ณ. โกดังร้างย่านชานเมืองโตเกียว
แสงแดดยามเย็นที่ลอดผ่านช่องหน้าต่างแตก ๆ ไม่อาจช่วยลดความเงียบงันของโกดังร้าง เสียงลมหวีดหวิวปะปนกับเสียงเหยี่ยวร้องไกล ๆ ทำให้สถานที่แห่งนี้ดูเหมือนฉากในหนังอาชญากรรม
มิเอโกะซ่อนตัวอยู่หลังกล่องไม้เก่า ๆ ดวงตาจับจ้องไปที่กลุ่มชายชุดดำซึ่งกำลังขนย้ายกล่องเหล็กหลายใบเข้าไปในรถบรรทุก เสียงหัวหน้าแก๊งที่ยืนอยู่กลางวงดังขึ้น
หัวหน้าแก๊ง: "ระวังหน่อย อย่าให้กล่องไหนเสียหาย ของข้างในมันแพงกว่าชีวิตพวกแกซะอีก"
ชายในชุดดำพยักหน้ารับคำสั่งอย่างเคร่งขรึม มิเอโกะหรี่ตามองผ่านเลนส์กล้อง เธอพยายามซูมเข้าไปใกล้กล่องที่ถูกเปิดบางส่วน ภายในนั้นเต็มไปด้วยอาวุธและถุงพลาสติกบรรจุผงสีขาว
มิเอโกะ: (กระซิบกับตัวเองเบา ๆ)
"อาวุธ... แล้วนั่นยาเสพติดใช่ไหม? พวกมันต้องถูกจับให้ได้"
เธอเก็บภาพทุกอย่างอย่างระมัดระวัง หัวใจเต้นแรงด้วยทั้งความกลัวและความมุ่งมั่น ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดี จนกระทั่ง...
เสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น
ดวงตาของมิเอโกะเบิกกว้าง เธอรีบล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและพยายามปิดเสียงให้เร็วที่สุด แต่ไม่ทันเสียแล้ว หัวหน้าแก๊งหันขวับมาทางเธอ พร้อมกับส่งเสียงตะโกนลั่น
หัวหน้าแก๊ง: "ใครอยู่ที่นั่น! แก ไปดูให้แน่ใจ!"
ลูกน้องสามคนพุ่งตัวไปทางที่เธอซ่อนอยู่ มิเอโกะกัดริมฝีปากแน่น มือของเธอชื้นเหงื่อ เธอพยายามตั้งสติและค่อย ๆ ขยับตัวถอยหลังไปอีกด้าน
มิเอโกะ: (กระซิบกับตัวเอง)
"ใจเย็นไว้ ฉันต้องหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้"
เสียงฝีเท้าเข้าใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ เธอเหลือบมองรอบ ๆ และสังเกตเห็นทางแคบ ๆ ระหว่างกล่องไม้ เธอตัดสินใจคลานไปทางนั้น หวังจะออกไปอีกด้านของโกดัง
ลูกน้องคนที่ 1: "ฉันได้ยินเสียง! อยู่ตรงนี้!"
เธอหยุดหายใจชั่วขณะ ร่างกายแอบแนบกับพื้น กล้องในมือสั่นเล็กน้อย เธอพยายามซ่อนตัวในมุมมืดที่สุด เสียงลูกน้องแก๊งดังขึ้นอีกครั้ง
ลูกน้องคนที่ 2: "มันหนีไปทางนั้น! รีบตามไป!"
เมื่อแน่ใจว่าพวกมันวิ่งไปอีกทาง เธอจึงรีบคลานต่อไปอย่างเงียบที่สุด จนกระทั่งเธอเห็นแสงสว่างราง ๆ จากประตูทางออกฉุกเฉิน
มิเอโกะ: (กระซิบเบา ๆ)
"อีกนิดเดียว... แค่ถึงตรงนั้นก็รอดแล้ว"
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังขึ้นด้านหลัง เธอหันกลับไปมองและเห็นหนึ่งในลูกน้องแก๊งยืนอยู่ เขาจับตามองเธอด้วยสายตาดุดัน
ลูกน้องคนที่ 3: "เจอตัวแล้ว! อย่าปล่อยให้มันหนี!"
มิเอโกะรีบลุกขึ้นวิ่งสุดชีวิต เสียงตะโกนของพวกมันตามมาด้านหลัง เธอพยายามหายใจให้เป็นจังหวะและวิ่งไปยังทางออก แต่โชคร้ายที่หนึ่งในพวกมันวิ่งมาดักทางไว้
ลูกน้องคนที่ 4: "แกไปไหนไม่ได้แล้ว!"
เธอหยุดกะทันหัน หัวใจเต้นระรัว คิดหาทางออกอย่างเร่งด่วน สายตาเหลือบไปเห็นท่อนเหล็กยาวที่วางอยู่ใกล้ ๆ
มิเอโกะ: (กัดฟันแน่น)
"ถ้าหนีไม่ได้ ก็ต้องสู้"
เธอพุ่งตัวไปคว้าท่อนเหล็กก่อนจะฟาดใส่ชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว เสียงโลหะกระทบกันดังลั่น เธอไม่รอให้เขาตั้งตัว ก่อนจะรีบวิ่งออกไปอีกด้าน ทิ้งเสียงโหวกเหวกของพวกมันไว้ข้างหลัง
เธอรู้ดีว่าคืนนี้ยังอีกยาวไกล... และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความอันตราย
การปรากฏตัวของเคนชิโร่
ถนนสายเปลี่ยวหน้าไนท์คลับ Yūgen Club ในย่านชานเมืองโตเกียวถูกปกคลุมด้วยแสงไฟนีออนจาง ๆ ที่สะท้อนกับผิวถนนเปียกชื้น รถยนต์หรูสีดำสนิทจอดนิ่งสนิทอยู่ริมทาง ชายหนุ่มในชุดสูทเรียบเนี้ยบ นั่งพิงเบาะหลัง ดวงตาเย็นชาของเขาจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง
เคนชิโร่: (พูดกับคนขับด้วยเสียงเรียบนิ่ง)
"หยุดรถ"คนขับเหลือบตามองกระจกหลังเล็กน้อย แต่ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม เขาชะลอรถจนจอดสนิท เคนชิโร่เปิดประตูลงมา สายลมเย็นพัดผ่านเส้นผมที่ถูกจัดอย่างสมบูรณ์แบบ เขาหรี่ตามองไปยังเงาร่างหญิงสาวที่กำลังวิ่งหนีสุดชีวิต เสียงหอบหายใจของเธอชัดเจนแม้จะอยู่ในระยะไกล
ชายชุดดำห้าคนในฐานะบอดี้การ์ดประจำตัวรีบลงจากรถตามหลังมา พวกเขายืนเป็นแนวพร้อมรอคำสั่ง
เคนชิโร่: (ออกคำสั่งเสียงนิ่ง แต่หนักแน่น)
"ช่วยผู้หญิงคนนั้น ไม่ต้องยั้งมือ"ชายทั้งห้ารับคำสั่งโดยไม่พูดอะไร พวกเขาเคลื่อนตัวไปยังโกดังอย่างรวดเร็ว
ด้านมิเอโกะ
เธอหอบหายใจหนัก หัวใจเต้นระรัวเหมือนจะทะลุออกจากอก เสียงฝีเท้าของลูกน้องแก๊งดังอยู่ไม่ไกลด้านหลัง ความมืดของถนนข้างโกดังทำให้เธอไม่กล้าหยุดแม้แต่เสี้ยววินาที
มิเอโกะ: (กระซิบกับตัวเองอย่างหวาดหวั่น)
"ฉันจะไม่หยุด ฉันต้องรอด... ฉันยังมีงานที่ต้องทำ"เธอสะดุดก้อนหินล้มลงไปกับพื้น กล้องในมือกระเด็นไปด้านหน้า ฝุ่นคลุ้งกระจาย เธอพยายามรวบรวมแรงลุกขึ้น แต่เสียงฝีเท้าของชายชุดดำคนหนึ่งใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว
ลูกน้องแก็งค์มาเฟีย 1: "หยุดเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้นแกจะได้เจ็บตัว!"
เธอกัดริมฝีปากแน่น พยายามกลั้นน้ำตา ความกลัวทำให้ร่างกายเธอสั่น เธอเอื้อมมือไปหยิบกล้อง แต่เสียงเหล็กเสียดสีกับพื้นทำให้ชายคนนั้นกระโจนเข้ามา
การเผชิญหน้าที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง
ทันใดนั้น เสียงตะโกนของชายอีกคนดังขึ้นขัดจังหวะ
บอดี้การ์ด 1: "หยุด! ปล่อยตัวเธอซะ"
มิเอโกะหันขวับไปมอง ชายชุดสูทดำทั้งห้าคนยืนล้อมชายของแก๊งไว้ ท่าทางของพวกเขาดุดันและมีความมั่นใจ
ลูกน้องแก๊งค์มาเฟีย 2: "พวกแกเป็นใคร? อย่ามายุ่งเรื่องของเรา!"
แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะตอบ บอดี้การ์ดคนหนึ่งก็ซัดหมัดเข้าที่หน้าของชายคนนั้นอย่างจัง
เสียงการต่อสู้ดังลั่น มิเอโกะอ้าปากค้าง เธอยืนมองภาพตรงหน้าเหมือนจะหยุดหายใจ
เคนชิโร่เข้ามาในเหตุการณ์
เมื่อทุกอย่างสงบลง เคนชิโร่เดินเข้ามาในวงล้อมอย่างสง่างาม เขาจ้องมองมิเอโกะที่ยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ร่างกายเธอเต็มไปด้วยฝุ่นและรอยขีดข่วนเล็ก ๆ
เคนชิโร่: (เสียงทุ้มต่ำและอ่อนโยน)
"คุณโอเคไหม?"มิเอโกะหันมามองเขา สายตาเธอเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ
มิเอโกะ: "ฉัน... คุณเป็นใคร? ทำไมถึงช่วยฉัน?"
เคนชิโร่ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะตอบ
เคนชิโร่:
"ผมไม่ได้ตั้งใจจะยุ่งเรื่องของคุณ แต่คุณดูเหมือนต้องการความช่วยเหลือ"เขายื่นมือไปตรงหน้าเธอ
เคนชิโร่: "คุณลุกไหวไหม? หรือให้ผมช่วย?"
มิเอโกะลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจจับมือเขา เธอรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นและมั่นคงในมือของชายคนนี้
มิเอโกะ: (เสียงเบาแต่จริงใจ)
"ขอบคุณ... คุณช่วยฉันไว้จริง ๆ"เคนชิโร่: (ยิ้มมุมปากเล็กน้อย)
"ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้คุณต้องรีบไปจากที่นี่ก่อน พวกมันอาจจะกลับมาอีก"มิเอโกะ: "แล้วคุณล่ะ? คุณไม่กลัวเหรอ?"
เคนชิโร่เลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนตอบด้วยเสียงเยือกเย็น
เคนชิโร่: "ผมไม่ใช่คนที่พวกมันควรจะกลัวหรอก แต่เป็นคุณต่างหาก"
คำพูดนั้นทำให้มิเอโกะนิ่งไปชั่วขณะ เธอไม่แน่ใจว่าเขาหมายถึงอะไร แต่รู้สึกว่าคำพูดของเขามีน้ำหนักที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้
ขณะที่พวกเขาเดินออกจากโกดัง รถยนต์หรูสีดำยังจอดรออยู่ มิเอโกะไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร แต่เธอรู้ดีว่าชีวิตของเธอจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ตัดไปยัง บ้านของธัน ณ กรุงเทพมหานคร เช่าวันรุ่งขึ้นแสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องทานอาหาร ธันนั่งทานอาหารเช้ากับครอบครัว เสียงพูดคุยหยอกล้อดังขึ้นเป็นระยะๆ บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข“วันนี้ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษเลยนะลูก” แม่ทักขึ้น สังเกตเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของธัน“ก็รู้สึกว่าทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นน่ะครับแม่” ธันตอบ พยายามทำเสียงให้ดูเป็นปกติ“ก็เห็นเมื่อคืนไปทานอาหารกับคุณพิมพ์นี่นา” พ่อแซวขึ้นมา ธันยิ้มไม่ตอบ“พี่ธันไปเที่ยวกับพี่พิมพ์อีกแล้วเหรอ” พลอยถามอย่างอยากรู้“ก็แค่ไปทานข้าวเฉยๆ น่ะพลอย” ธันตอบ พลางลูบน้องสาวเบาๆ“ฉันว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ” พลอยพูดด้วยน้ำเสียงที่ขี้เล่น ธันยิ้มให้พลอย ไม่ได้พูดอะไรต่อธันทานอาหารเช้าเสร็จ ก็รีบขอตัวไปทำงาน เขารู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างที่กำลังรอเขาอยู่**ตัดไปยัง ห้องทำงานของคุณวิโรจน์ บริษัท โครงสร้างไทย จำกัด ช่วงเช้า**แสงแดดส่องเข้ามาในห้องทำงานของคุณวิโรจน์ คุณวิโรจน์นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน รอคอยการมาของพิมพ์และธัน เขายิ้มอย่างภาคภูมิใจ เมื่อเห็นทั้งคู่เดินเข้ามาในห้อง“ผมขอแสดงความยินดีกับพวกคุณทั้งสองคนอีกครั้ง” คุณวิโรจน์พูดด้วยน้ำเ
สถานที่: สวนสาธารณะสวนเคียวอิชิวันที่แห่งความหวังได้มาถึงแล้ว สวนสาธารณะเคียวอิชิเต็มไปด้วยดอกไม้ที่เบ่งบานและต้นไม้เขียวขจี ไกลออกไปจากเมืองที่เงียบสงบ มันเป็นที่ที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้นใหม่ และวันนี้มันจะกลายเป็นที่ที่ชีวิตของมิเอโกะจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เคนชิโรเดินจับมือมิเอโกะออกจากร้านคาเฟ่ ก็ชวนมิเอโกะมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆ ร้านคาเฟ่กันต่อ มิเอโกะนั่งอยู่บนม้านั่งไม้ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ เคนชิโร่เดินเข้ามาหาเธอและยิ้มอย่างอบอุ่น เขามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความมั่นคง"มิเอโกะ" เคนชิโร่เรียกชื่อเธอเบาๆ ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ "ฉันคิดมานานแล้วเกี่ยวกับเส้นทางของเรา และมันเป็นสิ่งที่ฉันมั่นใจที่สุดในชีวิต"มิเอโกะหันไปมองเขาและยิ้ม "อะไรคะ เคนชิโร่?"เคนชิโร่สูดลมหายใจเข้าลึกและหยิบกล่องเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋า เขาหยุดสักครู่ก่อนที่จะเปิดกล่องออกเผยแหวนเพชรที่สวยงาม "มิเอโกะ... ฉันไม่สามารถจินตนาการชีวิตของตัวเองหากไม่มีคุณ คุณทำให้ทุกอย่างมีความหมายมากขึ้น คุณพร้อมที่จะเดินทางไปกับฉันตลอดไปไหม?"มิเอโกะตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่ดวงตาของเธอจะเต็มไปด้วยน้
สถานที่: คาเฟ่ริมแม่น้ำ ซากุระสเตชั่นแสงแดดยามบ่ายทาบทับแม่น้ำโคะระ และท้องฟ้าโปร่งใสทำให้ทุกสิ่งที่อยู่ข้างนอกดูสดใสและเงียบสงบ มิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะในคาเฟ่ริมแม่น้ำ ซากุระสเตชั่น พร้อมกับดื่มกาแฟดำที่เธอชื่นชอบ เธอกำลังคิดถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญที่เธอทำเมื่อไม่นานมานี้ การเลือกที่จะไม่เพียงแต่เลือกเส้นทางเดียวในชีวิต แต่เลือกที่จะเดินไปข้างหน้าพร้อมกับทั้งสองทางในมือ—งานและความรักเคนชิโร่เดินเข้ามาในร้าน คาเฟ่ที่มีทั้งการตกแต่งที่อบอุ่นและบรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะกับการมานั่งพักผ่อนหลังจากวันที่วุ่นวาย เขายิ้มให้กับมิเอโกะที่นั่งอยู่ตรงมุมข้างหน้าต่าง เธอหันไปมองเขาและยิ้มตอบด้วยความอ่อนโยน"สวัสดีครับ...วันนี้ดูเหมือนคุณจะนั่งพักไปได้นานเลยนะครับ" เคนชิโร่เริ่มบทสนทนาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นมิเอโกะยิ้ม "ใช่ค่ะ บางครั้งการนั่งเงียบๆ และคิดถึงบางเรื่องมันทำให้รู้สึกสงบดีค่ะ" เธอวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะแล้วมองไปที่ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งเคนชิโร่เห็นท่าทางของเธอและรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรบางอย่าง "คุณคิดอะไรอยู่ครับ? ดูเหมือนว่าจะมีอะไรอยู่ในใจมากมาย"มิเอโกะพยักหน้าแล้วถอนหายใจลึกๆ ก่อนจะพูดต่อ
สถานที่: ร้านกาแฟริมน้ำ, สวนสาธารณะคามากูระเช้าวันใหม่ในคามากูระเต็มไปด้วยแสงแดดที่อ่อนโยนและท้องฟ้าที่ใสสะอาด มิเอโกะยืนอยู่หน้าร้านกาแฟริมน้ำที่เธอเคยมาพบเคนชิโร่หลายครั้ง มันเป็นสถานที่ที่เธอรู้สึกผ่อนคลายและสามารถคิดได้ชัดเจนในช่วงเวลาที่วุ่นวายภายในจิตใจวันนี้มิเอโกะจะต้องตัดสินใจเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตการทำงานและความรักของเธอ เธอยืนอยู่ที่นี่เพื่อให้เวลาให้ตัวเองคิดก่อนที่จะพบกับเคนชิโร่ และพูดถึงการตัดสินใจที่เธอคิดมานานไม่ไกลจากนั้นเคนชิโร่เดินเข้ามาที่ร้านกาแฟและมองเห็นมิเอโกะยืนอยู่ริมระเบียงมองไปที่ท้องทะเล สภาพแสงแดดยามเช้าทำให้ทุกอย่างดูสวยงามและเงียบสงบ เหมือนกับโลกใบนี้ให้เวลาเธอได้หายใจ และคิดสิ่งที่ต้องการจะทำเคนชิโร่เดินไปใกล้และทักทายเธอ "มิเอโกะ, คุณมาเร็วมากเลยครับ"มิเอโกะหันไปยิ้มให้เขา และเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้ ความเครียดที่สะสมไว้หลายวันเริ่มลดลงไป "ใช่ค่ะ ฉันอยากมาให้ตัวเองมีเวลาคิดอะไรหลายๆ อย่าง"ทั้งสองนั่งที่โต๊ะริมหน้าต่างของร้านกาแฟที่มองออกไปเห็นวิวทะเลที่เงียบสงบในตอนเช้า เคนชิโร่เปิดการสนทนาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "คุณยังรู้สึกไม่แน่ใจใช่ไหมครับ
สถานที่: อาคารสำนักงานมิเอโกะ, ชายหาดคามากูระหลังจากที่มิเอโกะได้รับคำปลอบใจจากเคนชิโร่ในสวนสาธารณะยูโนะ สองวันที่ผ่านมาชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและคำถามที่ค้างคาใจ เธอได้กลับไปที่บริษัทและพยายามโฟกัสกับงานมากขึ้น แต่ทุกอย่างยังคงไม่ง่ายดาย เพราะเธอยังคงรู้สึกถึงการแบ่งแยกระหว่างการทำตามความฝันในอาชีพการงานและการเลือกชีวิตส่วนตัวที่เต็มไปด้วยความรักและความสัมพันธ์วันนี้เป็นวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งในชีวิตของมิเอโกะ เพราะเธอต้องทำการตัดสินใจเรื่องใหญ่ในงานที่เธอทำอยู่กับโครงการสำคัญที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของบริษัทได้ แต่การตัดสินใจในเรื่องนี้กลับไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเพราะมันเกี่ยวข้องกับคำถามที่ยากเกี่ยวกับความสำเร็จและความรักมิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในอาคารสำนักงานของบริษัท ท่ามกลางกองเอกสารที่ซ้อนกันอยู่ เธอรู้สึกเหมือนมีโลกทั้งใบถล่มใส่ตัวเอง เมื่อเธอต้องรับผิดชอบในโครงการใหญ่ที่สามารถกำหนดทิศทางอนาคตของบริษัท แต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกที่ตึงเครียดจากความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเคนชิโร่ยังคงตามหลอกหลอนเธอโทโมโกะก้าวเข้ามาในห้องทำงานของมิเอโกะด้วยท่าทางที่จริงจัง "มิเอโกะคะ ว
สถานที่: สวนสาธารณะยูโนะในโตเกียวเมื่อมิเอโกะกลับมาถึงบริษัทในตอนเย็น ความรู้สึกที่ยังค้างอยู่จากการสนทนากับเคนชิโร่ในร้านอาหารริมทะเลคามากูระยังคงตามหลอกหลอนเธอ การตัดสินใจในชีวิตที่เธอต้องทำกำลังกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้นทุกที แต่สิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจกลับไปที่บริษัทก็เพราะไม่อยากให้ปัญหาที่เกิดขึ้นในบริษัทลุกลามไปมากกว่านี้ทุกครั้งที่เธอพยายามทิ้งปัญหานี้ไปสักพักหนึ่ง ความกดดันก็ยังคงกลับมารบกวนใจอยู่ดี เหมือนกับเงาที่ไม่สามารถหลบหนีไปได้ เธอรู้ว่าเธอจะต้องพบกับมันในอนาคตอันใกล้ และความไม่มั่นใจในเส้นทางชีวิตของเธอก็ยิ่งทำให้ความเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในระหว่างการประชุมที่บริษัท โทโมโกะเริ่มพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการใหญ่ของพวกเขา ความเครียดและความวิตกกังวลในตัวมิเอโกะเพิ่มขึ้นเมื่อได้ยินรายละเอียดของปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหานี้เป็นสิ่งที่มิเอโกะรู้ดีว่าเธอจะต้องแก้ไข แต่คำถามที่ยังค้างในใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองยังคงวนเวียนอยู่ตลอดเวลา"มิเอโกะค่ะ เราต้องการคุณในการตัดสินใจเรื่องนี้" โทโมโกะพูดด้วยน้ำเสียงเครียด "ถ้าเราไม่รีบแก้ไข ปัญหานี้จะยิ่งซับซ้อนและอาจส่งผลกระ