LOGIN
กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกมะลิในสวนหลังบ้านยามเช้าตรู่ มักเป็นสิ่งที่ชัชชนน์ ในวัยเยาว์จดจำได้ดีที่สุด ควบคู่ไปกับเสียงหัวเราะทุ้มนุ่มของบิดา ผู้เป็นทั้งเพื่อนเล่นและครูคนแรกในชีวิต แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดใบไม้ใหญ่ลงมากระทบผืนหญ้าสีเขียวสดใส ราวกับภาพวาดที่แสนสุข
แต่ความสุขนั้นช่างแสนสั้น ราวกับความฝันที่จางหายเมื่อแสงตะวันแรงกล้าขึ้น เสียงหัวเราะของพ่อค่อยๆ เลือนหายไป กลายเป็นความเงียบงันที่น่าหวาดหวั่น กลิ่นมะลิยังคงหอมหวน แต่กลับเคล้าคลอไปด้วยกลิ่นธูปจางๆ ที่ลอยมาจากมุมหนึ่งของบ้าน
ชัชชนน์ในวัยสิบขวบเขาจำได้เพียงลางๆ ถึงใบหน้าเศร้าสร้อยของแม่ ดวงตาแดงก่ำที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา และเสียงกระซิบกระซาบของผู้ใหญ่ที่เขาจับใจความไม่ได้ รู้เพียงว่านับตั้งแต่วันนั้น โลกของเขาก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป รอยยิ้มของพ่อกลายเป็นเพียงภาพถ่ายที่ประดับอยู่กลางห้อง ความอบอุ่นที่เคยโอบล้อมกายมลายหายไปพร้อมกับร่างที่ไร้ลมหายใจ
คำว่า ‘อุบัติเหตุ’ ที่ผู้ใหญ่พร่ำบอก ราวกับบทเพลงกล่อมเด็กที่ฟังดูขัดหูสำหรับเด็กชายที่เริ่มเติบโตขึ้นทุกวัน ชัชชนน์สัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากล ความเงียบงันที่ปกคลุมบ้าน ความเศร้าลึกๆ ในดวงตาของแม่ มันบ่งบอกว่าเบื้องหลังการจากไปของพ่อ อาจมีบางสิ่งบางอย่างที่ถูกซ่อนไว้
เวลาล่วงเลยดั่งสายน้ำที่ไม่เคยไหลย้อนกลับ ชัชชนน์เติบโตเป็นหนุ่มหล่อคมคาย ดวงตาคู่คมนั้นฉายแววเด็ดเดี่ยวและเก็บซ่อนความเศร้าลึกๆ ไว้ภายใต้มาดนิ่งขรึม ความทรงจำเกี่ยวกับพ่อยังคงชัดเจน ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ความรักและความเคารพที่มีต่อผู้เป็นบิดา แปรเปลี่ยนเป็นความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะสืบหาความจริง และทวงคืนความยุติธรรม
ในคืนหนึ่งที่แสงจันทร์ส่องสว่างเต็มดวง ชัชชนน์ยืนอยู่หน้าภาพถ่ายของพ่อ รอยยิ้มที่แสนอบอุ่นนั้นกลับกลายเป็นเครื่องย้ำเตือนถึงสิ่งที่เขาเสียไป นิ้วแกร่งค่อยๆ สัมผัสกรอบรูป ดวงตาฉายแววมุ่งมั่น
“พ่อครับ...ผมจะไปตามหาความจริงให้พ่อเองครับ ไม่ว่ามันจะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยแผ่วเบา ราวกับคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับเงาในอดีต
“แม่ครับ...ผมตัดสินใจแล้ว” ชัชชนน์ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ขณะนั่งอยู่ตรงข้ามมารดาที่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้ในกระถางเล็กๆ ริมหน้าต่าง แสงแดดยามเช้าสาดส่องใบหน้าซีดเซียวของท่าน
มารดาเงยหน้าขึ้น มองบุตรชายด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความกังวล
“ตัดสินใจอะไรลูก?”
“ผมจะไปทำงานที่อิตาลีครับแม่” ชัชชนน์ตอบอย่างแน่วแน่ มือที่กำลังรดน้ำชะงักไปเล็กน้อย มารดาวางบัวรดน้ำลงช้าๆ และจ้องมองใบหน้าของบุตรชายอย่างพิจารณา
“แต่มันไกลมากนะลูก แล้วเงินเดือนที่ได้ มันจะพอค่าใช้จ่ายเหรอ ลองมองงานอื่นแถวนี้ดีมั้ย?”
“ผมคิดมาดีแล้วครับแม่” ชัชชนน์พยายามตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบที่สุด เพื่อปกปิดความรู้สึกที่แท้จริง มารดาลุกขึ้น เดินมานั่งข้างๆ บุตรชาย จับมือเขาไว้ด้วยมือที่เหี่ยวย่นตามวัย
“แม่รู้ว่าลูกคิดมาดีแล้ว...แต่แม่ก็อดห่วงไม่ได้” ชัชชนน์บีบมือมารดาเบาๆ
“ผมจะดูแลตัวเองอย่างดีครับแม่ ไปอยู่ที่นั่นเขามีบ้านพักให้ครับ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนไทยเกือบทั้งหมด ผมจะตั้งใจทำงานเก็บเงิน แล้วก็รีบกลับมาหาแม่นะครับ”
“ชัช!!!..แกสัญญากับแม่แล้วนะ” มารดาเน้นเสียง ดวงตาเริ่มมีน้ำคลอ
“ครับแม่ ผมสัญญา” ชัชชนน์ตอบอย่างหนักแน่น
“อีกอย่าง...ที่นั่นอาจจะเป็นโอกาสให้ผมได้พบสืบหาความจริงเรื่องของคุณพ่อด้วย” เขาพูดเสียงเบาลงในประโยคหลัง มารดามองบุตรชายด้วยความสงสัย แววตาของท่านฉายความเศร้าออกมาเล็กน้อย
“นี่ลูกยังคิดถึงเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอ” ชัชชนน์สบตากับมารดาอย่างจริงจัง
“ผมไม่อยากให้พ่อตายฟรีนะครับแม่” มารดาถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง
“แม่เข้าใจลูก...แต่ลูกต้องระมัดระวังตัวด้วยนะ อย่าให้ความแค้นมันบดบังทุกสิ่งทุกอย่างล่ะ”
“ผมจะจำคำแม่ไว้เสมอครับ” ชัชชนน์ตอบด้วยความเคารพ
รุ่งเช้าชัชชนน์ก็หอบหิ้วกระเป๋าเดินทางเพื่อมาลาคุณมารดาไปสนามบิน
“ผมไปนะครับแม่” ชัชชนน์ เอ่ยเสียงหนักแน่นอีกครั้ง พลางยกกระเป๋าเดินทางขึ้นถือมั่น ดวงตาของเขามุ่งมั่นแต่ก็ยังคงแฝงไว้ด้วยความอาลัย อรัญญาพยักหน้าช้าๆ น้ำตาคลอหน่วยแต่ก็พยายามที่จะฝืนยิ้ม ก่อนที่เสียงสั่นเครือของเธอจะเอ่ยขึ้น
“เดินทางปลอดภัยนะลูก...ทุกย่างก้าวของลูก แม่ขอให้มีแต่สิ่งดีๆ” เธอเดินเข้ามาใกล้ กุมมือลูกชายไว้แน่นอีกครั้ง
“อย่าลืมที่แม่บอกนะ ดูแลตัวเองให้ดีที่สุด” ชัชชนน์บีบมือมารดาเบาๆ
“ครับแม่ ผมจำได้ทุกคำ” เขาสูดลมหายใจลึก
“ผมจะตั้งใจทำงาน จะไม่ทำให้แม่ผิดหวัง และเมื่อไหร่ที่ผมมีเงินมีงานมั่นคง ผมจะรีบกลับมาเยี่ยมแม่บ่อยๆ นะครับ” เขาให้สัญญาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง อรัญญาใช้มือลูบแก้มสากของลูกชายอย่างทะนุถนอม
“แม่ไม่เคยสงสัยในตัวลูกเลยชัชชนน์ แม่รู้ว่าลูกเป็นคนดีและมีความรับผิดชอบ แม่แค่...คิดถึงลูกตั้งแต่ยังไม่ทันได้จากไปด้วยซ้ำ” ชัชชนน์โอบกอดมารดาอีกครั้ง อ้อมกอดนี้อบอุ่นและคุ้นเคย เป็นพลังใจสำคัญที่เขาจะเก็บไว้ในใจตลอดการเดินทาง
“ผมก็คิดถึงแม่ครับ...” เขาผละออกจากอ้อมกอด มองใบหน้าของผู้หญิงที่เขารักและผูกพันมากที่สุดเป็นครั้งสุดท้าย
“แม่ไม่ต้องห่วงผมนะครับ ผมจะเข้มแข็ง และจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด” ชัชชนน์ย้ำอีกครั้งด้วยรอยยิ้มที่พยายามให้คลายความกังวลของมารดา อรัญญายิ้มตอบอย่างอ่อนโยน แม้ดวงตาจะยังคงแดงก่ำ
“แม่จะรอวันนั้นนะลูก...วันที่ลูกกลับมา”
ชัชชนน์พยักหน้ารับคำ มองมารดาด้วยความเคารพรัก เขาก้มลงกราบลามารดาอย่างนอบน้อม ก่อนจะลุกขึ้นหันหลังเดินลากกระเป๋าเดินทางออกจากบ้านหลังเล็กไปสู่โลกกว้างใหญ่ สนามบินอยู่ไม่ไกล ความหวังและความมุ่งมั่นที่จะค้นหาความจริงเกี่ยวกับอดีตของบิดาในกรุงมิลานเป็นแรงผลักดันให้เขาก้าวเดินต่อไป แม้ในใจจะยังคงมีความอาลัยต่อผู้เป็นแม่ก็ตาม
บนเครื่องบินที่กำลังทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ชัชชนน์มองออกไปนอกหน้าต่าง แสงไฟระยิบระยับของเมืองไทยค่อยๆ เล็กลงจนกลายเป็นเพียงจุดเล็กๆ ในความมืดมิด ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามา ทั้งความหวัง ความกังวล และความมุ่งมั่นอันแรงกล้าที่จะเผชิญหน้ากับอดีตที่ตามหลอน และค้นหาความจริงที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้เมืองหลวงแห่งศีลธรรม
ตอนที่ 30 จะสำนึกตอนกี่โมงณ คฤหาสน์หรูแสงสุดท้ายของวันสาดส่องเงาทะมึน ราวกับจะปกคลุมคฤหาสน์ทั้งหลังด้วยลางร้าย ลูเซียโนบุกเข้ามาในห้องนอนของน้องสะใภ้ด้วยใบหน้าถมึงทึง ดวงตาแดงก่ำราวกับเปลวเพลิงที่พร้อมจะแผดเผาทุกสิ่ง เขาตรงไปยังโซฟากว้างที่ชลธิชากำลังหลับตาเอนกายอยู่หญิงสาวในชุดคลุมอาบน้ำผ้าไหมบางเบาสีดำสนิทลื่นไหลไปตามสัดส่วนโค้งเว้า เผยให้เห็นทรวดทรงองค์เอวเย้ายวนอย่างจงใจ สายตาของเธอมองเขาอย่างท้าทาย ราวกับนางพญาที่กำลังรอคอยเหยื่อ ดวงตาเรียวคมกริบเปล่งประกายลึกลับ ชวนให้ดำดิ่งลงไปในห้วงแห่งตัณหา ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอน้อยๆ ราวกับเชื้อเชิญให้เขาเข้าไปใกล้สัมผัสไออุ่นที่แผ่ซ่านออกมาจากเรือนร่างอรชรนั้น“บุกเข้ามาหาชลถึงห้องแบบนี้ คุณพี่คงเปลี่ยนใจอยากจะจับน้องสะใภ้ทำเมียบ้างแล้วใช่มั้ยคะ?” ชลธิชาเอ่ยด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง แต่ปลายเสียงแฝงไปด้วยเลศนัย ราวกับแมงมุมที่กำลังทอดใยรอเหยื่อให้เข้ามาติดกับ“อย่าสำคัญตัวผิด! รู้ตัวมั้ยว่าเธอกำลังทำเรื่องบัดซบอะไรลงไป..ชลธิชา!!!!” ลูเซียโนตวาดเสียงต่ำ ดวงตาจ้องเขม็งราวกับจะกลืนกินเธอทั้งเป็นหลังจากที่ปักใจเชื่อแล้วว่าชลธิชาคือผู้อยู่เบื้องหล
ตอนที่ 29 ปริศนาในเงามืดหลังจากที่ริคาร์โดโทรศัพท์แจ้งข่าวร้ายแก่เจ้านาย เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าสลดเมื่อต้องบอกกับลูเซียโน ว่าแม่บ้านเรนนี่ ได้เสียชีวิตลงแล้วที่โรงพยาบาล ก่อนจะเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เจ้านายฟังอย่างละเอียด “นายท่านจะให้ผมจัดการอะไรต่ออีกมั้ยครับ?” ริคาร์โดถามด้วยความเป็นห่วง“ไม่ต้อง...เดี๋ยวฉันจะไปที่โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้” ลูเซียโนตอบด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ดวงตาคมกริบฉายแววเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่อยากจะเชื่อว่าการเดินทางมาทำงานที่นี่ของเด็กสาวที่เคยเป็นอดีตคนรักของชวิน...จะจบลงด้วยโศกนาฏกรรมเช่นนี้ ลูเซียโนสั่งลูกน้องโทรแจ้งชวินเพราะอย่างน้อย ๆ เขาก็จะได้มาร่วมไว้อาลัยกับคนรักเก่าเป็นครั้งสุดท้ายหัวใจของลูเซียโนหนักอึ้งไปด้วยความรู้สึกผิดและความเสียใจ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าฆาตกรที่สุ่มยิงนั้นจะมีชลธิชาเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ลูเซียโนรีบร้อนออกเดินทางมายังโรงพยาบาลทันที อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อมาแสดงความเสียใจในฐานะเจ้านายที่ต้องมาดูแลลูกน้องในวาระสุดท้าย และไว้อาลัยต่อการจากไปของเธอลึกๆ ในความทรงจำของลูเซียโน หวนนึกถึงช่วงเวลาที่เรน
ตอนที่ 28 ความจริงที่แสนเจ็บปวดในขณะที่ชัชชนน์ กำลังชุลมุนต่อสู้กับลูกน้องสองคนที่รุมเขาอยู่นั้น ชายร่างใหญ่ที่ถูกเขาต่อยท้องไปก่อนหน้าก็กลับเข้ามาประชิดตัวอีกครั้งด้วยความแค้น คราวนี้เขาง้างหมัดหมายจะซัดเข้าที่ใบหน้าของชัชชนน์อย่างเต็มแรง ชัชชนน์เห็นดังนั้นจึงตัดสินใจเบี่ยงตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด แล้วใช้จังหวะที่อีกฝ่ายเสียหลัก พุ่งตัวเข้าประชิดแล้วแทงเข่าเข้าที่ท้องของชายร่างใหญ่อีกครั้งอย่างจัง“โอ๊ย!” ชายร่างใหญ่ร้องโอดโอยทรุดลงไปกองกับพื้นทันที ชัชชนน์ไม่ปล่อยโอกาสให้เสียเปล่า หันกลับมาเผชิญหน้ากับริคาร์โดและลูกน้องอีกคนที่เหลือ เขาใช้ความเร็วและความคล่องแคล่วที่มี หลอกล่อให้ทั้งสองคนหลงทาง แล้วใช้จังหวะที่ทั้งคู่เปิดช่องว่าง ต่อยเข้าที่จุดสำคัญของร่างกายอย่างแม่นยำ ชายคนหนึ่งทรุดลงไปกุมท้อง ส่วนริคาร์โดเซถลาไปด้านหลังชัชชนน์หายใจหอบถี่ มองไปยังชายทั้งสองคนที่นอนกองอยู่กับพื้น ริคาร์โดรีบเข้าไปดูอาการของลูกน้อง ชัชชนน์เห็นโอกาสจึงบอกให้เรนนี่พาลูกหนีไปหลบที่อื่นโดยเร็วที่สุด“เรนนี่!!!...คุณพาลูกหลบไปก่อน!” ชัชชนน์ สั่งเสียงหนักแน่นอย่างเร่งรีบ ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังตรอกแคบๆ ข้
ตอนที่ 27 คุณพ่อจำเป็นแสงแดดอ่อนละมุนยามเย็น สาดส่องลอดเงาครึ้มของต้นไม้ใหญ่ที่ทอดตัวยาวพาดผ่านรั้วสีขาวสะอาดตาของโรงเรียนอนุบาลเล็กๆ ในเมืองมิลาน ชัชชนน์ก้าวเดินตามหลังหญิงสาวเข้าไปในบริเวณโรงเรียนด้วยหัวใจที่เต้น ความรู้สึกของเขาเจือปนไปด้วยความประหม่าเล็กน้อยที่ก่อตัวขึ้นในอก เขาไม่เคยมีน้อง และประสบการณ์ในการเลี้ยงเด็กก็เป็นศูนย์การที่ต้องมาทำหน้าที่คล้ายผู้ปกครองเช่นนี้จึงเป็นเรื่องใหม่สำหรับเขา ทว่าในอีกมุมหนึ่ง...เขาก็รู้สึกโล่งใจที่ได้ยื่นข้อเสนอแบบนั้นออกไป อย่างน้อยการมีเด็กอยู่ ก็อาจเป็นเกราะกำบังให้เรนนี่ไม่กล้าแสดงความใกล้ชิดกับเขามากจนเกินงาม เพราะเธอคงห่วงภาพลักษณ์ของความเป็นแม่ต่อหน้าลูกสาวบ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่เขาปรารถนา...และคาดการณ์เอาไว้เบื้องต้นร่างเล็กๆ ในชุดเอี้ยมกระโปรงสีชมพูลายสก๊อต วิ่งกระโดดโลดเต้นออกมาจากกลุ่มเพื่อน ๆ ราวกับผีเสื้อตัวน้อย ใบหน้าจิ้มลิ้มประดับด้วยรอยยิ้มหวานซึ้งราวกับดอกไม้แรกแย้ม ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเป็นประกายสดใสราวกับลูกแก้วจับจ้องมาที่ผู้เป็นมารดาด้วยความดีใจ“คุณแม่คะ!” เสียงเล็กๆ ใสแจ๋วเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจ ก่อนจะวิ่งเข้ามาหาผู้เป็
ตอนที่ 26 อุบายรักเย็นวันนั้นแม่บ้านสาวนั่งรอคอยในห้องทำงานอย่างมีความหวัง แสงไฟสีส้มนวลจากโคมไฟตั้งโต๊ะสาดส่องใบหน้าสวยหวานที่ดูอ่อนล้าของเธอ หล่อนรอคอยให้เขาเลิกงานเสียก่อน เพื่อจะได้พูดคุยและตกลงเรื่องราวของตนเองถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ชัชชนน์นั่งฟังอย่างเงียบๆ ระหว่างเคลียร์งาน หัวใจของเขาเริ่มรู้สึกถึงความหนักอึ้งในเรื่องราวของหญิงสาวตรงหน้า“พอหนูเรียนจบ...” เรนนี่เอ่ยเสียงแผ่วเบา ดวงตากลมโตฉายแววเศร้าสร้อย ราวกับกำลังหวนรำลึกถึงอดีตอันแสนขมขื่น...“ก็ตัดสินใจแต่งงานอยู่ที่นี่เลยค่ะ ตอนนั้น...เหมือนชีวิตกำลังไปได้สวย” เธอหยุดเล็กน้อย กลืนก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ที่คอ“ระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย...หนูคบกับพี่ชวินค่ะ” เรนนี่ยังคงเล่าต่อ น้ำเสียงเริ่มสั่นเครือเล็กน้อย“ก็เลยได้รู้จักกับคุณชล ตอนนั้น...พวกเราสนิทกันมาก” เธอพยายามฝืนยิ้มบางๆ แต่แววตากลับเศร้าหมองลงชัชชนน์สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในน้ำเสียงและแววตาของเรนนี่ ความรู้สึกสงสารเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ“แต่พอใกล้เรียนจบ...หนูกับพี่ชวินก็มีเรื่อง...จนเราต้องเลิกกัน” เรนนี่เม้มริมฝีปากเล็กน้อย ราวกับพยายามสะกดกลั้นความเจ็บปวด“แล้วหนูก็ไ
ตอนที่ 25 รสรักแรงสวาท NCลมหายใจร้อนผ่าวของมาร์โกรินรดต้นคอระหง ราวกับเปลวเพลิงที่จ้องจะเผาผลาญ ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนและพลางส่งท่อนเอ็นมาที่ใบหน้าสวยของเธอ ชลธิชายอมใช้อุ้งปากร้อนเพื่อให้ความสุขสมอย่างไม่มีทางเลือก ความปรารถนาที่ปะทุขึ้นทำให้มาร์โกอัดกระแทกดุ้นเอ็นร้อนอย่างรุนแรง ส่งท่อนเอ็นลำใหญ่ยัดเยียดเข้าไปในโพรงปากนุ่มของหล่อนจนลึกเกือบถึงคอหอย ราวกับต้องการกอบโกยทุกหยาดหยดแห่งความสุขสม โดยไม่สนใจว่าชลธิชากำลังสำลักน้ำรักสีขาวขุ่นข้นที่ไหลทะลักออกมาจนเปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้าและลำคอของหล่อน“แค่กๆๆ...ไอ้บ้า! นึกจะปล่อยก็ปล่อย!” ชลธิชาผลักเอวหนาของมาร์โกออกอย่างแรง เธอพลางไอค่อกแค่ก น้ำรักเหนียวหนืดไหลเลอะเปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้าและลำคอ ดวงตาคู่สวยฉายแววขยะแขยงและโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที“จะฆ่ากันรึไง?!” มาร์โกหัวเราะเสียงต่ำในลำคออย่างไม่รู้สึกผิด เขายันตัวลงมานั่งข้าง ๆ เธอ ก่อนจะมองใบหน้าเปรอะเปื้อนของชลธิชา ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยสะใจแล้วเอ่ยคำแก้ตัวขึ้นมา“ก็นายหญิงอยากเร่งผมเองนี่ครับ...บอกว่าไม่มีเวลา...ผมก็ต้องรีบสิครับ” น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความทะเล้นและเยาะเย้ย“ทีหลังอย่า







