Share

บทที่5 ทำแผล

last update Huling Na-update: 2024-10-25 10:26:43

"กลับมาแล้ว"

วันหนึ่งที่ขึ้นมาเดินเล่นบนชานบ้านเพื่อดูหมู่ดาวบนท้องฟ้าเมื่อได้เห็นรถกระบะสีดำขับเข้ามาเธอก็จำได้ว่าเป็นรถน่านน้ำจึงรีบวิ่งลงมารับหน้าพ่อเลี้ยงหนุ่มทันที

"ทำไมยังไม่ไปพักผ่อน"

น่านน้ำเปิดประตูลงจากรถได้ก็ขมวดคิ้วมองคนตัวเล็กในชุดนอนเจ้าหญิงสีชมพูปล่อยผมสยายด้วยแววตาฉงนว่าเธอมาทำอะไรตรงนี้เพราะตอนนี้ดึกพอสมควร

"รอพ่อเลี้ยงกลับมาก่อนค่ะ"

สาวเจ้าฉีกยิ้มตอบเสียงใส

"อุ่นไม่ได้บอกหรือไงว่าไม่ต้องรอ"

คนที่ถูกถามไม่ได้สนใจคำถามสักนิดเธอค่อยๆเดินเข้าไปเพ่งมองหน้าพ่อเลี้ยงหนุ่มใกล้ๆก็เห็นว่าใบหน้าของเขาเขียวช้ำแถมริมฝีปากยังมีรอยแตกเลือดซิบอีกต่างหาก

"หน้าพ่อเลี้ยงเป็นอะไรคะทำไมช้ำแบบนั้น...เข้าบ้านก่อนค่ะเดี๋ยวหนึ่งทำแผลให้"

วันหนึ่งรีบดึงมือน่านน้ำเข้าไปในบ้าน พฤติกรรมของหญิงสาวทำน่านน้ำตกใจพอสมควรเพราะน้อยคนนักที่จะเข้าถึงเนื้อถึงตัวของเขา

"ไปมีเรื่องกับใครมาเหรอคะ"

วันหนึ่งหยิบกล้องปฐมพยาบาลมาวางตรงหน้าน่านน้ำก่อนจะนั่งลงบนโซฟาข้างๆชายหนุ่มเธอเอาแต่มองรอบๆหน้าของคนบาดเจ็บด้วยสายตาที่เป็นห่วงทั้งยังอยากรู้ว่าเขาไปทำอะไรมากันแน่ถึงได้มีสภาพกลับมาเช่นนี้

"คุณไปพักเถอะผมทำแผลเองได้"

"ไม่ได้ค่ะหนึ่งจะดูแลพ่อเลี้ยงเอง"

เมื่อสาวเจ้ากำลังเป็นคนที่พูดไม่รู้เรื่องน่านน้ำจึงเลือกที่จะเงียบและจัดการดึงอุปกรณ์ทำแผลออกมาเพื่อทำแผลเองแต่ของทุกอย่างก็ถูกรวบไปอยู่ในมิอของวันหนึ่ง

"แฮร่...ขอทำแผลให้พ่อเลี้ยงนะคะเสร็จแล้วจะไม่กวนอะไรเลยค่ะ"

"อืม"

และแล้วพ่อเลี้ยงหนุ่มก็ต้องพ่ายให้กับความเจ้ากี้เจ้าการของสาวน้อยตรงหน้าจนได้

"ช้ำแค่หน้าใช่หรือเปล่าคะตรงตัวมีด้วยหรือเปล่า"

มือน้อยยื่นไปเปิดปกเสื้อเชิ้ตของพ่อเลี้ยงหนุ่มทำเอาน่านน้ำต้องรีบรั้งข้อมือของหญิงสาวเอาไว้ก่อนที่เธอจะเปิดดูเนื้อหนังในตัวของเขาอย่างไม่คิดเขินอาย

"คุณ"

"ไม่ต้องอายหรอกค่ะพ่อเลี้ยงหนึ่งจะช่วยดูให้ค่ะ"

สาวเจ้าเงยหน้ายิ้มกับคนที่จับมือเธอเอาไว้

"ตัวผมไม่ได้เป็นอะไรมีแผลแค่ที่หน้าเท่านั้น"

"โอเคค่ะงั้นหนึ่งจะทำแผลแค่ที่หน้าพอค่ะ"

น่านน้ำมองจ้องคนตรงหน้าด้วยสายตาฉงนไม่เข้าใจว่าหญิงสาวถูกปลูกฝังมาแบบไหนเรื่องเมื่อครู่เขาไม่ได้อายแต่คนที่จะอายควรจะเป็นฝ่ายหญิงสาวมากกว่า

"ดูซิ.. หน้าหล่อๆบวมช้ำหมดตกลงไปโดนอะไรมาคะ"

หลังจากทำแผลเสร็จวันหนึ่งก็มองจ้องสำรวจใบหน้าของน่านน้ำไปมาทั้งบุ้ยปากบ่นอุกถึงอาการบวมช้ำของหน้าว่าที่สามีของเธอและยังคงถามย้ำถึงสิ่งที่ยังไม่ได้คำตอบ

"ทำแผลเสร็จคุณบอกว่าจะไม่กวนไง"

น่านน้ำเริ่มรู้แล้วว่าเขาน่าจะคิดผิดที่เลือกคนพูดมากมาเป็นคนดูแลบ้านแต่ก็หลวมตัวรับเธอเข้ามาแล้วเห็นทีคงจะต้องทำใจ

"โอเคค่ะ...หนึ่งไปนอนแล้วนะคะ"

"อืม.."

คนตัวเล็กผุดลุกเดินเอากล่องปฐมพยาบาลไปเก็บก่อนจะหันหลังกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาหาน่านน้ำอีกครั้ง

"พ่อเลี้ยง"

"หื้มม.." คนที่นึกว่าสาวเจ้ากลับเข้าห้องไปแล้วสะดุ้งตัวโยนเมื่อถูกเรียกเสียงดัง

"ตกใจหมด"

"เมื่อกี้ลืมบอกว่าฝันดีค่ะพ่อเลี้ยงรีบพักผ่อนนะคะแผลจะได้หายไวๆ"

"โอเค"

น่านน้ำส่ายหัวยืนมองจนสาวเจ้ากลับเข้าห้องไปถึงกลับมานั่งสบายใจได้ไม่รู้ว่าเธอเป็นญาติฝ่ายไหนของอุไรและไออุ่นเพราะนิสัยของเธอไม่เหมือนสองคนนั้นสักนิดเดาได้ว่าเธอคงเป็นจำพวกที่ผ่าเหล่าผ่ากอแน่นอน

ฟึ่บ.. "โอ่ยย.."

วันหนึ่งสีหน้าเหยเกเมื่อทิ้งตัวลงนอนบนเตียงเล็กเธอลืมไปว่าเตียงที่นอนไม่ได้นิ่มเด้งเหมือนที่เคยนอนมาก่อนเห็นทีต้องหัดนิสัยการทิ้งตัวนอนใหม่เสียแล้ว

 (วิธีการเข้าหาคนโลกส่วนตัวสูง)

สาวเจ้าพลิกคว่ำหน้ากับหมอนนอนเล่นมือถือพิมพ์หาข้อมูลการเข้าหาคนโลกส่วนตัวสูงเพื่อที่จะเอาไปใช้กับพ่อเลี้ยงหนุ่ม

"อย่าเข้าหาแบบจู่โจม​ หากจะคุยต้องรู้ว่าเค้าชอบเรื่องอะไรแล้วเราก็ค่อยหาเรื่องนั้นมาคุย​ ห้ามหยอดบ่อย​ ทิ้งระยะห่างบ้าง"

วันหนึ่งอ่านข้อมูลครู่หนึ่งก็เตรียมคัดลอกข้อความสำคัญๆลงโน๊ตมือถือเอาไว้ท่องให้ขึ้นใจ

"ขอให้ใช้ได้ผลจริงๆเถอะ..ถ้าได้ผลวันหนึ่งคนนี้แหละจะดันกระทู้นี้ให้ดังเปรี้ยงปร้างเล้ยย"

ว่าจบก็นอนกลิ้งเกลือกกับเตียงนอนดึงผ้าห่มผืนหนามากอดนอนหลับเอาแรงไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ที่เธอต้องเริ่มงานเป็นแม่ครัวและแม่บ้านเต็มตัว

เช้ามืดวันต่อมา

กรี๊งงงง... กรี๊งงงงง

"อืม..อีกแปปนะคะคุณย่า"

คนตัวเล็กที่นอนพาดอยู่กับเตียงควานไม้ควานมือไปทั่วหมายจะปิดมือถือที่กำลังปลุกแต่ก็ควานหาไม่เจอ

กรี๊งงงง...กรี๊งงงงง

เสียงนาฬิกาปลุกที่ดังขึ้นเรื่อยๆทำวันหนึ่งเริ่มได้สติว่าตอนนี้เธอไม่ได้ใช้ชีวิตแบบคุณหนูเช่นเดิมแล้วจึงผุดลุกขึ้นมาด้วยท่าทางงัวเงีย

"เป็นแม่ครัววันแรกนี่นา"

สาวเจ้าหยิบมือถือที่กำบังส่งเสียงปลุกขึ้นมาปิดเตือนก่อนจะล้มพับไปกับเตียงอีกรอบ

ฟึ่บบ.."อ่อยย.. ง่วงจางง.."

มือน้อยทั้งสองยกขยี้หูขยี้ตาให้ตัวเองได้ตื่นตัวและดีดตัวลุกขึ้นยืนขึ้นมาได้

"ฮึ่ยย.. ไม่ได้เราต้องยึดมั่นในอุดมการณ์"

คนตัวเล็กว่าพร้อมไปเปิดไฟให้ห้องสว่างเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้วจึงออกมาจากห้องขณะที่กำลังจะเลี้ยวตัวหันเข้าไปในครัวเธอก็เห็นชายหนุ่มแต่งตัวทำงานเต็มยศลงบันไดมาเสียก่อนจึงยืนอ้าปากบ๋อมองพ่อเลี้ยงหนุ่มด้วยสายตาที่แอบทึ่งไม่ยักรู้ว่าเขาจะขยันทำงานจนต้องออกจากบ้านตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่โผล่พ้นขอบฟ้า

“พ่อเลี้ยงจะไปทำงานแต่เช้ามืดดด..เลยเหรอคะ”

“ผมจะเข้าไปในฟาร์มแกะน่ะมีคนโทรมาบอกว่ามีแกะออกลูกต้องไปดูหน่อยเดี๋ยวคุณทำกับข้าวเสร็จก็เอาไปส่งผมที่นั่นจักรยานสีขาวอยู่ข้างบ้านเอาคันนั้นไป”

“แล้วฟาร์มแกะอยู่ตรงไหนล่ะคะ”

วันหนึ่งรีบเรียกคนที่กำลังจะเดินหันหลังออกจากบ้านไปเพราะเธอไม่เคยรู้ว่าที่นี่มีฟาร์มแกะและไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนด้วย

“ออกจากบ้านเจอสามแยกแรกก็จะเห็นเสาร์ที่ตั้งป้ายชี้ไปทางฟาร์มแกะเลี้ยวซ้ายตามทางประมาณสองกิโลกว่าๆคุณก็จะเห็นฟาร์มแล้ว”

“ค่ะ”

ร่วมสองชั่วโมงกว่าได้ที่วันหนึ่งง่วนอยู่กับการเข้าครัวทำอาหารเช้าและกลางวันใส่ปิ่นโตให้พ่อเลี้ยงหนุ่มเธอเห็นว่าเรื่องทำอาหารก็ไม่ได้มีอะไรยากเพราะสามารถเปิดดูวิธีทำในอินเตอร์เน็ตได้และเครื่องครัวต่างๆเธอก็เคยได้ใช้บ้างแล้วเมื่ออยู่ต่างประเทศกับย่าของเธอ

“ข้าวต้มกุ้งที่ขาดหอมผักชีโรยหน้า..กะหล่ำปลีผัดน้ำปลาที่อาจจะเค็มไปนิด..ปลานิลทอดที่มีรอยไหม้เล็กน้อยบวกข้าวหอมมะลิที่แฉะไปหน่อย..หวังว่าคุณจะชอบนะคะคุณพ่อเลี้ยง”

สาวเจ้าจัดแจงอาหารใส่ปิ่นโตสแตนเลสเถาใหญ่อย่างระวังมือภูมิใจกับตัวเองพอสมควรที่ทำอาหารหลายอย่างครั้งแรกได้ออกมาดีกว่าที่คิดแต่ก็ไม่รู้ว่าชายหนุ่มจะถูกปากหรือเปล่ายังไงในใจก็ภาวนาอยู่ตลอดว่าขอให้เขาติดใจในเสน่ห์ปลายจวักของเธอด้วยแล้วกัน

“แดดออกแล้วยืมหน่อยแล้วกันนะคะ”

คนตัวเล็กในชุดเสื้อยืดแขนยาวสีขาวรัดรูปกับกางเกงวอมขายาวสีเทาเดินถือปิ่นโตเถาใหญ่มาวางที่โต๊ะไม้ใหญ่หน้าบ้านมองไปข้างนอกตอนนี้แดดจ้าแล้วเธอจึงหยิบหมวกคาวบอยสีน้ำตาลที่ห้อยอยู่เสาหน้าบ้านของพ่อเลี้ยงหนุ่มเอามาใส่แม้นแสงตอนนี้จะเป็นแสดงแดดยามเช้าที่ใครก็ว่าแดดนี้มีประโยชน์แต่ก็อาจจะทำให้หน้าของเธอขึ้นฝ้าได้เหมือนกัน

“จะใช้จักรยานแล้วทำไมไม่เอาขึ้นกระบะไปนะ..ต้องให้เราจูงไปอีกอีตาพ่อเลี้ยงคนนี้นี่”

คนตัวเล็กจูงจักรยานแม่บ้านคันสีขาวที่มีปิ่นโตวางอยู่ในตระกร้าหน้าออกมาจากบ้านมาได้ยังไม่ถึงครึ่งทางที่จะไปฟาร์มแกะเธอก็บ่นอุกถึงพ่อเลี้ยงหนุ่มที่ตัวเองนั้นมีรถกระบะคันใหญ่ด้านหลังสามารถเอาจักรยานขึ้นไปได้ก็ไม่เอาไปตั้งแต่แรกแต่มาสั่งให้เธอที่ปั่นจักรยานไม่เป็นเอาไปให้เสียอย่างนั้นลำพังแค่เดินก็เหนื่อยอยู่แล้วนี่ยังต้องมาจูงจักรยานขึ้นลงเนินเล็กเนินน้อยอีกจึงรู้สึกหงุดหงิดใจพอสมควร

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เล่ห์ลวงใจนายพ่อเลี้ยง   บทที่35 ตอนจบ

    "ครับคุณป้า..เธอมาหาผมแล้วครับ...ผมขออนุญาตดัดนิสัยสักหน่อยนะครับ"น่านน้ำรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าวันหนึ่งจะมาที่นี่เพราะวิริยาโทรมาอธิบายกับเขาทุกอย่างว่าวันหนึ่งเข้าใจผิดเรื่องอะไรและตอนนี้เขาก็ไม่คิดถือโทษเธอแล้วแต่อยากจะแกล้งเพื่อดัดนิสัยหญิงสาวบ้างจะได้รู้ว่าการถูกพูดหรือกระทำไม่ดีใส่มันรู้สึกอย่างไร และก่อนหน้านี้เขาก็ไม่ลืมโทรไปย้ำกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นหมอสายน้ำเอื้องฟ้าหรือไออุ่นว่าถ้าวันหนึ่งไปขอความช่วยเหลืออะไรห้ามช่วยทุกอย่างวันหนึ่งขับรถมาถึบ้านพ่อเลี้ยงหนุ่มได้เธอก็ลองเข้าครัวอีกสักตั้งเพราะยังไงก็จะพยายามง้อน่านน้ำให้สำเร็จ หญิงสาวอยู่ในครัวนานสองนานเพื่อที่จะทำปลาทับทิมนึ่งและน้ำจิ้มรสเด็ดที่น่านน้ำนั้นชอบเมื่อทำเสร็จนำมาวางที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยน่านน้ำก็กลับมาพอดี"กลับมาแล้วเหรอคะหนึ่งเตรียมอาหารเย็นไว้ให้พ่อเลี้ยงพึ่งเสร็จเลยนะคะ""ผมมีปิ่นโตของผมแล้ว.."คนตัวโตชูปิ่นโตเถาใหญ่ที่ถือกลับมาจากโรงครัวในไร่ให้วันหนึ่งได้เห็น จนวันหนึ่งเริ่มหน้าเจื่อนอีกครั้งที่ถูกน่านน้ำปฏิเสธอาหารของเธอ"อ่อ...ถ้าคุณอยากจะอยู่ที่นี่ก็อยู่ไปผมจะไปนอนที่บ้านท้ายไร่""ถ้าถึงขนาดที่ไม่อยากจะอยู่

  • เล่ห์ลวงใจนายพ่อเลี้ยง   บทที่34 ง้อ

    วันต่อมา"ยัยหนึ่งไปอิตาลีค่ะคุณแม่"เช้านี้ทุกคนในบ้านต่างก็ต้องปวดหัวกันอีกรอบเมื่อวันหนึ่งเลือกที่จะหนีไปอิตาลีโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวคนในบ้านก่อนได้แต่เพียงเขียนจดหมายเอาไว้ให้เท่านั้น"หลานคนนี้นี่มีอะไรทำไมไม่พูดกันนะ"นฤดีบ่นอุกด้วยดูท่าหลานเธอจะทำอะไรตามอำเภอใจตัวเองใหญ่แล้ว"ใครเลี้ยงก็เหมือนคนนั้นแหละครับ""อย่าพึ่งซ้ำเติมกันได้ไหมตาเดช"สิทธิเดชไม่วายหยอกคนเป็นแม่เล่นในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเพราะไม่ได้ห่วงอะไรลูกสาวมากนักด้วยไฟล์บินก็เช็กได้ว่าไปที่ไหนที่พักก็น่าจะหาไม่ยากเช่นกันนฤดีที่ทนกังวลใจต่อไปไม่ไหวเธอจึงเลือกที่จะติดต่อทอฝันเพื่อที่จะขอคุยกับเฟื่องฟ้าถึงสถาณการณ์ที่น่าอึดอัดในตอนนี้"ไม่ต้องห่วงหรอกไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วเค้าสองคนแต่งงานกันแล้วนี่"เฟื่องฟ้าเห็นหน้านฤดีได้ก็รีบเอ่ยให้เพื่อนเธอนั้นหายกังวลเพราะตอนนี้ไม่มีเรื่องอะไรน่าห่วงแล้ว"หา...แต่งตอนไหน"คำพูดของเฟื่องฟ้าทำนฤดีไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเพราะเรื่องแต่งงานหลานเธอไม่เห็นเคยพูดให้ฟังสักคำ"ค่อยไปถามหลานสาวตัวเองเองแล้วกัน""ฉันงงไปหมดแล้วตอนนี้""เอาเป็นว่าไม่นานเดี๋ยวสองคนนั้นก็ลงเอยกันด้วยดี"เฟื่องฟ้าบ

  • เล่ห์ลวงใจนายพ่อเลี้ยง   บทที่33 อกหัก

    นฤดีจำต้องทำตัวเป็นนางเล่าเรื่องให้ลูกชายและลูกสะใภ้ได้กระจ่างถึงความจริงว่าเธอและวันหนึ่งไม่ได้ไปบวชอย่างที่ว่าแต่พาหลานไปหาคู่ตามคำทำนาย วิริยาได้ฟังทั้งหมดก็แทบจะลมจับเธอว่าแล้วว่ามันมีอะไรแปลกๆตั้งแต่แรก"คุณแม่ไม่ได้ไปบวชแต่พาหลานไปหาคู่เหรอคะ!...คุณแม่จะพายัยหนึ่งงมงายเกินไปแล้วนะคะ""ผมว่าแล้วจะต้องมีเรื่องอะไรให้ปวดหัว"สิทธิเดชยิ้มอย่างไม่คิดอะไรเพราะเขาคิดเผื่อใจเอาไว้แต่แรกแล้วว่าแม่ตนต้องพาลูกสาวไปทำอะไรพิเลนๆอีกแน่แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ"เอาน่าจะว่าอะไรแม่ก็ช่างเถอะ...แต่ตอนนี้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องยัยหนึ่งก่อนว่าเป็นอะไรถึงได้หนีกลับมาดื้อๆแบบนี้""หนึ่งลูก..คุณย่ากลับมาแล้วนะลูกออกมาคุยกันหน่อยได้หรือเปล่า""หนึ่งอยากอยู่คนเดียวอย่าพึ่งมายุ่งกับหนึ่งได้ไหมคะ"เมื่อคุยกันจบทั้งวิริยาและนฤดีก็มาเคาะห้องของวันหนึ่งแต่ก็ต้องเดินกลับไปด้วยสีหน้าที่ผิดหวังกันทั้งคู่เพราะทำยังไงเจ้าของห้องก็ไม่ยอมออกมาคุยได้"คุณแม่แน่ใจนะคะว่ายัยหนึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใครจริงๆ"วิริยาเชื่อว่าวันหนึ่งต้องมีปัญหาใหญ่ไม่อย่างนั้นไม่มีอาการเป็นแบบนี้แน่ถึงจะไม่ได้เลี้ยงลูกอยู่ตลอดเวลาเหมือนแม่สามี

  • เล่ห์ลวงใจนายพ่อเลี้ยง   บทที่32 เสียใจ

    "หนึ่ง.. จะไปไหนแล้วร้องให้ทำไม"สายน้ำที่ขับรถATVคันเก่งจะไปดูแกะในฟาร์มช่วงสายขณะที่กำลังขับไปที่ฟาร์มเห็นว่าเป็นวันหนึ่งเดินอยู่จึงได้เข้าไปทักแต่เขาก็ต้องหน้าเสียเมื่อเห็นน้องสาวตนนั้นร้องให้จนหน้าตาแดงก่ำไปหมด"พี่สายพาหนึ่งออกไปจากไร่ได้ไหมคะ..ฮือๆๆ"มือเรียวยกปาดน้ำตาลวกๆก่อนจะกระโดดขึ้นหลังรถหมอหนุ่ม จนสายน้ำต้องละงานไปก่อนและพาวันหนึ่งมาสงบอารมณ์ที่คลินิกของเขา"เป็นอะไรบอกพี่ได้หรือเปล่า"สายน้ำเอ่ยถามคนตัวเล็กที่เอาแต่กอดหมอนร้องให้อยู่บนโซฟาโดยที่ไม่มีท่าทีว่าจะสงบลง"หนึ่ง..ฮึก..ฮือๆๆ..เสียใจขออยู่เงียบๆ..ฮือๆๆ""โอเคๆ..งั้นก็พักที่นี่ก่อนแล้วกันพี่จะไปตรวจเจ้าแกะที่ฟาร์มต่อ""ฮือๆ..อย่าบอกใครนะคะ..ฮือๆ..ๆ..ว่าหนึ่งอยู่ที่นี่""ได้พักให้สบายใจได้เลย"ถึงสายน้ำจะคาใจกับอาการเสียใจของวันหนึ่งพอสมควรแต่ก็ไม่เลือกที่จะเค้นถามอะไรในเมื่อคนอย่างวันหนึ่งถึงขั้นร้องให้ฟูมฟายขออยู่คนเดียวคงเป็นเรื่องปวดใจมากแน่คิดว่ารอให้น้องสาวของเขาอารมณ์เย็นลงแล้วค่อยคุยจะดีกว่าน่านน้ำคุยกับกวินตราจนหญิงสาวสบายใจจนกลับไปได้ตอนนี้ก็เป็นฝ่ายน่านน้ำที่กังวลใจเพราะหาแม่ครัวตัวเล็กของตัวเองไม่เจอโท

  • เล่ห์ลวงใจนายพ่อเลี้ยง   บทที่31 มีลูก

    "หนึ่งว่าบ้านพ่อเลี้ยงน่าอยู่มากๆแล้วที่นี่ดูน่าอยู่มากกว่าอีกนะคะบ้านหลังเล็กๆกับวิวที่สวยสุดยอดเลย"วันหนึ่งเดินดูรอบบ้านด้วยท่าทีตื่นเต้นบ้านหลังเล็กนี้เหมือนบ้านพักในฝันที่เคยเคยคิดอยากจะสร้างก็ว่าได้"ผมสร้างที่นี่เพื่อเอาไว้พักผ่อนเงียบๆ...แต่เป็นเพราะงานที่ยุ่งก็เลยไม่ได้มานานแล้ว""หนึ่งขอมาที่นี่บ่อยๆได้ไหมคะ""ได้อยู่แล้ว...ผมว่าจะให้คุณแบ่งเวลามาทำความสะอาดที่นี่บ้างแต่ไม่ได้ใช้ฟรีผมจะให้เงินพิเศษเพิ่ม""ว้า.. นึกว่าอยากพามาสวีทแต่อยากให้มาทำงานบ้านซะงั้น""เบื่อที่จะเป็นแม่ครัวแม่บ้านให้ผมแล้วหรือไง""เปล่าค่ะ...ได้อยู่ใกล้พ่อเลี้ยงหนึ่งเป็นอะไรก็ได้ค่ะ"พ่อเลี้ยงหนุ่มวาดมือหนายีหัวทุยเล่นด้วยท่าทีเอ็นดูคนตัวเล็กเป็นพิเศษที่ขยันหยอดคำหวานกับเขาได้ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน"ถ้าไม่เกิดเรื่องซะก่อนคุณคงได้ไปสมัครเรียนแล้ว""ไว้รอไปสมัครตอนเค้าเปิดรับอีกทีก็ได้ค่ะหนึ่งไม่รีบ...แต่ดูท่าเหมือนพ่อเลี้ยงจะรีบกว่าหนึ่งนะคะ""คุณอายุยังน้อยถ้าเรียนได้วุฒิสูงๆยังสร้างประโยชน์อะไรได้มากกว่ามาทำงานเป็นแม่บ้านดีไม่ดีคุณอาจจะกลายเป็นบัญชีฝีมือดีหรือไม่อาจจะบริหารองค์กรใหญ่ๆได้เลยก็ได้"น่านน

  • เล่ห์ลวงใจนายพ่อเลี้ยง   บทที่30 เข้าใจผิด

    "พี่เอื้อง..หยุดฟังหนึ่งก่อน""ไม่ฟัง"เอื้องฟ้าสะบัดมือของวันหนึ่งทิ้ง"หนึ่งกับพี่สายเป็นลูกพี่ลูกน้องกันค่ะ"วันหนึ่งจึงต้องโพร่งประโยคสำคัญออกมาเพื่อรั้งให้เอื้องฟ้านั้นฟังเธอให้ได้และมันก็ได้ผลเอื้องฟ้าหันมาขมวดคิ้วมองหน้าวันหนึ่งด้วยท่าทีแปลกใจกับสิ่งที่เธอได้ยินเมื่อครู่"ว่าไงนะ"“เรื่องมันอาจจะยาวสักหน่อยแต่หนึ่งจะเล่าความจริงให้พี่เอื้องฟังค่ะ”วันหนึ่งใช้เวลาอธิบายตั้งแต่ว่าเธอเป็นใครและมาทำอะไรที่นี่รวมถึงภาพเมื่อครู่ที่เอื้องฟ้าเห็นเธอกับสายน้ำไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่าพี่น้อง"เชื่อเรื่องดวงขนาดนี้เลยเหรอ"เอื้องฟ้าพอจะเข้าใจได้เรื่องที่วันหนึ่งกับสายน้ำเป็นอะไรกันแต่มาแปลกใจตรงที่หญิงสาวเชื่อเรื่องดวงมากจนทิ้งชีวิตคุณหนูมาเป็นแม่ครัวอยู่บ้านไร่เพียงเพราะคำทำนายของหมอดู"ค่ะ..คุณย่ากับหนึ่งเดินตามดวงกันมานานแล้วพวกเราเชื่อเรื่องนี้กันมากจริงๆ""ก็คงจะจริงไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ทิ้งชีวิตคุณหนูมาลำบากแบบนี้หรอก...แล้วหมอสายน้ำล่ะเดินตามดวงอะไรด้วยหรือเปล่า""ไม่เกี่ยวค่ะพี่สายน้ำแค่อยากหาที่สงบอยู่เท่านั้นหนึ่งก็พึ่งรู้ว่าพี่สายน้ำอยู่ที่นี่วันที่พี่สายน้ำพาหนึ่งไปฉีดวัคซีนวัว

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status