Share

คิดมาก

last update Last Updated: 2025-10-23 07:23:31

มันเหมือนทุกอย่างหยุดนิ่งไปนะคะ ในวินาทีที่พี่บอมส์โน้มตัวเข้ามาใกล้ และจูบลงที่แก้มฉัน มือทั้งสองข้างของฉันจับรั้วปูนแน่นขึ้นเพื่อทรงตัวจากอาการอึ้งช็อค

...คนใจร้าย เกือบได้จูบแรกฉันไปซะแล้วสิ...

ฉันอยากจะต่อว่าอะไรพี่บอมส์สักหน่อยนะ แต่ก็พูดไม่ออกเลยสักคำ เพราะความเขินมันพุ่งขึ้นสูงเกินขีดจำกัดไปแล้ว

“นี่ หมวยเล็ก” พี่บอมส์เรียกและเขย่าตัวฉันเบาๆ แต่พอฉันขยับตัวได้เท่านั้นแหละ ฉันก็วิ่งจากรั้วปูนกลับเข้ามายืนตั้งหลักหลังประตูเหล็กทันที ฉันเลยได้ยินเพียงเสียงพี่บอมส์พูดไล่หลังมาว่า “ยังไม่บอกเลยนะ ว่า อายุเท่าไหร่”

...จะถามอายุกันไปทำไมนะ...

ฉันคิดสงสัยในความอยากรู้ของคนๆ นั้น แต่ก็ไม่คิดจะกลับออกไปถามอะไรหรอกนะ ไม่รู้จะเอาความกล้าที่ไหนสั่งให้ขามันเดินกลับออกไปที่รั้วปูนตรงนั้น เพราะฉันยังคงยืนพิงผนังเย็นๆ ข้างประตูเหล็กที่ปิดไม่สนิท มือข้างหนึ่งก็ยังแตะนิ่งอยู่ที่แก้มขวา ซึ่งฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ไม่กี่วินาทีก่อน มันเพิ่งจะได้สัมผัสริมฝีปากสวยๆ ของพี่บอมส์ ที่ฉันเฝ้ามองจนเคยเก็บมาคิดฟุ้งซ่านเป็นวันๆ ได้น่ะ

ในเช้าวันต่อมา ฉันมาโรงเรียนอย่างใจลอยเอาเรื่องเลย ทั้งเสียงของพี่บอมส์ ทั้งสัมผัสที่แก้ม มันเหมือนตามหลอนฉันอยู่เรื่อยๆ ทั้งวัน

“แกๆ อาจารย์เรียก”

เสียงเพื่อนที่เรียกพร้อมสะกิดที่ไหล่ทำให้ฉันหลุดจากภวังค์ และรู้ตัวว่าเหม่อมากไป จนอาจารย์บอกให้ออกไปล้างหน้าล้างตาเรียกสติซะหน่อย แถมวานให้ฉันกับเพื่อนยกกองสมุดการบ้านไปไว้ในห้องพักครูอีกด้วย แต่ฉันถือสมุดไปได้ยังไม่ถึงครึ่งทางก็ทำสมุดร่วงกราวลงพื้นซะอย่างงั้น

“หมวยเล็ก ฉันว่าแกไปล้างหน้าซะหน่อยก็ดีนะ ดูแกง่วงๆ มึนๆ แปลกๆ อ่ะ เดี๋ยวสมุดพวกนี้ฉันจัดการเอง” คุณเพื่อนสุดที่รักออกปากกับฉัน ทั้งสนับสนุนคำแนะนำของอาจารย์อย่างนั้น ฉันก็ไม่กล้าดื้ออะไรแล้วล่ะ แต่ว่า...

“ไหวเหรอแก สมุดตั้งกองเบ้อเร้อ”

“ไหวน่า... ไม่ต้องห่วง” คุณเพื่อนบอกอย่างนั้นแล้วหอบเอาสมุดตั้งสูงๆ ลุกขึ้นยืน

...ดูแข็งแกร่งจนน่าทึ่งเลยแฮะ...

ขณะที่สัญญาณเข้าคาบเรียน คาบต่อไปดังขึ้น ฉันได้แต่ยืนมองจนคุณเพื่อนเดินเลี้ยวลงบันไดตึกไปพร้อมกับสมุดราวๆ ห้าสิบเล่มที่เกือบจะท่วมหัวคุณเพื่อนจนมิด ตลอดทางที่เดินไปห้องน้ำนอกตึกเรียน ฉันเลยได้แต่ภาวนาให้คุณเพื่อนปลอดภัยจากกองสมุดกองนั้น

ในห้องน้ำโรงเรียน ฉันมองภาพตัวเองที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงาบานใหญ่ แล้วได้แต่ถอนหายใจให้ความเขินเกินเหตุที่ทำเอาฉันไม่เป็นอันเรียนหนังสือเลยวันนี้ เพราะฉันยังเผลอนึกถึงตอนที่พี่บอมส์โน้มตัวเข้ามาใกล้แล้วฉันก็จะเผลอตัวยกมือแตะแก้มตัวเองอยู่บ่อยๆ นั่นแหละ ฉันก้มลงวักน้ำขึ้นล้างหน้าอีกครั้งก่อนเดินออกมาจากห้องน้ำ ตอนนั้นมีนักเรียนหญิงสองคนเดินสวนเข้ามาในห้องน้ำ ทำให้ฉันต้องเบี่ยงตัวหลบพวกเธอขณะที่ฉันเดินออกจากห้องน้ำ กว่าฉันจะรู้ตัวว่าเข็มกลัดบนอกเสื้อหายไปฉันก็เดินไปจนเกือบถึงห้องเรียนแล้ว และการที่ฉันเดินกลับมาหาเข็มกลัดที่ห้องน้ำนี่แหละ ที่ทำให้ฉันบังเอิญเปิดประตูไปเจอนักเรียนหญิงสองคนนั้น ยืนจูบกันอยู่ตรงหน้ากระจก แม้จะตกใจและรีบออกมาจากตรงนั้น แต่ฉันก็ไม่ลืมที่จะปิดประตูให้สนิทตามเดิม เพราะเธอทั้งสองคนนั้นยังไม่รู้ตัวว่ามีคนเห็นอะไรๆ ที่เธอทำกันซะแล้ว

...บ้าจริง จะถอยเข้าไปจูบกันในห้องน้ำสักห้องก็ไม่ได้นะพวกเธอ...

สิ่งที่ฉันเจอมาตลอดหลายสัปดาห์ตั้งแต่วันที่มีฝนดาวตก มันกำลังจะทำให้ฉันสติกระเจิง ทำไมคนรอบๆ ตัวฉันถึงได้ดูจะกระหายเรื่องพวกนั้นกันนักนะ 

ฉันเดินเตร็ดเตร่ปล่อยอารมณ์อยู่นานเลยนะ กว่าจะกลับเข้าบ้านด้วยอาการเหม่อไม่หาย และยังมาเจอพี่สาวกำลังนั่งคุยกับคุณบรรณารักษ์ในห้องนอน ท่าทางสวีทกันจนฉันแอบจินตนาการต่อได้เลยว่า สักพักคงมีเหตุได้ทำอะไรๆ ติดเรทกันอีกแน่ ฉันเลยไม่อยากจะขัดจังหวะ จึงเลือกที่จะย่องผ่านประตูห้องพี่ที่เปิดทิ้งไว้ ขึ้นไปชั้นสามอย่างเงียบๆ พอเข้าห้องได้ฉันก็เปิดเพลงให้ดังที่สุด ฉันหวังว่ามันจะกลบเสียงอะไรก็ตามที่จะมากวนให้ฉันเผลอคิดอะไรฟุ้งซ่านอีก

แต่อะไรๆ มันก็ยังไม่จบลงง่ายๆ เพราะฉันยังแอบคิดอยู่ว่า พี่สาวกับคุณบรรณารักษ์จะแอบทำอะไรๆ กันอีกรึเปล่า และถ้าหากคืนนี้ฉันขึ้นไปบนดาดฟ้า ฉันจะต้องทนเห็นพี่บอมส์พาใครมามีอะไรๆ กันอีกมั้ย แล้วถ้าฉันเอาแต่นอนนิ่งๆ อยู่ในห้องอย่างนี้ ฉันจะหลับไปเองมั้ยนะ เพราะฉันยังฟุ้งซ่านไม่ต่างกับตอนที่เดินเล่นในสวนสาธารณะเมื่อตอนเย็นเลย ไม่ว่ายังไงฉันก็ฟุ้งซ่านและทำท่าว่าจะหลับลงได้ยากในคืนนี้ มันเหมือนฉันกำลังถูกคุกคามโดยอะไรบางอย่าง

...อะไรบางอย่าง ที่อาจเป็นความคิดของฉันเอง...

ฉันตัดสินใจลุกจากเตียงมายืนที่นอกระเบียงห้อง ตอนที่ฟ้ามืดไปแล้วนั่นแหละ ฉันถึงได้เห็นพี่สาวกับคุณบรรณารักษ์เดินข้ามสะพานลอยมาจากฝั่งตรงข้าม และหยุดยืนคุยกันอยู่ที่กลางสะพาน ท่าทีหยอกเย้ากันของสองคนนั้นทำให้ฉันหลุดยิ้มออกมา

...น่าอิจฉาชะมัด พวกคนมีแฟนเนี่ย...

ความจริงแล้ว ใครจะทำอะไรๆ กันยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของฉันซะหน่อย นี่ฉันเก็บอะไรพวกนั้นมาคิดฟุ้งซ่านทำไมก็ไม่รู้สิ แล้วอีกอย่างนะ ทำไมฉันต้องเลิกล้มความคิดที่จะขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าเพราะเพื่อนบ้านคนนั้นด้วยล่ะ ถึงเธอจะลามปามขนาดมา...เอ่อ มาทำแบบนั้นกับฉันก็เหอะ ฉันคิดว่า ฉันคงต้องไปเคลียร์กับพี่บอมส์ให้เข้าใจกันไปว่า เธอไม่ควรทำอะไรล่วงเกินฉันอีก เพราะฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่พี่บอมส์ชอบพามาบนดาดฟ้านั่น ไม่ใช่เลย...

ฉันเดินขึ้นบันไดแต่ละขั้นอย่างเชื่องช้า ใจก็คิดไปด้วยว่า จะพูดอะไรกับพี่บอมส์บ้าง จะทำตัวอย่างไรดีต่อหน้าพี่บอมส์ ทั้งๆ ที่ฉันไม่แน่ใจเลยว่า ขึ้นไปแล้วจะเจอพี่บอมส์รึเปล่า และถ้าเจอ จะเจอพี่บอมส์ในสภาพไหน

“เอ้า...โชนนนน” 

หืม? อะไรกันอีกล่ะวันนี้ นี่ฉันยังเดินไม่ถึงประตูเหล็กเลยนะ 

สิ่งแรกที่ฉันเห็นทันทีที่เปิดประตูเหล็กแล้วโผล่หน้าออกไปมองดาดฟ้าของเพื่อนบ้านก็คือ ผู้หญิงหน้าตาสะสวย หุ่นเซ็กซี่ และ เมาได้ที่ กำลังเต้นยั่วยวนพี่บอมส์ไปตามเสียงเชียร์ของคนในวงเหล้านั้น ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนตักพี่บอมส์ที่นั่งอยู่บนโซฟาเบดตัวเดิม และพยายามจะจูบพี่บอมส์แต่อยู่ๆ พี่บอมส์ก็ลุกออกมาจากตรงนั้น โดยพลิกตัวปล่อยให้แม่สาวคนนั้นนอนลงมองท้องฟ้าอยู่บนโซฟา

ฉันว่านะ ฉันคงเผลอส่งรังสีอะไรออกไปถึงพี่บอมส์แน่ๆ เลย พี่แกถึงได้เดินออกจากวงเหล้ามายืนเกาะรั้วปูนมองหน้าฉันอยู่อย่างนี้ ทั้งๆ ที่ฉันแค่โผล่หน้าออกมาจากประตูเท่านั้น

“แอบดูพี่อีกแล้วนะ... แล้วทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะคะ เหมือนหึง เอ๊ย เหมือนหงุดหงิดอะไรอยู่งั้นแหละ”

เอ่อ...นี่ฉันขมวดคิ้วแถมเอามือจิกวงกบประตูตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย ไม่นะ... 

“จะยืนแอบอยู่ตรงนั้นอีกนานมั้ยคะ”

นั่นสิ ฉันจะอยู่อย่างนี้อีกทำไมล่ะ พี่บอมส์ก็เห็นแล้วว่าฉันอยู่ตรงนี้ แถมยังเดินมาคุยกับฉันเหมือนยืนพูดคนเดียวโดยไม่แคร์สายตาเพื่อนๆ อีกสี่ห้าคนที่นั่งมองงงๆ อยู่เลย

ฉันเดินออกไปยืนต่อหน้าพี่บอมส์ สมองรีบรื้อเอาคำพูดที่เรียบเรียงไว้ในใจก่อนจะเห็นภาพเต้นยั่วเมื่อกี้กลับมา แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไร ก็มี เสียงจากวงเหล้าดังมาว่า

“เฮ้ย บอมส์ระวัง...”

หลังจากเสียงนั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก... เท่าที่ฉันเห็นนะ พี่บอมส์หันหลังไปเจอแม่สาวนักเต้นคนนั้นกำลังเตรียมจะสาดน้ำจากถังน้ำแข็งใส่พี่บอมส์ แต่พี่บอมส์ก็คว้าถังน้ำแข็งไว้ได้ทันนะ ทำให้คนที่ปะทะกับน้ำเย็นๆ จากถังนั้น กลายเป็น ฉัน

ทุกคนดูจะอึ้งๆ ไปเลยแหละที่เห็นฉันเปียกโชกไปทั้งตัวแบบนี้ เพราะพี่บอมส์คว้าไว้ได้แค่ถังน้ำแข็ง แต่น้ำในถังดันสาดข้ามรั้วมาโดนฉันเต็มๆ เลยน่ะสิ

“เห้ย หมวยเล็ก พี่ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ มานี่เลยแกน่ะ เล่นอะไรเนี่ย...” พี่บอมส์เอ่ยขอโทษพลางรวบตัวผู้หญิงคนนั้นให้กลับไปที่วงเหล้า 

ฉันยืนคิดอยู่ได้ไม่กี่วินาทีก็ตัดสินใจเดินเข้าห้องเก็บของทันที เพราะฉันไม่อยากเดินลงบันไดไปทั้งที่ตัวยังเปียกๆ อย่างนี้เลย ถ้าเกิดเจออาม่าหรือใครเข้าล่ะก็ ฉันขี้เกียจอธิบายน่ะ ว่าทำไมฉันถึงตัวเปียกอย่างนี้  ยังดีหรอกนะที่ฉันขนของขึ้นมาไว้ที่ห้องนี้จนพร้อมอยู่แล้ว ฉันถึงมีเสื้อผ้าให้เปลี่ยน ไม่งั้นคงต้องเดินลงไปเปลี่ยนที่ชั้นสามแน่ๆ แต่ปัญหาใหม่ก็ผุดขึ้นมาอีกข้อจนได้ ฉันเพิ่งจะรู้เอาวันนี้แหละ ว่าประตูห้องเก็บของมันปิดได้ไม่สนิท แถมกลอนก็ดูไม่ค่อยแน่นหนาเลย ฉันคิดมากไปมั้ยเนี่ย ทำไมถึงเพิ่งรู้สึกว่า ห้องนี้มันไม่ปลอดภัยเอาซะเลย

...ระแวงไปมั้งเรา...

เอาล่ะค่ะ... ฉันจะพยายามคิดว่า ฉันสายตาหาเรื่องไปเอง เลยเห็นว่า ประตูมันดูแปลกๆ ทั้งๆ ที่มันก็ไม่น่าจะมีอะไรให้ต้องกังวลขนาดนั้นเลย ฉันก็แค่ต้องรีบเปลี่ยนเสื้อให้เสร็จแล้วกลับลงไปชั้นสาม เพื่อนอนซะ ฉันถอดเสื้อที่เปียกออกมาวางพาดที่เก้าอี้ก่อนจะเอื้อมหยิบเสื้อตัวใหม่มาวางไว้ใกล้ๆ มือก่อนจะเริ่มปลดตะขอบรา ฉันตัดสินใจเปลี่ยนแค่เสื้อเพราะกางเกงขาสั้นของฉันมันไม่เปียกเท่าไหร่ 

...ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะเปียกเข้าไปถึงบราได้...

 และตอนนี้เองที่ฉันได้ยินเสียงลมพัดแรงๆ ตามด้วยเสียงโวยวายจากวงเหล้าก่อนที่ประตูห้องเก็บของจะเปิดกระชากออกด้วยแรงลมที่ใกล้เคียงพายุขนาดย่อม ทำให้ร่างเกือบเปลือยของฉันปรากฏต่อสายตาพี่บอมส์ที่ยืนเกาะรั้วปูนอยู่ตรงกับประตูห้องเก็บพอดีเป๊ะๆ

...เราสบตากัน ในเวลาที่ไม่เหมาะควรอีกแล้วสิเนี่ย...

พี่บอมส์เองดูจะทำอะไรไม่ถูกพอๆ กัน และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อถูกเพื่อนเรียกให้ไปช่วยเคลียร์ของที่กระจัดกระจายเพราะลมบ้านั่น พี่บอมส์ก็เหมือนจะไม่ได้ยิน จนเพื่อนต้องเดินมาหาพี่บอมส์ที่รั้วปูน ทำให้พี่บอมส์รีบจับตัวเพื่อนหันหลังให้ห้องเก็บของทันที ฉันรีบเบี่ยงตัวหลบให้พ้นช่องประตูก็ตอนนั้นแหละ

“มาช่วยกันเก็บของก่อน เดี๋ยวค่อยมารอขอโทษน้องเขาก็ได้น่ะ”

ฉันได้ยินเสียงเพื่อนพี่บอมส์ดังแว่วๆ มา ตอนที่ยืนหลบอยู่หลังตู้เก็บของในห้อง ด้วยอาการใจเต้น ก่อนก้มลงมองสิ่งเดียวที่ติดตัวฉันท่อนบนอยู่อย่างหมิ่นเหม่ 

นี่... พี่บอมส์เห็นอะไรไปบ้างแล้วนะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เหตุเกิดบนดาดฟ้า   Special Thanks : คืนข้ามปี

    ในคืนที่กรุงเทพคึกคักเป็นบางจุด เพราะใครต่อใครก็ต่างทยอยไปหาที่เคาท์ดาวน์กันหมดนั่นแหละ อาจเป็นเวทีคอนเสิร์ตตามห้างดังๆ สักแห่ง หรือ สถานที่เที่ยวฮิตๆ ต่างจังหวัด บางคนก็กลับบ้านไปรับลมหนาวนอกกรุง แถวละแวกบ้านฉันจึงเงียบสงบกว่ามากในคืนสิ้นปีแบบนี้อาม่าไม่อยู่ตั้งแต่สองวันก่อน โดยบอกไวเพียงแค่จะไปกินผัดไท ฉันเดาว่าคงเป็นร้านแถวบ้านเก่าพี่บอมส์แน่ๆ เลย ส่วนเจ้ก็ไปค้างกับคุณบรรณารักษ์ คนงานร้านข้าวมันไก่ลากลับบ้านกันหมด คืนนี้ฉันจึงนัดเคาท์ดาวน์กับพี่บอมส์ที่บนดาดฟ้าซะเลย แต่ฉันชวนวาวมาด้วยนะคะ และคงเพราะวาวก็มาด้วยนี่แหละมั้งคะที่เป็นเหตุให้พี่บีมบอกว่าจะมาเคาท์ดาวน์กับเราด้วยกว่าวาวจะมาถึงบ้านฉันก็ดึกพอควรแล้ว แถมคุณเพื่อนดันขออาบน้ำก่อนจะขึ้นดาดฟ้าอีกนะ ฉันเลยเดินขึ้นดาดฟ้าไปก่อนเลยค่ะ เพราะรอวาวอาบน้ำไม่ไหวจริงๆ เมื่อรู้ว่าพี่บอมส์รออยู่บนดาดฟ้าสักพักแล้ว ฉันหยิบผ้าห่มและถุงขนมที่ซื้อมาติดมือขึ้นไปด้วย และพอขึ้นไปถึง ฉันก็เจอพี่บีมที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดพวกเครื่องดื่มและอาหารให้พร้อมอยู่บนโต๊ะไม้เตี้ยๆ ใกล้ที่นอนปิกนิคขนาดใหญ่อย่างเงียบๆ เมื่อพี่บีมหันมาเห็นฉันเพราะได้ยินเสียงประ

  • เหตุเกิดบนดาดฟ้า   Chilling Day (2)

    หลังจากมื้อเย็นผ่านไป ทุกคนแยกย้ายกันพักผ่อน แล้วความอึ้งก็บังเกิดกับฉันอีกระลอก คือ พี่บอมส์เอ่ยปากขออนุญาตอาม่านอนค้างกับฉัน และอาม่าก็อนุญาตอย่างง่ายๆ จนฉันงง ฉะนั้นเมื่อได้อยู่กับพี่บอมส์ตามลำพังในห้องนอนของฉันที่ชั้นสาม คำถามมากมายในหัวฉันจึงถูกเอ่ยออกมาเพื่อหาคำตอบจากเธอ เนื่องจากเมื่อเย็นฉันมัวแต่อึ้งจนไม่ทันได้เอ่ยถามอะไรใครเลย “พี่รู้จักอาม่ามานานแล้ว บ้านเก่าพี่อยู่ใกล้บ้านแฟนอาม่าน่ะ” พี่บอมส์ตอบมาอย่างนั้น เมื่อฉันถามว่า ทำไมเธอถึงได้ดูสนิทสนมกับอาม่านัก มันเป็นคำตอบที่สร้างความประหลาดใจต่อฉันมาก เพราะฉันเข้าใจว่า อาม่าของฉันเป็นโสดมาตลอด เพราะอาม่าไม่ใช่ย่าแท้ๆ ของฉัน แต่รับภาระเลี้ยงฉันกับเจ้มาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่พ่อกับแม่ของฉันเสียไปนั่นแหละ เนื่องด้วยอาม่าแท้ๆ ของฉันมีหลานชายอีกหลายคนที่ต้องดูแล และไม่มีใครในตระกูลว่างพอที่จะสืบทอดกิจการข้าวมันไก่เลย อาม่าของฉันซึ่งเป็นสาวโสดไร้ภาระลูกผัวจึงเข้ารับสืบทอดกิจการนี้เพียงคนเดียว ตั้งแต่ยังอายุไม่เข้าใกล้เลขสี่เลยด้วยซ้ำ “แฟนอาม่า...” ฉันทวนคำพูดพี่บอมส์อย่างครุ่นคิด “ใช่... สมัยนั้นพี่ยังเรียนประถมอยู่เลย ตอนที่อาม่ากับป

  • เหตุเกิดบนดาดฟ้า   Chilling Day (1)

    ขอโทษนะคะ ที่หายไปนาน แต่หลังจากวันนั้นบนดาดฟ้า ชีวิตของฉันก็ยิ่งวุ่นมากขึ้น เพราะการเป็นแฟนพี่บอมส์มันไม่ง่ายเลยที่ฉันจะสามารถปลีกตัวจากเธอเพื่อหาเวลามาเล่าบรรยายให้คุณๆ ได้ฟังกันว่า มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยเฉพาะบทลงโทษสองชั่วโมงที่พี่บอมส์คาดโทษฉันไว้เสียแน่นในคืนนั้นตามจริงแล้ว คืนนั้น ฉันถูกกักตัวไว้เกินสองชั่วโมงนะคะ แต่เราไม่ได้ทำอะไรต่ออะไรกันต่อเนื่องตลอดสองชั่วโมงหรอกค่ะ เพราะพี่บอมส์กับฉันมีเรื่องต้องคุยกันอีกเรื่อยๆ พี่บอมส์เลยใช้วิธีลงโทษแล้วพักคุยแล้วลงโทษอีก จนรวมเวลาลงโทษครบสองชั่วโมง ฉันแทบจะหลับสลบอยู่บนดาดฟ้านั่นแหละค่ะ ถ้าหากไม่นึกถึงวาวขึ้นมาได้และรีบขอตัวลงจากดาดฟ้ามาหาเพื่อนเอาตอนที่ฟ้าเริ่มจะสว่าง และช่างน่าอัศจรรย์เมื่อฉันพบว่าในเช้าวันนั้น วาวมีสภาพจิตใจดีขึ้นอย่างเห็นชัด ไม่มีน้ำตาให้ฉันต้องช่วยซับเลยสักหยด ฉันก็ดีใจนะคะที่เพื่อนดีขึ้น แม้จะสงสัยว่าดีขึ้นได้อย่างไร แต่ก็ไม่มีเวลามาซักไซ้เพื่อนมากนัก เพราะพักหลังๆ มานี่ฉันมีผู้ปกครองคนพิเศษคอยตามรับตามส่งที่โรงเรียนแทบทุกวันน่ะสิคะ ทุกเย็นวันธรรมดาที่ฉันเคยเดินกลับบ้านกับวาว นอกจากวาวจะชอบหายตัวไปบ่อยๆ ตอนนี้

  • เหตุเกิดบนดาดฟ้า   เหตุเกิดบนดาดฟ้า (2)

    “ไม่ได้ One night stand เหรอคะ” ฉันพูดทวนในสิ่งที่ได้ยินจากปากพี่บอมส์อีกรอบเลยค่ะ กลัวว่าฉันจะฟังผิดไป“อื้ม นี่อย่าบอกนะ ว่าเธอเข้าใจว่าเรา One night stand กันน่ะ” พี่บอมส์ย้อนถาม ท่าทางเธอทึ่งมากๆ กับความเข้าใจของฉันที่เธอเพิ่งจะได้รับรู้“โธ่ หมวยเล็ก อันดับแรกนะ One night stand สำหรับพี่คือต้องไม่ซ้ำคนเพื่อไม่ให้เกิดความผูกพัน ต้องไม่ติดต่อกันอีกเลยไม่มีการโทรหรือแชทกันเด็ดขาด และที่สำคัญ พี่จะบอกกับทุกคนก่อนทำทุกครั้งให้เข้าใจว่า จะแค่ One night stand กันเท่านั้น เอาล่ะ ทีนี้ลองคิดดีๆ ทบทวนใหม่นะคะ เรามีอะไรกันกี่ครั้งแล้ว”...สาม...“พี่ขอเบอร์หมวยเล็กรึเปล่า” ...ขอ...“แล้วพี่พูดสักคำมั้ย ว่าเราจะแค่ One night stand กันอ่ะ”...อืม ไม่ได้พูดเลยค่ะ...“แล้ว ที่พี่ว่า ถ้าเจอกันเราคงทักทายกันเหมือนเดิมไม่ได้ล่ะคะ” ฉันวกกลับไปถามเรื่องเก่าทันที ก็แหม ถึงฉันจะยอมจำนนในความเข้าใจผิดของตัวเอง แต่ฉันก็ยังไม่หมดข้อข้องใจนี่คะ“อ่อ ก็ตอนนั้นเรามีอะไรกันแล้วไง มีพยานรักแล้วด้วย จะให้คุยกัน ทักกัน เหมือนคนรู้จักเหมือนเพื่อนบ้านทั่วไปได้ไงล่ะ จริงๆ พี่เริ่มหาจังหวะจะขอหมวยเล็กเป็นแฟนตั้งแต

  • เหตุเกิดบนดาดฟ้า   เหตุเกิดบนดาดฟ้า (1)

    “แค่ก แค่กๆ ”เสียงที่แผ่วเบานั้น ดังชัดในความเงียบสงัด มันแทรกผ่านเสียงลมมากระทบโสตประสาทฉัน และดึงให้ฉันหยุดเดินได้สำเร็จ ฉันมองจ้องไปที่เก้าอี้นวมซึ่งยังคงวางชิดรั้วปูนอยู่ ซอฟต์ครีมโดดขึ้นมายืนบนรั้วและโดดลงมานั่งที่เก้าอี้นวมของฉัน ฉันเอื้อมมือไปเกาคางมันเบาๆ แต่ฉันรู้ค่ะ ว่าเมื่อครู่นี้มันไม่ใช่เสียงแมวแต่น่าจะเป็นเสียงคนมากกว่า จากที่ตอนแรกฉันจะถอยกลับเข้าหลังประตูเหล็ก เท้าฉันก็ก้าวพาตัวเองไปยืนเกาะรั้วปูน ชะโงกมองหาต้นเสียงจนพบพี่บอมส์นอนขดอยู่บนพื้นข้างเก้าอี้นวม เป็นสภาพที่น่าตกใจนะ พอฉันเห็นแบบนั้นก็แทบจะปีนข้ามรั้วไปหาเธอทันที แต่ซอฟต์ครีมเร็วกว่าฉัน มันทำให้พี่บอมส์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยการกระโดดข้ามรั้วปูนลงไปที่พื้นดาดฟ้าพี่บอมส์โดยเทคตัวถีบเท้าตรงกลางหลังพี่บอมส์ซะเต็มกำลังแมวเลยค่ะ “ปลุกดีๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องโยนแมวใส่กันเลยนี่” ประโยคทักทายจากพี่บอมส์ทำเอาฉันเลิกคิ้วก่อนหันมองไอ้แมวตัวแสบที่ตอนนี้กลับมานั่งบนรั้วปูนข้างๆ มือฉันที่จับค้ำกับรั้วปูนอยู่ ฉันโดนแมวหาคดีให้อีกกระทงซะงั้นแหละค่ะ“ไม่ได้โยน มันโดดไปเอง มันคงเห็นว่าเจ้านายมันเริ่มจะขี้เซากว่ามันแล้วมั้ง” ฉั

  • เหตุเกิดบนดาดฟ้า   Don’t know anything at all.

    “คืนนี้สามทุ่ม เจอกันบนดาดฟ้า พี่จะนอนทั้งวัน หวังว่าจะหายไข้ มีแรง มีสติ มากพอจะคุยกันรู้เรื่องกว่านี้” พี่บอมส์ว่าอย่างนั้น ก่อนปล่อยฉันให้เป็นอิสระและมาโรงเรียนสักที แต่ก็เพราะอย่างนั้น ทั้งวันที่โรงเรียน ในหัวฉันถึงมีแต่เสียงพี่บอมส์ซึ่งบอกนัดหมายดังก้องอยู่ตลอดทุกชั่วโมงเรียนชั่วโมงพัก คืนนี้... จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ฉันไม่อยากคาดเดา เพราะหากเริ่มคิด ฉันคงแอบหวัง ว่าทุกอย่างจะเป็นไปทางที่ดี และอย่างที่เรารู้กันดี ความคาดหวังน่ะน่ากลัว ผิดหวังกันทีก็เสียหลักกันนานเป็นปีได้เลยมั้ง ฉันว่า ถ้าต้องเกลียดความรัก ฉันคงเกลียดมันเพราะข้อนี้แหละ บ่ายวันนี้ฉันไม่เจอวาวเลย นี่นานวันเข้า ฉันยิ่งรู้สึกเหมือนว่าเพื่อนฉันถูกลักพาตัวแทบทุกวันเลยค่ะ วาวมักจะหายตัวไปแบบไม่บอกกล่าว และโผล่กลับมาเองจนฉันเริ่มชินไปแล้วค่ะ ฉันเลยไม่ค่อยห่วงกังวลอะไรนัก เพราะฉันรู้ดีว่า โจรลักพาตัวคือใคร ถ้าฉันจะห่วงวาวล่ะก็ ฉันห่วงเรื่องผลการเรียนของคุณเพื่อนมากกว่าค่ะ ตั้งแต่เจอพี่บีม วาวก็มีเหตุต้องขาดเรียนบ่อยเกินไปแล้ว ฉันคิดว่าฉันต้องเตือนคุณเพื่อนสักหน่อย ถ้าฉันหาตัววาวเจออ่ะนะคะ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นระหว่างที่ครู

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status