LOGINสองอาทิตย์ผ่านไป
แสงแดดยามเย็นสาดส่องกระทบกระจกหน้าร้านบูติคหรูในเมืองมิลาน หญิงสาวลูกครึ่งสวยสง่าเดินเลือกชมกระเป๋าหนังดีไซน์เก๋อย่างเพลิดเพลิน รอยยิ้มบางๆ แต้มบนเรียวปากอิ่ม บ่งบอกถึงความสุขกับการชอปปิ้งในเมืองแฟชั่นระดับโลก ทว่าความสุขนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อเงาดำทะมึนของชายร่างสูงปราดเข้ามาจากด้านหลัง มือหยาบกระชากกระเป๋าสะพายข้างของเธอออกไปจากไหล่ขวาอย่างแรง!
“Aiuto!!! Aiuto!!!” (อา-ยู-โตะ อา-ยู-โตะ) หญิงสาวลูกครึ่งไทยอิตาลีส่งเสียงร้องตกใจสุดเสียงก่อนจะร้องให้คนช่วย ร่างกายเสียหลักเซไปเล็กน้อย หัวใจเต้นระรัวด้วยความตื่นตระหนก โจรหนุ่มร่างกำยำวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสายตาตกใจของผู้คนที่เดินผ่านไปมา น้ำตาคลอหน่วยด้วยความเสียดายกระเป๋าแบรนด์เนมใบโปรด และความหวาดกลัวที่ถูกจู่โจมเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว
ทันใดนั้นเอง มือแข็งแรงแต่แฝงด้วยความอบอุ่นก็คว้าแขนเธอไว้มั่น ร่างบางสะดุ้งเฮือก หันขวับไปมองด้วยดวงตาที่ยังคงสั่นระริกก่อนจะพบกับหนุ่มเอเชียหน้าตาคมคายตัดกับผมสีดำสนิท ดวงตาเรียวเล็กทอดมองเธอด้วยความเป็นห่วง เสื้อเชิ้ตสีเข้มและกางเกงยีนสีดำสนิทขับให้รูปร่างสูงโปร่งของเขาดูโดดเด่น
“Che c'è?” (เค เช่?) ชัชชนน์ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำที่ฟังดูเย็นชา แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเป็นห่วงอย่างประหลาด
หญิงสาวลูกครึ่งมองใบหน้าหล่อเหลาที่ไร้รอยยิ้มของเขาอย่างตกตะลึง หัวใจของเธอเต้นแรงอย่างไม่มีสาเหตุ ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เป็นความรู้สึกในใจ ที่มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับถูกมนต์สะกด
“Mi hanno scippato la borsa.” (มี อัน-โน สชิป-ปา-โต ลา บอร์-ซา) เสียงของเธอสั่นเครืออย่างควบคุมไม่ได้ ห้วงความตกใจยังคงถาโถมเข้าใส่จนตัวเธอเย็นเยียบ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง มองตามแผ่นหลังของคนร้ายที่กำลังวิ่งห่างออกไป ราวกับความหวังทั้งหมดกำลังเลือนหายไปพร้อมกับกระเป๋าใบโปรด
ชัชชนน์ พยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาคมกริบของเขาจับจ้องไปยังร่างของโจรที่วิ่งราวกระเป๋าของเธอไป ก่อนจะประเมินสถานการณ์อย่างรวดเร็ว ความเย็นชาบนใบหน้าของเขายังคงปกคลุม แต่แววตาที่มองหญิงสาวลูกครึ่งคนนี้..กลับฉายความเห็นใจอยู่ลึกๆ
“È illeso/a?” (เอ อิล-เล-โซ/อา?) น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขาถามอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงหนักแน่น
หญิงสาวส่ายหน้าเบาๆ เธอจ้องมองใบหน้าของเขาอีกครั้ง ราวกับต้องมนต์เสน่ห์เหมือนเมื่อสักครู่ รูปร่างหน้าตาที่เย็นชาแต่กลับแฝงไว้ด้วยความเข้มแข็งนั้น ช่างแตกต่างจากผู้ชายหลายคนที่เธอเคยพานพบมาในชีวิต ความรู้สึกขอบคุณและความประทับใจแรก เริ่มก่อตัวขึ้นในใจของหญิงสาวลูกครึ่งอย่างรวดเร็ว
“Allora, Lei mi aspetti qui. (อัล-ลอ-รา, เล-อี มี อัส-เป็ต-ติ กวี.)” ชัชชนน์รีบบอกเธอด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดราวกับสั่งการ ก่อนจะปล่อยแขนเธออย่างสุภาพ ทิ้งไว้เพียงไออุ่นจางๆ บนผิวเนื้อ แล้วร่างสูงโปร่งของเขาก็พุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับเสือที่กระโจนเข้าตะครุบเหยื่อ
หญิงสาวลูกครึ่งมองตามแผ่นหลังกว้างของเขาไปอย่างลุ้นระทึก หัวใจเต้นแรงด้วยความหวังระคนกังวล เธอภาวนาขอให้เขาปลอดภัยถึงแม้จะไม่ได้กระเป๋าคืนมาก็ตาม
ชัชชนน์ออกตัววิ่งไล่ตามคนร้ายด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง จากนั้นช่องว่างระหว่างทั้งสองคนก็ดูเหมือนจะขยายออกไป คนร้ายหันกลับมามองด้วยความดีใจ กลับต้องชะงักด้วยความตกใจอีกครั้ง เมื่อเห็นเงาของชายหนุ่มยืนดักรอเขาอยู่ด้านหน้า ราวกับพริบตาเดียว ไม่นานนักชัชชนน์ก็เดินออกมาจากเงามืดในซอกตึก ก่อนจะยืนประจันหน้าและเข้าประชิดตัวโจรที่วิ่งราวกระเป๋าได้อย่างรวดเร็ว
“Mi dia la borsa! (มี ดี-อา ลา บอร์-ซา!)” ชัชชนน์ ตวาดเสียงต่ำ เขาไม่แน่ใจว่าชายตรงหน้าจะเข้าใจภาษาอิตาเลียนที่เขาพยายามสื่อสารออกไปหรือไม่ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นภาษาสากลแทน
“Hey you!!! Give the bag back” ดวงตาคมกริบของเขาเปล่งประกายดุดัน ราวกับพร้อมจะลงทัณฑ์ แผ่ออร่าที่น่าเกรงขามออกมาจนคนร้ายสัมผัสได้ถึงความอันตรายที่กำลังคืบคลาน
คนร้ายหน้าตาตื่นตระหนก พยายามผลักชัชชนน์ออกไป แต่แรงของเขาสู้ไม่ได้ ชัชชนน์คว้าแขนคนร้ายไว้มั่น เกิดการยื้อยุดฉุดกระชากกันอย่างดุเดือด กล้ามเนื้อบนแขนของชัชชนน์เกร็งแน่น บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีที่ดูเย็นชา
คนร้ายเห็นท่าไม่ดี จึงตัดสินใจเงื้อหมัดและกำลังจะชกเข้าที่ใบหน้าของชัชชนน์! ทว่าชายหนุ่มก็ไหวตัวทันและหลบได้อย่างหวุดหวิดเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะสวนกลับด้วยหมัดหนัก ๆ อีกข้างที่พุ่งตรงเข้ากระแทกหน้าท้องของคนร้ายอย่างจัง จนร่างของคนร้ายงอตัวด้วยความเจ็บปวด
“อั๊ก!!!..อั๊ก!!!..อั๊ก!!!” ชัชชนน์พุ่งหมัดใส่ท้องไปอีกหลายครั้งจนคนร้ายลงไปนอนเจ็บตัวงออยู่ตรงพื้น แรงที่จับกระเป๋าเริ่มคลายลง ชัชชนน์ฉวยโอกาสนั้นกระชากกระเป๋ากลับมาได้อย่างรวดเร็ว คนร้ายนอนกุมท้องด้วยความจุกเสียด ชัชชนน์มองคนร้ายที่เป็นเพียงแค่เด็กวัยรุ่นหนึ่งด้วยสายตาเย็นชาและไม่อยากจะทำอะไรต่อ ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปหาหญิงสาวลูกครึ่งพร้อมกับกระเป๋าในมือ
***ภาษาอิตาเลี่ยน***
“Aiuto! Aiuto!” (อา-ยู-โตะ! อา-ยู-โตะ!) แปลว่า ช่วยด้วย ๆ
“Che c'è?” (เค เช่?) มีอะไรหรือเปล่า
“Mi hanno scippato la borsa.” (มี อัน-โน สชิป-ปา-โต ลา บอร์-ซา) ฉันถูกกระชากกระเป๋า
“È illeso/a?” (เอ อิล-เล-โซ/อา?) คุณปลอดภัยดีใช่มั้ย
“Allora, Lei mi aspetti qui.” (อัล-ลอ-รา, เล-อี มี อัส-เป็ต-ติ กวี.) รอผมอยู่ที่นี่นะครับ
“Mi dia la borsa!” (มี ดี-อา ลา บอร์-ซา!) ส่งกระเป๋าคืนมา
***ภาษาอังกฤษ***
“Hey you!!! Give the bag back” นี่คุณ..ส่งกระเป๋าคืนมา
ตอนที่ 30 จะสำนึกตอนกี่โมงณ คฤหาสน์หรูแสงสุดท้ายของวันสาดส่องเงาทะมึน ราวกับจะปกคลุมคฤหาสน์ทั้งหลังด้วยลางร้าย ลูเซียโนบุกเข้ามาในห้องนอนของน้องสะใภ้ด้วยใบหน้าถมึงทึง ดวงตาแดงก่ำราวกับเปลวเพลิงที่พร้อมจะแผดเผาทุกสิ่ง เขาตรงไปยังโซฟากว้างที่ชลธิชากำลังหลับตาเอนกายอยู่หญิงสาวในชุดคลุมอาบน้ำผ้าไหมบางเบาสีดำสนิทลื่นไหลไปตามสัดส่วนโค้งเว้า เผยให้เห็นทรวดทรงองค์เอวเย้ายวนอย่างจงใจ สายตาของเธอมองเขาอย่างท้าทาย ราวกับนางพญาที่กำลังรอคอยเหยื่อ ดวงตาเรียวคมกริบเปล่งประกายลึกลับ ชวนให้ดำดิ่งลงไปในห้วงแห่งตัณหา ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอน้อยๆ ราวกับเชื้อเชิญให้เขาเข้าไปใกล้สัมผัสไออุ่นที่แผ่ซ่านออกมาจากเรือนร่างอรชรนั้น“บุกเข้ามาหาชลถึงห้องแบบนี้ คุณพี่คงเปลี่ยนใจอยากจะจับน้องสะใภ้ทำเมียบ้างแล้วใช่มั้ยคะ?” ชลธิชาเอ่ยด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง แต่ปลายเสียงแฝงไปด้วยเลศนัย ราวกับแมงมุมที่กำลังทอดใยรอเหยื่อให้เข้ามาติดกับ“อย่าสำคัญตัวผิด! รู้ตัวมั้ยว่าเธอกำลังทำเรื่องบัดซบอะไรลงไป..ชลธิชา!!!!” ลูเซียโนตวาดเสียงต่ำ ดวงตาจ้องเขม็งราวกับจะกลืนกินเธอทั้งเป็นหลังจากที่ปักใจเชื่อแล้วว่าชลธิชาคือผู้อยู่เบื้องหล
ตอนที่ 29 ปริศนาในเงามืดหลังจากที่ริคาร์โดโทรศัพท์แจ้งข่าวร้ายแก่เจ้านาย เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าสลดเมื่อต้องบอกกับลูเซียโน ว่าแม่บ้านเรนนี่ ได้เสียชีวิตลงแล้วที่โรงพยาบาล ก่อนจะเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เจ้านายฟังอย่างละเอียด “นายท่านจะให้ผมจัดการอะไรต่ออีกมั้ยครับ?” ริคาร์โดถามด้วยความเป็นห่วง“ไม่ต้อง...เดี๋ยวฉันจะไปที่โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้” ลูเซียโนตอบด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ดวงตาคมกริบฉายแววเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่อยากจะเชื่อว่าการเดินทางมาทำงานที่นี่ของเด็กสาวที่เคยเป็นอดีตคนรักของชวิน...จะจบลงด้วยโศกนาฏกรรมเช่นนี้ ลูเซียโนสั่งลูกน้องโทรแจ้งชวินเพราะอย่างน้อย ๆ เขาก็จะได้มาร่วมไว้อาลัยกับคนรักเก่าเป็นครั้งสุดท้ายหัวใจของลูเซียโนหนักอึ้งไปด้วยความรู้สึกผิดและความเสียใจ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าฆาตกรที่สุ่มยิงนั้นจะมีชลธิชาเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ลูเซียโนรีบร้อนออกเดินทางมายังโรงพยาบาลทันที อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อมาแสดงความเสียใจในฐานะเจ้านายที่ต้องมาดูแลลูกน้องในวาระสุดท้าย และไว้อาลัยต่อการจากไปของเธอลึกๆ ในความทรงจำของลูเซียโน หวนนึกถึงช่วงเวลาที่เรน
ตอนที่ 28 ความจริงที่แสนเจ็บปวดในขณะที่ชัชชนน์ กำลังชุลมุนต่อสู้กับลูกน้องสองคนที่รุมเขาอยู่นั้น ชายร่างใหญ่ที่ถูกเขาต่อยท้องไปก่อนหน้าก็กลับเข้ามาประชิดตัวอีกครั้งด้วยความแค้น คราวนี้เขาง้างหมัดหมายจะซัดเข้าที่ใบหน้าของชัชชนน์อย่างเต็มแรง ชัชชนน์เห็นดังนั้นจึงตัดสินใจเบี่ยงตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด แล้วใช้จังหวะที่อีกฝ่ายเสียหลัก พุ่งตัวเข้าประชิดแล้วแทงเข่าเข้าที่ท้องของชายร่างใหญ่อีกครั้งอย่างจัง“โอ๊ย!” ชายร่างใหญ่ร้องโอดโอยทรุดลงไปกองกับพื้นทันที ชัชชนน์ไม่ปล่อยโอกาสให้เสียเปล่า หันกลับมาเผชิญหน้ากับริคาร์โดและลูกน้องอีกคนที่เหลือ เขาใช้ความเร็วและความคล่องแคล่วที่มี หลอกล่อให้ทั้งสองคนหลงทาง แล้วใช้จังหวะที่ทั้งคู่เปิดช่องว่าง ต่อยเข้าที่จุดสำคัญของร่างกายอย่างแม่นยำ ชายคนหนึ่งทรุดลงไปกุมท้อง ส่วนริคาร์โดเซถลาไปด้านหลังชัชชนน์หายใจหอบถี่ มองไปยังชายทั้งสองคนที่นอนกองอยู่กับพื้น ริคาร์โดรีบเข้าไปดูอาการของลูกน้อง ชัชชนน์เห็นโอกาสจึงบอกให้เรนนี่พาลูกหนีไปหลบที่อื่นโดยเร็วที่สุด“เรนนี่!!!...คุณพาลูกหลบไปก่อน!” ชัชชนน์ สั่งเสียงหนักแน่นอย่างเร่งรีบ ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังตรอกแคบๆ ข้
ตอนที่ 27 คุณพ่อจำเป็นแสงแดดอ่อนละมุนยามเย็น สาดส่องลอดเงาครึ้มของต้นไม้ใหญ่ที่ทอดตัวยาวพาดผ่านรั้วสีขาวสะอาดตาของโรงเรียนอนุบาลเล็กๆ ในเมืองมิลาน ชัชชนน์ก้าวเดินตามหลังหญิงสาวเข้าไปในบริเวณโรงเรียนด้วยหัวใจที่เต้น ความรู้สึกของเขาเจือปนไปด้วยความประหม่าเล็กน้อยที่ก่อตัวขึ้นในอก เขาไม่เคยมีน้อง และประสบการณ์ในการเลี้ยงเด็กก็เป็นศูนย์การที่ต้องมาทำหน้าที่คล้ายผู้ปกครองเช่นนี้จึงเป็นเรื่องใหม่สำหรับเขา ทว่าในอีกมุมหนึ่ง...เขาก็รู้สึกโล่งใจที่ได้ยื่นข้อเสนอแบบนั้นออกไป อย่างน้อยการมีเด็กอยู่ ก็อาจเป็นเกราะกำบังให้เรนนี่ไม่กล้าแสดงความใกล้ชิดกับเขามากจนเกินงาม เพราะเธอคงห่วงภาพลักษณ์ของความเป็นแม่ต่อหน้าลูกสาวบ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่เขาปรารถนา...และคาดการณ์เอาไว้เบื้องต้นร่างเล็กๆ ในชุดเอี้ยมกระโปรงสีชมพูลายสก๊อต วิ่งกระโดดโลดเต้นออกมาจากกลุ่มเพื่อน ๆ ราวกับผีเสื้อตัวน้อย ใบหน้าจิ้มลิ้มประดับด้วยรอยยิ้มหวานซึ้งราวกับดอกไม้แรกแย้ม ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเป็นประกายสดใสราวกับลูกแก้วจับจ้องมาที่ผู้เป็นมารดาด้วยความดีใจ“คุณแม่คะ!” เสียงเล็กๆ ใสแจ๋วเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจ ก่อนจะวิ่งเข้ามาหาผู้เป็
ตอนที่ 26 อุบายรักเย็นวันนั้นแม่บ้านสาวนั่งรอคอยในห้องทำงานอย่างมีความหวัง แสงไฟสีส้มนวลจากโคมไฟตั้งโต๊ะสาดส่องใบหน้าสวยหวานที่ดูอ่อนล้าของเธอ หล่อนรอคอยให้เขาเลิกงานเสียก่อน เพื่อจะได้พูดคุยและตกลงเรื่องราวของตนเองถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ชัชชนน์นั่งฟังอย่างเงียบๆ ระหว่างเคลียร์งาน หัวใจของเขาเริ่มรู้สึกถึงความหนักอึ้งในเรื่องราวของหญิงสาวตรงหน้า“พอหนูเรียนจบ...” เรนนี่เอ่ยเสียงแผ่วเบา ดวงตากลมโตฉายแววเศร้าสร้อย ราวกับกำลังหวนรำลึกถึงอดีตอันแสนขมขื่น...“ก็ตัดสินใจแต่งงานอยู่ที่นี่เลยค่ะ ตอนนั้น...เหมือนชีวิตกำลังไปได้สวย” เธอหยุดเล็กน้อย กลืนก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ที่คอ“ระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย...หนูคบกับพี่ชวินค่ะ” เรนนี่ยังคงเล่าต่อ น้ำเสียงเริ่มสั่นเครือเล็กน้อย“ก็เลยได้รู้จักกับคุณชล ตอนนั้น...พวกเราสนิทกันมาก” เธอพยายามฝืนยิ้มบางๆ แต่แววตากลับเศร้าหมองลงชัชชนน์สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในน้ำเสียงและแววตาของเรนนี่ ความรู้สึกสงสารเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ“แต่พอใกล้เรียนจบ...หนูกับพี่ชวินก็มีเรื่อง...จนเราต้องเลิกกัน” เรนนี่เม้มริมฝีปากเล็กน้อย ราวกับพยายามสะกดกลั้นความเจ็บปวด“แล้วหนูก็ไ
ตอนที่ 25 รสรักแรงสวาท NCลมหายใจร้อนผ่าวของมาร์โกรินรดต้นคอระหง ราวกับเปลวเพลิงที่จ้องจะเผาผลาญ ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนและพลางส่งท่อนเอ็นมาที่ใบหน้าสวยของเธอ ชลธิชายอมใช้อุ้งปากร้อนเพื่อให้ความสุขสมอย่างไม่มีทางเลือก ความปรารถนาที่ปะทุขึ้นทำให้มาร์โกอัดกระแทกดุ้นเอ็นร้อนอย่างรุนแรง ส่งท่อนเอ็นลำใหญ่ยัดเยียดเข้าไปในโพรงปากนุ่มของหล่อนจนลึกเกือบถึงคอหอย ราวกับต้องการกอบโกยทุกหยาดหยดแห่งความสุขสม โดยไม่สนใจว่าชลธิชากำลังสำลักน้ำรักสีขาวขุ่นข้นที่ไหลทะลักออกมาจนเปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้าและลำคอของหล่อน“แค่กๆๆ...ไอ้บ้า! นึกจะปล่อยก็ปล่อย!” ชลธิชาผลักเอวหนาของมาร์โกออกอย่างแรง เธอพลางไอค่อกแค่ก น้ำรักเหนียวหนืดไหลเลอะเปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้าและลำคอ ดวงตาคู่สวยฉายแววขยะแขยงและโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที“จะฆ่ากันรึไง?!” มาร์โกหัวเราะเสียงต่ำในลำคออย่างไม่รู้สึกผิด เขายันตัวลงมานั่งข้าง ๆ เธอ ก่อนจะมองใบหน้าเปรอะเปื้อนของชลธิชา ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยสะใจแล้วเอ่ยคำแก้ตัวขึ้นมา“ก็นายหญิงอยากเร่งผมเองนี่ครับ...บอกว่าไม่มีเวลา...ผมก็ต้องรีบสิครับ” น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความทะเล้นและเยาะเย้ย“ทีหลังอย่า







