"ญาติห่างๆอุ่นเองจ่ะพี่เอื้องชื่อวันหนึ่ง"
"แล้วพ่อเลี้ยงรับทำงานแล้วหรือไงถึงได้มาป้วนเปี้ยนที่นี่ก็รู้นี่ว่าพ่อเลี้ยงไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามที่นี่"
คำพูดคำจาจีบปากจีบคอของเอื้องฟ้าทำวันหนึ่งเริ่มขมวดคิ้วเพราะดูออกว่าผู้หญิงหน้าสวยผิวน้ำผึ้งคนนี้ไม่มีความเป็นมิตรแม้แต่น้อย
"ใช่จ่ะ"
"ฝากปิ่นโตไว้ให้พ่อเลี้ยงด้วยละกัน"
เอื้องฟ้ายื่นปิ่นโตให้ไออุ่นพร้อมตวัดหางตามองวันหนึ่งแสดงออกให้หญิงสาวรู้ว่าตนไม่ชอบหน้าก่อนจะหันหลังสะบัดก้นเดินออกไป
"ใครอะพี่อุ่นหน้าตาก็สวยนะแต่สายตาดูไม่เป็นมิตรเลย"
"พี่เอื้องฟ้าน่ะลูกลุงคำอ้ายผู้จัดการไร่ส่วนแม่เธอคือป้าดอกสร้อยแม่ครัวที่ไร่"
"อ๋อ..ก็เหมือนใหญ่ในไร่นี้งี้เหรอ"
"ก็ไม่ถึงขนาดนั้นแต่แค่เธอน่าจะชอบพ่อเลี้ยงเท่าที่พี่ดูแล้วเธอก็ไม่น่าจะชอบให้สาวๆมาอยู่ใกล้พ่อเลี้ยงล่ะมั้ง"
ประโยคนี้ไออุ่นต้องกระซิบกระซาบกับวันหนึ่งด้วยรู้ว่าชนบทแห่งนี้หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง
"อย่างนี้นี่เอง"
"ห่างเธอได้ก็ให้ห่างไว้เพราะน้อยคนที่นี่ที่จะชอบนิสัยเธอที่ทุกคนเกรงใจก็เห็นว่าเป็นลูกลุงคำอ้ายกับป้าสร้อยเท่านั้น"
วันหนึ่งรู้แบบนี้คนที่เธอจะมองเป็นคู่แข่งคนแรกก็เห็นจะเป็นเอื้องฟ้าแต่ยังไงตอนนี้เธอก็เป็นต่อเพราะได้ใกล้ชิดน่านน้ำมากกว่า
"อ่อ..อีกเรื่องพี่อุ่นกับป้าไรไม่รู้จริงๆเหรอคะว่าครอบครัวพ่อเลี้ยงเป็นใคร"
"พ่อเลี้ยงน่านเป็นคนกรุงเทพชอบมาที่นี่ช่วงปิดเทอมตั้งแต่เด็กๆหลังจากพ่อเลี้ยงเรียนจบก็น่าจะทำงานที่กรุงเทพเลยไม่ค่อยได้มาที่นี่..เมื่อหกเดือนก่อนพ่อเลี้ยงเพชรเสียไปหลังจากนั้นทุกคนคิดว่าจะไม่มีใครมาบริหารไร่แล้วแต่ก็มีพ่อเลี้ยงน่านที่เข้ามาดูแลที่นี่"
"อ๋อ..ถึงว่าเค้าดูดี๊ดูดีไม่เหมือนคนอยู่ป่าอยู่เขาแล้วเค้ามีพี่มีน้องไหมคะ"
"น่าจะมีนะแต่พวกเค้าก็ไม่ค่อยได้มาที่นี่ถึงมาก็อยู่กันแค่ในครอบครัวคนในไร่ไม่ค่อยได้เห็นหน้าค่าตาครอบครัวพ่อเลี้ยงเท่าไรหรอกแล้วก็ไม่มีใครรู้ด้วยว่าครอบครัวพ่อเลี้ยงที่กรุงเทพทำกิจการอะไร"
"แสดงว่าบ้านนี้เค้ารักความเป็นส่วนตัวกันจริงๆ"
วันหนึ่งพนักหน้าเม้มริมฝีปากครุ่นคิดหากเป็นอย่างที่ไออุ่นบอกเธอก็เท่ากับว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มคงโลกส่วนตัวสูงมากกว่าที่เธอคิดแบบนี้ต้องรีบหาอ่านกลยุทธ์ตีตัวเข้าหาคนโลกส่วนตัวสูงเยอะๆแล้ว
"อืม..เรารีบกลับไปเก็บเสื้อผ้ากันเถอะค่ะเดี๋ยวจะได้กลับมาที่นี่ก่อนจะเย็น"
"ค่ะ"
สองสาวรีบกลับมาที่บ้านของอุไรพร้อมกับข่าวดีที่ว่าวันหนึ่งได้เป็นแม่ครัวให้พ่อเลี้ยงหนุ่มสมใจแล้ว
"พ่อเลี้ยงรับคุณหนึ่งง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ"
อุไรเข้ามาคุยกับไออุ่นขณะที่ลูกสาวเธอทำอาหารเย็นอยู่ในครัวแปลกใจพอสมควรที่น่านน้ำรับวันหนึ่งเข้าทำงานโดยง่ายทั้งที่ก่อนหน้ายังไม่ตกปากรับใครเข้ามาเป็นแม่บ้านหรือแม่ครัวคนใหม่หลังจากเธอลาออกเพราะเหตุผลที่ไม่ค่อยไว้ใจใครง่ายๆ
"อุ่นบอกไปว่าเธอเป็นญาติเราจ่ะแม่ตอนแรกก็ดูจะไม่ค่อยเชื่อว่าคุณหนึ่งจะทำอะไรได้แต่ก็ยอมรับเอาไว้เพราะน่าจะเห็นว่าไว้ใจได้"
"อืม.. แล้วคุณหนึ่งรู้หรือยังลูกว่าต้องทำอะไรบ้าง"
เท่าที่ฟังไออุ่นพูดอุไรก็แอบกังวลใจถึงเรื่องที่ต้องหลอกลวงน่านน้ำที่เชื่อใจพวกเธอแต่บุญคุณที่นฤดีมีให้เธอกับลูกสาวก็ค้ำคอไว้เยอะเสียเหลือเกินจะไม่ช่วยทั้งสองก็ทำไม่ลงเพราะลูกสาวเธอได้ที่เรียนดีๆจนจบมาได้ก็เพราะเงินของนฤดีทั้งนั้น
"อุ่นบอกแล้วล่ะจ่ะแต่ดูคุณหนึ่งเธอก็มั่นใจว่าจะทำทุกอย่างได้ไม่มีบ่นว่ายากสักอย่างเลย..แม่ว่าเรื่องดวงที่คุณหนึ่งกับคุณย่าเชื่อมันจะจริงไหม"
ไออุ่นยังคงคาใจเรื่องความเชื่อของนฤดีและวันหนึ่งพอสมควรว่าอะไรที่ทำให้สองย่าหลานเชื่อเรื่องดวงกันจนทำตามได้ถึงขนาดนี้
"อืม..อันนี้แม่ก็ไม่ลบหลู่นะลูกแม่คิดว่าคุณท่านกับคุณหนูคงพบเจอกับเรื่องตามคำทำนายมาหลายเรื่องพอสมควรถึงได้ดูเชื่อกันขนาดนี้แต่มันก็เป็นสิทธิ์ของเค้าเราช่วยผู้มีพระคุณเท่าที่เราจะช่วยได้ก็พอลูก"
อุไรว่าไปตามความเห็นของตัวเอง
"จ่ะแม่"
"เค้าเป็นยังไงบ้างล่ะลูก"
นฤดีนั่งมองหลานสาวที่กำลังเก็บเสื้อผ้าคิดว่าหลานเธอกลับมาอารมณ์ดีขนาดนี้แสดงว่าต้องถูกใจผู้ชายในคำทำนายอยู่พอตัว
"จากที่เห็นเค้าก็หล่อดูดีมากเลยนะคะคุณย่าดูดีซะจนหนึ่งคิดว่าน่าจะเป็นลูกผู้ดีไม่น่าจะเป็นชาวไร่แถมยังดูสุภาพด้วย"
สาวเจ้าว่าไปยิ้มไปชมเปราะชายหนุ่มที่ได้เจอวันนี้ให้คนเป็นย่าฟังอย่างไม่เคอะเขินเพราะร่ำเรียนอยู่ต่างประเทศจนกลายเป็นคนที่ตรงไปตรงมาทุกเรื่องเว้นเรื่องที่จะไม่ตรงไปตรงมาก็เรื่องต้องปลอมตัวไปเป็นแม่ครัวเพื่อที่จะทำแผนพิชิตใจผู้ชายในคำทำนายนี่แหละ
"ยังยืนยันคำเดิมใช่ไหมว่าจะเดินตามดวงในเรื่องนี้"
นฤดีเชื่อเรื่องคำทำนายมากก็จริงแต่คิดไปคิดมาเรื่องการเลือกคู่เป็นเรื่องใหญ่จึงอยากถามหลานสาวเธอให้แน่ใจอีกครั้งว่าจะทำตามเจตนารมณ์แรกจริงๆหรือเปล่า
"แน่นอนค่ะถ้าหนึ่งได้พ่อเลี้ยงเป็นพ่อของลูกเพื่อนๆนับคงอิจฉากันน่าดูที่ได้สามีหล่อปานนายแบบขนาดนี้"
คนตัวเล็กว่าด้วยสีหน้าแววตาวาดฝันถึงความสุขในวันข้างหน้าเพราะรู้สึกประทับใจน่านน้ำตั้งแต่แรกเห็น
"ความรักไม่ใช่แค่ความสวยหล่อนะลูก"
นฤดียกมือลูบหัวทุยของวันหนึ่งเธอมองหลานที่ยังไร้เดียงสาเรื่องหัวใจด้วยสายตาเอ็นดูเพราะเลี้ยงหลานมากับมือและคอยอยู่ด้วยตลอดจึงรู้ว่าหลานเธอไม่เคยมีความรักแบบหนุ่มสาวเลย
"ยังไงเหรอคะคุณย่าคนเราก็ต้องมองหน้าตากันก่อนไม่ใช่เหรอคะ"
ดวงตากลมโตเริ่มเหลือบมองคนเป็นย่าด้วยแววตาสงสัยในคำพูดเมื่อครู่
"เอาเป็นว่าวันนึงหนูมีความรักเกิดขึ้นมาจริงๆก็จะเข้าใจเอง"
คนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างนฤดีรู้ดีว่าจะอธิบายเรื่องรักๆไคร่ๆของหนุ่มสาวให้คนที่ไม่เคยมีความรักได้เข้าใจคงจะยากคงต้องปล่อยให้หลานของเธอไปเผชิญเสียก่อนวันนั้นถึงจะคุยกันเข้าใจ
"อ๋อ..ค่ะ..เอ่อคุณย่าคะแล้วถ้าคุณพ่อคุณแม่ถามหาหนึ่งล่ะคะ"
วันหนึ่งไม่ได้กังวลเรื่องความรักอะไรมากนักเพราะคิดว่าเดี๋ยวเธอทำดีกับพ่อเลี้ยงหนุ่มเรื่อยๆเค้าก็รักเธอเองที่กังวลตอนนี้ก็คือจะอยู่ที่นี่นานๆได้อย่างไรให้พ่อกับแม่ของเธอไม่สงสัยมากกว่า
"ย่ารับหน้าเองไม่ต้องห่วง"
"โอเคค่า...รู้แบบนี้สบายใจเลย"
สาวเจ้ายิ้มร่ามีแววตาเป็นประกายออกมาได้หลังจากสบายใจเรื่องปัญหานี้ไปหนึ่งเปราะหลังจากนี้เธอก็จะได้ตั้งหน้าตั้งตาทำแผนของเธอให้สำเร็จ
"ครับคุณป้า..เธอมาหาผมแล้วครับ...ผมขออนุญาตดัดนิสัยสักหน่อยนะครับ"น่านน้ำรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าวันหนึ่งจะมาที่นี่เพราะวิริยาโทรมาอธิบายกับเขาทุกอย่างว่าวันหนึ่งเข้าใจผิดเรื่องอะไรและตอนนี้เขาก็ไม่คิดถือโทษเธอแล้วแต่อยากจะแกล้งเพื่อดัดนิสัยหญิงสาวบ้างจะได้รู้ว่าการถูกพูดหรือกระทำไม่ดีใส่มันรู้สึกอย่างไร และก่อนหน้านี้เขาก็ไม่ลืมโทรไปย้ำกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นหมอสายน้ำเอื้องฟ้าหรือไออุ่นว่าถ้าวันหนึ่งไปขอความช่วยเหลืออะไรห้ามช่วยทุกอย่างวันหนึ่งขับรถมาถึบ้านพ่อเลี้ยงหนุ่มได้เธอก็ลองเข้าครัวอีกสักตั้งเพราะยังไงก็จะพยายามง้อน่านน้ำให้สำเร็จ หญิงสาวอยู่ในครัวนานสองนานเพื่อที่จะทำปลาทับทิมนึ่งและน้ำจิ้มรสเด็ดที่น่านน้ำนั้นชอบเมื่อทำเสร็จนำมาวางที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยน่านน้ำก็กลับมาพอดี"กลับมาแล้วเหรอคะหนึ่งเตรียมอาหารเย็นไว้ให้พ่อเลี้ยงพึ่งเสร็จเลยนะคะ""ผมมีปิ่นโตของผมแล้ว.."คนตัวโตชูปิ่นโตเถาใหญ่ที่ถือกลับมาจากโรงครัวในไร่ให้วันหนึ่งได้เห็น จนวันหนึ่งเริ่มหน้าเจื่อนอีกครั้งที่ถูกน่านน้ำปฏิเสธอาหารของเธอ"อ่อ...ถ้าคุณอยากจะอยู่ที่นี่ก็อยู่ไปผมจะไปนอนที่บ้านท้ายไร่""ถ้าถึงขนาดที่ไม่อยากจะอยู่
วันต่อมา"ยัยหนึ่งไปอิตาลีค่ะคุณแม่"เช้านี้ทุกคนในบ้านต่างก็ต้องปวดหัวกันอีกรอบเมื่อวันหนึ่งเลือกที่จะหนีไปอิตาลีโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวคนในบ้านก่อนได้แต่เพียงเขียนจดหมายเอาไว้ให้เท่านั้น"หลานคนนี้นี่มีอะไรทำไมไม่พูดกันนะ"นฤดีบ่นอุกด้วยดูท่าหลานเธอจะทำอะไรตามอำเภอใจตัวเองใหญ่แล้ว"ใครเลี้ยงก็เหมือนคนนั้นแหละครับ""อย่าพึ่งซ้ำเติมกันได้ไหมตาเดช"สิทธิเดชไม่วายหยอกคนเป็นแม่เล่นในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเพราะไม่ได้ห่วงอะไรลูกสาวมากนักด้วยไฟล์บินก็เช็กได้ว่าไปที่ไหนที่พักก็น่าจะหาไม่ยากเช่นกันนฤดีที่ทนกังวลใจต่อไปไม่ไหวเธอจึงเลือกที่จะติดต่อทอฝันเพื่อที่จะขอคุยกับเฟื่องฟ้าถึงสถาณการณ์ที่น่าอึดอัดในตอนนี้"ไม่ต้องห่วงหรอกไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วเค้าสองคนแต่งงานกันแล้วนี่"เฟื่องฟ้าเห็นหน้านฤดีได้ก็รีบเอ่ยให้เพื่อนเธอนั้นหายกังวลเพราะตอนนี้ไม่มีเรื่องอะไรน่าห่วงแล้ว"หา...แต่งตอนไหน"คำพูดของเฟื่องฟ้าทำนฤดีไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเพราะเรื่องแต่งงานหลานเธอไม่เห็นเคยพูดให้ฟังสักคำ"ค่อยไปถามหลานสาวตัวเองเองแล้วกัน""ฉันงงไปหมดแล้วตอนนี้""เอาเป็นว่าไม่นานเดี๋ยวสองคนนั้นก็ลงเอยกันด้วยดี"เฟื่องฟ้าบ
นฤดีจำต้องทำตัวเป็นนางเล่าเรื่องให้ลูกชายและลูกสะใภ้ได้กระจ่างถึงความจริงว่าเธอและวันหนึ่งไม่ได้ไปบวชอย่างที่ว่าแต่พาหลานไปหาคู่ตามคำทำนาย วิริยาได้ฟังทั้งหมดก็แทบจะลมจับเธอว่าแล้วว่ามันมีอะไรแปลกๆตั้งแต่แรก"คุณแม่ไม่ได้ไปบวชแต่พาหลานไปหาคู่เหรอคะ!...คุณแม่จะพายัยหนึ่งงมงายเกินไปแล้วนะคะ""ผมว่าแล้วจะต้องมีเรื่องอะไรให้ปวดหัว"สิทธิเดชยิ้มอย่างไม่คิดอะไรเพราะเขาคิดเผื่อใจเอาไว้แต่แรกแล้วว่าแม่ตนต้องพาลูกสาวไปทำอะไรพิเลนๆอีกแน่แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ"เอาน่าจะว่าอะไรแม่ก็ช่างเถอะ...แต่ตอนนี้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องยัยหนึ่งก่อนว่าเป็นอะไรถึงได้หนีกลับมาดื้อๆแบบนี้""หนึ่งลูก..คุณย่ากลับมาแล้วนะลูกออกมาคุยกันหน่อยได้หรือเปล่า""หนึ่งอยากอยู่คนเดียวอย่าพึ่งมายุ่งกับหนึ่งได้ไหมคะ"เมื่อคุยกันจบทั้งวิริยาและนฤดีก็มาเคาะห้องของวันหนึ่งแต่ก็ต้องเดินกลับไปด้วยสีหน้าที่ผิดหวังกันทั้งคู่เพราะทำยังไงเจ้าของห้องก็ไม่ยอมออกมาคุยได้"คุณแม่แน่ใจนะคะว่ายัยหนึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใครจริงๆ"วิริยาเชื่อว่าวันหนึ่งต้องมีปัญหาใหญ่ไม่อย่างนั้นไม่มีอาการเป็นแบบนี้แน่ถึงจะไม่ได้เลี้ยงลูกอยู่ตลอดเวลาเหมือนแม่สามี
"หนึ่ง.. จะไปไหนแล้วร้องให้ทำไม"สายน้ำที่ขับรถATVคันเก่งจะไปดูแกะในฟาร์มช่วงสายขณะที่กำลังขับไปที่ฟาร์มเห็นว่าเป็นวันหนึ่งเดินอยู่จึงได้เข้าไปทักแต่เขาก็ต้องหน้าเสียเมื่อเห็นน้องสาวตนนั้นร้องให้จนหน้าตาแดงก่ำไปหมด"พี่สายพาหนึ่งออกไปจากไร่ได้ไหมคะ..ฮือๆๆ"มือเรียวยกปาดน้ำตาลวกๆก่อนจะกระโดดขึ้นหลังรถหมอหนุ่ม จนสายน้ำต้องละงานไปก่อนและพาวันหนึ่งมาสงบอารมณ์ที่คลินิกของเขา"เป็นอะไรบอกพี่ได้หรือเปล่า"สายน้ำเอ่ยถามคนตัวเล็กที่เอาแต่กอดหมอนร้องให้อยู่บนโซฟาโดยที่ไม่มีท่าทีว่าจะสงบลง"หนึ่ง..ฮึก..ฮือๆๆ..เสียใจขออยู่เงียบๆ..ฮือๆๆ""โอเคๆ..งั้นก็พักที่นี่ก่อนแล้วกันพี่จะไปตรวจเจ้าแกะที่ฟาร์มต่อ""ฮือๆ..อย่าบอกใครนะคะ..ฮือๆ..ๆ..ว่าหนึ่งอยู่ที่นี่""ได้พักให้สบายใจได้เลย"ถึงสายน้ำจะคาใจกับอาการเสียใจของวันหนึ่งพอสมควรแต่ก็ไม่เลือกที่จะเค้นถามอะไรในเมื่อคนอย่างวันหนึ่งถึงขั้นร้องให้ฟูมฟายขออยู่คนเดียวคงเป็นเรื่องปวดใจมากแน่คิดว่ารอให้น้องสาวของเขาอารมณ์เย็นลงแล้วค่อยคุยจะดีกว่าน่านน้ำคุยกับกวินตราจนหญิงสาวสบายใจจนกลับไปได้ตอนนี้ก็เป็นฝ่ายน่านน้ำที่กังวลใจเพราะหาแม่ครัวตัวเล็กของตัวเองไม่เจอโท
"หนึ่งว่าบ้านพ่อเลี้ยงน่าอยู่มากๆแล้วที่นี่ดูน่าอยู่มากกว่าอีกนะคะบ้านหลังเล็กๆกับวิวที่สวยสุดยอดเลย"วันหนึ่งเดินดูรอบบ้านด้วยท่าทีตื่นเต้นบ้านหลังเล็กนี้เหมือนบ้านพักในฝันที่เคยเคยคิดอยากจะสร้างก็ว่าได้"ผมสร้างที่นี่เพื่อเอาไว้พักผ่อนเงียบๆ...แต่เป็นเพราะงานที่ยุ่งก็เลยไม่ได้มานานแล้ว""หนึ่งขอมาที่นี่บ่อยๆได้ไหมคะ""ได้อยู่แล้ว...ผมว่าจะให้คุณแบ่งเวลามาทำความสะอาดที่นี่บ้างแต่ไม่ได้ใช้ฟรีผมจะให้เงินพิเศษเพิ่ม""ว้า.. นึกว่าอยากพามาสวีทแต่อยากให้มาทำงานบ้านซะงั้น""เบื่อที่จะเป็นแม่ครัวแม่บ้านให้ผมแล้วหรือไง""เปล่าค่ะ...ได้อยู่ใกล้พ่อเลี้ยงหนึ่งเป็นอะไรก็ได้ค่ะ"พ่อเลี้ยงหนุ่มวาดมือหนายีหัวทุยเล่นด้วยท่าทีเอ็นดูคนตัวเล็กเป็นพิเศษที่ขยันหยอดคำหวานกับเขาได้ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน"ถ้าไม่เกิดเรื่องซะก่อนคุณคงได้ไปสมัครเรียนแล้ว""ไว้รอไปสมัครตอนเค้าเปิดรับอีกทีก็ได้ค่ะหนึ่งไม่รีบ...แต่ดูท่าเหมือนพ่อเลี้ยงจะรีบกว่าหนึ่งนะคะ""คุณอายุยังน้อยถ้าเรียนได้วุฒิสูงๆยังสร้างประโยชน์อะไรได้มากกว่ามาทำงานเป็นแม่บ้านดีไม่ดีคุณอาจจะกลายเป็นบัญชีฝีมือดีหรือไม่อาจจะบริหารองค์กรใหญ่ๆได้เลยก็ได้"น่านน
"พี่เอื้อง..หยุดฟังหนึ่งก่อน""ไม่ฟัง"เอื้องฟ้าสะบัดมือของวันหนึ่งทิ้ง"หนึ่งกับพี่สายเป็นลูกพี่ลูกน้องกันค่ะ"วันหนึ่งจึงต้องโพร่งประโยคสำคัญออกมาเพื่อรั้งให้เอื้องฟ้านั้นฟังเธอให้ได้และมันก็ได้ผลเอื้องฟ้าหันมาขมวดคิ้วมองหน้าวันหนึ่งด้วยท่าทีแปลกใจกับสิ่งที่เธอได้ยินเมื่อครู่"ว่าไงนะ"“เรื่องมันอาจจะยาวสักหน่อยแต่หนึ่งจะเล่าความจริงให้พี่เอื้องฟังค่ะ”วันหนึ่งใช้เวลาอธิบายตั้งแต่ว่าเธอเป็นใครและมาทำอะไรที่นี่รวมถึงภาพเมื่อครู่ที่เอื้องฟ้าเห็นเธอกับสายน้ำไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่าพี่น้อง"เชื่อเรื่องดวงขนาดนี้เลยเหรอ"เอื้องฟ้าพอจะเข้าใจได้เรื่องที่วันหนึ่งกับสายน้ำเป็นอะไรกันแต่มาแปลกใจตรงที่หญิงสาวเชื่อเรื่องดวงมากจนทิ้งชีวิตคุณหนูมาเป็นแม่ครัวอยู่บ้านไร่เพียงเพราะคำทำนายของหมอดู"ค่ะ..คุณย่ากับหนึ่งเดินตามดวงกันมานานแล้วพวกเราเชื่อเรื่องนี้กันมากจริงๆ""ก็คงจะจริงไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ทิ้งชีวิตคุณหนูมาลำบากแบบนี้หรอก...แล้วหมอสายน้ำล่ะเดินตามดวงอะไรด้วยหรือเปล่า""ไม่เกี่ยวค่ะพี่สายน้ำแค่อยากหาที่สงบอยู่เท่านั้นหนึ่งก็พึ่งรู้ว่าพี่สายน้ำอยู่ที่นี่วันที่พี่สายน้ำพาหนึ่งไปฉีดวัคซีนวัว