เข้าสู่ระบบ"ถ้าอยากให้ช่วยก็อ้าขากว้างๆ" เธอเสียซิงให้เด็กบาร์โฮส...แต่เขากลับไม่ใช่แค่เด็กเสิร์ฟความแซ่บ เพราะเขาคือทายาทมาเฟียผู้มีอำนาจล้นมือที่เธอไม่คาดคิด
ดูเพิ่มเติมบทนำ
‘กรี๊ดดดดดดดด~’ เสียงกรีดร้องของอลิสดังขึ้นเมื่อมีบิ๊กไบค์ขับปาดหน้ารถของเธอด้วยความเร็วสูง เธอเองก็ขับรถมาเร็วเหมือนกัน เพราะวันนี้อลิสมีประชุมด่วนที่บริษัทจึงขับรถเร็วกว่าปกติ
‘เด็กแว๊นที่ไหนเนี่ย ไม่มีใครสั่งสอนหรือไงว่าอย่าเอาชีวิตมาเสี่ยงบนถนนแบบนี้’ อลิสอุทานด้วยความหัวเสียและตกใจในเวลาเดียวกัน ‘ไอ้บ้าเอ๊ย! อย่าให้เจออีกนะ จะด่าจนหาทางกลับบ้านไม่ถูกเลย’ อลิสพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อตั้งสติได้
อลิสหลุบมองนาฬิกาหรูบนข้อมือ เมื่อขับรถมาจอดไฟแดง ‘อีกห้านาทีจะถึงเวลาประชุม...บ้าจริงสายจนได้ เมื่อไหร่จะไฟเขียวสักทีเนี่ย’
อลิสบ่นพึมพำด้วยความร้อนใจ เพราะประชุมครั้งนี้สำคัญมาก
จังหวะนั้นสายตาเธอก็เลื่อนไปเจอรถบิ๊กไบค์คันหนึ่งที่จอดติดไฟแดงอยู่ข้างๆรถของเธอ คนขับใส่ช๊อปวิศวะ อลิสจำรถบิ๊กไบค์ที่ขับปาดหน้าเธอเมื่อครู่ได้เป็นอย่างดี จึงลดกระจกลง “นี่น้อง”
เจ้าของบิ๊กไบค์ไม่ตอบอะไรเพียงแค่หันหน้ามามองตามเสียงแล้วชี้นิ้วไปที่ตัวเอง ราวกับจะบอกว่าเธอคุยกับเขาเหรอ
“ใช่...พี่คุยกับน้องนั่นแหละ เวลาขับรถรู้จักหัดเกรงใจคนที่ใช้ถนนด้วยหน่อย ไม่ใช่ขับรถปาดไปปาดมาอย่างคนไร้มารยาทที่ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน”
ปรี๊ดดดด~
‘ว๊ายยยย’ อลิสร้องเสียงหลงเมื่อเจ้าของบิ๊กไบค์บีบแตร่เสียงดังลั่นราวกับรำคาญในขณะที่เธอกำลังต่อว่าเขาอยู่ จากนั้นก็ขับรถออกไปด้วยความเร็ว
‘ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย!’ อลิสตะโกนด่าตามหลังด้วยความโมโหให้กับการกระทำไร้มารยาทของเขา
ปรี๊ดดดด~ อลิสสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงบีบแตร่ดังอีกครั้ง ทว่าว่าครั้งนี้เสียงดังมาจากรถทางด้านหลัง อลิสหลุบมองไฟจราจรก็พบว่าเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้ว จึงรีบขับรถออกไป
อลิชาโมเดลลิ่งกรุ๊ป
ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงร้องเท้าส้นสูงดังอย่างต่อเนื่องเมื่ออลิสเดินเข้ามาภายในบริษัทขนาดใหญ่ที่สร้างมาด้วยตัวเองอย่างรีบร้อน
“อลิสเร็ว” ต้นน้ำ เลขาคู่ใจและยังเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดตั้งแต่วัยเด็กวิ่งเข้ามาหาอลิสด้วยท่าทางร้อนลน ก่อนหน้านี้อลิสได้ไลน์มาบอกต้นน้ำว่าใกล้จะถึงบริษัทแล้ว ทำให้ต้นน้ำรีบมาหาอลิสทันเวลาเธอเข้ามาในบริษัทพอดี เพราะในที่ประชุมตอนนี้กำลังวุ่นวายมาก คนที่จะมาจัดการปัญหานี้ได้มีเพียงอลิสคนเดียวเท่านั้น
เมื่ออลิสเดินเข้ามาในห้องประชุมโดยมีต้นน้ำเป็นคนเปิดประตูให้ ภายในห้องถึงกับเงียบกริบ เพราะทุกคนรู้ดีว่าอลิสเป็นคนพูดจริงทำจริง ใครที่ทำผิดกฎของบริษัทจะโดนแบล็กลิสต์และเป็นการจบชีวิตการทำงานอย่างถาวรด้วย
“จากหลักฐานการโกงค่าตัวนายแบบในสังกัดอลิสาโมเดลลิ่งกรุ๊ป พี่กีตาร์มีอะไรจะแก้ตัวไหมคะ” อลิสว่าจบก็โยนซองสีน้ำตาลไปตรงหน้าคนที่อายุมากกว่าด้วยความผิดหวัง เพราะกีตาร์ถือว่าเป็นบุคคลที่เธอไว้ใจมากคนหนึ่ง ทำงานกับเธอมาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทแรกๆ แต่ก็ไม่ถึงกับว่าจะไม่สามารถตัดขาดได้ อะไรที่นำมาซึ่งทำให้บริษัทเสื่อมเสียไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจอลิสพร้อมที่จะจัดการขั้นเด็ดขาดไม่ว่าใครก็ตาม
กีต้าร์ที่ตอนนี้ใบหน้าซีดเผือกตัวสั่นเทาราวกับลูกนก เธอนั่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบคำถามอลิส
“พี่ขอโทษค่ะ...พี่มีความจำเป็นจริงๆ”
“ทางบริษัทจ่ายเงินให้กับผู้ดูแลนายแบบนางแบบทุกคนจำนวนหกหลักในแต่ละเดือน ไม่ทราบว่าพี่เดือดร้อนขนาดที่ต้องโกงเงินค่าตัวนายแบบเป็นสิบๆล้านขนาดนั้นเลยเหรอค่ะ รับงานไม่ผ่านบริษัทยังไม่พอ ยังโกงเงินอย่างคนไร้จิตสำนึก ไม่เพียงแค่นั้นพี่ยังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเด็กที่อยู่ภายใต้ความดูแลของพี่อีก ความผิดที่พี่ทำมันเกินจะชดใช้”
กีตาร์กำหมัดแน่นน้ำตาไหลไม่ขาดสายราวกับเก็บกด ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน แววตาฉายถึงความโกรธเกลียดอย่างเห็นได้ชัด
“ก็เพราะใครกันล่ะ ถึงทำให้ฉันต้องทำแบบนี้ คนที่ไม่เคยเห็นหัวคนอื่นอย่างเธอกล้าพูดว่าคนอื่นไร้จิตสำนึกด้วยเหรอ เหอะ...ตลกดีนะ”
“นี่ยัยกีต้าร์” ต้นน้ำเอ่ยด้วยน้ำเสียงอย่างเหลืออด “อลิสไม่น่าชุบเลี้ยงงูเห่าอย่างเธอเลย ถ้าไม่มีอลิสเธอได้กลับไปเป็นคนขอทานข้างถนนเหมือนเดิมแล้ว”
“หุบปากอีกระเทย”
“ว๊ายยยย...อีนี่ ขอตบปากสักทีเถอะ” ต้นน้ำพุ่งเข้าไปหากีตาร์ด้วยอารมณ์เดือดดาลเพื่อหวังจะตบสั่งสอนคนไม่รู้บุญคุณของคนที่ยื่นมือช่วยเหลือ จังหวะที่กำลังจะง้างมือตบ เสียงอลิสดังขึ้นซะก่อน
“พอเถอะต้นน้ำ”
“ก็อีนี่มันปากดี”
“กูทำงานมาตั้งแต่บริษัทก่อตั้งใหม่ๆ แทนที่กูจะได้เป็นผู้ถือหุ้นบ้าง ทำงานเลือดตาแทบกระเด็น รายได้แค่นั้นมันจะไปพอยาไส้อะไร”
“คนเคยขอทานมาก่อนกล้าพูดแบบนี้ได้ยังไงวะ” ต้นน้ำเอ่ย
คำพูดของต้นน้ำยิ่งทำให้กีตาร์ทวีความโกรธมากขึ้นไปอีกที่ถูกขยี้ปมที่เธอพยายามลืมมาตลอด ทำให้เธอคว้ามีดคัดเตอร์ขึ้นมาขู่ทุกคน
“ถ้ามึงยังไม่หยุดพูด กูจะแทงมึงให้ไส้ไหลอีกกระเทย”
คนภายในห้องประชุมตอนนี้กรีดร้องด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นท่าทางบ้าคลั่งของกีตาร์ กีต้าร์เดินถือมีดคัตเตอร์ตรงเข้าไปหาอลิส ทว่าต้นน้ำรีบมาขวางเอาไว้
“อย่าทำอะไรอลิส มึงก็น่าจะรู้นะถ้าอลิสมีรอยแม้แต่นิดเดียว ปู่ของอลิสไม่ปล่อยมึงไว้แน่”
“จับมัน” เสียงของชายวัยเจ็ดสิบดังขึ้น พร้อมกับลูกน้องนับสิบคนเข้ามาจับตัวกีตาร์อย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกสายตามองไปที่กลุ่มคนที่เข้ามาใหม่ กีตาร์กรีดร้องพร้อมกับดีดดิ้นอย่างบ้าคลั่งเพื่อหวังให้ตัวเองหลุดจากเกาะกุม ทว่าก็เปล่าประโยชน์เพราะไม่สามารถสู้แรงของเหล่าชายฉกรรจ์ได้ เธอถูกลากออกจากห้องอย่างไร้ความปราณี อนันต์ไม่เคยใจดีกับคนที่คิดร้ายกับหลานสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเขา
“คุณปู่” อลิสอุทานขึ้นด้วยความตกใจเมื่อเห็นปู่ตัวเอง เธอไม่รู้ว่าปู่เธอรู้เรื่องได้ยังไง
“คุณปู่สวัสดีครับ” ต้นน้ำเอ่ยสวัสดีผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือด้วยท่าทางนอบน้อม อนันต์ พยักหน้ารับไหว้เพื่อนสนิทของหลานสาวด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่แฝงไปด้วยความอบอุ่น
“คุณปู่มาได้ยังไงคะ”
“ต้นน้ำโทรไปบอกปู่ว่าที่บริษัทอลิสมีปัญหา ปู่สังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีเลยรีบมาหาหลาน”
“คุณปู่ให้คนพาพี่กีตาร์ไปไหนคะ” อลิสเอ่ยถามด้วยความเป็นกังวล ถึงกีต้าร์จะทำไม่ดี เธอก็ไม่ได้อยากให้เธอรับโทษจากผู้เป็นปู่ เพราะเธอรู้ดีว่าบทลงโทษของปู่เธอคือตายสถานเดียว
“จะห่วงคนแบบนั้นทำไม ถ้าปู่มาไม่ทันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอลิส ปู่มีหลานแค่คนเดียวนะ”
อลิสโผเข้าไปกอดผู้เป็นปู่ด้วยความรู้สึกผิด “อลิสขอโทษนะคะที่ทำให้คุณปู่เป็นห่วง”
“วันหลังถ้าจะช่วยเหลือใครดูดีๆ คนทุกวันนี้หวังชุบตัวเองเพื่อเอาตัวรอดทั้งนั้น”
“ค่ะ...อลิสจะจำไว้” ว่าจบอลิสก็พาผู้เป็นปู่ไปนั่งพักผ่อนในห้องทำงานของตัวเอง ซึ่งจะมีมุมสำหรับผ่อนคลายสบายๆเวลาที่เธอเครียดเรื่องงาน ก็มักจะมานั่งอยู่มุมนี้
“ช่วงนี้อลิสไม่ค่อยไปหาปู่ที่บ้านเลยนะ”
“ก็อลิสงานเยอะนิคะ...อลิสจะพยายามเคลียร์งานและไปหาคุณปู่บ่อยๆนะคะ” อลิสเอ่ยด้วยรอยยิ้มหวานอย่างออดอ้อน
“งานเยอะ...หรือว่าเลี่ยงการตอบคำถามเรื่องแต่งงานกับปู่กันแน่”
อลิสได้แต่กระพริบตาปริบๆเมื่อผู้เป็นปู่รู้ทัน เพราะเธอยังหาแฟนไม่ได้เลยTT เลยไม่ค่อยเเวะเข้าไปหาปู่ตัวเอง...
“ที่ปู่อยากให้อลิสแต่งงาน ก็เพื่อจะมีคนมาดูแลอลิส ปู่เองก็อายุมากขึ้นทุกวัน จะอยู่ปกป้องอลิสไปได้อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ ถ้ามีคนมาดูแลหลานสาวคนเดียว ปู่ก็คงหมดห่วงและนอนตายตาหลับ”
“คุณปู่อย่าพูดแบบนี้สิค่ะ คุณปู่ต้องอยู่กับอลิสไปนานๆนะคะ”
“หลานคนนี้นิดื้อจริงๆ ยังไงก็แล้วแต่ถ้าอลิสหาแฟนไม่ได้ภายในหนึ่งปีตามที่ตกลงกับปู่ ก็ต้องแต่งงานกับคนที่ปู่เลือกให้ ตระกูลพิพัฒน์เลิศวิริยะไพศาลกุลจะต้องมีทาญาติสืบทอด”
จะทำยังไงดี ฉันไม่มีทางแต่งงานกับคนที่คุณปู่เลือกให้อย่างแน่นอน เหลือเวลาอีกสามเดือนก็ครบกำหนดหนึ่งปีตามข้อตกลงแล้วTT
----------------------
ที่คุณปู่อยากให้อลิสแต่งงาน คุณปู่มีเหตุผลนะคะ
ฝากด้วยนะคะ ฝากคอมเมนต์ รีวิว กดหัวใจ กดเข้าชั้น เป็นกำลังใจให้ไรท์เยอะๆน้า🥺🙏
บทที่ 17 เด็กแว๊นคนนั้นคือ...เพนต์เฮาส์เอเดนหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการเตรียมความพร้อมสำหรับงานหมั้นในวันพรุ่งนี้ เอเดนก็พาอลิสกลับมาที่เพนต์เฮาส์ของตัวเองเพราะเขาอยากให้เธอรู้จักตัวตนของเขาให้มากกว่านี้และข้อตกลงจากเขาที่เธอต้องปฏิบัติหลังจากที่มีเขาเป็นคู่หมั้นโดยสมบูรณ์“ทำไมไม่พาฉันกลับคอนโด ฉันไม่ได้มีเวลามาเล่นกับนายนะ วันนี้ฉันเหนื่อยมาก อยากพักผ่อนแล้ว” ทันทีที่รถจอดนิ่งสนิท อลิสก็เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์เล็กน้อย“ลงมาก่อน” เอเดนพูดพร้อมกับปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวเอง ก่อนจะก้าวขาลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูให้อลิสอีกที แต่อลิสยังนั่งนิ่งไม่ยอมลง“จะลงมาดีๆหรือให้ผมอุ้มลง” อลิสถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นเอเดนโน้มตัวเข้ามาใกล้พร้อมกับทำท่าจะอุ้ม แต่เธอผลักร่างหน้าออกอย่างไม่แรงนักก่อนจะก้าวขาลงจากรถอย่างไม่มีทางเลือก“จะพาฉันไปไหน” ในขณะที่อลิสเอ่ยสายตาก็เหลือบมองซ้ายมองขวาสำรวจรอบๆไปด้วย ก็ทำให้เข้าใจได้ว่าชั้นโรงจอดรถนี้น่าจะเป็นชั้นวีไอพี มีรถหรูจอดอยู่หลายคันทั้งไฮเปอร์คาร์และซุปเปอร์คาร์“ที่นี่เพนต์เฮาส์นายเหรอ” อลิสเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจว่าเธอเข้าใจถูก“อือ ก็ตาถึงด
บทที่ 16 คู่หมั้นสุดหล่อวันต่อมาWeddingxxxStudioวันนี้เอเดนไปรับอลิสมาดูชุดที่จะใส่วันหมั้นที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ด้วยกันตั้งแต่เช้า พอมาถึงร้านพนักงานก็รีบมาต้อนรับและพาเขากับเธอไปเลือกโทนเสื้อผ้าในสไตล์ที่ตัวเองชอบ คนตัวเล็กเลือกอยู่นาน เธอลองอยู่เป็นสิบๆชุด กว่าจะได้ชุดที่ถูกใจ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจในการหมั้นครั้งนี้ ทว่าเธอต้องสวยที่สุด ถ้ารูปถ่ายที่ถูกเผยแพร่ออกไปดูไม่สวย ดูบ้ง เดี๋ยวจะเสียชื่อผู้บริหารแห่งอลิชาโมเดลลิ่งกรุ๊ป“ว่าที่คู่หมั้นสุดสวยของคุณเอเดนมาแล้วค่า~” พนักงานผู้หญิงสองคนเอ่ยพูดพร้อมกับเปิดม่านออกเพื่อที่จะให้เอเดนได้เชยชมความงามของว่าที่คู่หมั้นที่ตัวเองได้เลือกแล้วคนตัวสูงจึงละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ เลื่อนสายตาขึ้นมามองคนตรงหน้า ความสวยของอลิสทำเอาเอเดนนั่งตาค้างอยู่นานนับนาที ชุดที่อลิสใส่เป็นชุดไทยโบราณ ลายปักสง่างาม ประดับด้วยคริสตัลทั้งหมด ชุดที่ว่าสวยแล้ว พอมาอยู่บนตัวของเธอยิ่งดูสวยสง่า ดูแพง ชุดส่งคน คนส่งชุดมาก ชุดของเอเดนเองก็เป็นชุดไทยโบราณเหมือนกัน เป็นโทนชุดคู่กันกับอลิส ทว่าเขาแต่งตัวเสร็จก่อนอลิสเป็นชั่วโมงแล้ว“ว้าว~ คุณเอเดนและคุณอลิสสวย
บทที่ 15 คนหลงตัวเองคำเตือน!เนื้อหามีการใช้ความรุนแรงวันต่อมา“อื้อ~” อลิสส่งเสียงงัวเงียตื่นพร้อมกับบิดขี้เกียจไปมาทว่าก็ต้องร้องออกมาเพราะมีอาการปวดตามเนื้อตามตัว “ฮือ~ เด็กบ้าทำฉันปวดตัวไปหมดเลย” อลิสบ่นพึมพำอย่างไม่จริงจังนักก่อนจะหลุบมองนาฬิกาบนผนังห้องก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว เมื่อคืนเธอจำไม่ได้ว่าภาพตัดไปตอนไหน ที่จำได้ดีคือทุกการกระทำของเอเดนยังตราตรึงไม่หายคนอะไรจะหื่นขนาดนี้ ไม่รู้ไปอดอยากมาจากไหน“แล้วนี่หายไปไหนนะ หรือว่าไปเรียนแล้ว” อลิสเอ่ยแต่พอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเผลอถามหาเอเดนจึงสะบัดหน้าไปมาราวกับเรียกสติ ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีก “จะไปไหนแล้วเราจะไปสนเขาทำไมเนี่ยอลิส เด็กหื่นกามแบบนั้นไม่อยู่สิดี”แกร๊ก~อลิสมองไปตามเสียงที่ดังมากระทบใหูเล็ก ก็พบว่าคนที่เธอพูดถึงเมื่อครู่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำพอดีราวกับว่ามีคนปล่อยคิว เธอเผลอมองรูปร่างเพอร์เฟกซ์ของเอเดนอยู่นานนับนาที เพราะร่างกายของเขาตอนนี้มีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอวสอบอย่างหมิ่นเหม่“มองจนน้ำลายยืดหมดแล้ว ให้ผมแตกใส่สักน้ำไหมจะได้สดชื่น” เอเดนเอ่ยพร้อมกับเดินเข้ามาหาอลิสด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์“นี่...หยุดเลยนะ ฉั
บทที่ 14 คืนนี้อีกยาวไกล...เอเดนค่อยๆวางคนตัวเล็กลงบนเตียงขนาดคิงไซส์อย่างแผ่วเบา ในจังหวะนั้นมือเล็กก็เลื่อนขึ้นมาโอบกอดลำคอหนาของคนตัวสูงโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัวทำให้เอเดนเซถลาเข้าไปใกล้มากกว่าเดิมจนใบหน้าของทั้งสองคนแทบจะจรดกัน“ว่าไงคะคนหล่อ” อลิสเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยใบหน้าหยาดเยิ้ม เพราะเธอยังไม่ได้คำตอบในสิ่งที่เธอถามเอเดนก่อนหน้านี้พอเมาแล้ว ท่าทางเธอเหมือนลูกแมวเชื่องๆตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ แถมหน้าตายังยั่วเซ็กซ์อีก อยากให้เมาทุกวันเลย เพราะเขาชอบ...“เอา...อื้อ” อลิสเอ่ยถามเอเดนอีกครั้งทว่ายังไม่ทันได้พูดจบคนตัวสูงก็ประกบจูบลงบนริมฝีปากอวบอิ่มซะก่อน เธอจูบตอบเขาตามอารมณ์ความต้องการที่ถูกปลุกด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่มจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบตามมา มือหนาก็เริ่มลูบไล้ไปตามเรียวขาสวยจนมาหยุดอยู่ที่ความเป็นสาว เขาใช้นิ้วเรียวยาวกรีดไปตามรอยแยกของกลีบกุหลาบผ่านกางเกงชั้นในจนน้ำหวานไหลเยิ้มซึมออกมาเปียกตามกางเกงชั้นในไปหมด“เธอเยิ้มแล้วอลิส” เอเดนถอนจูบพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เพราะตอนนี้ความอดทนของเขาได้ขาดสะบั้นแล้ว จึงรีบจัดการถอดเสื้อผ้าของคนใต้ร่างและตัวเองออ
บทที่ 13 ไม่ใช่คนดีคอนโดxxxภายในรถที่เงียบสงัดตลอดทางตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าจนถึงคอนโดxxxอลิสได้แต่ทอดสายตาผ่านกระจกรถเหม่อมองสายฝนที่กระหน่ำตกลงมาอย่างหนักราวกับว่ากำลังแสดงเป็นนางเอกเอ็มวีเพลงอกหักอยู่อย่างไรอย่างนั้นวันหนึ่งผู้หญิงมีกี่อารมณ์ เข้าใจยากจริงๆ“ขอบคุณนะที่มาส่ง และขอบคุณที่วันนี้นายเป็นสารถีจำเป็นให้ฉันทั้งวันเลย ถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกันอีก” อลิสเอ่ยเมื่อรถจอดนิ่งสนิทแล้วพร้อมกับก้าวขาลงจากรถ ทว่าก็ต้องชะงัก เมื่อนึกได้ว่าข้างนอกฝนยังไม่หยุดตกและดูเหมือนยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดง่ายๆ จึงเอี้ยวหน้าหันไปมองคนข้างกายทำให้ทั้งคู่สบตากันพอดีราวกับว่าใจกำลังตรงกัน“จะใจร้ายให้ผมขับรถกลับเพนต์เฮาส์ทั้งๆที่ฝนตกหนักขนาดนี้เหรอ?” เอเดนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ“ชิ ฉันไม่เคยใจร้ายย่ะ เห็นแก่ความดีของนายวันนี้ฉันจะให้ได้ขึ้นไปพักที่ห้องฉันก่อน ฝนหยุดตกค่อยกลับบ้านแล้วกัน”“ขอบคุณสำหรับน้ำใจครับ” เอเดนเอ่ยด้วยท่าทางกวนประสาท ก่อนจะก้าวขาลงจากรถเดินไปที่ลิฟต์อย่างอารมณ์ดี อลิสเดินตามมาติดๆด้วยใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์เด็กกวนประสาท ตอนเด็กแม่เอาอะไรให้กินถึงได้กวนประสาทขนาดนี้เนี่ยแกร๊ก~
บทที่ 12 นายเป็นใคร?บรรยากาศภายในรถไฮเปอร์คาร์สุดหรูที่เงียบสงัด ในสมองคนตัวเล็กเต็มไปด้วยคำถามมากมาย ที่เธอเอาแต่นั่งอยู่เงียบๆไม่พูดไม่จา ไม่ใช่เพราะกำลังโกรธ แต่เพราะกำลังลิสต์คำถามในหัวเป็นข้อๆที่จะถามคนข้างๆยังไม่เสร็จต่างหากวันนั้นขับลัมโบร์กินีวันนี้ขับไฮเปอร์คาร์ นายนี่ไม่ใช่เล่นๆล่ะมาค่ะ คนสวยพร้อมยิงขีปนาวุธรัวๆแล้ว“บอกมาว่านายเป็นใคร? มาจากไหน? ครอบครัวทำงานอะไร? และที่คิดจะหมั้นกับฉันต้องการอะไรกันแน่?” พอได้จังหวะอลิสก็ยิงคำถามรัวๆด้วยน้ำเสียงคาดคั้น ทำเอาเอเดนถึงกับถอนหายใจออกมาหนักๆ เพราะโดยปกติเขาจะไม่มาสาธยายประวัติตัวเองให้ใครรู้ วงการมาเฟียไม่มีใครมานั่งบอกประวัติกันหรอก แต่กับเธอถ้าไม่บอกคงไม่จบ“พ่อชื่อเอมิล แม่ชื่อมาเรีย ครอบครัวทำธุรกิจส่วนตัว ส่วนเรื่องหมั้นไม่ได้คิดอะไรซับซ้อน แค่รู้สึกอยากหมั้นด้วยแค่นั้น พอใจไหมครับ คุณ-อ-ลิส” เอเดนตอบคำถามด้วยท่าทางเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความกวนประสาท“...”“แล้ววันนั้นนายไปทำงานที่บาร์โฮสทำไม?”“ทำทีมแพ้บอลเลยต้องทำตามข้อตกลงปัญญาอ่อนของเพื่อน ด้วยการไปเป็นเด็กโฮสต์หนึ่งคืน”“...”“ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่าที่นายพูดมาทั้งหมด






ความคิดเห็น