ในเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มิเอโกะ นักข่าวสาวไฟแรงวัย 25 ปี ผู้มีนิสัยฉลาด ขยัน และดื้อรั้น เธอไม่เคยยอมใครและรักเด็กอย่างสุดหัวใจ แต่ทว่าเธอได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเปิดโปงความลับของแก๊งค์มาเฟียยามาโตะ คุโรคิ ที่นำโดยเคนอิจิ โอกามิ ซึ่งทำให้ชีวิตของมิเอโกะตกอยู่ในอันตราย หลังจากเปิดเผยความจริงของแก๊งค์นี้ เธอถูกตามล่าจากพวกมาเฟียอย่างไม่ยอมหยุดยั้ง จนกระทั่งเธอได้พบกับเคนชิโร่ เจ้าของธุรกิจไนท์คลับ ในเมืองเดียวกันกับแก๊งค์ยามาโตะ คุโรคิ เคนชิโร่ อายุ 30 ปี ผู้มีนิสัยเงียบขรึม เยือกเย็น และลึกลับ เขามีทั้งบารมีและอำนาจ แต่กลับมีความขัดแย้งในตนเองที่ไม่เคยแสดงให้ใครเห็น เมื่อเขาเห็นมิเอโกะโดนตามล่า เคนชิโร่ไม่ลังเลที่จะช่วยเธอและปกป้องเธอจากการถูกทำร้าย การพบกันครั้งนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ต้องการล้มล้างแก๊งค์มาเฟียยามาโตะ คุโรคิ ทั้งสองคนจึงต้องร่วมมือกันเพื่อโค่นล้มศัตรูที่มีอำนาจเหนือกว่า พวกเขาฝ่าฟันอันตรายไปด้วยกัน และความใกล้ชิดก็แปรเปลี่ยนเป็นความรัก เมื่อมิเอโกะได้ช่วยเคนชิโร่ให้มีความอ่อนโยนและใจเย็นมากขึ้น เคนชิโร่ที่เคยเยือกเย็นกลับเปิดใจให้กับความรักที่ไม่คาดคิดในที่สุด
View More**ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น**
แสงแรกของวันใหม่สาดส่องผ่านม่านโชจิ (Shoji - ประตูกระดาษแบบญี่ปุ่น) สู่ห้องนั่งเล่นสไตล์ญี่ปุ่นโมเดิร์น แสงสีทองอ่อนแต่งแต้มห้องที่ตกแต่งด้วยไม้และโทนสีอบอุ่น ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสงบ สวนญี่ปุ่นขนาดย่อมหน้าบ้าน ต้นซากุระเริ่มผลิบาน แต่งแต้มสีชมพูอ่อนขับกับสีเขียวชอุ่มของใบไม้ แม้จะเป็นเวลาเช้าตรู่ แต่บรรยากาศกลับเต็มไปด้วยความสดชื่น และพลังแห่งการเริ่มต้นวันใหม่
เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วแว่วมาจากสวน มิเอโกะ นักข่าวสาววัย 25 ปี ผู้มีใบหน้าหวานซ่อนความดื้อรั้นและห้าวหาญอยู่ในที ยังคงนอนขดตัวอยู่บนฟูกนุ่มๆ จนกระทั่งกลิ่นหอมของมัทฉะ (Matcha - ชาเขียว) ลอยกรุ่นมาจากห้องครัว แน่นอนว่าต้องเป็นฝีมือคุณแม่ผู้เชี่ยวชาญศิลปะการชงชาอย่างพิถีพิถัน
“เช้าวันใหม่อีกแล้วสินะ” มิเอโกะพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะดีดตัวลุกจากฟูกอย่างกระฉับกระเฉง เธอมีแผนการใหญ่รออยู่
ในห้องครัว คุณคิซูกะ คุณแม่วัย 55 ปี ผู้เป็นแม่บ้านที่เปี่ยมด้วยความอ่อนโยน กำลังชงชาเขียวด้วยท่วงท่าอันงดงาม ส่วนคุณฮิโรชิ คุณพ่อวัย 60 ปี สถาปนิกผู้สุขุม กำลังจิบชาอ่านหนังสือพิมพ์อย่างผ่อนคลาย
“อ้าว...มิเอโกะจัง วันนี้ตื่นเช้าจังเลยนะลูก” คุณคิซูกะเอ่ยทักด้วยรอยยิ้มละไม
“วันนี้หนูมีนัดสำคัญค่ะแม่ ต้องรีบไปเตรียมตัว” มิเอโกะตอบพลางส่งยิ้มหวานให้แม่ ดวงตาของเธอเป็นประกายวาววับ บ่งบอกถึงความมุ่งมั่น
ซูนิโอะ พี่ชายวัย 30 ปี วิศวกรหนุ่มผู้รับผิดชอบโครงการก่อสร้างใหญ่ กำลังทานอาหารเช้าอยู่ เขาเหลือบมองน้องสาว พลางหัวเราะเบาๆ
“วันนี้จะไปขุดคุ้ยเรื่องอะไรอีกล่ะ หืม? ระวังตัวบ้างนะ งานข่าวสายสืบสวนน่ะ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ” ซูนิโอะพูดพร้อมส่งยิ้มแหย่แกมเป็นห่วง
“พี่ก็เหมือนกันนั่นแหละ ระวังอุบัติเหตุในไซต์งานบ้างเถอะ งานหนูก็แค่ตีแผ่ความจริง ไม่เสี่ยงเท่าพี่หรอก” มิเอโกะโต้กลับทันควัน พร้อมทำท่าทางขึงขัง น่ารักน่าเอ็นดู
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเช้าอบอวลไปด้วยความรักและความอบอุ่น เสียงหัวเราะและบทสนทนาเบาๆ ของสมาชิกในครอบครัวดังคลอเคล้ากัน คุณฮิโรชิ ผู้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองอย่างใกล้ชิด เริ่มเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในโตเกียวที่เขาอ่านพบในหนังสือพิมพ์
“เมื่อคืนนี้มีข่าวใหญ่ แก๊งยากูซ่ากำลังแผ่อิทธิพลมากขึ้นในโตเกียว นักข่าวที่เขียนข่าวนี้น่าจะเก่งไม่เบา ต้องใช้ทั้งความกล้าและความสามารถในการสืบสวน” คุณฮิโรชิแสดงความคิดเห็น
มิเอโกะชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “จริงๆ แล้วหนูก็กำลังสืบข่าวเกี่ยวกับแก๊งยากูซ่าอยู่เหมือนกันค่ะพ่อ แก๊งยามาโตะ คุโรคิ หนูคิดว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากล”
“ระวังตัวด้วยนะลูก ข่าวพวกนี้อันตราย” คุณคิซูกะเตือนด้วยความเป็นห่วง
มิเอโกะพยักหน้า “ค่ะแม่ หนูจะระวังตัว แต่หนูต้องเปิดโปงคนชั่วพวกนี้ให้ได้”
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ มิเอโกะก็รีบเตรียมตัวไปทำงาน ในห้องนอนของเธอ ตกแต่งเรียบง่ายด้วยโทนสีอบอุ่น สะท้อนบุคลิกที่ดูอ่อนหวานแต่แฝงไปด้วยความเด็ดเดี่ยว เธอเปิดตู้เสื้อผ้า เลือกชุดทำงานที่ดูเรียบร้อยแต่คล่องตัว เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกระโปรงทรงดินสอสีเข้ม หยิบโน้ตบุ๊กคู่ใจและกล้องถ่ายภาพ เธอไม่ลืมที่จะพกปากกาบันทึกเล่มเล็กติดตัวไปด้วย
“วันนี้ฉันจะทำให้ดีที่สุด” มิเอโกะบอกกับตัวเองในกระจก แววตาของเธอฉายแววมุ่งมั่น เธอไม่ใช่แค่นักข่าวสาวสวยน่ารัก แต่ยังเป็นนักข่าวที่มุ่งมั่น ไม่ยอมให้ความอยุติธรรมลอยนวล
มิเอโกะเดินออกจากบ้าน มุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟใต้ดินโตเกียว บรรยากาศในสถานีช่วงเช้าช่างคึกคัก ผู้คนเร่งรีบไปทำงาน เสียงประกาศจากลำโพง เสียงพูดคุยจอแจ และเสียงดนตรีบรรเลงเบาๆ ผสมผสานกัน ระหว่างนั่งรถไฟใต้ดิน มิเอโกะใช้เวลาอ่านข่าวบนแท็บเล็ต เธอสังเกตผู้คนรอบตัว แต่ละคนดูเหมือนจะจมอยู่ในความคิดของตัวเอง แต่สำหรับมิเอโกะแล้ว ทุกสิ่งรอบตัวล้วนเป็นข้อมูล และการสังเกตก็เป็นส่วนหนึ่งของงาน
ระหว่างทางไปสำนักงานข่าว Tokyo Horizon News มิเอโกะเริ่มจดบันทึกไอเดียเกี่ยวกับการสืบสวนแก๊งยามาโตะ คุโรคิ เธอขบคิดวางแผนการทำงานอย่างรอบคอบ
เมื่อมาถึงสำนักงานข่าว ตึกกระจกทันสมัยใจกลางกรุงโตเกียว มิเอโกะเดินเข้าไปอย่างมั่นใจ เพื่อนร่วมงานทักทายเธออย่างสนุกสนาน เธอมีเพื่อนสนิทสามคนที่นี่ พวกเขามักจะแลกเปลี่ยนเรื่องราวและหัวเราะกันอย่างครื้นเครง
“มาแล้วเหรอมิเอโกะ วันนี้มีข่าวอะไรเด็ดๆ มาบ้าง” มินจี เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งถาม
“ฉันกำลังสืบเรื่องแก๊งยามาโตะ คุโรคิ อยู่ น่าสนใจมากเลยล่ะ” มิเอโกะตอบพร้อมรอยยิ้ม
คุณมิยามุโตะ บรรณาธิการข่าว เดินเข้ามาพอดี “มิเอโกะ เรารู้ว่าเธอเก่งและไหวพริบดี แต่เรื่องนี้มันอันตรายกว่าที่คิด ต้องระมัดระวังตัวให้มาก”
มิเอโกะพยักหน้ารับ “ค่ะ ฉันจะระวังตัว และจะทำข่าวนี้ออกมาให้ดีที่สุด” เธอตอบอย่างมั่นใจ
หลังจากการประชุมเช้ากับหัวหน้าข่าวเพื่อวางแผนการทำข่าว มิเอโกะก็มุ่งหน้าไปยังโต๊ะทำงานของเธอ เธอเริ่มต้นค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับแก๊งยามาโตะ คุโรคิ อย่างละเอียด เธอจดบันทึก วางแผนการสืบสวนอย่างรอบคอบ ริมฝีปากเม้มเข้าหากันเล็กน้อยขณะที่ใช้ความคิด
“ฉันจะต้องเปิดโปงพวกมันให้ได้” เธอพึมพำกับตัวเอง ในแววตาฉายแววความมุ่งมั่น เธอพร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทาย และนำความยุติธรรมกลับคืนสู่สังคม
ตัดไปยัง บ้านของธัน ณ กรุงเทพมหานคร เช่าวันรุ่งขึ้นแสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องทานอาหาร ธันนั่งทานอาหารเช้ากับครอบครัว เสียงพูดคุยหยอกล้อดังขึ้นเป็นระยะๆ บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข“วันนี้ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษเลยนะลูก” แม่ทักขึ้น สังเกตเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของธัน“ก็รู้สึกว่าทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นน่ะครับแม่” ธันตอบ พยายามทำเสียงให้ดูเป็นปกติ“ก็เห็นเมื่อคืนไปทานอาหารกับคุณพิมพ์นี่นา” พ่อแซวขึ้นมา ธันยิ้มไม่ตอบ“พี่ธันไปเที่ยวกับพี่พิมพ์อีกแล้วเหรอ” พลอยถามอย่างอยากรู้“ก็แค่ไปทานข้าวเฉยๆ น่ะพลอย” ธันตอบ พลางลูบน้องสาวเบาๆ“ฉันว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ” พลอยพูดด้วยน้ำเสียงที่ขี้เล่น ธันยิ้มให้พลอย ไม่ได้พูดอะไรต่อธันทานอาหารเช้าเสร็จ ก็รีบขอตัวไปทำงาน เขารู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างที่กำลังรอเขาอยู่**ตัดไปยัง ห้องทำงานของคุณวิโรจน์ บริษัท โครงสร้างไทย จำกัด ช่วงเช้า**แสงแดดส่องเข้ามาในห้องทำงานของคุณวิโรจน์ คุณวิโรจน์นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน รอคอยการมาของพิมพ์และธัน เขายิ้มอย่างภาคภูมิใจ เมื่อเห็นทั้งคู่เดินเข้ามาในห้อง“ผมขอแสดงความยินดีกับพวกคุณทั้งสองคนอีกครั้ง” คุณวิโรจน์พูดด้วยน้ำเ
สถานที่: สวนสาธารณะสวนเคียวอิชิวันที่แห่งความหวังได้มาถึงแล้ว สวนสาธารณะเคียวอิชิเต็มไปด้วยดอกไม้ที่เบ่งบานและต้นไม้เขียวขจี ไกลออกไปจากเมืองที่เงียบสงบ มันเป็นที่ที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้นใหม่ และวันนี้มันจะกลายเป็นที่ที่ชีวิตของมิเอโกะจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เคนชิโรเดินจับมือมิเอโกะออกจากร้านคาเฟ่ ก็ชวนมิเอโกะมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆ ร้านคาเฟ่กันต่อ มิเอโกะนั่งอยู่บนม้านั่งไม้ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ เคนชิโร่เดินเข้ามาหาเธอและยิ้มอย่างอบอุ่น เขามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความมั่นคง"มิเอโกะ" เคนชิโร่เรียกชื่อเธอเบาๆ ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ "ฉันคิดมานานแล้วเกี่ยวกับเส้นทางของเรา และมันเป็นสิ่งที่ฉันมั่นใจที่สุดในชีวิต"มิเอโกะหันไปมองเขาและยิ้ม "อะไรคะ เคนชิโร่?"เคนชิโร่สูดลมหายใจเข้าลึกและหยิบกล่องเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋า เขาหยุดสักครู่ก่อนที่จะเปิดกล่องออกเผยแหวนเพชรที่สวยงาม "มิเอโกะ... ฉันไม่สามารถจินตนาการชีวิตของตัวเองหากไม่มีคุณ คุณทำให้ทุกอย่างมีความหมายมากขึ้น คุณพร้อมที่จะเดินทางไปกับฉันตลอดไปไหม?"มิเอโกะตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่ดวงตาของเธอจะเต็มไปด้วยน้
สถานที่: คาเฟ่ริมแม่น้ำ ซากุระสเตชั่นแสงแดดยามบ่ายทาบทับแม่น้ำโคะระ และท้องฟ้าโปร่งใสทำให้ทุกสิ่งที่อยู่ข้างนอกดูสดใสและเงียบสงบ มิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะในคาเฟ่ริมแม่น้ำ ซากุระสเตชั่น พร้อมกับดื่มกาแฟดำที่เธอชื่นชอบ เธอกำลังคิดถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญที่เธอทำเมื่อไม่นานมานี้ การเลือกที่จะไม่เพียงแต่เลือกเส้นทางเดียวในชีวิต แต่เลือกที่จะเดินไปข้างหน้าพร้อมกับทั้งสองทางในมือ—งานและความรักเคนชิโร่เดินเข้ามาในร้าน คาเฟ่ที่มีทั้งการตกแต่งที่อบอุ่นและบรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะกับการมานั่งพักผ่อนหลังจากวันที่วุ่นวาย เขายิ้มให้กับมิเอโกะที่นั่งอยู่ตรงมุมข้างหน้าต่าง เธอหันไปมองเขาและยิ้มตอบด้วยความอ่อนโยน"สวัสดีครับ...วันนี้ดูเหมือนคุณจะนั่งพักไปได้นานเลยนะครับ" เคนชิโร่เริ่มบทสนทนาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นมิเอโกะยิ้ม "ใช่ค่ะ บางครั้งการนั่งเงียบๆ และคิดถึงบางเรื่องมันทำให้รู้สึกสงบดีค่ะ" เธอวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะแล้วมองไปที่ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งเคนชิโร่เห็นท่าทางของเธอและรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรบางอย่าง "คุณคิดอะไรอยู่ครับ? ดูเหมือนว่าจะมีอะไรอยู่ในใจมากมาย"มิเอโกะพยักหน้าแล้วถอนหายใจลึกๆ ก่อนจะพูดต่อ
สถานที่: ร้านกาแฟริมน้ำ, สวนสาธารณะคามากูระเช้าวันใหม่ในคามากูระเต็มไปด้วยแสงแดดที่อ่อนโยนและท้องฟ้าที่ใสสะอาด มิเอโกะยืนอยู่หน้าร้านกาแฟริมน้ำที่เธอเคยมาพบเคนชิโร่หลายครั้ง มันเป็นสถานที่ที่เธอรู้สึกผ่อนคลายและสามารถคิดได้ชัดเจนในช่วงเวลาที่วุ่นวายภายในจิตใจวันนี้มิเอโกะจะต้องตัดสินใจเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตการทำงานและความรักของเธอ เธอยืนอยู่ที่นี่เพื่อให้เวลาให้ตัวเองคิดก่อนที่จะพบกับเคนชิโร่ และพูดถึงการตัดสินใจที่เธอคิดมานานไม่ไกลจากนั้นเคนชิโร่เดินเข้ามาที่ร้านกาแฟและมองเห็นมิเอโกะยืนอยู่ริมระเบียงมองไปที่ท้องทะเล สภาพแสงแดดยามเช้าทำให้ทุกอย่างดูสวยงามและเงียบสงบ เหมือนกับโลกใบนี้ให้เวลาเธอได้หายใจ และคิดสิ่งที่ต้องการจะทำเคนชิโร่เดินไปใกล้และทักทายเธอ "มิเอโกะ, คุณมาเร็วมากเลยครับ"มิเอโกะหันไปยิ้มให้เขา และเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้ ความเครียดที่สะสมไว้หลายวันเริ่มลดลงไป "ใช่ค่ะ ฉันอยากมาให้ตัวเองมีเวลาคิดอะไรหลายๆ อย่าง"ทั้งสองนั่งที่โต๊ะริมหน้าต่างของร้านกาแฟที่มองออกไปเห็นวิวทะเลที่เงียบสงบในตอนเช้า เคนชิโร่เปิดการสนทนาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "คุณยังรู้สึกไม่แน่ใจใช่ไหมครับ
สถานที่: อาคารสำนักงานมิเอโกะ, ชายหาดคามากูระหลังจากที่มิเอโกะได้รับคำปลอบใจจากเคนชิโร่ในสวนสาธารณะยูโนะ สองวันที่ผ่านมาชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและคำถามที่ค้างคาใจ เธอได้กลับไปที่บริษัทและพยายามโฟกัสกับงานมากขึ้น แต่ทุกอย่างยังคงไม่ง่ายดาย เพราะเธอยังคงรู้สึกถึงการแบ่งแยกระหว่างการทำตามความฝันในอาชีพการงานและการเลือกชีวิตส่วนตัวที่เต็มไปด้วยความรักและความสัมพันธ์วันนี้เป็นวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งในชีวิตของมิเอโกะ เพราะเธอต้องทำการตัดสินใจเรื่องใหญ่ในงานที่เธอทำอยู่กับโครงการสำคัญที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของบริษัทได้ แต่การตัดสินใจในเรื่องนี้กลับไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเพราะมันเกี่ยวข้องกับคำถามที่ยากเกี่ยวกับความสำเร็จและความรักมิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในอาคารสำนักงานของบริษัท ท่ามกลางกองเอกสารที่ซ้อนกันอยู่ เธอรู้สึกเหมือนมีโลกทั้งใบถล่มใส่ตัวเอง เมื่อเธอต้องรับผิดชอบในโครงการใหญ่ที่สามารถกำหนดทิศทางอนาคตของบริษัท แต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกที่ตึงเครียดจากความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเคนชิโร่ยังคงตามหลอกหลอนเธอโทโมโกะก้าวเข้ามาในห้องทำงานของมิเอโกะด้วยท่าทางที่จริงจัง "มิเอโกะคะ ว
สถานที่: สวนสาธารณะยูโนะในโตเกียวเมื่อมิเอโกะกลับมาถึงบริษัทในตอนเย็น ความรู้สึกที่ยังค้างอยู่จากการสนทนากับเคนชิโร่ในร้านอาหารริมทะเลคามากูระยังคงตามหลอกหลอนเธอ การตัดสินใจในชีวิตที่เธอต้องทำกำลังกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้นทุกที แต่สิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจกลับไปที่บริษัทก็เพราะไม่อยากให้ปัญหาที่เกิดขึ้นในบริษัทลุกลามไปมากกว่านี้ทุกครั้งที่เธอพยายามทิ้งปัญหานี้ไปสักพักหนึ่ง ความกดดันก็ยังคงกลับมารบกวนใจอยู่ดี เหมือนกับเงาที่ไม่สามารถหลบหนีไปได้ เธอรู้ว่าเธอจะต้องพบกับมันในอนาคตอันใกล้ และความไม่มั่นใจในเส้นทางชีวิตของเธอก็ยิ่งทำให้ความเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในระหว่างการประชุมที่บริษัท โทโมโกะเริ่มพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการใหญ่ของพวกเขา ความเครียดและความวิตกกังวลในตัวมิเอโกะเพิ่มขึ้นเมื่อได้ยินรายละเอียดของปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหานี้เป็นสิ่งที่มิเอโกะรู้ดีว่าเธอจะต้องแก้ไข แต่คำถามที่ยังค้างในใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองยังคงวนเวียนอยู่ตลอดเวลา"มิเอโกะค่ะ เราต้องการคุณในการตัดสินใจเรื่องนี้" โทโมโกะพูดด้วยน้ำเสียงเครียด "ถ้าเราไม่รีบแก้ไข ปัญหานี้จะยิ่งซับซ้อนและอาจส่งผลกระ
สถานที่: ร้านอาหารริมทะเลคามากูระหลังจากคืนที่เต็มไปด้วยความคิดในคาเฟ่ริมแม่น้ำสุมิดะ มิเอโกะรู้สึกถึงแรงกดดันจากการตัดสินใจที่ต้องเผชิญในชีวิตของเธอ แม้ว่าเคนชิโร่จะทำให้เธอรู้สึกสบายใจ แต่เธอก็ยังคงมีคำถามในใจเกี่ยวกับอนาคต ความไม่แน่นอนของเส้นทางที่เธอเลือกเดินยังคงเป็นภาระที่เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้วันต่อมา เคนชิโร่ได้พามิเอโกะไปยังร้านอาหารริมทะเลคามากูระ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาชื่นชอบมากที่สุดที่หนึ่ง สถานที่แห่งนี้มองเห็นทะเลที่เปิดกว้างและท้องฟ้าที่กว้างไกล บรรยากาศสงบและร่มรื่น เหมาะกับการพูดคุยและทำความเข้าใจชีวิตในมุมมองใหม่ร้านอาหารมีพื้นที่กลางแจ้งที่มองเห็นวิวทะเลและยังมีกลิ่นของเกลือทะเลที่ลอยมาจากข้างๆ เมื่อทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะริมหน้าต่างที่มองเห็นคลื่นทะเลที่กระทบชายหาด มิเอโกะรู้สึกถึงความสงบและสดชื่นที่เริ่มเข้ามาในใจเธอ แม้ว่าจะยังคงมีคำถามที่ติดค้างในใจ"คุณรู้ไหมคะว่าเมื่อก่อนฉันเคยคิดว่าความสำเร็จในชีวิตคือการมีทุกอย่างที่อยากได้ แต่พอได้ลองใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและความรับผิดชอบ ทุกอย่างมันกลับดูซับซ้อนเกินไป" มิเอโกะเริ่มพูดอย่างเปิดใจ ขณะที่เธอสังเ
สถานที่: คาเฟ่ริมแม่น้ำสุมิดะหลังจากวันที่เต็มไปด้วยความท้าทายในการทำงาน มิเอโกะพบว่าเธอต้องการเวลาเพื่อฟื้นฟูจิตใจและพักผ่อนจากความเครียดจากธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบ วันนั้นเธอได้ตัดสินใจโทรหาคนที่เธอรู้สึกว่าอาจเป็นแหล่งของความสงบ—เคนชิโร่ หลังจากที่ได้พูดคุยกันในวันก่อนหน้า เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังเติบโตขึ้นทีละเล็กทีละน้อยทั้งสองตกลงที่จะพบกันที่คาเฟ่ริมแม่น้ำสุมิดะ สถานที่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสงบและสวยงาม ตลอดทั้งเส้นทางการเดินจากสำนักงานไปยังคาเฟ่ มิเอโกะรู้สึกถึงความตึงเครียดในตัวเองที่เริ่มคลายลงเล็กน้อย เมื่อเธอเห็นเคนชิโร่ยืนรอที่มุมหนึ่งของคาเฟ่ เขาดูสงบและมั่นคงเช่นเคย รอยยิ้มของเขาทำให้ความเครียดที่สะสมมาทั้งวันเริ่มลดลง"สวัสดีครับ" เคนชิโร่ทักทายมิเอโกะด้วยเสียงนุ่มนวล ขณะที่เขาเชิญให้เธอนั่งลงที่โต๊ะริมหน้าต่างที่มองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำสุมิดะที่ไหลเอื่อยๆ และท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสีไปในยามเย็น"สวัสดีค่ะ" มิเอโกะยิ้มตอบและนั่งลงอย่างสบายๆ ก่อนจะหยิบแก้วกาแฟที่เสิร์ฟให้ขึ้นมาดื่ม "วันนี้วันยาวจริงๆ ค่ะ รู้สึกเหมือนทุกอย่างต้องการความสนใจพร้อมๆ กัน"เคนชิโ
สถานที่: สวนริมน้ำซุมิดะ, โตเกียวฤดูใบไม้ผลิเริ่มแสดงตัวตนผ่านความสดใสของดอกซากุระที่เบ่งบานสะพรั่งรอบๆ สวนริมน้ำซุมิดะในกรุงโตเกียว เสียงน้ำที่ไหลเย็นผ่านหินในลำธารได้สร้างบรรยากาศอันสงบเงียบ ท่ามกลางสายลมเย็นๆ ที่พัดผ่าน มิเอโกะและเคนชิโร่เดินเคียงข้างกันท่ามกลางดอกซากุระที่กำลังผลิบาน สองคนต่างรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไม่มีคำพูดใดสามารถแทนที่ได้ การเดินในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยความสงบจากธรรมชาติที่ล้อมรอบพวกเขา ทั้งสองยิ้มให้กันโดยไม่ต้องพูดอะไร ตลอดระยะทางที่เดินไปด้วยกัน พวกเขาก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องพูดคุยมาก เพราะความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังเติบโตขึ้นในรูปแบบที่เงียบสงบและมั่นคง“คุณเคยคิดไหมครับว่า... อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต?” เคนชิโร่ถามเสียงเบา ขณะที่สายตาของเขาจับจ้องไปที่ต้นซากุระที่กำลังผลิบานอย่างงดงาม "บางครั้งมันทำให้ผมรู้สึกว่าชีวิตมันไม่แน่นอน เราไม่อาจจะรู้ได้ว่าความท้าทายใหญ่ๆ จะมาเมื่อไหร่"มิเอโกะหันมามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ "ชีวิตทุกชีวิตมีอุปสรรคค่ะ แต่เราผ่านมันมาได้แล้วหลายครั้งแล้ว ไม่ใช่เหรอคะ? ดังนั้น ถ้าเรายังอยู่ข้างกัน เราก็จะเอาชนะทุกอุปสรรคที่ขว
Comments