หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
"ฉันจะกลับไปที่เกาะนั่น เจ้าของรีสอร์ทสนใจที่จะลงทุนด้วย" อีธานแวะมาบอกเจ้าของบ้านที่กำลังหงุดหงิดเพราะคู่หมั้นหายไปตั้งแต่เช้า
เห็นเพื่อนรักท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษทำให้ธามคิดว่าอีธานคงดีใจที่จะได้ไปในสถานที่ชอบอีกครั้ง ทะเลกับปลาไหลคงเป็นของคู่กันไปแล้ว
แต่เปล่าเลย ที่อีธานดีใจไม่ใช่เพราะชลาลัยตัดสินใจเชิญเขาไปฟังเงื่อนไขบางอย่างที่เกาะหวน แต่เป็นเพราะชายหนุ่มจะมีโอกาสได้จัดการกับข้อกังขาที่อยู่ในใจมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่กลับมา
ภายหลังจากที่กลับมาจากเกาะหวน อีธานมีเวลาทบทวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับมีนา สิ่งหนึ่งที่เป็นกังวลมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ มีนาท้อง เพราะคืนนั้นเขาไม่ได้ป้องกัน ดังนั้นถึงตกลงกับเจ้าตัวไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้ามีเด็กเกิดขึ้นอีธานก็ไม่มีวันปล่อยให้เลือดเนื้อเชื้อไขตัวเองไปอยู่กับคนอื่นแน่นอน
"อืม นายชอบทะเลก็คงไม่มีปัญหา ว่าแต่ทำไมถึงคิดไปทำที่นั่น คนอย่างนายถ้าจะลงทุนทั้งที่ไม่น่าจะเป็นแค่รีสอร์ทเล็กๆ แบบนั้น" ธามเองก็แปลกใจไม่ใช่น้อย
ในวันที่เดินทางอีธานเล่าเรื่องที่ไปพบเห็นมาก่อนกลับให้ฟัง แม้รายละเอียดจะยังไม่ชัดเจนนักว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ธามก็จับใจความได้ว่าที่นั่นกำลังมีปัญหาและต้องการความช่วยเหลือเรื่องเงินอย่างเร่งด่วน
"ฉันแค่อยากหาบ้านของตัวเองสักหลัง" คนรักทะเลพูดเหมือนฝัน
"เวลาฉันเหนื่อยๆ จากงานที่โน่นก็บินมาอยู่กับทะเลที่นี่ อีกหน่อยนายแต่งงานกับคุณรสก็คงไม่มีเวลามาดูแลฉัน ไหนจะลูกอีก เพราะงั้นฉันไปหาคนดูแลที่เกาะนั่นดีกว่า"
"ลืมไป ว่าเจ้าของรีสอร์ทสเปคนาย" ธามว่าเข้าไปนั่น
ชลาลัยน่ะหรือ เธอสวยอ่อนหวานน่ารักมีเสน่ห์ แต่ถ้าเทียบกับใครบางคนที่รุนแรงกว่าและอยู่ในความคิดถึงตลอดนับตั้งแต่กลับมา อีธานอมยิ้ม
"ขำอะไรของแก" ธามเลิกคิ้วมองหน้าเพื่อนรักด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายหัวเราะออกมาเบาๆ โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย
"เปล่า แค่คิดถึงคุณชลาลัยเท่านั้นเอง" อีธานยักไหล่เบาๆ แล้วขอตัวไปจัดกระเป๋าเดินทางสำหรับวันพรุ่งนี้
"เดี๋ยว อีธาน" ธามนึกอะไรขึ้นมาได้
"มีอะไร"
"ผู้หญิงไทยไม่เหมือนสาวๆ ที่แกเคยขึ้นเตียงด้วย อย่าทำอะไรรุ่มร่ามเด็ดขาด นี่นั่นเป็นเกาะฉันตามไปช่วยแกไม่ทันนะ บอกไว้ก่อน"
"แล้วผู้หญิงไทยใจแข็งมากไหม" อีธานหยั่งเชิงถาม
"ไม่ว่าผู้หญิงชาติไหนก็ใจแข็งทั้งนั้น ผู้หญิงเป็นสิ่งที่เข้าใจยากที่สุดในโลก" เสียงถอนหายใจของธามเป็นคำยืนยันได้ดีที่สุดว่าสิ่งที่พูดเป็นเรื่องจริง ผู้หญิงเข้าใจยากและยากที่จะเข้าใจด้วย
ชลาลัยวางโทรศัพท์ลงด้วยรอยยิ้มเมื่อทราบว่าบุคคลสำคัญเดินทางมาถึงท่าเรือแล้ว และขณะนี้กำลังจะข้ามมาที่เกาะหวนอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็คงได้พบกัน
"ไปตามมนัสมาหาพี่หน่อย มีนา" ชลาลัยหันมาหาน้องสาวที่นั่งอยู่ที่โซฟาด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไร
จะให้มีนายิ้มแย้มอารมณ์ดีเหมือนทุกวันได้อย่างไร ก็ในเมื่อพี่สาวคนสวยตัดสินใจขายหุ้นครึ่งหนึ่งของจันทร์เจ้ารีสอร์ทให้กับผู้ชายผีทะเลคนนั้น คนที่หญิงสาวไม่เคยลืมเลยว่าพ่อเจ้าประคุณทำอะไรกับตนเองไว้บ้าง
เอกสารการถือครองกรรมสิทธิ์ทุกอย่างวางอยู่บนโต๊ะ เตรียมให้พร้อมให้หุ้นส่วนคนใหม่ดูก่อนที่จะตัดสินใจ เงื่อนไขของชลาลัยที่เสนอให้กับอีธานก็เป็นอีกเรื่องที่มีนารู้สึกไม่พอใจ
"พี่ลัยเรียกหาพี่นัสทำไมเหรอคะ" มีนาหันมาถาม ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าชลาลัยคงต้องการให้ผู้จัดการรีสอร์ทเพียงคนเดียวของที่นี่ทำอะไร
"พี่นัสงานล้นมือ ใครอยากมาก็มาเองซิคะ ไม่เห็นต้องไปรับเลย"
"เปล่า พี่ไม่ได้ให้มนัสไปรับคุณอีธาน" ชลาลัยบอกยิ้มๆ
ชลาลัยไม่ได้ให้มนัสไปรับอีธานอย่างที่พูดจริงๆ แต่เป็นทุกคนของจันทร์เจ้ารีสอร์ทที่ต้องไปรับชายหนุ่มที่ริมหาด
ทันทีที่อีธานลงจากเรือก็ยิ้มร่าสวมกอดทักทายเจ้าของจันทร์เจ้ารีสอร์ทตามธรรมเนียมที่คุ้นเคย แต่สายตาพยายามจะมองไปที่อีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง มีนาเมินหน้าหนีไม่พูดไม่จาอะไรทั้งสิ้น แต่เขาก็ยังใจเย็นและรอดูสถานการณ์ว่าควรจะทำอะไร
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา "ฉันจะกลับไปที่เกาะนั่น เจ้าของรีสอร์ทสนใจที่จะลงทุนด้วย" อีธานแวะมาบอกเจ้าของบ้านที่กำลังหงุดหงิดเพราะคู่หมั้นหายไปตั้งแต่เช้า เห็นเพื่อนรักท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษทำให้ธามคิดว่าอีธานคงดีใจที่จะได้ไปในสถานที่ชอบอีกครั้ง ทะเลกับปลาไหลคงเป็นของคู่กันไปแล้ว แต่เปล่าเลย ที่อีธานดีใจไม่ใช่เพราะชลาลัยตัดสินใจเชิญเขาไปฟังเงื่อนไขบางอย่างที่เกาะหวน แต่เป็นเพราะชายหนุ่มจะมีโอกาสได้จัดการกับข้อกังขาที่อยู่ในใจมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่กลับมา ภายหลังจากที่กลับมาจากเกาะหวน อีธานมีเวลาทบทวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับมีนา สิ่งหนึ่งที่เป็นกังวลมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ มีนาท้อง เพราะคืนนั้นเขาไม่ได้ป้องกัน ดังนั้นถึงตกลงกับเจ้าตัวไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้ามีเด็กเกิดขึ้นอีธานก็ไม่มีวันปล่อยให้เลือดเนื้อเชื้อไขตัวเ
คำแนะนำของอีธานเป็นวิธีที่ดีไม่ใช่น้อย แต่ปัญหาของจันทร์เจ้ารีสอร์ทไม่ใช่แค่หนี้สิ้นที่พอกเป็นหางหมูเท่านั้น แต่ยังติดปัญหาอื่นซึ่งไม่รู้ว่าจะหาทางแก้ไขอย่างไรด้วยต่างหาก "ใครจะกล้ามาลงทุนกับรีสอร์ทเล็กๆ อย่างเรา" ชลาลัยพูดอย่างหมดหวัง ความงดงามของทิวทัศน์ที่ตนเองเป็นเจ้าของแต่กลับไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งหรือให้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่ไม่มีมิตรภาพหรือความสนใจ หากแต่อิทธิพลของคนที่อยากครอบครองพื้นที่ต่างหาก ที่ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวพร้อมทั้งบีบให้จันทร์เจ้ารีสอร์ทค่อยๆ ตายลงทีละน้อย เพื่อหวังให้ในที่สุดชลาลัยจะยอมขายที่ดินอันเป็นมรดกตกทอดให้กับนายทุนเจ้าเล่ห์ที่รออยู่ทุกขณะ "แต่เราก็จะดิ้นให้ถึงที่สุดใช่ไหม พี่ลัย" มีนากุมมือปลอบใจพี่สาว "ใช่ เราจะสู้ไปด้วยกัน" พี่สาวคนสวยฝืนยิ้มออกมาได้อีกครั้ง&nb
อีธานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่ แต่ในเวลานี้สายตาเขาจับจ้องไปskแม่สาวที่กำลังกอดชลาลัยอยู่ ท่าทางของมีนาเข้มแข็งมากตอนนี้ไม่ได้สนใจที่จะมองใครนอกจากปลอบประโลมพี่สาวคนสวยเพียงอย่างเดียว "ไม่เป็นไรแล้วพี่ลัย สงสัยต้องนิมนต์ท่านมาปัดเสนียดจัญไรพวกหน้าเลือดหน่อยแล้ว" มีนาพนมมือไหว้พระพุทธรูปก่อนจะอุ้มอัญเชิญเข้าไปในห้องทำงานตามเดิม เธอเพิ่งรู้ว่าพี่สาวไม่ได้อยู่กับคุณนายสร้อยทองเพียงลำพัง หากแต่มีใครบางคนที่หญิงสาวไม่อยากเจออยู่ด้วย มาทำอะไรที่นี่ แล้วมาตั้งแต่เมื่อไร "ทำไมไม่กลับไปอีก" มีนาเอ่ยขึ้นลอยๆ จงใจให้ใครบางคนได้ยิน แต่ไม่เจาะจงชื่อว่าเป็นใครเพราะไม่ต้องการพูดด้วย และเข้าใจว่าอีกไม่กี่นาทีคนที่ไม่อยากเจอตลอดชีวิตก็จะไม่อยู่ให้เห็นหน้าแล้ว หลังจากที่กลับ
เรือพร้อมจะไปส่งนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งในอีกครึ่งชั่วโมง ธามเตรียมตัวพร้อมจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในขณะที่อีธานเอาแต่ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่ค้างคาใจในเวลานี้ ชายหนุ่มพยายามหาทางพบมีนาตั้งแต่ที่หญิงสาววิ่งหนีหายไป แต่ไร้เงาราวกับว่าไม่ได้อยู่ในจันทร์เจ้ารีสอร์ทนี้ ทางเดียวที่อีธานจะรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ก็คงต้องถามชลาลัยเท่านั้น เขาจึงให้ธามรออยู่ที่ล็อบบี้แล้วกลับไปที่ออฟฟิศทันที อีธานเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าออฟฟิศของจันทร์เจ้ารีสอร์ท ก็ได้พบกับชลาลัยอีกครั้ง แต่วันนี้สีหน้าเธอดูเคร่งเครียดจนไม่เหลือรอยยิ้มหวานๆ บนใบหน้าอีกเลย "สวัสดีค่ะ จะกลับวันนี้แล้วใช่ไหมคะ" ชลาลัยพยายามจะยิ้มหวานๆ ให้ลูกค้า แต่ตอนนี้เรื่องที่กำลังปวดหัวทำให้ยิ้มไม่ออกสักเท่าไร "ครับ เอ่อ คุณ เอ่อ คือ" อีธานไม่รู้จะเริ่มต้นถามถึงมีนาอย่างไร
สายของวันถัดมามีนาลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ร่างกายเมื่อยล้าและปวดร้าวอย่างบอกไม่ถูก สงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนลงเล่นน้ำทะเลดึกมากไปหน่อยเช้านี้ก็เลยพาลจะไม่สบายเอาหญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นจะเข้าห้องน้ำไปทำธุระ มีนาชะงักเมื่อเตียงที่กำลังนอนและห้องที่อยู่ในเวลานี้ไม่ใช้ห้องนอนของตน แต่มันเป็นห้องพักห้องใดห้องหนึ่งในรีสอร์ทและตอนนี้มีเสียงใครบางคนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ไกล"ครับ วิกกี้ ขอบคุณมากที่นึกถึงผม เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ" อีธานอวยพรอดีตคู่ขาที่วันนี้โทรศัพท์มาร่ำลาว่าจะกลับประเทศของตนแล้ว"ถ้าปีหน้าคุณมางานทอมอีก เราก็อาจจะได้เจอกันอีกแต่ถึงตอนนั้นคุณคงจำผมไม่ได้แล้ว เพราะผู้หญิงสวยอย่างคุณคงมีคนมารายล้อมมากมายจนลืมผู้ชายกระจอกๆ อย่างผมไปเลยน่ะซิครับ" อีธานเหลือบมาเห็นมีนารู้สึกตัวแล้ว เพียงแค่เห็นสีหน้าก็รู้ว่านาทีต่อจากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้น"บายครับ วิกกี้ ผมจะคิดถึงคุณนะ""อุ๊บ..."หมอนใบใหญ่เขวี้ยงมาที่หน้าแม่นยำราวกับมืออาชีพ อีธานกำลังจะอ้าปากพูดแต่เปลี่ยนใจวิ่งหาที่หลบภัยจากข้าวของที
มีนาเปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วรีบเดินออกไปจากห้องโดยไม่สนใจว่าจะมีใครรออยู่ อีธานรีบวิ่งตามออกมาแล้วคว้าแขนหญิงสาวไว้ "ปล่อยนะ" เจ้าตัวสะบัดไม่ยอมให้จับ "เรายังไม่ได้คุยกันเลย" อีธานไม่ยอมปล่อย "ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ปล่อย" มีนาออกแรงสะบัดแขนอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มยึดเอาไว้แน่นซ้ำยังรวบสองมือไว้ ดึงเข้ามาหาไม่ยอมปล่อยไปไหนอีกด้วย "ถ้าไม่คุยกันดีๆ เราไปคุยต่อหน้าพี่สาวคุณก็ได้ เอาไหม" ท่าทางอีธานเอาจริงแน่ "ขู่ฉันเหรอ" หญิงสาวเม้มปากแน่นด้วยความโกรธ "ไม่ได้ขู่แต่ผมทำจริง หรือจะไปตอนนี้เลยก็ได้ เมื่อเช้าคุณลัยเพิ่งถามว่าไปเที่ยวเมื่อคืนสนุกไหม คุณอยากให้ผมตอบไหมล่ะว่าสนุกจนเกือบโต้รุ่ง แต่คนที่สนุกคือคุณไม