั้งร่างนุ่มนิ่มเข้ามาสวมกอด “ข้าคิดถึงเจ้า”ปลายนิ้วเรียวช้อนปล
เพราะหลี่เสวี่ยซินอ่อนเพลียทั้งร่างกายและจิตใจนางจึงผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของลั่วเทียนเฉิน หลังจากส่งนางกลับจวนเรียบร้อยชายหนุ่มจึงเร่งไปพบลั่วเหมิงต่อ“เฉินเอ๋อร์ กลับมาแล้วหรือลูก วันนี้แม่หาอาเหยาทั้งวันแต่ไม่พบนางเลย ไม่รู้เด็กคนนี้หายตัวไปที่ใด เจ้าเห็นนางบ้างหรือไม่”ลั่วเทียนเฉินพยักหน้า“แล้วเหตุใดไม่พานางกลับมาด้วย ดูสิวันทั้งวันแม่ทำงานบ้านคนเดียวจนเมื่อยล้าไปหมด เจ้าเองก็มีเงินทองมากมายก่ายกองแล้ว เหตุใดจึงไม่จ้างบ่าวไพร่เพิ่มเสียหน่อย”ลั่วเทียนเฉินนั่งฟังเงียบ ๆ สีหน้าของเขาเรียบเฉยไร้อารมณ์ หลังจิบชาจนคอโล่งชายหนุ่มจึงกล่าว “ข้ากำลังจะออกเรือน”ลั่วเหมิงยิ้ม “ก็ดีแล้วนี่ลูก แม่รู้ว่าเจ้าจะออกเรือนแล้ว อีกหน่อยท่านหญิงก็ต้องมาอยู่ที่นี่ สินเดิมของนางต้องมากมายจนนับไม่ไหว เช่นนั้นเราก็ต้องเตรียมต้อนรับนางให้ดี อ้อ…แล้วหนังสือหย่านั่นเจ้าอย่าลืมไปลงนามเสีย เหตุใดจะต้องยึดติดกับคนที่ตายไปแล้วให้ได้”ลั่วเทียนเฉินกำถ้วยชาจนเส้นโลหิตบนหลังมือปูดโปน เขาตวัดตามองเข้ม “เรื่องนี้ท่านไม่ต้องมายุ่ง อีกอย่างข้าจะแต่งออก ไม่ใช่แต่งสะใภ้เข้าบ้า
ชายที่เป็นหมอกำมะลอหวาดกลัวจนหัวหด “นายท่าน อภัยข้าด้วย ที่ข้าทำไปก็เพราะคำสั่งของนาง นางสั่งซื้อยาพิษกับข้าก็จริง แต่ข้าไม่รู้ว่านางเอาไปใช้อย่างไร”“เพ้ย! หากไม่มีข้าหมออย่างเจ้าจะไปหากินกับใคร” หวางเหยาถ่มน้ำลายรดพื้น นางโมโหจนเผยกิริยาเสื่อมถอยของตนออกมา“ท่านพี่เทียนเฉิน ที่ข้าทำไปก็เพราะข้ารักท่าน ข้าชอบท่านมาตั้งแต่เด็ก ทว่าท่านกลับไม่เคยชายตามองข้าเลย กระทั่งท่านออกเรือนข้าเคยขอร้องให้ท่านพี่ช่วยเกลี้ยกล่อมท่านให้รับข้าเป็นอนุเขาก็ทำไม่ได้ นี่หรือพี่ชายที่บอกจะตามใจข้า ปกป้องข้า ข้าวางยาจนเขาอ่อนแอมากก็จริง แต่ไม่ใช่เพราะเขาดื้อด้านอยากออกไปสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ท่านหรอกหรือจึงมีจุดจบเช่นนี้ อีกอย่างจดหมายที่ข้าส่งกลับมาแม่ของท่านจะเลือกเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ ไฉนจึงยอมทำตามไม่ลืมหูลืมตา คนที่ทำให้นางตาบอดคือแม่ของท่าน ไม่ใช่ข้า เหตุใดไม่ไปเอาเรื่องกับนาง! หรือแค่เพราะนางเป็นแม่ของท่านนางจึงลอยตัว”หวางเหยาหัวเราะเหมือนคนเสียสติ นางสารภาพออกมาทุกสิ่งจนแทบหมดเปลือก นางถึงขั้นวางยาพี่ชายตัวเองเพียงเพื่อต้องการให้ลั่วเทียนเฉินเห็นใจและรับนางเข้ามาอยู่ด้วย และห







