"ไม่อยากให้ถึงพรุ่งนี้เลยอะ"เสียงเล็กงอแงคล้ายกับเด็กของต้นอ้อดังขึ้นในระหว่างที่ทั้งสี่กำลังนั่งทานอาหารเย็นท่ามกลางบรรยากาศอันแสนร่มรื่นของบ้านไม้หลังใหญ่
ใบหน้าสวยของว่าที่เจ้าสาวเริ่มหงิกงอเมื่อวันพรุ่งนี้เธอต้องเดินทางกลับเพื่อเตรียมตัวไปจัดงานแต่งงานซึ่งจะถูกจัดขึ้นภายในอีกไม่ช้า "ฉันยังไม่หายคิดถึงนารีเลย" "ไม่งอแงสิครับที่รัก" "ก็ต้นอ้อยังอยากอยู่เที่ยว ยังไม่หายคิดถึงเพื่อนเลยนี่"นารีส่ายหน้าไปมาเมื่อเพื่อนสาวเกิดอาการงอแงเหมือนเด็กน้อยไม่ได้ดั่งใจ "เอาเป็นว่าถ้าฉันจัดการธุระทางนี้เสร็จจะรีบขึ้นไปหาแกที่กรุงเทพดีไหม" "แต่" "ไม่เอาสิต้นอ้อ เกรงใจคุณอัคคีกับคุณเมฆาเขาบ้าง เขาคงต้องรีบกลับไปทำงาน"ต้นอ้อชะงักว่าที่เจ้าสาวเม้มริมฝีปากแน่น ต้นอ้อพยักหน้าจำยอมแม้ว่าอันที่จริงแล้วเธออยากจะอยู่เที่ยวที่นี่ต่ออีกสักสองสามวัน "ไว้ฉันจะรีบขึ้นไปหาแกที่กรุงเทพนะ" "โอเค ว่าแต่แกเถอะจะไปยังไง" "แกไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ฉันหาทางไปเองได้" "นั่งเครื่องเอาไหม เดี๋ยวฉันออกค่าตั๋วให้" "มะ..." "เดี๋ยวพี่ให้คนมารับคุณนารีเอง"น้ำเสียงเรียบนิ่งของเมฆาดังขึ้นทำให้นารีซึ่งกำลังอ้าปากเตรียมปฏิเสธเป็นอันต้องชะงักปิดปากนิ่ง เธอหันไปมองหน้าชายหนุ่มรวมไปถึงต้นอ้อและอัคคี "นารีเกรงใจ เอาไว้นารี" "เอาตามนั้นครับ"ริมฝีปากเรียวของนารีเม้มเข้าหากันแน่น สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่สามารถคัดค้านอะไรได้ ส่วนทางฝ่ายต้นอ้อพลางลอบถอนหายใจ เธอคงไม่ต้องเป็นห่วงเพื่อนรักถ้าหากเมฆาส่งคนมารับนารีถึงที่นี่ ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้นารีซึ่งกำลังยืนล้างจานหมุนตัวหันกลับไปมอง ดวงตากลมโตปะทะเข้ากับร่างสูงใหญ่ของเมฆาซึ่งเขากำลังยืนมองมาที่เธอ "มะ...มีอะไรหรือเปล่าคะ" "คุณโกรธผมหรือเปล่า" "คะ?" "คุณโกรธผมหรือเปล่า เรื่องที่ผมจะส่งคนมารับคุณที่นี่"ความสงสัยในหัวของนารีถูกเฉลย เธอหมุนตัวหันกลับมาเปิดก๊อกน้ำเพื่อล้างมือแล้วหมุนตัวหันกลับไปมองหน้าชายหนุ่มอีกครั้ง "นารีไม่โกรธคุณหรอกค่ะ" "..." "อันที่จริงแล้วให้นารีเดินทางไปเองก็ได้ ยัยต้นอ้อให้ที่อยู่กับนารีเอาไว้แล้ว" "แต่ถ้าหากคุณเมฆาจะส่งคนมารับนารีก็ไม่กล้าขัดน้ำใจ ยังไงก็ต้องขอบคุณนะคะ"เมฆาพยักหน้า เขารู้สึกโล่งใจไปเปราะนึงเพราะคิดว่าเธอคงจะโกรธที่เขาตัดสินใจโดยไม่ถามความรู้สึกของเธอสักคำ "ว่าแต่พรุ่งนี้จะเดินทางกันกี่โมงเหรอคะ" "คงจะเป็นช่วงเช้านั่นแหละครับ ไอ้อัคคีต้องรีบกลับไปเคลียร์งาน เพราะหลังจากเสร็จงานมันต้องพาเมียไปฮันนีมูน" "ดีจังเลยนะคะที่ต้นอ้อเพื่อนของนารีได้แต่งงานกับคุณอัคคี"นารีรู้สึกยินดีแทนเพื่อนรัก เพราะเท่าที่เธอได้รู้จักอัคคีถือว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่งซึ่งดูจะรักเพื่อนของเธอเอามาก ๆ "แล้วคุณนารีล่ะครับ" "คะ" "คุณนารีไม่คิดจะลองคบหาดูใจใครสักคนหรือยังไงครับ"สองเท้าของเมฆาก้าวมาข้างหน้า เพียงแค่อึดใจเดียวร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มก้าวเข้ามาประชิดร่างของหญิงสาว ลมหายใจของเขาตกกระทบหน้าเรียวสวยทำเอานารีไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมอง เธอรู้สึกได้ถึงรังสีบางอย่างที่แผ่กระจายปกคลุมจนทำให้เธอไม่กล้าจะขยับตัว "คะ...คุณเมฆายังไม่ง่วงเหรอคะ" "ยังครับ ว่าแต่คุณนารีง่วงแล้วเหรอครับ"ฝ่ามือใหญ่วางบนไล่บางของนารีอย่างถือวิสาสะ เพียงแค่ผิวเนื้อเนียนนุ่มของหม้ายสาวสัมผัสเข้ากับฝ่ามือใหญ่ราวกับว่ามีกระแสไฟวิ่งพล่านไปทั่วร่างกายของทั้งสอง นารีเงยหน้ามองชายหนุ่ม เธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคมเข้มคู่นั้นพลันนึกไปถึงลำกายซึ่งตอนนี้มันอยู่ใกล้ฝ่ามือของเธอเพียงแค่ยื่นมือเข้าไปสัมผัส "คะ...คุณเมฆา" "ผิวของคุณนารีนุ่มจังเลยนะครับ" "..." "ได้เห็นกับตาตัวเองมาตั้งหลายครั้งแต่ก็ไม่มีโอกาสได้จับสักที"มุมปากหยักกระตุกยิ้ม เมฆายื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ใบหูเรียวขาวพลางเปล่งเสียงกระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่า "คุณนารีอยากจับของผมบ้างไหมล่ะครับ แอบเห็นมาตั้งหลายครั้งแล้วเหมือนกันนี่"นารีชะงักพลางเบิกตากว้าง ลมหายใจหอบถี่เมื่อเมฆาจงใจพ่นลมหายใจเข้าใส่เข้าไปในหูขาวของเธอ ชายหนุ่มเลื่อนใบหน้า เขารู้สึกสนุกทุกครั้งเมื่อได้ช่วยตัวเองโดยมีดวงตากลมโตคู่นี่ของนารีคอยแอบมอง เหมือนกับที่เขาคอยแอบมองเธอเวลาที่นารีมักจะรีบวิ่งเข้าไปช่วยตัวเองหลังจากที่เธอได้ดูเขาสาวลำกายจนเสร็จ "ว่าไงครับ อยากลองจับดูบ้างไหม" "..." "มันไม่กัดมือของคุณหรอกนะครับ"ชายหนุ่มคว้าฝ่ามือเล็กของเธอไปแนบเข้ากำลังกายซึ่งมันกำลังขยายใหญ่ภายใต้กางเกงยีนเพียงแค่ได้กลิ่นหอมจากกายของหม้ายสาวตรงหน้า นารีราวกับคนต้องมนต์สะกดเธอรู้สึกตื่นเต้นราวกับวัยรุ่นแตกเนื้อสาวที่ได้ลิ้มรสของชายหนุ่มครั้งแรก ลำกายยาวใหญ่ภายใต้กางเกงยีนนูนเด่นแข็งสู้ฝ่ามือเรียวของหม้ายสาวอย่างนารีเสียเหลือเกิน "สัมผัสมันสิครับ อย่างนั้นแหละ"นิ้วเรียวสวยเผลอขย้ำลำกายอย่างคนลืมตัว ตอนนี้หัวสมองของนารีพร่ามัวเธอไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตอนนี้เธอกำลังทำอะไรซึ่งมันกำลังอันตรายต่อร่างกายของเธออยู่ เช่นเดียวกับกับเมฆา เขารอเวลานี้มานานชายหนุ่มใช้ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามร่างกายของหญิงสาว เขากระตุกยิ้มด้วยความพึงพอใจเมื่อฝ่ามือใหญ่สัมผัสเข้ากับเต้าอวบซึ่งถูกซุกซ่อนภายใต้เสื้อยืดสีขาวตัวบางของหญิงสาว ใหญ่เป็นบ้า นิ่มชะมัด เมฆาโอดครวญอยู่ในใจ ความร้อนภายในกายทำให้เขารู้สึกร้อนรุ่มต้องการอยากจะปลดปล่อย จ๊วบ ชายหนุ่มโน้มต่ำก้มลงไปประกบจูบริมฝีปากเรียวเล็ก เพียงแค่ได้สัมผัสความหวานจากภายในโพรงปากอ่อนนุ่มก็ทำเอาเขาแทบบ้า เมฆาแทบจะทนต่อแรงความต้องการของตัวเองแทบไม่ไหว ลมหายใจของเขาและเธอหอบถี่เมื่อนารีสอดปลายลิ้นออกมาตวัดสู้ทำเอาเมฆาครางในลำคอด้วยความพึงพอใจ แต่ก่อนที่อะไรมันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้นารีรีบดึงสติของตัวเองกลับมา เพราะคำเตือนของต้นอ้อลอยเข้ามาทำให้เธอได้สติ 'ถ้าเราง่ายเราก็ไม่ต่างอะไรจากสิ่งของไร้ค่า'นั่นสินะ ถ้าเธอง่ายตามที่เขาต้องการอยากที่จะได้ เธอก็คงถูกขี่ทิ้งในไม่ช้า นารีถอนริมฝีปากออกมาทำให้เมฆาต้องส่งสายตาวิงวอนมาที่เธอ แม้ว่าเธอจะตอบสนองรสสัมผัสของเขาได้เป็นอย่างดีแต่ตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลา "อย่าค่ะ" "ทำไมล่ะครับ ผมต้องการคุณมากนะรู้ไหม"ชายหนุ่มก้มลงไปใช้จมูกโด่งซุกไซร้ซอกคอขาวของหญิงสาว กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากสบู่ทำให้เมฆาแทบจะควบคุมสติของตัวเองเอาไว้แทบไม่อยู่ เขาอยากจะกดร่างของนารีให้จมลงบนเตียงแล้วบรรเลงเพลงรักกับเธอแบบจัดหนักจัดเต็มสามวันสามคืน "ตอนนี้ยังไม่ได้ค่ะ"นารีออกแรงดันร่างของชายหนุ่มให้ห่างออกจากตัว ลมหายใจหนัก ๆ ถูกพ่นออกมาจากโพรงจมูกของชายหนุ่มอย่างเหนื่อยหอบ เขามองเธอด้วยสายตาแอบแฝงไปด้วยความต้องการอย่างไม่คิดจะปิดบัง "คุณก็รู้ว่าผมต้องการอะไร" "ค่ะ นารีทราบ" "แล้วคุณจะห้ามผมทำไม ในเมื่อเราสองคนก็มีความต้องการเหมือนกัน"นารีกระตุกยิ้มเธอยื่นฝ่ามือเข้าไปสัมผัสกับรูปหน้าหล่อเหลาของเขา แม้ปากจะห้ามแต่เธอกลับใช้สายตายั่วยวนมองเขา "อย่าพึ่งรีบใจร้อนสิคะ เราสองคนยังมีโอกาสที่จะได้เจอกันอีกครั้งนะคะ"ฝ่ามือใหญ่ยืนไปโอบร่างเล็กพลางออกแรงดันให้ร่างกายของเธอแนบชิดเข้ากับร่างใหญ่ของเขา "นั่นสิครับ เราสองคนยังมีโอกาสได้เจอกัน" "..." "ครั้งนี้คุณอาจจะรอด แต่ถ้าครั้งหน้าอย่าคิดว่าผมจะปล่อย" "เอาเป็นว่านารีจะรอก็แล้วกันนะคะ"ฝ่ามือเล็กของเธอเลื่อนต่ำลงไปลูบคลำลำกายของชายหนุ่มซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่ามันแข็งจนแทบจะระเบิดออกมา "แข็ง(แรง)จังเลยนะคะ" "ระวังจะเจ็บตัวนะครับถ้าหากคุณนารียังไม่คิดจะปล่อยมือออกจากมัน""พ่อขอให้ลูกทั้งสองครองคู่กันอย่างมีความสุข หนักนิดเบาหน่อยก็ขอให้อภัยซึ่งกันและกัน อยู่ครองคู่ไปนานแสนนานจนยามแก่เฒ่า""ขอบคุณค่ะ""ขอบคุณครับ"คู่บ่าวสาวก้มกราบลงบนปลายเท้าของบิดา "ส่วนแม่ก็ขอให้ลูกทั้งสองครองรักกันอย่างยาวนาน ถ้าหากวันไหนมีเรื่องที่ทำให้ทั้งสองไม่เข้าใจกันก็ขอให้ทั้งสองลองหันหน้าเข้าหาเพื่อปรับความเข้าใจ อย่าได้ดึงใครเข้ามาทำลายความรักของลูกทั้งสองคนได้""...""แล้วอีกอย่างนะ เมฆา"คุณหญิงเปรมสุดาหันมามองหน้าลูกชายคนโตด้วยแววตาจริงจัง"ครับคุณแม่""แม่อยากอุ้มหลาน"ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้มก่อนชายหนุ่มจะหันไปมองหน้าภรรยาคนสวยด้วยแววตาหวานเชื่อม"เดือนหน้าคุณพ่อกับคุณแม่รอรับฟังข่าวดีได้เลยครับ"ชายหนุ่มคุยโม้เพราะเขามั่นใจในฝีมือของตัวเองมากพอ"ให้มันแน่เถอะไอ้เสือ ตอนนี้พ่อกำลังรอฟังข่าวดีจากคู่ของแกกับหนูนารีอยู่ อย่ายอมแพ้คู่ของเจ้าอัคคีมันล่ะ""รอรับขวัญหลานแฝดได้เลยครับพ่อ"เพียะ"แฝดอะไรกันค่ะ แค่คนเดียวยังไม่มีน้ำยา"นารีอดหมั่นไส้ไม่ได้กับความโอ้อวดของสามี"ฮ่า ๆ เอาล่ะ พ่อกับแม่ต้องขอตัวก่อน เชิญลูกสองคนตามสบายเลยนะ""อย่าลืมนะเมฆา แม่ขอหลานสาว""จัดไปแบบคูณสองเลยค
"เป็นยังไงบ้างเมื่อคืน หนักเลยใช่ไหม"นารีถามต้นอ้อเมื่อทั้งคู่เดินลงมาจากห้องพักปล่อยให้สองชายหนุ่มได้พักผ่อน นารีกวาดสายตาดูสภาพของต้นอ้อซึ่งดูอิดโรยตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยรักและไหนจะลักษณะท่าทางการเดินแปลก ๆ"ทั้งคืน ระบบไปหมดทั้งตัว""ไม่ต่างกัน"สองสาวอยู่ในชุดว่ายน้ำเซ็กซี่นั่งลงบนเก้าอี้อาบแดดข้างสระว่ายน้ำของโรงแรมในเวลาเกือบเที่ยง ดวงตากลมโตซุกซนของทั้งคู่กวาดมองหุ่นล่ำกล้ามแน่นน่ากินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ"เมื่อคืนคุณอัคคีไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน กว่าจะได้นอนก็เกือบสว่าง"ต้นอ้อบ่นอุบ ศึกรักของชายหนุ่มทำให้เธอรู้สึกอ่อนแรงแต่ก็ยังสามารถปลีกตัวออกมาจากห้องพักได้ เพราะคืนนี้เธอคงได้รับแรงกระแทกอันหนักหน่วงจากเขาอีกเป็นแน่"ของเธอแค่เกือบ แต่ของฉันนี่สิ เช้าตรู่เลยจ้า""แล้วเธอมีแรงลุกขึ้นมาชวนฉันมาว่ายน้ำอีก?""เปล่า ฉันก็แค่ชวนเธอมานั่งพักเพื่อผ่อนคลาย เธอคิดเหรอว่าคืนนี้สองหนุ่มจะปล่อยให้เราสองคนได้ก้าวขาลงจากเตียง"เสียงหวานเอ่ยพูดกับเพื่อนสาว แต่สายตาของนารีกำลังไล่มองตามแผ่นหลังแข็งแกร่งของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินผ่านไป"น้อย ๆ หน่อย เดี๋ยวคุณเมฆามาเห็นเข้า
ตับ! ตับ! ตับ!ร่างของทั้งสองไร้ซื้อเสื้อผ้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่บนเตียงนอนหลังใหญ่ในเวลาค่ำ แรงกระหน่ำซอยยังคงถี่ยิบเรียกเสียงครวญครางจากทั้งสองได้เป็นอย่างดีแม้เวลาจะผ่านมาหลายชั่วโมงแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าทั้งคู่จะหยุดโรมรัน ต่างฝ่ายต่างผลัดกันรับผลัดกันรุกอย่างไม่มีใครยอมใครแม้จะเสียเรี่ยวแรงไปมากแต่ความต้องการอันเปี่ยมล้นก็ไม่สามารถทำให้ทั้งคู่หยุดกิจกรรมนี้ได้"อ๊าส์ คุณเมฆาขา นารีเสียวไม่ไหวแล้ว อ๊าย"เสียงหวานร้องบอกอีกทั้งยังเด้งเอวสวนลำกายซึ่งกำลังขยับเข้าออกในช่องทางรักเปียกชื้นของเธออย่างดุดัน"ผัวก็เสียวเหมือนกันครับเมีย อ๊าส์ เอามันเป็นบ้า""แรง ๆ เลยค่ะ เมียรับไหว กระแทกแรง ๆ เลย"ตับ! ตับ! ตับ!"แบบนี้แรงพอไหมครับ อ๊าส์ ซี๊ด"คำขอของหญิงสาวชายหนุ่มยอมทำตามอย่างไม่เกี่ยงงอน ฝ่ามือประคองร่างเด้งสะโพกสอดลำกายเข้าใส่จากทางด้านหลังอย่างดุเดือดเผ็ดมัน"โอ้ว ซี๊ด"หญิงสาวครางเสียงหลงเมื่อชายหนุ่มตอบแทนเธออย่างถึงอกถึงใจ ก่อนเธอจะจัดการดันร่างออกพลิกตัวของชายหนุ่มให้นอนราบลงบนเตียง เพียงแค่เสี้ยววินาที นารีปีนขึ้นไปนั่งคร่อมจัดการกดสะโพกครอบครองแก่นกาย"โอ้ว คนดี"เมฆาครวญครางด้วยความเ
"แม่ดีใจด้วยนะลูก ที่หนูกับลูกชายของแม่ตกลงปลงใจที่จะร่วมสร้างครอบครัวด้วยกัน""พ่อก็เหมือนกัน ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่าลูกชายของพ่ออย่างเมฆาคิดจะสร้างครอบครัวเหมือนกับคนอื่นเขา พ่อต้องขอบคุณหนูนารีมากนะที่เข้ามาทำให้ลูกชายของพ่อกับแม่ได้รู้จักกับคำว่าความรัก"สองสามีภรรยาอย่างคุณรังสรรค์และคุณหญิงเปรมสุดารู้สึกยินดีกับความรักของทั้งคู่ ทั้งสองอ้าแขนต้อนรับนารีให้เข้ามาอยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน"หนูต้องขอขอบคุณ คุณพ่อและคุณแม่มาก ๆ เลยนะคะที่ทั้งรักและเอ็นดูหนู"ฝ่ามือคู่เล็กเย็นเฉียบแต่ก็มีฝ่ามือใหญ่ของเมฆาคอยกอบกุมให้ความอบอุ่นอยู่ไม่ห่าง ภาพที่ทั้งคู่หันมาส่งยิ้มให้กับเป็นภาพที่น่ายินดีสำหรับคนที่ได้พบเห็น"แล้วนี่จะจัดงานแต่งกันเมื่อไหร่ ให้แม่ช่วยไปดูฤกษ์ให้เอาไหม""เอาตามที่คุณแม่กับนารีเห็นสมควรเลยก็ได้ครับ ผมยังไงก็ได้""...""คนดีอยากจัดงานแบบไหนบอกผมได้เลยนะ ผมพร้อมที่จะทำให้คุณทุกอย่าง"คุณรังสรรค์หันไปมองหน้าภรรยาคู่ชีวิตเมื่อท่านได้ฟังน้ำเสียงอ่อนโยนบวกกับการเอาใจใส่ของลูกชายซึ่งไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเคยได้รับนอกเสียจากคนในครอบครัว"นารียังไงก็ได้ค่ะ หนูแล้วแต่คุณแม่""พูดแล้วนะ
"สวัสดีค่ะคุณเมฆา"เสียงพนักงานสาวกล่าวทักทายลูกชายของประธานบริษัทใหญ่พ่วงด้วยตำแหน่งลูกชายเจ้าของร้านจิวเวลรี่แห่งนี้"แหวนที่สั่งทำได้หรือยัง""เสร็จแล้วค่ะ รอสักครู่นะคะ"พนักงานกระตือรือร้นรีบเข้าไปนำแหวนเพชรซึ่งชายหนุ่มได้จัดการสั่งทำเอาไว้มาให้เจ้าตัวได้เชยชม"คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม"นารีเอ่ยถามพลางกวาดสายตามองดูรอบร้านซึ่งเต็มไปด้วย เพชร อัญมณีราคาแพงที่เธอไม่มีปัญญาซื้อมัน"ผมขอร้องล่ะคนดี เลิกแทนตัวเองแบบนี้สักทีได้ไหม"เธอไม่สนใจคำพูดของเขา นารีหันมองไปทางอื่นก่อนที่เธอจะไปสะดุดตาเข้ากับกับสร้อยทองคำขาวมีจี้เพชรรูปหัวใจ ซึ่งสิ่งที่เธอกำลังสนใจอยู่ในสายตาของเมฆาทั้งหมด"แหวนที่คุณเมฆาสั่งทำได้แล้วค่ะ"ผู้จัดการร้านเป็นคนนำแหวนเพชรมาให้เมฆาด้วยตนเอง แหวนเพชรน้ำงามสีขาวถูกเจียระไนอย่างประณีตจากชั่งฝีมือดี แหวนวงนี้มีมูลค่ามหาศาลตามความสวยงามของมันซึ่งเขานั้นได้ทุ่มทุนก้อนใหญ่ด้วยความเต็มใจดวงตาคมกริบสีเข้มมีความพึงพอใจเมื่อได้เห็นผลงานที่เขาเป็นคนออกแบบจัดการเพื่องานนี้โดยเฉพาะ และตอนนี้มันก็ได้มาอยู่ตรงหน้าเขาเรียบร้อย"นี่ค่ะ""ครับ"เมฆาดึงแหวนเพชรวงสวยออกมาจากกล่อง เขาคุกเข่าลงนั
"เอาชุดทั้งหมดนี้ แล้วให้คนจัดส่งไปตามที่อยู่นี้""ค่ะ คุณเมฆา"พนักงานสาวรีบตอบรับก่อนลูกชายเจ้าของห้างสรรพสินค้าเดินโอบร่างอ่อนแรงของหญิงสาวออกมา ใบหน้าสวยแสดงถึงความเหนื่อยล้าเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ช่วงล่างของเธอได้ถูกเมฆาจัดหนักจัดเต็มจนขาสั่น"ให้ผมอุ้มไหมครับ""พอเลยค่ะ คืนนี้นารีไม่ให้คุณทำอะไรแบบนี้แล้ว""ได้ยังไงกันครับ ผมยังไม่...""ไม่อะไรคะ"น้ำเสียงเรียบนิ่งของหญิงสาวทำเอาเมฆารีบปิดปาก ดวงตาคมกริบคู่นั้นทำให้เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มันขัดใจเธอ"คืนนี้ผมจะให้นารีได้นอนพักก็ได้""มันก็คงต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วล่ะค่ะ ถ้าคุณไม่ยอมปล่อยให้นารีนอนพักเห็นทีทริปไปเที่ยวก็คงได้ล่ม"ช่วงล่างของเธอถูกใช้งานหนักติดต่อกันหลายวัน น้ำเมือกใสที่เขาปลดปล่อยเข้าใส่ช่องทางรักของเธอนั้นยังคงเอ่อนองอยู่ภายด้านในทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัว"นารีอยากเข้าห้องน้ำค่ะ""เชิญทางนี้ครับคนสวยของผม"เมฆาเดินโอบร่างเพรียวบางของหญิงสาวไปยังทิศทางของห้องน้ำโดยที่มีสายตาคู่หนึ่งคอยมองตามแผ่นหลังของทั้งคู่อยู่ไม่ไกล"คุณรอนารีอยู่ตรงนี้นะคะ"เมฆาพยักหน้าเขาปล่อยให้เธอได้เข้าไปจัดการธุระภายในห้องน้ำตามลำพังแกร๊กห