Share

ตอนที่ 8

Author: 橙花
last update Last Updated: 2025-08-23 07:00:58

สามวันต่อมา

วันนี้มีรถม้าคันหนึ่งมาที่บ้านตระกูลไช่ในหมู่บ้าน ภายในเป็นอิงเต๋อและฮูหยินของเขาอย่างหม่านเซียงเดินทางมาด้วย พวกเขาพอได้รับจดหมายจากไช่เหมยฮวาเมื่อสามวันก่อนต่างดีใจมาก ยิ่งรู้ว่าพวกนางยังอยู่ดีมีสุข พวกเขาก็อยากรีบรับนางกลับจวนและทำตามแผนการในจดหมายที่ไช่เหมยฮวาบอกเอาไว้ ไม่ว่าวันหน้าจะเกิดสิ่งใดขึ้นกับตระกูลของพวกเขา ทั้งสองที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อไช่ไท่ฟู่อย่างลับ ๆ มาตลอดตั้งแต่อยู่ในราชสำนักก็คิดจะช่วยไช่เหมยฮวาอย่างเต็มกำลัง

“คารวะท่านอาอิงทั้งสองเจ้าค่ะ/ขอรับ” ไช่เหมยฮวาและไช่ซิวค้อมกายคำนับ

“พวกเจ้าไม่ต้องมากพิธี ไม่เจอกันไม่กี่ปี พวกเจ้าต่างเป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้ว” อิงเต๋อตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม

“น้องอิงเต๋อกับน้องหม่านเซียงรีบนั่งลงก่อนเถอะ” หม่าซูเรียกทั้งสองให้นั่งคุยกันก่อนที่พวกเขาจะรับบุตรสาวของนางเข้าไปในเมืองหลวง

“ขอรับ/เจ้าค่ะ พี่หญิงหม่า” ทั้งสองนั่งลงที่เก้าอี้ว่างตามคำเชิญ

พวกเขาไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันอยู่นานเกือบสองชั่วยาม กว่าที่อิงเต๋อจะเอ่ยเรื่องสำคัญขึ้นมาให้ทุกคนฟัง

“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา อำนาจของมหาเสนาบดีจูเค่อหยั่งรากลึกในราชสำนักและยังมีขุนนางเกินกว่าครึ่งที่สนับสนุนเขา ข้าเกรงว่าคงไม่ง่ายถ้าเราต้องการสืบเรื่องเมื่อสิบปีก่อน เจ้าคิดจะทำอย่างไรฮวาเอ๋อ”

“ท่านอาอย่าได้กังวลเลยเจ้าค่ะ ขอเพียงข้าได้เข้าร่วมงานเลี้ยงบ่อย ๆ ในฐานะบุตรสาวบุญธรรมของท่านอา ข้าคิดว่าคงมีคนพลั้งเผลอกล่าวถึงเรื่องเก่าก่อนออกมาสักวันหนึ่งเป็นแน่ อย่างไรเรื่องนั้นก็เป็นเรื่องใหญ่ ข้าคิดว่าคงไม่มีใครลืมได้ง่าย ๆ แม้จะผ่านกาลเวลามาหลายสิบปี” ไช่เหมยฮวากล่าวอย่างมั่นใจ

“อาเองก็ส่งคนไปหาเบาะแสมาตลอด เพียงแต่ไม่มีขุนนางคนใดกล้าเอ่ยถึงเรื่องนี้สักคน พวกเขาล้วนเกรงกลัวอำนาจของมหาเสนาบดีจูเค่อ บุตรชายของเขาอย่างจู่เค่ออี้หมิงยังเป็นถึงขุนนางขั้นสามในวัยเพียง 25 ปีเท่านั้น นับว่าพวกเขาพ่อลูกต่างกุมอำนาจในราชสำนักมาอย่างมั่นคงเลยทีเดียว อายังได้ข่าวอีกว่าพวกเขาสองพ่อลูกต่างอยู่ข้างองค์ชายใหญ่เซียงหุยอย่างออกหน้าออกตาและคิดจะผลักดันให้พระองค์ขึ้นเป็นไท่จื่อในอนาคต เพียงแต่องค์ชายรองเซียงเซียวเป็นบุตรชายคนเดียวของฮองเฮา เรื่องที่พวกเขาคิดจะทำจึงไม่ง่ายดายนัก ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันในที่ลับและที่แจ้งมาตลอดหลายปี แม้แต่ฮ่องเต้ยังไม่อาจหยุดยั้งการต่อสู้ของพวกเขาได้เลย”

“แล้วท่านอาอยู่ฝ่ายไหนหรือเจ้าคะ?” ไช่เหมยฮวาถามอย่างสงสัย

“อาไม่ได้อยู่ทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ มีขุนนางไม่กี่คนที่เป็นอย่างอา ไม่ว่าจะเลือกฝ่ายไหนต่างก็ต้องเกิดความสูญเสียไม่ต่างกัน อาเลยเลือกที่จะเป็นกลางมาตลอด ทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีใครมากดดันอาที่เป็นเพียงขุนนางฝ่ายอาลักษณ์ที่ไม่สำคัญ ทำให้อากับอาหญิงเจ้าอยู่รอดมาได้จนกระทั่งเจ้ากลับมา” อิงเต๋อยิ้มบางตอบ

“เหตุใดมหาเสนาบดีจูเค่อจึงได้สนับสนุนองค์ชายใหญ่ที่เป็นเพียงบุตรพระสนมเล่าเจ้าคะ น่าแปลกยิ่งนัก”

“ฮึ! เรื่องนี้เป็นแผนการขององค์ชายใหญ่เมื่อห้าปีก่อนน่ะสิ พระองค์สร้างเรื่องจนทำให้บุตรอนุซึ่งเป็นบุตรสาวคนโตของมหาเสนาบดีเสียชื่อเสียง ด้วยกลัวเสียหน้า จู่เค่อหรงเจี้ยนจึงขอพระราชทานสมรสให้บุตรสาวตนเป็นพระชายาเอกและยังให้นางใช้ชื่อภายใต้การเป็นบุตรีของฮูหยินใหญ่จูเค่อด้วย”

“ไม่คิดเลยว่าองค์ชายใหญ่จะกล้าทำเพื่ออำนาจถึงเพียงนี้” ไช่เหมยฮวาส่ายหน้าอย่างคิดไม่ถึงว่าคนเป็นหนึ่งในราชวงศ์จะใช้แผนการร้ายกาจเพื่อทำลายสตรีผู้หนึ่ง

“ยังดีที่องค์ชายรองยังไม่เลือกพระชายา อาได้ข่าวว่าบุตรสาวคนรองของจูเค่อหรงเจี้ยนแอบชอบองค์ชายรองมาหลายปี เพียงแต่สายตาขององค์ชายรองไม่คิดจะแลนางเลยแม้แต่น้อย หลายครั้งในงานเลี้ยง พระองค์ยังทำให้นางเสียหน้าด้วยนะ”

“ถ้าข้าจำไม่ผิด องค์ชายรองเคยเป็นลูกศิษย์ของท่านพ่อเมื่อครั้งยังเยาว์หรือเปล่าเจ้าคะท่านอา” ไช่เหมยฮวาจำไม่ได้แล้วว่าเขาหน้าตาอย่างไร

“ใช่ องค์ชายรองในปีนั้นยังขอฝ่าบาทเก็บรักษาตำราทั้งหมดในจวนไช่ไท่ฟู่เอาไว้มาตลอดด้วยนะ มีเพียงพระองค์ที่ไม่เชื่อหลักฐานเหล่านั้น น่าเสียดายที่ตอนนั้นองค์ชายรองเองก็ยังเยาว์นัก”

“ยังดีที่ข้าในตอนนี้หน้าตาเปลี่ยนไปมาก พวกเขาคงจำข้าไม่ได้หากเข้าร่วมงานเลี้ยงกับพวกท่านอาในภายภาคหน้า”

“เจ้าอย่ากังวลไปเลยฮวาเอ๋อ เรื่องชื่อใหม่ของเจ้า อากับอาหญิงไปขึ้นทะเบียนบุตรบุญธรรมเมื่อวันก่อนให้แล้ว หลังจากนี้เจ้าจะชื่อว่าอิงฮวา บุตรสาวเพียงคนเดียวของตระกูลอิงของอา” อิงเต๋อบอกอีกเรื่องที่เขาจัดการให้นาง

“ขอบคุณพวกท่านมากเจ้าค่ะที่ช่วยเหลือข้า” ไช่เหมยฮวายิ้มกว้างตอบ

“ฮวาเอ๋อ เจ้ายังไม่เรียกท่านพ่อ ท่านแม่อีกหรือ” หม่านเซียงกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้าง

“จริงอย่างที่อาหญิงของเจ้าว่า ฮวาเอ๋อเรียกท่านพ่อ ท่านแม่เถิด” หม่าซูเอ่ยขึ้น

“เจ้าค่ะ ขอบคุณท่านพ่อ ท่านแม่ที่เมตตาข้า” ไช่เหมยฮวาย่อกายคำนับทั้งสอง

“พี่ใหญ่ต้องระวังตัวด้วยนะขอรับ อาวุธลับที่ข้าประดิษฐ์ให้ ท่านอย่าลืมนำมันไปด้วยนะขอรับ” ไช่ซิวกำชับพี่สาวถึงสิ่งของหลายอย่างที่เขาเคยทำออกมา

“พี่เก็บใส่ห่อผ้าหมดแล้ว เจ้าอย่าได้กังวลนักเลย”

“ตอนนี้ก็เลยเวลาเที่ยงวันมานานแล้ว เรากินข้าวกันก่อนค่อยส่งฮวาเอ๋อออกเดินทางก็แล้วกันนะ พวกเจ้ารอสักครู่ ข้าไปยกอาหารมาก่อน” หม่าซูลุกขึ้นบอกทุกคน

“ข้าไปช่วยพี่หญิงนะเจ้าคะ” หม่านเซียงลุกขึ้นเดินตามไป

ทั้งห้าคนร่วมทานมื้อเที่ยงเสร็จ ไช่เหมยฮวาก็เข้าห้องไปนำห่อผ้าออกมาและติดตามท่านอาทั้งสองขึ้นรถม้าจากไปในเวลาต่อมา

หม่าซูและไช่ซิวมองส่งจนรถม้าจากไปไกลแล้วจึงพากันเดินกลับเข้าบ้านอย่างเหงาหงอย เมื่อไม่มีบุตรสาวอยู่ บ้านหลังนี้ดูเงียบลงไปมากจริง ๆ ไช่ซิวที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็เงียบขรึมมาตลอด เขาพูดไม่เก่งจึงไม่รู้จะปลอบใจท่านแม่อย่างไร

หม่านเซียงสั่งคนขับรถม้าให้แวะร้านเสื้อผ้าและเครื่องประดับก่อนกลับจวนเพราะนางต้องการประกาศให้ทุกคนรู้ว่านางมีลูกสาวที่เพิ่งรับกลับมาจากบ้านเดิมแล้ว หม่านเซียงรู้ดีว่าหลังจากนี้พวกนางแม่ลูกจะต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อสืบเรื่องราวแต่หนหลัง

อิงเต๋อไม่ได้ขัดใจภรรยา เขาเห็นเสื้อผ้าของไช่เหมยฮวาแต่แรกก็นึกอยากให้นางแต่งกายอย่างเหมาะสมกับการเป็นบุตรีขุนนางขั้นสี่กรมอาลักษณ์อย่างเขา

กว่าครอบครัวอิงจะเดินทางกลับถึงจวนก็เป็นเวลาก่อนมื้อเย็นพอดี บ่าวไพร่ในเรือนรู้กันมาสักพักแล้วว่านายท่านกับฮูหยินวันนี้จะไปรับบุตรสาวที่ฝากเลี้ยงเอาไว้ยังบ้านเดิม พวกเขาตั้งหน้าตั้งตารอดูว่าคุณหนูของพวกเขาจะหน้าตาเป็นอย่างไรมาสองวันแล้ว

อิงเต๋อ หม่านเซียงและอิงฮวาลงจากรถม้าพร้อมรอยยิ้มบาง พ่อบ้านใหญ่ที่เห็นคุณหนูหน้าตาสะสวย รูปร่างผอมบาง กิริยามารยาทไม่ต่างจากคุณหนูสูงศักดิ์ก็ยิ้มกว้างพร้อมกล่าวต้อนรับเสียงดัง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 10

    งานเลี้ยงไหว้พระจันทร์รถม้าจวนตระกูลอิงไปถึงหน้าวังหลวงก่อนเวลาหนึ่งชั่วยาม พวกเรารู้ดีว่าการมาสายจะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่าขุนนางอย่างไร หม่านเซียงที่ไม่ค่อยออกงานสักเท่าไหร่และยังมีเพื่อนเพียงไม่กี่คนกังวลไม่น้อย ครั้งนี้นางต้องคอยดูแลบุตรสาวอย่างอิงฮวาที่วันนี้แต่งกายเรียบง่ายเกินไป ทั้งที่นางอยากให้อิงฮวาสวมชุดหรูหรากว่านี้ น่าเสียดายที่บุตรสาวนางบอกว่างานเลี้ยงไหว้พระจันทร์ไม่จำเป็นต้องสวมชุดเช่นนั้นขุนนางที่มาในงานต่างมองครอบครัวขุนนางอิงเป็นตาเดียวกัน โดยเฉพาะบุตรีที่พวกเขาทราบข่าวมาสักพักแล้วว่าเพิ่งรับกลับมาจากชนบท บุตรีขุนนางคนอื่นต่างมองอิงฮวาอย่างเหยียดหยามที่เห็นนางสวมชุดขาวและปักปิ่นเพียงชิ้นเดียว ทุกคนต่างคิดว่าไม่น่าแปลกใจที่เหตุใดนางจึงมาจากชนบท งานของชนชั้นสูงเช่นนี้ไม่เหมาะกับคนชั้นต่ำเช่นนางสักนิดเดียว เพียงแต่พวกเขาไม่กล้าพูดเสียงดังนักด้วยกลัวว่าจะมีเรื่องก่อนงานเริ่มจึงได้แต่ซุบซิบกันเบา ๆ“ฮวาเอ๋อ เจ้าอย่าไปสนใจเสียงนกเสียงกาเลยนะ

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 9

    “คารวะนายท่าน ฮูหยิน คุณหนูขอรับ/เจ้าค่ะ” บ่าวไพร่ทั้งหมดกล่าวพร้อมกับพ่อบ้านใหญ่เสียงดังไปทั่วทั้งจวน“พวกเจ้าอย่าทำให้ลูกสาวข้าตกใจสิ นางอยู่ในชนบทมานาน ไม่คุ้นชินกับคนเยอะ ๆ อิงฮวาตามพ่อกับแม่ไปดูเรือนของเจ้ากัน พ่อสั่งคนให้จัดการเอาไว้อย่างดีเลย”“ใช่แล้วล่ะ พวกเจ้ากลับไปทำงานกันเถอะ ข้าจะพาลูกไปดูห้องของนางเอง ของที่ซื้อมาบนรถม้าก็นำไปให้คุณหนูที่เรือนด้วยเล่า” หม่านเซียงบอกทุกคนที่มาต้อนรับด้วยรอยยิ้มเปี่ยมเมตตา“ขอรับ/เจ้าค่ะ นายท่าน ฮูหยิน” ทุกคนยิ้มรับคำ ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานอิงฮวาเดินตามหลังท่านอาทั้งสองที่ตอนนี้กลายเป็นพ่อแม่ของนางไปอย่างช้า ๆ นางมองดูจวนขนาดกลางที่ไม่ได้หรูหราอะไรตรงหน้าก็ได้แต่ถอนหายใจ ไม่คิดว่าหลังจากอยู่หมู่บ้านเปียนจิ่วมานาน นางจะมีโอกาสได้เข้ามาอยู่ในจวนที่สุขสบายไม่ต่างจากครั้งยังเด็กอีกครั้งเรือนของอิงฮวาอยู่ติดกับเรือนหลัก ขนาดเรือนหลังนี

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 8

    สามวันต่อมาวันนี้มีรถม้าคันหนึ่งมาที่บ้านตระกูลไช่ในหมู่บ้าน ภายในเป็นอิงเต๋อและฮูหยินของเขาอย่างหม่านเซียงเดินทางมาด้วย พวกเขาพอได้รับจดหมายจากไช่เหมยฮวาเมื่อสามวันก่อนต่างดีใจมาก ยิ่งรู้ว่าพวกนางยังอยู่ดีมีสุข พวกเขาก็อยากรีบรับนางกลับจวนและทำตามแผนการในจดหมายที่ไช่เหมยฮวาบอกเอาไว้ ไม่ว่าวันหน้าจะเกิดสิ่งใดขึ้นกับตระกูลของพวกเขา ทั้งสองที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อไช่ไท่ฟู่อย่างลับ ๆ มาตลอดตั้งแต่อยู่ในราชสำนักก็คิดจะช่วยไช่เหมยฮวาอย่างเต็มกำลัง“คารวะท่านอาอิงทั้งสองเจ้าค่ะ/ขอรับ” ไช่เหมยฮวาและไช่ซิวค้อมกายคำนับ“พวกเจ้าไม่ต้องมากพิธี ไม่เจอกันไม่กี่ปี พวกเจ้าต่างเป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้ว” อิงเต๋อตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม“น้องอิงเต๋อกับน้องหม่านเซียงรีบนั่งลงก่อนเถอะ” หม่าซูเรียกทั้งสองให้นั่งคุยกันก่อนที่พวกเขาจะรับบุตรสาวของนางเข้าไปในเมืองหลวง“ขอรับ/เจ้าค่ะ พี่หญิงหม่า&r

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 7

    10 ปีต่อมาไช่เหมยฮวาที่โตเป็นสาวแล้วเตรียมตัวเดินทางกลับเมืองหลวงพร้อมมารดาและน้องชายที่เคยตัวเล็กแต่ตอนนี้สูงกว่านางไปแล้วในเวลาเพียงไม่กี่ปี สุขภาพของน้องชายนางก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่เขาอายุครบ 10 ขวบ ทำให้พวกนางไม่ต้องเสียเงินหาซื้อยามาบำรุงเขาอีก ด้วยความสามารถของไช่เหมยฮวาและไช่ซิว ทำให้ตอนนี้ครอบครัวพวกนางมีเงินมากพอที่จะหาซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ ในเมืองหลวงอดีตพ่อบ้านอย่างซู่หยงกับคนอื่น ๆ ก็เก็บหอมรอมริบมาตลอดเช่นกัน พวกเขายืนยันที่จะติดตามไปรับใช้ไช่เหมยฮวาที่เมืองหลวง ถึงแม้พวกเขาจะเคยเป็นนักโทษที่ถูกเนรเทศมาก่อน แต่ด้วยหลายปีมานี้ฮ่องเต้มีราชโองการยกเว้นโทษของคนที่เคยถูกเนรเทศอย่างพวกเขาแล้ว ทุกคนจึงตั้งใจจะกลับไปช่วยเหลือคุณหนูทวงความยุติธรรมคืนให้นายท่านอย่างไช่ไท่ฟู่ พวกเขารู้ดีว่าการไปครั้งนี้อันตรายไม่น้อย แต่พวกเขาก็ไม่คิดจะทอดทิ้งเจ้านาย หากคุณหนูทำสำเร็จ พวกเขาก็จะลืมตาอ้าปากและสามารถเดินยืดอกอย่างสง่าผ่าเผยเหมือนในอดีตได้ซู่หยงทำหน้าที่หารถม้าให

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 6

    ลุงปันกับคนอื่น ๆ มาถึงในเวลาต่อมา พวกเขาเห็นเสี่ยวเฉากำลังขุดกลางลำธารแห้งขอดอยู่ก็พากันสงสัย“คุณหนู เหตุใดมาที่นี่เล่าขอรับ” ลุงปันรีบถามด้วยความเป็นห่วง“ข้ามาหาแหล่งน้ำให้พวกเราตักกลับบ้านเจ้าค่ะ พวกท่านไปช่วยพี่เฉาขุดได้หรือไม่”“หืม? เหตุใดต้องขุดลำธารแห้งนี่เล่าขอรับ” เสี่ยวเหอถามอย่างสงสัย“พี่เหอเห็นหรือไม่ว่ามีน้ำผุดออกมาจากหลุมที่พี่เฉากำลังขุดอยู่น่ะเจ้าค่ะ นั่นเป็นตาน้ำในลำธารนี้ ถ้าเราขุดลึกลงไป อาจจะมีน้ำให้พวกเราเอาไว้กินใช้ได้สักพัก”“ทุกคนวางตะกร้าลงก่อนแล้วไปช่วยเสี่ยวเฉาขุด จะได้เร็วขึ้น เสี่ยวโจ เสี่ยวฉู่ ไปหาไม้มาทำกระบอกใส่น้ำให้ทุกคนเร็ว ประเดี๋ยวหากกลับช้า ทุกคนจะเป็นห่วง”สิ้นเสียงลุงปัน ทุกคนจึงแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ทันที ส่วนลุงปันก็ไปหาไม้มาทำถังน้ำขนาดย่อมเช่นกัน ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าน้ำจะมีมากพอให้ใส่หรือไม่ อ

  • เล่ห์ร้ายกลายรักในต้าเซียง   ตอนที่ 5

    “เจ้าดูต้นไม้เหล่านี้สิ ข้าว่าบนภูเขาลูกนี้คงไม่มีสิ่งใดให้พวกเรานำไปเป็นอาหารได้แน่เลย ไม่เช่นนั้นชาวบ้านในหมู่บ้านคงขึ้นเขากันมาไม่ต่างกับเรา” เสี่ยวซางที่มากับกลุ่มคุณหนูเอ่ยขึ้นกับสหายข้าง ๆ“ไหน ๆ ก็ขึ้นมาแล้ว อย่างไรก็ลองติดตามคุณหนูดูก่อนเถอะ” เสี่ยวเหอหันไปบอกสหายของตน“พวกเจ้าอย่าได้พูดมาก ในเมื่อคุณหนูต้องการขึ้นมาที่นี่ พวกเรามีหน้าที่ปกป้องคุณหนูให้ดีก็พอแล้ว ส่วนอาหารจะหาได้หรือไม่ก็คงต้องแล้วแต่วาสนา” ลุงปันหันไปเอ็ดเด็กหนุ่มทั้งสองซึ่งพูดคุยกันอย่างไม่ระวัง เขากลัวว่าคุณหนูจะหมดกำลังใจไช่เหมยฮวาที่ได้ยินเสียงพวกเขาไม่ได้กล่าวว่าอะไร นางเข้าใจดีว่าสภาพพื้นที่แห้งแล้งย่อมยากต่อการหาอาหาร เพียงแต่นางยังคงจำได้ดีว่าในตำรานั้นเคยบอกเอาไว้ว่าที่ใต้พื้นดินแห้งแล้งอาจมีหัวเผือก หัวมันใช้ประทังความหิวได้ แม้ว่าต้นมันจะแห้งเหี่ยวตายไปบนดิน แต่ใต้ดินยังมีหัวของพวกมันให้กินได้อยู่ นางจึงตั้งใจดูว่าบริเวณใดน่าจะมีหัวเผือก หัวมันอยู่บ้าง ไช่เหมยฮวาจำรูปใบของหัวพวกนี้ได้อย่างขึ้นใจ นางเดินขึ้นเขาไปได้ไกลพอสมควร ก่อนจะพบเห็นว่าพื้นที่ป่าด้านซ้ายดูจะมีความชื้นจนนางรับรู้ได้อยู่บ้าง“พว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status