Masukบทที่ 5 ทะลึ่ง
“ตกลงยังไง ข้อเสนอของฉันน่าสนใจใช่ไหม? นายไม่ต้องเปลืองตัวอะไรเลย แถมยังมีเงินใช้สบายๆ” อลิสเอ่ยขึ้นหลังเห็นคนตรงหน้าเงียบไปนานหลายนาที
เอเดนพ่นลมหายใจออกมาหนักๆอย่างเหนื่อยหน่ายให้กับความคิดของอลิส อะไรที่ทำให้เธอมั่นใจขนาดนั้นว่าข้อเสนอของตัวเองน่าสนใจ
สิ้นคิดชิบหาย
“ขอคิดดูก่อน แล้วผมจะให้คำตอบ” เอเดนตอบด้วยน้ำเสียงที่ชวนก่อให้เกิดสงครามประสาทมาก
“…”
“ถ้าฉันเป็นนายฉันจะรีบคว้าโอกาสดีๆแบบนี้เอาไว้”
ให้ตายเถอะเอาอะไรมามั่นใจว่านี่คือโอกาสดีๆของกูวะ ตื้อฉิบหาย
“นี่นามบัตรฉัน ถ้าคิดได้เมื่อไหร่ก็โทรมาหาเจ๊นะจ๊ะพ่อหนุ่ม...น้อย” เอเดนหลุบมองนามบัตรที่ถูกเลื่อนมาวางไว้ตรงหน้าราวกับกำลังใช้ความคิด ทว่าก็ยังไม่รับไว้
“หึ...แน่ใจเหรอครับว่า...หนุ่มน้อย เพราะเมื่อคืนตรงนี้ของผมมันทำให้เธอร้องเสียงดังเหมือนหมูที่กำลังโดนเชือดในโรงฆ่าสัตว์เลย” เอเดนเอ่ยด้วยท่าทางกวนประสาทพร้อมกับหลุบมองเป้ากางเกงตัวเองด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ
“ไอ้เด็กบ้า อย่ามาทะลึ่งกับฉันนะ” อลิสเอ่ยพร้อมกับถลึงตาใส่คนตรงหน้าราวกับขมขู่ เอเดนหยักไหล่ใส่อย่างไม่สะทกสะท้าน
เด็กอะไรทั้งทะลึ่ง ทั้งหน้ามึน วอนตีนซะจริงๆ
ใจเย็นๆนะอลิส เด็กนี่ยังมีประโยชน์กับเธอ ใจเย็นๆ
อลิสพูดในใจพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อรวบรวมสติให้ตัวเองอารมณ์เย็นลง ไม่คล้อยตามกับคำพูดของเด็กบ้า
“แล้ววันนี้นายมีเรียนหรือเปล่า?”
“ถามทำไม?...จะไปส่งผมเหรอ?”
“ถ้านายไม่มีรถไป ฉันจะไปส่ง เดี๋ยวให้คนเอารถมารับ”
เอเดนนิ่งไปสักพัก เพราะกำลังคิดแผนร้ายบางอย่าง ก่อนจะส่งข้อความไปบอกมือขวาคนสนิทว่าให้กลับไปก่อน
“ผมมีเรียนตอนบ่าย...แล้วผมก็ไม่ได้เอารถมาเมื่อคืนผมพาเธอนั่งแท็กซี่เพื่อหาจองโรงแรมที่ใกล้ที่สุด” เอเดนจำต้องโกหก เพราะขี้เกียจอธิบาย
“แต่โรงเเรมที่นายจองราคาแพงหูฉี่เลยนะ แต่ก็เข้าใจได้ นายคงเอาเงินที่ได้จากเจ๊เลี้ยงมาใช้จ่าย แต่ต่อไปนี้เจ๊อลิสจะเลี้ยงเอง จะเลี้ยงอย่างดีเลย” อลิสเอ่ยด้วยรวยยิ้มหวานจนตาหยี
“...”
“แต่ผมยังไม่ได้รับปากข้อเสนอของเธอเลย”
“ถึงยังไม่รับปากก็จะเลี้ยงอยู่ดี เพราะนายเป็นของฉันแล้ว และต้องเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น” อลิสเอ่ยด้วยแววตาจริงจัง
“หิวผู้ชายขนาดนี้เลยเหรอ”
“ฉันทำได้ทุกอย่าง ถ้ามันจะทำให้ฉันไม่ต้องแต่งงานกับคนที่คุณปู่เลือกให้”
“แล้วมันต่างกันตรงไหน เราก็ไม่ได้รักกันสักหน่อย แต่เธอดูกระหายผมมากนะ...ติดใจxxxผมเหรอ” เอเดนเอ่ยด้วยแววตาร้ายกาจพร้อมกับหลุบมองเป้ากางเกงตัวเองราวกับภูมิใจในความหรรมใหญ่ยักษ์ของตัวเอง
“บอกว่าอย่ามาพูดจาทะลึ่งใส่ ฉันไม่ชอบ”
ครืดดด~ ครืดดด~
เอเดนไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพราะเสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นซะก่อน
“ผมขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะ”
“ตามสบาย”
‘หึ เจ๊คนไหนโทรมาหาละ เสน่ห์แรงจริงจริ๊งงง’ อลิสบ่นพึมพำคนเดียวเมื่อเอเดนเดินห่างไปไกลแล้ว
-ARIC CALLING-
เอเดนพ่นลมหายใจออกมาหนักๆด้วยความเหนื่อยหน่าย เมื่อหลุบมองโทรศัพท์แล้วเห็นเป็นชื่อพี่ชายคนโตของบ้านที่ชอบทำตัวเหมือนพ่อคนที่สอง
“เฮียมีอะไร”
(มีคนส่งรูปให้กู มึงไปทำอะไรที่บาร์โฮส?)
“นี่เฮียสั่งให้คนตามผมเหรอ”
(พ่อเป็นคนสั่ง เพราะตอนนี้ศัตรูของพ่อมันมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่ประเทศไทย เลยสั่งให้คนตามดูมึงห่างๆ...ตอบคำถามกูได้ยัง)
ไม่รู้จะส่งคนมาตามทำไม ในเมื่อลูกน้องเขาก็มีตั้งเยอะ
“ทำทีมแพ้บอล เลยต้องทำตามข้อตกลง ไปเป็นเด็กบาร์โฮสหนึ่งคืน พอใจยัง”
(ข้อตกลงปัญญาอ่อนชิบหาย)
“ฝากบอกพ่อด้วยไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่กลัวใครหน้าไหนอยู่แล้ว ให้มันมาเถอะ ผมจะเป็นคนตัดแขนมันเอง”
(อย่าซ่าส์ให้มันมาก เพราะศัตรูของพ่อมันไม่ใช่คนที่จะสู้ซึ่งๆหน้า เดี๋ยวกูส่งข้อมูลให้...เออพรุ่งนี้กูกับเอเดรียนจะเดินทางไปประเทศไทย)
“มาทำ...” ยังไม่ทันที่เอเดนจะพูดจบเอริคก็ชิงตัดสายไปซะก่อน
เอเดนพ่นลมหายใจออกมาหนักๆอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะเก็บโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม
“เป็นอะไร” อลิสเอ่ยถามเมื่อเอเดนเดินมาทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ เพราะก่อนออกไปคุยโทรศัพท์ยังดูปกติพูดจากวนประสาทเธออยู่เลย
“เปล่า เธอรีบไปแต่งตัวให้เรียบร้อยเถอะ เพราะผมต้องไปเรียนแล้ว ส่วนเสื้อผ้าอยู่ในห้องแต่งตัว ผมให้คนเตรียมมาให้ตั้งแต่เช้าแล้ว”
“ขอบใจนะ” ว่าจบอลิสก็เดินหายเข้าไปในห้องแต่งตัวทันที
‘นายนี่เทสต์ดีขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ราคาแพงมากด้วย เจ๊เลี้ยงให้เงินนายนี่เท่าไหร่เนี่ย’ อลิสเอ่ยเมื่อเปิดถุงเสื้อผ้ายี่ห้อแบรนด์ดัง ทว่าว่าจู่ๆใบหน้าอลิสก็แดงก่ำราวกับลูกมะเขือเทศเมื่อเธอหยิบชุดชั้นในไปสวมใส่ เพราะเธอใส่ได้พอดีเลย
บ้าชะมัด ทำไมรู้สึกแปลกๆแบบนี้นะ
...
มหาวิทยาลัยออสเวิร์ด
“นายเรียนที่นี่เหรอ” อลิสเอ่ยถามเมื่อรถหรูราคาหลายสิบล้านแล่นเข้ามาภายในมหาวิทยาลัย เธอรู้ว่าที่นี่เป็นมหา’ลัยเอกชนติดอันดับท๊อปเท็นของประเทศค่าเทอมไม่ต้องพูดถึงแพงหูฉี่มาก แถมเจ้าของยังเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่ใครๆต่างก็เกรงกลัว
“อื้อ”
“เจ๊เลี้ยงของนายคงรวยน่าดูเลยเนอะ ถึงส่งเสียนายมากขนาดนี้”
เอเดนถอนหายใจออกมาหนักๆอย่างเหนื่อยหน่ายเพราะเบื่อคำว่าเจ๊เลี้ยงของเธอเต็มทน
“ขอบคุณครับที่มาส่ง”เอเดนเอ่ยพร้อมกับเปิดประตูก้าวขาลงจากรถ
“ไม่เป็นไร พ่อหนุ่มวิศวะ เลิกเรียนให้เจ๊มารับไหม”
เอเดนไม่ตอบ เขาเดินเข้าตึกเรียนทันทีเพราะไม่อยากเสียเวลาคุยไร้สาระกับอลิส
‘จริงสิ ฉันยังไม่มีช่องทางติดต่อเด็กบ้าเอเดนเลย’
“เดี๋ยว”อลิสวิ่งตามเอเดนเข้ามาในตึกเรียนอย่างรวดเร็วเมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังไม่มีช่องทางติดต่อเอเดนเลย
“อะไร จะตามไปเรียนกับผมด้วยหรือไง”
“เปล่า ฉันแค่จะมาขอช่องทางติดต่อนาย”
“เรามีอะไรให้ต้องติดต่อกันเหรอครับ ผมสายมากแล้วขอตัวไปเรียนก่อนนะ ถ้าพรมลิขิตมีจริงเราคงได้เจอกันอีก” ว่าจบเอเดนก็รีบวิ่งไปขึ้นลิฟต์ทันที
‘ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย ไม่ง้อก็ได้ มีผู้ชายมาให้คนอย่างอลิสเลือกตั้งเยอะ ชิ ฉันไม่สนใจนายแล้วไอ้หัวทองขี้เก๊ก’
--------------------
เอเดนถอนหายใจไปแล้วกี่รอบ5555555
สวัสดีปีใหม่ทุกๆคนนะคะ ฝากเป็นกำลังใจให้ฮงฮวยด้วนนะค๊าบบ❤️🙏
บทที่ 17 เด็กแว๊นคนนั้นคือ...เพนต์เฮาส์เอเดนหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการเตรียมความพร้อมสำหรับงานหมั้นในวันพรุ่งนี้ เอเดนก็พาอลิสกลับมาที่เพนต์เฮาส์ของตัวเองเพราะเขาอยากให้เธอรู้จักตัวตนของเขาให้มากกว่านี้และข้อตกลงจากเขาที่เธอต้องปฏิบัติหลังจากที่มีเขาเป็นคู่หมั้นโดยสมบูรณ์“ทำไมไม่พาฉันกลับคอนโด ฉันไม่ได้มีเวลามาเล่นกับนายนะ วันนี้ฉันเหนื่อยมาก อยากพักผ่อนแล้ว” ทันทีที่รถจอดนิ่งสนิท อลิสก็เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์เล็กน้อย“ลงมาก่อน” เอเดนพูดพร้อมกับปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวเอง ก่อนจะก้าวขาลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูให้อลิสอีกที แต่อลิสยังนั่งนิ่งไม่ยอมลง“จะลงมาดีๆหรือให้ผมอุ้มลง” อลิสถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นเอเดนโน้มตัวเข้ามาใกล้พร้อมกับทำท่าจะอุ้ม แต่เธอผลักร่างหน้าออกอย่างไม่แรงนักก่อนจะก้าวขาลงจากรถอย่างไม่มีทางเลือก“จะพาฉันไปไหน” ในขณะที่อลิสเอ่ยสายตาก็เหลือบมองซ้ายมองขวาสำรวจรอบๆไปด้วย ก็ทำให้เข้าใจได้ว่าชั้นโรงจอดรถนี้น่าจะเป็นชั้นวีไอพี มีรถหรูจอดอยู่หลายคันทั้งไฮเปอร์คาร์และซุปเปอร์คาร์“ที่นี่เพนต์เฮาส์นายเหรอ” อลิสเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจว่าเธอเข้าใจถูก“อือ ก็ตาถึงด
บทที่ 16 คู่หมั้นสุดหล่อวันต่อมาWeddingxxxStudioวันนี้เอเดนไปรับอลิสมาดูชุดที่จะใส่วันหมั้นที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ด้วยกันตั้งแต่เช้า พอมาถึงร้านพนักงานก็รีบมาต้อนรับและพาเขากับเธอไปเลือกโทนเสื้อผ้าในสไตล์ที่ตัวเองชอบ คนตัวเล็กเลือกอยู่นาน เธอลองอยู่เป็นสิบๆชุด กว่าจะได้ชุดที่ถูกใจ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจในการหมั้นครั้งนี้ ทว่าเธอต้องสวยที่สุด ถ้ารูปถ่ายที่ถูกเผยแพร่ออกไปดูไม่สวย ดูบ้ง เดี๋ยวจะเสียชื่อผู้บริหารแห่งอลิชาโมเดลลิ่งกรุ๊ป“ว่าที่คู่หมั้นสุดสวยของคุณเอเดนมาแล้วค่า~” พนักงานผู้หญิงสองคนเอ่ยพูดพร้อมกับเปิดม่านออกเพื่อที่จะให้เอเดนได้เชยชมความงามของว่าที่คู่หมั้นที่ตัวเองได้เลือกแล้วคนตัวสูงจึงละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ เลื่อนสายตาขึ้นมามองคนตรงหน้า ความสวยของอลิสทำเอาเอเดนนั่งตาค้างอยู่นานนับนาที ชุดที่อลิสใส่เป็นชุดไทยโบราณ ลายปักสง่างาม ประดับด้วยคริสตัลทั้งหมด ชุดที่ว่าสวยแล้ว พอมาอยู่บนตัวของเธอยิ่งดูสวยสง่า ดูแพง ชุดส่งคน คนส่งชุดมาก ชุดของเอเดนเองก็เป็นชุดไทยโบราณเหมือนกัน เป็นโทนชุดคู่กันกับอลิส ทว่าเขาแต่งตัวเสร็จก่อนอลิสเป็นชั่วโมงแล้ว“ว้าว~ คุณเอเดนและคุณอลิสสวย
บทที่ 15 คนหลงตัวเองคำเตือน!เนื้อหามีการใช้ความรุนแรงวันต่อมา“อื้อ~” อลิสส่งเสียงงัวเงียตื่นพร้อมกับบิดขี้เกียจไปมาทว่าก็ต้องร้องออกมาเพราะมีอาการปวดตามเนื้อตามตัว “ฮือ~ เด็กบ้าทำฉันปวดตัวไปหมดเลย” อลิสบ่นพึมพำอย่างไม่จริงจังนักก่อนจะหลุบมองนาฬิกาบนผนังห้องก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว เมื่อคืนเธอจำไม่ได้ว่าภาพตัดไปตอนไหน ที่จำได้ดีคือทุกการกระทำของเอเดนยังตราตรึงไม่หายคนอะไรจะหื่นขนาดนี้ ไม่รู้ไปอดอยากมาจากไหน“แล้วนี่หายไปไหนนะ หรือว่าไปเรียนแล้ว” อลิสเอ่ยแต่พอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเผลอถามหาเอเดนจึงสะบัดหน้าไปมาราวกับเรียกสติ ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีก “จะไปไหนแล้วเราจะไปสนเขาทำไมเนี่ยอลิส เด็กหื่นกามแบบนั้นไม่อยู่สิดี”แกร๊ก~อลิสมองไปตามเสียงที่ดังมากระทบใหูเล็ก ก็พบว่าคนที่เธอพูดถึงเมื่อครู่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำพอดีราวกับว่ามีคนปล่อยคิว เธอเผลอมองรูปร่างเพอร์เฟกซ์ของเอเดนอยู่นานนับนาที เพราะร่างกายของเขาตอนนี้มีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอวสอบอย่างหมิ่นเหม่“มองจนน้ำลายยืดหมดแล้ว ให้ผมแตกใส่สักน้ำไหมจะได้สดชื่น” เอเดนเอ่ยพร้อมกับเดินเข้ามาหาอลิสด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์“นี่...หยุดเลยนะ ฉั
บทที่ 14 คืนนี้อีกยาวไกล...เอเดนค่อยๆวางคนตัวเล็กลงบนเตียงขนาดคิงไซส์อย่างแผ่วเบา ในจังหวะนั้นมือเล็กก็เลื่อนขึ้นมาโอบกอดลำคอหนาของคนตัวสูงโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัวทำให้เอเดนเซถลาเข้าไปใกล้มากกว่าเดิมจนใบหน้าของทั้งสองคนแทบจะจรดกัน“ว่าไงคะคนหล่อ” อลิสเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยใบหน้าหยาดเยิ้ม เพราะเธอยังไม่ได้คำตอบในสิ่งที่เธอถามเอเดนก่อนหน้านี้พอเมาแล้ว ท่าทางเธอเหมือนลูกแมวเชื่องๆตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ แถมหน้าตายังยั่วเซ็กซ์อีก อยากให้เมาทุกวันเลย เพราะเขาชอบ...“เอา...อื้อ” อลิสเอ่ยถามเอเดนอีกครั้งทว่ายังไม่ทันได้พูดจบคนตัวสูงก็ประกบจูบลงบนริมฝีปากอวบอิ่มซะก่อน เธอจูบตอบเขาตามอารมณ์ความต้องการที่ถูกปลุกด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่มจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบตามมา มือหนาก็เริ่มลูบไล้ไปตามเรียวขาสวยจนมาหยุดอยู่ที่ความเป็นสาว เขาใช้นิ้วเรียวยาวกรีดไปตามรอยแยกของกลีบกุหลาบผ่านกางเกงชั้นในจนน้ำหวานไหลเยิ้มซึมออกมาเปียกตามกางเกงชั้นในไปหมด“เธอเยิ้มแล้วอลิส” เอเดนถอนจูบพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เพราะตอนนี้ความอดทนของเขาได้ขาดสะบั้นแล้ว จึงรีบจัดการถอดเสื้อผ้าของคนใต้ร่างและตัวเองออ
บทที่ 13 ไม่ใช่คนดีคอนโดxxxภายในรถที่เงียบสงัดตลอดทางตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าจนถึงคอนโดxxxอลิสได้แต่ทอดสายตาผ่านกระจกรถเหม่อมองสายฝนที่กระหน่ำตกลงมาอย่างหนักราวกับว่ากำลังแสดงเป็นนางเอกเอ็มวีเพลงอกหักอยู่อย่างไรอย่างนั้นวันหนึ่งผู้หญิงมีกี่อารมณ์ เข้าใจยากจริงๆ“ขอบคุณนะที่มาส่ง และขอบคุณที่วันนี้นายเป็นสารถีจำเป็นให้ฉันทั้งวันเลย ถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกันอีก” อลิสเอ่ยเมื่อรถจอดนิ่งสนิทแล้วพร้อมกับก้าวขาลงจากรถ ทว่าก็ต้องชะงัก เมื่อนึกได้ว่าข้างนอกฝนยังไม่หยุดตกและดูเหมือนยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดง่ายๆ จึงเอี้ยวหน้าหันไปมองคนข้างกายทำให้ทั้งคู่สบตากันพอดีราวกับว่าใจกำลังตรงกัน“จะใจร้ายให้ผมขับรถกลับเพนต์เฮาส์ทั้งๆที่ฝนตกหนักขนาดนี้เหรอ?” เอเดนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ“ชิ ฉันไม่เคยใจร้ายย่ะ เห็นแก่ความดีของนายวันนี้ฉันจะให้ได้ขึ้นไปพักที่ห้องฉันก่อน ฝนหยุดตกค่อยกลับบ้านแล้วกัน”“ขอบคุณสำหรับน้ำใจครับ” เอเดนเอ่ยด้วยท่าทางกวนประสาท ก่อนจะก้าวขาลงจากรถเดินไปที่ลิฟต์อย่างอารมณ์ดี อลิสเดินตามมาติดๆด้วยใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์เด็กกวนประสาท ตอนเด็กแม่เอาอะไรให้กินถึงได้กวนประสาทขนาดนี้เนี่ยแกร๊ก~
บทที่ 12 นายเป็นใคร?บรรยากาศภายในรถไฮเปอร์คาร์สุดหรูที่เงียบสงัด ในสมองคนตัวเล็กเต็มไปด้วยคำถามมากมาย ที่เธอเอาแต่นั่งอยู่เงียบๆไม่พูดไม่จา ไม่ใช่เพราะกำลังโกรธ แต่เพราะกำลังลิสต์คำถามในหัวเป็นข้อๆที่จะถามคนข้างๆยังไม่เสร็จต่างหากวันนั้นขับลัมโบร์กินีวันนี้ขับไฮเปอร์คาร์ นายนี่ไม่ใช่เล่นๆล่ะมาค่ะ คนสวยพร้อมยิงขีปนาวุธรัวๆแล้ว“บอกมาว่านายเป็นใคร? มาจากไหน? ครอบครัวทำงานอะไร? และที่คิดจะหมั้นกับฉันต้องการอะไรกันแน่?” พอได้จังหวะอลิสก็ยิงคำถามรัวๆด้วยน้ำเสียงคาดคั้น ทำเอาเอเดนถึงกับถอนหายใจออกมาหนักๆ เพราะโดยปกติเขาจะไม่มาสาธยายประวัติตัวเองให้ใครรู้ วงการมาเฟียไม่มีใครมานั่งบอกประวัติกันหรอก แต่กับเธอถ้าไม่บอกคงไม่จบ“พ่อชื่อเอมิล แม่ชื่อมาเรีย ครอบครัวทำธุรกิจส่วนตัว ส่วนเรื่องหมั้นไม่ได้คิดอะไรซับซ้อน แค่รู้สึกอยากหมั้นด้วยแค่นั้น พอใจไหมครับ คุณ-อ-ลิส” เอเดนตอบคำถามด้วยท่าทางเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความกวนประสาท“...”“แล้ววันนั้นนายไปทำงานที่บาร์โฮสทำไม?”“ทำทีมแพ้บอลเลยต้องทำตามข้อตกลงปัญญาอ่อนของเพื่อน ด้วยการไปเป็นเด็กโฮสต์หนึ่งคืน”“...”“ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่าที่นายพูดมาทั้งหมด







