ตอนที่ 2
——————————
ร่างอรชรยืนอยู่หน้าห้องทำงานในตัวคฤหาสน์ ก่อนจะเคาะประตูเพื่อบอกการมาของเธอ ไม่นานก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้ เท้าเล็กหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานสักพัก ก่อนจะเอ่ยขึ้นเมื่อคนที่เรียกเธอมาพบกลับไม่มองและไม่พูดอะไรกับเธอเลย
"คุณท่านเรียกเกลมีอะไรหรือเปล่าคะ"
คำถามที่ถือเป็นบทสนทนาแรกในรอบหนึ่งเดือนของเธอและท่านนาธาน ซีซานเดอร์ พ่อผู้ให้กำเนิดเลยก็ว่าได้
"ฉันต้องถามแกมากกว่าที่คิดยังไงไปทำงานร่วมกับคุณหนูระดับแอลลี่ได้ห้ะ!!"
ปึง!!
เสียงแท็บเล็ตถูกวางลงบนโต๊ะทำงานอย่างแรงจนทำให้หญิงสาวสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ ใบหน้าสวยหวานเริ่มหม่นหมองลง แค่แอบหวังว่าเขาจะร่วมยินดีกับวันนี้บ้างก็เท่านั้น แต่ความหวังนั้นก็พลันหายวับไป
"..เกลรู้จักกับคุณแอลตอน...."
"คนอย่างแกนะหรือจะคิดเทียบกับคนพวกนั้น แกไม่มีวันตามทันเขาหรอก!!..."
"ไม่ใช่นะคะ เกลไม่เคยคิดเทียบกับคุณแอลเลย" หญิงสาวได้แต่ก้มหน้ามองต่ำไม่กล้าที่จะสบสายตากับคนเป็นพ่อเลยสักครั้ง
"อย่ามาเถียง! ไอ้บริษัทเล็กๆ บ้าบอนั่นไม่นานก็เจ๊ง เหอะ!...ดีนะที่แกไม่ได้ใช้นามสกุลฉัน"
นาธานแค่นเสียงหัวเราะใส่คนที่ไม่รู้จักเจียมตัวยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้า
"คราวหน้าเกลจะถามความคิดเห็นของคุณท่านก่อน ขอโทษค่ะ" ใบหน้าหวานเงยขึ้นเอ่ยเสียงสั่น
เธอได้แต่เก็บความน้อยใจไว้ข้างใน...น่าจะชินชากับคำพูดพวกนี้หน่อยก็ยังดี มันไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนด่าแบบนี้เสียหน่อย
"หึ ไม่ต้องละ อยากทำอะไรก็เรื่องของแก ออกไปได้แล้ว"
สิ้นเสียงออกคำสั่ง นาธานก็จับแท็บเล็ตขึ้นมาดูแล้วไม่สนใจหญิงสาวอีกเลย
อามิเกลเดินออกจากตึกใหญ่กลับบ้านหลังเล็กของตัวเองด้วยจิตใจห่อเหี่ยว เธอเกิดจากความผิดพลาด เกิดจากความสนุกแค่ชั่วคราวของพวกเขา...เธอรู้ดี
แต่หากปล่อยให้เธอลืมตาดูโลกและเติบโตมาได้
ก็อยากให้ใจดีกับเธอบ้าง ห่วงใยบ้าง ไม่ต้องถึงขั้นรับเป็นลูกขนาดนั้นก็ได้ แค่เห็นเธออยู่ในสายตาบ้างก็พอ
ร่างอรชรนอนลงบนเตียงนุ่มในห้องนอนด้วยความรู้สึกหนักอึ้งไปหมด เธอคงคาดหวังมากเกินไป ขนาดวันที่เธอเรียนจบไม่ว่าจะไฮสคูลหรือมหาลัยเขาก็ไม่เคยแสดงความยินดีหรือแม้แต่คำพูดอวยพรก็ไม่เคยมีให้สักครั้ง
หญิงสาวหลับตาลงเพื่อหวังไม่ให้น้ำตาไหลออกมา แต่มันก็ยังไหลออกมาได้อยู่ดี
"พอแล้ว ห้ามร้องไห้กับเรื่องแบบนี้อีกนะเกล"
ดวงตาหวานลืมตาขึ้น มือบางปัดหยดน้ำที่เปื้อนใบหน้าออกเบาๆ ก่อนจะพูดให้คำมั่นสัญญากับตัวเอง
กริ๊ง~ กริ๊งงง~~ เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น
หญิงสาวหยิบกระเป๋าผ้าใบใหญ่ที่บรรจุของต่างๆ ไว้ในใบเดียว ควานหาต้นเสียงเพื่อดูว่าใครโทรหาเธอเวลาดึกดื่นขนาดนี้
'ไรอัน' นั่นไงใช่คนที่เธอคิดว่าจริงๆ ด้วย
"ฮัลโหล" เสียงใสกรอกลงไปทันทีที่กดรับสาย
"เกล ฉันโทรหาเธอตั้งหลายครั้งทำไมไม่รับสายเลย"
เสียงปลายสายถามขึ้นด้วยความร้อนรนหลังจากที่ติดต่อเพื่อนสาวมาพักใหญ่
"ฉันติดธุระอยู่ไม่ได้ดูโทรศัพท์เลย นายมีอะไรหรือเปล่า"
อามิเกลเอาโทรศัพท์ออกจากใบหูเล็กขาวสะอาด
กดไปดูประวัติการโทรเข้าก็พบว่าไรอันติดต่อเธอมากกว่าสิบสาย
"คือฉันมีเรื่องอยากให้เธอช่วยนิดหน่อย..." ไรอันพูดแค่นั้นก็นิ่งเงียบไป จนหญิงสาวขมวดคิ้วสงสัย
"เรื่องอะไรล่ะ"
"คืนพรุ่งนี้เธอช่วยปลอมตัวเป็นแฟนฉันหน่อยสิ"
"อีกแล้วเหรอไรอัน นายนี่นะ" ทุกครั้งที่ไรอันจะเลิกกับแฟนหรือมีปัญหาเรื่องผู้หญิงเป็นอันต้องดึงเธอไปเกี่ยวข้องด้วยทุกที จนเกรงว่าไปไหนมาไหนก็กลัวเจอบรรดาผู้หญิงที่เพื่อนใจร้ายทิ้งไปทุกที
"เอาน่าช่วยหน่อยนะ ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายจริงๆ นะมิเกล" ไรอันขอร้องด้วยน้ำเสียงลำบากใจ เพราะจริงๆ เขาก็
ไม่อยากให้เพื่อนมายุ่งด้วยเท่าไหร่ แต่มันก็ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้แล้ว
"ก็ได้ๆ ครั้งสุดท้ายจริงๆ นะ"
เธอกับไรอันโตมาด้วยกัน ด้วยความที่อายุเท่ากันและบ้านก็อยู่ติดกันจึงทำให้สนิทกันตั้งแต่ยังเด็ก ที่บ้านของไรอันทำ รีสอร์ตเล็กๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติจริงๆ ระหว่างที่แม่ป่วยก็มีพ่อแม่ของเขาที่คอดูแลอาหารการกินและค่าขนมบ้างแต่ละวัน
พอเธอย้ายมาอยู่ในความดูแลของท่านนาธานก็ยัง
ติดต่อหาคุณลุงคุณป้าและเพื่อนอยู่เป็นระยะ ไรอันได้เข้าเรียนในมหาลัยเดียวกันกับเธอระหว่างนั้นเขาก็มีปัญหาให้เธอช่วยค่อนข้างบ่อย ซึ่งเธอก็เต็มใจที่จะช่วยหากมันไม่หนักหนาเกินกว่าที่จะทำได้ ก็เพราะอยากตอบแทนพวกเขาบ้าง
ด้วยความที่เข้าสังคมไม่เป็น พูดไม่เก่งทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อนมากมายอะไร ในชีวิตคนที่สนิทและรู้เรื่องของเธอก็มีแค่ไรอัน ส่วนโซอี้ก็รู้แค่เรื่องที่เธอเป็นลูกนอกสมรสของท่านนาธานเท่านั้นชีวิตก่อนหน้าเธอไม่ค่อยได้เล่าให้ฟัง
"สัญญาเลย ขอบใจนะมิเกล" หลังจากวางสายไรอันก็ส่งข้อมูลที่จำเป็นและสถานที่นัดเจอมาให้ก่อนจะทิ้งท้ายว่าจัดหาชุดสำหรับพรุ่งนี้ไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว
EP. Special 3——————————สายตาคมกริบดุดันจ้องมองไปที่ร่างอรชรกำลังงุ่นง่านวุ่นวายอยู่กับชุดคอลเล็กชั่นใหม่ที่ใกล้จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนคนที่เธอไม่อยากเจอหน้ามากที่สุดในตอนนี้กำลังยืนกอดอกพิงขอบประตูมองเธออยู่ ทันทีที่ดีไซเนอร์อีกคนหันไปเจอร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มที่มาใหม่ก็รีบก้มโค้งให้แล้วรีบหายตัวออกไปจากห้องนั้นรวมทั้งคนอื่นๆ ที่กำลังทำงานกันอยู่ด้วย"อลิซพักก่อนก็ได้นะ แอลแก้ชุดนี้เสร็จเดี๋ยวตามไปจ๊ะ" เธอบอกลูกน้องที่เป็นดีไซเนอร์เช่นกันแต่กลับไม่มีเสียงตอบรับอะไรเลย เงยหน้าขึ้นมาก็ไม่พบใครแล้ว"อ้าว ไปไหนกันหมดนะ"หญิงสาวหันซ้ายหันขวาก่อนจะหมุนตัวกลับหลัง เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเจอผู้ชายคนที่เธอไม่อยากเจอมากที่สุดในตอนนี้กำลังมองมา เขากระตุกยิ้มมุมปากแล้วเดินเข้ามาหาเธอทำให้กลิ่นกายหอมประจำตัวของเขาชัดเจนมากขึ้นไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวหนีเขาก็มายืนอยู่ตรงหน้าและจัดการล็อกเธอเอาไว้ด้วยสองมือใหญ่ที่ค้ำยันโต๊ะ สายตาคมดุดันมองสำรวจร่างอรชรที่เขาไม่ได้เจอมาเกือบ 2 เดือนละเอียดยิบ ผิวขาวนวลเปล่งปลั่ง สาวเจ้าเนื้อแต่รูปร่างสมส่วนทำให้เธอมีเซ็กซ์แอพพีลสูงและกลิ่
EP. Special 2—————————— ภายในห้องสำหรับเข้าเยี่ยมนักโทษกรณีพิเศษ อามิเกลนั่งรอระหว่างเจ้าหน้าที่นำตัวนาธานออกมาพบโดยมีสามีหนุ่มยืนอยู่ข้างๆ มือหนาของเคลย์ตันลูบศีรษะเล็กแล้วก้มลงจูบผมนุ่มแผ่วเบาไม่นานนาธานก็นั่งลงเก้าอี้ตรงข้ามกับเธอโดยมีกระจกแผ่นหนากั้นไว้อยู่ สายตาของเขามองลูกสาวคนเล็กของตัวเองด้วยความรู้สึกผิดเต็มขั้วหัวใจจนไม่อาจมองหน้าลูกสาวและสบตาโดยตรงกับเธอได้"คุณท่านเป็นยังไงบ้างคะ"เสียงหวานกรอกตามสายโทรศัพท์ เธอประหม่าเล็กน้อยเมื่อคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามไม่ได้มองเธอด้วยสายตาเกรี้ยวกราดเหมือนเมื่อก่อน"อืม สบายดี..." เสียงแหบสั่นเครือเอ่ยตอบลูกสาว พยายามไม่มองหน้าเธอเพราะรู้สึกว่าน้ำตามันกำลังจะไหลออกมายังไงยังงั้นทั้งๆ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยไยดีลูกสาวคนนี้เลยสักครั้ง แต่เธอก็ยังแวะมาเยี่ยมเยือนถามไถ่ความเป็นอยู่ ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดและเสียใจมากขึ้นจนไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าลูกสาวของตัวเอง"..ค่ะ..คือ..เกลมีบางอย่างที่ต้องบอกคุณท่านให้รับรู้ด้วยตัวเอง...คือว่า...""ฉันรู้แล้วล่ะนะ ไม่ต้องคิดมากอะไรทั้งนั้น"นาธานตอบกลับก่อนที่ลูกสาวจะเอ่ยจบ รู้นิสัยของอามิเกลดีว่ายังไงก็ต้องบอก
EP. Special 1——————————2 เดือนผ่านไป...อามิเกลทำอาหารเช้าให้สามีทานก่อนไปทำงานเหมือนอย่างทุกวัน ทันทีที่ร่างสูงใหญ่ก้าวเท้าเดินเข้ามาในส่วนของห้องครัว คนรับใช้และลูกมือของหญิงสาวก็สลายตัวออกไปกันหมดอย่างรู้หน้าที่ เพราะรู้ดีคุณชายของพวกเธอนั้นรักความเป็นส่วนตัวมากขนาดไหนโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีนายหญิงอยู่ด้วยวงแขนกำยำสวมกอดร่างอรชรของภรรยาสาวจากด้านหลังในขณะที่เธอกำลังจัดแต่งอาหารใกล้พร้อมเสิร์ฟอยู่ มือเล็กวางผลไม้ตรงหน้าลงก่อนจะหันไปหาเขา ใบหน้าสวยหวานยิ้มตาหยีแววตาระรื่นสบตาสายตาคมที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว"สุดหล่อของเกลหิวแล้วเหรอคะ" เสียงหวานเอ่ยพร้อมกับยกมือบางลูบเสื้อกั๊กและเนกไทสีเข้มขยับให้เข้าที่เข้าทางเรียบร้อยมากกว่าเดิม"นิดหน่อยครับ แต่หิวอย่างอื่นมากกว่า"เขาอมยิ้มพูดขึ้นขณะที่มือหนาข้างหนึ่งแตะแก้มเนียนนุ่ม มองสำรวจใบหน้าสวยหวานด้วยแววตาหวานฉ่ำเต็มเปี่ยมด้วยความภูมิใจและพอใจในตัวภรรยาสาวที่ช่างดูแลเอาใจใส่เขาทุกกระเบียดนิ้วไม่เคยบ่นสักครั้ง จะมีก็แต่เวลาที่เขาแกล้งเธอเท่านั้นแหละ"คนบ้า รอสักครู่นะคะใกล้จะเสร็จแล้ว"เธอฟาดฝ่ามือเล็กตรงอกแกร่งเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยวกับความท
ตอนที่ 68——————————หลังจากทานอาหารและฉลองวันเกิดของอามิเกลจนถึงเวลาที่ทุกคนต้องแยกย้าย เซนต์เลือกที่จะพาภรรยาและลูกชายพักผ่อนอยู่ที่นี่ต่ออีกสักสัปดาห์ เฮย์เดนกลับรัสเซียตั้งแต่คืนนี้ เคลย์ตันเองก็กลับอิตาลีเช่นกันสนามบินส่วนตัวของโรงแรมคาสเซียสในฮาวายขณะที่กำลังหญิงสาวเดินขึ้นเครื่องโดยมีแขนกำยำของสามีหนุ่มโอบรอบไว้ไม่ห่าง อามิเกลมองไปที่เครื่องบินอีกลำพึ่งแลนด์ดิ้งลงจอดสนิทอยู่ไกลๆ จำได้ว่าเธอเคยขอกลับอิตาลีด้วยคราวก่อน ก่อนที่จะมีคนแต่งตัวคล้ายๆ ลูกน้องของสามีลงมาก่อนสี่ห้าคน ตามด้วยชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งผู้ชายนั้นเธอไม่แปลกใจ แต่ผู้หญิงคนนั้น..."ที่รักคะ...""ว่าไงครับ""นั่น เอ่อ..คุณเดกซ์เตอร์กับ..นีนนี่คะ..."ใบหน้าสวยเอียงคอทอดมองไปที่สองคนนั้นอย่างสงสัย ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อฝ่ายชายดึงกระชากหญิงสาวเดินตามลงมาจากเครื่องบินจนแทบล้มหัวคะมำหากคนที่ดึงไม่รับร่างเล็กไว้ซะก่อน"...ไม่มีอะไรหรอกครับที่รัก เราไปกันเถอะ"สายตาคมหันไปมองครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยบอกภรรยาสาวแล้วพาเดินขึ้นไป เธอเหลียวหลังมองอยู่พักใหญ่จนประตูบันไดของเครื่องบินปิดลงชั่วโมงที่แล้วเขาพึ่งได้รับรายงานมาว่
ตอนที่ 67——————————เช้าวันต่อมา..."ไหวไหมคะที่รัก..." เสียงหวานได้แต่ร้องถามคนอยู่ในห้องน้ำด้วยความเป็นห่วง เพราะเขาไม่ให้เธอตามเข้าไป"..ว..ไหวครับ.."ร่างสูงใหญ่โก่งตัวอาเจียนตัวติดชักโครกอยู่ครึ่งชั่วโมง ยืดตัวตรงเต็มความสูงล้างหน้าล้างตาอย่างลวกๆ ก่อนจะเดินไปเปิดน้ำเย็นให้กระทบลงบนผิวกายให้สดชื่น ตอนเช้าเขามักวิงเวียนศีรษะ แต่ก็ไม่ถึงกับต้องรีบลุกมาอาเจียนเหมือนวันนี้"ที่รักคะ ทำไมเงียบไปล่ะ"ปึงๆ ปึงๆเมื่อเสียงเงียบไปนานเธอจึงระรัวมือบางเคาะประตูอย่างเป็นห่วงสามี ก่อนเข้าห้องน้ำเขาหน้าซีดเผือดเหมือนไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงยังไงยังงั้น ครั้นจะตามเข้าไปก็โดนเขาบอกให้ออกมาตลอดอามิเกลยืนรออยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมงเขาจึงออกมา ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มมีสีหน้าดีขึ้นแต่ก็ยังดูซีดๆ อยู่ดี เขาโน้มตัวลงมากอดหญิงสาวไซ้ซอกคอขาวระหงหาความหอมละมุนฟอด..."หอมจัง"เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น ก่อนจะอุ้มเตงคนตัวเล็กขึ้น แขนเล็กกอดคอแกร่งขาเรียวรีบเกี่ยวเอวสอบไว้อย่างไว ขณะที่เขาก็ยังซุกซนอยู่กับซอกคอขาว เดินไปยังห้องแต่งตัว"ไปหาหมอกันมั้ย เกลว่าคุณเป็นหนักขึ้นนะคะ" หญิงสาวถามด้วยความเป็นใบหน้าเต็มไปด้วยความก
ตอนที่ 66——————————"ที่รักคะ..." ร่างอรชรสวมชุดคลุมสีครีมออกมาจากห้องแต่งตัว"..ค..ครับ.."โธ่เว้ย! อยากจะตีปากตัวเองจริงๆ ตั้งใจว่าจะงอนต่อให้เธอง้อให้ได้ แต่เพียงแค่ได้ยินเสียงหวานๆ เรียกเขาก็เผลอตอบรับจนได้มือหนาปิดแท็บแล็ตในมือ สายตาคมมองตามคนตัวเล็กจนเธอมาหยุดอยู่ที่ปลายเตียง ห้ามตัวเองสุดฤทธิ์ที่จะไม่เข้าหาเธอก่อน"โกรธเกลเหรอคะ..." เสียงหวานเอ่ยถามไปอย่างงั้นเพราะเธอรู้อยู่แล้ว"เปล่า""งั้นพรุ่งนี้ช่วยพาเกลไปโบสถ์ได้ไหม...""อืม" เขาตอบเสียงเรียบแล้วจับก้มมองแท็บเล็ตต่อ ท่าทีของสามีหนุ่มทำให้อีกคนอมยิ้มด้วยความเอ็นดู"ไม่ถามเกลหน่อยเหรอคะว่าไปทำไม"".......""จะไม่สนใจเกลจริงๆ เหรอคะ" เสียงหวานเอ่ยต่อ ดวงตากลมโตมองอย่างใสซื่อตาใสราวกับเด็กน้อย"......." ประโยคล่าสุดของเธอทำให้เขาเงยหน้าขึ้น สายตาคมก็พลันเปล่งประกายระยิบระยับเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่เห็นดังนั้นเธอยิ่งต้องการยั่วยวนเขามากกว่าเดิม จากแววตาอันใสซื่อเปลี่ยนเป็นเปล่งประกายโดยอัตโนมัติ ริมฝีปากอวบอิ่มยกยิ้มมุมปาก ค่อยๆ คลานเข่าไปหาร่างกำยำอย่างช้าๆ สบมองสายตาคมอย่างเย้ายวนทำให้เขาไม่สามารถละสายตาจากเธอไปได้เลย"..เมี