การแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรัก เมื่อครบกำหนดเวลาก็แยกย้าย แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากที่จรดปลายปากกาเซ็นชื่อลงในใบหย่า เธอจะได้ของแถมติดท้องมาถึงสองชีวิต ++++++++++++++++++++ อัคนีพารถเข้ามาจอดที่หน้าสำนักงานเขต อรอมลยังนั่งร้องไห้มาตลอดทาง สิ่งที่เกิดขึ้นมันเลวร้ายที่สุด เกินกว่าที่เธอจะรับไหว อัคนีร้ายกาจและเย็นชาเกินไปแล้ว เขายังมีหัวใจอยู่ไหม “ลงมา” เสียงเรียกของชายหนุ่ม ปลุกหญิงสาวให้ออกจากภวังค์ความคิด ตากลมโตมองหน้าเขา ก่อนจะมองเลยไปยังสำนักงานเขตที่อยู่ด้านหลังเขา “มาที่นี่ทำไม” ถามพร้อมกับปาดน้ำตาออกจากแก้ม มองหน้าเขาด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ “อยากจดทะเบียนสมรสไม่ใช่เหรอ” อัคนีถามพร้อมกับมองหน้าเธอ คำตอบของเขาทำให้หญิงสาวยิ้มเย้ยหยันให้ตัวเอง แบบนี้เขาเรียกว่าตบหัวแล้วลูบหลังใช่ไหม ก่อนหน้านี้เขาปฏิเสธเธอไปแล้ว และเธอก็ไม่ต้องการมันอีก เธอไม่อยากเอาชนะใครอีกแล้ว “ไม่จำเป็น ฉันไม่อยากจด จะเอาฉันไปไว้ที่ไหนก็เชิญ” ตาแดงก่ำมองหน้าชายหนุ่ม ก่อนจะหลับตาลงเมื่อน้ำตามันพากันไหลลงมาอีกครั้ง
View Moreงานเลี้ยงโรงแรมหรูระดับห้าดาว ทันทีที่หญิงสาวรูปร่าง
สูงโปร่ง เกล้าผมสูงในชุดราตรีสีชมพูอมม่วงปรากฏตัว ก็ทำให้กลุ่มคนที่กำลังสนทนากันอย่างออกรสต้องหยุดชะงัก เมื่อใบหน้าสวยรูปไข่ฉีกยิ้มทักทายคนรู้จัก อวดฟันขาวสะอาดดุจไข่มุกเนื้อดีนั่น ทำให้ผู้พบเห็นต่างก็หลงเสน่ห์ไปตามๆกัน
“ไม่ยักรู้ว่าหนูเอยมางานนี้ด้วย” คุณพิมพ์แขเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้น เมื่อหันไปเห็นร่างระหงที่กำลังก้าวเข้ามาในงาน น้ำเสียงกับท่าทางยินดีจนออกนอกหน้านั่น ก็ทำให้ ‘อัคนี’ ต้องหันไปมองตามสายตาของนาง เพราะอยากเห็นหน้าคนที่ทำให้
วงสนทนาหยุดลงอย่างกะทันหัน ตาคู่คมจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าสวยหวานที่กำลังยิ้มให้คนรู้จัก จึงอดสงสัยไม่ได้ว่า ‘หนูเอย’ ของคุณพิมพ์แขเป็นใครกัน
“เออ...เธอเป็นใครเหรอครับ”
“คุณอัคคงไม่เคยเห็นหน้าเธอสินะ นี่แหละค่ะทายาทของอมรพันธ์กรุ๊ป เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์อันดับหนึ่งของประเทศไงคะ” คำตอบของคุณพิมพ์แขทำให้อัคนีสงสัยไปกันใหญ่ เขาก็คุ้นเคยกับอมรพันธ์กรุ๊ปเป็นอย่างดีแต่ทำไมถึงไม่รู้จักหรือเคยเห็นหน้าเธอ
“ลูกสาวคุณอมรเหรอครับ”
“ค่ะลูกสาวคนโต”
“ออ...ครับ” อัคนีรับคำแบบงงๆ แต่ก็ไม่แปลกใจอะไรขึ้นชื่อว่าอมรพันธ์กรุ๊ป ใครก็อยากรู้จักหรือผูกมิตรด้วยกันทั้งนั้น แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของอมรพันธ์นั้น มาจากฝีมือของใคร เรื่องนี้เขาไม่เคยแพร่งพรายให้ใครรู้ ว่าแท้จริงแล้วอมรพันธ์ก็เหลือแต่เปลือก ที่ยังอยู่มาได้ทุกวันนี้ก็เพราะชื่อเสียงที่สะสมมา บวกกับความสามารถในการบริหารงานของเขา คุณอมรจึงยังเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในสายตาของคนอื่น แต่แท้จริงแล้วเขาต่างหากที่เป็นผู้มีสิทธิ์ขาดในนั้นแต่เพียงผู้เดียวมานานแล้ว
“สนใจเหรอคะ” คำหยอกเย้าของสตรีสูงวัยทำให้อัคนียิ้มมุมปาก เมื่อถูกจับได้ว่ามองเธออยู่
“เปล่าครับแค่สงสัย เธอเป็นลูกสาวคุณอมรแต่ผมกลับไม่เคยเห็น ผมคิดว่าคุณอมรมีลูกสาวคนเดียวซะอีก”
“หนูอรอุมาเป็นลูกภรรยาใหม่ค่ะ คุณอัคไม่ได้อยู่เมืองไทย เลยไม่ทราบสิคะว่าคุณอมรมีภรรยาสองคนแม่หนูเอยเป็นภรรยาคนแรก หนูเอยเธอไม่ได้อยู่กับคุณอมรหรอกค่ะ ตั้งแต่ที่คุณแม่เธอเสียเธอก็ย้ายไปอยู่กับคุณพรรณีย์ พี่สาวคุณอมร
น่ะค่ะ คุณอัคเลยไม่เคยเห็นเธอ”
“ออ...เป็นแบบนี้นี่เอง” อัคนีรับคำก่อนจะยกแก้วเหล้าในมือขึ้นจิบเพื่อกลบเกลื่อน ในวงการไฮโซใครๆต่างก็รู้ว่าคุณพิมพ์แขมีอาชีพเป็นแม่สื่อ นางมักจะจับคู่ให้คนที่ชอบพอกัน มีหรือที่นางจะดูท่าทางของเขาไม่ออก
“ถ้าคุณอัคไม่สนใจพี่ขอนะคะ ลูกชายท่านประมุขยังโสด ท่านฝากให้พี่ช่วยมองหาคนที่เหมาะสมมาเป็นสะใภ้ คุณอัคว่าหนูเอยเป็นไงคะ”
“ออ...เรื่องนี้ผมไม่มีความเห็นหรอกครับ เชิญคุณพิมพ์เถอะครับเธอมานั่นแล้ว” ปฏิเสธคำถามของคุณพิมพ์แขอย่างสุภาพ พร้อมกับผายมือให้นางอย่างมีมารยาท เมื่อหนูเอยของนางกำลังผ่านมาทางนี้พอดี ตาคู่คมลอบมองดวงหน้าหวาน ยิ่งใกล้ก็ยิ่งเห็นชัดว่าเธอสวยมากจริงๆ แต่จะสวยเพราะอะไรนั้นก็คงไม่ต้องเดา คลินิกศัลยกรรมโผล่ขึ้นเป็นดอกเห็ด แค่มีเงินก็สวยได้ตามต้องการ
“หนูเอยจำป้าได้ไหมคะ” คุณพิมพ์แขยิ้มให้ชายหนุ่ม ก่อนจะหันไปทักทายคนที่เดินผ่านมา เท้าบางหยุดชะงักเมื่อถูกเรียกเอาไว้ ใบหน้าสวยพยักให้คนที่ยืนฝั่งตรงข้ามส่งสัญญาณให้ฝ่ายนั้นรอก่อน เพราะต้องหยุดเดินเมื่อถูกขวางหน้าเอาไว้
“จำได้ค่ะ คุณป้าสบายดีนะคะ” ทักทายอย่างเป็นกันเอง ใครจะจำไม่ได้ก็เมื่อสองวันก่อนคุณพิมพ์แขเพิ่งไปทานข้าวกลางวันที่บ้านป้าของเธอ
“ป้าขอรบกวนเวลาหนูเอยสักครู่นะคะ” เอ่ยอย่างเกรงใจ เมื่ออยากจะคุยเรื่องนัดครั้งต่อไป ครั้งหน้านางจะพาคุณตุลลา
ลูกชายของคุณประมุขไปด้วย จะได้ไม่พลาดโอกาส
“ได้ค่ะ คุณป้ามีอะไรให้เอยรับใช้คะ”
“อุ้ยต๊าย! พูดอะไรแบบนั้นคะ วันก่อนคุณพี่ชวนป้าไปทานข้าวกลางวันด้วยกันน่ะค่ะ หนูเอยว่างวันไหนคะ” อัคนีแทบจะหลุดหัวเราะออกมา เมื่อคุณพิมพ์แขแสดงได้ไม่เนียน จะไปทานข้าวตามคำเชิญของป้า แต่กลับมาถามหลานว่าว่างวันไหน เด็กสามขวบก็คิดเป็น
“ช่วงนี้ร้านยังไม่เสร็จ เอยอยู่บ้านทุกวันค่ะ คุณป้าว่างวันไหนก็เชิญค่ะ เอยขอตัวก่อนนะคะพอดีเอยเจอเพื่อนค่ะ” อรอมลเอ่ยขอตัว เมื่อรู้สึกอึดอัดกับสายตาของคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง
คุณพิมพ์แข เธอแน่ใจว่าไม่เคยรู้จักกับเขามาก่อน แต่ทำไมเขาถึงใช้สายตาแบบนั้นมองเธอ เสียมารยาทที่สุด
“ออเดี๋ยวค่ะ หนูเอยคะนี่คุณอัคนีค่ะ คุณอัคคะนี่หนูเอยอรอมล คุณอัคนีเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้ไม่นาน หนูเอยคงไม่คุ้นหน้า รู้จักกันไว้สิคะเผื่อมีเรื่องต้องช่วยเหลือกัน คุณอัคเป็นหุ้นส่วนกับคุณพ่อของหนูเอยค่ะ” สิ้นเสียงแนะนำตาสองคู่ก็
สบกัน อัคนีแน่ใจว่าสายตาที่เธอมองมาที่เขานั้น ไม่ใช่สายตาของคนที่เป็นมิตรอย่างแน่นอน เกิดอะไรขึ้นทำไมเธอถึงมองเขา
แบบนี้
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” อัคนีเป็นฝ่ายเอ่ยทักทายก่อน พร้อมกับยื่นมือมาตรงหน้า อรอมลมองมือของเขาเพียงนิด ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ แล้วเอ่ยทักทายตามมารยาท แต่น้ำเสียงที่ใช้กลับเย็นชาจนคนฟังจับได้ว่า เธอไม่อยากรู้จักกับเขาเลยสักนิด
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
“เช่นกันครับ” ชายหนุ่มชักมือกลับ เมื่อเธอปฏิบัติสิ่งที่ตรงข้ามกัน
“เอยขอตัวก่อนนะคะคุณป้า” ทันทีที่กล่าวกับคุณ
พิมพ์แขจบ ร่างระหงก็เดินจากไปแม้แต่หางตาก็ไม่มองอัคนี
อีกเลย
“คุณอัคพูดเองนะคะว่าไม่สนใจเธอ พี่ก็เลยแนะนำให้รู้จักกัน” คำพูดของสตรีสูงวัยทำให้อัคนีต้องขมวดคิ้ว
“ยังไงครับ”
“เธอไม่ค่อยถูกกับคุณพ่อสักเท่าไหร่ พอรู้ว่าคุณอัคเป็นหุ้นส่วนกับคุณอมร ก็อย่างที่เห็นค่ะเธอก็จะไม่สนใจคุณอัคอีกเลย ทีนี้ต่อให้คุณอัคกลับคำเปลี่ยนใจมาจีบเธอ เธอก็จะไม่มองคุณอัคค่ะ คุณอัคพูดเองนะคะว่าไม่สน พี่ก็แค่ป้องกันเอาไว้ คนนี้พี่จริงจังค่ะ ฮ่าๆๆๆ” พูดจบคุณพิมพ์แขก็หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ผิดกับคู่สนทนาที่ยืนขบกรามนิ่ง ในหัวขบคิดอะไรบางอย่าง คุณพิมพ์แขรู้จักเขาน้อยเกินไปจริงๆ สมัยนี้การทำให้ใครอีกคนตกมาเป็นของเรา มันง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก
ไอ้วิธีของคุณพิมพ์แขน่ะโบราณคร่ำครึ มีไว้ใช้กับพวกมากพิธี
แต่สำหรับเขาถ้าพอใจก็แค่ลากขึ้นเตียง
“คุณพิมพ์ฉลาดแบบนี้นี่เอง ท่านประมุขถึงไว้วางใจ”
“พี่เห็นว่าหนุ่มสาวเขาเหมาะสมกันค่ะ”
“ออ...ขอให้สำเร็จนะครับ” เหล้าในมือถูกสาดลงคอรวดเดียวหมดแก้ว เมื่อกล่าวคำอวยพรจบ ตอนแรกอัคนีก็ไม่ได้สนใจอะไรเธอมากมาย เพียงแค่รู้สึกถูกใจตามประสาผู้ชาย แต่พอเห็นสายตาเกลียดชังในดวงตาคู่นั้น ก็ทำให้เขาอยากเอาชนะ หนูเอยของคุณพิมพ์แขอายุเท่าไหร่กัน ทำไมถึงแยกแยะไม่เป็น เขาเป็นหุ้นส่วนกับคนที่เธอเกลียด แล้วเธอก็พาลมาเกลียดเขาไปด้วย โตแล้วต้องแยกแยะบ้างว่าอะไรควรไม่ควร จะมาเหมารวมแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน เหตุผลข้อนี้นี่เองที่ทำให้เขากลับมาสนใจเธอ ถ้าไม่มีใครสอนเรื่องมารยาท เขานี่แหละจะเป็นคนสอนเธอเอง คิดแล้วก็โมโหที่เธอปฏิเสธการทักทายแบบสากลของเขา เขาไม่กระชากเธอมาจูบต่อหน้าคนในงานก็บุญแล้ว ผู้หญิงคนนั้นรู้จักเขาน้อยไปจริงๆ หนูเอย อรอมล
ทุกคนที่อยู่ในงานเลี้ยงหันมามองเป็นตาเดียว เมื่ออัคนีพาอรอมลเข้ามาในงาน หญิงสาวรู้สึกประหม่า เมื่อถูกจับตามอง ดีที่ได้มือใหญ่กุมมือเธอเอาไว้ จึงรู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลายมากขึ้น เธอเคยไปงานแบบนี้หลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะทำให้รู้สึกอึดอัดได้ขนาดนี้มาก่อน เพราะครั้งนี้เธอมาในฐานะภรรยาของอัคนี "คุณอัคนี่ร้ายไม่เบานะครับ ทำสาวๆเกือบทั้งประเทศอกหัก แอบซุกภรรยาไว้ก็ไม่บอก นี่ถ้ายายแพรผมรู้คงเสียใจน่าดู"คุณประสานหยอกล้อ เมื่ออัคนีพาอรอมลมาแนะนำให้รู้จักในฐานะภรรยา ชายสูงวัยมองหนุ่มรุ่นน้องด้วยสายตาที่บ่งบอกความเสียดายอย่างปิดไว้ไม่มิด อรอมลไหว้ผู้ใหญ่ด้วยท่าทางนอบน้อมสวยงาม ทำให้ได้รับคำชมและเป็นที่เอ็นดูของคนที่พบเห็น หลายครั้งที่อัคนีหัวเราะออกมา เมื่อถูกแซวเรื่องอายุอรอมลก็พลอยเขินไปกับเขาด้วย เมื่อแขกในงานเปรียบเขาว่าเป็นโคแก่ อัคนีอายุเท่าไหร่กันนะ เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยเพราะเขายังดูหนุ่มแน่นและหล่อเหลา จนหาตัวจับยาก "หิวไหม" หันมากระซิบถาม เมื่อเขาพาเธอมายืนตรงนี้นานเกินไป คนเหล่านี้เป็นนักธุรกิจ เมื่อคุยแล้วก็คุยยาว และเรื่องที่คุยเธอก็ฟังไม่รู้เรื่อง เขา
"อย่าช้านะครับ จิตใจผู้หญิงลึกยิ่งกว่าน้ำในมหาสมุทรอีกนะครับ เราไม่มีทางรู้หรอกว่าเธอคิดอะไรกับเรา" "อย่าเอาเมียคุณมาเป็นบรรทัดฐาน ผู้หญิงคงไม่ร้ายเหมือนเมียคุณทุกคนหรอก ไปเตรียมเอกสารเถอะ บางที่ผมอาจต้องยอมแลก" "รักเขาใช่ไหมครับ" "อย่าสู่รู้" พูดจบร่างสูงก็เดินออกไป ทิ้งให้ภาณุยืนยิ้มอยู่คนเดียว ผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลกับหัวใจของอัคนีจริงๆ เอกสารที่อัคนีพูดถึงคงไม่พ้นอมรพันธ์ "ขอให้ทันนะครับคุณอัค" ภาณุพูดเมื่อเห็นคุณอมรเดินเข้ามาในโรงแรมพร้อมท่านประกิจ ถ้าอรอมลรู้ว่าถูกอัคนีหลอกคงจะเสียใจน่าดู "คุณอัค" เสียงงัวเงียของคนที่ถูกกวน ทำให้อัคนียิ้มเอ็นดู ทันทีที่เห็นหน้าเธอความเหนื่อยล้า ก็หายเป็นปลิดทิ้ง หลังจากที่คุยกับภาณุ อัคนีก็ได้คำตอบว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาก็คือ คนที่นอนอยู่บนเตียงนี่ต่างหาก คุณอมรจะเอาอมรพันธ์ไปทำอะไรก็เรื่องของเขา เพราะอรอมลมีค่ามากกว่าสิ่งของใด เขารักเธอนี่คือสิ่งที่อัคนีรับรู้ในตอนนี้ "คุณอัคขาาา..." คนหลับขยับเข้าหาทันทีที่เขาล้มตัวลงนอนบนเตียง แขนเรียวกอดเอวเขาเอาไว้ อรอมลละเมอหรือรู้ส
"ขอตรงนี้ยกหนึ่งนะครับ ผมอยากให้โลกรู้ว่าเอยมีความสุขแค่ไหน ตอนที่ผมอยู่ในตัวคุณ" ปากร้อนประกบลงมาบนปากอิ่ม เมื่อกายแกร่งค่อยๆ ชำแรกเข้ามาจากทางด้านหลังมือแกร่งยกขาเรียวขึ้นหนึ่งข้าง ดอกไม้งามแบะอ้าเปิดทางให้เขาแทรกลำรักเข้ามาได้สะดวกขึ้น แม้จะยังรู้สึกเจ็บขัดและคับตึงแต่น้ำรักที่ไหลลงมาก็มีปริมาณมากพอ ที่ช่วยเบิกทางให้มันเข้าออกได้ง่ายขึ้น อรอมลกัดปากใบหน้าด้านข้างแนบไปกับกระจก ยามเมื่อคนข้างหลังอัดกระแทกลำรักเข้ามาจนสุดโคน "โอว...เอยเสียวสุดๆ เลยครับ" อัคนีครางยาวเมื่อพาตัวต้นเข้ามาจนสุดทาง ภายในอ่อนนุ่มบีบรัดจนเขาแทบจะทนไม่ไหว สะโพกสอบขยับเข้าออกตอกลึก อัดกระแทกใส่ร่องรักเมื่อความเสียวเข้าเล่นงาน เธอสดใหม่และฟิตกระชับ ให้กินทั้งวันก็ไม่มีวันเบื่อ ไม่นานหญิงสาวก็กระตุกเกร็ง เมื่อเขาส่งเธอไปถึงฝั่งฝัน อัคนีอยากจะเล่นรักกับเธอให้หนำใจ แต่เมื่อนึกถึงงานที่รออยู่ก็ต้องตัดใจ ลงไปเคลียร์ให้มันจบๆ จะได้กลับมาหาเธอไวๆ นาทีนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าอรอมลอีกแล้ว เขาอยากอยู่กับเธอมากที่สุด "อ่า...เอยครับผมจะเสร็จแล้ว" เปล่งเสียงครางเมื่อเดินทางไปถึงฝั่งฝัน ร่างสูงกระตุกเ
อรอมลมองกระเป๋าผ้าหลายใบที่ถูกขนขึ้นรถ หลังจากที่อัคนีมีคำสั่งให้เธอเตรียมตัว เด็กรับใช้ก็ขึ้นมาจัดของให้อย่างรู้งาน ป้าละออมาทำแผลให้ นางดีใจที่เห็นมันแห้งและเริ่มหายสนิท "เดินทางปลอดภัย เที่ยวให้สนุกนะคะคุณเอย" ป้าละอออวยพรเมื่อมาส่งเธอขึ้นรถ อรอมลทำแค่เพียงยิ้มให้นางเพราะไม่รู้ว่าอัคนีพาเธอไปด้วยทำไม ถึงแม้ป้าละออจะบอกว่าเขาพาเธอไปฮันนีมูน แต่อรอมลคิดว่าไม่ใช่ บางทีเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับพ่อเธอและอมรพันธ์ก็ได้ ผู้ชายที่เวลาเป็นเงินเป็นทองอย่างเขา คงไม่มาเสียเวลากับเรื่องพวกนี้หรอก หญิงสาวนั่งคู่กับเขาที่ห้องผู้โดยสารด้านหลัง ระหว่างทางอัคนีอ่านอะไรบางอย่างในมือถือ ก่อนจะเก็บมันลงกระเป๋า เมื่อเห็นคนที่นั่งข้างๆโงนเงนไปมา มือแกร่งจับคนตัวเล็กนอนลงบนตักเมื่อเธอทำท่าจะนั่งหลับ "คุณ..." อรอมลตกใจเมื่อเขาโน้มตัวเธอลงมา "ง่วงก็นอน" เสียงนุ่มทุ้มบอกกับหญิงสาว "เราจะไปไหนกันคะ" ถามเมื่ออยากรู้จุดหมายปลายทางของตัวเองสักนิด "จะพาไปเปลี่ยนบรรยากาศน่ะ" คำตอบที่มาพร้อมกับลูกตาวาวๆทำให้อรอมลหน้าร้อนผ่าว "นอนเถอะ
"โธ่โว้ย!" คิมหันต์ฟาดผ่ามือลงกับกระโปรงรถ เมื่อไม่ได้ดังใจสักอย่าง สิ่งที่ริสาพูดมาคืออะไร อรอมลเสียสละตัวเองเพื่อเขาและครอบครัว เธอยอมไปอยู่กับอัคนีเพื่อแลกกับอนาคตเขาที่โรงพยาบาล เพื่อให้เขาได้ทำงานที่นั่นอย่างนั้นหรือ "ทำไมโง่อย่างนี้นะเอย ทำไมไม่พูดกับผมทำไม! ทำไม!"เท้าหนาเตะลงที่ล้อรถรัวๆ เมื่ออยากทำร้ายใครสักคน "อย่าให้กูเจอนะมึง ไอ้อัคนี!!!" คำรามลั่นก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไปด้วยความเร็วสูง ถึงแม้จะไม่รู้ว่าจะไปตามหาอรอมลที่ไหน แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย.............................................................................................. คนที่เป็นสาเหตุทำให้คิมหันต์ว้าวุ่นใจ กำลังหลับสนิทอยู่ในอ้อมแขนของอัคนี แขนเล็กพาดอยู่ที่อกแกร่ง ขาเรียวสวยก่ายอยู่กับช่วงขาของชายหนุ่ม ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมาหอมแก้มเนียนใสฟอดใหญ่ เมื่อตื่นมาเห็นเธอขดอยู่ในอก มือแกร่งเก็บผมที่ร่วงลงมาปิดหน้าออกไปให้พ้นทาง แล้วหอมซ้ำลงมาอีกครั้ง คนหลับขยับตัวเมื่อรู้สึกจักจี้ยามเมื่อไรหนวดสัมผัสกับแก้มเนียน "อื้อ..."ซุกหน้าเข้าหาอกกว้างเมื่อถูกกวน อัคนีอมยิ้ม
เพียะ! เพียะ!ฝ่ามือหนักๆฟาดลงบนใบหน้าหมอหนุ่มถึงสองที่ซ้อน เมื่อริสาตั้งใจเอาเลือดปากเขาออก หลังจากไปส่งอรอุมาที่ผับตามคำขอ ริสาก็กลับมาเล่นงานเพื่อนทันที หมอหนุ่มยืนนิ่งไม่โต้ตอบอะไรเพราะรู้ว่าตัวเองผิด "ทำแบบนี้ได้ยังไงวะคิม ทำไมไม่นึกถึงเอยบ้าง" ริสาว่าให้เมื่อโมโหจนเก็บอาการไม่อยู่ อันที่จริงเธออยากฆ่าเขาให้ตายเลยด้วยซ้ำ "ฟังผมอธิบายก่อนได้ไหม" คิมหันต์ถอนใจเมื่อถูกริสาด่าเอาๆ เธอกำลังเข้าใจเขาผิด "อธิบายอะไร ก็เห็นอยู่ว่าพาผู้หญิงมานอนที่นี่ แถมยังเป็นน้องของแฟนอีกต่างหาก ใจแกทำด้วยอะไรวะหมอ" "ก็บอกว่าไม่มีอะไรไง แค่เรื่องเข้าใจผิดผมพายายนั่นมาจริง แต่ไม่ได้นอนด้วยกัน ไม่ได้เอากันเข้าใจไหววะ" "ใครมันจะไปเชื่อ" "ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ เฮ็งซวย!" พูดจบก็ลุกขึ้นแล้วหันหลังเดินจากไป "หมอ! แกทำอะไรคิดถึงเอยมันบ้างสิ ที่มันทำแบบนี้ก็เพื่อแกนะ!" เท้าหนาหยุดชะงัก เมื่อริสาหลุดคำพูดนี้ออกมาคิมหันต์หันกลับมาจ้องหน้าริสาเขม็ง "พูดอะไรนะ เอยทำอะไรเพื่อใคร" กรามแกร่งขบเข้าหากัน มือทั้งสองข้างก็กำเอาไว้ เมื่
Comments