Masukความคิดในสมองของเมฆาแบ่งเป็นสองส่วนที่กำลังตีกันความคิดแรกคือเดินไปลากเจ้าตัวปัญหาขึ้นห้องแล้วให้รับผิดชอบที่หล่อนทำให้อารมณ์กระสันของเขาพลุ่งพล่านในตอนนี้ ซึ่งเขาสามารถทำได้อยู่แล้วเพราะเด็กนั่นเป็นสมบัติของเขา
แต่อีกความคิดเขาก็ยังมีมนุษยธรรมมากพอ เพราะการทำแบบนั้นก็เท่ากับขืนใจ รอให้เด็กคนนี้เต็มใจแล้วคลานมาหาเขาเองดีกว่า ไม่ต้องรีบ
สุดท้ายความคิดฝ่ายขาวก็ชนะความคิดด้านมืด เขาจึงเดินขึ้นห้องไปจัดการปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเองด้วยสองมือของเขาเอง
ส่วนปลายฝนยืนล้างจานไป ภาพที่พ่อเลี้ยงยื่นหน้ามาใกล้ๆ เธอเมื่อช่วงเย็นที่บริเวณตรงที่เธอยืนอยู่ตรงนี้ ก็ทำให้ใจเธอเต้นแรง มันเกิดอะไรกับเธอนะเนี่ยความรู้สึกแบบนี้คืออะไร เธอล้างจานเก็บทำความสะอาดครัวเสร็จก็รีบกลับเข้าเรือนพักของตัวเอง และหลับไปด้วยความว้าวุ่นใจและเหนื่อยล้าจากงานในไร่มาทั้งวัน โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนแอบจินตนาการถึงใบหน้าและรูปร่างเธอแล้วเอาไปใช้สำเร็จความใคร่ของตนเอง
เช้าวันรุ่งขึ้น
ปลายฝนตื่นแต่เช้าเธอเตรียมอาหารมื้อเช้าง่ายๆเป็นผัดกะหล่ำปลีใส่ไข่สำหรับตัวเองและใส่บาตร พอใส่บาตรเสร็จเธอเตรียมจะเดินเข้าบ้านเวหาที่ขับมอเตอร์ไซค์ผ่านมาก็หยุดพูดคุยทักทายกับเธออยู่พักใหญ่
ปลายฝนลืมคำพูดของพ่อเลี้ยงเมฆาที่บอกเธอไว้เมื่อคืนเสียสนิท ทุกอากัปกิริยาทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนทั้งคู่นั้นอยู่ในสายตาของเจ้าของไร่ที่ยืนกอดอกมองผ่านหน้าต่างห้องนอนชั้นสองของบ้านอยู่ตลอดเวลา
“วันนี้ป้าหมายไม่อยู่หรือ ถึงได้มาใส่บาตรคนเดียว”
“ป้าหมายไปงานแต่งหลานสาวที่ต่างจังหวัดค่ะ แกลางานพ่อเลี้ยงไว้ประมาณสองอาทิตย์เห็นบอกว่าอาจจะอยู่เที่ยวพักผ่อนต่ออีกสักพักค่ะ”
“เออใช่ป้าหมายบอกพี่แล้วนี่นา พี่ลืมไป อะนี่..ปลายพี่ซื้ออันนี้มาฝาก เมื่อวานขับรถผ่านตลาดนัดที่หน้าวัด เห็นสาวๆ รุ่นเดียวกับปลายเขายืนรุมซื้อกัน พี่ไปแย่งมาได้แค่นี้”
เวหาถุงกระดาษส่งให้และแอบมีอาการเขินอายเล็กน้อยที่ผู้ชายตัวโตอายุย่างจะเข้าหลักสี่อย่างเขาต้องมาซื้อของกระจุกกระจิกให้เด็กสาวรุ่นราวคราวลูก ปลายฝนรับถุงกระดาษมาแล้วเปิดออกก็เห็นว่าเป็นโดนัทผ้าสำหรับรัดผมสีชมพูตกแต่งด้วยตัวการ์ตูนคิตตี้น่ารัก เธอยิ้มแล้วยกมือไหว้ขอบคุณ
“น่ารักจังเลยค่ะ ขอบคุณพี่เวย์มากเลยนะคะ แต่พี่เวย์ไม่ต้องซื้อให้ปลายแล้วนะ มันเป็นของสิ้นเปลือง เสียดายตัง”
“ไม่เป็นไร อันนึงไม่กี่บาทเอง พี่อยากเห็นปลายสดใสสมวัย ใบหน้าของปลายเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่านะครับ”
เวหาถึงเขาจะรู้ว่าระหว่างเขากับปลายฝนมันเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่เขาก็ยังอยากที่จะพยายามเผื่อฟ้าดินจะเป็นใจ
“ปลายขอบคุณพี่เวย์มากนะคะที่ใจดีกับปลายและครอบครัวเสมอ”
“อย่างน้อยครั้งหนึ่งลุงพันก็เคยบอกว่าอยากให้พี่ดูแลปลาย ถึงตอนนี้จะมีคนอื่นมาทำหน้าที่นั้นแล้ว แต่พี่ก็ยังไม่อยากหมดหวังนะ”
“ขอบคุณค่ะพี่เวย์ เอ่อ..พี่เวย์คะ ช่วงนี้ปลายไม่ได้เข้าไปทำงานในไร่เพราะต้องทำงานแทนป้าหมาย ปลายยังไม่ได้บอกน้าสนเลย เดี๋ยวสายๆ ปลายจะเดินไปบอกน้าสนอีกทีค่ะ”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องเดินตากแดดเข้าไปในไร่หรอก เดี๋ยวผิวจะเสีย ดูสิทำงานในไร่ไม่กี่วันผิวคล้ำหมดแล้ว พี่กำลังจะไปเจอน้าสนพอดีเลย พี่จะบอกน้าสนให้นะ”
“ขอบคุณค่ะ ผิวคล้ำก็ไม่เห็นเป็นไรเลย เดี๋ยวป้าหมายกลับมา ปลายก็ต้องเข้าไร่อยู่ดี”
“เชื่อพี่รอป้าหมายกลับมาแล้วค่อยเข้าไปในไร่ พี่ชอบน้องปลายที่ผิวขาวแบบนี้มากกว่า ..เอ่อ พี่หมายความว่าน้องปลายเหมาะกับผิวแบบนี้มากกว่า พี่ว่าพี่รีบไปดักน้าสนก่อนดีกว่า ไปแล้วนะปลาย แล้วค่อยคุยกันใหม่”
เวหาพูดตะกุกตะกักแก้ตัวแทบไม่ทันคิดแล้วอยากเขกหัวตัวเองสักที พูดจบก็ขับมอเตอร์ไซค์คันเก่าเข้าไปในไร่
ปลายฝนเดินอมยิ้มเข้ามาในบ้านอย่างมีความสุข การที่เธอต้องออกจากบ้านมาอยู่โดดเดี่ยว มีเวหามาพูดคุยกันบ้างก็ทำให้ปลายฝนคลายความเหงาและอบอุ่นใจมากขึ้น
“สิ่งที่ฉันบอกเธอไปเมื่อวาน มันไม่ได้เข้าหัวเธอบ้างเลยหรือไงปลายฝน หรือเธอจงใจจะขัดคำฉัน”
ปลายฝนตกใจกับเสียงที่ตวาดดัง ดวงตาเปล่งประกายความโกรธดังไฟที่ลุกโชนจ้องมองมาที่เธอจนเธอแทบหลอมละลาย เมฆาเดินเข้ามากระชากแขนจนถาดและขันใส่ข้าวตกกระจาย ปลายฝนถลาตามแรงกระชากทำให้หน้าอกอันอวบอัดเข้ามาปะทะหน้าอกแกร่งอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ว่าไง หรือว่าร่านจนขาดผู้ชายไม่ได้ จนต้องนัดแนะมาคุยกัน คำพูดฉันมันไม่มีความหมายใช่ไหมปลายฝน”
สองมือของเมฆาบีบที่ไหล่บาง จนร่างเล็กรู้สึกปวดร้าวไปหมด เธอกำลังจะเอ่ยปากอธิบาย จังหวะที่กำลังเผยอปากก็ถูกริมฝีปากของอีกคนกดลงมาประกบทับ เรียวลิ้นหนาแทรกเข้าไปฉกชิมความหวานภายในอย่างดุดัน ริมฝีปากบางบนและล่างถูกขบกัดจนบวมเจ่อ ปลายฝนทั้งรู้สึกเจ็บและหวาบหวามหัวใจไปพร้อมกัน สัมผัสใหม่ที่ไม่เคยได้รับจากใคร จูบแรกของเธอได้ถูกพ่อเลี้ยงเมฆาช่วงชิงไปแล้ว
เมฆาปลดกางเกงลงแล้วควักเจ้าลูกชายของเขาออกมา ท่อนเอ็นที่มีขนาดเกือบเท่าแขนของปลายฝน ความยาวไม่ใช่น้อย ทำให้ปลายฝนตะลึงงัน เผลอกระเถิบถอยหลังจนชิดผนังเรือนโดยไม่รู้ตัว เมฆาก้าวตามไป แล้วจับท่อนเอ็นจ่อไปที่ปากเธอ ปลายหัวหยักมีน้ำปริ่มออกมา ปลายฝนตกใจทำอะไรไม่ถูก ทั้งกลัว ทั้งตระหนก“เอาเข้าไปในปากเธอสิปลายฝน แล้วดูดเลียให้ฉันเหมือนที่เธอดูดนิ้วฉันเมื่อครู่นี้ แต่ห้ามให้ฟันโดนของฉันเด็ดขาด”“พ่อเลี้ยง หนู หนูกลัว”“ทำตามที่ฉันสั่งอย่าให้ฉันโมโห เธอต้องเอาใจฉันและตามใจทำให้ฉันพอใจฉันเข้าใจไหม”ปลายฝนอ้าปากสั่นระริกครอบท่อนเอ็นของผู้เป็นเจ้าชีวิตเธอ กลิ่นและรสชาติของน้ำที่ปริ่มที่ปลายหัวทำให้เธอรู้สึกพะอืดพะอม แต่เธอไม่สามารถปฏิเสธมันได้เพราะสายตาที่แข็งกร้าวดุดันกำลังจ้องมองเธออยู่เพียงแค่ส่วนหนึ่งของร่างกายเขาเข้าไปอยู่ในโพรงปากที่อ่อนนุ่มและอุ่นชื้นของหญิงสาว เขาก็สยิวเสียวซ่านจนแทบจะอดรนทนไม่ได้ เสียงแหบพร่าแต่แฝงไปด้วยอำนาจทั้งครางและออกคำสั่ง“อ่า.. ขยับปากหน่อยปลายฝน ดูดแรงหน่อย อ่าส์ อย่างนั้นแหละ แม่งโคตรดีเลย”ปลายฝนออกแรงดูดตามคำสั่ง ดูดจนแก้มตอบด้วยท่าทางที่ไม่ประสีประสาอ่อนต่
ปลายฝนรู้สึกเหมือนสติจะหลุด ทุกลมหายใจโดนพ่อเลี้ยงสูบไปเกือบหมด หน้าอกถูกบีบขย้ำเต็มแรงจนเธอเจ็บระบม แต่แล้วความรู้สึกก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อฝ่ามือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อบีบขยำสองเต้าที่นุ่มนิ่มเต็มฝ่ามือ ไอร้อนจากฝ่ามือของชายหนุ่มกับสัมผัสจาก ปลายนิ้วที่ทั้งบดขยี้ดึงเล่นที่ส่วนปลายถัน ความวูบวาบแล่นผ่านปทุมถันแล้วพุ่งลงไปที่ช่วงล่างของเธอทำให้รู้สึกมวนท้องน้อยและปั่นป่วนไปด้วย ปลายฝนได้แต่ร้องครางในลำคอ เพราะอีกฝ่ายยังคงประกบปากเธออยู่ไม่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระ จากการถูกปลุกปั่นไม่นานยอดอกที่นุ่มนิ่มก็เริ่มแข็งตัวชูชันสู้กับปลายนิ้วของชายหนุ่ม ทำให้เมฆาพึงพอใจ เขาจึงละริมฝีปากออกมา ปลายฝนหายใจแรงรีบกอบโกยลมเข้าสู่ปอด เธอแทบยืนไม่อยู่ สายตาเธอประทะกับดวงตาแข็งกร้าวที่ตอนนี้เต็มไปด้วยไฟราคะ เสื้อยืดตัวโคร่งถูกดึงกระชากถอดออกไปพร้อมกับบราตัวจิ๋ว หญิงสาวตกใจรีบยกมือมาปิดสองเต้าไว้ “อ๊ะ.. พ่อเลี้ยง” “ใช่.. ฉันเอง ทำไมกลัวเรียกชื่อผิดหรือไร เอามือออก” “ฮือ พ่อเลี้ยงอย่าทำอะไรหนูเลย” “นี่เธอคิดว่าฉันจ่ายห้าล้านเพื่อให้เธอมาแค่ทำงานในเรือน กับเป็นคนงานในไ
ความคิดในสมองของเมฆาแบ่งเป็นสองส่วนที่กำลังตีกันความคิดแรกคือเดินไปลากเจ้าตัวปัญหาขึ้นห้องแล้วให้รับผิดชอบที่หล่อนทำให้อารมณ์กระสันของเขาพลุ่งพล่านในตอนนี้ ซึ่งเขาสามารถทำได้อยู่แล้วเพราะเด็กนั่นเป็นสมบัติของเขาแต่อีกความคิดเขาก็ยังมีมนุษยธรรมมากพอ เพราะการทำแบบนั้นก็เท่ากับขืนใจ รอให้เด็กคนนี้เต็มใจแล้วคลานมาหาเขาเองดีกว่า ไม่ต้องรีบสุดท้ายความคิดฝ่ายขาวก็ชนะความคิดด้านมืด เขาจึงเดินขึ้นห้องไปจัดการปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเองด้วยสองมือของเขาเอง ส่วนปลายฝนยืนล้างจานไป ภาพที่พ่อเลี้ยงยื่นหน้ามาใกล้ๆ เธอเมื่อช่วงเย็นที่บริเวณตรงที่เธอยืนอยู่ตรงนี้ ก็ทำให้ใจเธอเต้นแรง มันเกิดอะไรกับเธอนะเนี่ยความรู้สึกแบบนี้คืออะไร เธอล้างจานเก็บทำความสะอาดครัวเสร็จก็รีบกลับเข้าเรือนพักของตัวเอง และหลับไปด้วยความว้าวุ่นใจและเหนื่อยล้าจากงานในไร่มาทั้งวัน โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนแอบจินตนาการถึงใบหน้าและรูปร่างเธอแล้วเอาไปใช้สำเร็จความใคร่ของตนเองเช้าวันรุ่งขึ้น ปลายฝนตื่นแต่เช้าเธอเตรียมอาหารมื้อเช้าง่ายๆเป็นผัดกะหล่ำปลีใส่ไข่สำหรับตัวเองและใส่บาตร พอใส่บาตรเสร็จเธอเตรียมจะเดินเข้าบ้านเว
ปลายฝนไม่เคยใกล้ชิดกับชายใดมาก่อน ใบหน้าร้อนผ่าว หัวใจของเธอเริ่มเต้นรัวแรง หายใจถี่ขึ้นโดยอัตโนมัติ ทรวงอกที่ขยับตามแรงลมหายใจดึงดูดความสนใจของเมฆา เขาอยากจะดึงเสื้อยืดตัวโคร่งของเธอถอดโยนทิ้งให้พ้นสายตาจริงๆ “ว่าไง เธอจะดูแลฉันอย่างไรปลายฝน” “เอ่อ.. หนูก็จะเตรียมกาแฟพ่อเลี้ยงตอนเช้า ทำอาหารให้พ่อเลี้ยงทานตอนเที่ยงกับตอนเย็นจ้ะ แล้วก็จะทำความสะอาดเรือนให้ด้วย” ปลายฝนตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เมฆากระตุกยิ้มที่มุมปาก เขาใช้มือข้างหนึ่งช้อนคางเด็กสาวให้สบตาเขา ดวงตาสวยใสราวกับลูกกวางน้อยมีแววตาที่หวาดหวั่น จากการถูกสายตาที่แข็งกร้าว ดุดันราวราชสีห์ของอีกฝ่ายจ้องมอง “เธอคิดว่าทำแค่นี้มันจะคุ้มค่ากับเงินห้าล้านของฉันไหม ไหนจะค่าที่พัก ค่าน้ำ ค่าไฟ แล้วอาหารที่เธอกินวันละสามมื้ออีก” “เอ่อ.. พ่อเลี้ยงให้หนูทำงานเพิ่มก็ได้นะจ๊ะ” ยิ่งเห็นแววตาที่ตื่นตระหนกหวาดกลัว แต่พยายามทำเป็นใจดีสู้เสือของปลายฝน เมฆาก็ยิ่งอยากแกล้ง “สงสัยฉันต้องให้เธอมาทำโอทีช่วงกลางคืนเพิ่มแล้วสิ” “พ่อเลี้ยงหิวแล้วใช่ไหมจ๊ะ เดี๋ยวหนูไปเตรียม
ชบาพาปลายฝนมานั่งพักในร่มเอาพัดมาโบกพัดวีให้ เอายาดมมาให้ดม สักพักคนที่หน้าซีดก็เริ่มมีอาการดีขึ้น ใบหน้าเริ่มมีเลือดฝาดสูบฉีดมา “นี่แหละผลของความดื้อของเรา” “ขอโทษจ้ะพี่ชบา ปลายเห็นทุกคนทำงานกันไม่ได้หยุดพักเลย ปลายก็อยากช่วยจ้ะ” “โอ๊ย เรามันกระดูกคนละเบอร์ เอ็งนะพึ่งมาวันนี้วันแรก ส่วนพวกพี่ทำกันมานานร่างกายมันชินแล้ว คราวหน้าถ้ารู้สึกไม่ดีต้องรีบพักรู้ไหม ถ้าเกิดพี่ไม่หันมาเห็นมีหวังเอ็งล้มหัวฟาดพื้นไปแล้ว” “จ้ะพี่” “นี่ก็จะเที่ยงแล้ว ไปล้างไม้ล้างมือรอกินข้าวเที่ยงเลยก็ได้” เมื่อถึงเวลาพักเที่ยงทุกคนก็เดินเข้าแถวถือถาดหลุมให้อารมณ์เหมือนตอนเรียนอยู่โรงเรียนประถมใครใคร่ตักข้าวมากน้อยเท่าไหร่ก็ได้ จะเติมกี่รอบก็ได้ มื้อเที่ยงนี้เป็นเมนูแกงส้มผักกาดจอ กับไข่เจียว“น้องสาวเป็นเด็กใหม่พึ่งมาหรือจ๊ะ ชื่ออะไรครับพี่ชื่อเข้มนะ”ชายหนุ่มผิวเข้มสมชื่อเอ่ยปากแซว ปลายฝนได้แต่ยิ้มแหย และก็มีเสียงสวรรค์ขึ้นมา“มึงหยุดเลยไอ้เข้ม แหมเห็นเด็กใหม่มาไม่ได้นะมึง ขี้หลีไปทั่ว ปลายมาทางนี้มาอย่าไปสนใจมัน” ชบาตะโกนต่อว่าชายผิวเข้มที่แซวน้องใ
ปลายฝนหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้ามาหนึ่งใบ ภายในมีเสื้อผ้าไม่กี่ตัวกับของใช้ส่วนตัวอีกแล้วเล็กน้อย เธอยกมือไหว้สมหมายป้าแม่บ้านที่ดูแลความเรียบร้อยของเรือนไม้บ้านพักของพ่อเลี้ยงเมฆา “สวัสดีค่ะป้าหมาย” “นี่เอ็งมีของมาแค่นี้เองหรือนังหนู กระเป๋าใบเดียวนี่นะ เราต้องมาอยู่กับพ่อเลี้ยงยาวๆ ไม่ได้มาเที่ยววันสองวันนะ” “ปลายไม่ค่อยมีของอะไรหรอกจ้ะป้า ปกติเสื้อผ้าก็มีไม่กี่ตัวแล้วก็ของใช้ส่วนตัวนิดหน่อยค่ะ” “ผิดกับนังเหมียวลูกป้าเลย รายนั้นไม่รู้จะซื้ออะไรนักหนาเสื้อผ้าเต็มตู้ไปหมด มา มาเอาของไปเก็บก่อน ที่พักเราอยู่ทางโน้น” สมหมายพาปลายฝนไปห้องพักที่เป็นเรือนไม้หลังเล็ก ถูกสร้างไว้ด้านหลังเรือนพักหลังใหญ่ของเมฆา ครั้งแรกเมฆาตั้งใจสร้างเอาไว้ให้เวหา แต่เวหาขอไปอยู่ที่เรือนไม้ในไร่แทน ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง ไม่อยากเห็นหน้าพ่อเลี้ยงทั้งวันทั้งคืน ประตูถูกเปิดออกมา ด้านในมีห้องนอนหนึ่งห้อง ห้องครัวเล็กๆ ห้องน้ำ และเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นเช่นตู้เสื้อผ้า พัดลม ตู้เย็น “อยู่ได้ไหม ขาดเหลือหรืออยากได้อะไรก็บอกป้าได้”







