สายของวันถัดมา
มีนาลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ร่างกายเมื่อยล้าและปวดร้าวอย่างบอกไม่ถูก สงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนลงเล่นน้ำทะเลดึกมากไปหน่อยเช้านี้ก็เลยพาลจะไม่สบายเอา
หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นจะเข้าห้องน้ำไปทำธุระ มีนาชะงักเมื่อเตียงที่กำลังนอนและห้องที่อยู่ในเวลานี้ไม่ใช้ห้องนอนของตน แต่มันเป็นห้องพักห้องใดห้องหนึ่งในรีสอร์ทและตอนนี้มีเสียงใครบางคนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ไกล
"ครับ วิกกี้ ขอบคุณมากที่นึกถึงผม เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ" อีธานอวยพรอดีตคู่ขาที่วันนี้โทรศัพท์มาร่ำลาว่าจะกลับประเทศของตนแล้ว
"ถ้าปีหน้าคุณมางานทอมอีก เราก็อาจจะได้เจอกันอีกแต่ถึงตอนนั้นคุณคงจำผมไม่ได้แล้ว เพราะผู้หญิงสวยอย่างคุณคงมีคนมารายล้อมมากมายจนลืมผู้ชายกระจอกๆ อย่างผมไปเลยน่ะซิครับ" อีธานเหลือบมาเห็นมีนารู้สึกตัวแล้ว เพียงแค่เห็นสีหน้าก็รู้ว่านาทีต่อจากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้น
"บายครับ วิกกี้ ผมจะคิดถึงคุณนะ"
"อุ๊บ..."
หมอนใบใหญ่เขวี้ยงมาที่หน้าแม่นยำราวกับมืออาชีพ อีธานกำลังจะอ้าปากพูดแต่เปลี่ยนใจวิ่งหาที่หลบภัยจากข้าวของที่อยู่ใกล้มือมีนาในเวลานี้ก่อน
หมอนมีกี่ใบบนเตียงตอนนี้มันลอยมาหาอีธานเพียงเป้าหมายเดียว ชายหนุ่มร้องลั่นเมื่อมีนาคว้าเปลือกหอยที่อยู่บนหัวเตียงมาถือไว้ในมือ หมายจะเขวี้ยงมาที่ตัวเขา
"มีนา อย่า" อีธานร้องลั่น รีบเข้าไปคว้าเปลือกหอยที่อยู่ในเมือเจ้าหล่อนมาถือไว้เสียเองแทน
"นาย..." สีหน้าและแววตามองราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ทำให้อีธานต้องถอยห่าง
"ผมอธิบายได้ เมื่อคืนคุณ เอ่อ โดนยา เอ่อ แล้ว เอ่อ..."
"คนเลว คนฉวยโอกาส นายมันเลวที่สุด" เสียงสาวสั่นเครือด้วยความเสียใจ
มีนาพอรู้ตัวว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้น หลังจากที่ดื่มน้ำสีสวยที่เป็นรางวัลในการเล่นเกมของอีธานกับแม่สาวๆ ที่ถนนคนเดิน เจ้าตัวจำได้ว่าพอขับรถมาถึงรีสอร์ทก็รีบวิ่งลงทะเลเพื่อหวังดับฤทธิ์ยาที่อยู่ในตัว แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่เป็นอย่างที่คิด
"ผม เอ่อ ผมขอโทษ แต่เรื่องนี้เราแก้ไขได้นะ"
"นายจะแก้ไขยังไง จะคืนสิ่งที่ฉันเสียไปได้งั้นเหรอ" มีนาไม่อยากร้องไห้ พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา
แต่กระนั้นก็ยังอดที่จะสะอื้นออกมาไม่ได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากและเกิดกับใครไม่เกิด ดันมาเกิดกับผู้ชายจอมกะล่อนคนนี้ อีธาน ผู้ชายที่เธอจะเกลียดไปตลอดชีวิต
"เรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว แต่เราทำให้ทุกอย่างมันโอเคได้นี่นา" อีธานเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี
เขาไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใครด้วยเหตุผลเช่นมีนามาก่อน และไม่เคยต้องมานั่งคิดหลังจากที่มีความสุขต่อกันแล้วว่าต้องทำอย่างไร พูดง่ายๆ ไม่เคยคิดว่าต้องรับผิดชอบหรือทำอะไรให้ถูกต้องบ้าง เพราะทุกครั้งจบลงด้วยการแยกย้ายบ้านใครบ้านมันไม่มีความผูกพัน
แต่กับมีนาไม่ใช่ อีธานรู้ดีอยู่เต็มอกว่าหญิงสาวไม่เหมือนบรรดาแม่ดอกไม้งามที่เคยขึ้นเตียงด้วย ทว่าเขาก็ยังไม่พร้อมที่จะหยุดชีวิตโสดอันแสนมีความสุขไว้ที่ใครคนใดคนหนึ่ง การรับผิดชอบใครสักคนโดยเลือกการแต่งงานมาเป็นวิธีแสดงความรับผิดชอบโดยปราศจากความรัก สำหรับเขาแล้วเป็นเรื่องตลกสิ้นดี
มีนาไม่อยากฟังคำแก้ตัวใดๆ ของอีธานทั้งสิ้น เรื่องที่เกิดขึ้นหญิงสาวโทษว่ามันเป็นคราวเคราะห์ความโชคร้ายของตัวเองมากกว่า สิ่งที่ควรทำตอนนี้คือออกไปจากห้องนี้ซะ แล้วกลับไปสงบสติอารมณ์ว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิตตนเองต่อ ที่แน่ๆ คือเธอไม่อยากเห็นหน้าผู้ชายคนนี้ไปอีกตลอดชีวิต
"มีน" อีธานร้องเรียกเมื่อหญิงสาวเตรียมจะลุกขึ้น
เสื้อผ้าของมีนาเมื่อคืนนี้ อีธานเสียเวลาลงมาเก็บขึ้นไปทำความสะอาดตากแขวนไว้ให้ในห้องน้ำ หลังจากที่เพลิงพิศวาสมอดลงเรียบร้อยแล้ว
"อย่ามาเรียกฉันแบบนี้ ชื่อนี้ฉันมีไว้ให้คนใกล้ชิดเรียกเท่านั้น" มีนาหันมาแหวใส่เสียงดัง ผ้าห่มผืนใหญ่ที่ห่อหุ้มตัวเธอทำให้เดินลำบากแต่ก็ต้องปกปิดร่างกายเอาไว้ไม่ให้ใครได้เห็นอีก
"โธ่ ผมควรให้คุณเรียกว่าที่รักด้วยซ้ำไปนะ เราสองคนเกินกว่าคำว่าใกล้ชิดแล้ว เรามาคุยกันดีๆ เถอะคุณจะเอาไงกับเรื่องนี้" อีธานเดินตามไม่ลดละ
"ถอยไปนะ อยู่ห่างๆ ถ้าขืนเข้ามาใกล้อีกอย่าหาว่าฉันไม่เตือนเด็ดขาด" แววตาจริงจังและน้ำเสียงดุดันของมีนาทำให้อีธานชะงัก ปล่อยให้มีนาเข้าห้องน้ำไปแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วค่อยออกมาพูดกัน
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา "ฉันจะกลับไปที่เกาะนั่น เจ้าของรีสอร์ทสนใจที่จะลงทุนด้วย" อีธานแวะมาบอกเจ้าของบ้านที่กำลังหงุดหงิดเพราะคู่หมั้นหายไปตั้งแต่เช้า เห็นเพื่อนรักท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษทำให้ธามคิดว่าอีธานคงดีใจที่จะได้ไปในสถานที่ชอบอีกครั้ง ทะเลกับปลาไหลคงเป็นของคู่กันไปแล้ว แต่เปล่าเลย ที่อีธานดีใจไม่ใช่เพราะชลาลัยตัดสินใจเชิญเขาไปฟังเงื่อนไขบางอย่างที่เกาะหวน แต่เป็นเพราะชายหนุ่มจะมีโอกาสได้จัดการกับข้อกังขาที่อยู่ในใจมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่กลับมา ภายหลังจากที่กลับมาจากเกาะหวน อีธานมีเวลาทบทวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับมีนา สิ่งหนึ่งที่เป็นกังวลมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ มีนาท้อง เพราะคืนนั้นเขาไม่ได้ป้องกัน ดังนั้นถึงตกลงกับเจ้าตัวไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้ามีเด็กเกิดขึ้นอีธานก็ไม่มีวันปล่อยให้เลือดเนื้อเชื้อไขตัวเ
คำแนะนำของอีธานเป็นวิธีที่ดีไม่ใช่น้อย แต่ปัญหาของจันทร์เจ้ารีสอร์ทไม่ใช่แค่หนี้สิ้นที่พอกเป็นหางหมูเท่านั้น แต่ยังติดปัญหาอื่นซึ่งไม่รู้ว่าจะหาทางแก้ไขอย่างไรด้วยต่างหาก "ใครจะกล้ามาลงทุนกับรีสอร์ทเล็กๆ อย่างเรา" ชลาลัยพูดอย่างหมดหวัง ความงดงามของทิวทัศน์ที่ตนเองเป็นเจ้าของแต่กลับไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งหรือให้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่ไม่มีมิตรภาพหรือความสนใจ หากแต่อิทธิพลของคนที่อยากครอบครองพื้นที่ต่างหาก ที่ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวพร้อมทั้งบีบให้จันทร์เจ้ารีสอร์ทค่อยๆ ตายลงทีละน้อย เพื่อหวังให้ในที่สุดชลาลัยจะยอมขายที่ดินอันเป็นมรดกตกทอดให้กับนายทุนเจ้าเล่ห์ที่รออยู่ทุกขณะ "แต่เราก็จะดิ้นให้ถึงที่สุดใช่ไหม พี่ลัย" มีนากุมมือปลอบใจพี่สาว "ใช่ เราจะสู้ไปด้วยกัน" พี่สาวคนสวยฝืนยิ้มออกมาได้อีกครั้ง&nb
อีธานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่ แต่ในเวลานี้สายตาเขาจับจ้องไปskแม่สาวที่กำลังกอดชลาลัยอยู่ ท่าทางของมีนาเข้มแข็งมากตอนนี้ไม่ได้สนใจที่จะมองใครนอกจากปลอบประโลมพี่สาวคนสวยเพียงอย่างเดียว "ไม่เป็นไรแล้วพี่ลัย สงสัยต้องนิมนต์ท่านมาปัดเสนียดจัญไรพวกหน้าเลือดหน่อยแล้ว" มีนาพนมมือไหว้พระพุทธรูปก่อนจะอุ้มอัญเชิญเข้าไปในห้องทำงานตามเดิม เธอเพิ่งรู้ว่าพี่สาวไม่ได้อยู่กับคุณนายสร้อยทองเพียงลำพัง หากแต่มีใครบางคนที่หญิงสาวไม่อยากเจออยู่ด้วย มาทำอะไรที่นี่ แล้วมาตั้งแต่เมื่อไร "ทำไมไม่กลับไปอีก" มีนาเอ่ยขึ้นลอยๆ จงใจให้ใครบางคนได้ยิน แต่ไม่เจาะจงชื่อว่าเป็นใครเพราะไม่ต้องการพูดด้วย และเข้าใจว่าอีกไม่กี่นาทีคนที่ไม่อยากเจอตลอดชีวิตก็จะไม่อยู่ให้เห็นหน้าแล้ว หลังจากที่กลับ
เรือพร้อมจะไปส่งนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งในอีกครึ่งชั่วโมง ธามเตรียมตัวพร้อมจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในขณะที่อีธานเอาแต่ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่ค้างคาใจในเวลานี้ ชายหนุ่มพยายามหาทางพบมีนาตั้งแต่ที่หญิงสาววิ่งหนีหายไป แต่ไร้เงาราวกับว่าไม่ได้อยู่ในจันทร์เจ้ารีสอร์ทนี้ ทางเดียวที่อีธานจะรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ก็คงต้องถามชลาลัยเท่านั้น เขาจึงให้ธามรออยู่ที่ล็อบบี้แล้วกลับไปที่ออฟฟิศทันที อีธานเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าออฟฟิศของจันทร์เจ้ารีสอร์ท ก็ได้พบกับชลาลัยอีกครั้ง แต่วันนี้สีหน้าเธอดูเคร่งเครียดจนไม่เหลือรอยยิ้มหวานๆ บนใบหน้าอีกเลย "สวัสดีค่ะ จะกลับวันนี้แล้วใช่ไหมคะ" ชลาลัยพยายามจะยิ้มหวานๆ ให้ลูกค้า แต่ตอนนี้เรื่องที่กำลังปวดหัวทำให้ยิ้มไม่ออกสักเท่าไร "ครับ เอ่อ คุณ เอ่อ คือ" อีธานไม่รู้จะเริ่มต้นถามถึงมีนาอย่างไร
สายของวันถัดมามีนาลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ร่างกายเมื่อยล้าและปวดร้าวอย่างบอกไม่ถูก สงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนลงเล่นน้ำทะเลดึกมากไปหน่อยเช้านี้ก็เลยพาลจะไม่สบายเอาหญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นจะเข้าห้องน้ำไปทำธุระ มีนาชะงักเมื่อเตียงที่กำลังนอนและห้องที่อยู่ในเวลานี้ไม่ใช้ห้องนอนของตน แต่มันเป็นห้องพักห้องใดห้องหนึ่งในรีสอร์ทและตอนนี้มีเสียงใครบางคนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ไกล"ครับ วิกกี้ ขอบคุณมากที่นึกถึงผม เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ" อีธานอวยพรอดีตคู่ขาที่วันนี้โทรศัพท์มาร่ำลาว่าจะกลับประเทศของตนแล้ว"ถ้าปีหน้าคุณมางานทอมอีก เราก็อาจจะได้เจอกันอีกแต่ถึงตอนนั้นคุณคงจำผมไม่ได้แล้ว เพราะผู้หญิงสวยอย่างคุณคงมีคนมารายล้อมมากมายจนลืมผู้ชายกระจอกๆ อย่างผมไปเลยน่ะซิครับ" อีธานเหลือบมาเห็นมีนารู้สึกตัวแล้ว เพียงแค่เห็นสีหน้าก็รู้ว่านาทีต่อจากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้น"บายครับ วิกกี้ ผมจะคิดถึงคุณนะ""อุ๊บ..."หมอนใบใหญ่เขวี้ยงมาที่หน้าแม่นยำราวกับมืออาชีพ อีธานกำลังจะอ้าปากพูดแต่เปลี่ยนใจวิ่งหาที่หลบภัยจากข้าวของที
มีนาเปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วรีบเดินออกไปจากห้องโดยไม่สนใจว่าจะมีใครรออยู่ อีธานรีบวิ่งตามออกมาแล้วคว้าแขนหญิงสาวไว้ "ปล่อยนะ" เจ้าตัวสะบัดไม่ยอมให้จับ "เรายังไม่ได้คุยกันเลย" อีธานไม่ยอมปล่อย "ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ปล่อย" มีนาออกแรงสะบัดแขนอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มยึดเอาไว้แน่นซ้ำยังรวบสองมือไว้ ดึงเข้ามาหาไม่ยอมปล่อยไปไหนอีกด้วย "ถ้าไม่คุยกันดีๆ เราไปคุยต่อหน้าพี่สาวคุณก็ได้ เอาไหม" ท่าทางอีธานเอาจริงแน่ "ขู่ฉันเหรอ" หญิงสาวเม้มปากแน่นด้วยความโกรธ "ไม่ได้ขู่แต่ผมทำจริง หรือจะไปตอนนี้เลยก็ได้ เมื่อเช้าคุณลัยเพิ่งถามว่าไปเที่ยวเมื่อคืนสนุกไหม คุณอยากให้ผมตอบไหมล่ะว่าสนุกจนเกือบโต้รุ่ง แต่คนที่สนุกคือคุณไม